ReadyPlanet.com


Link to Aung San Suu kyi เชื่อมไปถึงออง ซาน ซูจี วีรสตรีพม่า


To             Aung San Suu Kyi  

Glad with you to get free and let us Thai People,  in red symbol and Mynma people who love democracy fight tightly for ever DEMOCRACY Thai - Mynma.  Let"s be friend  and hand in hand fight togther  until win and the people come free & happy.

 

ถึงอ่องซานซูจี

ขอแสดงความยินดีต่อการได้อิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง ขอให้เราไทย สัญลักษณ์เชิร์ดแดงกับพม่าผู้รักประชาธิปไตยร่วมกันต่อสู้อย่างเหนียวแน่น เพื่อประชาธิปไตยของไทย-พม่าตลอดไป  ขอให้เรามาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์กันและจับมือกันต่อสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะพวกเผด็จการอมาตยาธิปไตยและประชาชนมีความสุขกับอิสรภาพและความเป็นเสรีชน

 



ผู้ตั้งกระทู้ enjel razaak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-30 22:09:13


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3275721)

 

 

ประเทศเมียนมาร์มีอองซานซูจี  ส่วนประเทศไทยมีท่านทักษิณ  ชินวัตร  แกนนำ นปช.  และคนเสื้อแดง  เราจะร่วมใจกันต่อสู้โดยไม่ย่อท้อ  เพื่อประกาศศักดาให้ชาวโลกรู้ว่าไม่มีเสรีชนคนไหนยอมให้อำนาจเผด็จการกดขี่ข่มเหงอีกต่อไป ทุกคนต้องการเสรีภาพแม้จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคและอันตรายนานัปการก็จะอดทนอย่างไม่ย่อท้อ เราไม่ได้สู้อย่างโดดเดี่ยว เพราะชาวโลกเขารู้ซึ้งแล้วว่าอำนาจเผด็จการช่างอำมหิตและปกคลุมโลกให้มืดมิด เห็นได้ชัดเจนจากเหตุการณ์ใน 2 ประเทศนี้  นับวันระบอบเผด็จการอันล้าหลังคร่ำครึจะยิ่งถูกต่อต้านมากยิ่งขึ้นๆๆและจะดังกระหึ่มก้องไปทั่วทั้งโลก 

 

 

ขออนุญาตแปลนะครับ

 

 

 

In Mynma lives Aung San Sukyi.  InThailand we get Taksin Shinavatra,the leader of The Red Shirt.  We will fight for ever. To show the spirit of the free people not allow the wicked to rule over.  Everyone desires freedom eventhough dangers come around us and we will fight for ever. We"ll never walk alone. Because we have been friend with the people of the world  who hate autocracy, love democracy. We know the autocracy regime that brings the black cloud to cover the roof of the world and results blind dark eyes of all the people in the two countries. We see now that the people of the world  hate the autocracy regime and brings the protestnts more and more. So the day"s win is coming near by.[enjel razaak แปล]

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-12-04 01:20:04


ความคิดเห็นที่ 2 (3276114)

Also  link to   Liu Xiaobo who wins the same prize with Aung San Sukyi   year  this 2010.   

He is a hero in Tiananmen Square, Beijing  : June 4th 1989. The China regime put him in jail since then untill now.

So  let"s Thai  Mynma  China  go fighting  hands in hands until the day"s win.    

 

 

 

เชื่อมไปถึง หลิว เซียโบ  ผู้ได้รับรางวัลโนเบิล สาขาสันติภาพ เช่นเดียวกับออง ซาน ซูจี ปี 2553 นี้

หลิว เซีย โบ เป็นวีรบุรุษแห่งสถานการณ์เทียน อันเหมิน ในวันที่ 4  มิถุนายน 2532   ระบอบจีนเผด็จการได้จับเขาเข้าคุกตั้งแต่วันนั้น มาจนถึงทุกวันนี้  

เพราะฉะนั้น ขอให้พวกเรามาร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยกัน  มาจับมือกันต่อสู้ไปพร้อม ๆ กัน ไทย พม่า จีน  จนกว่าจะถึงวันชัยชนะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-07 20:53:41


ความคิดเห็นที่ 3 (3277361)

เมื่อวาน 15 ธ.ค.53 ได้ดูข่าวต่างประเทศช่องวอยซ์ทีวี เห็นสภาพความทุกข์ยากลำบากของคนยากจนใน 2 ประเทศคือจีนและเมียนมาร์ มีโครงการของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศหลายโครงการที่ส่งผลกระทบในด้านลบต่อการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศน์วิทยาของประชาชน  ทำให้ประชาชนได้รับความลำบากทุกข์ยากอย่างที่สุดโดยเฉพาะในแถบชนบทและชายแดน  แต่ประชาชนไม่มีสิทธิบอกหรือส่งเสียงร้องแต่อย่างใด  เพราะมีกฎหมายห้ามเด็ดขาดไม่ให้แสดงความเห็นในทางขัดแย้งกับรัฐบาลมิฉะนั้นจะมีความผิด  ประชาชนได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม แต่ในขณะเดียวกันสื่อในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ก็ได้สะท้อนภาพของประชาชนในหลายประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งคนยากจนในประเทศจีน พม่า และแม้แต่ไทยเองก็ฝันถึงความอยู่ดีกินดี ซึ่งในที่สุดประชาชนเหล่านี้คงต้องลุกขึ้นมาสู้ สู้เพื่อให้ได้เสรีภาพแห่งความเป็นมนุษย์ คืนความสันติสุขมาสู่ชีวิต  โดยมีแดงทั้งแผ่นดินเป็นแบบอย่าง

 

Yesterday I saw a news from The Voice TV revealed the trouble of the people in the two countries China and Mynma. There were many projects of the government that affected so much to the living of the people,    but the people have no right to speak because there has a law forbidding them to speak against the government so the people can do nothing but eye on the land. While the mass media of the civilize world reflects the free people in democratic countries that most of them have been rich and happy.  We believe that all the poor in China  Mynma  and Thailand dream for rich and happines. But how could they get the sweet dream ? To struggle for freedom  that is the way and let the Red Shirt be your idol.[enjel raqzaak แปล]

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-12-16 22:14:33


ความคิดเห็นที่ 4 (3277695)

Also link to His Holiness the Dalai Lama  the Noble People, the spiritual leader of the Tibetan people who fights for the freedom of the world.  You never walk alone.  Let"s lookforwards  hand in hand with those in Mynma China,  and Thailand  till the day"s win.      

 

ขอเชื่อมการติดต่อไปยังท่านดาไล ลามะ ผู้ประเสริฐสูงส่ง  ผู้นำจิตวิญญาณของชาวธิเบต  เพื่อการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของเสรีชนทั่วโลก  บัดนี้ท่านไม่ได้เดินไปโดดเดี่ยวอีกแล้ว   ขอให้พวกเราจับมือกันเดินไปข้างหน้าเช่นเดียวกับพม่า  จีน  และประเทศไทย   จนกว่าจะถึงวันแห่งชัยชนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-19 21:33:07


ความคิดเห็นที่ 5 (3277716)

And now let"s shout to CHINA  to free the clean Liu Xiaobo .

Free Liu Xiaobo !!!!!

Free Liu Xiaobo!!!!!

Free Liu Xiaobo!!!!!

 

และขอให้เรามาร่วมงานแรกกัน  ช่วยกันตะโกนไปถึงจีน เพื่อปลดปล่อยคนสะอาดอย่าง หลิว เสี่ยโบ.

ปล่อยหลิวเสี่ยโบ !!!!

ปล่อยหลิวเสี่ยโบ !!!!

ปล่อยหลิวเสี่ยโบ  !!!!

 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-20 08:40:16


ความคิดเห็นที่ 6 (3277718)

And now let"s  the people of the world shout to The Dark Ruler of Thailand  to free the clean  NATTAWUDTH  SAIKUEO and the others, the leaders of the Thai RED Shirt; 19 July 2010, who were put in jail, as well as Liu Xiaobo of China, as well as Her Cleanness Aung San Sukyi of Mynma.

Free Nattawudth Saikueo !!!

Free all  Red Shirt Leaders !!!

Free  all red shirts in jail !!!

By Now !!!

 

 

และขอให้ประชาชนโลกแห่งประชาธิปไตยจงมาร่วมกันตะโกนไปถึงผู้ปกครองยุคมืดแห่งประเทศไทย จงปลดปล่อย ณัฐวุฒิ  ไสยเกื้อ ผู้สะอาดสะอ้าน ตลอดทั้งผู้นำคนอื่น ๆ ทุกคนของขบวนนักสู้เพื่อประชาธิปไตยไทยเสื่อแดง  จากเหตุการล้อมปราบปรามประชาชน 19 พ.ค. 2553  ซึ่งถูกจับคุมขังอยู่ขณะนี้  เช่นเดียวกับ หลิว เซียโบ แห่งจีน  และเช่นเดียวกับ อ่องซานซูจี ผู้บริสุทธิจริงใจต่อประชาชนพม่า.

ปล่อยณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ !!!!

ปล่อยผู้นำเชิ้ตแดงทั้งหมด !!!!

ปล่อยประชาชนแดงผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุก ๆ คนโดยพลัน  !!!!

 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-20 09:03:05


ความคิดเห็นที่ 7 (3277719)

And Free Tibet !!!

Free Tibet !!!

Free Tibet !!!

Free Tibet !!!

Free Tibet !!!

Free Tibet !!!

 

ปลดปล่อยธิเบต  !!!

ปลดปล่อยธิเบต  !!!

ปลดปล่อยธิเบต  !!!

ปลดปล่อยธิเบต  !!!

ปลดปล่อยธิเบต  !!!

 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-20 09:09:52


ความคิดเห็นที่ 8 (3278316)

  i am enjel razaak.   the name is one of my names but i think to think of the names is rather nonsense. to think  what i am what i think and what i do would be more sensable.

 

 

  ผมมีชื่อว่า  เอนเจล ราซัค   ชื่อนี้เป็นหนึ่งในหลาย ๆชื่อของผม  แต่ผมคิดว่า  การไปคิดให้ความสำคัญแก่ชื่อนั้นค่อนข้างเป็นสิ่งไร้สาระ   คิดเรื่องที่ว่า ผมเป็นอะไร  ผมคิดอะไร  และผมทำอะไรอยู่  น่าจะเป็นสาระสำคัญกว่า

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-24 19:53:30


ความคิดเห็นที่ 9 (3278324)

i am what i am. do not think of god"s word in bible for god say the same word i say;  i am what i am. 

i"d like to tell you when i am what i am  all the fears disappear from my hearth. and i think this is good and makes profits of life and a good message for the people of the world.

i am free and in love with freedom . and when i am free and in love with freedom, all the fears disappear from my hearth and i think this is good and makes a lot of profits of life.  

i discover that many people i named, include you are the same with me and could go along hand in hand to fight for a better world. for freedom  for the sake of all fears disappear from the inside hearth and happy.

 

ผมเป็นอะไรที่ผมเป็น  อย่าคิดถึงพระเจ้านะครับ พระเจ้าตรัสไว้ในไบเบิลข้อความเดียวกับผมที่ว่า ผมเป็นอะไรที่ผมเป็น  ผมเพียงแต่ต้องการจะบอกว่า เมื่อผมเป็นอะไรที่ผมเป็นแล้วนั้น มันได้ไล่ความกลัวทุกชนิดไปจากจิตใจของผม และผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีและเป็นกำไรของชีวิต และเป็นข่าวสารที่ดีสำหรับชาวโลก 

ผมเป็นเสรีชน และรักในเสรีภาพ  และเมื่อผมเป็นเสรีชนและรักในเสรีภาพแล้ว ความกลัวทั้งหลายก็ปลาสนาการ(หายไป)จากจิตใจของผม และผมคิดว่านี่เป้นสิ่งที่ดีและเป็นกำไรอย่างมากมายสำหรับชีวิต

ผมได้ค้นพบว่า ยังมีบุคคลตามที่ผมระบุชื่อมาข้างต้นแล้วรวมทั้งคุณด้วยเป็นอย่างเดียวกับผม ซึ่งผมเชื่อว่าผมจะขอจับมือด้วยได้ เพื่อพากันเดินมุ่งหน้าทำงานสำหรับต่อสู้เพื่อโลกที่ดีกว่า เพื่อเสรีภาพ และเพื่อความกลัวหายไปจากจิตใจเบื้องลึกของประชาชนและพบความสุขที่แท้จริง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-24 20:30:11


ความคิดเห็นที่ 10 (3278394)

ดีใจจริงๆที่ความคิด เสียงเรียกของเสรีชนผู้รักประชาธิปไตยได้รับการตอบรับแล้ว ภารกิจร่วมของเราคือการนำแสงสว่างมาสู่มนุษยชาติ เพื่อนพ้องทั้งหลายจงส่งความคิดจิตวิญญาณประชาธิปไตยของท่านมาที่นี่  เพื่อจะได้ส่งเสียงเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับเพื่อนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำอย่าง อำมหิต  โหดเหี้ยมอยุติธรรม   

 

I am so pleased for the people of all part of the country have been listening to the voice of freedom. We have to carry out the same duty that is to bring the light into the dark world and to human being. I beg all our friends to send your messages of good wishes for freedom and democracy to us in order to fight for justice and humanity. And to fight for release of our friends who have been put in jail by the cruel dark fool unjust ruler.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วิญญุชน วันที่ตอบ 2010-12-25 18:17:28


ความคิดเห็นที่ 11 (3278597)

in my country the rulers dislike freedom. they hates democracy.

they killed all the people who love freedom.  they killed everyone who walked into the street. they still in hunting of those people who disobey them. the people die and die and die.

 

ในประเทศของผม ผู้ปกครองประเทศไม่ชอบเสรีภาพ  พวกเขาเกลียดชังประชาธิปไตย

ผู้ปกครองฆ่าประชาชนผู้รักเสรีภาพ  พวกเขาฆ่าทุก ๆ คน ที่ออกมาเดินบนถนน  พวกเขาก็ยังคงตามล่าประชาชนพวกนั้นที่ไม่อยู่ในคำสั่งของพวกเขา  ประชาชนมีแต่  ตาย  ตาย   และตาย     

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-27 18:14:29


ความคิดเห็นที่ 12 (3278600)

all right, i"ll left the rest to my beloved friend whose faith hearth the same with me........................

 

เอาละ, ต่อไปนี้ ผมจะให้เพื่อนรักของผม ผู้มีหัวใจอันซื่อสัตย์แบบเดียวกับผมมาร่ายยาวต่อ นั่นคือ........

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-27 18:23:24


ความคิดเห็นที่ 13 (3278788)

here"s him     william pitth.

 

นี่อย่างไร เพื่อนผม     วิลเลียม พิทธ

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-12-29 14:29:41


ความคิดเห็นที่ 14 (3278911)

Aljazeera said  The Definition of Tyranism  Apisit Vejjajeeva.   The word "The Definition of Tyranism" described a picture of him Apisit vejjajeeva on news hours 31 December 2010-12-31 17:02:20. It shew a picture of him as the new one among the other tyrants.   

 

 

โทรทัศน์อัลจาชีราได้ออกคำบรรยายภาพนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ว่า  นี่คือนิยามของคำว่าทรราชย์    คำว่า "นี่คือนิยามของคำว่าทรราชย์" เป็นคำอธิบายภาพของเขาที่อัลจาชีราเอาออกในชั่วโมงข่าว วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เวลา 17.02.20 น.  ภาพนั้นเผยนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะว่าเป็นทรราชย์คนใหม่ในระหว่างทรราชย์หลาย ๆ คน

ผู้แสดงความคิดเห็น William Pitt วันที่ตอบ 2010-12-31 17:20:01


ความคิดเห็นที่ 15 (3279097)

สำนักข่าว cnn  ตีข่าวว่าคนเสื้อแดงกำลังจะเปลี่ยนโลก  แน่นอนระบอบอำนาจเผด็จการอำมาตย์+ทหารกำลังจะพังพินาศและสูญสิ้นไปจากประเทศไทย  ประชาธิปไตยกำลังจะเบ่งบาน  เสรีชนทั่วโลกกำลังชื่นชมการต่อสู้ด้วยมือเปล่าสันติ อหิงสาแต่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยของแดงทั้งแผ่นดิน  แม้จะถูกฆ่า  ถูกจับกุมคุมขัง  กลับยิ่งผนึกกำลังกันยิ่งขึ้น การเสียสละของวีรชนที่เสียชีวิต  บาดเจ็บและวีรบุรุษที่อยู่ในเรือนจำกลับยิ่งทำให้เลือดนักสู้ของคนเสื้อแดงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  ดังคำพูดของมวลชนที่ว่าแม้จะแพ้ แม้จะต้องตายก็จะไม่หยุดสู้ และลูกหลานของคนเสื้อแดงก็จะสานต่อ นี่คือวีรกรรมอันกล้าหาญที่สื่อทั่วโลกจะต้องชื่นชมและช่วยกันป่าวประกาศให้เสรีชนในทุกประเทศลุกขึ้นมาต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหง  เพื่อกอบกู้ศักดิ์สรีความเป็นมนุษย์คืนมา

 

CNN as a most valuable news of the year 2010, the Red Shirt could change the world, The Red Shirt of Thailand. Autocracy in Thailand is fading away and Democracy is brightening. All world freeman is looking towards the red shirt with their happy eyes. For they please the gentle fight hand without weapon.They please the spirit that ever blossoms and fear not to be killed to be arrested and to be imprissoned. In the side of the red shirt to be tyranized is to be stronger in both mind and body. They say no cease but to fight until the day die. Eventhough the death of the parents the heir still keeping fight for ever. This is the real brave and the more brave all over the world follow. And all the brave in the world stand up, walk against tyranism for the sake of freeman"s pride in the free world.      (enjel razaak แปล)  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-01-03 22:36:40


ความคิดเห็นที่ 16 (3279104)

 

......สื่อทั่วโลกเห็น...แต่สื่อไทย..ไม่เห็น..แปลกจริงๆ

หรือว่า สื่อไทย..ตายไปแล้ว

 

It has been strange since Thai media has seen nothing. They all blind for the truth. I  doubt whether thai media has been all dead. (enjel razaak แปล)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ต.เต่าหลังตุง วันที่ตอบ 2011-01-03 23:03:12


ความคิดเห็นที่ 17 (3279112)

Thank Aljazeera for the witness.  For it casted out the real event before and after the day of cruel fire; 19 May 2010 and the people saw the truth. And the truth is the Red Shirt die and die and die by the government fire. The soldier"s fire and the people"s die.

 

 

ขอขอบคุณโทรทัศน์อัลจาซีร่าที่ได้เป็นพยานให้เรา  ที่ได้ติดตามเหตุการณ์และถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลกในวันนั้น 19 พ.ค.2553 และทั้งก่อนวันนั้นหลังวันนั้น วันแห่งการยิงอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ประชาชนเห็นความจริง  และความจริงนั้นก็คือเสื้อแดงตาย ตาย  และตายเป็นใบไม้ร่วง โดยการสั่งยิงของรัฐบาล ทหารยิงและประชาชนตาย  มีเท่านี้

ผู้แสดงความคิดเห็น William Pitt วันที่ตอบ 2011-01-04 00:43:53


ความคิดเห็นที่ 18 (3279325)

ฝากไปถึง ส.ส.ทุกท่านด้วย  ประเทศไทยกำลังมาถึงจุดเปลี่ยน ประชาชนทุกคนต้องการเสรีภาพทางความคิด  ต้องการอำนาจที่แท้จริงที่ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน ส.ส.ประเภทใครชนะขอไปซบด้วยกำลังจะถูกกำจัดให้หมดไป  ประชาชนต้องการรัฐบาลที่มีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ตอบสนองการมีโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิต มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยและจริงใจกับประชาชน  ส.ส.ประเภทสร้างนโยบายไม่เป็น มีแต่เอาเงินภาษีประชาชนมาลดแลกแจกแถมตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมีแต่สร้างหนี้และนำพาประชาชนไปสู่ความทุกข์ยาก ประชาชนเขาฉลาดรู้ว่าเงินทุกบาทเป็นภาษีของเขา  รัฐบาลต้องตระหนักว่าจะใช้เงินของประชาชนอย่างไรจึงจะคุ้มค่าและมีประโยชน์ต่อส่วนรวมในระยะยาว  

 

Telling all representative in Thai Assembly that Thailand is coming to a sharp turnpoint. All Thai people wants a democratic freedom, an absolute power for all of the people. They want a right for  one man one vote. At the same time, they want to experse the one representative who has no ideology.The one who promps to turn away when his belonging party defeats in each election. The one who promps to sow under feet of the winner in each election or any way so that he get a benefit. The people wants to get a clever and skillful government with its proper policy to help the people to a better life, to a better of richness and happiness,not to lead the people into more and more debt, a huge number of debt, in and outside the country. The Thai people is now growing in much hate of a decievable government who know not of creating policy but know how to sow the state budget upon head of the people in order to get admiration from the people. The government that executes the nation tax in an unbeleivable bad way in order to get rid of the  other party in a next election. The people who see through a trick  need to warn the government to execute the tax policy in a reasonable way in both a short and a longrun period.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-01-05 16:31:19


ความคิดเห็นที่ 19 (3279388)

Now comes the most shameful to the court of justice of Thailand. A case of Viktor Bout seems the US distrust Thai Court.  May be Barrak Obama has been thinking that Thai Court is untrustable. For fear that one  is able to buy Thai Court. The same to Russia.  I am afraid, the same to all world countries.  What you Know, Thai Court ?

 

มีเรื่องที่เสื่อมเสียน่าอับอายเกิดขึ้นในวงการศาลสถิตยุติธรรมไทย  กรณีของ วิคเตอร์ บูท ทำให้เห็นเหมือนว่า สหรัฐอเมริกาไม่เชื่อถือในกระบวนการศาลสถิตยุติธรรมไทย  บางทีบารัค โอบามา อาจกำลังคิดว่า ระบบศาลไทยเชื่อถือไม่ได้  เกรงว่าศาลไทยจะสามารถขายตัวเองให้ใครก็ได้ที่มีเงินพอที่จะซื้อ  รัสเซียก็น่าจะคิดเช่นเดียวกัน  ผมเองเกรงว่า ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกก็กำลังคิดเช่นนี้  ศาลไทยรู้อะไรไหมล่ะ ?

ผู้แสดงความคิดเห็น William Pitt วันที่ตอบ 2011-01-06 08:32:26


ความคิดเห็นที่ 20 (3279632)

Do you know that the people of the world are afraid of you for fear that unjustice judge would harm them. Their governments also think the same thing as their people think.  Do you know you are leading a judicial Thai process to beyond the old day of Rattanagosin era when the foreigners need no obey Thai court. 

 

คุณทราบหรือไม่ว่าประชาชนของโลกกำลังกลัวว่า การตัดสินของศาลไทยที่ไร้ความเป็นธรรมจะกระทบความรู้สึกของพวกเขา รัฐบาลของพวกเขาก็คิดเช่นเดียวกับพวกเขา  คุณรู้หรือไม่ว่าคุณกำลังนำกระบวนการยุติธรรมไทยย้อนสู่ยุคต้น ๆ ของกรุงรัตนโกสิน  ยุคที่คนต่างประเทศเขาไม่ยอมขึ้นศาลไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น William Pitt วันที่ตอบ 2011-01-07 21:46:07


ความคิดเห็นที่ 21 (3279665)

shameful indeed !!!!!
shameful for the fools!!!!
a short thought !!!!!

 

 

เป็นสิ่งที่น่าละอายจริง ๆ   !!!!!
น่าละอายเรื่องราวของคนโง่เง่า !!!!!
เรื่องของคนคิดสั้น !!!!

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-08 14:22:53


ความคิดเห็นที่ 22 (3279678)

In the crisis October 2007[10 October 2550] in Mynmar, there"re 3 urgent messages to Mynmar that respond our sincerity to fight for democracy with all freeman of Mynmar as follow;- 

 

ในวิกฤตเดือนตุลาคม 2007(10 ต.ค. 2550) ในเมียนมาร์ ได้มีจดหมาย 3 ฉบับด่วนจากพวกเรา ส่งถึงประเทศเมียนมาร์ จดหมาย 3 ฉบับนี้แหละได้สะท้อนว่าเรามีความจริงใจจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยร่วมกับเสรีชนพม่า  ดังต่อไปนี้ ;- 

ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-08 17:35:07


ความคิดเห็นที่ 23 (3279679)

 

 

An urgent message to Mynmar 

 

 

 

 

 

According to what the government of the Union of Myanmar operated on October 10,2550[2007]. I think Union of Myanmar was not cool enough. So it should hear the people and the Buddha’s real teaching. Not for the sake of merciness or pitiness but for the sake of right and justice. That is the right and justice to rule. One has to rule the people by the desire of the people not the desire of himself. For Buddha teach about Manhood that means Freedom, Equality and Liberty of man which are the essences of democratic governing. So it has been a hurry case to let the people free and to rule the country by the people themselves by means of democratic devices.  For these policies will keep the situation calm down and silent. And the Union of Myanmar and the people of almost Buddhists in Myanmar could expect a good living, a good breath and a good future and could reach a real happiness as well as the people of the other world.With best Wish from Me. 

 
  • PanyatharoBhikku/16 october 2550[2007]

 

 
กรณีที่รัฐบาลแห่งสหภาพพม่าปฏิบัติต่อประชาชนในวันที่ 10 ตุลาคม 2550 นั้น ข้าพเจ้าคิดว่ารัฐบาลสหภาพพม่ามิได้ปฏิบัติด้วยจิตใจที่เยือกเย็นพอ เพราะฉะนั้น จึงควรที่จะหันมาฟังเสียงประชาชนบ้าง และฟังคำสอนของศาสนาพุทธที่แท้จริง มิใช่เพราะความเมตตาหรือความเวทนาสงสาร แต่เพื่อประโยชน์ของสิทธิและความยุติธรรม นั่นคือสิทธิและความยุติธรรมในการปกครองประเทศ ซึ่งผู้ปกครองควรจะต้องปกครองไปตามความปรารถนาของประชาชนส่วนรวม มิใช่ตามความปรารถนาของผู้ปกครองเอง ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา มีคำสอนเรื่องความเป็นมนุษย์ ซึ่งหมายถึงเสรีภาพ เสมอภาค และ ภราดรภาพ ของมนุษย์ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย   เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นกรณีเร่งด่วน ที่รัฐบาลสหภาพพม่าจะต้องให้เสรีภาพแด่ประชาชน โดยปล่อยให้การปกครองเป็นของประชาชน ๆ เองเป็นผู้บริหารประเทศ โดยวิถีทางและเครื่องมือของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งโดยนโยบายนี้จึงจะสามารถนำประเทศสหภาพพม่าไปสู่ความสงบและสันติธรรมได้ แล้วประเทศสหภาพพม่าและประชาชนพม่าซึ่งล้วนเป็นพุทธศาสนิกชนเกือบหมดทั้งประเทศ จะสามารถก้าวเดินไปสู่ความมีชีวิตที่ดี มีลมหายใจที่สดชื่นโล่งโปร่งและไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้ในอนาคตเช่นเดียวกับประชาชนในส่วนอื่นของโลก  
 
ด้วยปรารถนาดีจากข้าพเจ้า
 
 
  • ปัญญาธโรภิกขุ/16 ต.ค.2550(2007)
 
 
 
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel raZak วันที่ตอบ 2011-01-08 17:45:23


ความคิดเห็นที่ 24 (3279681)

 

 

A Second Urgent Message to Myanmar

 

 

 

According to tv news in Thailand and all over the world especially BBC in England and VOA in America today; October 31, 2550[2007], everyone sees a long parade of the monks in Union of Myanmar, marching along the road to protest the government of Myanmar about the soldier regime. They want not dictator. But they call for freedom. They want not autocracy. But they want democracy. These news remind us the sad stories in Myanmar last October 10,2550[2007]. For in the day,the government did a heavy sins. A specific source  said more than 50 monks were killed which was an unexpected event in Myanmar. For Myanmar has been the land of pagodas or the land of yellow robes where Buddhism has been established firmly. The world has accepted many good things from Buddhism Myanmar. But today Myanmar seems to have a great change. They change from freedom to slavery. From grand expansive to narrow-minded and backward thought. From merciness to cruelty. So it seems the people of the world are being afraid that those monks marching in the street would be harmed, or killed as well as those eliminated in October 10,2550[2007]. Not only the European and American countries but all countries in the world dislike violence. Now the soldier regime in Myanmar is trying to do what would result a bad luck to its own country. For example; The minority groups in the border of Myanmar who are different in race and believes would grow stronger and cause a more trouble to all Myanmar and to its believe in its olden religion. What would reflect a justice conscience from the present ruler? So I would like to beg for peace not violence.To live not to die. The only way is to give the people a new constitution with freedom, liberty and equality. Men in uniform should withdraw. Best Wish from Me.                                                                         

  •  
     PanyaTharoBhikku/October 31,2550[2007]
     
 
 
  
 
เนื่องจากมีข่าวโทรทัศน์ในประเทศไทยและทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง BBC ในอังกฤษและ VOA ในอเมริการะยะ 31 ตุลาคม 2550 (2007) นี้ มีการเดินขบวนของพระสงฆ์ในสหภาพพม่าเป็นขบวนยาวเหยียดไปตามถนนเพื่อประท้วงระบอบการปกครองของสหภาพพม่า  พระสงฆ์เหล่านี้ไม่ต้องการระบอบเผด็จการแต่เรียกร้องเสรีภาพ ไม่ต้องการระบอบอมาตยาธิปไตย แต่ต้องการระบอบประชาธิปไตย ข่าวเหล่านี้ได้เตือนเราให้ระลึกถึงเหตุการณ์น่าเศร้าในพม่าเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2550 (2007) เพราะในวันนั้น รัฐบาลสหภาพพม่าได้ประกอบกรรมทำบาปที่ยิ่งใหญ่ กระแสข่าวเจาะพิเศษกล่าวว่ามีพระสงฆ์ถูกฆ่าตายในวันนั้นกว่า 50 รูป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในสหภาพพม่า เพราะพม่าได้เคยรับสมญาว่าเป็นแผ่นดินแห่งเจดีย์และดินแดนแห่งผ้าเหลืองซึ่งเป็นดินแดนที่ศาสนาพุทธได้ประดิษฐานอย่างมั่นคงมาเป็นเวลานาน โลกทั้งโลกก็ได้รับสิ่งดี ๆ จากพระพุทธศาสนาไปจากประเทศนี้มากมาย  แต่ในวันนี้ดูเหมือนว่าสหภาพพม่าได้ประสบการเปลี่ยนแปลงไปขนาดใหญ่มาก ได้เปลี่ยนจากเสรีภาพไปสู่ความเป็นทาส จากจิตใจกว้างใหญ่ไพศาลเป็นคับแคบและล้าหลังทางความคิด จากความเมตตากรุณาเป็นความโหดร้าย เพราะฉะนั้นจึงดูเหมือนว่าประชาชนทั่วโลกเกรงว่าหมู่สงฆ์ที่เดินขบวนประท้วงไปตามถนนตามข่าววันนี้จะถูกรัฐบาลสหภาพพม่าทำอันตราย หรือฆ่าทิ้งเสียเช่นเดียวกับหมู่สงฆ์ที่เดินขบวนในครั้งก่อนวันที่ 10 ต.ค.2550(2007)นั้น ประชาชนทั้งหลายไม่เฉพาะในอเมริกา แต่ประชาชนทั่วโลกต่างไม่ชอบความรุนแรง แต่ระบอบทหารพม่ากำลังจะกระทำการสิ่งที่จะส่งผลในทางเลวร้ายต่อประเทศชาติของตนเอง ตัวอย่างเช่น ส่งผลต่อชนกลุ่มน้อยในพม่าแถบชายแดน ซึ่งเป็นกลุ่มที่แตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาไปจากประชาชนพม่าส่วนใหญ่  ให้เข้มแข็งขึ้นและก่อปัญหายุ่งยากแก่ประเทศและประชาชนพม่าไปกว่าเดิมอีกในด้านการกระทบต่อศาสนาดั้งเดิมที่ประจำชาติของพม่าด้วย เราจะสามารถปลุกสำนึกที่ยุติธรรมของผู้ปกครองพม่ายุคนี้ได้อย่างไร? เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงอยากจะขอร้องจากรัฐบาลพม่า ให้แสวงหาความสงบ อย่าแสวงหาความรุนแรงเลย ให้เลือกเอาความมีชีวิตอยู่ อย่าเลือกเอาความตายเลย มีทางเดียวเท่านั้นที่รัฐบาลพม่าอาจจะทำได้ขณะนี้ก็คือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพแก่ประชาชนพม่า คนในเครื่องแบบจะต้องถอนตัวออกไปจากการปกครองประเทศพม่าเท่านั้น.ด้วยความปรารถนาดีจากข้าพเจ้า
 
·         ปัญญาธโรภิกขุ/31 ต.ค.2550(2007)
 
 
 
  
 

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-08 17:49:28


ความคิดเห็นที่ 25 (3279682)

 

 

 A Third Urgent Message to Myanmar.

Myanmar Republic today,seen by MRTV-3, Thaicom 2/5, Ch.99-100, seems pleasant with Myanmar sweet dances & songs. It reveals olden cultures with traveling places and lands. For example rivers, mountains, birds and swamps and constructions. And a great sight of BuddhaLandLord has been always an impressive viewpoint from lovely Myanmar. Today they see pagodas everywhere in the land of Myanmar. They see a great Buddha Image and several Buddha images and a green wide forest of Bhodhi trees, anyone ever seen in the world. But what else, the people of the world see from Myanmar TV. today; men in uniform each one armed, seems to oversee every activities of the people eventhough a rural meeting. It reports a little about the meeting of Asian countries. I think this is a sigh of danger in beautiful Myanmar. For the men in uniform have not trusted their own people. And their own people have not trusted in their rulers. For more specific reason, that the people are afraid of the rulers, and the rulers tyrannize the people, this would bring to danger. I think this should be the way out; the men in uniform should reduce the fear in the people’s hearth and take off the uniforms respectively. Nowaday Myanmar gets 4 gold rewards from 24th Asian Game in Thailand, with the super football team of Myanmar to compete with Thailand’s super one. Who is going to win the gold football reward on tomorrow December 14,2550. Let’s cheer both teams with hearth, with spirit of fair play and justice.

  • BangaDharoBhikku/Dec 13,2550.

 

 

 

ประเทศสหภาพพม่าที่เห็นจากโทรทัศน์พม่า MRTV-3, Thaicom 2/5, Ch.99-100 ดูเหมือนได้เห็นภาพสหภาพพม่าที่สงบสุขดี มีศิลปการฟ้อนรำที่สวยสดงดงาม และการขับร้องที่ไพเราะอ่อนหวาน ทีวีได้เปิดเผยภาพวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของสหภาพพม่า สถานท่องเที่ยวและท้องถิ่นที่สวยงาม ตัวอย่างเช่นมีแม่น้ำ ภูเขา นก บึง และการก่อสร้างที่ใหญ่โต และได้เห็นแผ่นดินที่สะท้อนสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ น่าประทับใจมากทำให้สหภาพพม่าเป็นดินแดนที่น่ารักน่าหลงใหล ในวันนี้ คนทั้งหลายจะได้เห็นเจดีย์จำนวนมากมายตั้งตระหง่านอยู่ทุกหนทุกแห่งของแผ่นดินพม่า ในสารคดีวันนี้เราได้เห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มากองค์หนึ่งแวดล้อมด้วยพระพุทธรูปขนาดเล็ก ๆ มากมาย และมีป่าไม้โพธิ์ขนาดกว้างใหญ่ไพศาลเต็มไปด้วยต้นโพธิ์ใหญ่ที่คนในโลกอาจจะไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย    แต่มีอะไรอีกล่ะที่คนได้เห็นจากเมียนมาร์ทีวีวันนี้ คนในเครื่องแบบมากมาย แต่ละคนติดอาวุธประจำกาย ดูเหมือนจะเป็นภาพที่เห็นได้ทั่วทุกหนทุกแห่งทุกที่ที่มีกิจกรรมของประชาชน แม้กระทั่งในการประชุมในหมู่บ้านชนบทก็มีทหารถืออาวุธไปคอยดูแล ทีวีพม่าแทบไม่มีการรายงานการประชุมของกลุ่มประเทศเอเซียน ข้าพเจ้าคิดว่า นี่เป็นสัญญาณของอันตรายในประเทศเมียนมาร์ที่สวยงาม เพราะเหตุที่คนในเครื่องแบบไม่ไว้วางใจประชาชนของพวกเขา และประชาชนของประเทศนี้ก็ไม่ไว้วางใจต่อผู้ปกครองประเทศของตน ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่งต่อการที่ประชาชนหวาดกลัวและหวาดระแวงผู้ปกครองของเขาก็คือ ผู้ปกครองกดขี่ประชาชน นี่แหละจะนำไปสู่อันตรายของประเทศสหพม่า ข้าพเจ้าคิดว่ามีทางออกทางนี้ทางเดียวคือ บุคคลในเครื่องแบบควรที่จะค่อยถอนความหวาดกลัวหวาดระแวงในใจของประชาชนออกไปทีละน้อย ๆ และค่อย ๆ ถอดเครื่องแบบตนเองออกไปเสียตามลำดับ ๆ ไปจนเกลี้ยง  วันนี้ในกีฬาเอเซียนเกมส์ครั้งที่ 24 ในประเทศไทย สหภาพพม่าได้ไปแล้ว 4 เหรียญทอง และ วันพรุ่งนี้ทีมฟุตบอลพม่าที่ยิ่งใหญ่ก็จะเข้าชิงเหรียญทองกับทีมไทยที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่พอ ๆ กัน ในพรุ่งนี้ วันที่ 14 ธันวาคม 2550 ใครจะเป็นผู้ชนะ ? ขอให้เรามาเชียร์ฟุตบอลชิงเหรียญทองคู่นี้ด้วยจิตใจสะอาดและยุติธรรมกันดีกว่า
 
  • ปัญญาธโรภิกขุ/13 ธ.ค.2550

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-08 17:55:54


ความคิดเห็นที่ 26 (3280126)
1.       บทนำ
ศึกษาประชาธิปไตยไทย

คัดสรรบทวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยก่อนและหลัง 19 กันยายน 2549
เกี่ยวกับประชาธิปไตยไทย

 

ประชาธิปไตยไทยอย่าเป็นอย่างพม่า
ศึกษาจากเรื่องราวจริง และเหตุการณ์จริง  ช่วงก่อนและหลังยึดอำนาจ 19 ก.ย. 2549

 
 

ประเทศไทยอย่าเป็นอย่างพม่า แม้ว่าพฤติกรรมละม้ายคล้ายคลึงพม่ามาตั้งแต่ยุคปฏิรูปปฏิวัติโดย สนธิ บุณยรัตนกลิน ทหารเผด็จการหัวเก่า เมื่อ 19 ก.ย. 2549   นั่นคือ เมื่อมีการเลือกตั้ง เดือนพ.ย. 2551 แล้ว ฝ่ายทหารพ่ายแพ้การเลือกตั้ง พรรคทหารกลายเป็นฝ่ายค้านในสภาไป ก็ไม่ยอม ใช้อำนาจกดดัน บีบคั้น สร้างสถานการณ์ ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ฝ่ายตนคืนสู่อำนาจ   จนกระทั่งรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งมาถึง 2 รัฐบาล นับแต่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์  ต้องยุบตัวลงไปด้วยชั้นเชิงกลโกงทางการเมือง กลายมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายทหาร อมาตยาธิปไตยที่ล้าหลังระบอบเก่าอย่างพม่าจึงขึ้นครองอำนาจมาจนกระทั่งบัดนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ระบอบอมาตยาธิปไตยไทยกำลังพาประเทศและประชาชนเดินตามรอยรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าไปอย่างกระชั้นชิด ไม่ผิดการก้าวย่างตามทับอย่างรอยเดียวกัน  อย่างไม่ละอายต่อสายตาโลก เพราะอย่าคิดว่าจะปกปิดซ่อนเร้นการกระทำที่แอบแฝงความมุ่งหมายอันไม่ซื่อตรง ที่ทรยศต่อระบอบของประชาชนไปได้ หากแต่สายตาโลกที่เจริญด้วยวิถีทางประชาธิปไตยทั้งหลาย อันเป็นยุคใหม่ของเทกโนโลยี ที่มาพร้อมกับยุคใหม่ของลัทธิการเมืองประชาธิปไตย กำลังเริ่มไม่ไว้วางใจสถานการณ์ในประเทศไทย เริ่มมองหามาตรการที่จัดการเผด็จการในประเทศไทย  เพื่อเข้าโอบอุ้มพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยไทย ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในไทยไม่ให้เฉออกนอกลู่นอกทางไปจนตกอยู่ใต้อำนาจเผด็จการทรราชอย่างลึกซึ้ง ยากจะถอนตัวกลับคืนสู่วิถีประชาธิปไตยได้อีกครั้ง อย่างเดียวกับพม่า   

 

 

 

ประชาชนชาวไทยจึงควรที่จะตื่นตัวขึ้นมาศึกษาเหตุการณ์ที่ผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ และมีความต่อเนื่องของสถานการณ์อนารยธรรมทางการเมืองนอกระบอบประชาธิปไตยมาตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติของทหารตาบอดเผด็จการ 19 ก.ย. 2549  มาจนถึงปัจจุบัน  นับตั้งแต่เกิดองค์การโฆษณาชวนเชื่อ ใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเกลียดชังแก่รัฐบาลประชาธิปไตยครั้งใหญ่และแหลมคมขึ้นในปลายรัฐบาลทักษิณ ภายใต้การยุยงส่งเสริมของอมาตยาธิปไตยอำนาจเก่า ที่ซุ่มซ่อนคอยโอกาส และจังหวะกระทำการอยู่   อันเป็นเหตุของความร้าวฉานระหว่างประชาชนและความสับสนวุ่นวายขึ้นมาขณะนั้น จนเป็นเหตุให้คณะทหารและอมาตยาธิปไตยระบอบเก่าที่สูญเสียประโยชน์ทางอำนาจและเศรษฐกิจเนื่องด้วยนโยบายที่ฟื้นฟูอำนาจของชนทั้งหลายระดับสามัญชนขึ้นมาตามวิถีทางอำนาจประชาธิปไตย    ได้โอกาสในการกระทำการแทรกแซงทางการเมือง และใช้อำนาจกองทัพในมือเข้าปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยลงเสีย สถาปนาอำนาจแบบเผด็จการทหารนำโดยอมาตยาธิปไตยขึ้นมาปกครองประเทศ    เป็นผลสร้างความแตกแยกครั้งใหญ่ขึ้นในแผ่นดิน ๆ ระส่ำระสายมาไม่มีที่สิ้นสุด จนถึงปัจจุบันนี้   

 

 

 

เมื่อนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลทหารและอมาตยาธิปไตย โดยยุทธศาสตร์การสื่อสารความจริงวันนี้ ได้ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในแผ่นดินไทย นั่นคือคนทั้งประเทศตาสว่างขึ้นทั้งแผ่นดิน และสีแดงโหมโรมเร้าทั้งแผ่นดิน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการคืนอำนาจให้ประชาชน แต่แล้วรัฐบาลเลือดเข้าตาก็อำมะหิต พอที่จะออกคำสั่งระดมพลและอาวุธร้ายที่ใช้ในการสงครามโดยตรง โดยระดมกองกำลังที่จัดว่าสุดยอดของกองทัพไทยดีเด่นที่สุดของกองทัพไทย รวมถึงหน่วยทหารปฏิบัติการพิเศษนับแต่หน่วยสวาท อรินทร์ราช เป็นต้น   พร้อมทั้งอาวุธหนักเบา แม้กระทั่งยานยนต์ขนาดหนักใช้ต่อสู้ในสงครามโดยตรงก็ถูกระดมมาเพื่อกระชับวงล้อมเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า ๆ กลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับประชาชนฝ่ายรักประชาธิปไตยทั้งประเทศ เพราะรัฐบาลแม้ได้สั่งการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยตามสิทธิของระบอบที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ทหารและกองกำลังปรายปรามประชาชนก็ได้สังหารประชาชนด้วยอาวุธสงครามตายไปถึง 91 ศพ  โดยไร้เหตุผล และยังเตลิดเลยไปทำการละเมิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์คือเขตอภัยทานในพระพุทธศาสนา โดยการกระหน่ำยิงฆ่าประชาชนผู้ทำหน้าที่หน่วยกูภัยเสียชีวิตถึง 6 ศพ ซึ่งเป็นการผิดธรรมเนียมระหว่างโลกสากล   มีผู้สูญหายและบาดเจ็บอีกจำนวนร่วม 2,000 คน ในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553  ซึ่งพฤติกรรมล้อมปราบปรามประชาชนเช่นนี้ รัฐบาลกลับไร้ความสำนึกรับผิดชอบไปโดยสิ้นเชิง และยิ่งไปกว่านั้น ยังไร้เหตุผลแนวคิดทางการเมืองอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย กลับกล่าวหาว่าประชาชนเป็นผู้ก่อการร้าย และมีพฤติกรรมบ่อนทำลายไม่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ไปอีก ทำการจับกุมคุมขัง ดำเนินคดีอย่างเร่งรัด โดยใช้หน่วยงานลับDSI เป็นเครื่องมือร่วมสร้างเหตุผลหลักฐานเท็จขึ้นกล่าวหาประชาชน ยิ่งกว่ายุคนาซีเยอรมันเสียอีก    เป็นเหตุให้ประชาชนคั่งแค้นฝังใจไปทั้งประเทศ และรอคอยจังหวะของการกลับมาของอำนาจของประชาชน ตามหลักการประชาธิปไตย

 

 

 

ในการต่อสู้กับรัฐบาลทหารทรราช เผด็จการอมาตยาธิปไตยไทยของมวลชนชาวไทยนั้น นับว่ามีข้อได้เปรียบกว่าทางประชาชนพม่าอย่างมากมาย เพราะประชาธิปไตยไทยได้เรียนรู้จากประชาชนพม่ามาก่อน โดยได้เห็นประชาชนพม่าที่ถูกกดขี่ และไร้อิสรภาพ เสรีชน นั่นเอง และครั้นผ่านเหตุการณ์ปราบปรามการชุมนุมครั้งใหญ่ที่เจดีย์ชะเวดากอง เมื่อ 10 ตุลาคม 2550 อันเป็นผลให้ประชาชนเสียชีวิตร่วม 200 ศพ และฝ่ายพระสงฆ์เสียชีวิต 50 ศพ การควบคุมปิดหูปิดตาประชาชนก็เข้มขึ้น   ประชาชนพม่า จำยอมอยู่ใต้ปกครองของอำนาจทหารเผด็จการอย่างไม่กล้าปริปาก ส่วนประชาชนไทยมีพื้นฐานที่ดีกว่า โดยมีองค์คณะบุคคล ทางการเมืองและการศึกษาที่ประกอบด้วยผู้รู้ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่า รู้โลกมากกว่า ได้เรียนรู้หลักการปกครองเปรียบเทียบหลายหลักการ อันลึกซึ้งไปถึงรัฐศาสตร์แห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง   มีสถาบันประชาธิปไตยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หลายสถาบัน ที่พอจะทบทวนตนเองให้รู้ซึ้งไปในหน้าที่ของสถาบันหรือองค์กรประชาธิปไตยในยุคประชาธิปไตยนี้ดีกว่าประเทศพม่า   อนึ่งในยุคประชาธิปไตยปกครองประเทศชั่วขณะหนึ่งก่อนหน้าการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549   ประชาชนได้เรียนรู้ประชาธิปไตยทางตรง โดยได้พบได้พิศูจน์ความดีงามมาอย่างชัดเจนถึงนโยบายรัฐบาลประชาธิปไตย ที่ทำให้ประชาธิปไตยกินได้ อันไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นเหตุของการตื่นตัวรับทราบความดีงามของประชาธิปไตยไปอย่างกว้างขวาง และเพิ่มความศรัทธาในระบอบของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนยิ่งขึ้นไป ยิ่งกว่าประชาชนพม่า 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวคิดทางการเมืองที่ยังสับสนไม่ลงรอยกันในหลักวิชา หลักการทางทฤษฎีและทางปฏิบัติแห่งระบอบประชาธิปไตยไทย อันเป็นเหตุให้ลังเลใจ ขาดความมั่นใจในวิถีทางการเมืองของเสรีชน คนพ้นยุคความเป็นทาสทุกประการ ที่ให้อำนาจเป็นของประชาชนโดยหลักการของความเสมอภาค และภราดรภาพ อันเป็นสากล ขาดความมั่นใจ ชัดเจนต่อวิถีทางหรือครรลองของระบอบอำนาจของประชาชนอันเป็นการเมืองแห่งความเป็นธรรมของประเทศชาติ

 

 

 

เพื่อให้เป็นการเสริมเพิ่มเติมและเน้นย้ำลงไปในวิถีทางของระบอบหรือครรลองของประชาธิปไตย คืออำนาจเป็นของประชาชน โดยหลักความเสมอภาค ภราดรภาพ และหลักเสรีภาพของเสรีชนคนในระบอบ เราจึงขอเสนอเรื่องราวซึ่งเป็นผลมาจากการมองสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนสถานการณ์ 19 ก.ย.2549 ตราบมาจนถึงปัจจุบัน อันเป็นระยะที่รัฐบาลเร่งคดีที่กล่าวหาประชาชนอย่างร้ายแรงว่าเป็น การก่อการร้าย โดยกล่าวหาว่าประชาชนกระทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไม่ชอบด้วยหลักสันติ อหิงสา แต่โดยความคิดแก้ว 3 ประการของพรรคคอมมิวนิสต์ไทยยุคก่อนคือแนวคิดก่อการร้ายด้วยองค์กร 3 องค์กร คือ (1) พรรคการเมือง หมายถึง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (2) มวลชน หมายถึงมวลชนที่ถูกจัดตั้ง หรือที่ถูกปลุกเร้าด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ  และ(3) กองกำลัง หมายถึงกองกำลังติดอาวุธ หรือทหารป่าที่มีภาระในการต่อสู้ล้มล้างรัฐบาล ซึ่งเป็นการกล่าวหาโดยเหตุผลที่ล้าหลังอย่างยิ่ง  และเห็นเจตนาใส่ร้ายป้ายสีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพื่อกดข่ม ทำลายฝ่ายตรงข้ามลงไปโดยวิถีทางเผด็จการ

 

 

 

ฉะนั้น ประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่มีระบอบอื่นใดเลยที่อาจนำชาติและประชาชนไปสู่ความหมายของชีวิต คือความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ เป็นวิถีทางที่ข้ามพ้นปัญหาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า การพัฒนาการ ที่พบความสมหวัง ผลประโยชน์ และความสุขที่สมบูรณ์    ต่อไปนี้จะเป็นการเลือกสรรบทวิเคราะห์เกี่ยวกับทัศนะการมองเหตุการณ์เกี่ยวกับประชาธิปไตย มาตั้งแต่ต้นของสถานการณ์การเมืองอันสับสนในประเทศไทย มาแต่ก่อนสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และหลังการเปลี่ยนแปลง 19 ก.ย. 2549 เพื่อเป็นบทเรียนทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตย ที่น่าจะเป็นทางทำความเข้าใจหรือบทศึกษาประชาธิปไตยที่แท้จริง ในทัศนะหนึ่ง  เป็นเรื่อง ๆ ตามลำดับไป ดังต่อไปนี้ 

 
 

 

·       บก.นสพ.ดี(อินเทอเนต)
20 ส.ค. 2553
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-11 21:41:32


ความคิดเห็นที่ 27 (3280823)

 

ศึกษาประชาธิปไตยไทย
Study Thai with Democracy
 
 
1. บทนำศึกษาประชาธิปไตยไทย
1. Introduction Study Thai with Democracy
 
 
คัดสรรบทวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยก่อนและหลัง 19 กันยายน 2549 เกี่ยวกับประชาธิปไตยไทย
 
The Selection for Thai situation analysises before and after September 19, 2006
about democracy
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-16 10:39:05


ความคิดเห็นที่ 28 (3280824)

  

ประชาธิปไตยไทยอย่าเป็นอย่างพม่า
ศึกษาจากเรื่องราวจริง และเหตุการณ์จริง ช่วงก่อนและหลังยึดอำนาจ 19 ก.ย. 2549
 
ประเทศไทยอย่าเป็นอย่างพม่าแม้ว่าพฤติกรรมละม้ายคล้ายคลึงพม่ามาตั้งแต่ยุคปฏิรูปปฏิวัติโดย สนธิ บุณยรัตนกลิน ทหารเผด็จการหัวเก่า เมื่อ 19 ก.ย. 2549   นั่นคือ เมื่อมีการเลือกตั้ง เดือนพ.ย. 2551 แล้ว ฝ่ายทหารพ่ายแพ้การเลือกตั้ง พรรคทหารกลายเป็นฝ่ายค้านในสภาไป ก็ไม่ยอม ใช้อำนาจกดดัน บีบคั้น สร้างสถานการณ์ ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ฝ่ายตนคืนสู่อำนาจ   จนกระทั่งรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งมาถึง 2 รัฐบาล นับแต่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องยุบตัวลงไปด้วยชั้นเชิงกลโกงทางการเมือง กลายมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายทหาร อมาตยาธิปไตยที่ล้าหลังระบอบเก่าอย่างพม่าจึงขึ้นครองอำนาจมาจนกระทั่งบัดนี้ สถานการณ์ปัจจุบัน ระบอบอมาตยาธิปไตยไทยกำลังพาประเทศและประชาชนเดินตามรอยรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าไปอย่างกระชั้นชิด ไม่ผิดการก้าวย่างตามทับอย่างรอยเดียวกัน อย่างไม่ละอายต่อสายตาโลก เพราะอย่าคิดว่าจะปกปิดซ่อนเร้นการกระทำที่แอบแฝงความมุ่งหมายอันไม่ซื่อตรง ที่ทรยศต่อระบอบของประชาชนไปได้ หากแต่สายตาโลกที่เจริญด้วยวิถีทางประชาธิปไตยทั้งหลาย อันเป็นยุคใหม่ของเทกโนโลยี ที่มาพร้อมกับยุคใหม่ของลัทธิการเมืองประชาธิปไตย กำลังเริ่มไม่ไว้วางใจสถานการณ์ในประเทศไทย เริ่มมองหามาตรการที่จัดการเผด็จการในประเทศไทย เพื่อเข้าโอบอุ้มพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยไทย ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในไทยไม่ให้เฉออกนอกลู่นอกทางไปจนตกอยู่ใต้อำนาจเผด็จการทรราชอย่างลึกซึ้ง ยากจะถอนตัวกลับคืนสู่วิถีประชาธิปไตยได้อีกครั้ง อย่างเดียวกับพม่า  
 
 
 
Thai democracy should not go the same way with Mynmar.
Study true story and real events the period before and after September 19, 2006
 
Thai democracy should not go the same way with Mynmar eventhough the action has been alike Mynmar since there had a coup d’etatSeptember 19, 2006 by the dull Sonthi Boonyaratgalin the latest traitor for Thai democracy. That is the same with the election of Mynmar. In Mynmar, when the government had been defeated in the election it denied promply the result of the election and used all power in hand to do every way to return to power. In Thailand the democracy side win in the election of November 2008 the soldier side did not accept the result of the election but try every way to return to power. They could destroy 2 governments Smak Suntoravej and Sochai vongswat who belonged to democracy and the foolish autocracy regime has returned to power until now as same as Mynmar. In the present situation, the autocracy regime in Thailand is leading the country and the people upon along the printfoot of the autocracy in Mynmar as if the same printfoot. They disashame for the watching of the world eyes. We want to warn you now; not to think to be able to conceal your dishonest deeds untrue to the people for that is a traitor to the people and democracy. And the people of the world in everywhere every place, who love democracy, who was born with a new thought of freedom, has been keeping eye on you in every step. They are now untrusting you. They are now untrusting for the situation in Thai government that going to sink downd respectively and taking its people to the undersea gorge. So the people of the world regard that to patronize is a better way and they are coming with a strong support for democracy in Thailand. It is a better way than to leave Thai democracy sinking deeper and deeper that would be worse than to return.
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-16 10:41:09


ความคิดเห็นที่ 29 (3281320)

 

ประชาชนชาวไทยจึงควรที่จะตื่นตัวขึ้นมาศึกษาเหตุการณ์ที่ผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ และมีความต่อเนื่องของสถานการณ์อนารยธรรมทางการเมืองนอกระบอบประชาธิปไตยมาตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติของทหารตาบอดเผด็จการ 19 ก.ย. 2549 มาจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่เกิดองค์การโฆษณาชวนเชื่อ ใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเกลียดชังแก่รัฐบาลประชาธิปไตยครั้งใหญ่และแหลมคมขึ้นในปลายรัฐบาลทักษิณ ภายใต้การยุยงส่งเสริมของอมาตยาธิปไตยอำนาจเก่า ที่ซุ่มซ่อนคอยโอกาส และจังหวะกระทำการอยู่   อันเป็นเหตุของความร้าวฉานระหว่างประชาชนและความสับสนวุ่นวายขึ้นมาขณะนั้น จนเป็นเหตุให้คณะทหารและอมาตยาธิปไตยระบอบเก่าที่สูญเสียประโยชน์ทางอำนาจและเศรษฐกิจเนื่องด้วยนโยบายที่ฟื้นฟูอำนาจของชนทั้งหลายระดับสามัญชนขึ้นมาตามวิถีทางอำนาจประชาธิปไตย    ได้โอกาสในการกระทำการแทรกแซงทางการเมือง และใช้อำนาจกองทัพในมือเข้าปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยลงเสีย สถาปนาอำนาจแบบเผด็จการทหารนำโดยอมาตยาธิปไตยขึ้นมาปกครองประเทศ    เป็นผลสร้างความแตกแยกครั้งใหญ่ขึ้นในแผ่นดิน ๆ ระส่ำระสายมาไม่มีที่สิ้นสุด จนถึงปัจจุบันนี้   
 
 
 
So the people of Thailand should wake up to study the recent events that reveal the savage of Thai politics among the  period before and after September 19, 2006 when the blind Sonthi Boonyaratgalin leader of the coup d’etat took action.  It began with a big cunningful propaganda by a group of the envious ones. They condemned. They defamed. They accused with false accusations to the democratic government at last missled the people to untrue story about Thaksin Government until a part of the people rose against him and the political situation went wild and came a chance for the autocracy regime who had been hiding and waiting. They had all the army to served them to protect them firm and tightly with most honestly.  That resulted the great division among the people of Thailand since then.      
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-20 11:05:18


ความคิดเห็นที่ 30 (3281490)

 

 
เมื่อนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลทหารและอมาตยาธิปไตย โดยยุทธศาสตร์การสื่อสารความจริงวันนี้ ได้ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในแผ่นดินไทย นั่นคือคนทั้งประเทศตาสว่างขึ้นทั้งแผ่นดิน และสีแดงโหมโรมเร้าทั้งแผ่นดิน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการคืนอำนาจให้ประชาชน แต่แล้วรัฐบาลเลือดเข้าตาก็อำมะหิต พอที่จะออกคำสั่งระดมพลและอาวุธร้ายที่ใช้ในการสงครามโดยตรง โดยระดมกองกำลังที่จัดว่าสุดยอดของกองทัพไทยดีเด่นที่สุดของกองทัพไทย รวมถึงหน่วยทหารปฏิบัติการพิเศษนับแต่หน่วยสวาท อรินทร์ราช เป็นต้น   พร้อมทั้งอาวุธหนักเบา แม้กระทั่งยานยนต์ขนาดหนักใช้ต่อสู้ในสงครามโดยตรงก็ถูกระดมมาเพื่อกระชับวงล้อมเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า ๆ กลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับประชาชนฝ่ายรักประชาธิปไตยทั้งประเทศ เพราะรัฐบาลแม้ได้สั่งการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยตามสิทธิของระบอบที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ทหารและกองกำลังปรายปรามประชาชนก็ได้สังหารประชาชนด้วยอาวุธสงครามตายไปถึง 91 ศพ โดยไร้เหตุผล และยังเตลิดเลยไปทำการละเมิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์คือเขตอภัยทานในพระพุทธศาสนา โดยการกระหน่ำยิงฆ่าประชาชนผู้ทำหน้าที่หน่วยกูภัยเสียชีวิตถึง 6 ศพ ซึ่งเป็นการผิดธรรมเนียมระหว่างโลกสากล   มีผู้สูญหายและบาดเจ็บอีกจำนวนร่วม 2,000 คน ในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งพฤติกรรมล้อมปราบปรามประชาชนเช่นนี้ รัฐบาลกลับไร้ความสำนึกรับผิดชอบไปโดยสิ้นเชิง และยิ่งไปกว่านั้น ยังไร้เหตุผลแนวคิดทางการเมืองอันชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย กลับกล่าวหาว่าประชาชนเป็นผู้ก่อการร้าย และมีพฤติกรรมบ่อนทำลายไม่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ไปอีก ทำการจับกุมคุมขัง ดำเนินคดีอย่างเร่งรัด โดยใช้หน่วยงานลับDSI เป็นเครื่องมือร่วมสร้างเหตุผลหลักฐานเท็จขึ้นกล่าวหาประชาชน ยิ่งกว่ายุคนาซีเยอรมันเสียอีก    เป็นเหตุให้ประชาชนคั่งแค้นฝังใจไปทั้งประเทศ และรอคอยจังหวะของการกลับมาของอำนาจของประชาชน ตามหลักการประชาธิปไตย
 
 
 
In time the red shirt organization rose against the autocrat government by mean of a truth strategy there happened a miracle in Thailand that all the people saw the truth and all eye through the country shined  ever bright. And the red colour mobilized around the country. The red people asked  from the autocrat government to give them back democracy. But the blind ruler who was at that time mad with rage became more and more savage to order the best soldier in the army and the best in special force for example SWAT and Arintharat to come out, back with several tanks and amour vehicles. They declared to fire then marched through the red bamboo fences to the people who by nature  fought to live. By this way, they killed 91 red people unreasonigly with their heavy weapons. They did a special deed for killing the people in a temple  Wat PatoomVanaram a holy place of Buddhism by mad action for they  follow up and hunt the people by mean of beast hunting. The 6 people killed in Wat Patoom Vanaram all belonged to a charity organization while helping the wounded and the dead.  The lost and the wounded in this hunting 19 May,2010  has been more than 2000. When the fire ceased, the government promply said all the dead was the result of the red shirt who killed eachother themselves  and put them into a worst accusation to cause terrorism. The 7 leaders of the red shirt truly they surrendered themselves to the police by the compromise between them and the government. And the DSI a special authority for crime investigation put them into jail since then. They put a more serious accusation that is  a traitor to the monarch. So this causes a strong hatred to all the red people in the country who still fight for the return of democracy in Thailand.
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-01-21 11:31:10


ความคิดเห็นที่ 31 (3284127)

 

ในการต่อสู้กับรัฐบาลทหารทรราช เผด็จการอมาตยาธิปไตยไทยของมวลชนชาวไทยนั้น นับว่ามีข้อได้เปรียบกว่าทางประชาชนพม่าอย่างมากมาย เพราะประชาธิปไตยไทยได้เรียนรู้จากประชาชนพม่ามาก่อน โดยได้เห็นประชาชนพม่าที่ถูกกดขี่ และไร้อิสรภาพ เสรีชน นั่นเอง และครั้นผ่านเหตุการณ์ปราบปรามการชุมนุมครั้งใหญ่ที่เจดีย์ชะเวดากอง เมื่อ 10 ตุลาคม 2550 อันเป็นผลให้ประชาชนเสียชีวิตร่วม 200 ศพ และฝ่ายพระสงฆ์เสียชีวิต 50 ศพ การควบคุมปิดหูปิดตาประชาชนก็เข้มขึ้น   ประชาชนพม่า จำยอมอยู่ใต้ปกครองของอำนาจทหารเผด็จการอย่างไม่กล้าปริปาก ส่วนประชาชนไทยมีพื้นฐานที่ดีกว่า โดยมีองค์คณะบุคคล ทางการเมืองและการศึกษาที่ประกอบด้วยผู้รู้ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่า รู้โลกมากกว่า ได้เรียนรู้หลักการปกครองเปรียบเทียบหลายหลักการ อันลึกซึ้งไปถึงรัฐศาสตร์แห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง   มีสถาบันประชาธิปไตยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หลายสถาบัน ที่พอจะทบทวนตนเองให้รู้ซึ้งไปในหน้าที่ของสถาบันหรือองค์กรประชาธิปไตยในยุคประชาธิปไตยนี้ดีกว่าประเทศพม่า   อนึ่งในยุคประชาธิปไตยปกครองประเทศชั่วขณะหนึ่งก่อนหน้าการปฏิวัติ 19 ก.ย.2549   ประชาชนได้เรียนรู้ประชาธิปไตยทางตรง โดยได้พบได้พิศูจน์ความดีงามมาอย่างชัดเจนถึงนโยบายรัฐบาลประชาธิปไตย ที่ทำให้ประชาธิปไตยกินได้ อันไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นเหตุของการตื่นตัวรับทราบความดีงามของประชาธิปไตยไปอย่างกว้างขวาง และเพิ่มความศรัทธาในระบอบของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนยิ่งขึ้นไป ยิ่งกว่าประชาชนพม่า
 
 
To fight with tyrant government, the Thai people seems to gain much more adventage than the people of Mynmar because Thai people have learned much from the people of Mynmar. They have learned the role of the tyrant government in recent Mynmar. They have seen how the people of Mynmar been treated and tyrannized that results a ruling of Mynmar going on without freedom. And since October 10,2550  which took more than 200 lives away with 50 Buddhist monks killed around Chavedagong pagoda, the people of Mynmar have been shut up. In the side of Thai people they have had a better ground than the people of Mynmar for they get more political and educational organizations that compose of many wise-learned people concerning politics.  Onething else in Thailand, before the September 19,2549 the Thai people has had a good experience for a special understanding about the real democratic governing with real policies for the people’s wellbeing that comes a so called democracy could be eaten. That wakes a large  amount of the people of Thailand to see the truth and be more faithful to democracy than the people of Mynmar.
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-02-11 09:17:40


ความคิดเห็นที่ 32 (3284130)

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวคิดทางการเมืองที่ยังสับสนไม่ลงรอยกันในหลักวิชา หลักการทางทฤษฎีและทางปฏิบัติแห่งระบอบประชาธิปไตยไทย อันเป็นเหตุให้ลังเลใจ ขาดความมั่นใจในวิถีทางการเมืองของเสรีชน คนพ้นยุคความเป็นทาสทุกประการ ที่ให้อำนาจเป็นของประชาชนโดยหลักการของความเสมอภาค และภราดรภาพ อันเป็นสากล ขาดความมั่นใจ ชัดเจนต่อวิถีทางหรือครรลองของระบอบอำนาจของประชาชนอันเป็นการเมืองแห่งความเป็นธรรมของประเทศชาติ
 
 
 
 
However there have  one more thing that has been long time in confusion among the people about democracy itself. What is the real meaning of democracy ? What is its way, its real theory and practice ? This confusion causes a reluctance for the people to fight for real democracy that has been believed would bring good things such as freedom equality and fraternity to the nation. That brings a new thought of power ruling ; a ruling by the people for the people  and of the people that is a fair politics and  national welfare
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-02-11 09:19:20


ความคิดเห็นที่ 33 (3284821)

 

เพื่อให้เป็นการเสริมเพิ่มเติมและเน้นย้ำลงไปในวิถีทางของระบอบหรือครรลองของประชาธิปไตย คืออำนาจเป็นของประชาชน โดยหลักความเสมอภาค ภราดรภาพ และหลักเสรีภาพของเสรีชนคนในระบอบ เราจึงขอเสนอเรื่องราวซึ่งเป็นผลมาจากการมองสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนสถานการณ์ 19 ก.ย.2549 ตราบมาจนถึงปัจจุบัน อันเป็นระยะที่รัฐบาลเร่งคดีที่กล่าวหาประชาชนอย่างร้ายแรงว่าเป็น การก่อการร้าย โดยกล่าวหาว่าประชาชนกระทำการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไม่ชอบด้วยหลักสันติ อหิงสา แต่โดยความคิดแก้ว 3 ประการของพรรคคอมมิวนิสต์ไทยยุคก่อนคือแนวคิดก่อการร้ายด้วยองค์กร 3 องค์กร คือ (1) พรรคการเมือง หมายถึง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (2) มวลชน หมายถึงมวลชนที่ถูกจัดตั้ง หรือที่ถูกปลุกเร้าด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ และ(3) กองกำลัง หมายถึงกองกำลังติดอาวุธ หรือทหารป่าที่มีภาระในการต่อสู้ล้มล้างรัฐบาล ซึ่งเป็นการกล่าวหาโดยเหตุผลที่ล้าหลังอย่างยิ่ง และเห็นเจตนาใส่ร้ายป้ายสีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพื่อกดข่ม ทำลายฝ่ายตรงข้ามลงไปโดยวิถีทางเผด็จการ
 
 
 
To promote democracy, to demonstrate democratic way of life here with are some ideas about how to reach a real democracy for example a truth of power, the way of freedom equality and fraternity and about situations before and after September 19,2549 at time the government accuse all the red shirt leaders as a causing terrorism that is beyond Thai expectation. For the government says they lead the red movement along the 3 thoughts  of revolution that composes of 1. a thought of the former communist party 2. the mass, the people at large influenced by mean of propaganda  3. armed force that means a specially assigned one to overturn a government. The accusation is so unreasonable and unbelievable. For in fact the people come to call for democracy with armless and they could harm no one and they have been announcing to fight for democracy without arms but peace and harmlessness  that has been seen openly as a real fact since the beginning of their fight.   
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-02-16 18:44:08


ความคิดเห็นที่ 34 (3284822)

 

 
ฉะนั้น ประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่มีระบอบอื่นใดเลยที่อาจนำชาติและประชาชนไปสู่ความหมายของชีวิต คือความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ เป็นวิถีทางที่ข้ามพ้นปัญหาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า การพัฒนาการ ที่พบความสมหวัง ผลประโยชน์ และความสุขที่สมบูรณ์    ต่อไปนี้จะเป็นการเลือกสรรบทวิเคราะห์เกี่ยวกับทัศนะการมองเหตุการณ์เกี่ยวกับประชาธิปไตย มาตั้งแต่ต้นของสถานการณ์การเมืองอันสับสนในประเทศไทย มาแต่ก่อนสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และหลังการเปลี่ยนแปลง 19 ก.ย. 2549 เพื่อเป็นบทเรียนทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตย ที่น่าจะเป็นทางทำความเข้าใจหรือบทศึกษาประชาธิปไตยที่แท้จริง ในทัศนะหนึ่ง เป็นเรื่อง ๆ ตามลำดับไป ดังต่อไปนี้  
·       บก.นสพ.ดี(อินเทอเนต)
        20 ส.ค. 2553
 
 
 
 
So it should be only democracy system that could lead the nation and the people to world prosporous to other fine things for example a meaning of life, a complete humanbeing that goes beyond any troubles to development and progressive being, to fulfill one’s aspiration, a perfect benefit and happiness. From now on would be a selection from many articles that analyse Thai politics and the situation about democracy before and after the change September 19,2006[2549] in Thailand. It would be another sight with new ideas for the rid of democratic understanding in Thailand  
 
·         Editor The Good Paper [Internet]
August 20,2553[2006]
ผู้แสดงความคิดเห็น enjel razaak วันที่ตอบ 2011-02-16 18:45:35


ความคิดเห็นที่ 35 (3303690)

ok

ผู้แสดงความคิดเห็น somchit (somchitkob1-at-hotmail-dot-com,)วันที่ตอบ 2011-08-09 20:41:57


ความคิดเห็นที่ 36 (3303785)

test at home

ผู้แสดงความคิดเห็น somchit วันที่ตอบ 2011-08-10 18:35:39


ความคิดเห็นที่ 37 (3314732)

วันนี้ 11 ต.ค.2554  มีข่าวว่ารัฐบาลพม่าจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมนักโทษที่ติดอยู่ในเรือนจำจำนวนมาก และคิดว่าการปล่อยตัวครั้งนี้จะมีนักโทษการเมืองที่ติดคุกอินเส่งอยู่ด้วย และแน่นอนนักโทษการเมืองในประเทศไทยก็ควรได้รับอิสรภาพเช่นกัน นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ นปช. ได้มาเยี่ยมนักโทษการเมืองในประเทศไทยก็หวังว่าท่านจะได้ผลักดันให้รัฐบาลของต่างประเทศ และองค์กรสิทธิมนุษยชนสากลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปล่อยนักโทษการเมือง และปฏิรูปกฎหมายล้าหลังที่กดขี่ข่มเหงเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-10-11 21:32:53



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.