คำถามที่ค้างมาแต่กระทู้ก่อนว่าดังนี้ :-

• ผู้แสดงความคิดเห็น นักศึกษาโหราศาสตร์ วันที่ตอบ 2011-02-12 22:09:04

คำตอบ     ความเข้าใจที่ว่า เมื่อลักคณาอยู่ราศีเดียวกันก็จะได้รับผลดีผลร้าย หรือเคราะห์กรรมต่าง ๆ เหมือน ๆ กันนั้น   เป็นความเข้าใจที่ผิด  

เหมือนคนไทยทั่ว ๆ ไปเข้าใจเอาว่าคนเกิดวัน เดือน ปี อะไร .......... ก็ทึกทักเอาว่าจะเป็นอย่างนั้น............นี่คือคนไม่เข้าใจโหราศาสตร์

มีเพียงความเชื่อที่สืบมาจากประเพณีที่เคยเชื่อมา

เช่นในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ.........คนไทยพวกหนึ่งที่พอมีความรู้ทางการพยากรณ์อยู่บ้าง   ก็พูดไปในเรื่องที่ตนเองเชื่อ  ซึ่งเป็นเรื่องเหลวไหล  ที่มีมาเป็นระยะ ๆ ก็คือ   ปีชง........ขณะนี้คนก็ตื่นกันอยู่    ขอบอกว่านี่เป็นเรื่องเพียงความเชื่อ  หาความจริงไม่ได้  บางทีก็ถูกบ้าง   แต่ถูกแบบถูกลอตเตอรี่.............  เป็นพวกงมงายไร้สาระจริง   ถ้าสังคมเราปราศจากความเชื่อเช่นนี้ หรือเรื่องปีชงนี้ไปอย่างเรียบเกลี้ยง ก็จะไม่มีผลเสียหายอะไรเกิดขึ้นเลย  จะมีแต่เกิดผลดีคือ มีโอกาสที่จะอุปนิสัยแบบมีเหตุผลขึ้นแทนในสังคมอันเป็นลักษณะสังคมเจริญปัญญาหรือยุควิทยาศาสตร์ 

พอ ๆ กับที่ตื่นกันอยู่บางแห่งเรื่อง    คนที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร  ส    กำลังจะมีเคราะห์ร้ายแรง จะต้องทำบุญด้วยการเลี้ยงขนมจีนแด่คนทั้งหลาย  จะต้องเลี้ยงตรงสี่แยกเสียด้วย 

นี่คือพวกงมงาย โดยแท้จริง  

ในกรณีที่มาเกี่ยวกับโหราศาสตร์ เช่นเดียวกับคำถามข้างต้น  ที่สงสัยว่า  เมื่อลักคณาอยู่ราศีกันย์ด้วยกัน  ก็คงจะได้รับเคราะห์ร้ายเหมือน ๆ กัน      นั่นไม่ถูกต้อง  เหมือนกับตีขลุมเอาว่า  คนเกิดวันเสาร์ต้องทุกข์ ร่ำรวยยาก  คนเกิดวันพฤหัสบดีจะร่ำรวย   ได้เป็นใหญ่  .ซึ่งในความจริงคนเกิดวันเสาร์ก็เป้ฯเศรษฐีมหาเศรษฐีได้  พอ ๆ กับคนในคุกบางขวาง รอการประหารก็มีคนเกิดวันพฤหัสบดีเยอะ...

และเป็นเรื่องที่มากมายเกินไปที่จะอธิบายให้เข้าใจในที่นี้  

แต่ก็พอทำความเข้าใจได้ในหลักการ

โดยหลักการโหราศาสตร์คือหลักการว่าด้วยกระแสดาวเคราะห์ 10 ดวง บนท้องฟ้า  ที่เปล่งออกมารอบตัวมัน  เขาให้รหัสดาวไว้10รหัสเรียงเลขไปเลยคือ  คือ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๐  คือแทนดาวอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร เสาร เกต มฤตยู 

ที่มักเข้าใจผิดก็คือ   ไปเพ่งดูเพียงดาวดวงเดียว   แท้จริงมีดาวถึง 10 ดวง  จึงเป็นการผสมผสานกระแสดาวทั้ง 10 ดวงนั้น  เป็นอิทธิพลผสมผสานดาว  นี่เป็นข้อที่ 1

ข้อที่ 2   ลักคณาอยู่ราศีเดียวกันก็จริง   แต่เกิดคนละวัน เดือน  ปี  และคนละเวลา     ดาวทั้ง 10 ดวง  ของคนแต่ละคนอยู่กันคนละแห่งหน  ไม่ตรงกัน   หรืออาจจะตรงกันบ้างก็มีแต่ไม่ใช่ประเด็น

ข้อที่ 3   ลักคณาอยู่ราศีเดียวกันก็จริง  แต่ดาวเจ้าเรือนลักคณา หรือตนุลักคณา อยู่กันคนละแห่ง

เช่นของ  นายกอภิสิทธิ์  อยู่ราศีสิงห์  ของนายกทักษิณอยู่ราศีกรกฎ  ของนายกบรรหารอยู่ราศีกรกฎ 

จะเห็นว่าของนายกบรรหาร  กับ ของนายกทักษิณ อยู่กรกฎ   เป็นตำแหน่งที่ดีมาก ๆ  และค่อนข้างปลอดภัย  แคล้วคลาด  สำเร็จกิจการงานดี  และร่ำรวย ของนายกทักษิณเด่นเพราะที่กรกฎนี้มีดาวถึง 4 ดวงให้อิทธิพลความสำเร็จแรง คือดาวพุธ(๔)ตนุลั ยังมีดาวจันทร์(๒)+ดาวอาทิตย์(๑)กุม และดาวพฤหัสบดี(๕)เล็งอีก   ถือว่าเป็นุการรวมพลังดาวที่ให้ความหมายดี ที่หมายถึงความสำเร็จร่ำรวย และมีสิทธิ์ที่จะเป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิต  โดยเฉพาะในระยะปลายของชีวิตอีกด้วย นี่กล่าวเรื่องตนุลักคณ์เรื่องเดียว

ส่วนของนายกอภิสิทธิ์ ดาวพุธ(๔)ตนุลั อยู่ราศีสิงห์ เป็นภพของความผิดหวัง  ความลับดำมืด  สิ่งผิดกฎหมาย  คุกตะราง  คดีความ.....ชีวิตที่ลำบาก........

ก็มีนัยยะของความแตกต่าง  ดังนี้ เป็นประการต้น ๆ  ยังมีความแตกต่างอีกมากมาย  ทั้งด้านดี และ ด้านร้าย    ด้านดีนายกอภิสิทธิ์ดีที่มีดาวพฤหัสบดี(๕) กุมดาวจันทร์(๒)มหาอุจ ณราศีพฤษภ  ได้ฐานะ อสีติธาตุ     ทำให้มีพลังสูงพิเศษ  เป็นจุดความสำเร็จเด่นดังของชะตานี้   แต่อย่างไรก็ตาม   จุดผิดพลาดสำคัญย่อมพิจารณาได้จากตนุลักคณา  คือดาวพุธ(๔)  ของยายกอภิสิทธิ์ ยังมีดาวร้ายมฤตยู(๐)กุมอยู่  และซ้ำมีดาวเสาร์(๗)เล็ง  และซ้ำมีดาวร้ายเกต(๙) ถึงอีก   ๔+๐+๗+๙ หมายถึงผลทางร้าย ๆ  รวมทั้งความตายที่ไม่ดีด้วย   นี่บอกถึงผลทางลบไปหมด     แม้ว่าจะได้เป็นอะไรก็ทำอะไรไม่ได้ผลดีสมหวังตนเอง.......

ส่วนนายกบรรหาร  ก็กำลังจะได้ผลกระทบตามหลักทักษา   ในเร็ว ๆ นี้จะเผชิญปัญหาความแตกร้าวในมวลหมู่ พรรค ทีมงานอย่างแรง..........

เอาไว้แค่นี้นะครับ  คงจะเข้าใจ...

ในเรื่องของอดีตนายก ทักษิณ  ดวงชะตากำลังจะผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ และก้าวสู่เส้นทางที่เข้มแข็ง ราบเรียบในไม่ช้านี้   มีช่วงระหว่างวันที่  3-15 มี.ค.2554 หรือ 14 เม.ย.-7 พ.ค.2554  อาจจะมีอุบัติเหตุบางอย่าง  หรือไม่ก็เรื่องอาหารเครื่องดื่ม ระวังยาพิษ  อาหารเป็นพิษ  หลังวันที่ 7 พ.ค.2554 จึงจะพ้นเคราะห์  พ้นอุปสรรคต่าง ๆ ดังกล่าว  จะเป็นลักษณะตรงข้ามกับนายกบรรหาร   ที่อีกไม่ช้า ชะตาจะตกต่ำ ประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ก็จะเผชิญปัญหาอันหนักหน่วง  และเสี่ยงต่อการแตก พังทะลายของพรรค และพวก   ส่วนของนายกอภิสิทธิ์  ได้พยากรณ์ไว้อย่างละเอียด รัดกุมแล้วอันจะบอกถึงเวลาที่ตกอับและต้องเผชิญปัญหาอันยากลำบากนานาประการ  รวมทั้งการถูกลอบทำร้ายและคดีความต่าง ๆ อันฉกรรจ์  ดังได้พยากรณ์ไว้แต่ต้นแล้ว   

ได้เกิดสินามิขึ้นจริงแล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่น เมืองนาโตริ เมืองฟูกุชิมา  มีแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์ก่อน แล้วเกิดสินามิตามมา  ว่าพบคนตายแล้ว 2300 คน  บ้านเมืองพินาศไปหลายจังหวัด  ที่จังหวัดฟูกุชิมา มีพลังไฟฟ้านิวเคลียร์ใช้ด้วยหลายสถานี  วันนี้ พบศพ 2800 ศพ  สถานีไฟฟ้านิวเคลียร์ ระเบิดไปแล้ว 2 สถานี วันนี้เวลา 06.10 น.ระเบิดอีกเป็นสถานีที่ 3   อพยพคนออกห่าง 10 กม. จำนวน 170,000 คน   จำนวนคนตายหายไปร่วมหมื่นคน.....

ประเด็นโหราศาสตร์ก็คือ ท่านได้พยากรณ์ว่าจะเกิดสินามิ  ในประเทศไทย วันที่ 1 พ.ย.2554    บัดนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว  ที่ประเทศญี่ปุ่น   จะหมายถึงเรื่องเดียวกันในคำพยากรณ์หรือไม่ 

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ  เหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว  มีการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจนกระทั่งชายแดนศรีสะเกษ ตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ โดนกระสุนปืนใหญ่พินาศไปหลายหลัง คนอพยพนับพัน ๆ คน   และทั้งคนตาย โกลาหลกันอยู่จนถึงต้นเดือนมีนาคมนี้จึงสงบลง 

ท่านได้พยากรณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะทางชายแดน ทางทะเลบริเวณทะเลตราด กับกำปงโสมของกัมพูชา ในปลายเดือนเมษายน 2554   บัดนี้ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว  จะถือว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่  ขอบพระคุณครับ

ที่จริง เรื่องที่พยากรณ์มานับว่าถูกทั้งหมด  ที่ถูกต้องมากก็คือ  เรื่องปัญหาเศรษฐิกจ ประชาชนจะอดอยากยากจน  เข้าของราคาแพง  น้ำมันขึ้นราคา  การครองชีพฝืดเคือง  เพราะค่าครองชีพสูงขึ้นมาก   รายจ่ายของประชาชน  ของประเทศรั่วไหล    และหนี้สินของประเทศ     .......     และอีกประเด็นการเมืองคือ  เรื่องราวของพรรคประชาธิปัตย์   ก็ถูกต้องยิ่งกว่าถูกต้องเสียอีก    .............       ประเด็ฯเศรษฐกิจภาครัฐก็ถูกครับ...........

มีประเด็น    สตรีผู้สูงศักดิ์.........    จริง ๆ หมายถึงอะไรครับ  และดูตรงไหนที่บอกถึงคำว่า   สตรีผู้สูงศักดิ์      ขอบคุณครับ

หลายวันก่อนพรรคประชาธิปัตย์ระดมทุนโดยการจัดโต๊ะจีนๆละ 2 ล้านบาท  จำนวน  200  โต๊ะ ได้เงินถึง 600  ล้านบาท ประชาชนคนไทยก็อดสงสัยไม่ได้ว่า พรรคนี้แกบริหารประเทศไม่เป็น ข้าวของแพงมาก  ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า หาได้สร้างคุณประโยชน์อันใดแก่ประเทศ มีแต่ฉุดเศรษฐกิจไทยให้ถอยหลังลงคลอง  แต่ทำไมจึงมีกลุ่มนักธุรกิจบริจาคจำนวนมาก และก้ไม่แปลกใจเลย  เพราะหลังจากนี้ไม่กี่วันสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นพากันขึ้นราคาอย่างมโหฬาร ไข่สดขาดตลาดและมีราคาแพง จนแม่ค้าในตลาดและชาวบ้านพากันก่นด่าเสียงดังๆผ่านสื่อทีวี  ว่ารัฐบาลชุดนี้ปล่อยปละละเลยให้สินค้าขึ้นราคาโดยไม่มีการควบคุม  ทำให้ประชาชนคนยากจนซึ่งมีรายได้น้อยอยู่แล้วเดือดร้อน พ่อค้ารายย่อยก็สู้ต้นทุนไม่ไหวต้องเลิกกิจการ กลุ่มทุนรายใหญ่ก็เลยได้โอกาสผูกขาดการซื้อขาย  ประชาชนตาดำๆต้องอดทนกับการซื้อสินค้าราคาแพง ไม่ซื้อก็ไม่ได้เพราะต้องกินต้องใช้  ที่แน่ๆเจ้าของฟาร์มไข่ไก่ ฟาร์มหมูรายใหญ่คงรับทรัพย์อื้อซ่า มิแปลกใจเลยว่าการจัดโต๊ะจีนเพื่อบริจาคเข้าพรรคครั้งนี้  ช่างคุ้มเสียเสียนี่กระไร  มาถึงตอนนี้คนไทยที่ฉลาดๆก็ถึงบางอ้อว่ากลุ่มทุนสามาลย์เป็นอย่างไร  และเริ่มเข้าใจว่าทำไมท่านนายกทักษิณถึงส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดเล็กๆแม้แต่เกษตรกรที่เคยยากจนได้รับโอกาสให้มีกองทุนหมู่บ้าน sme sml สามารถเป็นผู้ผลิตอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคได้ เพราะเป็นการกระจายรายได้ป้องกันการผูกขาด และสินค้ามีราคายุติธรรม ผู้บริโภคมีทางเลือกเพราะมีการแข่งขันเสรี รัฐบาลประชาธิปัตย์ปกป้องเฉพาะระบบเศรษฐกิจของกลุ่มนายทุนผูกขาดนี่เอง  ประชาชนจึงต้องทนซื้อสินค้าราคาแพงนี่เอง นี่หรือประชาชนต้องมาก่อน คนที่กล่าวคำนี้เคยรู้ความหมายหรือไม่ ?   

หากท่านประยุทธ  จันทร์โอชา  หรือนายทหารคนไหนก็ตาม จะคิดทำรัฐประหาร  ฏ้ให้ดูบั้นปลายชีวิตของจอมพลถนอม  กิตติขจร  จอมพลประภาส  จารุเสถียร  ไว้เป็นตัวอย่าง  ก่อนที่จอมพลถนอม  กิตติขจรจะถึงแก่กรรม  ท่านได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่าท่านต้องตกเป็นจำเลยของสังคมและพลอยทำให้คนในตระกูลของท่านต้องพลอยมัวหมองเพียงเพื่อแลกกับลาภ ยศ สรรเสริญจอมปลอม หวังว่าท่านคงไม่เดินตามรอยเผด็จการบ้าอำนาจนะ  เพราะอำนาจจากการกดขี่ข่มเหงผู้อื่นมีแต่บาปสร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้ตนเองทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ท่านควรหันไปสดับตรับฟังคำสอนของบัณฑิตอย่างท่านพุทธทาสซิ  ท่านสอนว่าโรงศพของเราทุกคนคือคุณความดีที่ฝากไว้ในโลก  แม้ลับโลกนี้ไปแล้วคนก็ยังกล่าวขวัญถึงคุณความดีของท่าน ดูท่านปรีดี  พนมยงค์  ดร.ป๋วย  อึ้งภากรณ์ จิตร  ภูมิศักดิ์ แม้แต่คนขับแท็กซี่อย่างลุงนวมทอง  ไพรวัลย์ หรือเสแดง พลตรีขัตติยะ  สวัสดิผล ที่ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเวทนาไม่ได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลใดๆ  แต่ต่อไปในภายภาคหน้าคนเหล่านี้จะต้องถูกคนไทยกล่าวขวัญถึงในฐานะวีรบรุษผู้รักความยุติธรรมที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับอำนาจเผด็จการชั่วร้ายที่กดขี่ข่มเหงประชาชน ผู้กล้าเหล่านี้กล้าประกาศตนยืนเคียงข้างความถูกต้องชอบธรรมเพราะเขารู้ว่าเกิดมาต้องตายไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นชีวิตที่เหลืออยู่ต้องไม่เดินร่วมกับคนบาป แม้ตายก็ตายอย่างผู้มีธรรม นั่นคือชีวิตที่ประเสริฐ  ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า " คนที่มีชีวิตอยู่ 100 วัน แต่ประมาทในการทำความดีก็ไม่มีค่าเท่าคนทำความดีที่มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว "

แผ่นดินไหวพม่า ตาย 11 แรงสั่นสะเทือนถึงเวียดนาม

อยากทราบจากวิชาโหราศาสตร์บ้างว่าการเกิดแผ่นดินไหวในพม่าครั้งนี้  จะเป็นสัญญาณบอกเหตุภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่ หากมีโอกาสเป็นไปได้จะเกิดรุนแรงขนาดไหนและบริเวณใด

คำถาม  ว่าสินามิในญี่ปุ่น   เป็นเรื่องเดียวกันกับเรื่องที่พยากรณ์ไว้หรือไม่ ?   

ขอตอบว่า   เป็นคนละเรื่องครับ

และที่เกิดแผ่นดินไหวในรัฐฉานพม่า 24 มี.ค.2554  ห่างเชียงรายเราไป 56 กม.นั้น    ก็เป็นคนละเรื่องครับ

แต่ขณะนี้ทางโหรมีความกังวลใจในเรื่องปฏิทินโหราศาสตร์ ค่อนข้างมาก   ว่าจะมีความคลาอเคลื่อนไปขนาดไหน   ที่มีใช้อยู่ทั่วไปในประเทศไทยเป้นของท่านอาจารย์ทองเจือ  อ่างแก้ว   ท่านเองได้เคยพูดถึงเรื่องความคลาดเคลื่อนนี้เอาไว้มากเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่    ยังมีปฏิทินของท่านผู้ใดอยู่อีกหรือไม่   ทราบว่ามีของท่านอาจารย์เทพ  สาริกบุตร   ..........  แต่ก็เคยได้ตรวจสอบดู  ก็ดูไม่มีความแตกต่างจนเป็นนัยยะสำคัญ   .......   ที่จริงวงการโหราศาสตร์ไทย   กำลังจะขาดแคลนผู้รู้ทางการคำนวณปฏิทินโหราศาสตร์  ผู้ที่อาจจะยืนยันได้ถึงความจริงเกี่ยวกับการจรของระบบดาว..........และที่ทำขึ้นจากภาควิชาดาราศาสตร์โดยถูกต้อง    

อย่างไรก็ตาม    เท่าที่ได้พบมา วิเคราะห์ มา  จากจำนวนดวงชะตาเกิน 10,000 ดวงชะตาแล้ว   พอยืนยันได้ว่า ในเรื่องเหตุการณ์มักไม่ผิด  แต่มีปัญหาเรื่องเวลา มีการคลาดเคลื่อนบ้าง   ตรงเผงบ้าง  ซึ่งยังพิศูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นเพราะปฏิทิน หรือ เป็นเพราะทฤษฎีการพยากรณ์ที่อาจจะยังไม่ลงตัว.................(เราเพ่งเล็งประการหลังมากกว่า)

แต่สมาคมโหร น่าจะเริ่มมามองประเด็นนี้ได้แล้ว   เพื่อประโยชน์ของโหราศาสตร์ในส่วนรวม    

สำหรับขณะนี้   เราก็คงจะอ้างจากทฤษฎีและหลักการที่เคยใช้มา  ที่ว่า  ตรงเผงบ้างก็มี  คลาดไปบ้าง( แต่ก็เป็นที่น่าพอใจ)ก็มี  ต่อไป  

มีอยู่ 3 กรณีที่จะนำมาพิจารณาต่อไปนี้ก็คือ

1.     สินามิในญี่ปุ่น  วันที่  11 มีนาคม 2554  8.9 ริกเตอร์  และ
2.     แผ่นดินไหวในพม่า   24 มีนาคม 2554   6.7  ริกเตอร์
3.     ..................              17 เมษายน 2554 .................. 

มองจากดวงชะตาประเทศไทย มองที่ราศีมีน อันเป็นภพที่ 12  ที่มีความหมายถึงต่างประเทศ (เฉพาะในกรณีนี้)

กรณีที่ 1 ญี่ปุ่น ภพที่12มีดาวจรเข้าขณะนั้นคือ  ๐ ๔ ๕ ๙ รวม 4 ดวง ๒ อยู่พฤษภเป็นมหาอุจ ๓กุม๑อยู่กุมภ์
กรณีที่ 2 พม่า  ภพที่12มีดาวโคจรเข้าขณะนั้นคือ ๐ ๑ ๔ ๕ ๙ รวม 5 ดวง  ๒ อยู่พิจิก ดับแสง ๓กุม๖อยู่กุมภ์  
กรณีที่ 3 .....    ภพที่12มีดาวโคจรเข้าขณะนั้นคือ ๐ ๓ ๔ ๕ ๖ ๙ รวม 6 ดวง  ๒ กุม๗อยู่กันย์ ๓อยู่มีนกุมดาว5ดวง

กรณีที่ 1  เพราะมีดาวมารวมอยู่ในราศีมีนธาตุน้ำภพที่12ดวงเมืองถึง 4 ดวง เป็นเหตุให้เกิดปั่นป่วนทางธาตุน้ำขึ้นในต่างประเทศแต่ไม่มีกำลังแรงพอจะกระทบแผ่นดินไทย พอมองเห็นเพียงว่าเกิดเรื่องราวทางน้ำขึ้น  ไม่กระทบไทยเพราะกำลังยังอ่อน และ ๒ อันหมายถึงแผ่นดินไทยเป็นมหาอุจอยู่ในราศีพฤษภ   (ราศีพิจิกว่างอยู่)

กรณีที่ 2 ก็เกิดขึ้นโดยหลักการณ์เดียวกันกับกรณีที่ 1 นั่นคือมีดาวจรเข้าสู่ราศีมีนถึง 5 ดวง ที่บ่งบอกถึงเกิดเหตุการณ์ในต่างประเทศ  และกระทบถึงไทยบ้าง  ก็เพราะ ๒ ดับอยู่ในราศีพิจิก   แต่ไทยไม่รุนแรงก็เพราะ ๓ กุม ๖ อยู่ราศีกุมภ์อีกเหตุผลหนึ่งด้วย (ราศีพิจิกว่างอยู่)

กรณีที่ 3 เห็นได้ว่าราศีมีนภพที่12ของดวงชะตาประเทศไทย ยังมีดาวจรเข้าไปสมทบอีก  จนในที่สุดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2554 มีดาว ๖ จรเข้ามีนเป็นดาวธาตุน้ำมหาอุจ ไปรวมกับดาวธาตุน้ำ ๔จร ณ ราศีมีนธาตุน้ำ  ทำให้มีดาวจรในราศีมีนถึง 6 ดวง  เมื่อเป็นเช่นนี้  ก็พอทราบได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งในต่างประเทศใกล้ ๆ ไทย แรงกว่าเก่าเล็กน้อย และอาจจะเกิดใต้น้ำทะเลในวันที่ 17 เมษายน 2554(ระหว่าง 17-30 เม.ย.2554)   กรณีที่ 1 ไม่กระทบไทย เพราะ๒ เป็นมหาอุจ แต่กรณีที่2กระทบมาถึงไทยเพราะ๒ดับในพิจิก กรณีที่ 3 ก็ย่อมกระทบไทยเพราะ ๒ จรปะทะ๗จรในกันย์  และเล็งตรงหมู่ดาวในราศีมีนพอดีเป็นการรวมกระแสดาวถึง 8 ดวง  (ราศีพิจิกว่างอยู่ บอกถึงไม่รุนแรงนัก)  

ฉะนั้น  น่าระวังว่าจะเกิดแผ่นดินไหว (มีเปอร์เซนต์สูงที่จะเกิดในทะเล) น้ำท่วมอีกครั้งหนึ่งในต่างประเทศในระหว่างวันที่ 17-30 เมษายน 2554 และจะกระทบไทยแรงกว่าครั้งที่เกิดในพม่า เมื่อ 24 มี.ค.2554  เล็กน้อย (เพราะดาวจรมาร่วมพลังมากถึง 6 ดวง รวมดาวเล็งอีก 2 ดวงเป็น 8 ดวง)

นี่แหละครับคือคำตอบ  อนาคตอันใกล้ต่อจากพม่าก็คือ  17 - 30 เม.ย. 2554  นี่เอง แต่ไม่ร้ายแรง(สำหรับประเทศไทย)  พอบอกได้ว่าเกิดในต่างประเทศ แต่กระทบถึงไทยแบบไม่ร้ายแรง กระนั้นก็พอเห็นได้ว่าฝนจะตกชุกในประเทศไทย  ระวังดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมพื้นที่ใกล้ทะเล

จากนี้ไปก็จะไปถึงเหตุการณ์ใหญ่

ที่จะร้ายแรง ก็คือ  สินามิ  ในวันที่ 1พ.ย.2554 ที่ได้พยากรณ์เอาไว้แล้ว  ดังมีเหตุผลสมบูรณ์ ระบุไว้ในคำพยากรณ์แล้ว   และซึ่งเรายังคงติดตามตรวจสอบทฤษฎีที่ใช้พยากรณ์ต่อไปอีก  ในขณะนี้ยังคงยืนยันคำพยากรณ์เดิม

อย่างไรก็ตาม  มีข้อสมมติฐานมาใหม่บางข้อที่น่าสนใจ............กำลังพิจารณาอยู่.....

ความหมายของคำว่า  "สตรีผู้สูงศักดิ์"  มาจากดาว๖จรเข้าราศีมีนเป็นมหาอุจ  สูงศักดิ์  และส่งกระแสร่วมธาตุไปถึง ๒ เกษตรในราศีกรกฎ 

เป็นเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่องครับ ???  ผมหมายถึงเรื่องแผ่นดินไหว  กับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา  ซึ่งปรากฎว่าท่านพยากรณ์ออกมาตรงช่วงเดือนเมษายนทั้ง 2 เรื่อง

เรื่องเดิมท่านพยากรณ์ไว้ดังนี้ครับ 

ข้อมูลใหม่และ คำพยากรณ์ใหม่

ข้อที่เรามั่นใจมากที่สุดก็คือข้อ  3.1  ครับ

เดิมเรามองจากดวงชะตาผู้นำกัมพูชา  เปรียบเทียบกับผู้นำไทย   พบว่าเป็น  คู่ปรปักษ์กัน    และในเวลาเดียวกันคือช่วง  17 เม.ย. - 30 เม.ย.2554  ทั้งคู่นี้ต่างเผชิญปัญหาอันหนักหน่วง ...........  และการได้พบว่า ดวงชะตาทางผู้นำกัมพูชาได้เริ่มเผชิญสถานการณ์อันหนักลงไปกว่าเก่าอีกภายหลังวันที่ 4 เมษายน 2554 ....................หนักกว่าทางผู้นำไทย (ดังที่พยากรณ์ไว้แล้ว)     เราตีความตรงนี้ว่า  เป็นการปะทะหรือ การขัดแย้งกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ............(ในใจเรามองว่าไทยชนะกัมพูชา...เพราะดวงฮุนเซนตกต่ำลงไปอีกหลัง 4 เม.ย.2554)...........จึงได้พยากรณ์ข้อ 3.2 และ 3.3   ซึ่งข้อ 3.2 ไม่น่ามีข้อสงสัยที่ทายเรื่องสถานที่ว่า บริเวณที่เกิดเหตุก็จะเป็นบริเวณชายแดนทะเลด้านจังหวัดตราด ของไทย กับด้านจังหวัดกำปงโสม ของกัมพูชา 

ประเด็นอยู่ที่ข้อ 3.3 ครับ   ที่ว่า

3.3    จะมีการปะทะกันหรือมีเรื่องราวกันระหว่างไทย-กัมพูชาในเขตน่านน้ำดังกล่าว แล้วจะกลายเป็นกรณีพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างประเทศไปนานตลอดปี 2554

ซึ่งบัดนี้ โดยได้พบข้อมูลใหม่ จาก สินามิในญี่ปุ่น และ แผ่นดินไหวในพม่า ............... แล้วได้พบว่า  จะมีแผ่นดินไหวในต่างประเทศอีกครั้ง ในช่วง 17 - 30 เม.ย.2554  .............(ว่าจะเกิดการปะทะทางทะเล วันที่ 29 เม.ย.2554 เวลา 09.09 น.)

จึงอาจจะเป็นไปได้มาก ที่ว่าจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหวในทะเลชายแดนไทยเขมร  ตรงที่ระบุไว้ในคำพยากรณ์เดิมคือ บริเวณที่เกิดเหตุก็จะเป็นบริเวณชายแดนทะเลด้านจังหวัดตราด ของไทย กับด้านจังหวัดกำปงโสม ของกัมพูชา 

บทสรุป :  ก็อาจจะเป็นได้ว่า  จะเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณน่านน้ำกัมพูชา ดังกล่าว และส่งผลต่อกัมพูชาอย่างหนัก ปรากฎในดวงชะตาผู้นำกัมพูชาดังกล่าว ..........................และกระทบไทยด้วย แต่ไม่เท่ากัมพูชา.........

ประเด็นอยู่ที่ราศีมีนนะครับ ?     ผมเห็นดาวโคจรเข้ามีนตามลำดับ ๆ ตั้งแต่มีสินามิญี่ปุ่น 11 มี.ค.2554 แล้ว จนกระทั่งวันที่ เกิดแผ่นดินไหวในพม่า มีดาวเข้าไปรวมอยู่ในราศีมีนถึง 5 ดวง  แล้วยังไม่พอมีดาวเข้าไปอีกเป็น 6 ดวง..........   ช่วงนี้ก็เกิดฝนตกน้ำท่วม พายุแรงในจังหวัดภาคใต้   ขณะนี้ก็โกลาหลกันอยู่  ............  เป็นเพราะดาว 6 ดวงในราศีมีน..................ใช่ไหมครับ ??

ราศีพิจิกเปิดอยู่      ..................  เข้าใจครับ  ๆ    

ขอบพระคุณมาก ๆ      เดือนเมษายนคงได้เห็นผ่นดินไหวและหรือน้ำท่วมใหญ่ในทะเลกัมพูชาละกระมัง..........?  และไทยคงแย่ลงไปอีก  ??

และ  เดือนพฤศจิกายน    เห็น   สินามิ........................  ราหูจรเข้าปิดมุมที่ราศีพิจิก   ..............  เป็นมหาอุจ   ทะเลทั้งหมดเปิดถึงกัน...........................

ดูจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้หลายจังหวัด  ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนที่ไม่น่าจะเกิด  แต่ความรุนแรงหนักกว่าในหน้าฝนที่ผ่านมา เสียอีก จนไม่แน่ใจว่าต่อไปความเป็นอยู่ของคนภาคใต้จะเป็นอย่างไร  หรือนี่คือสัญญาณเตือนภัยที่นักวิทยาศาสตร์เคยพยากรณ์ไว้ว่าพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้จะจมอยู่ใต้ทะเล จะเป็นไปได้หรือไม่อยากให้โหรช่วยดูด้วย

เคยมีคำพยากรณ์เกี่ยวกับการที่ต้องย้ายเมืองหลวงใหม่ของประเทศไทย อันมีเหตุจากน้ำท่วมนี้  ดังนี้ครับ

   ".......................................

โปรดอ่านดวงชะตาประเทศไทยต่อตอนที่ 3 ในกระทู้เดิม โปรดคลิกครับ