ReadyPlanet.com


รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะตั้ง ศ.อุกฤษ มงคลนาวิน และคณะ มาศึกษาเรื่องกระบวนการยุติธรรมไทย


ทราบว่า ดร.อุกฤษวางมือทางการเมืองไปแล้ว  แต่ท่านว่าไม่วางมือการช่วยเหลือแผ่นดิน  ทำนองนี้



ผู้ตั้งกระทู้ สุไหงปาดี ชินะกุล :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-15 11:02:50


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3307033)

พอดีมีสส.ประชาธิปัตย์ นายวัชระ  เพชรทอง  เอาเรื่องนี้มาพูดในสภาฯ  ดูหมิ่นดูแคลน ท่านอุกฤษ มงคลนาวินไว้ล่วงหน้าโดยกล่าวกลางสภาว่า  "นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ"      ต่อมานาย  ธวัชชัย  สส. ปชป. จันทบุรี  เติมเสริมไปว่า รัฐบาลคิดทำเรื่องนี้ไม่ดี   ไม่อยากเห็นรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลปูนิ่ม  เป๋ไปเป๋มา  ......

นายวัชระ เอาภาพมาประกอบในบางเรื่อง และเลยไปถึงบุคคลนอกสภา

 

แต่ ดร.รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ตอบโต้ไปแล้ว  ดี    เป็นการให้ความรู้ทางกฎหมาย และประชาสัมพันธ์ไปพร้อมกัน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนอ่าน วันที่ตอบ 2011-09-15 11:37:03


ความคิดเห็นที่ 2 (3307418)

ประชาธิปัตย์ยิ่งทำยิ่งพูดก็ยิ่งขาดทุน ไปว่าคนอื่นทำอะไรไม่น่าเชื่อถือ เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พรรคของตัวเองบริหารประเทศไม่น่าเชื่อถือประชาชนเขารู้กันทั้งประเทศ เขาเลยไม่เลือกมาเป็นรัฐบาล ยังไม่รู้ตัว และยังขืนเล่นการเมืองน้ำเน่าแบบเดิมๆอีก น่าสงสารพรรคการเมืองพรรคนี้จังที่ยังหลงโลกเป็นศูนย์รวมของนักการเมืองน้ำเน่าพ่นน้ำลายทุกวัน จนประชาชนเขาเอือมระอา สื่อกระแสหลักก็ตีข่าวเชียร์พรรคนี้มากๆเข้าไว้  ประชาชนเขาจะได้รู้สักทีว่าการเมืองไทยถอยหลังเข้าคลองเพราะนักการเมืองน้ำเน่ากับสื่อน้ำเน่านี่แหละ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-09-19 16:03:23


ความคิดเห็นที่ 3 (3310482)

ขอชื่นชมกลุ่มนิติราษฎรที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมกล้าสู้กับอธรรม เป็นนักกฎหมายมืออาชีพที่มีจรรยาบรรณเข้าใจกฎหมายและเข้าใจชีวิตจิตใจของประชาชน  กฎหมายอยุติธรรมที่สร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือปกป้องนักกฎหมายที่ขาดจริยธรรม  และผลของการบังคับใช้กฎหมายอย่างอยุติธรรม 2 มาตรฐานยังทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายคนต้องตกเป็นเหยื่ออธรรม  ถึงเวลาที่จะต้องปฏิรูปกฎหมายที่ล้าหลังไร้ประโยชน์ ประชาชนคนไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า เราในฐานะคนไทยผู้รักความเป็นธรรมขอสนับสนุนกลุ่มนิติราษฎร และขอชักชวนคนไทยทั้งประเทศได้ร่วมกันผนึกกำลังความคิดเปิดหูเปิดตาใช้สติปัญญาของท่านช่วยกันพิจารณาว่ากฎหมายมาตราใดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมให้คงไว้ มาตราใดเป็นโทษ ล้าสมัยขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองของชาติก็ควรสังคายนาได้แล้ว เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของประเทศชาติกฎหมายที่ออกมาให้ประชาชนปฏิบัติย่อมมีผลต่อเราไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่ต้องให้ความเอาใจใส่ อย่าปล่อยให้กฎกติกาใดๆที่อยุติธรรมครอบงำสังคมไทยให้มืดมัวเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-09-24 23:31:49


ความคิดเห็นที่ 4 (3310483)

พรรคแมงสาปไปกล่าวหาว่ากลุ่มนิติราษฎรเป็นองครักษ์ฟอกขาวแม้ว แต่พอกลุ่มนิติราษฎรเขาท้าให้ซักถามในเวทีเสวนาอย่างเปิดเผยต่อหน้าสื่อมวลชน  พรรคแมลงสาปกับไม่กล้ารับคำท้า นี่ล่ะหนาคนชอบพูดเท็จพอเจอคนจริงเข้าก็กลัวหัวหด คนในพรรคนี้จะเอาอะไรไปสู้ล่ะ ในเมื่อสัจธรรมมีอยู่ว่า ธรรมมะย่อมชนะอธรรมเสมอไปความจริงก็ย่อมพิสูจน์ความเท็จ ประชาชนเขารู้ไส้หมดแล้ว มีแต่คนในพรรคนี้แหละที่กลัวทักษิณจนขวัญหนีดีฝ่อ พอๆกับประยุทธ  จันทร์โอชา ที่ไปว่ากลุ่มนิติราษฎรเขาพูดให้สังคมไทยแตกแยก ที่ถูกกลุ่มนิติราษฎรนี่แหละที่เขารักความเป็นธรรม เขาทนปล่อยให้ความอยุติธรรมครอบงำสังคมไทยต่อไปไม่ได้ เขามองเห็นทะลุปรุโปร่งว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 50 เป็นของคณะรัฐประหารตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องคณะรัฐประหารจากการทำผิดทั้งปวง คอยดูสัจธรรมก็แล้วกันว่า การทำความชั่ว อยู่ร่วมกับคนชั่วมีแต่ทุกข์จะจริงดังที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนหรือไม่ หรือขณะนี้บาปกำลังสนองตอบผู้ทำชั่วให้วิตกทุกข์ร้อนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งโทษจากการฆ่าผู้บริสุทธิ์ 92 ศพ บาดเจ็บ 2000 ถือเป็นครุกรรมจะเผาไหม้จิตใจบุคคลผู้ก่อกรรมทำเข็ญกับเพื่อนมนุษย์เหมือนตกนรกทั้งเป็นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ในไม่ช้ากระบวนการยุติธรรมทั้งในประเทศและศาลโลกก็จะทำหน้าที่ตามครรลองของธรรม และฝากไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน อย่าปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยศีลธรรม เพราะไม่มีใครที่ทำกรรมชั่วแล้วจะไม่ได้รับผล ยิ่งก่อความทุกข์ให้คนจำนวนมากผลที่จะสนองกลับก็มากเช่นกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-09-24 23:55:55


ความคิดเห็นที่ 5 (3310484)

พรรคแมงสาปไปกล่าวหาว่ากลุ่มนิติราษฎรเป็นองครักษ์ฟอกขาวแม้ว แต่พอกลุ่มนิติราษฎรเขาท้าให้ซักถามในเวทีเสวนาอย่างเปิดเผยต่อหน้าสื่อมวลชน  พรรคแมลงสาปกับไม่กล้ารับคำท้า นี่ล่ะหนาคนชอบพูดเท็จพอเจอคนจริงเข้าก็กลัวหัวหด คนในพรรคนี้จะเอาอะไรไปสู้ล่ะ ในเมื่อสัจธรรมมีอยู่ว่า ธรรมมะย่อมชนะอธรรมเสมอไปความจริงก็ย่อมพิสูจน์ความเท็จ ประชาชนเขารู้ไส้หมดแล้ว มีแต่คนในพรรคนี้แหละที่กลัวทักษิณจนขวัญหนีดีฝ่อ พอๆกับประยุทธ  จันทร์โอชา ที่ไปว่ากลุ่มนิติราษฎรเขาพูดให้สังคมไทยแตกแยก ที่ถูกกลุ่มนิติราษฎรนี่แหละที่เขารักความเป็นธรรม เขาทนปล่อยให้ความอยุติธรรมครอบงำสังคมไทยต่อไปไม่ได้ เขามองเห็นทะลุปรุโปร่งว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 50 เป็นของคณะรัฐประหารตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องคณะรัฐประหารจากการทำผิดทั้งปวง คอยดูสัจธรรมก็แล้วกันว่า การทำความชั่ว อยู่ร่วมกับคนชั่วมีแต่ทุกข์จะจริงดังที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนหรือไม่ หรือขณะนี้บาปกำลังสนองตอบผู้ทำชั่วให้วิตกทุกข์ร้อนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งโทษจากการฆ่าผู้บริสุทธิ์ 92 ศพ บาดเจ็บ 2000 ถือเป็นครุกรรมจะเผาไหม้จิตใจบุคคลผู้ก่อกรรมทำเข็ญกับเพื่อนมนุษย์เหมือนตกนรกทั้งเป็นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ในไม่ช้ากระบวนการยุติธรรมทั้งในประเทศและศาลโลกก็จะทำหน้าที่ตามครรลองของธรรม และฝากไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน อย่าปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยศีลธรรม เพราะไม่มีใครที่ทำกรรมชั่วแล้วจะไม่ได้รับผล ยิ่งก่อความทุกข์ให้คนจำนวนมากผลที่จะสนองกลับก็มากเช่นกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-09-24 23:56:10


ความคิดเห็นที่ 6 (3310485)

สิ่งหนึ่งที่อยากให้รัฐบาลทำมากๆเลยคือการส่งเสริมการศึกษาด้านพระธรรมวินัยในแบบที่เป็นสัจธรรม  เป็นวิทยาศาสตร์ ควรส่งเสริมทั้งการศึกษาของพระสงฆ์และฆราวาส พระแบบที่สอนให้พึ่งไสยศาสตร์ โชคลาภเครื่องลางไม่เอา จุดบอดของการสอนพระพุทธศาสนาในบ้านเราก็คือเราปล่อยให้พระสงฆ์องคเจ้าที่สอนผิดๆชอบสอนให้ชาวบ้านพึ่งสิ่งอื่น มากกว่าการพึ่งตนเอง พึ่งปัญญาของเกจิอาจารย์มากกว่าคิดด้วยปัญญาของตนเอง ซึ่งผิดจากหลักการของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง การที่คนไทยเข้าใจศาสนาอย่างถูกต้องและปฏิบัติได้ถูกต้องจะทำให้สังคมเป็นสุข ประชาชนมีทักษะในการแก้ปัญหาชีวิตได้จริง และมนุษย์จะค้นพบคุณค่าที่แท้จริงของคำสอนในศาสนา

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-09-25 00:08:18


ความคิดเห็นที่ 7 (3314163)

เห็นด้วยกับกระจกเงา และขอชื่นชมว่า เป็นแนวคิดที่ล้ำหน้าทันสมัยมาก ในเชิงธรรมะ  

แต่ปัญหาในสังคมไทยทุกวันนี้มีปัญหาด้านการศึกษาอยู่หลายอย่าง มีประเด็นที่ควรพูดถึงอยู่หลายประการ  คือ

1.     พระสงฆ์ไม่เข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้าว่าเป็นวิทยาศาสตร์ ก็ไม่เข้าใจว่าจะสอนอย่างไรในแบบวิทยาศาสตร์  จะให้ปฏิบัติธรรมอย่างไร เป็นการปฏิบัติธรรมแบบวิทยาศาสตร์   ......   ประชาชนก็ยิ่งไม่เข้าใจกันใหญ่  

2.     พระสงฆ์ไม่เข้าใจธรนรมะของพระพุทธเจ้าว่าเป็นประชาธิปไตย  ก็ไม่เข้าใจว่าจะสอนอย่างไร ...... จะบอกอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่เข้าใจ  ....แต่ในด้านประชาชน  พวกเขาไปไกลกว่าแล้ว   

3.    วิทยาศาสตร์ มาพร้อมกับ  Research Methodology  ครับ   สังคมไทยทุกวันนี้  ในฝ่ายวิทยาศาสตร์เขาไปไกลมากแล้ว  แต่ฝ่ายสังคมศาสตร์ รวมทั้งฝ่ายสงฆ์องค์เจ้านี่  โดยเฉพาะฝ่ายกฎหมาย ระบบยุติธรรมไทยทั้งระบบกฎหมายนี่ล้าหลัง แทบไม่รู้จักเรื่องนี้เลย   เพราะฉะนั้น ถึง คอป. ของคณิต ณ นคร จะระดมฝรั่งมาให้การปรึกษา ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก  เพราะไม่เข้าใจการค้นติดตามจับเอาตัวปัญหาที่แท้จริงออกมา  นั่นคือ  ไม่รู้จักใช้  search engine คือ  วิทยาการรีเสิช นี่แหละครับ   ผลก็คือ  ลังเล ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ   ต่อไป   ไม่สามารถ  ตัดสินใจได้อยู่ดี  (โง่ต่อไป)   และเสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดไปเรื่อย ๆ 

จึงต้องทำเป็นนโยบายเร่งด่วนของทุกระดับ ครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน วันที่ตอบ 2011-10-05 11:22:03


ความคิดเห็นที่ 8 (3314165)

เอา ศ. อุกฤษ มงคลนาวิน มาก็ช่วยไม่ได้มากหรอกครับ          เพราะระบบทั้งระบบกฎหมายไทยล้าหลังมาก ๆ      อันเป็นการสะสมมาเรื่อย ๆ   เนื่องมาจากวงการนี้ไม่เคยรู้จัก   research   สิ่งที่สะสมมาล้วนสะสมความโบราณ ๆ ความคิดโบราณ ๆ มาเรื่อย ๆ  เท่านั้นเอง

 

พอ ๆ กับ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์  ในมหาวิทยาลัย  ที่ไม่รู้จักประชาธิปไตย นั่นแหละครับ   ขนาดเป้นศาสตราจารย์ สอนการเมืองเอง  ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย    เร็ว ๆ นี้ก็โผล่มาอีกราย   ใหม่สุด  

 

อยู่ธรรมศาสตร์  สอนการเมือง  แต่ไม่รู้จักประชาธิปไตย   ไม่รู้จักธรรมศาสตร์    ในวลีที่ว่า   ธรรมศาสตร์สอนฉันให้รักประชาชน (แต่อธิการบดีคนที่เล่นเฟสบุ๊ค  คือ ศ.สมคิด เลิศไพฑูรย์ สอนให้รักรัฐประหาร  เป็นยังงั้นไป น่าจะรีบลาออกไป ก่อนจะโดนไล่   พวกเดียวกับ อมรา พงศาพิศ,  สมบัติ ธำรงค์ธัญญวงษ์ นั่นแหละ) 

เพราะไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยคือประชาชน   และประชาชนคือประชาธิปไตย   ความเข้มแข็งของประชาชน  คือทางเจริญของประชาธิปไตย  ตามที่ท่านปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสนการ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตั้งวัตถุประสงค์เอาไว้   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน วันที่ตอบ 2011-10-05 11:35:56


ความคิดเห็นที่ 9 (3314168)

เมื่อมีคณะราษฎร์    พ.ศ.2475      นั่นหมายถึง  ความคิดใหม่   ที่ได้ค้นพบเอามาเพื่อสร้างสังคมใหม่

 

เมื่อมีคณะนิติราษฎร์   ความหมายก็ทำนองเดียวกันเลย พอ ๆ กับ  คณะราษฎร์  คือ    มุ่งสลัดตนเองออกจากระบบล้าหลังของกฎหมายไทยเสียที ........... แต่   คนหัวเก่ามีมาก เป็นกำแพงทึบ   ต้องค่อย ๆ เจาะชอนไปครับ......

ผู้แสดงความคิดเห็น ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน วันที่ตอบ 2011-10-05 11:45:13


ความคิดเห็นที่ 10 (3324068)

แล้วนักกฎหมายไทยจะมีโอกาสรู้ไหมว่ายังใช้ระบบล้าหลังตามไม่ทันโลก แล้วยังมาชี้เป็นชี้ตายประชาชนอีก เช่นไม่อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ยังไม่ชี้มูลความผิดติดคุกเป็นปีๆโดยไม่ให้ประกันตัว เขาจะรู้ไหมว่าได้ทำบาปกับผู้บริสุทธิ์ไว้มากมาย คงเป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องตะโกนกันดังๆว่า เขาทนไม่ไหวแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2012-01-24 18:42:34



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.