ReadyPlanet.com


การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2556


 

ภาพนี้เป็นการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย สนับสนุน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 โดยมีท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำขึ้นรถแห่หาเสียงรอบบ่าย ถนนเจริญกรุง ถนนสีลม ถนนพระราม 4 และถนนบ่อนไก่  วันนี้ ที่ 23 ก.พ. 2556  [ได้มาจาก FB. Yingluck Shinnawatra ที่โพสต์สด ๆ เมื่อเวลา 16.25 น.วันนี้]  ภาพนี้แสดงถึงการต้อนรับของประชาชนดีมาก บ่งบอกถึงความพออกพอใจชื่นชม นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลไทย พรรคเพื่อไทยและแน่นอนย่อมหมายถึงความนิยมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ทำให้เป็นความหวังว่าจะชนะ ได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แล้วการบริหารกรุงเทพมหานครก็จะเชื่อมต่อกับการบริหารประเทศของรัฐบาล อย่างไร้รอยต่อ นั้นแน่นอน ขณะนี้ เมื่อนับวันนี้เป็นวันที่ 1 แล้ว ก็ยังคงเหลือเวลาอยู่อีกเพียง 8 วัน ก็ถึงวันเลือกตั้ง นั่นคือ 3 มี.ค. 2556 บางที ถ้าหากเรามองว่าสำนักโพล ต่าง ๆ ที่ทำการสำรจมาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็นับได้ว่าเป็นมืออาชีพ และมีวินัยของสำนักเขาอย่างดีแล้ว  ก็พอจะเชื่อได้ว่า  มันได้ชี้บอกไว้เรียบร้อยแล้วว่า เบอไหนจะชนะ ระหว่างเบอร์ 9 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กับ เบอร์ 16 มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าคนที่แล้ว  การเลือกตั้งคราวนี้ จึงอยากจะให้ได้เห็นเป็นข้อพิศูจน์เสียทีว่า สำนักโพลของสถาบันการศึกษาเรา  นับแต่ เอแบค  สวนดุสิต  นิดา กรุงเทพ  บ้านสมเด็จ อีสาน  ฯลฯ ได้ทำการวิจัยอย่างถูกต้องเป็นมืออาชีพเพียงใด   หากผลไม่ออกมาตรงตามที่โพลเหล่านี้ชี้ตรงกันหมด คือ เบอร์ 9 นำมาตั้งแต่ต้น โค้งที่ 1 ถึงโค้งที่ 4 สุดท้ายยังนำห่างไปกว่าเดิมอีก  หากเกิดความผิดพลาด ผลที่ออกมาไม่ตรงคำพยากรณ์ แล้ว  สำนักโพลเหล่านี้น่าพิจารณาตัวเองเสียที ว่ามือไม่ถึง  อ่อนด้อยในวิทยาการว่าด้วยการวิจัยจริง ๆ  เป็นเพียงมือสมัครเล่น สะเปะ สะปะ เชื่อถือไม่ได้  กลายเป็นสำนักหลอกลวงประชามหาชนไป

อีกอย่างหนึ่งที่จะได้เห็น ก็คือการเลือกของประชาชนกรุงเทพมหานคร ว่าจะออกมาอย่างไร  ระหว่างพรรคการเมืองที่สนับสนุนอมาตยาธิปไตยเผด็จการ โดยทอดตนลงรับใช้เผด็จการมาตลอดนับแต่มีการรั ฐประหาร 19 ก.ย.2549 มาถึงการก่อเหตุเผด็จการสั่งล้อมฆ่าประชาชน ในเดือนเม.ย.-พ.ค.2553  คือพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองที่นำพาประชาชนต่อสู้มาเพื่อประชาธิปไตย นั่นคือเพื่อการอยู่ดีกินดีที่ยกระดับของประชาชนให้สูงขึ้น มีประชาธิปไตยที่กินได้ ที่สร้างสรรค์ความเสมอภาค เสรีภาพ และภราดรภาพ ทั้งแผ่นดิน  คือพรรคเพื่อไทย  ประชาชนผู้รักและต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไทย จะได้เห็นชาวกรุงเทพมหานครจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไร  มีความหวังเพียงใดว่าในใจกลางของประเทศที่ประกอบด้วยคนที่เจริญในวิทยาศาสตร์และเทกโนโลยีอย่างสูง จะสามารถเข้าใจอะไร ๆ ทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยเพียงใด พวกเขาเข้าใจหรือไม่ว่าแนวโน้มกระแสการเมืองโลกยุควิทยาศาสตร์และเทกโนโลยีชั่นสูงนั้นเป็นกระแสอย่างแรงของประชาธิปไตยโลก อันเป็นประเด็นหลักที่ให้ความหมายถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญไปสู่ความก้าวหน้าของประเทศ นั่นก็คือการยกระดับอารยธรรมที่สูงชั้นเหนือไปกว่าเดิม  และอารยธรรมชั้นสูงนั้นย่อมหมายถึงการเป็นฝ่ายนำและเป็นฝ่ายชนะเสมอ ในขณะที่อารยธรรมชั้นต่ำย่อมถูกทอดทิ้งและล้าหลัง   ชาวกรุงเทพเองจะเป็นผู้ที่ถ่วงความเจริญของชาติเอง ด้วยการสนับสนุนพรรคการเมืองระบอบอมาตย์เผด็จการ อันหมายถึงอารยธรรมชั้นต่ำนั้นอยู่หรืออย่างไร  ซึ่งบัดนี้ มองจากตัวแปรหลายด้าน รวมทั้งโพลที่สำรวจดังกล่าว นับว่ามีความหวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในองค์ความรู้ความเข้าใจของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ในประเด็นการเมืองระบอบประชาธิปไตย ที่ชัดเจน ตาสว่างขึ้น  และวาทะว่าคนอีสาน(คนเหนือ คนตะวันออก คนตะวันตก คนไพร่เสื้อแดงทั้งแผ่นดิน) เลือกรัฐบาล แต่คนกรุงเทพล้มรัฐบาล อันเป็นวาทะที่เริ่มจากพรรคอมาตย์และ มีคนที่ไม่หวังดีต่อระบอบประชาธิปไตยได้ขยายความใสร้ายชาวกรุงเทพมหานครไปเช่นนี้  ซึ่งเป็นการไม่สมควร เพราะเล็งเห็นเจตนาอันชั่วร้ายที่มุ่งสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนอย่างไร้เหตุผล   มาวันนี้ เราจึงมีความหวังว่า ชาวกรุงเทพมหานคร จะได้ลบล้างความหมายอันเลวทรามเช่นนี้เสีย นั่นคือความหมายที่ว่าชาวกรุงผู้เจริญแล้ว จะเข้าใจประชาธิปไตย เข้าใจการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนอีสาณ คนเหนือ และเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน รวมทั้งประชาชนผู้เข้าใจประชาธิปไตยที่ขยายออกไปในกรุงเทพมหานครเองด้วย  และทำการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานครจากระบอบอมาตยาธิปไตยไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์เสียที จึงขอฝากคำขวัญเอาไว้ก่อนการเลือกตั้งแด่ชาวกรุงเทพมหานครเพียงคำเดียวครับ คือคำว่า  Change  Change  Change  กรุงเทพจะต้องเปลี่ยนอย่างแน่นอน  ขอบคุณครับชาวกรุงเทพ   

  • ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน
    23 ก.พ. 2556


ผู้ตั้งกระทู้ Admin กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ :: วันที่ลงประกาศ 2013-02-26 08:07:49


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3359841)

 แน่นอน คนกรุงเทพต้องการการเปลี่ยนแปลง เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2544  ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนแก่ ปชช.จำนวนมาก และได้เห็นการแก้ปัญหาแบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เวลาหลายปีที่พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเป็นรัฐบาล แต่สิ่งที่เห็นคืออ่อนด้อยความสามารถในการบริหารจัดการ แก้ปัญหาแบบไม่จริงใจกับประชาชน และทำงานร่วมกับพรรคอื่นในทางสร้างสรรค์ไม่ได้ เพราะอคติที่บดบังจิตใจ คนโง่ย่อมถูกอธรรมบดบังจิตใจให้มืดบอด พรรคนี้เคยได้ดีเพราะยืนอยู่ข้างอำมาตย์ไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายก็มีคนนำอำนาจมาให้ ตราบจนถึงปัจจุบันนี้โลกไร้พรมแดนเทคนิคเดิมๆย่อมใช้ไม่ได้ผล ประชาชนไม่ยอมรับเพราะไม่มีประโยชน์กับปชช. นับวันก็เห็นแต่ความพ่ายแพ้ ธรรมมะไม่เคยแพ้อธรรมนี่แหละคือสัจธรรมจริงแท้

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-02-27 16:19:52


ความคิดเห็นที่ 2 (3360117)

 คนเสื้อแดงคงเตรียมตัวฉลองผู้ว่ากทมคนใหม่ คนกทม.ต้องการผู้ว่าที่ติดดิน มีวิสัยทัศน์ เห็นแก่คุณภาพชีวิตที่ดีของปชช.และจริงใจกับปชช. และ เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-02 16:54:52


ความคิดเห็นที่ 3 (3360360)

 ไม่เป็นไรอีก 4 ปีแก้ตัวใหม่ได้ ถึง ปชป.จะชนะแต่อย่าลืมว่าประชาชนกทม. จำนวนนับล้านคงเฝ้าติดตามทวงถามว่าที่หาเสียงไว้ทำหรือยัง พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งแต่ก็มีผลทางจิตวิทยาทีจะกระตุ้นให้ประชาชนตรวจสอบพรรคการเมืองมากขึ้นว่าพูดแล้วทำหรือเปล่า ขอบคุณมากเลยสำหรับท่าทีของนายกยิ่งลักษณ์ ท่านพงศพัศ และส.ส.ในพรรคเพื่อไทยที่แสดงสปิริตเป็นนักการเมืองมืออาชีพที่มีมารยาท ท่านชนะใจประชาชนทั่วประเทศ และทำให้ประชาธิปไตยกำลังพัฒนาไปสู่สากล

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-05 19:16:51


ความคิดเห็นที่ 4 (3360361)

 

การปราศัยหาเสียงเลือกตั้งวันสุดท้าย   ในภาพการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เย็นวันที่ 1 มี.ค. 2556 ณ สวนลุมพินี  มีนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศัยช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เบอร์ 9 ปรากฎว่าประชาชนมาเต็มพื้นที่และพออกพอใจพรรคเพื่อไทยและเบอร์ 9 คาดการณ์ว่าจะเป้นไปตามโพล คือชนะขาด

 

ในขณะที่พรรคเพื่อไทยยังคงแสดงออกซึ่งวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางกว่าและมีเหตุผล ที่แสดงถึงความจริงใจในการบริหารงานให้เกิดผล มีประสิทธิภาพจริง นั่นคือการเสนอนโยบายล้วน ๆ  นโยบายดังกล่าวนี้ตามหลักการแล้ว ต้องเป็นแนวคิดวิทยาศาสตร์ เป็น scientific methods ที่พิศูจน์ได้  แต่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้ กลับเสนอสิ่งที่เหลวไหลจริง ๆ เพราะไร้เหตุผล  ไร้แนวนโยบายที่จริงใจต่อประชาชน  แทบร้อยเปอร์เซ็นต์ของการต่อสู้ทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ยังคงใช้วิธีการ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นต่อไปแบบเดียวกับการเมืองระดับชาติ   และที่สำคัญการกล่าวหาคู่แข่งอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ถ้าไม่เลือกประชาธิปัตย์แล้วจะเสียเมือง เสียกรุงเทพมหานครให้คนโกงบ้านโกงเมืองเขาครอบครอง  เป็นต้น ซึ่งที่จริง น่าเป็นการหมิ่นแคลนประชาชน ไม่น่าที่จะสร้างความนิยมแก่ประชาชนผู้เจริญอย่างคนกรุงเทพมหานครได้อย่างไร เพราะเบื้องต้นแห่งทฤษฎีประชาธิปไตยนั้นก็คือ  อิสระเสรีภาพของปวงชน  หมายถึงอิสระเสรีภาพที่จะคิด และที่จะศึกษาวิจัย หาเหตุและผลด้วยตนเอง จึงสมกับความเป็นมนุษย์ผู้ปกครองตนเองได้ ซึ่งแน่นอน  นี่เป็นความหวังของประชาธิปไตยจริง ๆ สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันพรุ่งนี้ ที่ 3 มีนาคม 2556 

  • สุไหงปาดี ชินะกุล
    2 มี.ค.2556  
ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-03-05 19:19:29


ความคิดเห็นที่ 5 (3360362)

การปลิ้นปล้อนหลอกลวงของมรว.สุขุมพันธ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ในการหาเสียงเลือกตั้ง 3 มี.ค.2556
ภาพนี้ พานทองแท้ ชินวัตรโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ให้ความตักเตือนแด่ประชาชนกทม.ว่าคน ๆนี้ กับพรรคประชาธิปัตย์ของเขาเชื่อถือไม่ได้เป็นเพียงนักหลอกลวงประชาชน

 

 

 

เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเป็นทางการเวลา 20.10 น.ดังนี้

 20.10 น.ผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ นับครบ 100% อันดับ 1 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 1,256,231 คะแนน อันดับ 2 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ 1,077,899 คะแนน อันดับ 3 พล.ต.อเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 166,582 อันดับ 4 นายสุหฤท สยามวาลา78,825 คะแนน อันดับ 5 นายโฆษิต สุวินิจจิต 28,640 คะแนน ฯลฯ 

นั่นแปลว่า พรรคประชาธิปัตย์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้รับการตัดสินจากประชาชน ให้เป็นผู้บริหารกรุงเทพมหานคร  และส่วนพรรคเพื่อไทยและพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9 เป็นฝ่ายตรวจสอบ   โดยคะแนนเสียงอยู่ในระดับเลย 1 ล้านเสียงทั้งผู้ชนะและผู้แพ้นั้น เป็นประเด็นแห่งความหวังของทางฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

นั่นเป็นความจริง ถ้าจะพูดให้ถูกจริง ๆ ก็คือวาทะว่าประชาธิปไตยไม่มีผู้ชนะหรือผู้แพ้ ในแง่ของประชาชน  เพราะถึงแม้ฝ่ายใดเป็นผู้บริหาร กทม. หรือชนะการเลือกตั้งระดับไหน ไม่ว่าระดับรัฐบาลที่บริหารประเทศหรือระดับท้องถิ่น ที่บริหารท้องถิ่น  ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยนั้น คำว่าสิทธิ หน้าที่  ก็ยังคงมีอยู่เท่าเดิมเต็มอัตรา และคำว่า เสรีภาพ  เสมอภาค และภราดรภาพนั้น ก็ยังคงเป็นคุณสมบัติอันอมตะของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยทุกสถานะการณ์  และนอกนั้น ประชาชนฝ่ายที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ก็ยังมีสิทธิเต็มที่ที่จะตรวจสอบการบริหารฝ่ายที่ชนะอย่างเต็มที่อีกด้วย โดยถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน เพราะนั่นแหละประชาธิปไตย คือการปกครองของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน   .......  มันไม่ใช่ยุคกษัตริย์หรือเผด็จการในอดีต  ซึ่งในการขึ้นสู่อำนาจของระบอบนั้นไร้หลักการของประชาชนโดยสิ้นเชิง  เมื่อมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินครั้งไร  อีกฝ่ายหนึ่งชนะเป็นเจ้าขึ้นมาแล้ว ฝ่ายที่พ่ายแพ้จะต้องหลบหนีอพยพกันครั้งใหญ่  เพื่อเลี่ยงภัย ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร .....หรือโดนไล่ออกถอดออก ปลดออกจากตำแหน่ง หรือจำต้องละสถานะการทำมาหากินมาแต่เดิม    

ฉะนั้นนี่คือความดีและสปิริตของระบอบประชาธิปไตย คุณไม่จำเป็นต้องเสียใจ อะไรเลย เมื่อคุณพ่ายแพ้ในระบอบนี้   การพ่ายแพ้ของคุณไม่ได้ทำให้คุณต้องถูกลากตัวไปกุดหัวทิ้ง 7 ชั่วโคตร   คุณยังอยู่ในสถานะเดิมทุกอย่าง ในฐานะประชาชน  คุณมีเงินเดือนกินต่อไป คุณมีงานทำต่อไป  ซ้ำยังจะได้รับบริการจากฝ่ายรัฐบาลหรือผู้บริหารตามที่เขาสัญญาเอาไว้ก่อนการเลือกตั้งทุกอย่างโดยไม่มีข้อยกเว้น นั่นคือความเสมอภาค ของประชาชนทั้งปวง ทุก ๆ คนในประเทศประชาธิปไตย อย่างเสมอภาคกับประชาชนคนอื่น ๆ ไม่ว่าฝ่ายที่ชนะหรือเราฝ่ายแพ้  และซ้ำมีสิทธิที่จะได้ขึ้นเงินเดือน ไปพร้อม ๆ กับฝ่ายที่ชนะการเลือกตั้ง  นอกจากนั้นคุณก็มีสิทธิ์ในการเปลี่ยน หรือเลือกข้างได้ตลอดเวลา โดยไม่มีใครคัดค้านได้    ด้วยเหตุฉะนี้  จึงกล่าวได้ว่าไม่มีผู้ชนะหรือผู้แพ้   มีแต่ผู้ชนะด้วยกัน   ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องเข้าใจคำว่าชนะ หมายถึงชนะเสียงเลือกตั้ง  และแพ้หมายถึงแพ้เสียงเลือกตั้งเท่านั้น  แต่ที่ว่าชนะด้วยกันทั้งหมดนั้นหมายถึงประชาชนคนไทยทุกคนในประเทศที่จะได้ประโยชน์เต็มที่จากทุก ๆ รัฐบาลหรือผู้บริหาร   

จากภาพเหตุการณ์ที่เห็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงน่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับพรรคการเมืองไทย  สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ต่อสู้มา ตั้งแต่ระดับชาติมาแล้วนั้น จนถึงระดับท้องถิ่นคราวนี้  ก็ต้องถือว่ามาถูกทางของประชาธิปไตยแล้ว ควรยืนหยัดแนวทางต่อสู้แบบการสร้างสรรค์นโยบาย ให้หลายหลากและเป็นแนววิทยาศาสตร์ต่อไป  ในเรื่องนโยบายก็เห็นชัดว่า พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ และได้รับการยอมรับจากประชาชนมาโดยตลอด และมีแนวโน้มสูงที่พรรคเพื่อไทยจะเปิดตาประชาชนให้เข้าใจในวิถีทางการต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตยดีขึ้นไปเรื่อย ๆ  ในขณะที่พรรคประชาธิปไตย์ ซึ่งทางเราได้ดูแคลนเอาไว้ว่าเป็นเพียงอันธพาลในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น(ดูที่สส.พรรคนี้โยนแฟ้มเอกสารใส่ประธานสภา  ขึ้นไปฉุดยุดยื้อประธานสภาให้ลุกจากเก้าอี้  ลากเก้าอี้ประธานสภาออกไป ฯลฯ ไม่เรียกว่าอันธพาลแล้วคุณจะเรียกว่าอะไร)  ก็ยังคงใช้วิธีการต่อสู้แบบเดิม ๆ  สำหรับการต่อสู้ในการเลือกตั้งกทม.ครั้งนี้ ที่จริงพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอนโยบายกรุงเทพมหานครไปนั้นเป็นเพียงการใช้วาทกรรมเท่านั้น ซึ่งประชาชนกทม.จะต้องตรวจดูนะครับ ว่าเขาเสนอนโยบายไว้กี่ข้อ อะไรบ้าง แล้วเขาจะตั้งใจทำจริง ๆ เพียงไร ซึ่งเป็นเพียงวาทะกรรม  แล้วละเลงวาทกรรมเท่านั้นเอง เพราะมิได้ผ่านกระบวนการสร้างนโยบายมาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ (คุณเข้าใจไหม คือไม่ผ่านการพิศูจน์ วิเคราห์วิจัยมา ว่ามันจะเอาไปทำได้จริง ๆ หรือเปล่า  และพรรคนี้สร้างนโยบายไม่เป็น ตัวอย่างเช่นนโยบายไข่ชั่งกิโล ที่ไปจ้างนักวิจัยฝรั่งทำให้ด้วยเงินถึง 70 ล้านบาท (ซึ่งจริงใช้เงินเพียง 10,000 บาทก็สรุปเป็นนโยบายได้  อีก 69 ล้าน 9 แสน 9 หมื่นบาทโดนงาบ เป็นค่าโง่)    แล้วยังมีนักวิชาการ(นักวิชาเกินมากกว่า) ไปแนะนำอีกด้วยว่าถึงไม่มีนโยบายตนเอง ลอกของพรรคเพื่อไทยไปก็ได้  อะไรจะไม่รู้เรื่องขนาดนั้น ถ้าคุณลอกเขาไปโดยไม่เข้าใจกระบวนการที่เขาทำนโยบายมา คุณก็จะทำไม่ได้   นี่คือ วาทะกรรม  ที่ไปอ้างนโยบายแล้วไร้หลักการ แบบเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  ใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย และทั้งหมดกระทำไปแบบไร้สปิริตจิตใจของระบอบประชาธิปไตยไปโดยสิ้นเชิง มุ่งหวังเพียงชัยชนะ แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ดูหมิ่น หลอกลวงประชาชนคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม ....เหมือนเดิม  เหมือนการเลือกตั้งระดับชาติที่ผ่านมาในเดือนพฤษภาคม 2554 และแน่นอน  เสียงที่ประชาชนกทม.มอบให้แด่พรรคเพื่อไทยนั้น  มันแสดงถึงการรับวิธีการของพรรคเพื่อไทยที่เป็นประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากมาย ขณะเดียวกันวิธีการของการปลิ้นปล้อน หลอกลวงด้วยวาทะกรรม กำลังถดถอยลงไปตามลำดับ   

เมื่อเราไปถึงระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เราก็จะพบว่าพรรคการเมืองได้ต่อสู้กันอย่างขาวสะอาด เต็มไปด้วยสปิริตจิตใจและความชาญฉลาดในการเสนอนโยบาย ซึ่งย่อมหมายถึงการวิเคราะห์นโยบายของคู่แข่ง ของพรรคการเมืองที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวงให้เป็นที่ประจักษ์อย่างแจ่มแจ้งด้วยอย่างขาดไม่ได้    วันนี้เรามีความหวังขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์แล้ว  ที่การต่อสู้โดยวิถีทางที่ขาวสะอาด เต็มไปด้วยสปิริตจิตใจ จะค่อย ๆ ไล่พรรคการเมืองที่ปลิ้นปล้อน หลอกลวง ให้หดหายไปจากแผ่นดินประชาธิปไตยในที่สุด  

ประชาชนกทม.อดทนอีกสักนิดแล้วประชาธิปไตยอันเที่ยงธรรมก็จะมาสู่ในไม่นานเกินรอแล้ว 

สุไหงปาดี ชินะกุล
4 มี.ค. 2556/

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-03-05 19:25:18


ความคิดเห็นที่ 6 (3360366)

คนกรุงเทพ คนเมืองสวรรค์ ยังคงมีบางส่วนที่มีทิฏฐิ ....... มองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของคนอีสาน  คนบ้านนอกคอกนา  ดูหมิ่นแคลนออกมาทางการเลือกตั้งทั้งระดับชาติและรดับ กทม.  โดยไม่เอาเหตุผลตามหลักการประชาธิปไตยมาพิจารณา  ........  เขากลัวว่าจะถูกใยไพว่าตามก้นชาวอีสาน 

แน่ละ  อีกสักหน่อยก่อน จะได้ทราบว่าคนกทม.ยังล้าหลังคนบ้านนอกบ้านนาอย่างคนอีสาน คนเหนือ และคนตะวันออก ตะวันตก  ฯลฯ      เพราะเหตุที่เขาไม่เข้าใจประชาธิปไตย  และเลือกนโยบายที่ผิดนั่นเอง  ไม่เกิน 1 ปีนี้แหละครับจะได้เห็นว่าชาวกทม.ตัดสินใจผิด อย่างไม่น่าเชื่อ    ก็คอยดูพรรคประชาธิปัตย์ กทม.จะทำอย่างไรกับนโยบายที่แถลงเอาไว้  และที่ทำอะไรเหลวแหลกเอาไว้ก่อนการเลือกตั้ง ขณะเป็นผู้ว่าราชการ กทม . ไม่นับคดีความหลายคดีอีกต่างหาก

 

ที่จริงเพียงเรื่องสนามฟุตซอลเรื่องเดียวที่ทำขายหน้าชาวโลกเอาไว้  ก็น่าที่ชาวกทม.จะตัดสินได้ในเรื่องความสามารถของบุคคลอย่าง มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร  

เรื่องอุโมงค์ยักษ์   เรื่องทฤษฎีโง่ ๆ เมื่อคราวน้ำท่วม ที่ว่าเอากระสอบทรายไปอุดท่อ นั้นเป็นทฤษฎีใหม่ในการป้องกันน้ำท่วม  ชาวกรุงเทพก็ยังมองไม่ออก   กรุงเทพแบบไหนวะ.......โง่ฉิบเป๋งเลย  .......  เขาไม่เคยอธิบายให้สมเหตุผลเลย จนคนให้สมญา เอ๋อ   คนกรุงเทพก็ยังไม่ใส่ใจ 

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-03-05 19:44:14


ความคิดเห็นที่ 7 (3360367)

อารยธรรมขั้นต่ำ........ถูกแล้วครับ   ชาวกทม.ยังคงอยู่ในอารยธรรมขั้นต่ำ.............ดร.ฆิกเมฆ ว่าไว้   เห็นด้วยครับ  ....

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-03-05 19:47:32


ความคิดเห็นที่ 8 (3360368)

เพราะอยู่ในอารยธรรมขั้นต่ำ  จึงฟังวาทกรรมต่ำ ๆ

เช่นเผาบ้านเผาเมือง ........  บ้าพ่อมึงสิ   ศาลเขาตัดสินแล้ว  ไม่รู้เรื่องหรือชาวกทม.  ศาลตัดสินให้จ่ายค่าประกัน ไม่มีใครก่อการร้าย   รู้เรื่องไหม ชาวสวรรค์ คนอีสานเขายังรู้คล่องปร๋อไปเลย ...... มึงต้องไปเรียนการเมืองจากชาวอีสาน

 

กลัวพรรคเพื่อไทยผูกขาดการเมือง............ประชาธิปัตย์พ่อมึงสิผูกขาดมา 4 สมัยแล้ว   ไม่รู้เรื่องหรือชาว กทม.  ฮ่วย !

 

สมองควายชัด ๆ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-03-05 20:04:41


ความคิดเห็นที่ 9 (3360370)

ผิดหวังกับชาวกรุงเทพเนาะ แดงแท้แจ๋     แต่คนกรุงตั้ง 1 ล้านเศษนะคะที่เขาตื่นตัวมาเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตย     กำลังไหลเข้าทางเราแล้วแหละค่ะ   4 ปีไม่นาน ดิฉันว่าปีแรกนี่แหละคนกทม.ก็จะได้สำนึก ว่าการเมืองไม่ใช่ขายน้ำตา ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ สันดารประชาธิปัตย์  ดิฉันรับรองหม่อมเอ๋อทำอะไรไม่เป็นน่ะ  แกกำลังมีปัญหาสุขภาพอยู่ด้วย  บางทีอาจจะมีการเลือกตั้งก่อน 4 ปี  ไม่ครบวาระด้วยซ้ำไป  คอยดูก็แล้วกัน    คนกรุงเทพจะผิดหวังค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จันทิรา ชมชื่น วันที่ตอบ 2013-03-05 20:13:48


ความคิดเห็นที่ 10 (3360461)

สงสัยจริง ๆ ว่าใครอยู่เบื้องหลังพรรคประชาธิปัตย์  ขนาดนี้แล้วยังไม่สำนึก  อภิสิทธิ์ก็ยังเป็นเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ  แต่เขาก็ได้รับการค้ำจุน   เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ และพาพวกทำทุกอย่าง ค้านทุกอย่างของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ............

แต่สิ่งที่ปรากฎมาระยะหลัง ๆ มานี้ เห็นได้ว่า  ทางฝ่ายประชาธิไตย จะสมานกับฝ่ายเผด็จการยากเสียแล้วเพราะพวกเขาได้แสดงเจตนาชัดเจนในเรื่องการรวน  ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องรวนอยู่เช่นนี้ ไปจนกว่ารัฐบาลจะหมดความอดทน  คงเอายุทธวิธีหมาป่ามาใช้  คือตามไปเรื่อย ๆ ค่อยกำจัดไปทีละคน ทีละเรื่อง  จนเกลี้ยง .................

แต่นั่นมันลูกแกะ  ............  หมาป่าจะมาใช้กับสิงโตไม่ได้หรอก   ยุทธวิธีนี้น่าเป็นของฝ่ายเพื่อไทยมากกว่า

เอาละ เราคิดว่า  ในที่สุดพรรคฝ่ายค้านก็จะค้านไปจนถึงที่สุด   จนน่าสรุปได้แล้วว่า พวกเขามียุทธศาสตร์เดียวนี้ซึ่งจะลงเอยอย่างชัดเจนที่ว่า  เมื่อกูไม่ได้มึงก็อย่าได้มีความสุข กูจะรวนมึงไปเช่นนี้ แม้ว่าบ้านเมืองจะฉิบหายไปกูก็ไม่รับผิดชอบ.........................หมายความว่าไร้สปิริตจิตใจประชาธิปไตยจริง ๆ แล้วบ้านเมืองจะเกิดกลียุคขึ้นมาอย่างไร พวกเขาก็ไม่ยอมฝ่ายประชาธิปไตย  จะต้องพังไปด้วยกัน   แบบติดระเบิดฆ่าตัวตายแต่ไม่ยอมตายคนเดียว มึงจะต้องตายกับกู   อะไรประมาณนั้น  

 

คงมีคนเห็นอย่างที่ผมเห็นกันทั่วไปแล้ว  ถ้ายังไม่เห็นก็ให้รีบสังเกตสังกาดู   

เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ฝ่ายประชาธิปไตยจะทำอย่างไร ?

ง่ายครับ   วิธีการมีอยู่แล้ว  ...............   กฎหมายไงครับ

 

เราต้องสุขุม  อย่าไปทำผิดกฎหมายเสียเอง  แต่รอ เดวมันก็พลาด    ทำผิดกฎหมายก็จัดการอย่างกัดไม่ปล่อย

 

เพียงแต่ฝ่ายรัฐบาลซึ่งถือเครื่องมือของรัฐไว้ครบถ้วน  จะต้องทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ 

 

อะไรที่ทำผิดไว้แล้ว ก็ต้องให้ได้รับผิด  ซึ่ง อะไร ๆ กำลังมาเข้าทางฝ่ายประชาธิปไตยอยู่แล้วละครับ

 

ขอเพียงสปิริตจิตใจเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริงก็แล้วกัน .......  ผมหมายถึงรู้สิทธิ และรู้หน้าที่ของเรา   ในการที่จะพาประชาธิปไตยไทยไปสู่เป้าหมายที่สมบูรณ์

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2013-03-06 16:11:47


ความคิดเห็นที่ 11 (3360482)

เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวศ........  ลืมไปได้เลย.......   เข้าป่าเข้าดงไปได้เลย   .....................

นั่นแน่ะ..... นึกว่าใครส่งมาแข่ง  ........ พวกไอ้เจ๊กลิ้มน่ะเอง  ได้ไปเท่าไรก็แสดงว่าเจ๊กลิ้มมีไต๋อยู่แค่นั้น  ก็แค่  166,582  เพื่อไทยเขาได้ตั้งล้าน  ขายหน้าไหม ?      เข้าป่าไป  เป็นนายตำรวจขนาดนี้ยังไม่รู้จักว่าเขาหลอก 

คำว่า พธม.   พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย   นั้น มันไม่ใช่ประชาธิปไตย   เจ๊กลิ้มกับพวกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ประชาธิปไตยคืออะไร  แต่มันก็อ้างประชาธิปไตยบังหน้า หากินกับการโฆษณาชวนเชื่อแบบตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง แล้วมันก็เจ๊งมาจนถึงบัดนี้................

 

พธม.    มันไม่ใช่ประชาธิปไตย  ..............ไม่รู้หรือ  เสรี เตมียาเวส   ........เข้าป่าไปได้เล ย   อย่าโผล่มา อายเขา   ลงเลือกตั้งทียังไม่รู้จักประชาธิปไตยแล้วจะไปได้คะแนน จะไปทำอะไรในระบอบการเมืองประชาธิปไตยได้  

ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2013-03-06 19:27:40


ความคิดเห็นที่ 12 (3360489)

 คนทีรักปชป. แบบฝังจิตฝังใจเขาไม่ค่อยมองเหตุมองผล เขาคิดอย่างเดียวว่าปชป. ดีเลิศประเสริฐศรีพรรคนี้พูดอะไรเขาเชื่อหมด ส่วนอีกพรรคพูดอะไร ทำอะไรดีแค่ไหนเขาก็ไม่เห็น ดูอย่างนายอภิรักษ์ต้องหลุดจากเก้าอี้เพราะศาลชี้มูลควาผิดเรื่องทุจริตรถเรือดับเพลิง แต่คนกทม. ก็มาเลือกมรว.สุขุมพันธ์คนของปชป. และกทม.ทุจริตอย่างไรก็ยังเลือกอีก ดิฉันได้สัมผัสคนแบบนี้มาแล้วอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ อาจมีบ้างที่ไม่ได้รักฝังใจ แต่เลือกเพราะความกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะยึดประเทศ จะทำอะไรไม่ดีไม่ดีตามที่พรรคนี้โฆษณาชวนเชื่อ 

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-06 23:00:15


ความคิดเห็นที่ 13 (3360490)

 คน กทม. คอยตรวจสอบนโยบายที่ มรว.สุขุมพันธ์และพรรค ปชป. แถลงไว้ว่าทำได้จริงหรือเปล่า และใหประชาชนช่วยถามออกสื่อบ่อยๆ เผื่อจะมีคนตาสว่างเพิ่มมากขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-06 23:04:00


ความคิดเห็นที่ 14 (3360567)

มีเหตุผลมากเลย คุณหิ่งห้อย  ...

เห็นด้วยจริง ๆ  ในเรื่องที่ว่า มันเป็นสันดารกันทั้งฝ่ายประชาธิปัตย์ กับ ประชาชนกทม.บางประเภท ที่คุณว่านั้นแหละ    ก็   น่าเป็นห่วงครับ   เพราะจะกลายเป็นว่าคนกรุงอ่อนวิชาประชาธิปไตยไปกว่าคนบ้านนอก    แล้วจะเป็นยังไงล่ะ?    

เจ็บใจที่มีคน กทม.จำนวนแสนกว่า  ยังไม่รู้แจ้งแทงตลอดพวกเจ๊กลิ้ม   ........

 

มันพากันยกพวกปิดเส้นทางพระราชดำเนิน อยู่ถึง 7 วัน  ในหลวงต้องหลีกพวกมันไปใช้ถนนลูกหลวงแทน  ..... คนกรุงเทพ ไม่เข้าใจอะไรเลยหรือ   ไหนว่ารักพระองค์ท่านไง  ...............  แล้วมีใครที่บังอาจได้เหมือนเจ๊กลิ้มกับพวกสันติอโศก 

 

ทำไมคน กทม.จึงตาบอดไปได้ขนาดนี้

แล้วยังไปเชื่อพวกมันโกหกพกลมใส่ร้ายว่าคนเสื้อแดง เพื่อไทยเผาบ้านเผาเมือง   พวกล้มเจ้า......

ไม่รู้จักวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ไปเชื่อเจ๊กลิ้ม  ตัวการล้มเจ้าตัวจริงอยู่ได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-07 21:19:06


ความคิดเห็นที่ 15 (3360568)

กกต. 3 ต่อ 1 ลงมติยังไม่ให้ประกาศผลเลือกตั้งครับ  มีผู้ร้องเรียนไป  ในเรื่องแดงเผาบ้านเผาเมืองนี่แหละ .......

ผู้แสดงความคิดเห็น คนตาดี วันที่ตอบ 2013-03-07 21:25:28


ความคิดเห็นที่ 16 (3360628)

อยากให้เขาได้บริหารกทม.ต่อไปอีกสักหนึ่งปีก่อนครับ  .......   เฝ้ามองกันดี ๆ ละคราวนี้  จะเห็นอะไรดีๆ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนตาดี วันที่ตอบ 2013-03-08 16:55:16


ความคิดเห็นที่ 17 (3360655)

กลายเป็นประเด็นครับ  ถึงขนาดยุบพรรคประชาธิปัตย์  จากการกล่าวร้ายพรรคคู่แข่ง โดย ชวน หลีกภัย  สุเทพ เทือกสุบรรณ  อิสระ สมชัย  อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...........โอ้โฮ  สุเทพ  ว่าถึงว่าเป็นพวกก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง  ฯลฯ    ไม่เกรงกฎหมายบ้านเมืองกันเลย  ...............คนพวกนี้มีไม่กี่คน  แต่ประชาชนธรรมดา  ๆ นี่แหละมีนับล้าน ๆ ที่จะออกมาโต้เถียงเรียงตัวกับคนพวกนี้ได้อย่างสบาย ๆ   ............ ชาวบ้านคนหนึ่งก็โต้กับคนหลงยุคอย่างนายสุเทพได้   มีมาแล้ว ป้า น้า อา เราโต้กับอภิสิทธิ์ ข้างถนนน เรื่องที่ว่าเผาบ้านเผาเมือง  และเรื่อง ดีแต่พูด..  ก็ยังสู้ชาวบ้านไม่ได้เลย 

 

ทีนี้ละ     ชาวบ้าน กทม.เขาตื่นขึ้นละ   จะไล่พวกคุณไปจาก กทม.เสียที

ผู้แสดงความคิดเห็น คนนอก วันที่ตอบ 2013-03-09 12:15:20


ความคิดเห็นที่ 18 (3360659)

อันธพาล จริง ๆ   ประชาธิปัตย์  !!!

ผู้แสดงความคิดเห็น คนนอก วันที่ตอบ 2013-03-09 13:18:21


ความคิดเห็นที่ 19 (3360717)

 วันนี้ป้าเสื้อแดงที่เขาให้ใส่เสื้อเขียวเอาไปโฆษณาหาเสียงให้มรว.สุขุมพันธ์ก็ออกมาต่อว่าทางสื่อ อย่าลืมพรรคนี้ทำอะไรลับๆไม่ชอบมาพากล ต้องเอาความจริง คนจริงมาตีแผ่ทางสื่อมากๆยิ่งมาช่อง 3,5,7,9,11 ฯลฯ ยิ่งดี จะได้พิสูจน์ว่าพรรคนี้ชอบเล่าความเท็จๆๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-10 14:23:17


ความคิดเห็นที่ 20 (3360735)

แทบไม่น่าเชื่อว่าคนดี ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์กลายเป้นคนเหลวไหลไปได้อย่างไร    อย่างนายชวน หลีกภัย  เลยเสียคนเอาตอนแก่จะเข้าโลงนี่เอง  น่าเสียดายจริง ๆ 

 

แล้วน่าเห็นใจ คุณพิชัย รัตตกุล   เตือนเด็ก ๆ มันไม่เอาด้วย แม้แต่จะเหลือบมอง

แล้วอีกคนก็เสียคนไปเรียบร้อย  องอาจ คล้ามไพบูลย์   ประธานการเลือกตั้ง กทม.ของ ปชป.  ..... หมอพูดหน้าตาเฉยว่าพรรคประชาธิปัตย์พูดแต่ความจริง ..............  เอาแบบการพูดมาจากนายชวน หลีกภัยนั่นเอง   ที่พูดว่า  เราไม่โกง เราไม่กิน .......  เราแพ้เพราะแพ้เงิน เขาเอาเงินหว่านซื้อเสียง.....  นี่คือต้นตำหรับ   เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น

 

แล้วมีนักข่าวช่อง 7   เห็นเธอรวนมาตั้งแต่นายกยิ่งลักษณ์ มารองเฉลิม และล่าสุด จตุพร พรหมพันธ์ ..................   น่าสงสารชีวิตอย่าง  สมจิต นวเครือสุนทร  ชีวิตที่ถูกกดดัน น้ำตาเล็ดตกหัวใจไม่มีใครรู้  เป็นทาสรับใช้พวกปากกรรไตร ปชป. ....... น่าสงสารหากให้ออกจากงานไป   ช่อง 7 คงคิดเช่นนี้ 

ทำไมไม่แยกตัวมาอยู่ข้างฝ่ายนี้ เสรีชนล่ะ    ไม่เข้าใจ  ทางนี้สว่างจ้ะ !  มาเถิดคุณสวมจิต  นวเครือสุนทร   มา  มา สบายกว่าเยอะ  เสรีกว่าเยอะ 

 เพียงทำหน้าที่ของตน   หน้าที่สื่อมวลชน   ให้ถูกต้อง   เท่านั้นเองหลักการสากลของชีวิต 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2013-03-10 21:04:39


ความคิดเห็นที่ 21 (3361228)

 นายชวนแกดีไม่จริงหรอก ที่แกเห็นด้วยกับมาร์คเพราะแกตระหนักมาตลอดว่าพรรค ปชป ได้เป็นรัฐบาลเพราะการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่างหาก พรรคนี้ไม่เคยมีนโยบายดีๆมาผูกใจประชาชน เขาทำไม่เป็นไม่ถนัด ที่ถนัดมากก็ดีแต่พูด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น จนคนเขาตั้งฉายาว่าพรรคแมลงสาปนี่แหละ คุณสมจิตรนี่คงตาสว่างยากเพราะแกไม่รู้จักว่าเสรีชนคืออะไร ดียังไง น่าสงสารจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-16 23:02:46


ความคิดเห็นที่ 22 (3362495)

# กกต.มีมติ 4:1 รับรองสุขุมพันธ์เป็นผว.กทม. ระบุยังเดินหน้าสอบปมคำร้องต่อ....DNN 27 ,u"8"2556  17:09:59 น.

 

 

# สมช.ถกBRNผล2ฝ่ายร่างTORลดเหตุรุนแรงใต้BRNขอเคลียร์คดียตธ.นัดอีก29เมษา.........DNN 28:06:19

# คนร้ายบึ้มทหารพรานเจาะไอร้อนนราดับ2เจ็บอื้อภราดรลั่นพร้อมถกสันติภาพ BRN........DNN  28 มี.ค.2556 08:28:24

# นายกฯหารือเขตศก.พิเศษที่ทำเนียบ ภราดรเข้ารายงานผลถกBRNระบุนัดอีก29เม.ย.........DNN 29 มี.ค.2556 10:28:17

 

# ศาลสั่งจำคุก1ปี4เดือนจอน อึ๊งภากรณ์บุกสภาปี 50 พวกอีก8 คนละ8ด.ปรับ6พันบาท........ DNN 28 มี.ค.2556 11:24:41

# ศาลจำคุก12ปีเสธ.ไก่หน.ทีมปล้นบ้านปลัดสุพจน์ พวก7คนคุก2-9ปีสั่งชดใช้18ล........DNN 29 มี.ค.2556  12:03:43

 

# สภาเริ่มถกพรบ.2ลล.นายกฯวอนฝ่ายค้านอภิปรายในกรอบยึดปย.ประเทศเป็นที่ตั้ง ...........DNN 28 มี.ค.2556 09:57:35

# ตร.เข้มสภาถกพรบ.เงินกู้วันที่2 หอการค้าไม่ห่วง2ลล.เชื่อมีประโยชน์ต่อประเทศ......DNN 29:49:25

 

# สภามีมติ 284:152เสียงรับร่างพรบ.เงินกู้2ลล.ตั้งกมธ..36คนประชุมนัดแรก2เมษา.......DNN 29 มี.ค.255622.04.23 น.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-03-30 05:16:36



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.