ReadyPlanet.com


โพธิรักษ์ สมณะโล้นนอกมหาเถร แห่งสันติอโศก ตามไม่ทันความคิดยุคใหม่


พยายามพูดในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ  เอาทฤษฎีเก่าที่ตนเข้าใจคุ้นเคย มาอธิบายทฤษฎีใหม่ที่ตนบอดสนิท

ก็เลยกลายเป็นตัวตลกเอกอีกพวกหนึ่ง  ในวันนี้

แล้วไม่เข้าใจกฎกติกาการเมืองเขา   ตีความแพ้เป็นชนะ  ชนะเป็นแพ้  ...ออกท่าทางเยาะเย้ยถากถางเป็นด้วย ..............เพราะเป็นประเภทดีแต่พูด อีกพวกหนึ่ง

 

คงจะต้องมองดูต่อไปอีกนาน  แต่คงช่วยไม่ได้แล้ว  เกินจะดัด เหมือนไม่แก่นั่นแหละ



ผู้ตั้งกระทู้ บัวระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ :: วันที่ลงประกาศ 2014-02-06 19:14:21


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3385503)

เขาแสดงธรรมะที่ว่าลึกซึ้ง  แล้วว่ามันเยอะ ให้ไปดูหนังสือที่ตนเขียนไว้ชื่อ   คนคืออะไร ทำไมสำคัญนัก   ........... ผมอ่านดูแล้ว เป็นหนังสือที่เพ้อเจ้อ  เหมือนเขียนโดยคนบ้าเสียสติก็ปานกัน  

 

บางที่คน ๆ นี้อาจจะบ้าไปแล้วก็ได้ แต่นั่นแหละ  หลังโฆษณาชวนเชื่อมานานแสนนาน  ก็มีคนหลงผิดตามไปเยอะแยะ  พากันมาทำชั่วอยู่ขณะนี้ .............  ไม่ต่างอะไรกับ   พุทธอิสสระ นั่นแหละครับ    หลงตนเอง หลงในวาทีถ้อยคำเพ้อเจ้อของตนเอง .....  อย่างคนแรกก็ว่าตนสูงสุดระดับพระพุทธเจ้าแล้ว   ก็เรียกตนเองว่า  พุทธอิสสระ  .......  ส่วนโพธิรักษ์  ว่าตนเป็นเหนืออรหันต์  เป็นพระโพธิสัตว์  หมายความว่า   ผู้ที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในวันหน้า .................

 

ทั้งพุทธอิสสระ  และโพธิรักษ์นี้   แท้จริงเป็นคนที่พอมีปัญญาอยู่บ้าง  แต่หย่อนสติ    สูญเสียสติไป โดยรูปธรรมก็คือ  ไม่รู้ตัวว่าเวลาพูดตนพูดอะไร .......  อย่างโพธิรักษ์นี่พูดเรื่อง  ฌาน  สมาธิ  นิโรธ   สมาบัติ  ได้น่าเชื่อมากเลย  ในแง่ที่ว่า  ทรงธรรมชั้นสูงจริง ๆ  ....พูดรายละเอียดของสมาบัติได้ตั้งแต่ระดับต้น .........ไปจนถึง    สัญญาเวทยิตนิโรธ  เนวสัญญานาสัญญายตนะฌาน...ฯลฯ   ได้อย่างน่าเชื่อถือ     แต่ที่จริงแล้ว     ก็เป็นเพียง  ดีแต่พูด..........เพราะไม่เข้าใจรูปธรรมของสิ่งที่ตนพูดนั้น    จึงไกลไปจากแนววิทยาศาสตร์  .......กลายเป้ฯเรื่องที่เพ้อเจ้อไป  ดังกล่าว .....

แล้วหันมาโจมตี   ด่ารัฐบาลต่อไป   .............   นี่คืออลัชชีจริง ๆ     

 

คุณไม่รู้หรือ   นายกรัฐมนตรีของประเทศทั้งหลายในโลกยุคนี้ ประชาชนของประเทศทั้งหลายในโลกยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องไปรู้อะไรที่คุณว่าวิเศษ ๆ นั้นเลย  เขาก็ปกครองบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าไปได้  ดูอเมริกา   อังกฤษ  ฝรั่งเศส  ที่ เขาเคยยิ่งใหญ่ถึงปกครองโลกทั้งโลก .....อย่างอังกฤษนี่เขาเรียกว่า  มีดินแดนที่พระอาทิตย์ไม่ตกดินอยู่ในครอบครองอยู่กว่า ศตวรรษ   เวลาไปยึดอินเดียเป็นเมืองขึ้น  เขาก็ไปแสดงกลให้เจ้าเมือง โง่ ๆ  เชื่อเรื่องโง่ ๆ ดู   เท่านั้นเองก็ยึดอินเดียได้ทั้งประเทศอย่างง่าย ๆ   .........  ลองใช้หัวคิดดู  อินเดีย รวมทั้งประเทศในเอเซีย ล้วนมีประชาชนเคร่งศาสนา ในแบบที่คุณสอนนี่แหละทั้งประเทศ  ...... แล้วทำไมโง่เสียท่าเป็นเมืองขึ้นเขาได้ง่าย ๆ

มันมีสัจธรรมใหม่ ของยุคใหม่ ที่คุณไม่รู้  คือ   อารยธรรมวิทยาศาสตร์นั้นย่อมเป็นอารยธรรมแห่งชัยชนะ  

ในคำว่า อารยธรรมนี่แหละครับ  มันมีสิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดนี้อยู่   เพียงแต่คุณค้นหามันไม่พบเท่านั้นเอง 

 

ลองคิดแนวใหม่นี้ดูนะครับ

 

ก็ค่อย ๆ คุยกันไปนะครับ 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-06 19:54:23


ความคิดเห็นที่ 2 (3385504)

เขาพูดแบบไร้สติ  คือไม่รู้ว่าตนพูดอะไรนั้นถูกแล้ว  กงจักร เสมาคำ วิเคราะห์ได้ด๊ทีเดียว น่าเลื่อมใส   เอาละเวลาโพธิรักษ์พูดเรื่อง รู้  นี่   แกว่า  รู้ขนาดที่ไม่มีอะไรที่ไม่รู้อีก    ต้องรู้ให้หมด รู้ให้ครบ  จนไม่มีแล้วสิ่งที่ไม่รู้ 

 

แล้วยังไงล่ะ      ไม่รู้กฎหมายสักมาตรา  จะเรียกว่ารู้หมด ไม่มีอะไรที่ไม่รู้ได้อย่างไร?  .........  จำคราวขึ้นศาลไม่ได้หรือ?  ..........  เขาพูดเรื่องกฎหมาย ตนมาพูดเรื่องอะไรเพ้อเจ้อไปแบบนี้แหละ พูดอะไร ให้ใครฟังเขาก็ไม่รู้เรื่อง เช่นที่พูดเรื่อง ฌาน  สมาธิ  นิโรธ   สมาบัติ  เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน นี่แหละ .........ก็เลยถูกไล่ออกจากมหาเถร   ให้ถอดเครื่องแบบสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเสีย    จำไม่ได้หรือ    แล้วยังมาอวดรู้อยู่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น นายตาถั่ว วันที่ตอบ 2014-02-06 20:07:35


ความคิดเห็นที่ 3 (3385590)

ม็อบโพธิรักษ์นี้จวนวายแล้วละ มีคนฟังอยู่ ดู ๆ น่าสมเพช เพราะคนพูด ๆ บ่นให้ตัวเองฟัง  ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง..........มีแรงผลักดันจากความอิจฉาริษยาอย่างแท้จริง  ไม่สมกับเป็นศิษย์ พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ............

โจมตีเรื่องชาวนาอย่างผิด ๆ  ว่ารัฐบาลโกงกิน......โจมตีระบอบทักษิณ  มีการทุจริตอย่างไม่เคยมีรัฐบาลไหนมาก่อน  ..............มันสะท้อนดวงจิตคิดริษยาจริง ๆ   โพธิรักษ์ดู ๆ ลูกศิษย์ของคุณ  อิจฉาริษยาพอ ๆ กับคุณเอง   โพธิรักษ์ จะต้องร้องเพลง ผู้แพ้ตลอดชาติ.......

 

คน ๆ นี้ไร้เหตุผลจริง ๆ    เรียกร้องให้กองทัพทำหน้าที่  หน้าที่อะไรของกองทัพ?  .............ไม่รูชื่ออะไร  เห็นมีคนบอกว่า  อาจารย์..สวมเสื้อเขียวใบไม้ ....พูดไป ๆ ร้องไห้ไป  น่าสมเพช  ...."คุณยิ่งลักษณ์จะต้องแพคกระเป๋าลาออก หนีออกนอกประเทศไม่ทันแน่ครับ" ..............

คนลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ .............ก็จริง  หน้าเวทีมีไม่ถึง 50 คน  คนที่พูด

"ถ้าไม่ออกจากรักษาการณ์ คุณยิ่งลักษณ์จะต้องออกจากประเทศไทย" .............  นี่คือพวกสันติอโศก ขี้อิจฉาริษยา   ยังอุตส่าห์คิดว่าตนเป้ฯอริยบุคคล    โล้น โพธิรักษ์เอย  ........

สตรี 2 คน ช่างใจเหมือนสัตว์  เสนอให้นายกรัฐมนตรี ที่รักของประชาชน 3 ทางคือ  1  หนี   2  ฆ่าตัวตาย   3.  มีคนทำให้ตาย

 

ไอ้เทือกต่างหาก  อีปองต่างหาก   ที่มันบอกไว้จะผูกคอตาย   จะปาดคอตาย   คนรู้ทั้งแผ่นดิน  ..........อีพวกนี้ไม่ยอมรับความจริง เลย   เป็นพวก  อาริยะบุคคลได้อย่างไรล่ะ ...  เอาละ   ทำไมน้ำตาคลอเบ้ากันหมดล่ะ  ..........

เสียใจ เศร้าใจ  สลดใจ  อดสูใจ  กลัวแพ้ ? 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายตาถั่ว วันที่ตอบ 2014-02-08 22:05:14


ความคิดเห็นที่ 4 (3385619)

เป็นนักแสดงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว   

พุทธาภิเษก  กลางดินกลางดอน กลางถนนหนทาง  กลางหมู่มอบกบฏ............ก็เพียงเพื่อโอ้อวด

ว่าตนเป็นคนดี    .........   อย่างน้อยก็โสดาบัน  ...........

ก็ถามว่า   ถ้าดีจริงแล้ว จะมาเกี่ยวข้องการเมืองไปทำไม .......  ช่วยเพิ่มกำลังให้แด่กบฏ คิดล้มล้างรัฐบาล  ยังแสดงความอาฆาต พยาบาท  ...และที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวกรุงเทพโดยปิดถนนหนทาง  ยึดส่วนราชการ ........   นี่แหละเหตุผลที่ว่าเป็นพวกเสียสติ  ประการแรก    ประการที่ 2  นี่แหละพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ..........  ว่าพุทธาภิเษกของตัวเป็นของแท้  ส่วนพุทธาภิเษกของวัดอื่นเป็นของไม่แท้  เป็นของเลวด้วยซ้ำ   ประการที่  3  ว่าตนรักษาศีลแล้วไม่กินเนื้อสัตว์ .....นี่เป็นความดีล้ำเลิศ  .. ส่วนพระสงฆ์หมู่อื่นไม่งดกินเนื้อสัตว์  ถือว่ามีความดีน้อย  เยาะเย้ยว่าเป็นพวกกินซากศพ.....นี่แหละเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น ...........และไร้สติสตัง  หากตนมีเมตตาจริง แม้สัตว์ก็เมตตามันโดยไม่กินเนื้อมัน   กระนั้นแล้วกลับไม่เข้าใจว่า การที่มาปิดกรุงเทพ  ได้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนขนาดไหน  ไม่มีสติคิดได้  ประการที่ 4  ไม่ใช้เงิน  ไม่ต้องมีเงินมีทอง ........ ไม่ต้องแสวงหาความร่ำรวย  ฯลฯ  .............     ประการที่ 5   ไม่ใช่พุทธาภิเกษก แบบนั้น  ไม่ใช่กราบอิฐกราบปูน  ไม่มีพุทธรูป  ......  พูดอย่างนี้ก็โกหกพกลม  เดิมสำนักนี้ไม่นับถือพระพุทธรูปนั้นถูกต้อง   แต่ต่อมาก็สร้างขึ้นใหญ่โต .......ทำไมล่ะ?  ประการที่ 6  ปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องนอกศาสนา  ปาฏิหารย์จริง ๆ คือฝึกตนให้ได้ในศีล-ธรรมจริง ๆ  รู้จริง ๆ   ไม่มีอะไรที่เราไม่รู้ .....แล้วสอนดี เรียกว่า อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ......................ประการที่ 7  ความเป็นชาวพุทธที่แท้จริง ต้องบรรลุเป็ฯอริยบุคคล  .........  เมื่อเป็นเช่นนั้นจะมาก่อม็อบทำไม? 

ก็เลยเรียกตนว่าเป็นคนดีอีกพวกหนึ่ง    ก็ถ้าดีจริงแล้วจะมาอม็อบกับเขาทำไม คนด่าทั้งแผ่นดินยังไม่รู้สึกอีก

 

และแท้จริง.....คนพวกนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรนักหรอก  มีแรงจูงใจอยู่ที่ต้องการคำสรรเสริญเยิรยอ  ..........   ถ้าได้ยินคำว่า  อริยบุคคล แล้วหูผึ่ง    นึกว่าตนเป็น........  ถ้าเป็นจริงแล้วจะมาก่อม็อบรบกวนชาวกรุงเทพไปทำไม  นี่ไม่ใช่บาปหรือ ?   และมีระเบิด  มีการทำร้ายคน เจ้าหน้าที่  ยิงคนตายก็มี  ..นี่ไม่ใช่บาปหรือ?

การที่ไปปกป้องคนผิดกฎหมาย   มีความชอบธรรม หรือถูกศีลธรรมอย่างไร ?  เป็นพวกคนบ้าหรือเปล่า ? 

เคยเห็นหมู่นักบวชสันติอโศกนี้แหละ  ไปบริการล้อมวงรอบ ๆ นายสนธิ ลิ้มทองกุล คราวยึดทำเนียบอยู่ 193 วัน ยุครัฐบาลก่อน  ๆ ป้องกันมิให้ตำรวจบุกเข้าไปจับกุมข้อหาผิด พรก.ฉุกเฉิน ร้ายแรง   ตร.เลยจับสนธิไม่ได้

ดู ๆ เหมือนโอมชิรินเกียวในญี่ปุ่น   

 

ดูคนแก่ ๆ คนนี้พูด   ดังเน้นย้ำ   ปัญญาเกิดจากการมีศีล   ไม่มีศีลก็โง่   เหมือนอวดตัวกลาย ๆ ว่าตนมีศีล มีปัญญา   แต่จริง ๆ    ตัวเองก็ไร้สติ   ไม่รู้ว่าที่มาก่อม็อบนี้แหละมันผิดศีล  มันไร้ปัญญา ไอ้บ้าเอ๊ย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-10 02:53:39


ความคิดเห็นที่ 5 (3385620)

ตาแก่สีกรักบอกว่า  เรามาชุมนุมไม่ต้องการเอาชนะ  แต่ต้องการบำเพ็ญศีล .............มาทำโจทก์ที่ยิ่งใหญ่  .........  นี่คนบ้าชัด ๆ  ..................  แล้วบอกเสียด้วยว่ามาคัดค้าน 1 คน หนึ่งเสียง นี่แหละ  ...............

 

น่าเศร้าใจมาก ที่คนดีพวกนี้ไม่รู้ว่า ที่ตั้งใจประพฤติศีลนั้น   แท้จริงเป็นการละเมิดศีล    การไปก่อม็อบ ปิดกรุงเทพ  ปิดถนนหนทาง  ปิดสถานที่ราชการ ข้าราชการไม่อาจบริการประชาชนได้ นั้น แท้จริงทำความเดือดร้อนให้คนจำนวนมหาศาล  ทำรายได้ประเทศชาติสูญหายไปวันละหลายพันหลายหมื่นล้าน  เศรษฐกิจล่มจมไปเท่าไรไม่มอง หรือไม่รู้  ทำชาวนาเดือดร้อนทั่วประเทศ    ไม่รู้หรือ  ถึงว่า  เสียสตินะ

 

อย่างหลงเชื่อโพธิรักษ์เลย   เขาหลอกมาสู้เพื่อหวังเป็นใหญ่เป็นโต   หวังได้เป็นสังฆราช ในระบอบสุเทพ  ไง  เห็นไหม โพธิรักษ์นี่ยังหนาด้วยกิเลส อยู่มาก  เห็นหรือไม่เห็น    ?  

 

อ้าว ๆ  ไปใหญ่แล้ว   ว่าธรรมะเป็นเผด็จการ ................  มันไม่ใช่ตาแก่เอย   คำเหล่านี้เป็นคำเทกนิคทางการเมืองเขา  คำว่า เผด็จการ  ประชาธิปไตย  สิทธิ  เสรีภาพ   เสมอภาค  ภราดรภาพ   เป็นคำเท็กนิก หรือวิชาการทางการเมือง ...... แม้ป้ายตัวองที่ขึ้นชื่อว่า  อธิปไตยเป็นของปรชาชน ใครปล้นไปไม่ได้ ...... ตีความผิดไปเสียแล้ว .......  น่าเบื่อจริง ๆ  พวกโง่อวดีคือคนกลุ่มนี้จริง ๆ  สันติอโศก    เพราะพื้นฐานการศึกษาต่ำ..........

   

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-10 03:14:03


ความคิดเห็นที่ 6 (3385621)

นั่นไง ศาสดาสุเทพ เทือกสุบรรณ มาแล้ว   ขึ้นต้นก็พูดสิ่งที่ตนไม่รู้เรื่องเสียแล้ว  คือบอกความจำนงของพวกตนทั้งหลายว่า   ......ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ........

 

ทำไมจึงให้สมญาว่า   มนุษย์วานร 1.8 ล้าน ปี  หรือ  ไดโนเสาเต่าล้านปีหลงยุค   ก็เพราะไม่รู้เรื่อง.......ไรคือเป้าหมายของการปฏิรูป   จริงอยู่มีคำว่า  ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์   แต่พฤติกรรมที่ทำนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตยเลย   โลกทั้งโลกเขาหัวเราะกันตรึม  น่าสมเพชจริง ๆ  สุเทพเอย  

แล้วคิดมาหลอกโพธิรักษ์กับพวกสันติอโศกไปทำไม   จะพาลให้พวกเขาต้องข้อหาผิดกฎหมายบ้านเมืองฐานสนับสนุนกบฏไปด้วย

สุเทพ เอย    เตรียมอย่างเดียวเท่านั้น   เตรียมมอบชีวิตออกมา 

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-10 03:32:33


ความคิดเห็นที่ 7 (3385689)

น่าคิดว่านี่คือความหมายของอะไร.... สังคมอย่างไร ?   

เมื่อวันนี้ ศาสดาพูดเรื่องที่สูงสุดยอดอีกเรื่องหนึ่งคือ  เจโตปริยญาณ .....เป็นสาขาหนึ่งแห่งอภิธรรม..  พูดได้ละเอียด  ลึกซึ้งหรือเปล่า ไม่ทราบ  .........ประเด็นคือ  มีสานุศิษย์ฟัง.............แล้วศาสดาโพธิรักษ์ก็ตั้งคำถามเหมือนทดสอบว่าสานุศิษย์ได้รู้ขนาดไหน   ข้อที่หนึ่งไม่มีใครยกมือเลย  ......ถามข้อที่ 2 มียกมือหรอมแหรม  ข้อที่ 3 มีบ้าง  ข้อที่สี่ ยังมี2-3คนยกมือ.......

ข้อที่ 1  คือคำถามว่า  มีใครไม่รู้เรื่องเลย มีไหม?      ปรากฎว่าไม่มีใครยกมือเลย  .....(ถ้าผมอยู่ในที่นั้น ผมจะเป็นคนเดียวที่ยกมือ.....แปลว่าผมไม่รู้อะไรที่โพธิรักษ์พูดเลย)     

...ผมกำลังคิดถึงนิทานเรื่องหนึ่ง ในหนังสือสอนภาษาอังกฤษ ม.6 

 ...มีว่ามีกษัตริย์อังกฤษองค์หนึ่ง ชอบสะสมของสวย ๆ งาม ๆ แล้ววันหนึ่งก็มีโจร 2 คนมาบอกว่าสามารถทอผ้าที่สวยงามพอ ๆ กับผ้าเมืองสวรรค์พิมานเทพได้  พระเจ้าแผ่นดินก็ชอบ อยากได้ผ้า  ก็ว่าจ้างโจรให้ทอผ้าให้  ผ่านไปหลายวันโจรก็บอกว่าจวนจะเสร็จ  ก็ถามว่า ไหนไม่เห้นผ้าสักชิ้นจะเสร็จยังไง ...โจรก็บอกว่าผ้าวิเศษ จากสวรรค์คนมีบุญบารมียิ่งใหญ่เหนือจัรพรรดิ์เท่านั้นจึงจะมองเห็น .........คนบุญน้อย บารมีน้อยมองไม่เห็น  พระองค์อาจจะบุญน้อยจึงมองไม่เห็นก็ได้  พระเจ้าแผ่นดินก็เกรงว่าโจรจะดูหมิ่น คนจะหาว่าบารมีน้อย ไม่สมควรแก่กษัตริย์  ก็รีบกลับคำว่า  เห็นแล้ว โอ  ผ้างดงามเหลือเกิน ยังกะผ้าสวรรค์ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน .......  ข่าวก็เล่าลืออกไปว่าพระเจ้าแผ่นดินได้ผ้าสวยงามมาประดับบารมี   ต่อมาโจรก็บอกว่าทอผ้าเสร็จแล้วขอเชิญพระเจ้าแผ่นดินพาอมาตย์เข้ามาชม  พระเจ้าแผ่นดินก็พาอมาตย์ทั้งหลายไปชม  ต่างก็ชื่นชมว่าผ้าสวยงามมาก สวยจริง ๆ สมเป็นผ้าวิเศษ   บุญของพระเจ้าแผ่นดินสูงส่งจริงจึงได้ผ้ามา  แล้วก็จัดงานฉลอง แหนแห่พระเจ้าแผ่นดินไปตามถนนสายต่าง ๆ เพื่ออวดผ้าวิเศษ   บังเอิญมีเด็กวิ่งเล่นกันอยู่ พอเห็นชบวนพระเจ้าแผ่นดินเสด็จมา  ก็พากันมองดูแล้วชี้มือหัวเราะกันสนั่นว่า ดู ดู พระเจ้าแผ่นดินเปลือยกาย  ๆ  ๆ ๆ มาดู ๆ ๆ  

กว่าความลับจะแตกโจรก็หิ้วหีบทองค่าโง่ของพระเจ้าแผ่นดินองค์นั้น หนีไปลิบแล้ว 

ข้อที่ 2 ถามว่ามีใครเข้าใจได้บ้าง   มีหลายคนยกมือ

ข้อที่ 3  มีใครเข้าใจดี   มียกมือหลายคน

ข้อ 4 มีใครเข้าใจดีมาก  ก็มีคนยกมืออยู่ 2-3 คน

นั่นคือหมู่คนผู้คิดว่าตนเป็นอริยบุคคล   ในสำนักสันติอโศก

วันนี้โพธิรักษ์ยังตำหนิท่านพุทธทาสภิกขุว่า  ท่านพุทธทาสไม่เข้าใจ เข้าไม่ถึงสาระอันสูงสุดของอภิธรรม  ก็เอาความไม่เข้าใจ ความ idiot  ของตนไปตัดสินว่าพระอภิธรรมเป็นส่วนเกินของพระไตรปิฎก  ...ดูจะเป็นการแสดงเพื่อยกตนสูงขึ้น   นี่แหละที่ว่าเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น   โพธิรักษ์ว่า  ที่คิดว่าเป็น  ginius ก็กลายเป็น idiot  ไปทันที 

แล้วไปชมเชย  พระหัวโล้นสุวิทย์ ที่ไปร่วมม็อบด้วยกัน

 

ที่จริง   สันติอโศกนี้  เป็ฯเพียงละครเวทีหนึ่งเท่านั้นเอง ......  หมายถึงเรื่องสมมติ  ไม่ใช่เรื่องจริง

และ    เสียสติ..............คือบ้า วิกลจริตจริง ๆ    พูดถึงเรื่องคุณธรรมอันสูงสุด แต่ความประพฤติจริงเป้ฯการทำลายชาติบ้านเมือง  ทำลายความชอบธรรม  ความยุติธรรม ทั้งทางโลกและศาสนา

ไม่เข้าใจการเมือง และไม่เข้าใจศาสนาในการเมือง

อย่างที่บอกไว้  อารยธรรมยุคใหม่   มันมีธรรมะอยู่ในนั้น เพียงแต่คุณมองไม่เห็น ค้นมันยังไม่เจอเท่านั้นเอง  ถ้าเจอ ก็จะหลุดรอดมาสู่อารยธรรมใหม่ของโลกสากล

มาสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงได้

 

 

  

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-10 23:40:56


ความคิดเห็นที่ 8 (3385690)

อ้าว    พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณหลบมาอยู่นี่เอง   ตำรวจ ......รีบมาเดี๋ยวคนร้ายจะหนีไป .....

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2014-02-10 23:51:53


ความคิดเห็นที่ 9 (3385692)

ตัวอย่างที่ดักดานเป็นคนรับใช้โพธิรักษ์อยู่ถึง 23ปี  23ปีที่สูญเสียรายได้ ไม่มีเงิน ไม่มีรายได้อะไรเลยมา 23 ปี  อดีตครูขวัญดิน .........   มีคนเช่นนี้มากในสันติอโศก  แต่ก็แก้ตัวไปแกน ๆ  ว่าถึงไม่มีเงินใช้ เราก็ได้ธรรมะ  เราอยู่กับธรรมะ

ที่จริง  พูดไป หัวใจร้องไห้ไป  ..................เจ็บปวดไป ............เสียดายชีวิตที่หลงทาง......ไม่น่ามาพบโพธิรักษ์เลย....

เพราะวันนี้   แม้โพธิรักษ์เองก็  เป็นอย่างเดียวกัน   จึงมีแต่คำปลอบใจ .........  ว่าตนอยู่กับธรรมะชั้นสูง ....เป็นพระอริยบุคคล.........การอยู่กับความจนเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่  เป็นคนจนผู้ยิ่งใหญ่  .........อะไรประมาณนี้  ทำให้คนเหล่านี้ถูกกระทำให้ลดทอนความเป็นสภาพปกติของมนุษย์   ไม่ได้เดินไปแบบธรรมชาติของมนุษย์ ..........ไม่มีโอกาสสัมผัสความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์  อายุก็มากแล้วยาก  เหมือนไม่แก่ดัดก็ยาก   น้ำตาก็เริ่มคลอไหลออกมา   น้อยใจในชีวิต   ที่ก้าวผิดพลาดไปอย่างไกลเกินจะถอยหลังกลับมาเริ่มใหม่ ....ในเส้นทางปกติของความเป็นมนุษย์     คือมนุษย์ผู้มีสิทธิที่จะกิน  สิทธิที่จะรวย  สิทธิที่จะท่องเที่ยว  สิทธิที่จะเสพรสใดใดตามใจปรารถนา และสิทธิที่จะแสวงหาความรู้  แสวงหาธรรม  ฯลฯ      และมนุษย์ผู้เป็นเสรีชน  ผู้มีหน้าที่  หน้าที่ของเสรีชน  ......

ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2014-02-11 00:10:09


ความคิดเห็นที่ 10 (3385754)

ถูกแล้ว  การที่เราใช้อำนาจหรือกลใดใดไปกำจัดหรือจำกัดสิทธิของคนอื่น หรือละเมิดสิทธิของคนอื่นนั้นเป็นความไม่ชอบธรรม  ไม่เป็นธรรม และไม่ยุติธรรม  และความชอบธรรม  ความเป็นธรรม และความยุติธรรมนั้นก็คือ   มนุษย์ย่อมมีเสรีภาพเดินไปตามสิทธิของเขา ......ถูกแล้วถูกต้องตามความเป็นมนุษย์ .....    คือมนุษย์ผู้มีสิทธิที่จะกิน  สิทธิที่จะรวย  สิทธิที่จะท่องเที่ยว  สิทธิที่จะเสพรสใดใดตามใจปรารถนา และสิทธิที่จะแสวงหาความรู้  แสวงหาธรรม  ฯลฯ      และมนุษย์ผู้เป็นเสรีชน  ผู้มีหน้าที่  หน้าที่ของเสรีชน .......

ผู้แสดงความคิดเห็น บัวระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ วันที่ตอบ 2014-02-12 07:28:50


ความคิดเห็นที่ 11 (3385757)

ประเด็นนี้ยังต้องเคลียร์อีกหน่อยนะครับ

เรื่องที่โพธิรักษ์แสดงธรรมระดับพระอภิธรรม ว่าด้วยเจโตปริยญาณ เป็นต้น ให้ม็อบสันติอโศกฟัง  ...  อันเป็นเรื่องสูงสุดของศาสนา

 

หัวข้อย่อแห่งอภิธัมมปิฎก มี ๗ คำคือ  สัง, วิ, ธา, ปุ, ก, ย, ป

สัง=สังคณี  ว่าด้วยการรวมหมู่ธรรมะ

วิ=วิภังค์  ว่าด้วยการแยกธรรมะออกเป็นข้อ ๆ เช่นเป็นขันธ์ ๕ เป็นต้น

ธา=ธาตุกถา  ว่าด้วย  ธาตุ

ปุ=ปุคลบัญญัติ  ว่าด้วย บัญญัติ ๖ ประการ เช่นบัญญัติขันธ์  บัญญัติอายตนะ

ก=กถาวัตถุ ว่าด้วย คำถาม  คำตอบ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

ย=ยมก  ว่าด้วย ธรรมเป็นคู่ ๆ

ป=ปัฏฐาน  ว่าด้วย ปัจจัย  คือ  สิ่งสนับสนุน ๒๔ ประการ

มีคำอธิบายของพระอรรถกถาจารย์ย่อ ๆ ไว้ว่า 

๑. วินัยปิฎก เป็น  อาณาเทศนา  คือ  การแสดงธรรมในลักษณะตั้งเป็นข้อบังคับ   โดยส่วนใหญ่ 

๒. สุตตันตปิฎก  เป็น  โวหารเทศนา  คือ  การแสดงธรรมยักย้ายสำนวนให้เหมาะสมแก่จริตอัธยาศัยของผู้ฟัง  

๓.  อภิธัมมปิฎก เป็นปรมัตถเทศนา คือการแสดงธรรมเจาะจงเฉพาะประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งเป็นธรรมะชั้นสูงไม่เกี่ยวด้วยท้องเรื่องหรือโวหาร

 

ความหมายที่ว่าอภิธัมมปิฎก เป็นปรมัตถเทศนา ซึ่งเป็นธรรมะชั้นสูง  มีหัวข้อศึกษาต่อไปอีกดังนี้

อภิธัมมปิฎก  เป็น  ยถาธัมมสาสนะ  คือการสอนตามเนื้อหาแท้ ๆ ของธรรมะ

อภิธัมมปิฎก เป็น นามรูปปริจเฉทกถา  คือ  ถ้อยคำที่สอนให้กำหนดนามแลรูป คือร่างกายจิตใจ

อภิธัมมปิฎก เป็น อธิปัญญาสิกขา คือ  ข้อศึกษาเกี่ยวกับปัญญาชั้นสูง 

อภิธัมมปิฎก เป็น อนุสยปหาน  คือ เครื่องละกิเลสอย่างละเอียด อันได้แก่กิเลสที่นอนอยู่ในสันดาน  เหมือนตะกอนนอนก้นตุ่ม  ไม่มีอะไรมากวนก็ไม่แสดงตัวออกมา

(จาก สุชีพ ปุญญานุภาพ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน พิมพ์ครั้งที่ ๕/๒๕๒๕ หน้า ๒๓-๒๕)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บัวระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ วันที่ตอบ 2014-02-12 08:20:02


ความคิดเห็นที่ 12 (3385761)

ที่จริงวันนั้น โพธิรักษ์ได้พูดถึงลักษณะ  อนุสยปหาน คือเครื่องละกิเลสอย่างละเอียด  ......อันเป็นอภิธรรม....แล้วก็ตั้งคำถามขึ้น 4 ข้อ ๆ ที่ 1 ว่า   ใครฟังไม่รู้เรื่องเลยมีบ้างไหม?  .........  ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดยกมือขึ้นเลย  แต่คำถามข้อ 2  ถามว่าใครฟังพอรู้เรื่องบ้าง   มีคนยกมือ 2-3 คน  ข้อ 3 ถามว่าใครฟังรู้เรื่องดี   มีคนยกมือหลายคนกว่าเดิมอีก  ประมาณ 5-6 คน  ข้อ 4 ถามว่า ใครฟังรู้เรื่องดีมาก  มีคนยกมือ 2-3 คน   

อธิบายได้เหมือนนิทานจากอังกฤษเรื่องกษัตริย์ถูกหลอกให้เปลือยกายอวดประชาชนทั้งเมือง   ว่า สังคมสันติอโศก เป็นสังคมที่คิดว่าตนเป็นอริยบุคคลไปตาม ๆ กัน  ....จนกลายเป็นการพยายามหลอกตนเอง  เสียสติไปตาม ๆ กัน   ฉะนั้นเมื่อมีคำถามว่าใครฟังไม่รู้เรื่องเลยมีไหม  คนก็กลัวว่าตนจะไม่ใช่อริยบุคคล  ก็ไม่มีใครยกมือกันเลย ...........นอกจากนั้น  คำถามข้อที่ 4  ที่ถามว่า ใครฟังรู้เรื่องดีมาก ก็ยังอุตส่าห์มียกมือกัน 2-3 คน  นั่นระดับ อรหันต์ เลยละ    ..........สรุปวิเคราะห์คำถามนี้  ชี้ว่า  ม็อบที่นั่งฟังธรรมกัน ณ ที่นั้น จาก

คำถามที่ 1 ที่ว่า มีใครฟังไม่รู้เรื่องเลย มีไหม ?  นี่คือคำถามที่ทดสอบระดับ  โสดาบัน   ในเมื่อไม่มีใครยกมือเลย  ก็แปลว่าทุกคนในที่นั้นล้วนได้ดวงตาเห็นธรรมระดับโสดาบันขึ้นไปทั้งนั้น    

คำถามที่ 2 ที่ว่า ใครพอฟังรู้เรื่องบ้าง  มีอยู่หลายคนยกมือ     นี่ระดับสกิทาคามี

คำถามที่ 3  ที่ว่า ใครฟังรู้เรื่องดี    มีอยู่หลายคนยกมือ   นี่ระดับ  อนาคามี

คำถามที่ 4  ที่ว่า  ใครฟังรู้เรื่องดีมาก   มีอยู่ 2-3 คน   นี่ระดับอรหันต์เลยละ แปลว่ามีอรหันต์หลายองค์ในสังคมสันติอโศกวันนี้

แน่ละ  ม็อบสันติอโศก หรือม็อบกองทัพธรรม ต่างก็เชื่อกันจริง ๆ ว่าตนเป็นหมู่คนดีอย่างยิ่ง  เป็นระดับอริยบุคคล  ....................................พวกเขาจึงเหยียดคนทั่วไปว่าเป็นวัว ควาย  กระบือ  สุนัข แมว  ............

และต่อต้านสิทธิ 1 คน 1 เสียง  คือต่อต้านระบอบประชาธิปไตย  อย่างที่พวกเขาทำอยู่วันนี้

คือต้องการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย  และล้มล้างประชาธิปไตยโดยตรง

พวกเขามีความผิดตามกฎหมาย   แน่นอน ฐานสนับสนุนกบฏ  ผิดพรก.ฉุกเฉิน ฯ   ฯลฯ   แต่คนดีเหล่านี้ไม่รู้เรื่องเลย

ข้อที่น่าเอาไปพิจารณาก็คือ    คนเหล่านี้ยังอ่านธรรมะไปตามตำราอยู่    ยังไม่สามารถเข้าใจพระอภิธรรมได้อย่างแท้จริง .....   ตามธรรมชาติ

อย่างที่ท่านพุทธทาสภิกขุ นิยามธรรมะออกมาว่า  ธรรมะคือ ธรรมชาติ  นั้นแหละ 

 

และอภิธรรมนั้นอยู่ใน   ประชาธิปไตย   อยู่ในอารยธรรมวิทยาศาสตร์  เพียงแต่อ่านให้เข้าใจ  ค้นให้พบ  เท่านั้นเอง

 

ฉะนั้นโดยสัจธรรม  ประชาธิปไตยจะเจริญไป  ก็ต้องเจริญไปในธรรมด้วย  เพราะประชาธิปไตยกับความเป็นธรรม เป็นของคู่กัน  ประชาธิปไตยกับความยุติธรรมเป็นของคู่กัน .......ยังคงต้องเจริญไปโดยมีอภิธรรมเป็นสาระ ที่กำหนดกฎเกณฑ์และกติกาประชาธิปไตย  อันเป็นสากลทั่วโลก

หรือมีวัฒนธรรมอภิธรรมในกติกาประชาธิปไตย นั่นเอง  นับแต่กติกาการแข่งขัน  ที่พรรคการเมืองและประชาชนผู้สนับสนุนพรรคการเมืองจะต้องละโลภ โกรธ  หลง  จะต้องเล่น แข่งขันการเมืองกันด้วย จิตว่าง  มีน้ำใจเป็นนักกีฬา  รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย    เป็นต้น 

แต่ทุกวันนี้  พรรคประชาธิปัตย์เต็มไปด้วยความแค้น ไร้การอภัย ไร้น้ำใจนักกีฬาโดยสิ้นเชิง   มีจิตคิดอิจฉาริษยา  ปราศจากการอภัย  ไม่รู้แพ้ ไม่รู้ชนะ  เกเรเกตุง  ไร้การสร้างสรรค์  ค้านทุกอย่างที่ขวางหน้า ........โพธิรักษ์ คุณดูประชาธิปัตย์ในสภาบ้างหรือเปล่า ........นั่นอันธพาลเราดี ๆ นี่เอง  ......  นี่คือประเด็นอภิธรรม ที่ต้องมีในสำนึกของนักการเมือง  แต่มันไม่มี   ..............   มาจนถึงเวลานี้   นักการเมืองก็ไม่มี  และสันติอโศกก็ไม่มี  โพธิรักษ์ก็ไม่มี  ก็เลยเป็นม็อบปากอย่างใจอย่าง พวกทำลายชาติ  ทำลายประชาธิปไตย .........  โดยผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน  ทั้งปวง   .....  จะต้องรับผิดชอบ   ในการกระทำของตน   ตามกฎหมาย     

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บัวระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ วันที่ตอบ 2014-02-12 09:43:40


ความคิดเห็นที่ 13 (3386178)

สดจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ  แวะมาดูตอนนี้ สี่ทุ่มห้าสิบ

วันนี้เศร้าใจกันทั้งเวที   พวกของตนทำระเบิดฆ่าพวกตนเองตายไป 4   ที่นี่ ที่สะพานนี้   นี่เป็นเวทีกองทัพธรรม   พวกอริยะบุคคล   มีเทวทัต  โพธิรักษ์ อริยบุคคลใหญ่ระดับโพธิสัตว์ คุมกองกำลังม็อบอยู่...

 

ก็แค้นมากละมั้ง 

ทั้งเศร้าโศก น้ำตาคลอ   อย่างหมออะไรที่พูดไป ด่าไปขณะนี้ 

มีคนเขาว่า  แท้จริงประชาชนที่มาร่วมชุมนุมก็ทะยอยหนีกลับบ้านไปจวนหมดแล้ว   เห็นอยู่เวลานี้มีอยู่หน้าเวที 2-3 คนเท่านั้นเอง  ........น่าจะจริง   แต่ก็อุตส่าห์เรียกพวกตนว่า  มหาประชาชน 

 

ก็หวังว่าจะออกอากาศไปให้คนอื่นดูที่บ้านด้วย   อย่างผมก็ผ่านมาดู

 

โอ     ทำไมแค้นกันขนาดนั้น  คุณแค้นเรื่องอะไร  ไหนว่าเป็นกองทัพธรรม  เป็นพวกอริยะ   ..........ไปแค้นทักษิณเขาทำไม

 

ที่สำคัญ คุณหมอพูด ๆ  คำหยาบคาย  ดพ้อเจ้อ ระบายความแค้นเช่นนี้  มันสะท้อนถึงพ่อครูโพธิรักษ์   แปลว่าพ่อครูฯก็พอใจด่า  พอใจโกหกพกลม   และพอใจกับการด่าทักษิณ

 

เป็นนักบวชอะไรเที่ยวไปด่าคนอื่นเขาโดยไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง

อย่าแค้นนักเลย   คุณหมอ  ลองสงบจิตสงบใจไปศึกษาเรื่องระบอบประชาธิปไตยให้ดีสักหน่อย  ค่อยมาพูด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรภพ ธียุตม์ วันที่ตอบ 2014-02-19 22:58:20



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.