7 โหราศาสตร์ 7 2555เตือนภัยไฟ...

7 โหราศาสตร์ 7 2555เตือนภัยไฟไหม้กทม.ครั้งใหญ่หมอดูวิกลจริต ทักษิณจะได้กลับบ้านไหม?
สำหรับตั้งประเด็นปัญหาทางโหราศาสตร์ 1. ดวงชะตาสมยศ พฤกษาเกษมสุข............ความเห็นที่ 2 2. สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์............................ ความเห็นที่ 3 3. สุพจน์ ทรัพย์ล้อม.........................ความเห็นที่ 5 4. ดวงประเทศไทย ; จะมีรัฐประหารในปีนี้หรือไม่ ทำไมบ้านเมืองวุ่นวายจัง? ไม่มีรัฐประหาร แต่ระวังไฟไหม้กทม.ครั้งใหญ่ ระวังมีสิทธิ์เกิดวินาศน์กรรม..........................ความเหนที่ 11-12-13-14 5. ดวงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ........ 6. ขอให้ดูคำทำนายโสรัจ นวลอยู่ ผมว่าเป็นคนวิกลจริต หมอดูวิกลจริตจริงไหม ?.................ความเห็นที่ 18-19-20 7. ตอบหิ่งห้อย....ยืนยันไฟไหม้ วินาสภัย กทม.....................................ความเห็นที่ 24 8. ทักษิณ ชินวัตร จะได้กลับบ้านไหม เมื่อไร ? ..............................ความเห็นที่ 37 9. จะมีน้ำท่วมใหญ่ปี 2555 อีกหรือไม่ เกรงข่าวแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์.................................ความเห็นที่ 40-41 10. จะมีอุบัติเหตุหรือเรื่องการลอบทำร้ายทักษิณหรือไม่? ..................................ความเห็นที่ 11. จตุพร พรมพันธ์ จะรอดหรือไม่ ? .............................ความเห็นที่
ผู้ตั้งกระทู้ 001 :: วันที่ลงประกาศ 2012-01-24 19:29:16

<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 51 (3334835)
ความยุติธรรมนี่สำคัญมากนะ เพราะที่เขามาเรียกร้องก็เพราะสิ่งนี้ เพื่อนร่วมรบเขาควรได้รับอิสรภาพเพราะเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนจะพาทักษิณกลับบ้านนั้นเป็นเรื่องเล็กมากนะ เมื่อเทียบกับแสงสว่างที่ประชาชนคนเสื้อแดงต้องการ
ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2012-05-27 22:02:46

ความคิดเห็นที่ 52 (3337682)
ตอนนี้ประชาชนเริ่มเบื่อรัฐบาลขี้กลัวเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องชะลอการเข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ไทย หลายหน่วยงานออกมาการันตีว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างมหาศาลในด้านการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ ไม่เกี่ยวกับการทหาร ทั้งนักวิทยาศาสตร์ ทั้งกองทัพเรือ ทั้งท่านทูตสหรัฐ ทำไมรัฐบาลไม่กล้าต่อสู้กับความเท็จที่พรรคการเมืองบางพรรคพยายามตีข่าวสร้างกระแส แทนที่รัฐบาลจะตอบโต้ด้วยยุทธวิธีการนำเสนอความจริงด้วยผู้รู้มากมาย แต่กลับไปเลือกยุทธวิธีล่าถอยให้เสียผลประโยชน์ของชาติ เสียประโยชน์ของประชาชน และที่สำคัญเสียความรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจ ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของฝ่ายบริหาร รัฐบาลน่าจะรู้นะว่าองค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญ กกต. นั่นเหลือเครดิตไม่มากในสายตาประชาชน แล้วทำไมจึงเลือกทำอะไรบ้าๆบอๆที่เป็นการลดเครดิตตัวเอง ทำไมจึงคิดว่าตัดสินใจชะลอโครงการแล้วนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ พรรคปชป. เขาดิตเครดิตตัวเองจนไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ยังไปให้เครดิตด้วยการลดเครดิตของครม. ประชาชนจะคอยดูว่าใครจะเสียมากกว่ากัน ชักเชื่อ ช.โหรชนบทแล้วซีว่าลักษณะโหงวเฮ้งท่านยิ่งลักษณ์บางอย่างมีเรื่องเหนื่อยเปล่า แต่ที่เหนื่อยกว่าน่าจะเป็นคนเสื้อแดง พลาดแล้วอย่าลืมกลับลำนะเดี๋ยวจะว่าไม่เตือน
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2012-06-27 20:29:09

ความคิดเห็นที่ 53 (3337947)

ตอบคำถามหิ่งห้อย ความเห็นที่ 50

ความเห็นที่ 11 (3324863)

ตอบนักศึกษาโหราศาสตร์
ดวงประเทศไทย

การที่ดาวเสาร์(๗)จรเข้าราศีตุล เป็นมหาอุจ เกรงกลัวเรื่องพลังของดาวเสาร์(๗) ดาวขนาดใหญ่ที่สุดในจักรราศีที่เป็นมหาอุจ เล็งลักคณาดวงเมือง ........ ตามคติเดิมของโหรไทยมองดาวเสาร์(๗)ว่าเป็นดาวร้าย   จึงมองว่าจะเกิดเหตุร้ายในระหว่างที่เสาร์(๗)จรเล็งดวงเมืองอยู่ ระหว่าง 7 ธ.ค.2554 - 5 เม.ย.2555 รอบแรก   และรอบหลัง 10 ก.ย. 2555 - มิ.ย. 2557

1.     แม้ว่าจะมองว่าเป็นดาวร้ายขนาดหนักที่สุดในจักรราศีก็ตาม   ดาวเสาร์(๗)จรเข้าราศีตุลอย่างไกลที่สุดก่อนจะพักรถอยหลังกลับไปราศีกันย์เมื่อ 5 เม.ย.2555 ดาวเสาร์ไปได้แค่ 0 องศา 4 ลิบดา เท่านั้นเอง ในขณะที่ลักคณาเมืองอยู่ที่ 19 องศา 42 ลิบดา อาทิตย์(๑)เดิมมหาอุจ ที่กุมลักคณาเมือง อยู่ที่ 10 องศา 42 ลิบดา ..... องศาดาวยังห่างไกลมาก   ต้องมาอยู่ระยะ 3 องศาลงไปครับ    จึงจะเกิดอันตราย   ฉะนั้นตามทฤษฎีนี้ รอบแรกจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่

2.     รอบที่ 2 เริ่ม 7 ก.ย.2555   เมื่อราหู(๘)จรมาสมทบดาวเสาร์(๗)จร เมื่อ 10 ธ.ค. 2555 นั้น เสาร์(๗)จรได้ 11 องศา 11 ลิบดา จะเห็นว่า เสาร์(๗)เล็งทับอาทิตย์(๑)เดิมมหาอุจที่อยู่ ณ 10 องศา ตรงนี้ถ้ามองว่า มหาอุจเจอมหาอุจ ย่อมบรรลัยแน่ ก็น่ากลัว.....แต่ประเด็นคือ ความรอบคอบในการมอง ไม่ควรมองจากมุมแคบ   ...แค่นี้......แต่ถึงมองจากมุมแคบแค่นี้ ก็ลองมองให้ตรงประเด็น ......... มองที่ดาวเสาร์(๗) กับดาวอาทิตย์(๑) ต่างเป็นธาตุไฟด้วยกัน   มีฐานะเป็นคู่ธาตุ...และคู่ธาตุไฟ....คู่นี้ค่อนข้างมีสัมพันธ์ดีในดวงเดิมโดยร่วมธาตุ ความหมาย ๆ ถึงความคิดริเริ่ม ...อ่านได้ว่า จะมีการปะทะกันเชิงความคิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ในเชิงสร้างสรรค์  ของระดับปัญญาชนและระดับกรรมาชีพ ในประเทศไทย   เน้นลักษณะการขัดแย้งทางความคิดรุนแรงแต่สร้างสรรค์    .......   ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี หมายถึงการสังเคราะห์ความคิดของสังคมกันอย่างกว้างขวาง

3.    เอาละ รัฐประหารจะมีไหม .... มีเค้าอยู่ระหว่างนี้เอง คือ ระหว่างที่อาทิตย์ (๑)จรสู่ราศีตุล และอังคาร(๓)จรสู่ราศีธนู ระหว่าง 17 ต.ค. - 16 พ.ย.2555.........ที่ว่านี้ เป็นเพียงเค้าเท่านั้นนะครับ   จริง ๆ ไม่มีหรอก ....สถานการณ์ตอนนั้นจะสับสนวุ่นวายพอสมควรจนมีคนบางพวกบางหมู่เรียกร้องการรัฐประหาร    .....   แต่ไม่มีรัฐประหารหรอกเพราะข้อที่ 4 ครับ

4.     ขณะนั้นดาวอังคาร(๓)จรเป็นมนตรีจร.....บอกถึงทหารปกป้องประเทศชาติ...ไม่ใช่ทำลายประเทศชาติ และที่สำคัญดาวอังคาร(๓)ดวงนี้จรอยู่ในภพที่ 12(ภพวินาสน์) ของดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ........อ่านได้หลายความหมายครับ 1, พล.อ.ประยุทธ ผิดหวังที่ไม่อาจจะทำรัฐประหารได้ ...น่าเป็นเพราะทหารส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยนั่นเอง......2,   วงการทหารทั่วไป ไม่ยอมรับรู้สถานการณ์ขณะนั้นเลย ปิดตัวเองสนิท ปลีกตัวเองไปห่างไกลจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนั้น 3.    บอกถึงบทบาทของทหารในทางลบ ถ้ามีการเคลื่อนไหวทางทหาร ก็จะทำไปไม่สำเร็จ จะเกิดหายนะอย่างใหญ่แก่วงการทหารเอง ......   จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการไม่มีรัฐประหาร .......แต่ที่สำคัญปรากฎที่ข้อ 5

5.      ถ้ามีรัฐประหาร พรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร ก็พังใช่ไหมครับ   และ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จะเป็นอย่างไร   พังใช่ไหม .....ฉะนั้น เพื่อให้รอบคอบ แล้วทำไมไม่ตรวจดูดวงพรรคเพื่อไทย และดวงยิ่งลักษณ์ประกอบ .....ตรวจแล้วพบว่าดวงชะตาของพรรคเพื่อไทยช่วงนั้น กลับเข้มแข็งอย่างยิ่ง (ได้พยากรณ์ไว้แล้วโปรดดูในสารบาญโหราศาสตร์) เพราะดาวเสาร์(๗)จรเป็นมหาอุจทับลักคณา เป็นองค์เกณฑ์แก่นรราศีพรรคเพื่อไทย   ..... ในขณะเดียวกัน ดวงยิ่งลักษณ์ ยิ่งเข้มไปกว่าเดิม เข้มด้วยผลงานเพื่อประชาชน ได้ผล   อย่างแรง    เพราะดาวเสาร์(๗)จรเข้าภพที่ 4 ของชะตา นรม. เป็นองค์เกณฑ์มหาอุจแห่งอัมพุชราศี   ให้คุณสถานเดียว และยังให้คุณต่อไปอีกติดต่อกันไปเป็นเวลาประมาณ 5 ปี (ระหว่าง 7 ก.ย.2555 - 1 ธ.ค.2560) ........(โปรดติดตามในสารบาญโหราศาสตร์)

6. แต่สำหรับดวงชะตา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากมีดาวราหู(๘)เดิมอยู่ภพที่ 10 ของชะตา บอกให้รู้ถึงภาระในการบริหารประเทศชาติจะหนัก ยากลำบากไปทุก ๆ เวลานาที ไม่มีอะไรง่ายดาย แต่กระนั้นบังเอิญเป็นคนเกิดวันพุธ ทำให้ราหู(๘)ดวงนี้เป็นศรีในทักษา ที่บ่งความหมายของชัยชนะและรุ่งโรจน์   อุปมาเหมือน นารีขี่ม้าขาว นั่นเอง    กระนั้นสิ่งที่จะเป็นไปในวาระของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็จะมีลักษณะการรบ หรืออยู่ในระหว่างสงครามอยู่ตลอดเวลา เป็นธรรมดาที่จะมีเรื่องมีราวที่ดูวุ่นวายเช่นปัจจุบันนี้ไปตลอด ๆ .....   แต่ในระยะที่ดาวเสาร์(๗)จรเข้าสู่ราศีตุลเป็นมหาอุจ นั่นแหละเป็นระยะที่ชะตานี้กลับจะรุ่งโรจน์ เพราะเสาร์(๗)จรพบราหู(๘)เดิม และครั้นถึงเดือน ธ.ค.2555ราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีตุลพบเสาร์(๗)จรมหาอุจ ยิ่งรุ่งเรืองไปกว่าเดิม และนำพาประเทศไทยไปไกลปัญหายิ่งขึ้น ๆ  นั่นหมายถึงเจริญก้าวไปอีกก้าวใหญ่ทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อเสาร์(๗)ให้ความหมายถึงประชาชน-ประชาธิปไตย ....

7.     การที่ดาวเสาร์(๗)จรเข้าเล็งดวงเมืองที่กลัวกัน เพราะเข้าสูตรตำราเดิมว่า ดวงแตกนั้น เป็นการมองตื้นเกินไป ต้องมองว่าเสาร์เดิมมีฐานะอย่างไรในดวงชะตาประเทศไทยด้วย เสาร์(๗) เป็นกัมมะหรืองานเป็นเจ้าเรือนภพที่ 10 หมายถึงชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศ เมื่อเสาร์เป็นมหาอุจ งานของประเทศไทยก็ต้องขยายออกไป ชื่อเสียงของประเทศไทยก็ต้องเจิดจ้าขึ้น จริงอยู่มีความขัดแย้งระหว่างเสาร์(๗)จรมหาอุจ กับอาทิตย์(๑)เดิมมหาอุจ แต่ก็เป็นคู่ธาตุไฟ หมายถึงการสังเคราะห์ครั้งใหญ่ของความคิดของสังคม ........ในทางสร้างสรรค์ เพื่อสิ่งใหม่ที่ดีเกิดขึ้นในสังคมนี้   ..... และมีสถิติยืนยันในข้อ 8

8.     เราได้สำรวจการจรของดาวเสาร์(๗) ว่ามีส่วนในการปฏิวัติรัฐประหารในไทยหรือไม่ ถ้ามี ๆ กี่ครั้ง   ได้พบว่า มีการปฏิวัติและรัฐประหารในประเทศไทย หลัง 24 มิ.ย.2475 มาถึง 12 ครั้ง ปรากฎว่าในการปฏิวัติรัฐประหารแต่ละครั้งนั้น ไม่มีบทบาทของดาวเสร์(๗)ไปเกี่ยวข้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดาวเสาร์(๗)ในราศีตุล ที่เล็งดวงชะตาเมืองนี้ ไม่เคยสร้างปัญหาอันร้ายแรงแก่ประเทศจนต้องมีการปฏิวัติรัฐประหารเลยแม้สักครั้ง   ................ นั่นก็เพราะบทบาทหน้าที่ขงดาวเสาร์(๗)ในดวงชะตาประเทศไทย เป็นบทบาทของการสร้างสรรค์ล้วน ๆ นั่นเอง   ......      จึงยืนยันได้อย่างมั่นใจโดยสถิติว่า เมื่อดาวเสาร์(๗)มาเล็งดวงเมืองที่ราศีตุล... รัฐประหารย่อมอยู่ห่างไกลเสมอ     ......

ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-02-01 22:57:25

คำถาม : อยากทราบว่า 91 ศพจะได้รับความเป็นธรรมจากคดีความหรือไม่ ไม่ใช่การเยียวยานะ แต่เป็นการนำคนผิดมาลงโทษ เพราะ 21 พ.ค. 55 ศาลเริ่มนัดไต่สวนพยานโจทย์แล้ว 3 ศพ ขอขอบคุณล่วงหน้าและจะติดตามการทำนายของท่าน ช.โหรชนบทและโหรท่านอื่นๆ

ตอบ :- การจะหาคำพยากรณ์ในเรื่องนี้เป็นการยากครับ เพราะต้องมีดวงชะตาของ 91 ศพ มาเป็นฐานข้อมูลสำหรับการพยากรณ์ และถึงได้ดวงชะตามาก็ยังมีปัญหาทางวิชาการโหราศาสตร์ ในแง่ที่ว่าจะตั้งสมมติฐานว่าอย่างไร ฯลฯ ........ จึงน่าจะสามารถหาคำตอบได้จากสถานการณ์รวม ๆ ของดวงชะตารวม ๆ ได้แก่ดวงชะตาประเทศไทย ฯลฯ

และขอให้หวลกลับไปดูคำพยากรณ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-06-30 09:54:37

ความคิดเห็นที่ 54 (3337950)

ความเห็นที่ 12 (3324867)

หมายเหตุ   เราได้คำนวณที่ตั้งลักคณา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พบว่าน่าจะอยู่ราศีมกร (โปรดดูสารบาญโหราศาสตร์ ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูท้ายเรื่อง)   ....   ตามนี้จะแสดงถึงความใกล้ชิดกันอย่างยิ่งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ กับ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร .... โดยเฉพาะเมื่อวาระที่เสาร์(๗)จรอยู่ในราศีตุล หรือ 5 ปีข้างหน้าแห่งรบ.ยิ่งลักษณ์

น่าเป็นไปได้ที่พล.อ.ประยุทธ จะวางแผนชีวิตหลังเกษียณราชการในทางการเมือง และน่าจะร่วมกับพรรคเพื่อไทย ได้ดีมาก ..... การที่ดาวประจำตัว หรือ ตนุลักคณ์เป็นดาวเสาร์(๗)มหาอุจ ย่อมให้ความหมายที่ดีมาก ในทางประชาชนและประชาธิปไตย    ......   หมายความว่า มีสิทธิ์ที่จะเป็นนักการเมืองที่ชนะใจประชาชนอย่างกว้างขวางได้

แต่ดวงชะตานี้ มีสัมพันธ์อันเลวกับอีกพรรคหนึ่งคือพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นอริและมรณะ ระหว่างกันและกัน ระหว่างพล.อ.ประยุทธกับพรรคประชาธิปัตย์ (ลักคณาพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ราศีสิงห์ ของพล.อ.ประยุทธ อยู่ที่ราศีมกร....เป็นอริ มรณะ แก่กันและกัน)   ......   โดยหลักการนี้ อย่างน้อยก็แสดงถึง ถ้าพล.อ.ประยุทธ ร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่น่าจะได้ดิบได้ดีอะไรเลย.....ในทางตรงกันข้าม จะได้ดีอย่างยิ่ง หากร่วมมือกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย.... กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดวงชะตาพล.อ.ประยุทธ ค่อนข้างใกล้ชิดประชาชน มีสิทธิเจริญในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างสูงสุดทีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-02-02 07:49:37

ความเห็นที่ 13 (3324898)

บันทึกสถิติดาวเสาร์กับการปฏิวัติรัฐประหารไทย 12 ครั้ง

1. รัฐประหาร 1 เม.ย.2476...พระยาพหลประกาศพรฎ.ปิดสภาผู้แทนราษฎร... ดาวเสาร์(๗)อยู่ที่ราศี มกร (ไม่ได้อยู่ที่ราศีตุล)
2. รัฐประหาร 20 มิ.ย.2476...พระยาพหลนำยึดอำนาจพระยามโนปกรณ์ฯ ...    ดาวเสาร์(๗)อยู่ที่ราศี มกร
3. รัฐประหาร 8 พ.ย.2490... พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ ยึดอำนาจ พล.ร.อ.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์... เสาร์(๗)อยู่ที่ราศี กรกฎ
4. รัฐประหาร 6 เม.ย.2491 ...คณะทหารตาม 3 จี้นายควง อภัยวงศ์ ออกและมอบตำแหน่งนรม.ให้จอมพลป.... เสาร์(๗)อยู่ กรกฎ
5. รัฐประหาร 29 พ.ย.2494...จอมพลป.ยึดอำนาจร ฐบาลตนเอง... เสาร์(๗)อยู่ราศี กันย์
6. รัฐประหาร 16 ก.ย.2500...จอมพลสฤษฎิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจรัฐบาลจอมพลป.นรม.... เสาร์(๗)อยู่ราศี พิจิก
7. รัฐประหาร 20 ต.ค.2501... จอมพลสฤษฎิ์ยึดอำนาจจอมพลถนอม... เสาร์(๗)อยู่ พิจิก
8. รัฐประหาร 17 พ.ย.2514...จอมพลถนอม ยึดอำนาจตนเอง...เสาร์(๗)อยู่ราศี พฤษภ
9. รัฐประหาร 6 ต.ค.2519 ...พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาลมรว.เสนีย์ ปราโมช... เสาร์(๗)อยู่ราศี สิงห์
10.รัฐประหาร 20 ต.ค.2520... พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร... เสาร์(๗)อยู่ราศี สิงห์
11.รัฐประหาร 23 ก.พ.2534...พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ... เสาร์(๗)อยู่ราศี มกร
12.รัฐประหาร 19 ก.ย.2549... สนธิ บุณยรัตน์กลิน ยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... เสาร์(๗)อยู่ราศี กรกฎ

จะเห็นว่าขณะที่เกิดเรื่องรัฐประหารขึ้น12ครั้งนั้น.....เราน่าจะได้เห็นว่ามีดาวเสาร์(๗)อยู่ที่ราศีตุลบ้างสักครั้ง ....แต่ก็ไม่มีเลย แม้แต่ครั้งเดียว.....ทั้งนี้เพราะดาวเสาร์(๗)ที่ราศีตุล เป็นจุดที่ดาวเสาร์(๗)แรงที่สุดใน 12 จักรราศีเพราะเป็ฯมหาอุจ และยังเล็งดวงเมือง อีกด้วย ซึ่งการที่ดาวร้ายดวงนี้(ตามคติโหรเดิม) เล็งดวงเมืองนั้นน่าจะเป็นเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ในประเทศไทย     แต่ก็ไม่มีเลย .....

นี่คือสถิติ........สำคัญ .....เกี่ยวกับดาวเสาร์(๗).........ที่แสดงว่าดาวเสร์(๗) ไม่ได้เป็นดาวร้าย ที่ทำลายประเทศชาติ เมื่อจรเล็งดวงเมือง ตามคติเดิมของโหรไทย

*-ช.โหรชนบท
   3 ก.พ.2555/10.20 น.

ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-02-02 10:15:02

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-06-30 11:14:50

ความคิดเห็นที่ 55 (3337972)

พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบหรือไม่?

จากคำพยากรณ์ข้างต้นนั้น เราจะขอทบทวนให้มองประเด็น ๆ ที่น่ามอง ดังนี้

1. สถานการณ์ปั่นป่วนที่น่าหวาดหวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุร้ายแก่ประเทศชาติ และทั้งจะอาจเกิดการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้ง เลือดจะนองแผ่นดินอีกครั้งนั้น ....... เกิดจากอิทธิพลของดาวใหญ่คู่นี้คือดาวเสาร์(๗) และดาวราหู(๘) ซึ่งเริ่มแผ่อิทธิพลออกครอบดวงชะตาประเทศไทยมาตั้งแต่ 24 พ.ค.2554 และเป็นเหตุของน้ำท่วมใหญ่ ระดับสินามิน้ำจืดในประเทศไทย ปี 2554 ซึ่งเราเองได้ให้การพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดน้ำท่วมใหญ่ อย่างไม่ผิดพลาดเลย ทั่งเหตุการณ์ และช่วงเวลา (โปรดดูสารบาญโหราศาสตร์)

2. ห้วงระยะเวลาของเหตุการณ์ที่น่าสังเกตก็คือ เมื่อดาวเสาร์(๗)เดินพักรหรือถอยหลังสู่ราศีกันย์ โดยเริ่มในวันที่ 5 เมษายน 2555 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ และยังจะอย่ในราศีกันย์ต่อไปอีกถึงวันที่ 7 ก.ย.2555 ทำให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น..อะไร ๆ ที่วุ่นวายและขัดแย้งแรงก็จะอยู่ระหว่างช่วงนี้หมด ...ซึ่งแสดงถึงพลังอำนาจของดาวที่พักรถอยหลัง(ตามทฤษฎีดาวพักร) ว่ามีพลังแรงผิดปกติจริง ๆ ฉะนั้นประเทศไทยจึงจะตกอยู่ในสถานะปั่นป่วนแรงผิดปกติก็ในช่วงเวลาที่ดาวเสาร์(๗)พักรถอยหลังสู่ราศีกันย์นี้เอง และเห็นได้ว่าพลังดาวคู่นี้ได้กระทบต่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของรัฐบาลอย่างรุนแรงมาก โดยถูกบีบ และกดดันอย่างรุนแรง เนื่องจากอยู่ระหว่างขนาบของเขาควาย มีดาวเสาร์(๗)อยู่ด้านหลัง และดาวราหู()๘)อยู่ด้านหน้า แต่บังเอิญในระยะที่ดาวอังคาร(๓)จรมาสมทบดาวเสาร์(๗)จร ในวันที่ 22 มิ.ย.2555 ซึ่งหมายถึงสถานการณ์แตกหักนั้น ดาวศุกร(๖) ซึ่งเป็นดาวตนุลักคณ์ของชะตาพรรคเพื่อไทย ได้จรเข้าสู่ราศีพฤษภเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. 2555 ซึ่งหมายถึงความปลอดภัยของพรรคเพื่อไทย ..........ประกอบกับขณะนั้นดาวพุธ (๔) จรลงมาที่ภพที่ 10 ของดวงชะตาพรรคเพื่อไทย [พุธ(๔)จรในกรกฎระหว่าง 22มิ.ย.-12 ก.ค.2555] โดยศักดิ์ฐานะเป็นมนตรีจร ทายได้ว่าไม่โดนยุบพรรคแน่นอน ......... ขอให้พ้นระยะเวลาช่วงนี้ไปเท่านั้นเอง จนถึงเวลาที่ดาวเสาร์(๗)จรเดินหน้าเข้าราศีตุลในวันที่ 7 ก.ย.2555เป้นต้นไป ก็เป็นระยะของความรุ่งเรือง และสง่าราศีแห่งพรรคเพื่อไทยบนแผ่นดินไทยโดยแท้จริง พร้อมทั้งเกียรติยศชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลก ...........

......ก็ไปมองดวงชะตานายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งดวงชะตานี้ แม้ในระยะที่ดาวเสาร์(๗)พักรถอยหลังไปสู่ราศีกันย์ ก็ยังไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย .... แม้ว่าจะถูกถอนระดับความมั่นคงออกไประดับหนึ่งก็ตาม นั่นก็เพราะอำนาจราหู(๘)จรเป็นมหาอุจอยู่ในราศีพิจิก ในฐานะอัมพุชเกณฑ์ นั่นเพียงเหตุผลหนึ่ง แต่เพราะ ดาวพฤหัสบดี(๕) จรมาสู่ราศีพฤษภตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2555 ......ในตำแหน่งที่ 11 แก่ลักคณายิ่งลักษณ์ ชินวัตร เช่นนี้ ไม่มีอันตรายใดจะข่วนได้ตราบที่ดาวพฤหัสบดี(๕)จรมาสู่ตำแหน่งนี้ [พฤหัส(๕) อยู่ในพฤษภนี้ถึงวันที่ 29 พ.ค.2556] แถมในระยะวิกฤต ยังมีดาวศุกร์(๖)จรถอยหลัง พักรมาสมทบดาวพฤหัสบดี(๕) และอยู่ร่วมพฤหัสบดี(๕)จรต่อไปอีกระหว่าง 13 มิ.ย.-3 ส.ค. 2555 เพราะดาวพฤหัสบดี(๕)นี้ ในดวงเดิมเป็นดาวมหาอุจกุมลักคณา ณ ราศีกรกฎ เป็นสุดยอดของพลังความดีงาม และสุดยอดของเศรษฐกิจ ความอุดมสมบูรณ์ และสุดยอดของสติปัญญาเฉลียวฉลาด พร้อมความใคร่ครวญสุขุมรอบคอบ ครั้นมีศุกร(๖)+พฤหัสบดี(๕) กุมลักคณ์ ก็เพิ่มความงาม ละมุนละไม ความเยือกเย็น อารมณ์สุขุมรอบคอบ และฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม เข้ามาอีก ........... ฉะนั้น เมื่อดาวคู่นี้จรมาสู่ตำแหน่งที่ 11 แก่ลักคณา นั่นเป็นหลักประกันได้เลยว่า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไม่ได้รับภัยอันตรายอะไรแม้เล็บข่วน........... และครั้นดาวเสาร์(๗)เดินหน้าเข้าสู่ราศีตุลอีกครั้งหนึ่ง นั่นเป้นระยะรุ่งโรจน์ของดวงชะตานี้ พร้อม ๆ กันไปกับดวงชะตาพรรคเพื่อไทย ..........

เวลาหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2555 เป้นต้นไปนั่นแหละครับ ที่เป็นที่หวังว่า 91-98 ศพจะได้รับความเป็นธรรมอย่างสมบูรณ์ จะอยู่ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 20 ก.ย.2555 - 20 ก.ย.2556 ครับ ประชาชนไม่น่าผิดหวังแน่นอน .........

ในโอกาสนี้ มีประเด็นสำคัญทางโหราศาสตร์ที่น่าสนใจมาก ๆ และน่าบันทึกไว้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาวิจัยทางโหราศาสตร์ คือ ประเด็นวาระการสิ้นชีพของพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ พยากรณ์โดยหลักโหราศาสตร์ครับ เราจะเสนอในอันดับถัดไป...

*ชลัมพุช โหรชนบท
30 มิ.ย.2555

ผู้แสดงความคิดเห็น ช.โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-06-30 16:46:17

ความคิดเห็นที่ 56 (3337983)

พยากรณ์การสิ้นชีพ
ของ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์

บทนำสถานการณ์ที่น่าสังเกต

ดวงชะตา พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ บอกถึงความมีสุขภาพดี และอายุยืนมาก แต่จะอายุยืนไปถึงกี่ปี ในเมื่อขณะนี้(เมื่อ 26 ส.ค. 2554) พล.อ.เปรม มีอายุเต็ม 91 ปีแล้ว

แท้จริง ได้ปรากฏร่องรอยของปัญหาสุขภาพของพล.อ.เปรมมาตลอด ซึ่งเสี่ยงต่อการจะสิ้นชีพ แต่พล.อ.เปรม ก็ดูไม่สะดุ้งสะเทือน และ ณ เวลานี้ โหรได้พบร่องรอยของการเจ็บป่วยหรือปัญหาสุขภาพของพล.อ.เปรม มาแล้วตั้งแต่เดือน พ.ค. 2554 เป็นต้นมาจนถึงเวลานี้ และการเจ็บป่วยครั้งนี้ลักษณะเกิดจากอาหารเป็นพิษ ระบบลำไส้ กระเพาะอาหาร ตับ อวัยวะภายใน และระบบทางเพศ บอบช้ำอย่างหนักและมีช่วงเวลาของดาวเคราะห์ให้ผลร้ายนี้เนิ่นนานไปถึงวันที่ 10 ธ.ค.2555 จึงจะแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น

แต่สิ่งที่น่าสนใจในประเด็นการป่วยไข้ของพล.อ.เปรม นั่นก็คือเมื่อถึงวันที่26 ส.ค. 2555 อันเป็นวันเกิดอายุครบ 92 ปีเต็มนั้นมีแนวโน้มของการเจ็บป่วยหนักจมหนักลงไปกว่าเก่าอีก จึงมีประเด็นคำถามว่า พล.อ.เปรม จะถึงวาระฆาฏแด่ชีวิตหรือไม่ ?

บทวิเคราะห์วาระสำคัญในชะตาชีวิตของพล.อ.เปรม

เมื่อได้ตรวจดวงชะตาพล.อ.เปรมดู ก็พบว่า การสิ้นชีพของพล.อ.เปรม อาจเกิดขึ้นได้ใน 3 วาระ ดังต่อไปนี้

วาระที่ 1

ในวันที่ 7 ก.ย.2555 ดาวเสาร์(๗)เดิมในดวงชะตาพล.อ.เปรม ซึ่งมีสถานะร้ายโดยเป็นกาลกิณีเดิม จะจรสู่ราศีตุล มีกำลังแรงจัดเป็นมหาอุจ จะอยู่ ณ ราศีตุลนี้เนิ่นนานถึง 2ปีครึ่ง ระหว่าง 7 ก.ย. 2555 ถึง 27 พ.ย.2557 ซึ่ง ณ ตำแหน่งนี้ เสาร์(๗)จรมหาอุจจะเปล่งกระแสร้ายไปถึงดาวอาทิตย์(๑)เดิม ตนุลักคณ์ และลักคณ์ ในราศ๊สิงห์ ในมุมโยคหลัง และ ถึงจันทร์(๒)เดิม+เกตุในราศีธนู มุมโยคหน้าแก่เสาร์(๗)จรกาลกิณีเดิม เท่านี้ก็บอกถึงสถานการณ์ร้ายแด่ดวงชะตาพล.อ.เปรมเต็มที่แล้ว

และครั้น ดาวอาทิตย์(๑) ตนุลักคณ์จรเข้าสู่ราศีตุล และสถิต ณ ราศีตุลอยู่เป็นเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 17 ต.ค. – 16 พ.ย.2555 และดับแสงสนิทในราศีตุลอยู่ระหว่างนี้ นั่นแหละคือวาระที่สำคัญที่ถึงที่สุดชีวิตของพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์

เหตุผลก็คือ โดยทฤษฎีโหราศาสตร์ ดาวอาทิตย์(๑) นี้เป็นดาวประจำชีพของพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ หรือตนุลั เมื่อจรมาถึงราศีตุล ก็ดับแสงลงโดยเป็นนิจ หมายถึงดับ 100 % และยังดับลงทับดาวเสาร์(๗)เดิมกาลกิณีมหาอุจ นี่หมายถึงพล.อ.เปรม จะเสียชีวิตลงใน 1 เดือนนี้ ระหว่าง 17 ต.ค. – 16 พ.ย. 2555

ฉะนั้น การเสียชีวิตของพล.อ.เปรม จึงย่อมคาดคะเนได้ว่าอยู่ระหว่างวันที่ 17 ต.ค. – 16 พ.ย.2555 อายุ 92 ปี และเนื่องจากดาวพฤหัสบดี(๕) จร ซึ่งเป็นดาวมรณะเดิมกุมลักคณ์ เป็นมนตรีจรระหว่างนั้น จรลงสู่ราศีพฤษภ เป็นตำแหน่งภพที่ 10 แก่ลักคณา ได้ปัสสวะเกณฑ์ นั่นหมายถึง การสิ้นชีวิตของพล.อ.เปรมในระหว่างนี้ จะได้รับการจัดการศพอย่างสมเกียรติ์พอสมควรแก่ตำแหน่ง

วาระที่ 2

หากพล.อ.เปรมผ่านวาระที่ 1 มา ก็มีวาระที่ 2 ระหว่างวันที่ 18 ต.ค. - 17 พ.ย. 2557 อายุ 94 ปี ซึ่งวาระนี้จะเป็นการเสียชีวิตลงอย่างไม่เป็นมงคลแก่ตนเอง ท่ามกลางเสียงโห่ของศัตรูของเขา เป็นเวลาที่ศัตรูของเขาเจริญรุ่งโรจน์อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนั้น เป็นเวลาที่แสดงถึงศัตรูของพล.อ.เปรม กำล้งเจริญรุ่งโรจน์เต็มที่

วาระที่ 3

แต่หาก พล.อ.เปรม ยังไม่ตายลงในวาระที่ 1-วาระที่ 2 ก็จะลากสังขารอยู่ต่อไปได้อีกถึง2 ปี จนถึงวาระที่ 3 ในระหว่างวันที่ 16 ม.ค. 2559 – 4 ส.ค. 2560 โดยจะตายลงอย่างอัปยศ เงียบเหงา

อย่างไรก็ตาม ถึงพล.อ.เปรม จะยังไม่ถึงฆาฏระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน 2555 ตามวาระที่ 1 ก็ตาม ก็จะเป็นการอยู่มีชีวิตต่อมาอย่างทุพพลภาพ ไร้สมรรถภาพทางกายและสติปัญญาที่จะคิดอ่านทำกิจการงานอะไรต่อไปอีก ฉะนั้น ความหมายของเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2555 จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ ต่อ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ อย่างแน่นอน

บทสรุป

บทสรุป พล.อ.เปรม ได้ตกอยูในสถานะคนป่วยหนักมาตั้งแต่ 24 พ.ค. 2554 มาจนถึงเวลานี้ การพยากรณ์ถึงการเสียชีวิตของพล.อ.เปรม เป็นหัวข้อที่น่าศึกษาทางโหราศาสตร์อย่างยิ่ง และเราได้พบว่าการเสียชีวิตของพล.อ.เปรมมีความเป็นไปได้จริง มี 3 วาระ ดังนี้

วาระที่ 1 ระหว่าง 17 ก.ย. – 16 พ.ย.2555 อายุ 92 ปี การตายมีเกียรติดีสมแก่ตำแหน่ง

วาระที่ 2 ระหว่าง 18 ต.ค. - 17 พ.ย. 2557 อายุ 94 ปี จะเป็นการเสียชีวิตลงท่ามกลางเสียงโห่ของศัตรูของเขา เป็นเวลาที่ศัตรูของเขาเจริญรุ่งโรจน์อย่างเต็มที่

วาระที่ 3 ระหว่าง 17 ต.ค. – 16 พ.ย. 2559 อายุ 96 ปี เป็นเวลาที่อัปยศที่สุดครั้งหนึ่ง

ชลัมพุช โหรชนบท
30 มิ.ย.2555

ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-06-30 19:56:07

ความคิดเห็นที่ 57 (3338000)

หมายเหตุ ดวงชะตาของพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ มีสิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษอีกประการหนึ่งก็คือ เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยไข้อันเป็นเหตุของการสิ้นชีพของพล.อ.เปรม แท้จริงมี 2 ลักษณะ ๆ ที่ 1 ตามที่ได้พยากรณ์มาข้างต้น คือ ลักษณะเกิดจากอาหารเป็นพิษ ระบบลำไส้ กระเพาะอาหาร ตับ อวัยวะภายใน และระบบทางเพศ บอบช้ำอย่างหนัก

แต่มีลักษณะที่ 2 ที่เป็นจุดสนใจพิเศษของโหร นั่นก็คือ อาการประหลาดที่เกิดกับการป่วยเจ็บ หรือปัญหาสุขภาพของพล.อ.เปรม ซึ่งจะเป็นอาการคล้ายโรคทางจิตที่แพทย์ผู้รักษาประจำอาจจะสงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ในที่นี้ โหรตั้งสมมติฐานเอาไว้ก่อน ว่าเป็นอาการป่วยแบบคนผู้ที่ต้องคุณไสย ........... จะมีอาการเกี่ยวกับอวัยวะภายใน การเจ็บปวดท้อง การปัสสาวะ และมีการเพ้อเจ้อ ออกวาจาคำพูดประหลาด ๆ พูดกับสิ่งใดคนใดแบบไม่เห็นตัว ไม่มีใครรู้ว่าพูดกับใคร หลงยิ้ม หลงหัวเราะ อาการขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดกะทันหัน ........ อันเป็นอาการที่ทางไสยศาสตร์เชื่อว่า ต้องคุณไสย

ใน ทางโหราศาสตร์ โหรได้สังเกตุเห็นดาวพุธ(๔) เดิมสถิตภพวินาสน์แก่ลักคณา ซึ่งเป็นแดนลึกลับ เวทมนต์ คุณไสย ไสยศาสตร์อยู่แล้ว และพุธ(๔)นี้ มีดาวเนปจูน(N) ซึ่งเป็นดาวลึกลับจากอวกาศไกลโพ้นกุมอยู่ ..... ณ ภพที่ 12 ภพวินาสน์แก่ลักคณาชาตาพล.อ.เปรม ฉะนั้น จึงเป็นจุดที่ล่อแหลมสำหรับ ไสยศาสตร์ มนต์ดำ ดังกล่าว

จากตำแหน่งที่ตั้งลักคณา ในราศีสิงห์ การที่ดาวพฤหัสบดี(๕) อันเป็นดาวมรณะ+ดาวเสาร์(๗)อันเป็นดาวอริ ร่วมกุมลันั้น ก็บ่งไปถึงไสยศาสตร์เหมือนกัน โดยจะบ่งถึงมันสมองที่วิปริต ผิดธรรมดา และ ความคิดที่ขัดกันเองบ่อย ๆ

ครั้นดาวราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีพิจิก ในเดือนพฤษภาคม 2554 มีพลังเป็นมหาอุจ ก็กระทบไปถึงดาวพุธ(๔)เดิมในราศีกรกฎ อันเป็นแดนไสยศาสตร์ดังกล่าว อย่างรุนแรง และครั้นถึง ส.ค.2555 ราหู(๘)มหาอุจดวงนี้ก็จะกลายสภาพเป็นกาลกิณีจร แผ่อำนาจกาลกิณีมหาอุจคือแรงสุด ๆของอำนาจกาลกิณี ฝ่ายชั่วไปถึงพุธ(๔)เดิมในภพวินาสน์ ............. นี่คือสมมติฐานของโหร ........ หมายถึง ช่วงเวลาที่อาจจะถูกคุณไสยอย่างแรงได้ และวาระเช่นนี้แหละที่เปิดช่องให้นักไสยศาสตร์อาจจะใช้เวทมนต์คุณไสยทำร้ายเอาได้ อย่างง่ายดาย ...... ฉะนั้น การป่วยของพล.อ.เปรม ซึ่งเป็นประเด็นของการสิ้นชีพของพล.อ.เปรม 3 วาระ ดังพยากรณ์มาข้างต้น จึงน่ามีส่วนแห่งการถูกคุณไสยอยู่ด้วยก็เป็นได้ น่าที่จะทำการป้องกันตนจากไสยศาสตร์ไว้ด้วย ............ จึงบันทึกเอาไว้ในฐานะสมมติฐานที่น่าสนใจที่สุดเรื่องหนึ่ง ทางโหราศาสตร์

*ช.โหรชนบท
1 ก.ค.2555

ผู้แสดงความคิดเห็น ชลัมพุช โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-07-01 09:47:24

ความคิดเห็นที่ 58 (3338383)
ขอบคุณมากครับ ท่าน ช.โหรชนบท ผมอยากให้วิเคราะห์ดวงของจตุพร ให้หน่อยครับ ทำไมจึงเผชิญชะตาร้าย ๆ ไม่รู้หยุดหย่อน ที่ท่านวิเคราะห์มา เห็นว่ายังไม่ทราบที่ตั้งลักคณา โหรก็สามารถคำนวณได้ไม่ใช่หรือครับ ขอให้ท่านช่วยกรุณาดูหน่อยครับ เห็นใจจตุพร นักสู้ของประชาชน
ผู้แสดงความคิดเห็น จาน ประครองจิต วันที่ตอบ 2012-07-05 09:09:36

ความคิดเห็นที่ 59 (3338747)
ดวงชะตาจตุพร พรหมพันธ์ จะติดคุกอีกครั้งหรือไม่ ? ตอบ จาน ประครองจิต ความเห็นที่ 58 ปัญหาของดวงชะตาจตุพร พรหมพันธ์ คือปัญหาเวลาเกิด เพื่อที่จะวางลักคณานี้ มามีปัญหาระหว่าง 2 ราศีนี้ คือ ราศีกันย์ กับราศีตุล แนวพิจารณาก็คือ ถ้าอยู่ราศีกันย์ ข้อเท็จจริงจะสอดคล้องกับเวลาเกิดในระหว่าง 04.08 - 06.00 น. เป็นช่วงโจโรฤกษ์ ต่อกับภูมิปาโลฤกษ์ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นั่นหมายความว่าเกิดวันจันทร์(๒) ถ้าอยู่ราศีตุลย์ จะเป็นวันอังคาร(๓) คนที่เกิด2ราศีนี้ ความคล้ายกันก็คือ ชะตานี้ก็จะมีการผจญกับสถานะแห่งความกดดัน บีบบังคับให้เคลื่อนไหวอย่างไม่รู้หยุดหย่อน ซึ่งจะเกิดขึ้นมาอย่างเป็นประเด็นสำคัญมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 มาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้กระทั่งสิ่งที่บอกถึงระดับการศึกษาของเจ้าชะตา ก็ใกล้เคียงกัน คือระดับปริญญาตรีขึ้นไป แต่ราศีกันย์ค่อนข้างให้ความหมายถึงการศึกษาด้านกฎหมายมากกว่าราศีตุล (กระนั้นก็บอกถึงความบกพร่องไม่สมบูรณ์ของการศึกษากฎหมายอยู่เหมือนกัน) แต่ราศีกันย์นี้ ค่อนข้างจะให้ความหมายด้านการได้ตำแหน่งงานการเมืองการอาชีพ ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงนัก ดูเหมือนว่า ถ้าอยู่ราศีกันย์จะไม่อาจเต้ามาถึงระดับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าราศีตุล สถานะเรื่องการงานจะตรงกว่า โดยเฉพาะในความหมายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และที่เหนือไปกว่านั้นอีก ในนาทีสุดท้ายของการตัดสินใจ ได้พบว่าในวันที่ 23 ก.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอาญานัดหมายให้เจ้าชาตานี้ไปศาล เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและพิจารณาถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในคดีก่อการร้าย ...... ตรงนี้เป็นความหมายของราศีตุล มากกว่าราศีกันย์(คือมีเรื่องราวเกี่ยวกับการติดคุกติดตะรางอยู่ในดวงชะตาราศีตุล ขณะที่ราศีกันย์ให้ความหมายด้านอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวกับการติดคุกติดตาราง หรือกฎหมายโดยตรง) ฉะนั้น จึงลงความเห็นยุติว่า จตุพร พรหมพันธ์ มีลักคณาอยู่ราศีตุล เป็นคนเกิดวันอังคาร(๓) เวลาเกิดอยู่ระหว่าง 07.33 - 09.44 น. ระหว่าง เทวีฤกษ์ ถึง เพชฆาฏฤกษ์ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี คำพยากรณ์ เมื่อลักคณาอยู่ราศีตุล ก็จะตรงกับดวงชะตาพรรคเพื่อไทย จะได้รับอิทธิพลดาวและผลปัจจุบันและอนาคต เหมือนกันเลยทีเดียว เป็นดวงชะตาที่จะมีบทบาทความเป็นไปร่วมกับพรรคการเมืองพรรคนี้ไปอย่างดี อย่างรุ่งโรจน์ในอนาคตภายหลังสถานะการณ์ถูกบีบ กดดันอย่างหนัก และการเสี่ยงต่อคุกตะรางผ่านไป โดยเฉพาะช่วงเวลา เดือนกันยายน 2555 เป็นต้นไป ถึง เดือน ธ.ค. 2557 จะรอดไหม ก็คงจะรอด พอ ๆ กับพรรคเพื่อไทย ที่ให้การพยากรณ์ไปแล้วว่าจะรอด นั่นแหละ แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนี้ นั่นแหละก็จะได้รู้ว่าชะตาจะเป็นคนราศีอื่นนอกจากตุลหรืออย่างไร ? ซึ่งนี่ก็เป็นดวงชะตาสำคัญในด้านการศึกษาทางโหราศาสตร์อีกดวงชะตาหนึ่ง
ผู้แสดงความคิดเห็น ช.โหรชนบท วันที่ตอบ 2012-07-09 08:39:12

ความคิดเห็นที่ 60 (3338947)

รายงานผล

จตุพรรอดคุกไปคดีหนึ่งครับเมื่อวาน ศาลอาญา(ชั้นต้น) ตัดสินคดีหมิ่นอภิสิทธิ์ ...... ให้ติดคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท แต่เนื่องจากมีเหตุให้ปรานี ให้รอการลงอาญาไว้ 2 ปี ................... เจ้าตัวบอกว่ายังไม่พอใจนัก จะพิจารณายื่นอุทธรต่อ.................

ก็ถือว่ารอดคุกนะครับ ............แบบนี้ยืนยันว่าลักคณาอยู่ราศีตุลใช่ไหมครับ ?

ผู้แสดงความคิดเห็น นศ.โหราศาสตร์ วันที่ตอบ 2012-07-11 08:47:14

ความคิดเห็นที่ 61 (3339029)
ต่อที่โหราศาสตร์ 8 นะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น บก. วันที่ตอบ 2012-07-11 20:37:29

ความคิดเห็นที่ 62 (3339332)

เรียนโหรชนบท

พลเอกเปรม มีอายุขัยถึง ๙๘ ปี ระยะสุดท้ายจะเป็นมะเร็งลำไส้ น่าจะเริ่มป่วยปีพ.ศ. ๒๕๕๘

นายกยิ่งลักษณ์และรัฐบาลอยู่ครบ ๔ ปี๖ ถึง ๒๕๕๘) แต่นายกยิ่งลักษณ์จะไม่ได้เป็นนายกฯสมัย ๒

นายกทักษิณควรกลับมาประเทศไทยปีพ.ศ. ๒๕๕๘ จึงจะไม่ติดคุก

สงครามกลางเมืองเกิดเดือน ๑๑ ไทย ( ตค ๕๕)

นายกอภิสิทธิ์จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกเลยตลอดชีวิตนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น พัชรินทร์ เภกะนันทน์ วันที่ตอบ 2012-07-14 20:24:53

ความคิดเห็นที่ 63 (3339334)

ขอชื่นชม ชมเชย คารวะ ท่านอาจารย์ทำนายได้อย่างถูกต้องตรงเผง กรณียุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ? ดังนี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นักศึกษาโหราศาสตร์ 2 วันที่ตอบ 2012-07-14 20:58:47

ความคิดเห็นที่ 64 (3342937)
บันทึก ศาลอาญาเลื่อนคดีจตุพร มาวันนี้ครับ 22 ส.ค.2555 และพิจารณายกคำฟ้องครับ จตุพรรอด......ท่านถูกอีกแล้ว เก่งจริง ๆ ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น นศ.โหราศาสตร์ วันที่ตอบ 2012-08-22 23:04:31

ความคิดเห็นที่ 65 (3354555)
ผมขอแสดงความคิดเห็นซักหน่อยครับปี๕๖ดาวเสาร์จรราศีตุลย์ธาตุลมเหนือดาวเสาร์เดินปกติช่วงต้นปี๕๖พอกลางปีเดือนเมษายนเสาร์เดินพักต์ถอยองศาดาวพฤหัสจรเข้าราศีเมถุนเป็นดินเหนี่ยวเดินเสริตทันที จะเห้นว่าเสาร์และพฤหัสต่างบังคับดาวพุท ดาวพุทจึงเป็นทาศสองนาย ดาวพฤหัสเสริตให้คุณ ดาวเสาร์พักต์ให้โทษ ดาวพุทตกที่นั่งลำบาก ไม่รู้จะรับใช้ใครดี พุทคือ ข่าวสาร การตกลง การสัญาญ การตัดสินสองคนขึ้นไป ช่วงนี้จะมีข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ และการสาดวาทะใส่กัน ดาวอังคารเดินปกติถือว่าดี ระวังการตัดสินที่ให้ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ไม่มีเหตุถึงต้องเปลี่นรัฐบาล แต่จะทุลักทุเลหน่อย พฤหัสเสริตราศีเมถุนให้คุณเต็มที่ ส่วนปี๕๗ ค่อยว่ากันใหม่
ผู้แสดงความคิดเห็น มงคลแซ่อึ้ง วันที่ตอบ 2012-12-30 19:13:54

ความคิดเห็นที่ 66 (3354556)

ปี๕๖เมื่อดาวเสาร์เดินพักต์ ถอยองศาในราศีตุลย์ กับดาวพฤหัสเสริตในราศีเมถุน(กับดวงเมืองไทย)

ดาวเสาร์จะขยายคลื่นธาตุถอยกลับมาราศีกันย์ โดยมีดาวพฤหัสเสริตรับในราศีเมถุน ดาวทั้งสองจะแฝงแสงแก่กัน การแฝงแสงแก่กันเหมือนดาวทับกัน ดาวเสาร์พักต์เป็นโทษ ดาวพฤหัส เสริตเป็นคุณ ดาวเสาร์ถอยหาราศีกันย์ กลายเป็น ข่าวลวง ข่าวเท็จ ข่าวลือ และการโจมตีด้วยวาทะ ข้อมูลข่าวสารต่าง มีทั้งจริงและเท็จลวง ดาวพฤหัสเสริตอย่างเร็วในราศีเมถุน ย่อมเป็นการดี คอยขัดขวางดาวเสาร์ที่พักต์ โชคดีที่ดาวอังคารเดินปกติ ไม่มาผสมโรงด้วย ดาวพุทจึงกลายเป็น บ่าวสองนาย คือมีทั้งดาวพฤหัสเป็นเจ้านาย ดาวเสาร์เป็นเจ้านาย ดาวพุทที่โดนดาวเสาร์ดาวพฤหัส บังคับ คงทำใจลำบาก พุทคือ คำพูด ข่าวสาร และการตกลง สัญญาญ คงต้องดูดาวพุทจรในช่วงนั้น ว่า จะรับใช้ใคร แต่ระวัง การกลับผิดเป็น ถูก กลับถูกเป็นผิด การเมืองช่วงนี้คงต้องจับตามอง ฟังหูไว้หูอย่าเชื่อข่าวที่ออกมา

ผู้แสดงความคิดเห็น มงคลแซ่อึ้ง (pasamu1-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-12-30 19:24:59

<< ก่อนหน้า 1 [2]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล