ReadyPlanet.com


พระพุทธศาสนาในเมียนมาร์


 วันนี้ก็ได้เห็นผู้นำทหารเมียนมาร์ นายพลเต็งเส่ง ประกาศความพ่ายแพ้ทางการเมือง และเข้าอุปสมบท ประชาชนเมียนมาร์กำลังเข้าสู่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่ดิฉันสงสัยเรื่องประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนาของชาวเมียนมาร์จะเกิดขึ้นได้อย่างไรหรือไม่ ในเมื่อในเมียนมาร์ยังมีชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงยา ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ถูกปฏิบัติเสมือนหนึ่งไม่ใช่มนุษย์ โดยมีผู้นำสงฆ์หัวรุนแรงเป็นแกนนำต่อต้านชาวมุสลิม

 



ผู้ตั้งกระทู้ กระจกเงา :: วันที่ลงประกาศ 2016-04-12 20:51:59


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3412259)

 

กลุ่มชาวพุทธเรียกร้องพระสงฆ์หัวรุนแรงในพม่าที่เป็นแกนนำต่อต้านชาวมุสลิมให้ก้าวพ้นความหวาดกลัวเพื่อบรรลุธรรมแห่งพระพุทธเจ้า

14.05.2013
  • Daniel Schearf
  •  
  •  
  •  
  •  

 

 
ปัญหาความรุนแรงระหว่างศาสนาในพม่าที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มพระสงฆ์ที่ยังคงมีแนวคิดนิยมความรุนแรงต่อผู้นับถือศาสนาอื่นทั้งที่แนวทางของศาสนาพุทธโดยทั่วไปนั้นไม่นิยมความรุนแรงและไม่ส่งเสริมความเกลียดชังในศาสนาอื่น กลุ่มนักรณรงค์ชาวพม่าจึงจัดกิจกรรมดึงความสนใจจากผู้นำศาสนาชาวพุทธจากทั่วโลก รวมไปถึงองค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญานของทิเบตให้หันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น

 

แม้พม่าจะมีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธมากกว่าร้อยละ 90 ขณะที่มีผู้นับถือศาสนาคริสต์ร้อยละ 5 และศาสนาอิสลามร้อยละ 4 แต่ พระ U Wi Sate แกนนำพระสงฆ์พม่าที่แนวคิดหัวรุนแรง หรือที่รู้จักในนาม “U Wirathu” ต้องการให้ทุกคนเชื่อว่า ชาวมุสลิม โดยเฉพาะชาวโรฮิงจะที่มีเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะผู้เข้าเมืองผิดกฏหมายนั้นเป็นภัยต่อพระศาสนาและใช้กำลังคุกคามชาวพุทธในพม่า

 

แกนนำพระสงฆ์ที่นิยมความรุนแรงชาวพม่า ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับผู้สื่อข่าววีโอเอ บอกถึงความเชื่อของเขาว่า กลุ่มมุสลิมจะไม่ยอมอยู่ร่วมกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ และกังวลว่า หากชาวมุสลิมแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ศาสนาพุทธก็อาจจะถูกทำลายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับอินเดียมาแล้ว

 

พระ “U Wirathu” เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มรณรงค์ต่อต้านชาวมุสลิมที่มีชื่อเรียกว่า ขบวนการ “969” (969 Campaign) มาตั้งแต่ปีคริสตศักราช 2001 และถูกจำคุกในเหตุการณ์ก่อการจราจลต่อต้านชาวมุสลิมในอีก 2 ปีต่อมา และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากการนิรโทษกรรมเมื่อปี 2012 หรือปีที่แล้ว ก่อนจะเริ่มสานต่อความเคลื่อนไหวของขบวนการ 969 ต่อทันที จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างชาวพุทธและมุสลิมจนมีผู้เสียชีวิตกวาส 200 คนและ 1 แสน 2 หมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัยในรัฐระขิ่น และยังคงมีเหตุรุนแรงต่อเนื่องในหลายภูมิภาคของพม่า

 

องค์ ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของฑิเบต แสดงความไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า ว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอสวดมนต์ภาวนาให้ชาวพุทธที่มีความคิดในแง่ลบต่อชาวมุสลิมทุกคนให้นึงถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า และกล่าวว่า ชาวพุทธควรเคารพในความเชื่อของทุกศาสนา หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อในศาสนาใดเลย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด แต่ต้องเคารพในความแตกต่างของทุกศาสนา

 

ดูเหมือนว่าข้อเรียกร้องของผู้นำจิตวิญญานแห่งฑิเบตจะยังเดินทางไปไม่ถึงพม่า เมื่อขบวนการ 969 ยังคงรณรงค์ต่อเนื่องตามชุมชนชาวพุทธด้วยการแสดงตัวติดสติ๊กเกอร์ของกลุ่มและไม่ทำมาค้าขายกับชาวมุสลิม

 

Myo Win ผู้นำชาวมุสลิมในพม่า ที่จัดตั้งกลุ่มต่อต้านขบวนการ 969 กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานเสวนาเกี่ยวกับสถานการณ์ชาวมุสลิมในพม่าภายใต้รัฐแห่งความหวาดกลัว ที่กรุงเทพมหานคร และตั้งคำถามถึงรัฐบาลพม่า ว่า เพราะเหตุใดกลุ่มขบวนการต่อต้านชาวมุสลิมถึงไม่ได้รับการเปิดโปง หรือถูกจับ รวมทั้งได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมรณรงค์ สร้างความเข้าใจที่ผิดๆระหว่างชาวพุทธและมุสลิมต่อไป ทั้งๆที่เป็นต้นเหตุของความรุนแรง

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2016-04-12 20:54:13


ความคิดเห็นที่ 2 (3412605)

 ตอนนี้ปัญหาด้านกาเมืองในเมียนมาร์ รัฐบาลของนายพลเต่งเส่งประกาศยอมแพ้คืนอำนาจให้ประชาชน เราก็หวังว่าทหารคงไม่เข้ามามีบทบาทในการเมืองเมียนมาร์ และหวังว่านางอองซานซูจี คงจะแก้ละไขสถานการณ์ความไม่ลงรอยทางศาสนาระหว่างพุทธ คริสต์และอิสลามนี่คือความท้าทายที่รออยู่ซึ่งคงไม่ง่าย แต่เมื่อเป็นประชาธิปไตยก็คงจะมีทางออก

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2016-04-28 23:44:38


ความคิดเห็นที่ 3 (3412939)

 ข่าวจาก voice tvโดยพรรณิการ์ วาณิช ข่าว 8 ก.พง 2559 สื่อนอกจับตาพระไทยโหมกระแสต้านมุสลิม โดยมองว่าเกิดจากความตึงเครียดที่ประกอบด้วยหลายปัจจัย ทั้งการเมืองในคณะสงฆ์ที่ยังวุ่นวายไม่จบ

สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ เปิดประเด็นการโหมกระแสต่อต้านมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งทางสำนักข่าวมองว่าเกิดจากความตึงเครียดที่ประกอบด้วยหลายปัจจัย ทั้งการเมืองในคณะสงฆ์ที่ยังวุ่นวายไม่จบ ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยืดเยื้อมากว่า 12 ปี รวมถึงการเติบโตของกระแสพุทธสุดโต่งในเมียนมา 

แต่ปรากฏการณ์ต่อต้านมุสลิมถูกขับเน้นให้ชัดเจนขึ้นมาด้วยโดยพระสงฆ์ชื่อดังในโลกออนไลน์ อย่างพระมหาอภิชาติ ปุณฺณจนฺโท ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากวาทกรรมยุยงให้ชาวพุทธ "เผามัสยิด" ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อตอบโต้การที่พระสงฆ์ในพื้นที่ถูกสังหาร โดยพระมหาอภิชาติอธิบายกับนักข่าวของ Channel News Asia ว่าข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยา เนื่องจากไม่ต้องการให้ชาวมุสลิมฆ่าพระสงฆ์อีกต่อไป จึงต้องข่มขู่ด้วยการล้างแค้น

แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีใครลุกขึ้นมาเผาทำลายมัสยิดจริงๆ แต่ข้อความเผยแพร่ความเกลียดชังต่อมุสลิมของพระมหาอภิชาติก็ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวพุทธบางส่วน มีผู้กดไลค์เพจของพระรูปนี้เกือบ 4,000 ไลค์ 

พระมหาอภิชาติยืนยันว่าต้องการนำโมเดลแบบพระวีรธุแห่งเมียนมามาใช้ ทั้งที่วีรธุถูกวิจารณ์จากทั่วโลกว่าเป็นผู้ปลุกกระแสก่อการร้ายแบบพุทธ 

แต่เหตุที่กระแสเกลียดกลัวมุสลิมในไทยยังไม่รุนแรงแพร่หลายเท่าในเมียนมา เป็นเพราะชาวไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรู้สึกถูกคุกคามโดยชาวมุสลิม ไม่มีความแตกแยกทางเชื้อชาติและศาสนาในสังคมรุนแรงเท่า รวมถึงการที่พระมหาอภิชาติไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเหมือนที่พรรครัฐบาลเมียนมาสนับสนุนวีรธุ แต่นักวิชาการก็แสดงความกังวลว่าการที่รัฐบาลไม่จัดการควบคุมการแพร่ความเกลียดกลัวมุสลิม อาจทำให้เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2016-05-15 20:47:16


ความคิดเห็นที่ 4 (3412943)

กระแสต่อต้านมุสลิมเริ่มขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย เช่นที่ เชียงใหม่ แพร่ และล่าสุดมุกดาหาร ซึ่งน่าเป็นห่วงมากเพราะในโลกโซเชียลก็เริ่มมีเฮชสปีทระหว่างคนต่างศาสนาเยอะเหมือนกัน กระแสเหลืองแดงซาไปแล้ว กระแสพุทธมุสลิมกำลังถูกปลุกขึ้นมาอีกน่าห่วงเหมือนกัน


 
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2016-05-15 21:45:36


ความคิดเห็นที่ 5 (3412944)

 ในยุโรปนี่กระแสต่อต้านมุสลิมรุนแรงมากโดยเฉพาะในอังกฤษ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2016-05-15 21:47:07



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.