ติดใจเรื่อง สินามิครับ   ยังยืนยันคำพยากรณ์อยู่หรือเปล่า ?

เกี่ยวกับสินามินี้  เริ่มเรื่องเมื่อ  ดาวราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีพิจิก เมื่อ 24 พ.ค. 2554  .........เราพยากรณ์ว่า   ทะเลใหญ่ของโลกทั้ง 3 ทะเลถูกเชื่อมถึงกันแล้ว.........   ราหู(๘)คือ  ลม    ราศีพิจิก  มีน  และ กรกฎ  คือน้ำ 

จากนี้ไปจึงเป็นเรื่องของลมและน้ำ   หรือ  ฝนกับพายุ ......

และเริ่มมีฝนตกทันทีในวันที่ 24 พ.ค.2554   เราจะพยายามบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับฝนและลมนี้ลงไว้เป็นสถิติในลำดับต่อจากนี้ .........  จนถึง   วันที่พยากรณ์เอาไว้  1  พ.ย. 2554

ทอนาโดถล่มรัฐมิสซูรี  สัปดาห์ที่แล้ว  ตาย 142 ศพ  เมืองเมืองจอปปลิน พังยับเยิน   โอบามาว่าเป้นโศกนาฏกรรมเสียหายมากที่สุด  นับจากปี 2546 

สินามิญี่ปุ่น  ตายบาดเจ็บ   23,795   ตาย 15,269    ไร้ที่อยู่ 125,650

อดีตประธานไอเอ็มเอฟ    นายสเตร๊าส์ฮาน  พยายามข่มขืนแม่บ้าน  เป็นคดี   ลาออก  กำลังหาคนใหม่

ใต้ฝุ่นเซ็งดาถล่มตอนใต้ญี่ปุ่น เทปโก้เตรียมรับมือหวั่นกัมมันตภาพรังสีรั่ว   29 พ.ค.2554

ตั้งแต่ 24 พ.ค.54มา  ฝนตกชุกแทบทุกวัน  ที่นี่ ศรีสะเกษ

พายุ ไหหม่า  ถล่มเวียดนาม  ตาย 22

หางพายุเข้าจังหวัดน่าน   น้ำท่วมใหญ่  

ยิ่งลักษณ์ไปเยี่ยมน่าน  น้ำท่วม

ผลการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554

เพื่อไทยชนะประชาธิปัตย์เมื่อนับคะแนนไปแล้ว 100.00 %

เวลา 19.41 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับในความพ่ายแพ้ และแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยที่ชนะ  และขอแสดงความยินดีต่อคุณยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

เวลา 19.50 น.   น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร แถลงที่พรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชน  ขอบคุณสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ  ขอบคุณคุณอภิสิทธิ์ และพรรคการเมืองทุกพรรคที่ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์   ขอเรียนยืนยันว่าจะทำนโยบายทุกนโยบายอย่างเต็มที่ตามที่ได้บอกกล่าวประชาชน   ไม่อยากพูดว่าพรรคเพื่อไทยชนะ  แต่อยากบอกว่าประชาชนชนะ   งานข้างหน้ายังมีมาก ต้องทำเพื่ออนาคตของประเทศไทย เป็นหน้าที่หนัก   คงต้องรอผลจากการประกาศเป้นทางการอีกครั้งหนึ่ง   ทางพรรคเพื่อไทยได้คุยกับพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว    ดิฉันจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ขอบคุณ

มีคำถามหลายข้อ ตามมา  โดยเฉพาะประเด็นเสื้อแดงกับคดีเสื้อแดง  ตอบว่าจะมอบนายคณิต ณ นคร  คำถามจากชาวต่างประเทศว่าจะทำอะไรก่อน  ตอบว่าเรื่องเศรษฐกิจของประชาชน   ......

* 001 รายงาน
   3  ก.ค. 2554/20.03 น.

      กกต.รับรอง 94 สส.แขวนจตุพรต่อ  รวม  496  เปิดสภา 1 ส.ค.2554

พายุนกเต็น  ทั่วประเทศ 80-90 % ของประเทศ   เหนืออ่วม  อีสานอ่วม  บึงกาฬยังตกไม่หยุด    ตราดฝนเพ่งหยุด  

ยังมีอีกลูกตามมา..........

• น้ำ11จว.​ท่วม​ขัง นายกฯ​เตรียม แก้​ทั้ง​สั้น-ยาว

****จากไทยรัฐ 20 ส.ค.2554

ท่วมกทม.ทุกพท.นายกฯรับ สูงสุดเมตรครึ่ง

----------------------------------------------------------------------------

• พาดหัวข่าวจาก น.ส.พ.ไทยรัฐ วันที่ 28 ต.ค.2554

• พาดหัวข่าวจาก น.ส.พ.ไทยรัฐตามลำดับ(ซ้ายไปขวา) วันที่ 29 ต.ค.2554

ข่าวสด 31 ต.ค.2554

โพลเชียร์"ปู" หนุนแก้น้ำท่วม

ให้ทำต่อ ปชป.โต้ลั่น แผน9ขั้น ล้มรัฐบาล

ลุยงาน - น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ป่วยเป็นไข้หวัด แต่ยังพาน้องไปค์ ลูกชายมาทำงานแก้วิกฤตอุทกภัยที่ศปภ. โดยคาดการณ์อีก 3 วันน้ำท่วมในกทม.จะเริ่มลดลง เมื่อ 30 ต.ค.

"ปู"ควงลูกชายมาทำงานที่ศปภ. แห่งใหม่ น้องไปค์เผยแม่ไม่ สบาย โต้คลิป ทิ้งของบริจาค ศปภ.ยันไม่มีตกค้างที่ดอนเมือง โพลหนุน"ปู-ทหาร"ร่วมแก้น้ำท่วม ชาวบ้านร้อยละ 61 ให้โอกาสนายกฯทำงานต่อ "บิ๊กตู่"เมินใช้กฎหมายพิเศษจัดการคนพังคันกั้นน้ำ ชี้อย่าโยนภาระให้ทหารไปลุยกับประชาชน แนะวิธีเจรจาดีที่สุด "มาร์ค"ยังหัวชนฝาให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจัดการ ปชป.ซัดรัฐบาลจ้องกินรวบอำนาจกองทัพ เร่งพิจารณาพ.ร.บ.กลาโหม ปัดแผนบันได 9 ขั้นล้มรัฐบาล "ขุนค้อน"เรียกประชุมสภา 2-3 พ.ย.นี้และถกงบปี 55 วันที่ 9-10 พ.ย. "อุดมเดช"หวั่นองค์ประชุมไม่ครบเหตุน้ำท่วม-ปิดการจราจร

น้องไปค์เผยแม่ไม่สบาย

วันที่ 30 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พาด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปค์ บุตรชายเดินทางมาด้วย โดยนายกฯยังคงมีสีหน้าอิดโรย และน้ำเสียงแหบจากอาการหวัด และกล่าวกับผู้สื่อข่าวทันทีที่เจอหน้าว่า "อย่าเข้าใกล้นะ เดี๋ยวจะติดหวัด" ขณะที่น้องไปค์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "แม่ไม่สบายครับ แต่ไปค์ไม่เป็นอะไร"

"ปู"ยันศปภ.ใช้ของบริจาคเต็มที่

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ในอินเตอร์เน็ตว่าของที่บริจาคและเก็บไว้ที่ดอน เมืองถูกน้ำท่วมว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขอเวลาตรวจสอบ โดยจะมอบหมายให้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ไปดูแล รวมถึงให้ดูแลผู้อพยพที่มาอยู่ในดอนเมืองด้วย ยืนยันศปภ.ใช้ของบริจาคอย่างเต็มที่ แต่อาจกระจายไม่ทั่วถึง และ นำเงินบริจาคบางส่วนไปใช้ในการซื้อถุงยังชีพ และเรือ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชน

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวถึงของบริจาคในศปภ. ดอนเมืองว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการบริหารจัดการสิ่งของบริจาค เมื่อมีการนำคลิปภาพการกักตุนถุงยังชีพในศปภ.ดอนเมือง จะเรียกนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งรับผิดชอบการบริหาร จัดการสิ่งของบริจาคแทนนายการุณ โหสกุล เข้า มาชี้แจงทันที เพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อประชาชน

ปภ.โต้ไม่มีตกค้างที่ดอนเมือง

นายจำเริญกล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลขนย้ายของบริจาคจำพวกเสื้อผ้าเครื่องใช้และถุงยังชีพ ซึ่งกำลังเร่งขนย้ายจากดอนเมืองไปยังสนามศุภชลาศัย ส่วนกองเสื้อผ้าที่มีการถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่นั้น เป็นเสื้อผ้าเก่าสภาพไม่สมบูรณ์ อยู่ระหว่างการส่งมอบให้โรงเรียนนายร้อยจปร. นำไปซักและอบแห้งใหม่ ทั้งนี้ ตนจัดระบบการเบิกรับถุงยังชีพให้มีความรัดกุมขึ้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ประสบภัยที่โทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือจากคอลเซ็นเตอร์ของศปภ. หมายเลข 1111 กด 5 จากนั้นจะจัดส่งความช่วยเหลือไปให้อย่างเหมาะสมตามจำนวนผู้ประสบภัยที่แท้จริง นอกจากนี้จะเน้นจ่ายสิ่งของบริจาคให้กับจังหวัด อำเภอ เขต ทหาร ตำรวจ และมูลนิธิต่างๆ เพื่อให้ถึงมือประชาชน ส่วนของสิ่งของบริจาคที่มีขนาดใหญ่ อาทิ ห้องสุขาลอยน้ำ เรือ และแพนั้น อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของตน โดยศปภ. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รับไปบริหารจัดการ

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้อง กันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวชี้แจงกรณีมีข่าวว่ายังมีของบริจาคตกค้างอยู่ในศปภ. ดอนเมืองจำนวนมากว่า ยืนยันว่าของบริจาคทั้งถุงยังชีพ เรือ และเครื่องสูบน้ำได้ขนย้ายออกมาไว้ที่สนามศุภชลาศัยทั้งหมดแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ายังมีการเก็บเรือท้องแบนไว้ไม่ยอมนำไปให้ผู้ประสบภัยนั้น ยืนยันว่าได้กระจายแจกให้ผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่แล้ว มีการบันทึกว่าพื้นที่ใดได้รับมอบไปจำนวนกี่ลำแล้ว เพื่อป้องกันการซ้ำซ้อน

"วิม"เผยของตกค้าง-ขนส่งลำบาก

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศปภ. กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งของบริจาคที่หลงเหลืออยู่ในอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ไม่ใช่เพราะรัฐบาลไม่นำของไปแจกจ่ายให้ประชาชน แต่ที่ยังเหลืออยู่นั้น เพราะความล่าช้าในการขน ส่งมากกว่า เนื่องจากการขนส่งยากลำบากหลังจากน้ำทะลักเข้าบริเวณท่าอากาศยาน

ส่วนกรณีสุขาลอยน้ำที่ถูกทิ้งลอยน้ำไว้บริเวณหน้าอาคาร 2 ที่ใช้เป็นอาคารรองรับประชาชนผู้อพยพนั้น ตนต้องขอเข้าไปสำรวจอีกครั้ง เพราะภายในอาคารคลังสินค้าไม่มีสุขาลอยน้ำหลงเหลืออยู่แล้ว

เหวงจี้"มาร์ค"แจงเขื่อนกักน้ำ

ที่ศปภ. น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงสาเหตุการนำกราฟแสดงปริมาณการกักเก็บน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เปรียบเทียบระหว่างปี 2552-2554 มาวิเคราะห์ในที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตามกราฟแสดงปริมาณกักเก็บน้ำดังกล่าว ซึ่งข้อมูลตรงกันทั้งของกรมชลประ ทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ใช้เดือนมิ.ย.เป็นเกณฑ์ปรากฏว่าปี 52-53 เขื่อนภูมิพลระบายน้ำออกจากเขื่อนในปริมาณมาก แต่ปี 54 กลับเก็บน้ำไว้เกือบ 1 หมื่นลบ.ม.จากความจุ 1.3 หมื่นล้านลบ.ม.และเขื่อนสิริกิติ์ก็เช่นกัน จึงน่าสงสัยว่าเหตุใดจึงกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อนปริมาณมากทั้งที่ยังไม่เข้าสู่ฤดูมรสุมในเดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นรัฐบาล

น.พ.เหวงกล่าวว่า เมื่อมีการกักเก็บน้ำในปริมาณเยอะ เมื่อเข้าสู่ฤดูมรสุม ซึ่งปีนี้มีพายุติดต่อถึง 5 ลูก เขื่อนก็รองรับน้ำได้น้อยจึงปล่อยน้ำลงท่วมในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง แต่ถ้า 2 เขื่อนนี้พร่องน้ำไว้เยอะโอกาสที่น้ำจะท่วมก็น้อยลง เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯในขณะนั้นและนายธีระ วงศ์สมุทร รมว. เกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้นต้องชี้แจงว่าเหตุใดจึงตัดสินใจกักเก็บน้ำไว้ปริมาณมหาศาลตั้งแต่ยังไม่เข้าฤดูมรสุม ตนไม่อยากกล่าวหาว่าเตรียมการอะไรล่วงหน้าหรือไม่ แต่อยากให้ชี้แจงมากกว่า

"บิ๊กตู่"อ้างไม่คุ้มใช้พ.ร.ก.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอกำลังของสารวัตรทหาร(สห.) เข้ามาช่วยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งรมว.กลา โหมอนุมัติให้จัดกำลังสห.ไปตามคำขอ ซึ่งมีอำนาจทางกฎหมายอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งไม่มีอำนาจอะไร เพราะส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ป้องกันและรักษาอธิปไตยมากกว่า ดังนั้น การจะส่งทหารพร้อมอาวุธออกไป มันต้องใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เรื่องพ.ร.ก.ขณะนี้เป็นคนละปัญหากับทุกครั้งที่ผ่านมา หากจะมองในแง่ว่าใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วมีอำนาจเด็ดขาด ซึ่ง ผู้ปฏิบัติคือทหารตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปกครอง เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนผู้ถูกปฏิบัติคือประชาชน ซึ่งอาจเป็นประชาชนกลุ่มที่พังคันกั้นน้ำ ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย ดังนั้น ไม่ว่าจะมีพ.ร.ก.หรือ ไม่มี พ.ร.ก.ก็ผิดกฎหมายทั้งสิ้น

"ถึงไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็มีการกระทบกระ ทั่งและเป็นคดีความกันอยู่แล้ว และทุกคนคงเคยเห็นตัวอย่างจากครั้งที่ผ่านมา การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็คือการห้ามเข้า-ออกพื้นที่ ดังนั้น กรณีนี้จะหมายถึงการห้ามเข้า-ออกในบริเวณคันกั้นน้ำ ถ้าเข้ามาจะถูกจับกุมดำเนินคดี แต่ผมอยากถามว่าทำได้หรือไม่ คนไทยจะควบคุมได้หรือไม่ ครั้งที่แล้วทำได้หรือไม่ คดีก็ยังคาอยู่จนถึงวันนี้ ถ้ารัฐบาลคิดว่ามันคุ้มค่า หรือใครคิดว่าคุ้มค่าแล้วก็ประกาศมา ผมทำได้อยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แนะเจรจาชาวบ้านดีที่สุด

เมื่อถามว่าสำหรับกองทัพการมีพ.ร.ก. ฉุกเฉิน กับไม่มีแตกต่างกันอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันอยู่ที่ผลสัมฤทธิ์ว่าต้องการอะไร ถ้าต้องการไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาพังคันกั้นน้ำ แล้ววิธีควบคุมตรงนั้นคือการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายมีอยู่ 2 อย่าง คือกฎหมายปกติ กับกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ลุยได้เลย แต่อยากถามว่าแล้วลุยได้หรือไม่ หากไล่จับกุมทั้งหมดตลอดแนว มันจะเกิดผลกระทบหรือไม่

"จริงๆ เราใช้กฎหมายปกติมันก็ได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นเพียงการละเมิด ตำรวจต้องทำได้ แต่ขณะนี้ตำรวจบอกว่าทำไม่ไหว เขาไม่อยากกระทบกระทั่งกับประชาชน แล้วจะให้ทหารไปช่วย อยากถามว่าจะให้ทหารไปกระทบกระทั่งกับประชาชนใช่หรือไม่ ดังนั้น ต้องดูว่าถ้าจะไม่ให้เกิดการกระทบกันเลย ต้องใช้วิธีพูดคุยเจรจา ทุกวันนี้ทหารไปเจรจาได้หมดทุกจุด ซึ่งชาวบ้านเขาก็โอเคยอมรับ" ผบ.ทบ. กล่าว

เมื่อถามว่าอาจจะมีผู้มีอิทธิพลในชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้ตำรวจไม่กล้าเข้าไป พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ก็อาจมีส่วน เป็นเรื่องของ รัฐบาลที่เขาต้องแก้ไขกันต่อไป ตนคิดว่าถ้าจะให้ทหารทำหมดทุกเรื่องคงจะไม่ไหว ต้องคละกัน ช่วยกัน

โพลหนุนปู-ทหารแก้ท่วม

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในกทม. และจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ทั้งผู้ที่พักอาศัยในศูนย์พักพิง และตามบ้านเรือนต่างๆ จำนวน 2,136 คน วันที่ 26-29 ต.ค. โดยถามถึงความคาดคิดว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ในกทม. พบว่าร้อยละ 37.83 ไม่คิดว่าจะท่วม เพราะเป็นเมืองหลวง เขตเศรษฐกิจสำคัญ น่าจะป้องกันได้ ร้อยละ 33.57 ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้รับข้อมูลแท้จริง และร้อยละ 28.60 คาดว่าจะท่วม เพราะน้ำท่วมพื้นที่ต่างจังหวัดแล้ว ทั้งนี้หากน้ำท่วม ร้อยละ 68.07 จะไม่อพยพออกจากบ้าน เพราะคิดว่าท่วมไม่มาก และกลัวโจรขโมย ร้อยละ 21.36 ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดูระดับน้ำก่อน ส่วนร้อยละ 10.57 จะอพยพ เพราะมีเด็กเล็กและคนป่วย

ส่วนข้อมูลน้ำท่วมกทม.ที่ภาครัฐนำเสนอ ร้อยละ 37.27 เห็นว่าข้อมูลสับสน ไม่ชัดเจน ขาดความน่าเชื่อถือ ร้อยละ 24.20 เห็นว่า ข้อมูลขัดแย้งกันเอง ร้อยละ 19.34 การประชา สัมพันธ์ไม่ทั่วถึง และร้อยละ 6.27 เห็นว่าไม่มีข้อมูลจากผู้รู้จริง ทำให้เกิดความชะล่าใจ หรือตื่นตระหนกเกินไป

ร้อยละ 84.88 เชื่อมั่นในการช่วยเหลือของทหาร ร้อยละ 80.24 เชื่อมั่นสื่อมวลชน ร้อยละ 71.11 เชื่อมั่นในรัฐบาล ร้อยละ 70.22 เชื่อมั่นผู้ว่าฯกทม. นอกจากนี้ร้อยละ 93.16 ยังเห็นใจการทำงานของทหาร ร้อยละ 91.06 เห็นใจนายกฯ ร้อยละ 88.48 เห็นใจสื่อมวลชน และร้อยละ 73.97 เห็นใจกทม. ร้อยละ 70.08 เห็นใจอาสาสมัคร

วิธีแก้เครียดในสถานการณ์น้ำท่วม ร้อยละ 43.82 ระบุทำใจให้สงบ ร้อยละ 22.80 พูดคุยกับเพื่อนบ้าน ร้อยละ 18.87 ไม่หมกมุ่นกับข่าวสารน้ำท่วมมากเกินไป ทั้งนี้ร้อยละ 36.56 เห็นว่าจะใช้ชีวิตปกติได้กลางเดือนพ.ย. ร้อยละ 24.56 คิดว่าต้นเดือนพ.ย. ร้อยละ 20.18 คิดว่าปลายเดือนพ.ย. และร้อยละ 18.73 คิดว่าต้นเดือนธ.ค.

ให้โอกาส"ปู"ทำงานต่อ

สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง "ความทุกข์ ความเสียสละ และการให้โอกาสรัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม" ศึกษาประชาชนในเขตกรุงเทพฯ 1,457 ตัวอย่าง วันที่ 28-29 ต.ค. พบว่าร้อยละ 77.4 รู้สึกเบื่อหน่าย เครียดและวิตกกังวลเป็นความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในช่วงภัยพิบัติน้ำท่วม ร้อยละ 76.9 ระบุไม่สะดวกในการเดินทาง ร้อยละ 66.8 ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 58.5 อาหาร น้ำสะอาด ยารักษาโรคมีไม่เพียงพอ และร้อยละ 38.9 กำลังขาดรายได้

ร้อยละ 63.8 ไม่ประสงค์จะอพยพหรือเดินทางออกต่างจังหวัดเพื่อหนีภัยน้ำท่วม เพราะห่วงบ้านทรัพย์สิน มีคนเจ็บ คนชราและเด็กเล็กต้องดูแล และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้นและร้อยละ 74.9 ระบุความช่วยเหลือของรัฐบาลต่อผู้ประสบภัยไม่ทั่วถึง

ทั้งนี้ ร้อยละ 61.9 ยังให้โอกาสน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ แก้ไขปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมต่อไป แต่สิ่งที่ต้องการให้นายกฯสั่งการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ ร้อยละ 73.3 ปรับปรุงการทำงานของตำรวจ ไฟฟ้า น้ำประปา เป็น การเร่งด่วน ร้อยละ 70.2 ช่วยเหลือให้ทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ช่วยเฉพาะกลุ่มหัวคะแนนของตน ร้อยละ 68.4 แก้ปัญหาสินค้าแพง ขาดตลาด ร้อยละ 65.0 ติดตามจับกุมมิจฉาชีพ คนร้ายลักทรัพย์ ร้อยละ 61.5 ปรับปรุงศูนย์ฮอตไลน์ การให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านต่างๆ ร้อยละ 58.1 ลงพื้นที่เข้าถึงชาวบ้านและร้อยละ 52.4 แก้ปัญหาขาดรายได้

สิ่งดีๆ ที่ประชาชนพบเห็นในภัยพิบัติครั้งนี้ ร้อยละ 89.4 ระบุความช่วยเหลือเกื้อกูล ความมีน้ำใจของคนในชาติ ร้อยละ 76.3 ความเสียสละ ร้อยละ 73.5 ความอดทน ร้อยละ 70.9 ความสามัคคี และร้อยละ 69.5 ความรักและการแบ่งปัน นอกจากนี้ร้อยละ 40.6 เริ่มมีความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลและกรุงเทพ มหานคร ร้อยละ 22.8 เชื่อมั่น ร้อยละ 23.9 ไม่ค่อยเชื่อมั่น และร้อยละ 12.7 ไม่เชื่อมั่น

"มาร์ค"นำทีมลุยทวีวัฒนา

เวลา 10.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมส.ส.ของพรรค อาทิ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.กทม. นาย กรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานส.ส.กทม. นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค เดินทางด้วยรถบรรทุกของพรรคลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตทวีวัฒนา ที่ถูกน้ำท่วมสูงทั้งเขต ตั้งแต่ระดับ 0.5-1 เมตร และกทม.ประกาศให้เป็นพื้นที่อพยพ โดยนำอาหารกล่องปรุงสำเร็จไปแจกจ่ายตั้งแต่ถนนสุขาภิบาลบางระมาด ถนนพุทธมณฑลสาย 2 และถนนศาลาธรรมสพน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างทาง มีประชา ชนยังตะโกนถามคณะนายอภิสิทธิ์ว่าเมื่อไรน้ำจะลด ซึ่งส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ตะโกนกลับว่า ต้องถามรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีบางส่วนตะโกนว่า "เลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกฝ่ายค้านแล้ว" ทำให้นายศิริโชคกล่าวติดตลกบนรถว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านเหรอ อย่าง ไรก็ตาม การเดินทางเพื่อแจกจ่ายอาหารครั้งนี้ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงจึงเดินทางกลับพรรคประชาธิปัตย์ทันที

ย้ำอีกต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนประมาทเพราะเห็นมีการให้ข้อมูลเรื่องการน้ำทะเลหนุนมากเกินไป ปัจจัยตอนนี้ยังมีน้ำเหนือที่หลากลงมา และปัญหาคันกั้นน้ำพังตามที่ต่างๆ ยังเป็นจุดอันตรายอยู่ จึงไม่อยากให้ประชาชนตายใจ จะเห็นว่าวันนี้น้ำทะเลเริ่มอ่อนลงแล้ว แต่มีพื้นที่หลายจุดในกทม.ที่ได้รับผลกระทบมากขึ้น

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังยืนยันว่าต้องให้อำนาจเจ้าหน้าที่เต็มที่เพื่อดูแลส่วนรวมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่รัฐต้องใช้อำนาจไปจัดการ อย่างไรก็ตาม ประกาศพ.ร.ก.การบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจรัฐบาล แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่มั่นใจและสามารถปกป้องได้ ไม่เช่นนั้นงานต่างๆ ที่ทำมาก็เปล่าประโยชน์ และควรให้ข้อมูลที่แท้จริงกับประชาชน อีกทั้งแต่ละพื้นที่ต้องทราบว่าจะมีสัญญาณอะไรที่เตือนประชาชนในพื้นที่ได้ เพราะในหลายพื้นที่ที่น้ำเข้ามาแล้วประชาชนไม่อพยพ เมื่อสัญจรไปมาไม่ได้ การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ก็ทำได้ลำบาก นอกจากนี้การระบายน้ำถ้ามีช่องทางทำให้น้ำระบายลงทะเลให้เร็วที่สุดก็ควรรีบทำ ส่วนปัญหาการระบายน้ำในด้านทิศตะวันออกนั้นรัฐบาลก็ต้องทำให้เต็มที่

ปชป.ฉะรัฐ-ศปภ.ล้มเหลว

นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า รู้สึกอนาถใจและเสียดายหลังจากเห็นภาพสิ่งของที่ประชาชนบริจาคผ่านศปภ.จำนวนมากที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ต้องจมน้ำเสียหายที่ศปภ.ดอนเมือง เพราะยังมีผู้ประสบภัยอีกมากที่เดือดร้อนจากการขาดแคลนเครื่องใช้อุปโภคบริโภค แต่ต้องมาสูญเสียสิ่งของบริจาคไปกับความอ่อนประสบ การณ์และความดื้อดึงของรัฐบาลและศปภ. ตอกย้ำความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าของรัฐบาลและศปภ.ภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่รีบร้อนอพยพหนีน้ำจนทิ้งของที่ประชาชนร่วมใจบริจาคช่วยผู้ประสบภัยต้องเสียเปล่า

นายสกลธีกล่าวว่า การกระทำอย่างนี้ประชาชนจะไปเชื่อมั่นและไว้วางใจศปภ.ได้อย่างไร เพราะขนาดฐานที่มั่นของตัวเองแท้ๆ ยังรักษาและประเมินสถานการณ์เอาไว้ไม่ได้ อย่างนี้ประชาชนคงได้แต่สวดมนต์ภาวนาอย่างเดียว จะไปหวังพึ่งรัฐบาลคงต้องรอไปชาติหน้า

อัดพท.จ้องกินรวบอำนาจกองทัพ

นายสกลธีกล่าวว่า ถือว่ารัฐบาลยังโชคดีที่หน่วยงานภาคราชการทำหน้าที่กันอย่างหนักและเต็มที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารตอนนี้ต้องระดมพลออกมารบกับน้ำกว่า 50,000 นายแล้ว แต่ตนไม่รู้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เคยออกมาปรามลูกหาบบ้างหรือไม่ให้หยุด กระเหี้ยนกระหือรือหาเรื่องกับทหารโดยการเร่งเครื่องแก้พ.ร.บ.ระเบียบราชการกลาโหม หวังกินรวบอำนาจกองทัพไว้กับตัวเพื่อช่วยเหลือคนคนเดียว ถ้าว่างมากนักควรเอาเวลาไปหาทางหาเงินเบี้ยเลี้ยงให้ทหารและเจ้าหน้าที่ราชการต่างๆ จะดีกว่าจะทำให้ขวัญกำลังใจมีมากขึ้นเพราะทุกคนเหนื่อยและทำงานเต็มที่เกือบเต็ม 24 ช.ม. โดยไม่ได้รับอะไรเลย แต่กลับต้องมาพะวงกับพวกสันหลังหวะที่ระแวงกองทัพ

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์หวังผลการเมืองโดยใช้คณะกรรมาธิการที่มีส.ส.ของพรรคเป็นประธานตรวจสอบการทำงานแก้ไขน้ำท่วมของรัฐบาลและศปภ.ว่า ถือว่าพรรคเพื่อไทยกำลังแทรกแซงการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน เพราะตอนนี้รัฐบาลเหมือนปิดหูปิดตาประชาชนทุกทาง ให้ฟังแต่การแจ้งข้อมูลที่ไร้ประสิทธิภาพของศปภ. ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็งดและเลื่อนมาหลายสัปดาห์ ปิดโอกาสฝ่ายค้านตีแผ่ความล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลโดยเฉพาะการไร้ภาวะผู้นำของน.ส.ยิ่งลักษณ์

ปัดแผนบันได 9 ขั้นล้มรัฐบาล

นายสกลธีกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีสิทธิแม้แต่จะคิดต่อว่าพรรคใช้คณะกรรมาธิการเพื่อหวังผลการเมืองเพราะเราต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ขณะที่พรรคเพื่อไทยหมกเม็ดฉวยโอกาสและไร้กาลเทศะเสนอพิจารณาแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหม เพื่อประโยชน์ของตนเองในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส

"โฆษกพรรคเพื่อไทยยังละเมอเพ้อพกไม่เลิกถึงแผนบันได 9 ขั้นที่จะล้มรัฐบาลและเพ้อถึงขนาดว่าจะมีคนปลุกระดมประชาชนออกมาล้มรัฐบาลหลังน้ำลด อยากเรียนว่าตอนนี้ไม่ต้องรอปลุกระดม ถ้าคนของรัฐบาลมีโอกาสลงพื้นที่ไปดูผู้ประสบภัยบ้างจะรู้ว่าประชาชนเดือดร้อนและต่อว่าการทำงานของรัฐบาลขนาดไหน และบันได 9 ขั้นมันไม่มี รัฐบาลจะล้มหรือพังได้ด้วยความไร้ประสิทธิ ภาพในการบริหารของรัฐบาลเอง เลิกโทษคนอื่นและมุ่งมั่นแก้ไขปัญหา แต่ถ้าไม่ไหวก็ถอนตัว ให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทน เวลานี้ประ เทศไทยต้องการคนที่สู้จริงและไม่ยอมแพ้ถึงจะผ่านพ้นปัญหาในครั้งนี้ไปได้" นายสกลธี กล่าว

 

โฆษกพรรค ปชป. คงจะเข้าใจผิดว่าทหารจะขาดขวัญกำลังใจเรื่องสส.ในพรรคเพื่อไทยและกลุ่ม นปช.เสนอให้แก้ พรบ.กลาโหม ทหารชั้นผู้น้อยและทหารชั้นผู้ใหญ่ที่รักประชาธิปไตยเขาปรารถนาสิ่งนี้มานานแล้ว  เพื่อให้ทหารเป็นทหารอาชีพเป็นทหารที่มีหน้าที่ปกป้องประชาชนและไม่ก่อการปฏิวัติรัฐประหารให้ประเทศถดถอย และการมี พรบ.กลาโหมยังทำให้ทหารก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งต่างๆโดยความรู้ความสามารถ กล่าวคือทหารดีได้รับความคุ้มครองให้เป็นใหญ่ในหน้าที่ ทหารเลวคิดเติบใหญ่จากการยึดอำนาจหมดไปจากกองทัพ ไม่เชื่อก็ลองทำประชามติก็ได้ว่าทหารคิดอย่างไรกับการมี พรบ.กลาโหม และประเทศไทยต้องการคนสู้จริงใช่ทีเดียวเพราะขณะนี้ไม่ว่าภาครัฐหรือภาคประชาชนเขากำลังสู้กับอุทกภัยอย่างไม่ทดท้อ จะมีก็แต่พวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำและเขาเบื่อพวกบ้าน้ำลายที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่พ่นน้ำลายสาดใส่รัฐบาลไปวันๆ อย่างไรเสียประชาชนเขาไม่ยอมให้รัฐบาลนี้ถอนตัวเด็ดขาด เพราะเขาไว้วางใจเลือกมากับมือและมั่นใจว่าจะดับทุกข์เข็ญให้เขาได้

บันทึก

ข่าวทีวีว่า  นรม.ยิ่งลักษณ์ป่วยเข้าโรงพยาบาลเช้าวันนี้ (30 พ.ย.2554)   หมอบอกว่าอาหารเป็นพิษ ต้องพักผ่อน 1-2 วัน   แต่สุขภาพทั่วไปดี แข็งแรง   เป็นเพราะโหมงานจัดเกินไป

พอผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ หลุดหน่อย   ........  พักหน่อย เท่านั้นเอง  (ประโยคหลังผมพูดเองครับ)   ทางดวงดาวพบว่า  จันทร์(๒)กำลังจรผ่านราศีมกร ผ่านพรุ่งนี้เวลา 11.08 น.