1.
ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :- เอาละ เห็นกันแล้วละซี เรื่องราวการเมืองกับเยาวชน นิสิต นักศึกษา นั้นมันไม่สมดุลกัน เพราะการเมืองนั้น (นี่เข้าใจคำว่าการเมืองกันก่อนนะ) ไม่ใช่เรื่องตื้น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แบบฝรั่งว่า simple นั้นแหละ มันเป็นเรื่องลึก และสลับซับซ้อน มีหลาย dimension มากเลยที่มันเกี่ยวพันสัมพันธ์กันไปหมด ส่วนเยาวชน นิสิต นักศึกษานั้น เป็นอะไร ที่ simple มากเลย จึงกล่าวได้ว่า การเมืองกับเยาวชน นิสิต นักศึกษา นั้นมันไม่สมดุลกัน หมายความว่า ที่ไปตั้งตนเป็น เยาวชนปลดแอกนั้น มันก็เป็นอะไรที่ทำลายตนเองไปหมด และแพ้ไปหมด อย่างที่พากันออกมา ก่อม็อบที่นั่นที่นี่ โดยคิดว่าตนเป็นประชาธิปไตย(ทั้ง ๆ ที่ความจริงเป็นเผด็จการ ไปถึง เผด็จการก่อการร้าย) ซึ่งในที่สุดก็ได้พบความจริงเบื้องหลังการก่อม็อบ ว่า แท้จริงนั้น มีครูบาอาจารย์มารับใช้ด้วย อย่างธรรมศาสตร์เป็นต้น โผล่ออกมาถึง 105 คน แล้ว รองอธิการบดี และอธิการบดีค่อยโผล่ออกมา เช่นวันนี้อธิการบดี รศ.เกศินี วิบูลชาตินี่ออกมาปรากฏตัว ก็เหมือน 105 คนที่ออกมาก่อนนั่นแหละ คือ ควรไล่ออกเสีย ไม่มีความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตยพอ ๆ กัน(ที่แกว่าให้อดทนต่อความเห็นต่างนั้นแหละ แสดงถึงว่าเป็นพวกคิดล้มกษัตริย์นั้นเองและ นี่แหละเรื่องใหญ่ ที่ทางเราเสนอไปแล้ว วันนี้เสนอ ยุบไปเลยธรรมศาสตร์เสียทีเถอะ สร้างใหม่ เหตุก็คือ อวิชชา แพร่ไวรัสการเมืองร้ายที่หลงผิดในประชาธิปไตยมาตลอด สู่เยาวชนนิสิตนักศึกษามาตลอดถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ตัวนั่นเอง
2.
ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :- เอาละต่อไปอีกหน่อย การชุมนุมวันนี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลางถนนหนทางอีกครั้ง จบลงด้วยข้อเสนอ 3 ข้อ ของเยาวชนปลดแอกที่ได้วิพากษ์ไปแล้วว่า อันธพาลเราดีๆ นี่เอง เรื่องข้อเสนอวันนี้ ก็เป็นข้อเสนอแบบ simple ไปเหมือนเดิม ด้วยความรู้ความคิดและประสพการณ์แบบ simple ครั้นเสนอไปแล้วเขาไม่รับก็ไม่เข้าใจ ว่าเพราะอะไร ก็จะด่าเขาต่อว่าไม่รับฟังความเห็นของประชาชน แบบที่นายชลน่าน ศรีแก้ว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายรังสิมันต์ โรม ด่าไปในสภาผู้แทนราษฎรนั้นเองแล้วเอาไปเป็นเหตุก่อม็อบ คิดผิดไปถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ ทำคนโง่ๆ เข้าใจผิดตามไปอีกนั่นเอง มาสรุปก่อนดีกว่า ที่ตื่นกลัวมากกลับเป็นเรื่องที่บอกถึงความโง่ของเขาจริง ๆ ไม่เข้าใจทั้งนั้นในเรื่องยุทธศาสตร์ และ ยุทธวิธี คือ ก็คือกลัวปฏิวัติรัฐประหาร เสนอเป็นข้อสำคัญลงท้ายก่อนเลิกการชุมนุม อย่าทำรัฐประหารเด็ดขาด นี่คือ คนที่simple จริง ๆ เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย ก็เขาจะปฏิวัติไปทำไม เพราะเขาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว(และไม่โง่อย่างรัฐบาลทักษิณ ที่ให้อิสลามปฏิวัติ แล้วตนเองหนีไปไหนไม่พ้นต้องไปอยู่อิสลามให้อิสลามขูดรีดอย่างสุดแสบสันต์น้ำตาตกในเพียงใดก็ยอม เพราะไม่มีที่อยู่ มาถึงทุกวันนี้ และก็พอ ๆ กันน้องสาว ที่เป็นรัฐบาลเงามีพี่ชายสั่งการอยู่เบื้องหลัง โกงเงินจำนำข้าวจนลูกน้อง(รมว.พาณิชย์)ถูกจำคุก 43 ปี อ่อนแอมากจนโดนปฏิวัติหนีไปอยู่อิสลามให้อิสลามขูดเลือดอีกแบยบยิ่งกว่าเก็บภาษีคนรวย) แต่รัฐบาลนี้ เขาได้รับการยอมรับจากรัฐสภาไง คือประชาชนทั้งประเทศรับรองเขาอันดับ 1 ถึง 8 ล้านคน แล้วยังไง
3.
ทหารทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ ตำรวจ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อยู่ใต้อำนาจเลื่อมใสเชื่อฟังเขาอยู่แล้วเพราะผลงานช่วยเหลือประชาชนยามตกทุกข์ยากไร้เขาไม่ทอดทิ้ง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ขบวนการหาเสียงของฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ร่วมกับเยาวชนปลดแอก ที่ทำผิดพลาดไปอย่างใหญ่โต ในการหาเสียงวันที่ 10 ส.ค. นั้นเอง ในธรรมศาสตร์ โดยทำตนเป็นหมาูน้อยคิดสู้ราชสีห์นั่นเองคือคิดล้มกษัตริย์ วันนี้ หากมีอะไรอีก คนทุกจังหวัด ทั้ง 60 กว่าล้านคน ก็จะลุกขึ้น หรือเพียงปลุกด้วยวาทะหน่อยเท่านั้น ว่าพวกนี้คือโจรปล้นราชบัลลังก์ เนรคุณต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ก็กลัวจะเอาไม่อยู่ นั่นคือ คนทั้งแผ่นดินจะลุกขึ้นมาเหยียบพวกนี้ตายราบไปง่าย ๆ เลยนั่นเอง เขาจึงไม่คิดเรื่องปฏิวัติอะไร แต่คนโง่ ๆ เท่านั้นคิดไปเอง นี่เห็นไหมความคิดโง่ๆ หรือ ยุทธศาสตร์ที่โง่ ๆ การเมืองวันนี้ ทางฝ่ายรัฐบาลเขามีความมั่นคงเกินที่คุณจะคิดเอาง่าย ๆ ว่าเพียงปลุกคน simple ๆ ๆ แบบนักเรียน เยาวชน นิสิต นักศึกษาที่ใส่แอกให้ว่าเยาวชนปลดแอก คือแอกที่ว่านั้นเป็นแอกที่ครูอาจารย์มธ.นั่นเองใส่ให้พวกเยาวชนเขา แล้วจะไปปลดแอกใคร ปลดแอกตัวเองสิ ฉะนั้น มาทบทวนดีกว่า การสร้างประชาธิปไตยไทยนั้น ต้องคำนึงสุภาษิตเดิมของคนสากลโลกที่ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว เราทุกคนวันนี้คิดในเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตยไทยพอ ๆ กัน แต่ต้องโดยเหตุผลและสันติ
4.
แล้วก็มาข้อเสนอว่าให้ยุบสภาในทันทีไม่เกินเดือนหน้า กันยายนนี่ให้ยุบเลย คือ นี่คือผู้เสนอนี่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถารนการณ์การเมืองไทย การเมืองโลกขณะนี้เลย ผิดหลักการเมืองไปอย่างสุด ๆ อะไรจะเกิดขึ้น หากยุบสภาในเดือน ก.ย.นี้ รู้คิดหรือเปล่า ? (1.) การบริหารงานประเทศจะไม่มีคนรับผิดชอบคนสั่งการบริหารเหมือนเดิม หยุดลงหมด นาวาลำใหญ่ของไทยก็จะไร้คนคุมหางเสือเรือ ท่ามกลางสถานการณ์โลกอันวิกฤตจากไวรัสโลกโควิด19 โควิด19 ก็จะทะลวงมาสู่ประเทศไทย ก็เอาไม่อยู่ คนไทยก็จะตายกันหมดอย่างที่อเมริกาตายไปเกือบถึง 2 แสนคนไปแล้ว บราซิล ก็ไปแสนกว่า อินเดียก็พอ ๆ กันตายไปห้าหมื่น แล้วยังตายต่อไปอีกเรื่อย ๆ ไทยขณะนี้ตายไปเพียง 58 คนเท่านั้นเอง สุดยอดไหม ทั่วโลกติดเชื้อ 20 ล้าน ไทยติดแค่ 3000 กว่าคนเท่านั้น นี่มันแสดงอะไรดูด้วยใจเป็นธรรมสิ แสดงว่าไทยเราถูกล้อมไงล่ะ โควิดล้อมเราจากทั่วโลก เรามีกำแพง กั้นเอาไว้ได้ เพราะงานของรัฐบาลและสาธารณสุขไทยเขาทำได้จริง จนโลกทั้งโลกเอาอย่าง และสรรเสริญมาบ่อย ๆ เลย เพราะรัฐบาลเก่งจริงเอาจริง (ไม่ใช่อย่างที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมาโฆษณาชวนเชื่อเป็นแบบการด่ารัฐบาลมาถึงวันนี้ของฝ่ายเขาว่า รัฐบาลหัวควย รัฐบาลเผด็จการ โจรห้าร้อย ไม่รู้เรื่องไวรัสเลย อีกหน่อยไทยจะพินาศเพราะความโง่เขลา ต้องออกไปเสียวันนี้เลย ออกไปเลย นี่แหละแบบที่ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลไว้แต่แรกที่โควิดเข้ามา
5.
แล้วก็พิศูจน์ไงว่ารัฐบาลเก่งจริง เอาจริง นั่นเอง แต่โลกทั้งโลกล้อมเราอยู่ เทียบกับโลกแล้วประเทศเล็กนิดเดียว หากไม่ระวังละก็ แน่ละกำแพงพังลงก็ดุจเขื่อนแตกเลยละ ตายกันทั้งประเทศแน่ นี่แหละ อย่าได้ทำอะไรเป็นเล่น ๆ ไปเลย และความคิดของศัตรูการเมืองกัน อย่าให้เลยไปถึงขั้นเอาไวรัสมาช่วยด้วยการเสี่ยงต่อการทำลายประเทศทั้งประเทศเลย (2.) ประเทศจะล่มจม ประชาชนจะอดอยาก เกิดจลาจลทั่วประเทศ เพราะไม่มีใครบริหารงานเศรษฐกิจ ที่กำลังจะตายอยู่ขณะนี้ คนก็จะแก่งแย่งกัน นับแต่คนในรัฐบาล ในราชการ มือใครยาวสาวได้สาวเอา โจรกรรมท่วมท้น ก็จะเห็นกันหากมีการยุบสภาลงในวันนี้ (3.) แล้วการเลือกตั้งก็จะไม่เรียบร้อย จะเสียเงินเสียทองไปมากมายมหาศาล ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ก็พอ ๆ เห็นอยู่ แล้ว เป็นเรื่องโง่ของฝ่ายค้านของเด็กปลดแอกนั่นเอง ที่คิดยุบสภาและโดยเฉพาะเป็นเรื่องโง่ ๆ ของคนไม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตย นับแต่พวกเยาวชน นิสิตนักศึกษา นักคิดปลดแอก และครูอาจารย์ในธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยทั่วไปโดยมีพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนการล้มเจ้าและให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทั้ง ๆที่ไม่มีเหตุผลสมกาละเทศะเลย นั้นเอง ( 5.) ไม่รู้อะไรไปอีก ยุบสภาเดือนกันยายน รธน. 60 ก็จะมีอำนาจอยู่ ประยุทธ จันทร์โอชา ก็จะชนะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป แล้วที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ก็ข้อเสนอโง่ ๆ น่ะสิ นี่แหละปัญญาต่ำตื้นจริง ๆ ใครเขาจะรับไปทำได้ เห็นไหม? แล้วยังไง
6.
ก็จะออกมาเดินขบวนอีกว่าเผด็จการ คสช.สืบอำนาจ ว่าตนเป็นประชาธิปไตยต้องขับไล่ต่อไปอีก หลายสมัยเลยคราวนี้ ฝ่ายค้านโง่ ๆ ก็จะต้องหน้าแห้งต่อไปอีก ก็จะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะยุบสภาแล้วก็ต้องจัดการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ60เดิมนั่นเอง คุณไม่รู้เลยหรือไง ? ( 7.) ที่ว่าฝ่ายรัฐบาลเป็นเผด็จการโจรห้าร้อย นั้น ....มาถึงตอนนี้ คนไทยก็จะเห็นได้ว่า ข้อเสนอของขบวนการปลดแอกเยาวชน นิสิต นักศึกษา นี้ เป็นเรื่องโง่เขลาเบาปัญญาจริงๆ เพราะเสนอในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจเลย ทั้ง ๆ ที่อ้างตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย กลับทำอะไรเสนออะไรไปแบบไม่ถูกครรลองประชาธิปไตยเลย เช่นนี้ อะไรคือเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องไร้สาระขึ้นมาที่สูญเสียอะไร ๆ ไปมากมายแบบไร้ประโยชน์เปล่า ๆ ไปหมด เสียเวลาทำมาหากิน เสียเวลาร่ำเรียนหนังสือ เสียเงินทองพ่อแม่ส่งมาให้เรียน ไปเปล่า ๆ เสียหลายอย่างเหลือเกิน อย่างที่น่าเสียดายจริง ๆ และน่าวอนจริง ๆ ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาทำไม และนี่เป็นเพียงเรื่องการเมือง แต่เรื่องที่ร้ายแรงไปที่สุดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ก็คือ เรื่องข้อเสนอ 10 ข้อ นั้น(ซึ่งอาจารย์105 คนออกมายืนยันว่าสนับสนุน) ซึ่งแท้จริง เป็นเรื่องเสนอล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไทย อย่างโง่เขลา ในความเข้าใจผิด ไร้ความรู้ในหลักวิชาประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง โดยเหตุที่อ้างว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น ย่อมไม่มีกษัตริย์ กษัตริย์ย่อมไม่มีในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จึงเสนอ 10 ข้อ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยจะต้องไม่มีกษัตริย์
7.
ซึ่งนี่ ได้ทราบเบื้องหลังจากขบวนการนี้เองว่าเดิมมาจากนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตพรรคอนาคตใหม่ นั้นเอง ต่อมาอาจารย์105คนเอาไปปรับแรงขึ้น ซึ่งพอ ๆ กับเพื่อนเขาอีก 3 คน คือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางพรรณิกา วาณิช (ที่ทั้ง 3 คนนี้ล้วนแต่สร้างประวัติตลกการเมืองไทยไปทั่วโลก นางพรรณิกา วาณิช พอเข้าไปในสภา ในฐานะ สส.พรรค ก็ไปแสดงแฟชั่น เปลี่ยนชุดแต่งตัวไปทุกวัน ๆ วันละหลายครั้งจนคนคิดว่าเป็นนางแบบประจำสภา จนโดนไล่ออกไปจากสภาพร้อม ๆ กันทั้ง 3 ตลกนั้น กลายเป็นหญิงตลกหน้าด้านคนหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนนายปิยบุตร นั้น ยิ่งหน้าด้านกว่าใคร เวลาคิด คิดว่าตนคิดอะไรคนอื่นจะต้องฟังตน เชื่อตนคนเดียว ใครคิดผิดไปจากตน นั้นเป็นเผด็จการ แล้วขนาดนี้ที่ เป็นครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัยยังคิดอะไรไม่เป็นเลย แล้วจะไปอยู่ไหนทำมาหากินอะไรในโลกนี้ แม้กระทั่งว่าตนคิดผิดไปจริงๆ ยังทนทานยืนยันว่าตนถูก นี่สุดหน้าด้านเลยละ เพราะข้อเท็จจริง ตามหลักวิชาการประชาธิปไตย นั้น ประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ หรือสถาบันกษัตริย์เลย และตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญไทยมา มีประชาธิปไตยมา กษัตริย์ไทยก็ทรงอยู่ใต้กฎหมายมาตลอด ดูสิ ดูว่าอำนาจทั้ง3 คือ นิติบัญญัติ บริหาร และ ตุลาการ นั้น ล้วนมีอิสระเฉพาะสถาบันอย่างเด็ดขาดทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับกษัตริย์เลย ความเข้าใจผิดเหล่านี้มาจากไหนก็มาจากครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นเอง หลบลี้อยู่เบื้องหลัง วันนี้จึงเปิดเผยออกมา 105 ชื่อ ที่ควรไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ล้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสียใหม่เลย ทั้งหมด และโดยเฉพาะอธิการบดีนางเกศินี วิบูลยชาติ นั้น นั่นแหละ เอาออกไปก่อนเพื่อนเลย รองอธิการบดีมธ.รังสิต นายอะไรนั่นน่ะ ก็เหมือนกัน ต้องไล่ออกไปเสีย นี่ก็เป็นข้อเสนอ พอ ๆ กับที่เสนอไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ นั่นเอง ตามสิทธิของประชาธิปไตย
8.
และข้อสรุปในวันนี้ ก็คือ การชุมนุมของหมู่คนที่เรียกตัวเองว่า เยาวชนปลดแอก และเยาวชนนิสิตนักศึกษา มาตลอดหลายเดือนมาแล้ว โดยมีลักษณะประสานสอดคล้องแบบการหาเสียงร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในสภาผู้แทนราษฎร และในวงการสื่อสารมวลชน ประเด็นความไม่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างไร จึงเป็นเหตุทำผิดหลักการประชาธิปไตยไปหมด ตลอดการชุมนุมที่เราเรียกว่า การหาเสียงของพรรคฝ่ายค้านมีพรรคอนาคตใหม่เดิมหรือพรรค ก้าวไกลและพรรค เพื่อไทยนั้นเอง โดยเสนอให้ประชาชนทั้งประเทศผู้รักประชาธิปไตยได้เข้าใจประชาธิปไตยให้ถูกต้อง และการแก้ไขโดยหลักประชาธิปไตยก็คือ สิทธิในการเลือกตั้งของเรานั้นแหละเป็นอาวุธ ทำอะไรไม่ได้ก็เอาอาวุธสิทธิ1เสียงนี่แหละมาจัดการ ที่เราจะไล่สส.พรรค 2 พรรคนี้ออกไปเสียในการเลือกตั้งคราวหน้านี้ อันเป็นอำนาจของเสรีชนอย่างเต็มตัวอยู่แล้ว ส่วนการเสนอของเยาวชนปลดแอกวันนี้ 3 ข้อ (1.) หย่าคุกคามทำร้ายประชาชน ก็ไม่มีการคุกคามทำร้ายเลยมีแต่การป้องกันให้ จนคนรักสถาบันประชาชนและอาชีวะศึกษาที่มาคุมอยู่ถอนตัวไปก่อน (2.) ยุบสภาเสียในเดือน ก.ย. นี้ ก็เสนอไปได้ตามสิทธิ แต่ไปตามระบบเขาสภาผู้แทนราษฎรเองเสียก่อน เพราะเขาเป็นตัวแทนประชาชน 60 ล้านคน เราเป็นคนส่วนน้อยนิด จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร ในเมื่อเสียงในสภาใหญ่กว่า (3.) ให้แก้รัฐธรรมนูญ แก้แบบไหนเล่าเสนอมาอีกสิ อาจารย์ในมธ. 105คนเสนอออกมาสิ จะบอกให้ว่าอย่างไร และวันนี้ควรสรุปลงได้เลยว่า ความคิดความเห็นความหยากของคนเหล่านี้มันออกมาแบบ simple เกินไป คือเดินไปแบบคนปัญญาอ่อนเกินไป ไม่มีความสมดุลระหว่างคนพวกนี้กับการเมืองของชาติ ข้อเสนอจึงเป็นเรื่องโง่ ๆ จริง ๆ ตามที่ได้วิเคราะห์ให้ฟังมาแล้ว โดยเฉพาะข้อเสนอให้ยุบสภาในเดือน ก.ย.2563 และข้อเสนอ อย่าเหิมเกริมทำการปฏิวัติรัฐประหารอย่างเด็ดขาด นั้น เป็นข้อเสนอของใคร? ที่ไม่สมกับเป็นคนในมหาวิทยาลัยเลย ตามที่ได้วิเคราะห์มา ยุบสภาวันนี้ ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ บ้านเมืองเกิดจลาจลแน่ ๆ แล้วการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ได้อย่างไรเมื่อยุบสภาลงไป จะให้แก้อะไรบ้างก็ไม่รู้ บางทีลองเสนอออกมาหน่อยก็ได้ จะได้แสดงปัญญาอะไรหรือเปล่า นี่แหละสรุปลงอย่างนี้แหละ และเรื่อง 105 อธิการบดี รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ไล่ออก ล้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างใหม่ไปเลย ส่วนเรื่องที่ทำผิดมาแต่การชุมนุมคราวก่อน ๆ ก็คิดว่ามีการลงโทษถึงจำคุกก็มี ก็เข้าคุกรับใช้การกระทำของตนไป นี่แหละเรื่องราวที่พอจะให้เข้าใจกันวันนี้
@ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ 17 ส.ค.2563 01.39 น.