เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้วComputerman36:-
ทำไมในประเทศไทยวันนี้ จึงมีปัญหา3สถาบันหลักของชาติเกิดขึ้นมาได้ เพราะคนไทยไม่เคยมีใครคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะมีขึ้นในประเทศไทย คือ
#ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มามองจากประเด็นของชาติ น่าเป็นเพราะการเมืองนั่นเอง เช่นประเด็นเรือดำน้ำไทย ทำไมนักการเมืองอย่างนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย จึงทำให้เกิดปัญหา เริ่มแต่ลงคะแนน 4:4 แล้ว ประธานเขาตัดสินด้วยการลงคะแนนเข้าข้างฝ่ายเขา รัฐบาล ทำไมนายยุทธพงษ์จึงเอามาพูดแสดงความไม่พอใจอย่างสุด ๆ ที่ประธานเขาลงคะแนนเสียงไป ทำให้ฝ่ายเขาชนะ นี่คือคนอันธพาลนั่นเอง
#ไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ และวันนี้ ถึงถูกกองทัพเรือฟ้องร้องเอาว่าดูหมิ่นกองทัพเรือ ทำไมเขาจึงไปดูหมิ่นกองทัพเรือ ทำไม สส.จึงถึงต้องพูดจาดูถูกคนอื่นเขาในสภาอันทรงเกียรติ์ เช่นเดียวกับที่สส.บัญชีพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ที่ไปดูถูกสส.ด้วยกันกลางสภาว่าเป็นพวกรับใช้โจรห้าร้อยไม่ขอทำงานด้วย (กรณีฝ่ายค้านลงคะแนนแพ้เขา แล้วไม่ยอมรับว่าแพ้ ไม่ส่งกรรมการไปทำงานด้วย ซึ่งที่จริงมีโทษทางประชาธิปไตยถึงยุบพรรคการเมืองเลย ตัวเองดีอยู่คนเดียวทำไมไม่ออกไปเสียนะเออ)
ส่วนประเด็นของศาสนา ก็ดูเป็นเพราะมีนักการเมืองไม่รู้ไม่เข้าใจศาสนาเช่นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเขาเองก็บอกไปแล้วว่าเขาไม่นับถือศาสนา ซึ่งตามทัศนะของคนมีศาสนาจะถือว่าเป็นคนป่าเถื่อน จะมาอยู่ร่วมกับคนดีมีศาสนาไม่ได้เพราะจะประพฤติตนป่าเถื่อนแบบไม่รู้ดีรู้ชั่ว ดังจะเห็นนายนธนาธรนี้ก็ป่าเถื่อนจริง ๆ ที่ไปสอนให้เด็ก ประถม ไม่ให้ไหว้ครูบาอาจารย์ ไม่ให้ทำพิธีไหว้ครู ไม่ต้องทำความดี ให้ทำแต่ความเลว ทีให้ตั้งองค์การนักเรียนเลวขึ้น ซึ่งได้แสดงบทบาทคราวแรกด้วยการรวมพลังบุกกระทรวงศึกษาธิการวันที่ 17 ส.ค. 2563 ไล่รมว.ศธ.ไปเดินท้ายแถวต่อขบวนนักเรียนเลวนั่นเอง การไปยุยงเด็กในโรงเรียน ให้รวมตัวกันเป็นเยาวชนเลวมีสิทธิจะทำอะไรก็ได้ ไม่เคยมีใครสอนแบบนี้มาก่อนเลย ศาสดาศาสนาทุกศาสนาเขาไม่เคยสอนคนให้ทำเลว มีแต่ให้ทำดีทั้งนั้น ซึ่งนี่มาจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คิดว่าเสรีภาพคือการทำอะไรก็ได้ นั่นเองและเขาเองคิดว่าหากได้เป็นใหญ่ ก็จะหาทางทำเงินทำทองอย่างไร เท่านั้นเอง ไปถึงขายชาติเขาก็ทำได้ และที่จริงนี่คือคนไม่มีศาสนา
และมองด้านสถาบัน พระมหากษัตริย์ นั้น เนื่องมาจากอะไร จึงมีคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะคนที่อยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัย พยายามก่อกวนการเมืองมาตลอด ทุกครั้งทุกคราวที่มีเรื่องรุนแรงทางการเมืองเกิดขึ้นไปถึงการรัฐประหาร การปฏิวัติ แบบที่ไม่เข้าหลักการการเมืองเลย และห่างไกลจากประชาธิปไตยไปแบบตรงกันข้าม ที่แท้จริงเพื่อการซ่อนแฝงเจตนาล้มสถาบันมาตลอด ซึ่งในที่สุดก็เปิดเผยกันออกมาจริง ๆ ในการชุมนุมวันที่ 10 ส.ค. 2563 ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่นเองรู้กันทั้งประเทศไทยแล้ว ผู้รับผิดชอบก็คือ อธิการบดี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เจ้าของสถานที่นั้นเอง และพร้อมด้วย คณะอาจารย์ 105 คนที่เปิดเผยชื่อตัวเองว่าสนับสนุนหลักการล้มสถาบัน 10ข้อ อันเป็นประกาศนโยบาย 10 ข้อ แนวทางปฏิวัติล้มล้างสถาบัน นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ก็เห็นอยู่ชัดเจนตามมาว่า เนื่องจากความคิดมักใหญ่ใฝ่สูงของนักการเมืองคนหนึ่ง 2 คนนั่นเอง ที่คิดเปลี่ยนการเมืองไทยไปเป็นระบอบประธานาธิบดี ตนเองก็จะได้เป็นใหญ่หาทางขายชาติมั่งมีมหาศาลได้ นั่นก็มี 2คน คือนายทักษิณ ชินวัตรกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่นเอง ที่ฝ่ายเดียวกันก็ยังคิดแก่งแย่งความฝันอันสูงสุดนี้อยู่ คืออยากเป็นใหญ่อยากเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทยด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะนโยบายที่จะทำนั้น มันฝืนสัจธรรม สัจธรรมแห่งความเป็นไทย
เช่นขณะนี้เอง ที่คิดนโนบายแบบป่าเถื่อนขึ้นเพื่อให้ฝ่ายตนได้บรรลุนโยบาย 10 ข้อดังกล่าว นั่นก็คือ ต้องสร้างความวิกฤตขึ้นในประเทศไทยให้ได้ ให้เกิดการอลเวง ไปทั่งประเทศให้ได้ โดยเอาข้อกล่าวหาต่างๆมาใส่การล้มล้างรัฐบาลชุดประยุทธ จันทร์โอชา ลงให้ได้ นั่นเอง จึงเห็นมาโดยตลอดว่า มีการร่วมมือกันของฝ่ายไม่มีศาสนานี้ ทั้งในสภาและนอกสภามาตลอด ในสภาก็ให้ก่อกวนสภา ไม่ให้เดินไปด้วยดีโดยง่าย ๆ ให้ยากเข้าไว้ นับแต่เรื่องงบประมาณ 2563 ที่ฝ่ายค้านให้นักด่าฝ่ายตนด่ารัฐบาลอยู่ถึง 3 ชั่วโมงในสภาอันทรงเกียรติ์ กรณีนายหนวด สส.ทางเหนือคนนั้น นั่นเองแต่เกิดพลาด ไปยกตัวดีเกินไป ท้าทายพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ไปพิศูจน์ความดีกันหน้าวัดพระแก้ว เอาปืนไปคนละกระบอก ดวลกันเลย ผมเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ทหาร กล้าดวลกับทหารยศพลเอกเพื่อพี่น้องประชาชนเห็นความดีของผมนั่นเองเป็นวาจาของสส.พรรคเพื่อไทย ที่พูดกลางสภา อย่างน่าทุเรศต่ำทรามจริงๆเป็นประวัติศาสตร์ในสภาไทย และล่าสุดก็เรื่องเรือดำน้ำ ถึงขนาดไปอ้างว่า การซื้อเรือไม่ใช่ จีทูจี เหมือนจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ก็สส.ไร้สติไปอีกคนหนึ่ง ที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไร นี่แหละก่อกวนในสภาไปตลอด มาระยะล่าสุด ที่มั่วไปหมดทั้งในสภาและนอกสภาก็การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเพียงหาเรื่องมาก่อกวนของฝ่ายค้าน ในสภาก็ไม่หยุดการก่อกวน นอกสภาก็ก่อกวนไปเรื่อย โดยการปลุกระดมมวลชน เอาสถานศึกษาเป็นตัวตั้ง มาถึงวันที่มีการระดมเด็กนักเรียนมา ให้ทำความเลว ให้ตั้งเป็นองค์การนักเรียนเลว คงเป็น สนท.นั่นแหละองค์การหนึ่งที่มีนักศึกษาหญิง เป็นประธานทำความเลวไปตามนโยบายนายธนาธร ก็คงสนุกกันเต็มที่ด้วยการทำเลวกันไปขณะชุมนุมเลิกการชุมนุมละ วันนี้ ที่ 5 ก.ย. 2563 แล้วจะมีอีกในวันที่ 19ก.ย. 2563
ซึ่งการพยายามนัดการชุมนุมนี่แหละนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ถือเป็นวิธีการที่จะให้เกิดความอลเวงขึ้นในประเทศไทย ถึงขนาดจะให้กำแพงโควิด-19 พังทลายมาสู่ประเทศไทย เขาก็ต้องการให้เกิดขึ้นจนได้ โดยวิธีที่แยบคายด้วยการอ้างเสรีภาพในการชุมนุมแสดงความคิดเห็น นี่เอง เขายังคงจะหาเรื่องเอากับรัฐบาลได้นะหากเกิดระบาดของโควิดในหมู่นักศึกษาที่มาชุมนุม เลวจริงๆ
วันนี้ไทยอยู่ท่ามกลางภัยร้าย ที่กำลังท่วมโลกอยู่เพียงแต่การบริหารของประเทศโดยรัฐบาลประยุทธ 2 นี้ ทำถูกอย่างฉลาดพอเอาโควิดอยู่ จนได้รับคำสรรเสริญไปทั่วโลก แบบที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พรรคเพื่อไทย ที่ตอนแรกด่าอย่างหยาบคาย เป็นพื้นฐานตัวอย่างการด่าประยุทธ จันทร์โอชาต่อมาเลยว่า เป็นทหารโง่ หัวควย โง่ไม่รู้เรื่องไวรัสโควิดเท่าตน ที่เคยผ่านไข้หวัดใหญ่มาแต่รบ.ทักษิณแล้ว อยู่ต่อไปไทยยิ่งเสียตกต่ำ อันตรายร้ายแรง หาคนเก่งกว่านี้มาบริหารเถอะ ออกไปได้แล้ว คือเน้นเรื่องการด่าว่าเป็นคนโง่ต้องลาออกไป แต่แล้ว รัฐบาลประยุทธกลับทำสิ่งที่เด่นดังในโลกได้อย่างไม่มีที่ติ คนตายเพียง 58 ศพ ขณะที่โลกตายไปแล้ว 878,765 ศพ .คนติดเชื้อ กว่า20 ล้านคนไปแล้ว...คนแปดแสนตายกองกันเป็นภูเขาเลย มีที่ไหน นั่นแหละลองเปรียบเทียบดู แล้วควรยินดีมีความสุขกับประเทศไทยไม่ใช่หรือ? แต่นั่นแหละคนเลวจึงอิจฉาริษยาตลอด และแน่ละเขาไม่ยินดีด้วย มีแต่มุ่งทำลายทำให้พลังกำแพงป้องกันโรคร้ายนี้ พังลงมา ซึ่งจะหมายถึง คนไทย คนไทยจะพบไวรัสร้ายอย่างฉกรรจ อาจจะพอ ๆ กับต่างประเทศ ที่ถึงกับเสียชีวิตกันวันละหมื่นวันละแสนคน ก็ได้ อย่างเช่นอินเดีย วันนี้ มีผู้ติดเชื้อถึง 87115 คน มากที่สุดที่โลกเคยมี ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะอินเดียชุมนุมกันที่แม่น้ำคงคา เทวาลัยมหาเทพหัวช้างกันวันละเป็นหมื่น ๆคนอ้อนวอนเทพเจ้าให้ขจัดโควิด ซึ่งนั่นแหละเป็นวิธีการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ และยังทำลายหลักยุทธศาสตร์ Distancing นั่นเอง
แต่ทำไม่เมื่อมีคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่ออกมาจากมหาวิทยาลัย มาตลอด พยายามที่จะทำลายแนวป้องกันภัยโควิดของไทยให้พังทลายมาตลอด ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่า ปัญหาทางยุทธศาสตร์ของการรบกับภัยนี้คืออะไร นั้นแสดงถึงคนกลุ่มนั้น หวังทำลายประเทศชาติ ทำลายสามสถาบันนั่นเอง และแน่นอน เดิมเพียงทำลายการเมืองไทย ให้เปลี่ยนระบอบจากระบอบนายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานาธิบดี ซึ่งนั่นหมายถึงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อน ซึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจกำลังจะทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทย แบบคนป่าเถื่อนไม่มีศาสนาคิดกระทำไปนั่นเอง ซึ่งนั่นจะเป็นการทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย อย่างป้องกันไม่ได้ และซึ่งคนไทยทุกคนจะพบปัญหาอันตรายพร้อมกันหมดแต่นายธนาธรกลับพอใจคิดว่าตนจะได้เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาจากสถานการณ์นี้
ทำไมนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่ร่วมกันระมัดระวังภัยโควิด โดยต้องร่วมกันในยุทธศาสตร์ป้องกันภัยนี้ร่วมกัน แต่กลับทำตรงกันข้ามนั่นก็คือ การปลุกระดมมวลชนมาชุมนุมกันตลอดมาของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดย ทำการปลุกระดมในจังหวัดต่าง ๆ นับแต่มีการเลือกตั้งซ่อมใน6 จังหวัดมา อาศัยเหตุทำการปลุกระดมมวลชนในต่างจังหวัดทั่วประเทศมาโดยตลอดซึ่งประสงค์อย่างเดียวคือยุยงให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชา นั่นเอง แต่แท้ที่จริงนี่คือการแอบแฝงอย่างแยบยลที่ต้องการทำลายกำแพงป้องกันโควิด ที่รัฐบาลประยุทธทำไว้ดีจนเป็นที่นิยมของโลกทั้งโลก เป็นที่นิยมของประชาชนไทยเอง นั้นให้พังทลายลง และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประยุทธ จันทร์โอชาอย่างที่ไม่อาจจะอยู่ต่อไปได้ นั่นเอง แต่นั่นแหละคนที่ผิดหวังจากผลงานความดีนี้คือ พรรคฝ่ายค้าน และพวกเลวไม่มีศาสนาที่สอนแม้เด็ก ๆ ให้ทำความเลว ให้ก่อตั้งขึ้นเป็นองค์การนักเรียนเลว นั่นเองอย่างไรล่ะ นั่นแหละจุดมุ่งหมายคนเลว พวกเลว ที่ต้องการให้โควิดระบาดทั่วไทย ฆ่าคนไทยตายหมดทั้งประเทศ นั้นต่างหาก
ดังปรากฏมาตั้งแต่ flash mob ของนายธนาธร นั่นเอง ซึ่งก็แพ้มาตลอด แต่ก็คงคิดทำลายยุทธศาสตร์โควิดนี้ต่อไป จึงเทียวไปปลุกระดมให้มีการรวมตัวชุมนุม ต่างจังหวัด แม้ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังคงจัดตลอดมา อย่างเมื่อวานนี้ 4 ก.ย. 2563 มีเหตุคนไทยในคุกติดโควิดเข้าคนหนึ่ง หลังจากครบ 100วัน ไม่ปรากฏเลย เริ่มมีขึ้นแล้ว นี่แหละทำให้วงการสาธารณสุขไทย ปั่นป่วนกันทั้งประเทศ และนี่แหละเห็นได้เลยว่าสมความคิดของคนเลว อย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ดังจะเห็นว่ามีการชุมนุมผูกโบว์ขาว ให้กำลังใจแก่นายอานนท์ ในคุก(นายคนนี้แปลก อยากอยู่ในคุกเอง ศาลให้ประกันไม่ประกัน)พวกของตนเองที่ถูกข้อหากล่าววาจาหยาบคายทำร้ายคนอื่นทางวาจารุกรานทำร้ายสถาบันนั้นเอง ที่กระทำตนขัดหลักยุทธศาสตร์การป้องกันการรบกับโรคร้ายของไทยวันนี้ นั้นแหละบอกไปถึง ผู้ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยแท้จริงเห็นเด่นชัดเจนขึ้นไปทุกที
และวันนี้ 5 ก.ย.2563 ก็มีการปลุกระดม นักเรียนมาชุมนุมที่กระทรวงศึกษาธิการ เริ่มชุมนุมเวลา 15.00 น. ในนามองค์การนักเรียนเลว ภาคีนักเรียน KKK คือภาคีเลว ๆ ซ่อน ๆ อยู่นั่นเอง (มีนางช่อ นางเลวมาดูด้วย) นักเรียนหญิงเยอะๆทั้งนั้น ไม่ทราบว่า สนท.ที่มีหัวหน้าเป็นนักศึกษาหญิงหน้าตาดี แต่เลว มาดูด้วยหรือเปล่าเพื่อยุให้ทำเลวแบบตนต่อไป (ตำรวจเขาพบหลักฐานเป็นถุงอนามัยเยอะเลย ในการชุมนุมคราวหนึ่งคราวหนึ่ง ก็พวกผู้หญิงผู้ชายเลว ๆ พวกนี้แหละเสพกามกันแสนสนุกทั้งคืนทั้งวัน) ส่วนนายเพนกวิน ไปลำปาง แล้วจะไปต่อ จังหวัดเชียงราย มี กลุ่มกลโกงที่รียกตัวว่าพิราบขาวเพื่อมวลชนพูดให้กำลังใจในการทำเลวแด่ทนายอานนท์ ว่า ถ้าจับผมอีกผมก็จะไปปราศรัยต่อไป(คิดหรือว่าเขาจะจับ เขายังไม่จับหรอกเขาเอาไว้สืบหาคนเบื้องหลังเพนกวินไง หมอนี่ใช่ว่าเป็นตัวของตัวเองเมื่อไหร่ คนเลวคนหนึ่งแท้ ๆ ปล่อยให้แม่ตัวเองร้องไห้หาตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วงลูกเลวของตน และต้องมองลึกไปว่าฝ่ายตำรวจเขาฉลาดพอโดยมองไปถึงเรื่องทางจิตวิทยาด้วย คือมองว่าปล่อยให้มันกลุ้มใจไปวัน ๆ คนไปกับมันก็น้อยลงไปทุกที แล้วปล่อยให้นายเพนกวินคนเลวรับผลกรรมผูกคอตายไปเองจะไม่ดีกว่าหรือ)
โฆษณาชวนเชื่อ คนไม่มีศาสนาว่าตนเป็นเพชร เทียบนรม.แคนาดาที่เขารู้คุณค่าพระพุทธศาสนาไม่ได้เลย
เรื่องที่น่าคิดน่าสังเกตเกี่ยวกับการเมืองประชาธิปไตยไทยจริง ๆ ก็คือตั้งแต่ มีการเลือกตั้งซ่อม ที่ผลการเลือกตั้งใน 6 จังหวัดพรรคนายธนาธรไม่เคยขึ้นป้ายเลยทั้ง 6 ครั้งนั้น ฝ่ายตนแพ้ฝ่ายรัฐบาลมาตลอด กลับไม่สำนึกยอมรับในเสียงประชาชน นี่แหละประชาธิปไตยที่แท้จริงละ รู้หรือเปล่า เขาจึงมีการเลือกตั้ง ไม่ยอมนำไปพิจารณาแนวโน้มของประชาชนว่า คะแนนตกต่ำไปตลอดถึงวันนี้ ยังไม่ยอมทำความดี พยายามดำเนินนโยบาย ที่ล้มล้างสถาบันทั้งสาม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต่อไป และวันที่นัดการชุมนุมครั้งใหญ่ อ้างประชาธิปไตยในการแสดงความคิดเห็นอีกครั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. 2563 ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นั่นเอง ที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ ทุกหมู่เหล่าจะต้องคอยดู เราเคยเสนอทนไม่ไหวเหมือนกัน ไล่ออกเถอะนับแต่อธิการบดีธรรมศาสตร์(เป็นผู้หญิงนะอธิบดีคนนี้) ลงมาถึงรองอธิการบดี อาจารย์ 105 คนนั้น ทำไม ก็นี่คือคนอยู่เบื้องหลังการทำลายชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตัวจริง นั่นเอง โดยที่น่าจะเป็นไปด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา(ไม่รู้แม้กระทั่งประชาธิปไตยคืออะไรรัฐธรรมนูญคืออะไร และ ธรรมศาสตร์หมายความว่ากระไร และไม่แน่อาจจะเชื่อนายธนาธร ทำตนเป็นองค์การเลว คนเลวก็ได้) จึงไม่เหมาะที่จะบริหารงานการอุดมศึกษาไงเล่า ไล่ออกให้หมด ชำระธรรมศาสตร์ใหม่เถอะ ไม่ใช่เรื่องอะไรทั้งสิ้น ดูเรื่องโควิด-19 เจ้าของสถานที่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องรับผิดชอบ หากมีการติดโควิดเกิดขึ้นจากการชุมนุม ต้องไล่ออกจาก ตำแหน่ง อธิการบดี รองอธิการบดี และอาจารย์ที่หนุนหลังอยู่ทั้ง 105 คน ต้องรับผิดชอบ โดยเหตุไม่รู้หลักการการต่อสู้ที่ต้องมียุทธศาสตร์อันแน่นอนที่ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย นั่นคือยุทธศาสตร์ Distancing, ยุทธศาสตร์หน้ากาก, ยุทธศาสตร์ล้างมือ และถึงเวลาเสียทีที่จะมาไล่นายธนาธร นี้ไปจากประเทศไทยเสียที เพราะเขาเป็นคนเลวไม่นับถือศาสนาและสั่งสอนให้เด็กเยาวชนทำความเลว ตั้งองค์การนักเรียนเลวขึ้น.@เฝ้าดูวัฒนธรรมโลกจากจอแก้วComputerman36 5 ก.ย. 2563 22.00