คนไทยเราไม่เข้าใจการเมือง เด็กนักเรียนยังไม่มีสิทธิมาชุมนุมการเมือง
มาเข้าใจกันให้ชัดเจนนะครับ ฝ่ายเราที่ออกมาปกป้องสถาบันเสื้อเหลืองนั้น ไม่ใช่กลุ่มการเมือง ออกมาด้วยเจตนาแห่งความกตัญญูกตเวทิตาคุณ แบบคนไทยคนดีนั่นเอง โดยทนต่อการละลาบละล้วงจาบจ้วงสถาบันของขบวนการปลดแอกไม่ได้ นั่นเองความมุ่งหมายเพียงแสดงน้ำจิตน้ำใจต่อสถาบัน ป้องกันสถาบันแบบสันติวิธีแบบถวายชีวิต ไม่เกี่ยวกับอำนาจที่จะไปให้ใครออกใครเข้าสู่อำนาจ แต่ฝ่ายที่เรียกตนว่ากลุ่มราษฏร...หรือเปลี่ยนชื่อไปอีกแล้วแหละไม่เคยมีสถานะเป็นองค์กร ไกลจากความเป็นสถาบันอย่างสิ้นเชิง แต่ทำการก่อกวนโดยการชุมนุมาตลอด ด้วยความมุ่งหมายทางการเมืองทั้งสิ้น นั่นคือไปเกี่ยวกับการที่จะให้ใครออกจากตำแหน่งใครเข้าสู่ตำแหน่งการเมืองมาตลอดนี่แหละการเมืองที่คนไทยจะต้องเข้าใจ แยกให้ออกว่าการชุมนุมปกติกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นอย่างไร
ฉะนั้นพวกนี้ทำผิดกฎประชาธิปไตยมาตลอดแบบไม่รู้ประชาธิปไตยนั่นเอง ไม่รู้คำว่า การเมืองคืออะไรนั่นเอง เพราะพวกนี้ส่วนหนึ่ง ที่เอาเป็นส่วนหลักเป็นพวกเยาวชน ที่ตั้งชื่อตนว่าเยาวชนปลดแอก นักศึกษาปลดแอก และอีกพวกเป็นนักเรียนชั้นประถม มัธยม ที่เห็นถูกปลุกปั่นออกมาแต่แรกที่กระทรวงศึกษาธิการวันที่19ก.ย.2563 นั้น เรียกร้องให้ รมว.ศธ.ลาออกจากตำแหน่ง แล้วท่านไม่ลาออก ก็ออกมาไล่ท่านอีก ที่ชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์นักเรียนเลว วันที่ 6พ.ย.2563 เน้นย้ำให้ รมว.ศธ. ลาออกจากตำแหน่งอีก
แล้วยังรู้จักข่มขู่ต่อไปอีกว่าหากรมว.ศธ.ไม่ลาออก ก็จะเลยไปไล่ต้นตอนั่นคือพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาออกไปด้วยกันไปเลย นี่แหละเป็น การเมือง การไปเกี่ยวกับบุคคลและ องค์กรเกี่ยวกับอำนาจ
นี่แหละการที่คิดไปไล่ใครออกจากตำแหน่งเอาใครเข้าสู่ตำแหน่งการเมือง นี่แหละเป็นกิจกรรมทางการเมือง มันไม่ถูกต้องตามกฎประชาธิปไตย เพราะคนพวกนี้เป็นเพียงเด็กที่ยังไม่มีสิทธิ 1 คน 1 เสียงเข้าใจแล้วยัง? หากโง่ต่อไป คงไประดมเด็กอนุบาลมาอีกกลุ่มหนึ่งแน่ ๆ มาออกแถลงการณ์ไล่พลเอกประยุทธ จันทร์โอชาออกจากตำแหน่ง? นี่แหละพรรคการเมืองที่หนุนหล้ังโง่จริงๆ อย่าได้เอาเข้าสภาอีกเลย
ทำสิ่งที่มันถูกต้องก็ไม่มีปัญหา นี่ไปทำอะไรที่มันผิด ลงนรกไปเลยแล้วมันจะไม่วุ่นวายได้อย่างไร? แล้วปรากฎว่าพารรคการเมืองไทย คือพรรคเพื่อไทย ไปนับถือนักเรียนพวกนี้เสียด้วย ทั้ง ๆ ที่เป็นพวกคนเลวนักเรียนเลว ประกาศตัวเป็นคนเลวอย่างเปิดเผย ที่เรียกว่า องค์การนักเรียนเลว ดังจะเห็นว่าวันต่อมาสส.พรรคเพื่อไทยคนหนึ่ง นายอะไรที่เป็นโฆษกพรรคนี่แหละ ด่าเก่งคนหนึ่งทีเดียว ประกาศตามองค์การนักเรียนเลวไปเลย ว่า พล.อ.ประยุทธ ต้องลาออกเท่านั้นโดยไปอ้างเด็กนักเรียนเลวพวกนี้ว่าตามที่นักเรียนเขายังมองปัญหาถูกเลยว่าปัญหามาจากใคร
นี่แหละครับพรรคเพื่อไทยที่ขนาดเป็นพรรคใหญ่พร้อมที่จะเป็นรัฐบาลแล้วยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย ไม่รู้เรื่องการเมืองเลย ไร้จริยธรรม อริยธรรมการเมืองประชาธิปไตยไปสุด ๆ ตนเองไม่มองตนเอง แต่ไปด่าคนอื่นว่าเลว ต่ำต้อยด้อยสติปัญญาไปกว่าตนหมด เป็นเรื่องเลวร้ายอยู่ในสังคมไทยขณะนี้
ที่ว่าผิดกม.รัฐธรรมนูญมีหลายเหตุผลเลยทีเดียว จะขอชี้แจงให้ความรู้อันเป็นแนวประชาธิปไตยต่อไปก็เพราะประการแรก กลุ่มเยาวชนนี้ ยังมีอายุไม่ถึงระดับที่จะทำงานการเมือง ยังไม่ถึงระดับมีสิทธิ 1 คน 1 เสียงนั้นเอง ทำไม ? ก็เพราะหลักสากลทั่วโลกเขายังเห็นว่าเป็นบุคคลที่ยังไม่เพอเฟคนั่นเอง มีความรู้ยังไม่พอรอบด้านที่จะทำงานขนาดการเมืองของชาติได้ คุณไม่เข้าใจกฎตรงนี้หรือ? อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยรู้ปัญหาครอบครัวไงเพราะเขายังไม่มีความรัก ไม่มีการแต่งงาน ยังไม่มีบุตรบริวาร ไม่เคยรู้ปัญหาเศรษฐกิจ ตื่นขึ้นมาก็มีแต่แบมือขอพ่อแม่
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมืองเท่านั้น แม้เรื่องการอาชีพ การศึกษา เช่นพวก ป.4 จะให้ไปเถียงกับพวกปริญญาเอกได้อย่างไร? และอย่างสว.นี่ ต้องได้คนแบบที่ระดับปราชญ์ของแผ่นดินนู่น จะเอาคนกระจิบกระจ้อยมาเป็นสว.ได้อย่างไร ? และสว.ท่านก็แสดงบทบาทในสภาดียิ่งกว่าสส.ไปแค่ไหน รู้จักประเมินผลหน่อยสิ นี่แหละคือวุฒิภาวะ เข้าใจไหม?
คงไม่ใช่นะคงเป็นเพราะไม่รู้ว่าการเมืองคืออะไรมากกว่า และ ผู้มีสิทธิเข่้้าสู่การเมืองต้องเกินเยาวชนนักศึกษาไปแล้ว นี่แหละสิทธิทางการเมืองประชาธิปไตยของประเทศประชาธิปไตยกันทั้งโลกเลยละ แน่นอน ทั่วโลกเขาไม่ยอมรับเยาชนนักเรียนประถมมัธยมมาเล่นการเมืองในและนอกสภา แบบไทยเราเลย ถ้าคุณยอมรับ นั้นแหละก่อปัญหาขึ้นมาแน่ๆ อย่างที่น่าอับอายเลยเพราะเอาเรื่องไร้สาระจริงๆมาก่อปัญหาขึ้น ที่โง่จริงๆมาก่อปัญหาขึ้น เช่นประเทศไทยวันนี้ ที่เร่ิมมีก็โดยพรรคไร้วุฒิภาวะเพื่อไทย อนาคตใหม่ - ก้าวไกล นี่เองคิดว่าเด็กที่มันกดสมาร์ทโฟนส่งข้อความไปนั่นไปนี่ ไปด่าคนนั้นคนนี้ได้นั่นแหละคนเก่งการเมือง ก็เลยเกิดปัญหาขึ้นมาอย่างไรเล่า
แล้วมาวันนี้พรรคเพื่อไทยนั้นแหละออกมากล่าวอย่างเปิดเผย ที่ไปปลุกเยาวชนออกมาทำการเมือง ไปตั้งองค์การนักเรียนเลวขึ้นมา แล้วประหลาด เด็กไปรวมกลุ่มไล่คนใหญ่คนโตทางการเมืองระดับ ขุนนางผู้ใหญ่ รมว.ศธ. คนไทยยังไม่เห็นเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด เกินฐานะของเด็กมันทำได้อย่างไร เห็นดีเห็นงามไปได้อย่างไร ทำไม่ได้มันเกินหน้าที่ของเด็ก นั้นเอง เป็นฝ่ายที่ทำผิดกฎประชาธิปไตย และกฎหมายรัฐธรรมนูญเสียเอง และซึ่งตรงนี้ ผิดหลักศีลธรรมจริยธรรมอันดีระดับโลกด้วย เพราะการไปสอนให้คนทำเลวนั้นไม่มีประเทศชาติไหนในโลกจะคิดทำพอใจทำไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร
เพราะโลกมีศาสนาและทางศาสนาสากลของโลกนั้นเป็นทางบาป ขนาดพระเยซูพระองค์ยังทรงสอนว่าอย่าทำบาปเลย ใครเขาตบแก้มซ้ายท่านจงเอียงแก้มขวาให้เขาตบต่อเถิด เคยรู้เรื่องนี้อยู่มั้ง เพราะคำพูดนี้วาทะนี้เป็นวาทะที่ลึกซึ้งของศาสนาคริสต์เขา นี่แหละคนที่สอนให้เด็กทำความเลว ตั้งเป็นองค์การนักเรียนเลวนั้น ตามหลักศาสนาสากลแล้วเป็นการทำบาปอย่างไร้การอภัย ในศาสนาอิสลามนั้นจะต้องรับโทษทั้งในโลกดนยาคือโลกมนุษย์นี้ ไปถึงตายแล้วก็รับโทษต่อไปอีกในสวรรค์7ชั้น
แล้วใครล่ะ? ก็พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลนั่นเอง โดยเฉพาะนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจคนไม่มีศาสนาคนนั้นและมีส่วนตั้งองค์การนักเรียนเลวขึ้นมา
ในเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ นั่นเอง พวกเดินขบวนทั้งสิ้นนี้ เป็นฝ่ายผิดกฎหมายอยู่แล้ว และมองต่อไปถึงความมุ่งหมายทางการเมืองของพวกเขา ความหมายก็คือ กลุ่มการเมืองนั้น มีความุ่งหมายที่จะเอาคนออกจากตำแหน่งและเอาคนของตนเข้าสู่ตำแหน่ง ดูให้ดีนะครับ
ฉะนั้น เยาวชน องค์การนักเรียนเลว นิสิตนักศึกษา ที่ยังไม่มีสิทธิ 1 คน 1 เสียง ไปชุมนุมเรื่องอื่นได้ แต่ห้ามการชุมนุมทางการเมือง นั่นคือไปคิด เรื่องเอาคนที่เขาอยู่ในอำนาจการเมืองออก เอาคนอื่นใดเข้าไปสู่อำนาจแทน
นั่นแหละเป็นการเมือง เพราะเรายังไม่มีสิทธิอันนั้น หากไปร่วมถือว่ามีความผิด ประชาชนไทยก็จะต้องเข้าใจ และการที่พรรคการเมือง นักการเมือง ที่คิดจะเข้าครองอำนาจทางการเมือง ถ้าทำผิดกฎประชาธิปไตย คือกติกาการได้อำนาจทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ(ของไทยเวลานี้ก็ต้องดูว่า รธน.60 กำหนดกติกาไว้อย่างไร คุณไปทำผิดกติกาเข้า นั่นแหละเป็นความผิด) และซึ่งทำผิดมาตลอด นั่นคืออ้างสิทธิเสรีภาพแบบผิดๆ มาตลอด
โดยในสภาก็ทำการโจมตีรัฐบาลหรือนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลมาตลอด ประสานไปกับการเมืองฝ่ายตนนอกสภา นอกสภาก็ทำโดยการปลุกระดมมวลชน และที่ระดมมาก็ล้วนแต่นิสิต นักศึกษา เยาวชน และวันนี้คราวนี้ถึงกับไปปลุกระดมนักเรียนชั้นมัธยมชั้นประถมมาอีก และยืนยันยกระดับการชุมนุมไปสู่ความรุนแรงไปเรื่อยจนกว่าจะไล่คนที่ตนเกลียดชังออกจากอำนาจไปได้
ซึ่งการไปคิดใช้ความรุนแรงขับไล่นักการเมือง คิดยึดอำนาจรัฐบาลที่มีอยู่ นั่นหมายถึงการกบฎ หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คนประชาธิปไตยจะยอมรับไม่ได้และพอใจที่รัฐบาลจะต้องใช้กำลังปราบปรามกบฎ นั่นเพราะเขาเข้าใจเหตุผล ที่ว่า การกระทำนั้นเป็นการทำลายชาติบ้านเมือง และละเมิดสิทธิของประชาชคนอื่นอย่างรุนแรงนั่นเอง ซึ่งประชาธิปไตยจะมีเรื่องการละเมิดสิทธิคนอื่นไม่ได้ ไม่เช่นนั้น คำว่าเสมอภาค และเสรีภาพ ก็จะมีขึ้นไม่ได้ และประชาธิปไตยก็มีขึ้นไม่ได้ในประเทศนั้น
ลองมองดูเรื่องการเดินขบวนในอเมริกามาเร็วๆนี้ 2 กรณี
(1.) เรื่องเดินขบวนก่อการประท้วงเรื่องผิวสี โดยมีข้อกล่าวหาว่าตำรวจรัฐทำการเกินไป ใช้หัวเข่ากดคอนายนิโกรฟลอย ทำให้นายฟลอยเสียชีวิต ทำการชุมนุมประท้วงได้ แต่โดยไม่ผิดกฎหมาย คือโฆษณาออกคำพูดวาจาได้ แต่หากไปยกระดับเป็นการก่อการร้าย หลงลืมตัวไปเป็นการไร้เหตุผล ไปสู่การโกรธคั้งแค้น จนใช้ความรุนแรงถือไม้ มีดตะบอง ตีต่อยผู้อื่น
ที่เห็นก็คือมีการเผารถตำรวจ เผาห้างร้าน ขว้างปาบุกรุกทำลายห้างร้านต่าง ๆ นั่นแหละ ตำรวจเขาเข้าจัดการได้อย่างเด็ดขาดแม้ด้วยอาวุธเพื่อยุติการจลาจลลงให้ได้เด็ดขาดนั้น ประชาชนเขาก็ยอมรับเข้าใจในกฎประชาธิปไตย เข้าใจกฎหมาย ในขณะที่การชุมนุมในไทยเรา คนไทยแม้นักการเมืองนักวิชาการเองยังไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจคำว่าการเมือง ว่าการชุมนุมปกติที่ใคร ๆก็ทำได้
แต่การชุมนุมทางการเมืองนั้น มีข้อต้องห้ามสำหรับผู้ยังไม่มีสิทธิทางประชาธิปไตย นั่นคือ เด็กนักเรียนเยาวชน ที่ถูกปลุกปั่นมาชุมนุมนั้น ถือว่าไม่ถูกต้องคนไปปลุกปั่นนั้นยิ่งมีความผิดร้ายแรงไปกว่าปกติอีกฐานเจตนา โดยไม่เข้าใจว่าทางการเมืองนั้น เป็นสิ่งที่เยาวชน นักเรียนนักศึกษา จะทำไม่ได้ ชุมนุมอย่างอื่นได้ แต่การเมืองชุมนุมไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เราต้องเข้าใจคำว่าการเมือง(politics)ทางรัฐศาสตร์หมายความว่าอย่างไร
และการชุมนุมที่มีการละเมิดสิทธิคนอื่นอยู่แล้ว ยังคิดยกระดับไปละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้อื่นเพื่อตนได้อำนาจไปจนถึงก่อความรนุแรงบังคับเอาอำนาจนั้นให้ได้จะต้องจบลงโดยอำนาจการปกครองของฝ่ายรัฐบาลประชาชน โดยเหตุผลที่ว่าเพื่อการป้องกันการละเมิดสิทธิของคนอื่นเขารวมทั้งเหตุผลของความมั่นคงของอำนาจรัฐที่ประชาชนมอบให้มานั่นเอง ฉะนั้น เมื่อเราเข้าใจเหตุผลตรงนี้ การทำถูกต้องตามเหตุผล นั้นแหละเป็นทางแก้ไขปัญหาได้
(2.) กรณีการทำผิดกฎหมาย ผิดทางการเมืองอย่างไร เป็นเรื่องที่คนไทยดูจะเข้าใจยากโดยเฉพาะประเด็นที่ว่ารัฐบาลมีหน้าที่อย่างไร และทำไมจึงกำหนดให้อยู่ทำหน้าที่ไปคราวละ4 หรือ 5 ปีตามแต่ละกติกาของแต่ละประเทศ ในขณะนี้ แม้พวกขบวนการหมู่ม็อบนี้จะทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตลอด แต่ยังเห็นกันไม่ชัดเพราะไม่รู้เหตุผลทางประชาธิปไตย ไม่เข้าใจประชาธิปไตย หากรู้เหตุผลทางประชาธิปไตย ว่ากลุ่มราษฎรนี้ทำผิดกม.สูงสุดมาตลอดแล้ว แบบของเมริกา ที่เพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ชุมนุมเรื่องการเลือกตั้ง ปธน.ของเขามาเมื่อ3-9 พ.ย. 2563 นั้นเอง (ก็จะคิดแก้ไขไปโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะย่อมคิดถึงอำนาจของประชาชน 1 คน 1 เสียงนั้น ใช้อำนาจนี้ขจัดพรรคการเมืองที่ทำผิดนี้ไปจากวงการเมืองประชาธิปไตย ในคราวมีการเลือกตั้ง)
ซึ่งในหลายมลรัฐถึงขั้นมีการก่อความรุนแรง ทำร้ายทรัพย์สินของประชาชน จนมีการปะทะกันกับตำรวจ ซึ่งถึงระดับนั้นแล้ว ตำรวจเขาก็เข้าจัดการแบบไม่ลังเล มีการจับกุมผู้ก่อการรุนแรง ไปถึงกว่าร้อยคนคือจับทุกคนที่ทำความผิดไม่เว้น และซึ่งอเมริกาจะเตรียมคุกไว้สำหรับคนพวกทำผิดได้ทุกคนไม่ว่าถึงร้อยถึงพันถึงหมื่นคนก็ตาม และยังแยกคุกเป็นหลายระดับตามสภาพนักโทษตามระดับความกร้านแกร่งของคนๆนั้นอีก
นั่นคืออเมริกาประชาธิปไตย คนอเมริกันทุกคนเข้าใจการปราบปรามแบบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยไม่ใช่ความเมตตานะ และไม่มีคำว่าปรองดอง มีแต่เรื่อง่ความมีเหตุมีผลตามหลักการประชาธิปไตยเท่านั้น อันนี้แหละรูปธรรมแห่งความปรองดองที่เป็นจริงได้ ซึ่งตรงนี้แหละที่คนไทยเราที่ว่าคนนักเลงนั้นน่ะคือทำอะไรตรงไปตรงมานั่นเอง ผิดเป็นผิดถูกเป็นถูกเท่านั้น ซึ่งคำว่าทำไปตามเหตุ ผลของประชาธิปไตยนั้นเองเป็นสิ่งที่ประเทศประชาธิปไตยจะต้องเข้าใจ จึงจะนำประชาชนไปตามวิถีทางที่สงบโดยประชาธิปไตยได้
ซึ่งกรณีไบเดน -ทรัมป์ ก็ลงเอยไปเรียบร้อยแล้วทุกกลุ่มเนื่องจากเขาเข้าใจประชาธิปไตย โดยยอมรับกฎประชาธิปไตย เข้าใจหลักการปราบปรามด้วยประชาธิปไตย เข้าใจอะไรถูกอะไรผิดตามหลักการประชาธิปไตย แล้วนั้นแหละ แล้ว ก็จะจบลงจะง่าย จบลงในเรื่องที่ฝ่ายก่อการชุมนุมการเมือง ไปรำลึกสิทธิและหน้าที่ทางการเมืองของตนให้ตรงให้ถูกต้อง และต้องเคารพกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมาย อยากเป็นใหญ่ทางการเมืองต้องรอให้รอเลือกตั้งเมื่อครบ4 ปีข้างหน้าเท่านั้น เน้น ครบ4ปีข้างหน้าเท่านั้น @สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ 8 พ.ย.2563 19.50