@ข่าวฝรั่งเศสช่อง 219เย็นวันนี้ (22พ.ย.63) รายงานตลอด มาถึงเรื่องม็อบเดินขบวนเผาห้างร้าน ที่ กัวเตมาลา เรื่อง บราซิลดำถูก รปภ.รัฐฆ่าตายไป1คน คนดำออกมากันใหญ่ อิสราเอล วางจรวดไปฝ่ายตรงข้ามที่ฉนวนกาซ่า หลายเรื่องหลายราว ล้วนแต่เรื่องร้าย ๆทั่วโลก แล้วเรื่องอเมริกา ศาลปฏิเสธข้อเรียกร้องฝ่ายทรัมป์ให้นับคะแนนใหม่ในเพนซิลเวเนีย ไบเดน ชนะแล้ว
แต่แล้ว พิธีกรสาวฝรั่งเศสก็หน้าจืดลงไปเมื่อรายงาน ผู้ติดเชื้อโควิดในฝรั่งเศสเอง 24 ชม.ที่ผ่านมา ว่า ติดเชื้อเพิ่ม 17,881 คน ตายไป 276 ศพ อังกฤษ วันเดียวนี้ติดไป 19,875 คน ตายไป 341 ศพ อเมริกา(ระดับแสนคน)ติดเชื้อเพิ่ม 172,839 คน ตายไป 245 ศพ
อเมริกายุคทรัมป์เป็นที่หนึ่งเรื่องโควิดมาตลอด ตายไปแล้วก็ที่หนึ่งคือตายไป 261,790 ศพ (แค่เดือน ม.ค.มาถึงวันนี้) นี่แหละทำให้ โดนัล จอห์น ทรัมป์ เขิน หาเรื่องแก้ตัวไม่ได้ในเรื่องปล่อยให้ชนอเมริกันตายไปถึง สองแสนกว่าศพ เพราะตนทำผิดร้ายแรงฐานบกพร่องในหน้าที่ประธานาธิบดี ซึ่งลองเทียบ โดนัล จอห์น ทรัมป์กับประยุทธ จันทร์โอชาดู ในเรื่องโควิด จะเห็นว่า ประยุทธเรานี้ถึงขนาดวีรบุรุษโลกเลย มองด้วยใจเป็นกลาง ข้อพิจารณารอบด้าน ใช่ว่าการบริหารโควิดนี้จะง่ายดาย หรือบังเอิญ ต้องประกอบด้วย อุปนิสัย อารมณ์ธรรมะที่มองประชาชนอย่างเมตตากรุณาเป็นมนุษย์ร่วมโลก มีความเสมอภาคกัน ของผู้บริหารด้วย และวันนี้ไทยเราเองซึ่งเป็นประเทศแรกเลยที่รับเชื้อโควิดจากจีน มาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2563 ยังจัดการได้ มาถึงวันนี้มีผู้ติดเชื้อรวมเพียง 3,913 คน ตายไปเพียง 60 ศพเท่านั้น(เทียบกับอเมริกาสิ สองแสนศพ โลกทั้งโลกตายไปแล้ว กว่าล้านศพ) การที่ใช้มาตรการเด็ดขาด เช่น ประกาศกฎหมายฉุกเฉิน ต่อมาเรื่อย ๆ อย่างไม่แคร์ต่อพวกฝ่ายค้านหาว่าเป็นเผด็จการนั้นแหละบอกถึงความสามารถในการมองสถานการณ์โควิดได้อย่างถูกต้องและแก้ไขปัญหาได้ ดีกว่า โดนัล ทรัมป์
ผู้นำโลก ที่เท่ากับความบกพร่องของตนในฐานะผู้นำ ที่ผิดพลาด เนื่องจากมองโควิดเป็นเพียงโรคไข้หวัดธรรมดา ๆแล้วแม้ตนเอง ครอบครัวภริยา บุตร ต่างติดโควิดไปหมด และซึ่งเขาก็มองว่า เมื่อป่วยก็รักษา โดยที่ไม่คิดว่า ค่ารักษานั้น สำหรับประชาชนธรรมดา มันไม่อาจจะทำได้เหมือนพวกเศรษฐีมหาเศรษฐีอย่างทรัมป์ (แบบที่ไทยเรามีคนหนึ่งคือนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์มองมาแต่ต้น และด่าว่าประยุทธ มาในเดือนมกราคม 2563 ว่า ไม่รู้เรื่องโควิดเท่าตน ต้องออกจากตำแหน่งไปเสียแต่วันนี้ ต้องให้คนเก่งอย่างตนไปเป็นนายกรัฐมนตรี จึงจะเอาโควิดอยู่ ประยุทธนี้โง่เหมือนควายอยู่ไปไทยก็มีแต่หายนะไปเรื่อย ๆ...แม้วันนี้เร็ว ๆนี้ ก็ยังด่าว่าไปแบบเดิม ไม่ดูความจริงไม่ละอายวาจาคำพูดตนเองเลย)
แล้วมาวันนี้แท้จริง ทรัมป์ ที่ไม่ยอมแพ้การเลือกตั้ง 3 พ.ย.63 ก็เพราะความเขินเรื่องโควิดนี่เองเลยหาเรื่องใหญ่ให้เป็นข่าวโลกกลบความผิดของตนเรื่องฆ่าประชาชนอเมริกันเพราะความโง่ของตนบริหารงานผิดพลาดเรื่องโควิดถึงตายไปแล้ว261,790 ศพชนิดที่หาที่ฝังศพไม่พอ (ลองเทียบกับไทยสิ ตายไปเพียง 60 ศพเท่านั้นเอง) คิดดูนะครับ ว่าทำไม ไบเดน จึงน้ำตาตก เมื่อไปพูดเรื่องเตรียมการใหญ่ในการป้องกันโควิด-19 ก็เพราะเขามีความรู้สึกแบบคน ที่เห็นคนตายไปร่วมสองแสนศพ หาที่ฝังยังแทบไม่พอเลย นั้น หากแต่คนอะไรอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีความรู้สึกเลย ซึ่งนั่นเอง ทำให้การบริหารงานโควิดผิดพลาดไปอย่างที่คนในโลกนี้อภัยให้ไม่ได้
เราเอาเรื่องนี้มาพูดเพื่อให้เห็นคุณค่าของคน ที่ทำความดี น่าชมเชยสรรเสริญ แต่แล้ว พวกม็อบ ที่เป็นม็อบไร้ค่าจริง กลับพยายามดูถูกดูหมิ่น ประยุทธ จันทร์โอชา แบบที่หัวหน้าเขาดูหมิ่น ล่าสุดมีนายคนหนึ่ง ตามข่าว
“ ล่าสุด หนุ่มที่พ่นสีจาบจ้วง โพสต์ข้อความระบุว่า กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ พวกเราคณะราษฎรพร้อมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับมึงเช่นกันประยุทธ์ จันทร์โอชา มึงออกมาใช้เลยทุกมาตรา กูก็จัดการขั้นเด็ดขาดทุกมาตรา กลัวสักที่ไหน วันที่25/11/63 เจอกันที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ศึกนี้มึงประกาศเอง สะท้อนให้เห็นถึงสันดานเลวระยำของมึง ไอ้ประยุทธ์ จันทร์โอชา มึงฉีกรัฐธรรมนูญทำรัฐประหาร มีมาตราไหนที่เป็นกฏหมายตัวมึงเองยังไม่เคารพกฏหมาย มึงยอมรับไปเลยคำสั่งต่อจากนี้คือมึงลาออก”
คือเราไม่เข้าใจว่า ทำไมนายคนนี้จึงเขลาเหลือเกินชนิดที่ทำลายอนาคตตนเองไปอย่างยับเยิน ด้วยคำพูดโง่โอหังไปแบบผิดไปหมด ผิดไปจากความรู้เรื่องการเมืองและประชาธิปไตย ผิดไปจากเหตุผล บุคคลเวลา ไปหมด ผิดวาจาด้วยที่แสนจะหยาบคายส่อเสียดเพ้อเจ้อ และวาจาไร้ความสัจจริงไปหมด และยังไร้สำนึกที่ จาบจ้วงไปถึงสถาบันกษัตริย์ ของตนแบบหลงผิดคิดว่าตนเป็นวีรบุรุษไปได้ขนาดนี้
ซึ่ง ที่จริง เป็นคนไม่มีค่าเลย มองในทางการเมืองแล้ว เขาเป็นเพียงสมาชิกม็อบที่หลงผิด ที่ไร้ตัวตน ไร้การอ้างอิง ที่ไร้สถาบันไปอย่างสิ้นเชิง และโง่เง่าเต่าตุ่น แบบที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเมือง และ เรื่องประชาธิปไตยเลย นับแต่คำถามของคนทั้งหลายว่าเขาเอาสิทธิมาจากไหน ที่ไปเอาสีสาด หรือทารั้วตำรวจเขาเสียหายเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด เขียนสัญลักษณ์อำมหิต เลวร้ายลงในถนนหนทาง นั่นมันเป็นการทำลายทรัพย์สินของราชการซึ่งเป็นทรัพย์สินของประชาชนคนอื่นเขา ไม่ใช่หรือ ? ภาพที่เหยียบย่ำสถาบัน นั่นก็คือความผิดต่อกษัตริย์ไม่ใช่หรือ? และที่ทำไปนั้นได้อำนาจมาจากไหน? จากม็อบหรือ? นั่นแหละม็อบก็คือม็อบ อย่าไปคิดว่าเป็นประชาชน ไม่ใช่ประชาชน คนละความหมายกัน ของอะไร ? และนัดชุมนุมไม่รู้หยุดหย่อน ทำลายเศรษฐกิจของชาติ ทำลายสิทธิเสรีภาพประชาชนคนอื่นไปไม่รู้หยุดหย่อน นั่นแหละเผด็จการ รู้หรือเปล่าล่ะ ?
ซึ่งแม้ระบอบการเมืองแบบเผด็จการหรือระบอบไหนเขาก็ไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้ จะต้องมีความผิดอยู่แล้ว แล้วมองระบอบประชาธิปไตย มีสิทธิ มีอำนาจอะไรไปไล่นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง ถึงขนาดยกตนสูงส่งเกินคนธรรมดาไปขนาดนั้น ที่กล้าออกคำสั่งขนาดนั้น ที่ว่า “มึงยอมรับไปเลยคำสั่งต่อจากนี้คือมึงลาออก” และที่ไปเอาพระราชดำรัส “ กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” มาล้อเล่น และภาพที่เขียนเหยียบย่ำสถาบันลงท้องถนนหนทาง แบบว่าตนเองใหญ่เกินพระองค์ท่าน เป็นผู้ครองอำนาจเหนือกษัตริย์ เหนือเทวดาไปนู้น
ถามว่า เรามีอำนาจ มีสิทธิอะไรทำไปขนาดนั้น มันผิดไปจากความเป็นธรรมของคนทั้งหลาย ผิดกฎหมายธรรมดา ๆ แล้วยังผิดมาตรา 112 ไม่รู้หรือ ? และ ต้องติดคุกไง ดูเหมือนติดคุก 13 ปีนี่แหละ แล้วยังกล้าท้าทายแบบสุด ๆ ที่ว่า “พวกเราคณะราษฎรพร้อมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับมึงเช่นกันประยุทธ์ จันทร์โอชา มึงออกมาใช้เลยทุกมาตรา กูก็จัดการขั้นเด็ดขาดทุกมาตรา กลัวสักที่ไหน วันที่25/11/63 เจอกันที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” อ้าว ! คิดจะไปทำอะไรโง่ ๆ เข้าอีกแล้ว
ประชาชนไทยเขาจะเข้าข้างคน ๆนี้หรือ ? โดยเฉพาะการชุมนุมครั้งต่อไป เมื่อนัดกันไป “วันที่25/11/63 เจอกันที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” เมื่อนายคนนี้จะต้องโดนตำรวจเขาไปขอจับ และบอกว่ามีโทษต้องเอาไปติดคุก ในข้อหาอย่างนั้นๆนะ แล้วนายคนนี้ก็คงจะคุกเข่าลงกราบเท้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขา และวาจาขอโทษด้วยเสียงอันสั่นเครือ ลืมไปหมดว่าตนเคยพูดอวดอะไรไว้ แม้กระทั่งอาจจะทำน้ำตาร่วงสะอื้นฮัก ๆ พร้อมสารภาพผิดไป ....เพราะคนแบบนี้เป็นเช่นนี้เอง..แต่ตำรวจก็จะอ้างว่า ทำไปตามกฎหมาย ผิดเป็นผิด เขาก็ว่าอย่างนี้เสมอไปสำหรับตำรวจ บางที่ตำรวจเขาอาจจะเอาเข่าใส่กะเพาะคุณบ้าง เขกหัวคุณบ้าง แต่เป็นเพราะนิสัยคนในอาชีพนี้มันเป็นเช่นนี้คนในอาชีพอื่นก็เป็นไปแบบอื่น คุณต้องเข้าใจ ใช่เจตนาอะไร ก็อย่าไปถือเขา อย่าถึงกับว่าจะฟ้องตำรวจคุกคามประชาชนก็แล้วกัน นักเลงไทยว่าของขอกันกินได้) ก็คงจะสมน้ำหน้ามั้ง และ นั่นแหละ จะเป็นตัวอย่างให้คนได้คิด อันเนื่องมาจากความทระนงตนไปแบบโง่จริง ๆ ที่ขนาดนี้แล้วยังอวดฉลาดไปอีก ทางธรรมะก็คือ ลองศึกษาเรื่องอีโก้ ในตัวตน อย่าให้ความมีตัวตนแรงเกินไปเลยมันนำโทษมาสู่ตนแบบไม่รู้สึกในผิดในถูกแล้วเกิดมาทำไมไร้ค่าจริง ๆ รู้เข้าตอนไปอยู่ในคุกนั่นเอง @สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณ ณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุญเสฏฐ์ 22 พ.ย. 2563 20.30