1.Thai-ไทย,
วาทะที่ 12. โควิด19นี่เองที่น่าจะได้เตือนจิตเตือนใจคนทั้งหลายให้รำลึกสัจธรรมแห่งความพินาศความเสื่อมสลายของทุกชีวิตและสรรพสิ่งแม้อนันตจักรวาลอันไร้ขอบเขตก็ไม่มีข้อยกเว้น

*****
ทำไมเราจึงไม่ใช้ความคิดคิดดูความจริงบ้าง ที่มันตรงกับหลักสัจธรรมทางพระพุทธศาสนา และไวรัสโคโรนา โควิด-19 นี่เอง ที่น่าจะได้เตือนความทรงจำของคนทั้งโลก ให้คืนไปสู่สัจธรรม ที่ว่าด้วยความเสื่อมสลายความวอดวายสิ้นสุดของชีวิตและสรรพสิ่งนั้น มีมาตามลำดับอยู่ตลอดเวลาแล้ว ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดพ้นไปจากความเสื่อมสลายดับวายไปเลย ที่ในที่สุดชีวิตและสรรพสิ่ง ย่อมไปสู่จุดนั้น อย่างไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงไปได้เลย เราดูโควิด-19กำลังทำลายโลกอย่างบ้าคลั่งโหดร้ายไร้ความกรุณาปรานี ไม่เคยมีปรากฏว่ามีคนตายไปอย่างมหาศาลโดยฝ่ายที่ตายตายไปแบบพ่ายแพ้หมดประตูสู้ไปอย่างง่าย ๆ และตายไปแบบทรมานโดดเดี่ยวเดียวดายไร้การโอบกอดสั่งเสียเหมือนการตายไปธรรมดา ๆ ของคนเราเลย ไม่มีครั้งไหนเท่าคราวนี้เลย แม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึง 6 เดือนเท่านั้นเอง ดังสถิติคนทั่วโลก ที่สิ้นขีวิตไปเพราะไวรัสโควิดวันนี้ มีจำนวนรวมถึง 239,602 คนเข้าไปแล้ว
คนที่ป่วยหรือรอความเป็นความตายอยู่มีถึงกว่า 3 ล้าน 4 แสนชีวิต ศพผู้ตายจากโควิดทั่วโลกวันนี้ หากเอามากองกันแล้ว ไม่ต่างจากกองภูเขาเลากา และซึ่งตั้งชื่อว่าภูเขาโควิด-19กองศพคนทั้งโลก และสิ่งที่เราจะได้คิดก็คือ ในจำนวนคนตายทั้งหมดนี้ แม้เราจะยังไม่มีสถิติแยกแยะใครเป็นใครก็ตาม แต่แน่นอน ใช่ว่ามีคนตายที่เป็นแต่พวกคนยากคนจน อนาถา หรือคนแก่ชราภาพเท่านั้น แต่หากมีหมดทุกชนชั้น รวมทั้ง เศรษฐี คนร่ำรวยมหาศาล คนมีฐานะดี แม้ที่เป็นคนใหญ่คนโตทางอำนาจการเมือง ก็มีที่ตายไปในครั้งนี้เป็นจำนวนไม่น้อย ทั้ง ๆที่ไม่มีคนใดเลยที่อยากจะตาย คนร่ำรวย คนมั่งมี คนเป็นเศรษฐีป้องกันตนขนาดไหนก็ไม่รอดความตาย นี่เป็นสัจธรรมที่กำลังมองเห็นกันอยู่ไม่ใช่หรือ?
โดยเฉพาะที่ตายไปในอเมริกา สเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร เยอรมัน ตุรกี รัสเซีย อิหร่าน บราซิล หรือจีนเอง ล้วนคนเจริญ คนทันสมัย คนในโลกเทกนิคเจริญสูงสุดในโลกทั้งนั้นก็ยังตายไปอย่างกับใบไม้ร่วง และครั้นเมื่อตายไป ก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้เลย ร่างที่เมื่อมีชิวิตอยู่ล้วนเต็มไปด้วยเครื่องประดับตกแต่งงดงามอร่ามเรือง บอกฐานะอย่างกะเทพเทวาอย่างมิใช่คนธรรมดา ๆ เลยก็มี แต่เมื่อโควิด-19 มาถึงแล้วร่างนั้นกลับกลายเป็นเพียงซากศพที่ไร้ค่า ไร้ราคาไปหมด ดุจดังท่อนไม้ผุ ๆ ท่อนหนึ่งทิ้งไว้ข้างทางเท่านั้นเอง ท่านไปตัวเปล่า โดดเดี่ยวเดียวดายแท้ ๆ แล้วทำไมขณะนี้ ไม่รีบทำความดีกันก่อนตายไปล่ะ ทำความดีกันเสียตั้งแต่บัดนี้
และเรื่องสัจธรรมความตายความเสื่อมสลายของสรรพสิ่งนี้ เป็นคำสอนแม้บทเริ่มต้นและบทสุดท้ายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยทีเดียว สำหรับมนุษย์ที่ต้องตายนั้น แท้จริง ยังเป็นสิ่งเล็ก ๆ เหมือนมดเหมือนปลวก คนตายไปคนหนึ่งไม่ต่างอะไรเลยจากมดจากปลวก ที่เกิดมาอยู่ไปไม่ทันข้ามวันข้ามคืน หรืออายุก็ไม่นานกี่วันกี่ปีก็ต้องตายกันทุกคน ๆ เพราะแท้จริง แม้สิ่งที่ใหญ่โต มโหฬาร ยิ่งใหญ่ เช่นดวงอาทิตย์ ดวงดาวในจักรวาล ดูแต่ดวงดาวในจักรวาลเถิด สิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารปานนั้น หรือแม้กระทั่งจักรวาลทั้งหมดเองก็ยังคงเสื่อมสลายแตกดับลงไปเป็นประจำวัน วันหนึ่ง นาทีหนึ่ง วินาทีหนึ่ง แม้ในนาทีนี้ วินาทีนี้ ก็มีการดับ แตกสลายของดวงดาวทั้งจักรวาล นับร้อยนับพันล้านโกฎิดวง ...ดังปรากฏสัจธรรมนี้ในพระสูตรหนึ่งคือ สากลจักรวาลสากลศาสนา ว่าดังนี้ :-
ข้อ 3 ในท้องฟ้ามีแต่อนันตจักรวาล มีพระอาทิตย์ และพระจันทร์ เป็นโกฏิเป็นล้านดวง นี่เป็นพุทธฎีกา อันสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้แล้ว.....
ข้อ 6 ดูกรท่านผู้เจริญทั้งหลาย อนันตจักรวาลอันมีเงาฉายดั่งท้องฟ้า ปรากฏแด่สายตามนุษย์นั้น มีความกว้างใหญ่ไพศาล หาขอบเขตมิได้ หาที่สุดมิได้......
ข้อ 44 ท่านผู้เจริญ ยังมีพระอาทิตย์ โลก และพระจันทร์เช่นเดียวกับพระอาทิตย์ โลก และพระจันทร์ ที่เรารู้จักอยู่อีกในสากลจักรวาล จำนวนสุดจักคณานับได้
ข้อ 45 ท่านผู้เจริญ หากนักวิทยาศาสตร์สามารถแยกโลกทั้งโลกออกเป็นปรมาณูซึ่งเล็กที่สุดได้แล้ว จำนวนพระอาทิตย์โลก และพระจันทร์ในสากลจักรวาลยังจักมีมากกว่าปรมาณูที่นักวิทยาศาสตร์แยกได้จากโลกทั้งโลกเสียอีก.....
ข้อ 50 ท่านผู้เจริญ ยังมีโลกบางโลกที่มีมนุษย์ยุควิทยาศาสตร์และอวกาศเช่นเดียวกับโลกมนุษย์เราอาศัยอยู่ โลกดังกล่าวนี้มีจำนวนนับด้วยโกฎิล้านดวง
ข้อ 51 ท่านผู้เจริญ ยังมีโลกบางโลกที่กำลังเกิดกลียุคและมนุษย์กำลังทำสงครามล้างโลกกันอยู่ โลกดังกล่าวนี้มีจำนวนนับด้วยโกฎิล้านดวง
ข้อ 52 ท่านผู้เจริญ ยังมีโลกบางโลกที่อุดมสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปวัฒนธรรมดุจดั่งยุคของพระศรีอาริยเมตไตรพุทธเจ้า โลกดังกล่าวนี้มีจำนวนนับด้วยโกฎิล้านดวง
ข้อ 53 ท่านผู้เจริญ ยังมีโลกบางโลกที่ถึงกาลอวสานด้วยการแตกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆโลกดังกล่าวนี้มีจำนวนนับด้วยโกฏิล้านดวง
ข้อ 54 ท่านผู้เจริญ ห้วงสากลจักรวาล มีปรากฎการณ์แห่งวัฏจักรของสรรพสิ่ง อันหมุนเวียนเป็นกงกรรมดุจเดียวกับโชคชะตาชีวิตมนุษย์ ท่านผู้เจริญ กล่าวโดยปรมัตถ์แล้วสากลจักรวาลเป็นห้วงทุกข์ทั้งปวง
ข้อ 55 ท่านผู้เจริญ สรรพสิ่งที่บังเกิดขึ้นและแตกดับไปกับสากลจักรวาลนี้มีจำนวนเหลือที่จักคณานับ อุปมาดั่งนักวิทยาศาสตร์ที่แยกโลกเป็นปรมาณู จำนวนปรมาณูที่นับได้นั้นยังน้อยกว่าสรรพสิ่งแห่งสากลจักรวาลเสียอีก
ข้อ 56 ท่านผู้เจริญ สากลจักรวาลไม่มีผู้ใดสร้าง มันเป็นสิ่งที่มันเป็น
ข้อ 57 ท่านผู้เจริญ สากลจักรวาลเป็น สิ่งที่มันเป็น ด้วยเหตุว่าสากลจักรวาลนี้หาขอบเขตมิได้ หาที่สุดมิได้ ไม่มีจุดที่เป็นที่เริ่มต้น ไม่มีจุดที่เป็นที่สิ้นสุด ไม่มีขนาดความกว้าง ไม่มีขนาดความยาว ไม่มีขนาดความลึก ไม่มีส่วนที่เรียกได้ว่าข้างใน ไม่มีส่วนที่เรียกได้ว่าข้างนอก ไม่มีจุดที่เรียกว่าศูนย์กลาง ไม่มีส่วนที่เรียกได้ว่าข้างบน ไม่มีส่วนที่เรียกได้ว่าข้างล่าง ท่านผู้เจริญ สากลจักรวาลเป็นปรมัตถธรรม

สิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้สากลอนันตจักรวาลก็ยังคงประสบความเสื่อมสลายอยู่ทุกนาทีวินาที ดังพระสูตรที่ยกมากล่าวนี้ เช่นนี้ เทียบกับคนๆ หนึ่งแล้วจึงไม่ผิดไปเลย ที่เราตายกันมหาศาลเพราะโคโรนาไวรัสโควิดวันนี้ก็ดุจดังการตายอย่างมดอย่างปลวกนั่นเอง แต่ประเด็นในวันนี้ก็คือ เราเป็นมนุษย์ ผู้เกิดมาพร้อมดวงใจอันสูงส่งประเสริฐ ในสถานการณ์โลกร้ายด้วยมหาภัยเช่นนี้แล้ว ผู้มีจิตอันสูงส่งประเสริฐนั้น ย่อมสมควรที่จะได้พบความรอด ความมีชีวิตอยู่ และความเป็นอมตะ และได้พบทางรอดไปสู่โลกนิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนั่นแหละ เหตุใดเมื่อมีชีวิตอยู่วันนี้ เราทั้งหลายจึงควรเสียที่จะระงับยับยั้งสิ่งที่เป็นอกุศลกรรมทั้งสิ้นทั้งปวง จงเลิกการทะเลาะเบาะแว้งเห็นแก่ตัวแก่ได้กระทำตนเป็นศัตรูแก่กันและกันอย่างโง่เขลาลงเสียเถิด
มาพินิจคิดตรึกตรองสัจธรรมแห่งชีวิตสัจธรรมแห่งความรอด แห่งความพ้นทุกข์ อันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนเอาไว้แล้ว นั่นก็คือจงมีแต่ความรัก มีไมตรีจิตมิตรภาพอันบริสุทธิ์ บริบูรณ์แด่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย สร้างขึ้นแต่สิ่งเดียวคือความปรารถนาดีเถิด จงระงับลดทอนความโกรธ ความอาฆาต ความพยาบาทการจองเวร แด่ผู้อื่นแม้กระทั่งศัตรูของเราเอง ผู้ที่มั่งมี ได้ดิบได้ดีเกินพอดีพอเพียงแล้วจงอย่าทำความชั่วความเลวต่อผู้อื่นเลย จงทำแต่ความดีมีประโยชน์แก่คนอื่นทั้งหลายทั้งปวง ด้วยความเมตตา กรุณา ปรานีแด่คนทั้งหลายเถิด นั้นแหละคือผลที่เราต้องการจริง ๆ การส่งผลที่ดีที่สะท้อนสู่ดวงจิตวิญญาณของเราให้สะอาดผ่องแผ้ว ให้มีแต่ความปิติโสมนัส เบิกบานและเบ่งบานด้วยความดีบริสุทธิ์ ไร้ความสกปรกแม้เท่าธุลีดิน ซึ่งนั่นแหละโดยคำสอนอันประเสริฐขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จักเป็นประตูเปิดสู่โลกแห่งมรรคผลนิพพาน โลกแห่งพระอริยบุคคลความเป็นอรหันต์
จงระวัง ขัดเกลาให้ดวงจิตจงผ่องแผ้ว สะอาด สว่างและสงบ ประกอบแต่กุศลจิต กุศลธรรม อย่ากระทำความชั่วความเลวใดใดเลย ทำแต่กุศลผลบุญผลทานทั้งสิ้น เมื่อมีพลังมาก มีส่วนเกินแห่งเศรษฐกิจแห่งชีวิตมากมายมหาศาล ก็จงสร้างแต่ประโยชน์มวลชนอันยิ่งใหญ่เถิด มโนวิญญาณอันสูงส่งประเสริฐ ส่งให้ดวงจิตของเราสูงส่งขึ้น สะอาดผ่องใสขึ้น นั้นแหละนำไปสู่มหาสติมหาปัญญา บังเกิดขึ้นในดวงจิตของเราบรรลุสู่ความเป็นผู้รู้ คือ พุทธะ และนั้นแหละได้รู้ความจริง เกี่ยวกับชีวิต มนุษย์ และสรรพสิ่ง และทั้งสากลอนันตจักรวาล และพ้นไปจากโลก ขาดไปจากสากลอนันตจักรวาลทีใหญ่โตมโหฬารไร้ขอบเขตทั้งหลายอันเป็นห้วงแห่งทุกข์ทั้งปวง ไปสู่โลกแห่งความสะอาดอันสุดจะว่างเปล่า โลกที่มีแต่ความไม่มีอะไร นั่นแหละโลกที่หลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งหลาย ไปสู่โลกนิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โลกแห่งพระอริยบุคคลอรหันต์ ที่แห่งความสุขสงบ สว่างไสวเบิกบาน เป็นอมตะที่พ้นทุกข์นิรันดร


*****