ReadyPlanet.com
dot dot
bulletBUDDHISM to the NEW WORLD ERA
bullet1.Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Luxemberg-ลักเซมเบิร์ก
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet117.Lukanda-ลูกันดา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี
bulletMystery World Report รายงานการศึกษาโลกลี้ลับ
bulletสารบาญโหราศาสตร์
bulletหลักโหราศาสตร์ว่าด้วยดวงกำเนิดและดวงฤกษ์รวมคำตอบคลี่คลายปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับการทำนายชะตาชีวิต
bulletทุกความคิดเห็นจากเวบนี้(เริ่ม ก.พ.55)
bulletประชาธิปไตยเท่านั้น1
bulletประชาธิปไตยเท่านั้น 11
bulletทุกความคิดเห็นจากหน้า1(ก่อน ก.พ.55)
bulletทุกความคิดเห็นจากเวบบอร์ด(ถึงก.พ.55)
bulletภาค 11
bulletภาค 12
bullet54.Hmong ม้ง
bullet133.แอลเบเนีย
bullet133.แอลเบเนีย
bulletหน้าที่เก็บไว้




101..การเมือง เสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริง ๆ ชุดที่1-5 18 เรื่องต้นฉบับไทยสมบูรณ์

 

 

 การเมืองเสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ ชุดที่ 1-5 18เรื่องต้นฉบับไทยสมบูรณ์   แก้ไขลบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Please translate in your language by Google Translate

การเมือง:เสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ 

ชุดที่ 1-5 18 เรื่อง ต้นฉบับไทย

-----

สารบาญ

ชุดที่ 1:  5 เรื่อง

1..เรื่องที่ 1  8ปีนายกนักนิติศาสตร์ เขียนรัฐธรรมนูญสับสน ไม่เข้าใจสาระทางรัฐศาสตร์ไม่เชื่อฟังนักรัฐศาสตร์             

2..เรื่องที่ 2  เรื่องครบ8ปีนายกจะต้องออกจากตำแหน่งเป็นเรื่องความโง่เขลา ไม่เข้าใจการเมือง                                    

3. .เรื่องที่ 3  มองการเมืองให้มีเหตุผลทางรัฐศาสตร์หน่อย                                                                                                     

4.. เรื่องที่ 4  นักการเมืองไทยวันนี้ ทำท่าจะเป็นคนร้ายก่อปัญหาให้ชาติบ้านเมืองเสียเอง                                          

5.. .เรื่องที่ 5  คาร์ม็อบเถื่อน                                                                                                                                            

ชุดที่ 2 : 5 เรื่อง

6.เรื่องที่ 1. เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทยวันนี้                                                                                                       

7.เรื่องที่ 2.  เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทย ต่ออีกสักวัน  3                                                                                    

8.เรื่องที่ 3. เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทย  ตอนที่ 3                                                                                               

9.เรื่องที่ 4. เรื่อง คาร์ม็อบแบบโง่ไม่รู้ประชาธิปไตยจริง ๆ เพราะมันไม่มีใครมีสิทธิตรงนี้                                              

10.เรื่องที่  5..การเมืองกับเยาวชนนั้นมันไม่สมดุลกัน 10 สค.63                                                                                      

ชุดที่ 3: 3 เรื่อง

11.เรื่องที่ 1..สามกีบอ่อนประวัติศาสตร์ จะเล่าให้ฟัง                                                                                  

12.เรื่องที่ 2 . องค์กรนักเรียนเลว                                                                                                                                         

13.เรื่องที่  3วาจาหยาบคายโกหกเพ้อเจ้อ ส่อเสียด ผิดหลักศีลธรรมในพระพุทธศาสนา                                          

ชุดที่ 4.  2 เรื่อง

14.เรื่องที่ 1.  ประวัติศาสตร์การปลุกระดมมวลชนจากฝรั่งเศษฝ่ายค้านไทยยุคนี้อามาเป็นแบบอย่างอย่างงมงาย               

15.เรื่องที่ 2.  แม้สถาบันการศึกษาไทยยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย สอนศิษย์แบบเด็ก ๆมา 86 ปีถึงวันนี้                    

ชุดที่ 5::3 เรื่อง

16.เรื่องที่ 1. ม็อบชุมนุม 8 ปีนายกรัฐมนตรี ดูมีค่าหัว ผิดกฎหมายขายสิทธิ์เลือกตั้งสืบจับเข่าคุกได้ เข้ามาด่าแหลก              17.เรื่องที่ 2.ทำไมนิธิ เอียวศรีวงศ์ จึงพูดเหมือนเด็ก ๆ ไปขนาดนั้น                                                                                     

18.เรื่องที่  3.  ตำรวจใหญ่รวมพวกฆ่าคนผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแบบโหดเหลือเขื่อ                                                      

------*****-----

-----*****-----

-----*****-----

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การเมือง: เสนอให้คิด คนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริงๆ ชุดที่ 1: 5  เรื่อง ไทย

-----

ชุดที่ 1 : 5 เรื่อง

1.เรื่องที่ 1  8ปีนายก นักนิติศาสตร์ เขียนรัฐธรรมนูญ แบบสับสน ไม่เข้าใจสาระทางรัฐศาสตร์ไม่เชื่อฟังนักรัฐศาสตร์ 

นักนิติศาสตร์ ผู้เขียนรัฐธรรมนูญ แต่มักเขียนแบบสับสน เพราะไม่เชื่อฟังนักรัฐศาสตร์  เขียนรัฐธรรมนูญแบบไม่เข้าใจรอบรู้เรื่องประชาธิปไตยอย่างรอบคอบรอบรู้พอ

และนักรัฐศาสตร์ที่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างรอบคอบรอบรู้ โดยเฉพาะอาจารย์ที่สอนคนอื่น สอนศิษย์ในมหาวิทยาลัยนั้นเอง  ไม่มีเลย   มีแต่นักรัฐศาสตร์โง่ๆ

อย่างเช่นนายมีชัย ฤชุพันธ์ โผล่ออกมาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ60  ว่าเรื่อง8ปีนายกรัฐมนตรีนั้นก็เพื่อไม่ให้นายกเหลิงอำนาจ

ซึ่งหลักการนายกอยู่ไม่เกิน 8 ปีนั้น เป็นหลักการประชาธิปไตยอยู่แล้ว  แต่เขาไม่ได้มองแบบดูถูกดูแคลนอย่างนายมีชัยแบบไม่เข้าใจหลักการที่ตนพูดเลย

ประชาธิปไตยเขามองแบบหลักการพระพุทธศาสนา เรื่องการแบ่งปัน  เรื่องการทำบุญทำทานกัน ชาวบ้าน ๆ นี่เอง แต่มาแบ่งปันกันเรื่องอำนาจ เรื่องการเมือง   แบ่งปันประชาชนทุกคน ๆ  คนละ 1 อำนาจ  คนละ 1 เสียง  โดยหลักการว่าด้วย ความเสมอภาค: Equality  หลักเสรีภาพ: Liberty และหลักการ  ญาติธรรมคือ:  Fraternity ที่รู้กันดีว่า  เสรีภาพ  เสมอภาค  ภราดรภาพ ความเป็นพี่น้องกันนั่นเอง  มาจากหลักการพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะ  Fraternity ที่ตรงกับภาษาวัดเลยว่า ญาติธรรม นั่นเอง(แต่พวกมหาวิทยาลัยศาสตราจารย์ที่จบจากต่างประเทศกลับไม่เข้าใจเลย รู้ประชาธิปไตยไม่เท่าคนวัดด้วยซ้ำ) 

ดูจากอเมริกาก็ได้  ก่อนยอร์ช วอชิงตันนั้น คนอเมริกันคิดกันว่าจะปกครองกันแบบไหน   เขาก็ตกลงกันว่าเอาตามหลักพระพุทธเจ้า ว่าด้วย การไม่มีชั้นวรรณะ(ความเป็นคนเสมอกันคือเสมอภาค)  ทุกคนมีเสรีภาพ(เสรีชนไม่มีทาส  เขาจึงทำสงครามทาสจนชนะให้คนเสมอกันมีอำนาจเท่ากัน คนดำก็กลายเป็นคน ๆ หนึ่งขึ้นมา  เพื่อให้เข้าหลักความเสมอภาคนี่เอง และไทยก็เลิกทาสเหมือนกันคงพอเข้าใจนะ)  พอถามไปว่าทำไมจึงเสมอภาค  เขาก็ได้คำตอบว่ามาจากหลัก  ทุกขัง อนิจจัง  อนัตตาของพระพุทธศาสนานั่นเอง  เขาจึงเอามาแบ่งอำนาจกันเท่า ๆกัน   และประธานาธิบดี  ต้องอยู่แค่ 2 วาระๆ ละ 4 ปี  แต่ไม่ให้เกิน 2 วาระคือไม่เกิน8 ปีนั่นเอง  ก็มาจากเรื่องแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ การแบ่งบุญแบ่งทานอำนาจกันนั้นเอง  แต่แม้ศาสตราจารย์ .... ผอ.นิด้า ก็ยังเคยเสนอไปแบบผิดหลักความเสมอภาค  คือ  เสนอโง่บริสุทธิ์ว่า  ศาสตราจารย์ควรให้ 10เสียง อาจารย์ ดร.ได้ 5 เสียง คนได้ปริญญาได้ 3เสียง  คนทั่วไป ชาวนากรรมกร ให้ 1 เสียง  นั้นเพราะไม่เข้าใจหลักอนิจจัง อนัตตา เท่าพวกฝรั่งเขานั่นเอง

และนี่เป็นประเด็นหลักที่สังคมไทยจะต้องเข้าใจให้ถูกต้องให้ตรงกันถึงหลักการประชาธิปไตย  รวมทั้งวันนี้ ที่มีรัฐธรรมนูญกระพร่องกระแพร่งเพราะคนเขียนเป็นนักนิติศาสตร์ ที่ไม่รอบรู้รัฐศาสตรประชาธิปไตยพอเพียง 

แต่ประเด็นคือทำไมนักวิชาการไทย  นักรัฐศาสตร์ไทย   นักนิติศาสตร์ไทย  จึงไม่เข้าใจเลย    และจึงไม่ปรากฏว่ามีการให้ความรู้ที่รอบคอบ  เรื่องประชาธิปไตยออกไปอย่างถูกต้องรอบคอบ

ดังจะเห็นว่า คนในมหาวิทยาลัย  ไม่มีการทำความเข้าใจเลยจาก คำว่า สาธารณรัฐ  คำว่า สาธารณรัฐ ที่นักเรียนชั้นประถม มัธยม  ยุคนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อยู่ นั้น  พาเดินกางป้ายใหญ่มาในถนนราชดำเนินว่า  สาธารณรัฐไทย    หมายความว่าอย่างไร  ทำไมครูอาจารย์  ในมหาวิทยาลัย  ในโรงเรียนสถานศึกษา ไม่อธิบายหลักรัฐศาสตร์ให้เข้าใจกัน  ว่า  สาธารณรัฐ นั้นมีความหมายที่ล่อแหลมอันตรายอย่างไร   จะเป็นสาธารณรัฐได้นั้น ต้องผ่านการปฏิวัติ ขนาดล้มล้างสถาบันกษัตริย์เสียก่อน  จึงเอาตำแหน่ง  ประธานาธิบดี เข้ามาแทนกษัตริย์  นี่คือหลักวิชารัฐศาสตร์ 

และเราก็ได้พบความจริงมาตลอดว่า มีความพยายามในการปฏิวัติ  ที่เขาประกาศบนเวทีม็อบ 10 ส.ค.2563  ว่า  ไม่ใช่ปฏิรูป  แต่ปฏิวัติ  ซึ่งมันซ่อนความหมายไว้ทั้งสิ้น  ซึ่งนักวิชาการนักรัฐศาสตร์นักการปกครองจะต้องพยายามอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ แต่เงียบ !

หมายความว่า ต้องยกเลิกสถาบันกษัตริย์ให้ได้เสียก่อน  และความพยายามของพรรคฝ่ายค้าน มีพรรคอนาคตใหม่มาเป็นก้าวไกลทุกวันนี้และพรรคเพื่อไทยวันนี้ ที่สนับสนุนม็อบปฏิวัติ  ม็อบทะลุฟ้า ม็อบที่ซ่อนชื่อซ่อนความหมายในทางปฏิวัติล้มล้างสถาบันทั้งสิ้น มาตลอดที่มีรัฐบาลตามหลักการประชาธิปไตยมา ตาม รธน.60

โดยพยายามล้มรัฐบาลมาตลอด 3 ปี มีคนต่างประเทศ คือคนมอนเตเนโกร  สนับสนุนม็อบนอกสภามาตลอด 3 ปีถึงวันนี้  ซึ่งมันไม่ถูกหลักการโลก และระบบของประชาธิปไตยเลย  แม้การปฏิบัติในสภาผู้แทนราษฎร  หรือนอกสภา  ม็อบล้มสถาบัน ก็ตาม 

ประเด็นก็คือ  ทำไมสถาบันการศึกษา ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์  อาจารย์ในมหาวิทยาลัยมีมากมาย มีเงินเดือนกินคนละมากมาย   ทำไมไม่ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ด้วยการช่วยอธิบายไปตามหลักการรัฐศาสตร์  ประชาธิปไตยที่ถูกต้องให้ประชาชนเข้าใจบ้าง...แต่แปลก !!   กลับไปอธิบายเรื่องที่นอกประชาธิปไตยไปอย่างผิด ๆ  มาตลอด   เช่นเรื่องสิทธิในการชุมนุม แบบที่ประสานกับองค์กรโง่ ๆ  คือองค์กรสิทธิมนุษยชน  ตลอดมา  เป็นต้น

แม้วันนี้ ที่มีคลิปออกมา มีอาจารย์ 2 ท่าน ออกชื่อเลย   ร.ศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต  ตำแหน่ง ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนานิด้า(แต่ทำไม่ไม่เคยอธิบายการเมืองให้ประชาชนเข้าใจเลย ก็เพราะโง่นั่นเอง)  กับ รศ. ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย นี่ก็ไม่รู้ทำอะไรอยู่ ดูบ้องส์ ๆ

ที่ไม่ได้มองเห็นประเด็นความล่อแหลมที่เป็นประเด็นของชาติประชาธิปไตยดังกล่าวมานี้เลย  ซึ่งมันแปลว่าไม่เข้าใจรัฐศาสตร์การเมือง  ไม่เข้าใจประชาธิปไตย   นั่นเอง  และนั่นหมายความว่า เข้าใจแบบม็อบเข้าใจ  ที่ว่าประชาธิปไตยคือมีสิทธิทำอะไรได้ตามใจนั่นแหละเสรีชน นั้นเอง แม้สิทธิตัวนี้ยังเข้าใจผิดทำผิดไปถึงขั้น  จะไปรวมพลไปไล่ใครออกจากตำแหน่งการงานอาชีพเขาก็ได้ เป็นสิทธิประชาธิปไตยแบบนายจตุพร พรหมพันธ์ พาทำโง่ๆมาตลอด  ซึ่งเรื่องนี้มันไม่ใช่สิทธิเลย  อันธพาลเราดี ๆ  ที่ต้องถูกจับไปเข้าคุกได้เลย

และครั้นนายมีชัย ฤชุพันธ์  อดีตประธานร่างรัฐธรรมนูญ  ออกมา ว่าตนเองร่างรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับ  โดยเฉพาะร่างให้พวกปฏิวัติ รสช.  มา คสช.มา  ทุกฉบับก็ว่าได้ และรวมทั้ง รธน.2560 นี้เอง  ที่ก่อปัญหาอยู่วันนี้นั่นเอง โดยที่นายมีชัย ไม่เข้าใจว่าเกิดปัญหาขึ้นมาอย่างไร 

ดูท่านไม่เข้าใจหลักการแบ่งปันอำนาจเลย  ทำไมท่านไม่อธิบายไปในหลักการแบ่งปันอำนาจ 8 ปี อันเป็นหลักการสากลประชาธิปไตยทั่วโลก โดยเฉพาะมหาอำนาจประชาธิปไตยอเมริกา เขาปฏิบัติไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยมาตั้งแต่ยอร์ช วอชิงตัน ถึง โจไบเดน กี่ร้อยปีล่ะ?  เพราะเขาเขียนไว้ชัดเจน และระบุความหมายที่ชัดเจนถึงเรื่องที่คนเราจะต้องแบ่งปันกันในการเมืองก็เอาอำนาจมาแบ่งปันกัน จึงเป็นหลักสมานฉันท์ของคนในชาติตามความหมายทางพระพุทธศาสนานั้นเองโดยเขากำหนด ปธน.อยู่ในอำนาจเพียง 2 วาระๆ ละ 4 ปี  อยู่ได้ 2 วาระ  8 ปี  ครบแล้วก็แม้เก่งขนาดไหนเขาก็ให้ออกให้คนอื่นมารับอำนาจไปแบบแบ่งปันกันไม่เกิน 8 ปี นั่นคือความหมายทางบุญ การแบ่งปันอำนาจให้คนอื่นได้บ้างนั่นเอง มองแบบธรรมะกันไปตรงๆ แบบประพฤติธรรมกันตรงๆนี่เอง และนั่นแหละประชาธิปไตยแท้  แบบอังกฤษ  ฝรั่งเศส คานาดา  ออสเตรเลีย ...ญี่ปุ่น   ทุกประเทศเขามาระบุไว้เหมือนกัน ตรงความหมายของการแบ่งปันตรงกันนั่นเอง แม้อิสราเอล  ที่เขาอยู่ท่ามกลางประเทศศัตรู รอบด้าน(ศัตรูที่อาฆาตพยาบาทถึงขั้นต้องล้างผลาญอิสราเอลให้เกลี้ยงแผ่นดินตามคำสั่งพระเจ้าอัลเลาะห์)  เขาก็ยังมีการแบ่งปันอำนาจกันไม่ขาด  มีการเลือกตั้งทุก ๆ 4 ปี มาตลอด เพื่อรักษาระบบประชาธิปไตยอำนาจเป็นของมวลประชาชน   เขายังทำได้ และเข้าใจกันดีถึงระบบนี้อันตามไปถึงความเข้าใจในหลัก อนิจจัง  อนัตตา ของพระพุทธศาสนาจึงแบ่งปันกันแบบเสมอภาคได้ มาตลอด

แต่ รธน.60กลับไปเขียนไว้ในอีกที่หนึ่งท้ายๆ แต่เขียนแบบนิติศาสตร์   ที่ไม่ตรงไปตรงมาตามหลักรัฐศาสตร์ว่าด้วยอำนาจทั้ง 3    เขียนไว้ต่างหากในอีกมาตราหนึ่ง  เขียนไว้แบบนักกฎหมายเขียน  คือไม่คิดว่า การตีความ 8 ปีนี้ต้องตีความไปตามหลักรัฐศาสตร์เอาหลักรัฐศาสตร์เป็นนาย  นิติศาสตร์เป็นลูกน้อง  หรือแม้จะว่าขี้ข้าก็ได้ เพราะต้องบัญญัติไปตามสาระแห่งรัฐศาสตร์แบบไม่เบี่ยงเบนเลย   เป็นบริวารทำตามนายคือรัฐศาสตร์เท่านั้น    ไม่ใช่ไปตีความตามหลักนิติศาสตร์  ซึ่งจะทำให้ไม่ตรงหลักประชาธิปไตยไปโดยดี  นั่นเอง  และ  8 ปี ตามรธน.60 นี้  แค่ตีความว่า เป็นระบบประชาธิปไตยตามหลักรัฐศาสตร์ ต้องไม่ตีความนิติศาสตร์เลย แล้ว  ก็ไม่น่ามีปัญหา นำมาสู่ความวุ่นวายอยู่ขณะนี้เลย... แต่เพราะไม่มีใครอธิบายนั่นเอง  แม้คนเขียนรํฐธรรมนูญเอง ก็อธิบายไม่ถูกทั้ง ๆ ที่เขียนออกมาเอง  คือทำไมไม่อธิบายว่ารธน.60เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยตามหลักรัฐศาสตร์  ไม่เหมือนธรรมนูญของคณะปฏิวัติ คสช.57เลย  เอามาอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างรธน.60  กับ  คำสั่งคณะคสช.57 เผด็จการ   อย่างไร  เพื่อการเรียนรู้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ....นั่นก็เพราะไม่มีความเข้าใจพอเรื่องประชาธิปไตยนั่นเอง  

รธน.60 ได้กำหนดหลักอำนาจทั้ง 3 ไว้ ตามหลักประชาธิปไตย จึงชื่อว่าประชาธิปไตยแล้ว  หลักการที่มา ของสส.  ที่มาของ รัฐบาล  และหลักการตรวจสอบของ สส. หลักการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งด้านการเงินงบประมาณ และด้านส่วนตัวบุคคล.....นี่แหละนักรัฐศาสตร์ต้องเอามาอธิบายให้ลูกศิษย์ ๆ  และประชาชนฟังให้รอบคอบละเอียดหน่อยว่านี่แหละเป็นระบบประชาธิปไตยแล้ว เข้าทางประชาธิปไตยแล้ว มีบกพร่องอะไรก็ค่อย ๆ แก้ไปนั้นต่างหาก อย่างเช่นมีเรื่องที่ต้องแก้ให้เข้าหลักเลยก็เรื่อง  สว.มาจากการเลือกตั้ง,  หน.พรรคการเมือง: ให้นรม.มาจากหน.พรรคการเมืองอย่างเดียว  มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรี  ไม่ควรกำหนดนอกไปจากนี้จะทำให้สับสนและดูยากทำยาก  แต่นั่นแหละ อย่าให้เป็นเรื่องสำคัญเกินไปทำตามจังหวะโอกาสรัฐสภาจะทำได้   และนั่นแหละ  เอามากำหนดเรื่องวาระการอยู่ในตำแหน่งว่าวาระละ 4 ปี  อยู่ได้ไม่เกิน 2 วาระ นั่นอย่างไรเรื่อง 8 ปี...  ค่อยแก้ไขไปในสภานั้นเอง   อย่าเอาม็อบมาวุ่นวาย  .....   แต่....ไม่มีเลย...ไม่มีผู้รู้ทางรัฐศาสตร์มาให้ความรู้เลย...และยังแสดงความโง่ไปอีกต่างหาก....ถึงขั้นไล่ออกไปเสีย... เพราะโง่จนกระทั่ง ยังไปลงชื่อกันตั้ง 105 ชื่อ สนับสนุนเด็ก ๆ เยาวชน(องค์กรเด็กเลวของนายธนาธร) ที่ถูกล่อลวงมาประกาศล้มล้างสถาบันไป  10 ส.ค.2563 ณ มธ.คืนนั้น

นี่แหละประเทศด้อยพัฒนาทั้งสถาบันการศึกษาและการปกครอง ด้อยพัฒนาไปหมด  จนน่าเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการปฏิวัติไทยไปเดินตามก้นลาวไปก็ได้  เพราะคิดทำอะไรไปนี่ไม่มีผู้รู้ผู้ที่เข้าใจอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเลย..แม้มาอธิบายก็อธิบายไปแบบลูกศิษย์ม็อบ.... .และที่เป็นเช่นนั้น ก็มาสู่ข้อสรุปวันนี้ที่ว่า  ด้อยพัฒนาการเมืองป่าเถื่อนนั่นเอง

ก็คอยดูว่า ศาลรัฐธรรมนูญ  9 คน  ที่ก็อยู่ในสถานะ ด้อยพัฒนาอย่างว่ามาตลอดนี่แหละ  เขาจะตัดสินออกมาอย่างไร 

จะมองประชาธิปไตยเข้าใจประชาธิปไตยแบบรอบรู้ รอบคอบ หรือเปล่า โดยดูว่าเผด็จการ ต่างจากประชาธิปไตยอย่างไร

คนระดับนี้จะรอบรู้เพียงใด

จะเป็นกลาง ตามหลัก มัชฌิมาปฏิปทา หลักเหตุ-ผล แท้ ๆ ตามหลักการพุทธศาสนาหรือไม่ อย่างไร 

ระวังจะเหมือนพม่า

คิดหรือไม่  กรุงโรมไม่ได้สร้างวันเดียว  ประชาธิปไตยไทยสร้างยากยิ่งกว่าสร้างกรุงโรมนั้นละมัง  เพราะความที่รอบรู้เรื่องประชาธิปไตย แทบไม่มีอยู่เลยในคนและสถาบัน  ตามที่ได้พบในวันนี้เวลานี้  มันเสี่ยงต่อการนำประเทศไปสู่กลียุคหากคิดเรื่องการปฏิรูปปฏิวัติไทยไปเป็นสาธารณรัฐ  โดยพวกคนหนักแผ่นดิน พรรคการเมืองหนักแผ่นดิน  ต่อไปอยู่

@สุไหงปาดีชินะกุล ดร.ฆิกเมฆณ ณเมฆินทร์  บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์  30 ส.ค.2565 09.20 น.

-----*****-----

2..เรื่องที่ 2  เรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่อง ครบ8ปีนายก ต้องออกจากตำแหน่ง เกิดเรื่องเพราะความโง่เขลา ไม่เข้าใจการเมือง 

เฟสของเรามองโลกทุกด้าน มาการเมืองวันนี้ : มีเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่องแต่เป็นเรื่องเพราะความโง่เขลา ไม่เข้าใจการเมือง  และไม่เข้าใจประชาธิปไตย...เหตุการณ์วันนี้ มาตั้งแต่มีรธน.60 มีรัฐบาลประชาธิปไตย มาถึง 3 ปีเศษ ๆ  จวนจะครบวาระการเลือกตั้งแล้ว  กลับมีคนโง่ไปอ่านรธน.ผิดไป ไม่เข้าใจ รธน.60 กับประกาศยึดอำนาจของ คสช. แตกต่างกันอย่างไร  กฎหมายใดปกครองประเทศอยู่ขณะนี้ ....

ไม่เข้าใจเลยว่าเป็นเรื่องเฉพาะประชาธิปไตยเท่านั้น ต้องอ่านการเมืองให้เข้าใจทะลุปรุโปร่ง หายสงสัย    ไม่ว่าครูอาจารย์ในมาวิทยาลัยก็ตาม แม้ในวงการเมือง สส.เองก็ตาม  ไม่เข้าใจประชาธิปไตย  ไปมองว่า รธน.60 เป็นเผด็จการ เหมือน คสช.ไปนู้น .......จึงไปก่อเรื่อง  อย่างที่ไม่ควรมีเรื่องขึ้นมา   และด้วยความโง่เง่าเต่าตุ่น ว่าต่อไปอีกอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ  ไปแบบสร้างปัญหา จากสิ่งที่ไม่มีปัญหาเลย...ได้อย่างไร? .....

และครั้นเริ่มขบวนการไปแล้ว (ว่าการเป็นนรม.ครบ 8 ปี 24 ส.ค.65 แล้ว)  โดยเป็นไปตาม รธน.60 รธน.ประชาธิปไตย ก็ไม่เข้าใจไปอีก ...ฝ่ายที่โง่ใม่เข้าใจนั้นก็พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคฝ่ายค้านอื่น ๆ  รวมทั้งพรรคพวกม็อบขยะนั้นเองดังมีประเด็น2-3 ข้อ 1. พอศาลบอกให้นรม.หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อน ตั้งแต่ 25 ส.ค. 2565  ก็ไม่เข้าใจว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ต้อง รักษาการณ์นายก   และ  ประยุทธ ยังเป็นนายกอยู่  ยังไม่พ้นจากตำแหน่ง เพียงหยุดปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น..วันที่ต้องรอ ก็วันศาลตัดสิน  9 คนเขาจะตัดสินอย่างไร     แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ  

ยิ่งนักข่าว นักวิจารณ์การเมือง ยิ่งไม่เข้าใจเลย  ใคร ๆ ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา ๆ     คือ เป็นเรื่องธรรมดา ๆ  แท้ ๆ   ไปตื่นเต้นกันทำไม แล้วพอพล.อ.ประวิตร มารักษณาการณ์  ด้วยความไม่เข้าใจฝ่ายค้านก็ชุมนุมเสนอความคิดไปอีกแบบเละเทะ แล้วมองว่าเป็นพวกเดียวกับประยุทธ จะต้องไล่ออกอีก ไม่ยอมอีก  อ้างผิด ๆ ชั่ว ๆ โง่ ๆ ไปอีกว่า มีความสามารถไม่พอจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต้องเอาออก ระดมม็อบมาอีกใช้เงินจ้างม็อบมาอีก  ...

คุณทำอย่างนั้นทำไมล่ะ ?  ก็ระบบมันเป็นอย่างนี้  หัวหน้าออกไป รองหัวหน้าก็ขึ้นมา  เป็นเรื่องธรรมดา ๆ  และธรรมดา ๆ  ก็ต้องรอศาลเขาตัดสินก่อน ว่าเขาจะตัดสินอย่างไร 

และถึงแม้เขาตัดสินอย่างไร     ก็ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้น วุ่นวายอะไรเลย   ตัดสินให้นายกครองตำแหน่งครบ 8 ปี  ให้ออก   ก็ออก ....ก็หาคนใหม่มาแทน  ก็เท่านั้น  ให้อยู่ก็อยู่ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป  แล้วทำไม?  ไม่ให้ออกก็ทำหน้าที่นายกต่อ แล้วทำไม ?  ก็ระบบประชาธิปไตยมันเป็นอย่างนี้   คุณไปเดือดร้อนทำไม ?  ....หรือจะมีการยุบ  หรือไม่ยุบสภา   มันก็เป็นไปตามปกติอย่างนี้  คุณไปดิ้นรนหาอะเไร   ยุบก็เลือกตั้งใหม่   ไม่ยุบก็เตรียมเลือกตั้งไปในไม่ถึงปีข้างหน้า   ก็เป็นไปอย่างนี้   ไปเดือดร้อนวุ่นวายแสดงความโง่เขลาออกมาทำไม  ....

ไอ้ที่โง่จัด ๆ  ก็ที่จะไประดมม็อบมาชุมนุม  คุณไปทำอย่างนั้นทำไม ?  มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย  ทำไปเพราะความโง่เขลาเต่าตุ่นแท้ ๆ   เขาเป็นฝ่ายค้านที่ก่อเรื่องเอง และอ้างรธน.60 อ้างเพราะคิดว่าตนจะได้ประโยชน์(เช่นเรื่อง8ปีเป็นต้น)  แต่พอตนจะเสียประโยชน์เข้า  ก็ไประดมสื่อทำเฟกนิวส์กันใหญ่  ด่าแหลก 

คิดปลุกม็อบยึดประเทศไทย สร้างไทยเป็นประธานาธิบดี เป็นสาธารณรัฐ ล้มสถาบันกษัตริย์ นี่แหละที่ฝ่ายค้านและม็อบล้มเจ้าจะอยู่ในแผ่นดินไทยไม่ได้ ...ที่จะสร้างความวุ่นวาย ปั่นหัวคน2ฝ่ายขึ้นมาขัดแย้งกันอันจะกลายเป็นซีเรียไปอีกประเทศหนึ่ง ไม่รู้จักคิด  ... 

นี่แหละจึงถึงคราวที่เราจะต้องมาทบทวนกันเรื่องการว่าจ้างคนมาก่อม็อบ   ว่าจ้างหัวหน้าม็อบกันเป็นหมื่นเป็นแสน  เป็นล้านบาท  ต้องตามสืบว่าผู้ร้ายเป็นใคร จับมาเข้าคุก  ยิ่งเป็นคนต่างประเทศก็เอาหนักเลย  ฐานจะมาซื้อเสียงยึดประเทศไทยเป็นเมืองขึ้น  ฟังคลิปยายอยุธยา คราวมีคาม็อบ แกบอกมีเงินจ้างเยาวชนว่างงาน 1500-2000  ไปร่วมขบวนคาร์ม็อบ  

นี่แหละคนจ้างมีความผิด    มีรายได้ต่อหัวมาชุมนุม  ว่าต้องเสนอให้ ศาล รธน.ตัดสิน  ครั้นศาลเขาตัดสินไปแล้วขั้นตอนหนึ่ง  ก็ไม่เชื่อศาลที่ตัดสิน  ....  ระดมม็อบมา   อย่างผิดกฎหมาย  ที่เสี่ยงต่อการผิดติดคุกฐานว่าจ้างซื้อเสียงคนมาชุมนุม....อย่างวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันอีกประเด็นสำคัญเลย   บ้านเมืองจึงเหมือนมีการแสดงออกถึงความด้อยพัฒนาทางการเมืองจริง ๆ  

มีคนสงสัยถามว่า ไทยเป็นโควิตกันไม่กี่คน ทำไมพรรคฝ่ายค้าน ม็อบฝ่ายค้านจึงเอาไปหาเรื่องรัฐบาลประยุทธ จะต้องยกขบวนไปไล่ออกจากตำแหน่ง ฐานแก้ภัยโควิตไม่ได้จนทำให้คนตายนับพันคน  ....นี่แหละคนโง่จริงๆ และคนทั้งหลายก็โง่ตามไป  จะไปไล่เขาออกจากตำแหน่งได้อย่างไร  เขาเป็นข้าราชการ  เข้าสู่ราชการด้วยระบบระเบียบราชการ แม้การเมือง  หรือราชการทั่วไป  เราก็ไม่มีสิทธิไปละเมิดสิทธิของเขา ขืนทำอย่างนั้นก็เข้าคุกเท่านั้นเองฐานละเมิดสิทธิของคนอื่นเขา  เรายังไม่เข้าใจกันทั้งนั้น  หากมีเงินไปจ้างมาชุมนุม นั่นแหละติดคุกแบบ เลือกตั้ง อบจ.พัทลุงเลยละ .... 

ดูอเมริกา วันนี้ ติดโควิตกันรวมแล้วถึง 95.4 ล้านคน  ตายไปแล้วถึง 1.04 ล้านศพ   น้อยที่ไหน  กองพะเนินเทินทึก มีคนตายมากที่สุดในโลก  แต่ไทยตายไปเพียงระดับหมื่น เอามาหาเรื่องสร้างม็อบมาชุมนุมตลอด หาเรื่องไล่ตลอด   ไม่ดูโจ ไบเดน อเมริกา ตายไปเท่าไรเศรษฐกิจทรุดไปเท่าไร  ทำไมเขาไม่ยกขบวนออกมาไล่โจ ไบเดน  ในเมื่อเป็นประชาธิปไตย  ก็นั่นแหละประชาธิปไตยแท้ละ  คนอเมริกันเข้าใจประชาธิปไตย  เขาไม่ไล่โจ ไบเดนหรอก 

เพราะอเมริกันเขาเข้าใจประชาธิปไตย  1.  เขาไม่มองแบบไทย ที่ว่านายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนเก่งคนฉลาด  คนทำงานเก่ง  อะไรแบบนี้  เขาไม่มอง   เขามองแต่ว่า เป็นคนของประชาชนๆ เขาเลือกมา  ถ้าประชาชนเลือกมาแล้ว  ไม่มีคำว่าโง่  เป็นควาย  อย่างที่คนไทยที่ไม่เข้าใจโง่เขลาก่อเรื่องเข้าใจอยู่  2.  ประชาธิปไตยนั้น มาจากหลักพุทธศาสนาที่ว่า เป็นเสรีชนช่วยเหลือตนเองไม่ใช่ทาส และตนแลเป็นที่พึ่งของตนนั้นเอง  ประชาชนอเมริกา จึงรับผิดชอบความเป็นประชาธิปไตย ทำหน้าที่พึ่งตนเองอย่างเต็มที่ มีโรคภัยไข้เจ็บก็หาทางแก้ไขด้วยตนเอง ค่ายาค่ารักษาโรคเขาแพงเขาก็ไม่บ่น  การคิดพึ่งรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องของคนทาสที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้   

ไม่เหมือนคนฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล  ที่คิดแบบทาสว่ามีปัญหาอะไรรัฐบาลต้องแก้ไขให้หมด   ไม่ใช่อย่างนั้น   เข้าใจศาสนาพุทธหรือเปล่า พึ่งตนเองให้ได้จึงจะเป็นเสรีชนประชาธิปไตยได้   มีความสามารถช่วยตนเอง มีความเป็นมนุษย์  นั่นแหละประชาธิปไตย   หากไม่เข้าใจก็พาทำไปผิดหลักการหมด  เช่นพวกซื้อเสียง เงินไม่มากาไม่เป็นนี่ระบบทาส  พวกชุมนุมม็อบการเมืองแบบมีเงินจ้างค่าหัวมาจึงเป็นความผิดที่ต้องสืบจับคนว่าจ้าง มาลงโทษแบบโทษการซื้อสิทธิขายเสียงนั้นเอง แบบ อบจ.พัทลุง ที่คนจ้างคนซื้อคะแนนเสียงติดคุกไปกันแล้วทั้ง2คนนั่นเอง  ประชาธิปไตยไทยจึงจะเดินไปได้  คุณจะมากล่าวโทษรัฐบาลว่าเอาโควิตมาแจกจ่ายราษฏร อ้างว่านรม.คสช.จอมเผด็จการเอาโควิตไม่อยู่ โควิตจึงแพร่สะพัดไปทั่วประเทศ ต้องลาออกวันนี้ อยู่ต่อไปยิ่งทำชาติล่มจมไปอีก ..

จะอ้างแบบนี้ได้อย่างไร   จะมาอ้างว่าประชาชนอดหยากจะตายกันไปหมดแล้วเพราะความโง่ของประยุทธ  ประยุทธต้องช่วยให้เขาพ้นน้ำท่วม ให้ดีขึ้นให้ร่ำรวย ให้ได้ดีทุก ๆ คนต้องไม่ลำบากเพราะมีรัฐบาลประชาธิปไตย คนป่วยเพราะประยุทธ ต้องให้คนหายป่วยหมดประเทศ  นั้นเองเป็นแบบอันธพาลโง่เขลา เป็นความรู้ที่ผิด ไปดูอเมริกา เป็นตัวอย่าง  ทำไมคนอเมริกัน  ไม่ลุกขึ้น  ไม่มีหัวหน้าม็อบไปปลุกระดมมวลชนออกไปไล่โจ ไบเดน  ว่าบริหารงานโง่เขลากว่านายกรัฐมนตรีไทยประยุทธ จันทร์โอชาเสียอีก เอาโควิตไม่อยู่ ตายกันเป็นกองเท่าภูเขา ถึง ล้านกว่าคนตายไปแล้ว

 เฉพาะติดโควิดถึง 94 ล้านคน ตาย 1.4 ล้านคน และไม่ลดลงเลย  ถ้าเป็นไทย ก็จะไปไล่นายกรัฐมนตรีไทย ว่าโง่เขลา ไม่รู้เรื่องโควิต  แต่ไม่รู้จักคิดว่า ทำไมอเมริกันชน ที่เป็นประชาธิปไตยแท้ เขาไม่รวมพลออกไปไล่โจ ไบเดน อ้างประชาธิปไตยแบบม็อบเมืองไทย  แต่เพราะอเมริกันชนเขาเป็นประชาชนเสรีประชาธิปไตยแท้ มีใจเป็นธรรม ตนต้องพึ่งตนเต็มที่ เป็นเบื้องต้นของประชาธิปไตยเลยแบบคำสอนของพระพุทธศาสนาเลย ... 

จริงอยู่ถึงมีปัญหาเขาก็คิดเรื่องผิดเรื่องถูกเป็น มีมันสมอง ไม่คิดทำอะไรโง่ ๆ  แบบจ้างม็อบออกมาเดินขบวนไล่โจ ไบเดน ออกไป แบบคนไทยวันนี้  แต่เขาก็คิดกันไว้ในสิทธิอำนาจ1คน1เสียงของเขาที่ว่าถึงวาระเลือกตั้งเขาจะพิจารณาอีกทีหนึ่งว่าจะเอาโจ ไบเด็นอีกหรือไม่  นี่แหละ  ประชาธิปไตย    นั้นแหละ ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย...ตามระบบประชาธิปไตย ที่คนไทยต้องเอาเป็นตัวอย่าง  อดทนไปตามระบบ

 ทำตามระบบเท่านั้นเอง คุณจะไปเดือดร้อนทำไม  ยุบสภาก็เลือกตั้งใหม่ เท่านั้นเอง  หรือตัดสินปล่อยประยุทธ ก็ได้นายกรัฐมนตรีทำงานต่อไป ก็เท่านั้นเอง ก็ดีไง  มีเรื่องโอเปครออยู่  จะได้มีนายกรัฐมนตรีไทยเป็นประธานโอเปค สมเกียรติ์ของประเทศ  มันก็เป็นอย่างนั้นเองจะไปเดือดร้อนทำไม ?

@สุไหงปาดี ชินะกุลฆิกเมฆ ณเมฆิน  บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์  29 ส.ค.2565 13.00 น.      ่

-----*****-----

3. .เรื่องที่ 3  มองการเมืองให้มีเหตุผลทางรัฐศาสตร์หน่อย

ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆน ณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุญเสฏฐ์

มองเรื่องการเมืองให้มีเหตุผลทางรัฐศาสตร์หน่อยและมองกว้างๆหน่อย  ก็บอกแล้วนายทักษิณ ชินวัตร  กับนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 คนนี้ เคยเป็นคนสำคัญในประเทศไทยขนาดไหนขนาดนายกรัฐมนตรี ประเทศมหาอำนาจไทยเลยนะ   แต่ขนาดนี้ยังไม่ชื่นชมในความเป็นคนไทยเลย กลับไปโยนทิ้งความเป็นไทย ตัดสัญชาติ  เชื้อชาติไทยไปทั้งพี่ทั้งน้องไปเป็นชาติอะไรก็มอนเตเนโกร คนพี่ และเซอร์เบีย คนน้อง  น่าละอายใจจริง ๆ   

เพราะประเทศทั้งสองนี้เราแทบไม่เคยรู้จัก และโลกก็ไม่เคยรู้จัก   และวันนี้รัฐบาลและประชาชนของสองประเทศนั้นก็คงจะนึก ๆ เหมือนกันว่าคน ๆ นี้  มันกำลังจะคิดยึดครองประเทศมอนเตเนโกรหรือเปล่า?  เขาคงต้องคิดแน่ ๆ  ละ   เพราะเขาก็ย่อมรู้ว่าเป็นคนร้ายหนีมาจากประเทศไทย  ขนาดเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย  ยังหนีจากประเทศไทยมา   นี่แหละ   ก็ดูนายทักษิณไม่ได้คิดก่อการร้ายในประเทศไทยเท่านั้นยังคิดก่อการร้ายแด่ประเทศมอนเตเนโกรด้วย อันเนื่องมาจากความมักใหญ่ใฝ่สูงของเขา(ก็คนฉลาดอย่างเขา จะอดด่ารัฐบาลมอนเตเนโกรได้หรือ)  และเขาก็คงหลอกประชาชนมอนเตเนโกร ให้ด่านายกรัฐมนตรีมอนเตเนโกรไปยิ่งกว่าด่ารัฐบาลประยุทธเสียอีก โง่ กว่าประยุทธอีกทำนองนั้น   

นี่แหละ ก็น่าคอยดูว่าคนๆนี้จะคิดทำอะไรดี ๆบ้าง  ในเมื่อหนีไปอยู่ประเทศมอนเตเนโกรประเทศเล็ก ๆ ขนาดเท่า ๆ จังหวัดพิษณุโลกเรา  มอนเตเนโกร มีพื้นที่ 13,812  ตร.กม. พิษณุโลก 10,815 ตร.กม.  มีประชากร 620,145 คนเท่านั้น  สู้จังหวัดปัตตานีไทย ที่เล็กที่สุดจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยมีพื้นที่ 1,940 ตร.กม. แต่มีประชากรถึง 655,259 คน (พอ ๆ กับคนทั้งประเทศมอนเตเนโกร) รัฐบาลเขาก็ต้องเฝ้าดูอย่างไม่คลาดสายตาเลย เขาก็กลัวนายคนนี้จะคิดยึดอำนาจเขารัฐบาลเขาก็คิดจะไล่หนีไปอยู่เหมือนไทยเลยละ

เพราะความคิดของคน ๆ นี้ ไม่คิดสร้างชาติไทย โดยสร้างประชาธิปไตย ทำไทยเป็นประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าต่อไป ทั้งที่ไทยวันนี้เป็นประชาธิปไตยในระดับมาตรฐานเบื้องต้นแล้วตาม รธน.60  แต่คนนี้กลับจะไม่เอาการเลือกตั้ง เพราะรู้ดีว่าฝ่ายตนจะพ่ายแพ้และแพ้นานด้วย ก็มีทางเดียว จะเอาม็อบมาไล่รัฐบาลออกไป เอาระบบม็อบมาสร้างอำนาจการเมือง  แบบจะปลุกระดมคนไทยแบบนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายบก.ลายจุดได้ และไปคิดครอบพรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทย  พรรคก้าวไกล  และอย่างนางสุดารัตน์  ประมาณนี้  เอาเงินซื้อเอา  เป็นทาสการเมืองมาตลอด

แต่ถึงอย่างไร เวลานี้คนไทยก็อ่านเกมทักษิณออกชัดเจนไปแล้ว  ความคิดล้มสถาบัน ที่เราเริ่มทราบกันกว้างขวางนั้นก็มาจากคนๆ นี้นั่นแหละคราวเริ่มต้น ๆมาจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่  กับพวกม็อบราษฎรพวกสามนิ้วนั้นเริ่มประกาศนโยบายปฏิวัติสถาบัน ใน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต คืนวันที่ 10 ส.ค.2562 มีอาจารย์ในมธ.และอื่น ๆอีก105คนลงบัญชีไปขับไล่สถาบันกษัตริย์ด้วย

ขนาดมีการเดินขบวนนักเรียนชั้นมัธยมประถม  ถือป้ายกางเดินขบวนถนนราชดำเนิน ถือป้ายใหญ่  สาธารณรัฐไทย นั้นแหละคือแนวทางสร้างไทยเป็นสาธารณรัฐ  ซึ่งจะทำได้ก็ต้องไล่กษัตริย์ออกไปก่อน จึงจะตั้งประธานาธิบดี ขึ้นแทนได้  นั้นเป็นแผนร่วมกันหลายฝ่ายนับแต่พรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล  และบัดนี้ เมื่อทักษิณ ชินวัตร เริ่มใช้สื่อออนไลน์ทุกรูปแบบ โฆษณาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง นั้นแสดงความจริงที่เขาคนนี้ยังยืนหยัดล้มล้างสถาบันเพื่อสร้างไทยเป็นสาธารณรัฐ และตัวเองเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐไทย   

นั้นแหละประเด็นมันไม่อาจจะทำได้อยู่แล้ว  หากคิดหลงตนเองไปเองจึงคิดฝันหวานไปได้ นายทักษิณก็จะทำให้ได้ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์การโฆษณาชวนเชื่อ  การปลุกระดมมวลชนแบบคอมมิวนิสต์   คือ โกหกให้คนเชื่อ นั้นเอง จึงมีการโฆษณาให้ร้าย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ว่าเป็นเผด็จการสืบอำนาจมาจากคสช.เป็นรัฐบาลเผด็จการ ที่สืบอำนาจต่อจาก คสช.  ไม่มีความรู้ในด้านเศรษฐกิจทำประเทศตกต่ำมาตลอด   และยิ่งมีโควิด ยิ่งทำผิดพลาดทำคนไทยตายไปเยอะแล้ว ต้องออกไปสถานเดียว    จึงการที่ต้องไล่พล.อ.ประยุทธ นั้นเป็นเรื่องหลักของม็อบ3นิ้ว(หรือสามกีบที่คนไทยตั้งชื่อใหม่ให้  สามกีบตีนควาย) ต่าง ๆ  มาจนถึงวันนี้  

อ้างเรื่องรัฐบาลประยุทธโง่บริหารไม่เป็นทำประเทศด้อยตกต่ำได้  ต้องออกไป  มีแผนต่าง ๆ ล่าสุดแผนแยกยุพรรคร่วมรัฐบาล ให้ลาออกจากการร่วมพรรคประยุทธ   โดยคิดว่าหากรัฐบาลประยุทธเดินไปไม่ได้ เกิดแตกกันในพรรครัฐบาลก็จะได้รัฐบาลใหม่  นั้นก็จะเป็นเรื่องดีสำหรับฝ่ายคิดกบฏ  การอ้างให้มีการปรับนายกรัฐมนตรีใหม่จึงมีคนเห็นด้วยเสมอ  แต่สิ่งที่จะได้พบจากฝ่ายค้านของพวกม็อบล้มสถาบันก็คือ ถึงจะมีการไล่ประยุทธออกไป หรือลาออกไป  ตั้งรัฐบาลใหม่  ไปตามที่ตนเห็นด้วยก็ตาม ขบวนม็อบทั้งหลายก็จะออกมาเคลื่อนไหว ไล่รัฐบาลใหม่อีก  ยังคงออกมาไล่รัฐบาลใหม่ต่อไปอีก ด้วยเหตุผลแบบเดียวกันนั้นเอง ด้วยการต่อรองต่าง ๆ กับรัฐบาล และไล่รัฐบาลใหม่ออกไปอีก  เพื่อสู่เป้าหมายคือได้ทักษิณขึ้นเป็นผู้นำชาติอีกครั้งหนึ่งนั่นเองโดยได้เป็นประธานาธิบดี สาธารณรัฐไทย  ม็อบจึงจะหยุดเคลื่อนไหวลง 

นั่นก็คือ หากมีการปรับรัฐบาลใหม่วันนี้เป็นรัฐบาลประวิตร หรือ  อนุทิน  หรือรัฐบาลฝ่ายค้านก็ได้ วันนี้ พวกม็อบก็จะยังคงเตรียมการเดินขบวนกันต่อไปอีก  ก็จะออกมาไล่รัฐบาลต่อไปอีก ใช้เงินมหาศาลเป็นอาวุธ จนกระทั่ง เกิดการเดินขบวนท่วมแผ่นดินไทย  พรรคเพื่อไทยหรือพวกของของทักษิณ  ยกทักษิณขึ้นครองอำนาจเป็นรัฐบาล นั่นแหละการเดินการเมืองปฏิวัติสถาบันก็จะสำเร็จลงทันที การต่อสู้ต่อรองในระยะนี้ไปก็คือแก้ไขรธน.ให้ยกเลิกคดีของทักษิณ

แล้วที่สุดก็ปฏิวัติระบอบเป็นประธานาธิบดี  อ้างแบบเดิมว่ารัฐบาลใหม่โง่เป็นควาย ทำประเทศชาติล้าหลังไปกว่ารัฐบาลประยุทธอีก  ก็จะระดมคนมาไล่ออกอีก  และพวกโง่ ๆ  อย่างพวกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬา อื่นๆก็จะอ้างประชาธิปไตยผิดๆ ทำการปลุกระดมนักศึกษาออกมาอีก   เปลี่ยนรัฐบาลอีก  และวางแผนมวลชน ให้เกลียดชังรัฐบาลทุกรัฐบาล ให้เกลียดชังสถาบัน แบบที่สร้างสื่อเดินเรื่องยุทธศาสตร์การปลุกระดมมวลชนนี้มาแล้วหลายกระแส เช่นสื่อมติชน  สื่อว้อยส์ทีวี แม้กระทั่งทนายหน้าบาง ๆบางคน เป็นต้น ที่ยังไม่ใช่รัฐบาลทักษิณ   จนที่สุดก็ได้ทักษิณ เข้ามาจนได้ ในไม่ถึง 5-6 ปีนี้

นั่นแหละแผนของนายทักษิณที่จะทำได้โดยการใช้ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีปลุกระดมมวลชนไทยให้ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและยกทักษิณเป็นเทพเจ้าขึ้นมานั้นเอง จึงมีขนาดจะเดินขบวนทุกวัน ๆ ไล่ประยุทธ จนกว่าจะออกไปจึงจะหยุดไล่ โดยไม่คิดว่ารัฐบาลของประชาชนเขามีงานต้องทำมากมาย 

แต่ เราคิดว่าคนไทยคงไม่โง่ที่จะไปเชื่อว่าทักษิณเป็นเทพเจ้า แค่คิดว่าไม่ใช่คนไทยแล้วเป็นคนป่ามอนเตเนโกร  ประเทศเล็ก ๆ เท่า ๆ จังหวัดพิษณุโลกเรานั้นเอง   และที่สำคัญ พรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกยุแหย่ให้เกลียดชังฝ่ายรัฐบาลกันเองที่เพิ่งเห็นจริง ๆ ก็คราวนัดคาร์ม็อบ มาเดินขบวนรถวานนี้นั่นแหละ(ที่ดูๆแล้วโง่จริงๆ พากันขี่รถเที่ยวเล่นเปลืองน้ำมันไปเปล่า ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้บอกชั้นเชิง เล่ห์เหลี่ยม หรือ ยุทธวิธีการต่อสู้อะไรเลย) ที่พยายามไปแยกประชาธิปัตย์ออกจากประยุทธให้ได้ก่อนและแม้  พรรคภูมิใจไทยของอนุทินก็ไปยุแยก ก็เราคิดว่าเขาไม่โง่หรอก  ที่ฉลาดก็คิดไปแบบเส้นทางประชาธิปไตยที่ต้องอดทนมีคุณธรรมความอดทนกันแบบวีรบุรุษการเมืองอังกฤษนายโทนี่ แบลนั้นทำไว้  คือรอการเลือกตั้งเท่านั้น   อย่างอื่นทำไม่ได้ไม่ถูกหลักการประชาธิปไตย แบบที่นายทักษิณวางแผนยุแยกให้คนไทยปั่นป่วนทางการเมืองอยู่ขณะนี้นั่นเอง  วันนี้เราก็เห็นมีคนโง่ๆ อยู่บ้างเช่นคนที่เพิ่งเข้าคุกไป และคนที่เพิ่งออกจากคุกมาที่ยืนยันไล่นายกประยุทธ จันทร์โอชา ใน 6-7วันข้างหน้านี้ต้องลาออกไป  

นั้นใครจะไปเชื่อได้ และหากไปคิดกันหน่อยว่าทำไมคนมอนเตเนโกรที่ด้อยพัฒนากว่าไทยเยอะ   และคนไทยก็ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของโลกด้วยจึงจะมาคิดว่าคนไทยโง่ขนาดไม่รู้แผน คิดล้มล้างสถาบันเลย  หากไม่คิดอย่างนี้แล้วจะเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีได้อย่างไร นี่คนไทยเขาคิดได้ กลับไปอยู่มอนเตเนโกรเถิด ไปคิดทำการเมืองประเทศคุณสิ  นี่ประเทศไทย ไม่ต้อนรับคนมอนเตเนโกร    ไม่ขายหน้าชาวโลกหรืออย่างไร เป็นคนไทยดีๆ แล้วลดตนเองไปเป็นคนต้อยต่ำไร้ประวัติศาสตร์เช่นนั้น 

นี่แหละมองการเมืองให้ถูกต้องตามหลักรัฐศาสตร์กันหน่อย  และให้เคารพและอดทนในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการสร้างระบอบประชาธิปไตยนั้นต้องเดินไปตามทางประชาธิปไตย   อำนาจการเมืองของสถาบันการเมืองต้องมาจากการเลือกตั้ง  มาจากอำนาจของประชาชนทั้งหมดของประเทศเท่านั้น ใครจะไปคิดล้มล้างสถาบันทั้งการเมืองและสถาบันกษัตริย์

ด้วยการปลุกระดมมวลชนออกมาก่อการร้ายนั้นถือว่าทำลายประชาธิปไตยและนั่นก็มีความผิดหนักระดับกบฏต่อประเทศชาติ  ประหารเจ็ดชั่วโคตรเลย 

ยิ่งในระยะนี้ การคิดเปลี่ยนแปลงรัฐบาล  คิดอยากได้รัฐบาลใหม่ ที่พยายามไล่พล.อ.ประยุทธ ให้ออกไปตั้งคนใหม่ นั้น  ใคร ๆก็รู้มันเป็นเพียงแผนเบื้องต้น  เพราะพอได้นายกคนใหม่ พวกม็อบก็ออกมาไล่อีกด้วยเหตุผลแบบเดียวกัน  และคาดจากงานก่อม็อบมาได้ไม่รู้หยุดหย่อนด้วยเงินเป็นเทพเจ้านั้นเอง จึงทำให้คนที่เชื่อว่าทักษิณเป็นพระเจ้า(ขนาดคุยโม้ว่าจะแก้เศรษฐกิจไทยได้ใน 6เดือนพวกม็อบสามนิ้วยังเชื่อเลย โง่ขนาดไหน) แล้วก็จึงมั่นใจจริง ๆ ว่าทักษิณจะได้โอกาสได้ช่องเป็นรัฐบาลเองในไม่ช้าไม่นานนี้เอง และพยายามให้คนไทยลุกขึ้นมาทั้งประเทศไล่ประยุทธ จันทร์โอชา  แล้ว ตั้งทักษิณเป็นใหญ่   ไปปฏิรูปสถาบัน  สร้างสาธารณรัฐไทยขึ้น   

นั่นแหละกบฏโดยแท้จริง ผู้ทำลายประชาธิปไตย  ทำลายความมั่นคงของชาติ คิดร้ายต่อรัฐบาลประชาธิปไตย  เพราะทางประชาธิปไตยมีทางเดียว ก็มีกฎเกณฑ์รออยู่ด้วยการเลือกตั้งรอบหน้าก็ต้องรอการเลือกตั้งแพ้ชนะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาแผนความคิดอยากเป็นใหญ่ อยากปฏิรูปสถาบัน ด้วยการเกณฑ์ประชาชนหรือไปหลอกคนไทยโง่ๆออกมาสร้างความปั่นป่วนแก่ประเทศชาตินั้นถือว่าทำลายประชาธิปไตย

ประชาธิปไตยมีทางเดียวคือการเลือกตั้งและนักการเมืองทำได้อย่างเดียว โดยความพยายามพิศูจน์ตนให้ประชาชนเห็นว่าตนมีคุณค่าเพื่อให้ประชาชนเลือกตนเป็นตัวแทนเข้าสู่รัฐสภาอีกครั้งหนึ่ง   นั้นแหละแนวทางที่คนไทยผู้รักประชาธิปไตยต้องทำไปให้ได้  จึงจะเป็นการส่งเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงดูตัวอย่างนักสู้ นายโทนี่ แบล แห่งพรรคกรรมกร อังกฤษ

ฉะนั้น  เพียงมองการเมืองให้ถูกต้องตามหลักรัฐศาสตร์ และประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชนเท่ากันทุกคน จึงต้องมองจากเสียงส่วนมากเสมอไปเท่านั้นนั่นแหละทางการเมืองที่ถูกต้องของประชาธิปไตย  ซึ่งหากเจ้าของอำนาจไม่พอใจใครอยากไล่ใครก็ทำได้ ด้วยการออกเสียงเลือกตั้งนั้นเอง

ฉะนั้น ขอให้ม็อบทั้งหลายหยุดได้แล้ว ถ้ารักประชาธิปไตยก็มีทางเดียวเท่านั้น ที่จะไล่ประยุทธจันทร์โอชา  โดยเตรียมสู้แบบประชาธิปไตย แบบมีการเลือกตั้งอีก 1 ปี 7 เดือนเท่านั้นเอง แล้วทำไมจะต้องไปร่วมงาน ที่แท้จริงเป็นกบฏแผ่นดิน?ที่จะถูกปราบเรียบไปอยู่แล้ว  @สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆน ณเมฆินทร์  บัวระย้า ชบาบุญเสฏฐ์ 3ส.ค.2564 23.30 น.

-----*****-----

4.. เรื่องที่ 4  นักการเมืองไทยวันนี้ ทำท่าจะเป็นคนร้ายก่อปัญหาให้ชาติบ้านเมืองเสียเอง

นักการเมืองไทย-โลก-จักรวาล

นักการเมืองไทยวันนี้ ทำท่าจะเป็นคนร้ายก่อปัญหาให้ชาติบ้านเมืองเสียเอง คำว่า ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์ ถามหน่อย มีมาตั้งแต่เมื่อไร?  คำตอบ  มีมาตั้งแต่มีธงชาติไทยสามสี โบกพลิ้ว เหนือแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วมาแล้ว

ชาติ  คือสีแดง   ศาสนาสีขาว  พระมหากษัตริย์คือสีน้ำเงิน  คนไทย  นักการเมืองไทยต้องดำรงสติให้ชอบ  ให้รู้ตลอดเวลา ตลอดที่ใจรู้จักคิดอยู่  ให้รู้ถึงความรักแผ่นดิน นั้น หมายถึง  รักชาติ  รักศาสนา  รักพระมหากษัตริย์

ที่มีปัญหาขึ้นมาบ้าง ที่เกิดจากพวกม็อบขยะหัวหน้าม็อบขยะและเจ้านายเขาที่อยู่เบื้องหลัง  พาคนชูสามนิ้ว ที่บอกเป้าหมายการทำลายสามสถาบันนั้นเอง เป็นการ พยายามทำอะไรที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง  ที่คิดจะล้มล้าง  ทำลายสามสถาบันของชาติไทยนี้   ซึ่งไม่คิดว่าจะทำไปได้อย่างไรเสียเวลาของชีวิตไปเปล่าๆ

และดูเหมือนสถาบันที่ 2 ศาสนา เริ่มจะมีปัญหาขึ้นมา

เพราะความไม่เข้าใจคำว่าศาสนา นั้นเอง

ทำไมศาสนาพุทธเราจึงสมควรเป็นศาสนาประจำชาติ นั้น  เป็นเรื่องเกินกว่าความหมายทางการเมือง แต่เป็นเรื่องสัจธรรมของชีวิต  เรื่องผลประโยชน์อันล้ำเลิศของชีวิตทุกชีวิตที่จะได้จากศาสนาพุทธ ของพระพุทธเจ้าของเรา  เป็นเรื่องที่เหนือศาสนาอื่นใดในโลกนี้  เพียงเรามองแบบนักวิทยาศาสตร์ใหญ่  อัลเบิร์ต ไอสไตน์  ให้เข้าใจได้แบบเขา  ก็จะหายสงสัยไปเองว่า ทำไม ?

ดูภาพของอัลเบิร์ต ไอสไตน์ เขาพูดว่าเป็นศาสนาจักรวาล  เขาพูดคำว่า พระพุทธศาสนา ซึ่งหมายความว่า  มีคนอยู่ในโลกใดใดในจักรวาลทั้งหลายคนเหล่านั้นก็จะไม่เสียชาติเกิดมาเป็นมนุษย์  ก็ด้วยการได้พบพระพุทธศาสนานั้นเอง ก็เอาอย่าง อัลเบิร์ต ไอสไตน์ แล้วจะเสียหายตรงไหน ?

ผู้นำโลกในอังกฤษ ในคานาดา  ที่ออกหนังสือเชิญชวนคนทั้งโลกให้บูชาวันวิสาขบูชา นั้น แสดงถึงความคิดใหม่ ในเรื่องศาสนาของมนุษย์  แม้อเมริกาเอง  มหาอำนาจ ที่น่าจะได้คิดกันแล้วว่าได้กระทำความผิดและความบาปมาอย่างยิ่งใหญ่ ในยุคโงดินห์เดียมในเวียดนาม  ก็ได้มองเห็นความผิดแล้ว  และน่าจะได้มองไกลไปกว่าเดิม

แต่....อย่ามองผิดไปในประเทศจีนคอมมิวนิสต์  เขาไม่ได้ล้มล้างศาสนา แต่ ชำระสะสางศาสนาแบบผ่าตัดเอาเนื้องอกอันตรายออกมาเสีย  ก่อนจะปลูกฝังสัจธรรมที่แท้จริงลงไปใหม่  นั้นคือ จีน มหาอำนาจละ   มหาปัญญา กำลังจะตามมาแล้ว และไทย ก็น่าจะมีความคิดตรงนี้อยู่ เรื่อง  เนื้องอกในศาสนานั้นเอง ซึ่งนักการเมืองไทยจะต้องเข้าใจ

ไม่งั้น   นักการเมืองเองจะกลายเป็นตัวการสร้างปัญหาแก่ประเทศชาติแก่สามสถาบันเสียเอง  อย่างที่ไร้สติสตังกันอยู่ขณะนี้เลย

น่าหนักน่าเหนื่อยแก่ประชาชนไทยอีกแล้ว

-----*****-----

5.. .เรื่องที่ 5  คาร์ม็อบเถื่อน

มาตามข่าวกันหน่อย  มียูทูบ Utube News Releases ,21ก.ค.2021 หน้าตาที่โผล่ออกมาพูดดูบิด ๆเบี้ยวๆชื่อนายอะไรนี่แหละ เห็นหลายครั้งแล้วไม่เห็นบอกชื่อ,

ออกข่าวไล่ประยุทธแบบไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้ พูดถึงสังคมไทยแบบไม่รู้ว่าสังคมไทยเป็นการเมืองแบบไหนกันแน่  นี่ไม่รู้เรื่องเลยรู้อย่างเดียวคือความเลวของตนเองที่มีแต่ความโกรธแค้น พยาบาท อาฆาต และจองเวร(เพราะแกพูดไปตามความเลวของแก) ไม่มีข้อมูลที่บอกถึงเหตุและผล  ที่บอกถึงการเป็นกลางทางวิชาการเลย    วันนี้เขารายงานเรื่องจะมีม็อบคาร์ท่วมประเทศไทย...ซึ่งก็วันนี้เองที่เริ่มออกมาแล้ว 1 ส.ค.2564 10.00 น......

และก็ได้พบคน ๆ หนึ่งเขาว่าออกจากคุกมาพอดี   อ้าว! ก็พอดีสิมาแทนอีกคน ที่เพิ่งเข้าคุกไปพอดี  ก็จตุพร พรมพันธ์ ที่เพิ่งเข้าคุกไป  แล้วคนที่ออกจากคุกมาแทนก็เดินเรื่องต่อ เรื่องเดินเท้าไล่พลเอกประยุทธไปไม่หยุดทุกวัน(ก็แบบจตุพร ซึ่งตร.เขาก็คิดวันติดคุกบวกไปทุกวันเหมือนกัน)โง่จัง! ..เขาไปอ้างเสื้อแดงยุคนู้น และปลุกระดมเสื้อแดงออกมาอีกครั้งหนึ่ง  นั่นคือ  ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  เขาเปิดเวทีแล้ว ....ด้วยน้ำเสียงฉกาจฉกรรจ์แบบที่เคยนำมวลชนไปปิดล้อมทำเนียบคราวนั้น ...แต่ก็ดูเหมือนคนโง่ไม่รู้เรื่องอะไร 

สู้ป่าเทพ โพธิงามไม่ได้เลย เทียบกันไม่ติดในเรื่องความรู้สังคมความรู้การเมืองไทยนี่แหละ  แม้เรื่องโควิดที่เทพโพธิ์งามเขาห่วงแสนห่วง ..แต่ณัฐวุฒิ นี่ไม่รู้เรื่องเลย ....แบบนี้น่ากลัวติดโควิดตายในวันสองวันนี้นะ  เพราะแวดล้อมด้วยคนมาชุมนุมนี่ แกเองไม่ยอมสวมหน้ากากเลย เปิดหน้าพูดพ่นโควิดออกไปไม่หยุด ....เป็นเชิงแสดงความกล้าหาญของตนขนาดโควิดก็ไม่กลัว อะไรประมาณนั้นไม่คิดว่าโควิดมันชอบติดโรคแล้วจะไปด่ารัฐบาลเขาได้อย่างไร เพราะเราโง่เอง...  

แต่สำหรับณัฐวุฒินี้อาจจะเข้าใจผิดไปก็ได้ ที่วันนี้ยังยกตนเป็นผู้นำเสื้อแดง สวมชุดแดงทั้งตัว  เสื้อแดงจริง ๆ ยุคนั้นเขาปรารถนาประชาธิปไตยเขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแบบว่ามาชุมนุมตามกำหนด  มานับหมื่นบอกว่า 2ทุ่มจบเลิก เขาก็ทำตามสัญญา พอถึง 2 ทุ่มหายเกลี้ยงไปเลย  นั้นแหละธรรมะประชาธิปไตย ต้องมี   

แต่ยุคนี้ที่ตามจตุพร-ณัฐวุฒิมานี่ ไม่รู้จักประชาธิปไตยคืออะไร พอ ๆ กับพวกสามนิ้ว ที่เดิมยังดูสง่างามอยู่  แต่วันนี้คนทั้งประเทศทั้งโลกก็ว่าได้เขาเปลี่ยนชื่อว่าสามกีบไปแล้ว  คือพวกโง่จริง ๆ (สามกีบตีนของกระบือ)ว่าตนต่อสู่เพื่อประชาธิปไตยแต่ ไม่รู้จักประชาธิปไตยเลย 

คือคิดว่าด่าใครก็ได้ เดินขวนไปไล่ใครก็ได้ นี่แหละเสรีภาพ  หรือประชาธิปไตย ถึงสมกับชื่อ สามกีบควายโง่จริง ๆ  เป็นประวัติศาสตร์ชาติแห่งความโง่ในอนาคตเลยจริง ๆ  ก็หลักสำคัญเบื้องต้นก็มีว่าทุกคนเป็นเสรีชน มีอิสระภาพจะทำอะไรก็ได้ เพียงแต่ทุกคนต้องระวังการละเมิดสิทธิของคนอื่น การจะทำอะไรไปเกี่ยวกับคนอื่นตามใจเรานั้น ต้องไม่ให้ทำร้ายคนอื่น ทั้งกายกรรม วจีกรรม  มโนกรรม  นั้นแหละประชาธิปไตย  ซึ่งตามนี้ คุณจะใช้สิทธิทำอะไร  ต้องมองว่าไปละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือไม่ หากไปละเมิดสิทธิของคนอื่น นั้นแหละทำให้คนอื่นเดือดร้อน  ความเป็นเสรีชนของเขาถูกทำร้าย  และกฎหมายเขาคุ้มครอง เอาเรื่องให้ผู้ถูกละเมิดสิทธิ

เช่นคุณมีปากนี้  มีปากกานี่คุณจะไปออกปากด่าคนอื่นได้อย่างไร?  โดยเฉพาะด่าว่าด้วยคำหยาบคาย โกหกพกลม พูดจาส่อเสียดเพ้อเจ้อไร้เหตุผล ทำให้คนสองฝ่ายเกลียดชังกันเป็นต้น  คิดก่อนหรือเปล่าว่ามันละเมิดสิทธิคนอื่น  ที่เขาก็มีเท่ากับเราก็เลยถูกจับไปยังไงล่ะนั่นแหละความเป็นธรรมตามประชาธิปไตย  ตามหลักสิทธิมนุษยชน หรืความเป็นธรรมของมนุษย์คนหนึ่งนั่นเอง ที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนคนอื่น ละ  เข้าใจไหมนี่ ?   

ก็พอดีมีเทพ โพธิงามท่านอธิบายได้ดีเรื่องประชาธิปไตย ไปฟังท่านหน่อยสิ  นั้นแหละคนประชาธิปไตยแบบเสรีชนจริง ๆ เน้นเสรีชน ที่ไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น   อย่าไปมองว่าเขาเป็นตลก มีความรู้แค่ป.4 อะไรประมาณนั้น ก็เดิมเขาไม่ยอมรับคนเก่ง (ระบบทาสเดิม) เขาจึงให้เป็นประชาธิปไตย ที่ทุกคนเป็นเสรีชน เก่งเองก็ได้ด้วยตนเองนั้นเอง เข้าใจประชาธิปไตยเสีย...ก็มาจบลงก่อนเรื่องที่นายณัฐวุฒิกำลังเปิดเวทีแสดงตนเฉลียวฉลาดเหนือคนอื่นนั่นแหละ แท้จริงเป็นคนโง่เราดีๆ นี่เองเพราะตอบคำถามไม่ได้ว่าตนเดินขบวนไปทำไม ? ....

ก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว   มีการเลือกตั้งแล้วเพียงแต่เราสืบสานเดินไปตามทางนี้ อย่าแหวกออกไป  ค่อยปรับปรุงไป  เช่นรัฐธรรมนูญก็ค่อยแก้ไป  อย่าไปทำปุ๊บปั๊บ หากยังไม่แก้ ก็ รธน.2560 นี่แหละพาเข้าทางประชาธิปไตยไปหลาย % แล้วค่อยแก้ไปภายหลังก็ได้   หากคุณต้องการไล่ประยุทธออก ประชาธิปไตยก็มีทางง่ายๆ  รอเพียงการเลือกตั้งคราวหน้า  อีก 1 ปี 7 เดือนข้างหน้า(ก็รายการอัญชลีเขาคำนวณไว้ อีก 1 ปี 7 เดือนทำไมไม่รอ) ก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว  ....นั่นคือ  การฟังเสียงคนทั้งประเทศไง  เข้าใจไหมไม่ใช่มารวมกันกระจิ๊บเดียวม็อบขยะด้วยซ้ำแล้วว่าตนเป็นฝ่ายประชาชน  แบบที่เขาได้เป็นผู้ครองอำนาจการเมืองวันนี้   ก็มาจากการเลือกตั้ง แล้วคุณจะเอาอย่างไร?  ....แต่ที่คุณคิดนี้คิดโง่ ๆ ไง  แล้วจะนำประเทศไปไหน นั่นเห็นอยู่แล้วว่าเข้าป่าเข้าดงไปเลย........

คุณจะเอาทักษิณมาได้ยังไงไม่รู้จักคิด.....ทักษิณไม่ใช่คนไทย สองพี่น้องโอนสัญชาติเป็นคนต่างประเทศไปแล้ว คุณจะเอาอธิปไตยของชาติไทยที่บรมกษัตริย์มหาราช+วีรชนผู้กล้าหาญ อย่างวีรกรรมนเรศวรมหาราช  ตากสินมหาราช  วีรกรรมอย่างบางระจัน ท้าวสุรนารี  หรือ วีรกรรมอื่น ๆ ล้วนยิ่งใหญ่   แม้การที่ผ่านสงครามโลกแบบชนะสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งมามีประเทศไหนทำได้อย่างไทยบ้าง  ไม่แพ้เหมือนญี่ปุ่น เยอรมัน  นั้นเพราะอะไร ?  และยังทรงพลังสามารถรักษาประเทศเป็นเอกราชชาติเดียวในโลกในยุคอาณานิคม  เสียประเทศราชไปหมด ลาว เขมร มาเลย์ สิงคโปร์ แต่เอาตัวรอดได้ ที่ไม่เป็นอาณานิคมใครเลย เป็นประเทศเดียวในเอเซีย  ในโลกก็ว่าได้ 

นี่ไงศักดิ์ศรีในประวัติศาสตร์ 

แล้วทักษิณ เป็นใครยิ่งลักษณ์ เป็นใคร?  เขาไม่ใช่คนไทยแล้ว   และไอ้คนนี้มันก็คิดเป็นเรื่องเงินอย่างเดียว  หมายถึงนายทักษิณนี้มันคิดเรื่องเงินเป็นอย่างเดียวเท่านั้นเอง มันจ่ายไปวันนี้ก็เพื่อเอาคืนตอนมันได้เป็นใหญ่  แบบตลบแตลงคนไทยทั้งชาติ แบบที่เคยทำมานั้นเอง   เออ!  เอาสิ !  หลอกเอาเงินมันมาให้หมด  จะเห็นดีด้วย   แต่คิดถึงชาติไทยเราในรูปรวมให้พ้นวิบัติภัยไปด้วยกัน  นั้นจะตรงประเด็นกว่า   แค่ตอนนี้ก็หลอกเอาเงินเศรษฐีมาใช้ให้หมดแบบว่าหลอกเอาเงินเขาเท่านั้นเองใช่ว่าจะทรยศต่อประเทศไทยจริงๆ   

แล้วก็คนไทยพวกสามกีบ พวกทาสเงินทักษิณ  ไม่รู้จักพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชาดีพอ  ที่ไม่รู้ก็คือ  เรื่องที่นายบก.ลายจุด...ชื่ออะไรจำไม่ได้เสียแล้ว  เป็นชื่อเล็กๆ ชื่อสวะๆ  เท่านั้นเอง คิดจะทำอลเวงไปทั่วประเทศโดยม็อบยานยนตร์นั้น ทำไปเลย  ทำแรงๆ   ให้ประเทศหวั่นไหวไปเลย  ไม่มีใครแก้สถานการณ์ได้หรอก  ถ้าคุณไล่ประยุทธไป  ทักษิณเข้ามาแบบนี้แบบที่ว่ามานี้  คนไทยเขาก็จะออกมาไล่ทักษิณต่อ  ประเทศเราไม่ต้องทำอะไรกันละ   ตายไปเพราะโควิดและตายเพราะสงครามรบกันกลางเมืองไปเองคงหมดประเทศพอดี  

แต่   พล.อ.ประยุทธ  และกองทัพไทย  และทั้งรัฐบาลเอง กองกำลังรักษาความมั่นคงภายในคือตำรวจของชาติไง และประชาชนไทยทั้งประเทศ จะยอมให้เกิดเช่นนั้นไม่ได้ไม่ยอมให้เกิดสงครามกลางเมือง

และจะไม่เกิด   เหตุผลก็คือ   เมื่อมีคนชื่อพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา  เรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้คุณไม่รู้ในความคิดของเขา  สงคราม  การรบ เป็นความถนัดที่สุดของคนๆนี้  เอาเลยบก.ลายจุด นายโง่ ๆ  อะไรที่ไม่รู้จักประชาธิปไตยเลย นั้นทำไปเลย  น่าเอาเงินไปซื้อกองกำลังไร้สัญชาติแทรกเข้ามานะ  เอาเลย จะได้เป็นการรบล้างผลาญฝ่ายชั่วไปเสียอย่างเกลี้ยงแผ่นดินเสียที ก็จะเห็นไงว่าประยุทธเขายังเฉยเมยไม่สนใจเท่าไร เขาว่ามันยังเล็กน้อยอยู่ ให้ถึงระดับสงครามโลกเขาก็เอาชนะได้ นั้นความคิดของเขา 

และนั้นแหละคนที่มองออกคือ เทพ โพธิ์งามนั้นเอง  ฉะนั้นขอแนะนำม็อบขยะกองใหม่สวะไร้ค่า สวะสกปรก  เลิกคิดเสีย โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร ก็แค่1ปี 7 เดือน ก็มีการเลือกตั้งใหม่  ประชาธิปไตยก็ไล่กันแบบนี้ไล่โดยเสียงประชาชน จากการเลือกตั้ง  แบบสันติ   คุณก็แค่ทำงานการหาเสียงเอาผลงานดี ๆ ไปอวดประชาชนเขาจะได้เลือกคุณเข้าไปมาก ๆ  คุณได้สส.เยอะกว่าคุณก็ได้เป็น รัฐบาล  นั่นแหละประชาธิปไตย  และระบบมันต้องเดินไปแบบนี้ เดินผิดไปจากนี้ก็ทำลายประชาธิปไตย  

แต่นั่นแหละ  อย่างทักษิณนี่รู้อยู่แล้วว่าแพ้   แต่ไร้น้ำจิตน้ำใจไร้คุณธรรมที่ยอมรับเสียงส่วนมากของประชาชน จึงไม่คิดไปแบบสันติ ตามแนวทางประชาธิปไตย แบบที่มีโอกาสธรรมดา ๆ ที่เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว คือรอการเลือกตั้งคราวหน้าเท่านั้น   หากแพ้   ก็ปรับตัวทำความดีต่อไป   แบบที่ยกตัวอย่างนรม.อังกฤษคนนั้นโทนี แบล  พรรคกรรมกรอังกฤษ  เขาแพ้แล้วแพ้อีกถึง3 สมัย 16 ปีกว่า ๆ จึงเอาชนะพรรคอนุรักษ์นิยมได้....เขายังไม่คิดแบบนายทักษิณคิดเลย นั้นก็เพราะคนเป็นประชาธิปไตยไม่เท่ากันนั้นเอง เทียบกันไม่ได้ระหว่างวีรบุษอังกฤษโทนี่ แบล  กับ นายทักษิณ ชิวัตร

ที่เล่ามานี้ก็เพราะมันเละเทะแบบโง่ ๆ มานานแล้ว ขนาดที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาทั้งพี่ทั้งน้อง  ยังไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย และยังเลยไปคิดแบบที่เป็นการกบฎต่อประชาธิปไตย  คิดการเอาทุนคืนจากประเทศชาติโทษถึงระดับประหารชีวิตไปนู้นคือ คิดก่อม็อบวันนี้ มุ่งหมายระดมมวลชนมาท่วมประเทศทุกจังหวัดให้ได้ แบบที่คนไทยลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลประยุทธ  ไล่ประยุทธออกไป  รัฐบาลเคลื่อนไหวไม่ได้เลยนั้นแหละทางที่จะเอาชนะประกาศตนครองแผ่นดินแทนประยุทธ จันทร์โอชา ได้ ก็จะสามารถจัดรัฐบาลปฏิวัติโดยประชาชน ตั้งอำนาจบริหารขึ้นได้

ฉะนั้นวันนี้เราจึงเห็นทักษิณ ชินวัตร  มหาเศรษฐีโลก ลงทุนอย่างหมดเนื้อหมดตัวไปเลย  เพื่อไล่รัฐบาลประยุทธและล้มล้างสถาบันให้จงได้  นั้นแหละคือทางที่ทักษิณจะได้กลับมาเป็นใหญ่วันนี้ได้ดั่งใจละ  ล้มล้างสถาบัน  เพื่อตนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐไทย นั้นเอง..มีวิธีนี้วิธีเดียว... นั้น 

แต่...หยุดเถอะ  คุณทำไม่สำเร็จหรอก...ให้มีการเลือกตั้งคราวหน้าถึงแพ้ ก็ไม่เห็นเป็นไร     หากคุณเข้าใจประชาธิปไตย ซาบซึ้งในระบอบประชาธิปไตยแล้ว  ไม่มีใครแพ้ ในระบอบนี้เลย   มีแต่ผู้ชนะพร้อมกันไปหมด.....พยายามทำความเข้าใจตรงนี้ให้ได้  ไม่มีใครแพ้ในระบอบประชาธิปไตย มีแต่ผู้ชนะพร้อมกันหมด  นั้นแหละมีความสุขกันทุกพรรคการเมืองทุกนักการเมือง ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ มีความสุขกันเสียทีด้วยความเข้าใจจริงๆเรื่องประชาธิปไตย ....ฉะนั้น หยุด ๆๆๆๆๆ ก็แก่แล้วหน้าตาก็เหี่ยวย่นไปหมด   เตรียมตัวตายดีกว่า เข้าวัดเข้าวาหน่อย หรือก็อยู่สงบ ๆ  ในต่างประเทศนั้นแหละ ชีวิตเราไม่ยั่งยืนนานนักหรอก  ประเดี๋ยวมัจจุราชก็มาเชิญตัวไป...นี่คือสัจธรรม

@สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุญเสฏฐ์ 1ส.ค.2564 17.10น.

-----*****----- 

ชุดที่ 2 : 5 เรื่อง

6.เรื่องที่ 1. เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทยวันนี้

10 สิงหาคม 2565  เวลา 08:44 น.  

วงการข่าวไทยวันนี้ ที่เห็นบทบาทชัดๆ ก็การโฆษณาชวนเชื่อ มีคลิปอะไรสร้างขึ้นมาเอาเรื่องมาให้คนอ่านมาก ๆ  ด่าแหลก ขนาดเอาลาลิสา แบลคพิ้งค์ คนดีคนดังระดับโลกมาร่วมคิดเลว ๆ กับตนให้คนสนใจ แต่ข้างในด่าแบบคนชั้นต่ำพอ ๆกับสัตว์ตัวหนึ่งเพราะแกด่านายกรัฐมนตรีไทยดังชัดว่าไอ้สัตว์ อย่างแรงจนลาลิสาหันมามองยิ้มตามไป(เขาสร้างภาพแบบนั้นแบบว่าคนดังคนดีอย่างลาลิสา แบลกพิ้งค์เห็นด้วยกับเขา ซึ่งชั่วมาก ๆ น่าจับไปเข้าคุก)

ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายค้าน วันนี้มีตำรวจคนหนึ่ง นายเสรี เตมียาเวช...เดี๋ยวนี้ไปเชื่อหมอดูไปเพิ่มชื่อเป็น  เสรีพิสุทธิ์   ด่าไม่หยุดมาตั้งแต่ไปอยู่ในสภาแล้ว  แปลก !  แทนที่จะคิดแบบ สามัญชนคนเท่ากัน ดีกว่า ถูกต้องกว่า  ที่ทำลายคนอื่นไปน่าอายมากขนาดนั้น ด่าแหลก  ด่าอย่างเดียวมาตั้งแต่มีรัฐบาล ตามรธน.2562 ...มีลักษณะไร้สถาบันไปหมด   ข่าวไทยๆ  ว้อยส์ทีวี - มติชน  พวกเดียวกัน  มีทั้งช่องทีวี และคลิปข่าว ออกท่าทางฝึกหัดแอกชั่นแบบเลวต่ำทราม แม้การแยกเขี้ยวขาวก็ทำแบบหมาแยกเขี้ยวขาวก่อนออกวาทะวาจา หัวเราะเยาะเย้ย ให้เข้าหลักต่ำ ๆ ทราม ๆ คงไปศึกษามาอย่างดี เรื่องจะออกแอคชั่นอย่างไร ทำไม...ยังหนุ่มอยู่ฝึกหัดทำเลวเสียเวลาของชีวิตไปเปล่า ๆ ?

มีพรรคพวกในต่างประเทศด่ามาจากต่างประเทศ(นายอะไร...เคยเป็นศาสตราจารย์มธ. ที่ไปเข้าแถวขอข้าวเขากินทุกวัน ๆ แบบไร้ศักดิ์ศรีพอฆ่าตัวตายไปเสียเลยจะดีกว่าเสียชื่อคนไทย เสียชื่อสถาบันการศึกษาไทย  แกเคยเป็นอาจารย์นะ สอน นศ.มธ.นู้น แบบคนอนาถาในฝรั่งเศส หรืออเมริกานี่แหละ)แต่ออกข่าวมาทำลาย ด้อยค่าสถาบันมานานและยังอยู่ยังไปเรื่อยๆ ขนาดว่าเลวอย่างไรด่าไปหมด  ค้นมาเป็นเรื่องๆ ของสถาบันในอดีต ปัจจุบัน อนาคนเอามาหมด  ประสานงานกัน  และมีคนต่างประเทศด้วย 

ประสาน ทั้งสั่งการโดยตรงก็มี ระดับพรรคการเมืองก็ฝ่ายค้านโดยตรง...พรรคเพื่อไทย นั้นเอง   ใช้การข่าวทั้งในและนอกสภาเลย  เอาการข่าวไปเสริมการเมืองของตน แบบไม่รู้หน้าที่การเมืองประเทศเอกราชประชาธิปไตยเลย...ไม่ได้มีความคิดรักศักดิ์ศรีความเป็นคนเลย...

วันนี้...สถานการณ์มันบอกว่า  การมีรัฐสภาพลเรือนปกครองนั้น มันไร้สติกันจริงๆ ว่าบทบาทที่ทำอยู่ มันไม่เสริมสร้างความเป็นสถาบันไม่มีความทรหดอดทนพอเลยไร้อุดมการณ์ประชาธิปไตยรับใช้ประชาชนไปสุด ๆ  สส.ฝ่ายค้าน มีแต่ฝึกหัดการพูดด่าอย่างไร พลิกแพลงเล่ห์กลการใช้ลมลิ้นอย่างไร  ไปไกลมาก อย่างสส.กทม.พรรคเพื่อไทยหญิงคนหนึ่งชื่อนางสาวอะไรนี่แหละ  ออกท่าทาง  ฝึกหัดด่าจนเก่ง 

หากแต่โง่เขลาในหลักรัฐศาสตร์และกฎหมาย ไปหมด  ทำให้หูเบา  ไม่เหมาะที่จะอยู่ในรัฐสภาไทย  ไม่ใช่เก่งทางด่าเขา เอาเก่งจริง ๆ   ไม่ใช่นายอะไร ที่ได้เป็นผู้ว่ากทม.น่ะ  ฝนตกมาท่วมแกจะแก้ตัวอย่างไร ตอนหาเสียง ว่าจะไม่มีน้ำท่วม กทม.อีก  ไม่มีอะไรเลวร้าย  คนจนก็ไม่มี   คือ  หาเสียงดี ๆ หลอกคนไปทุกอย่าง  แต่เป็นเพียงหลอกคนโง่ แบบที่นายทักษิณเคยออกปากมาว่า หากได้เป็นรัฐบาล 6เดือนแก้ปัญหาคนจนในประเทศไทยได้หมด....ก็คนที่เชื่อคือ พวกเพื่อไทยโง่ ๆ นั้นเอง เหมือนที่เชื่อนายชัชชาติ นี่เองเลย  แบบที่เป็นอยู่ทางการข่าวที่พูดอยู่ขณะนี้เองเลย .... หน.พรรคฝ่ายค้าน นายชลน่านศรีแก้วนี่ ช่างไร้ศักดิ์ศรี แกป็นเพียงคนรับใช้คนต่างประเทศ นี่ผิดอยู่แล้ว ระดับกบฏ....

มีการยกพวกกันตีกันกลางสภาเมื่อไร  เมื่อนั้นแหละ คนทั้งหลายจะไม่ยอมรับสภาประชาชนอีกแล้ว...ภาพวันนี้ เหมือนกลุ่มนักเลงอันธพาล มาพบปะพูดคุยก็คุยแบบอันธพาล ....ขนาดการจะเข้าประชุมสภา  ไม่ครบองค์ประชุม  ครบองค์ประชุม   ก็เอามาต่อสู้กันหาเรื่องมาตั้งแต่วันประชุมสภาวันแรก แล้วไม่ให้เขารัฐบาลทำงานช่วยประชาชนกลัวรัฐบาลได้ผลงานเหนือกว่าตน อะไรจะขนาดนี้ ?  หาเหตุหาผลไม่ได้ ไม่รู้หน้าที่ของตนเลย ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่พอที่จะปกครองคนทั้งประเทศ มันสะท้อน สส.ไทยฝ่ายค้านยังไม่เป็นเสรีชนที่แท้จริงไม่มีการเคารพสิทธิเสรีภาพของคนอื่นเลย แบบคนอเมริกันประชาธิปไตยเขา  ห่างไกลกันมาก   ก็ไปแบบคอมมิวนิสต์ ก็น่าจะดีกว่า  แบบลาว แบบเวียดนาม  เอาจีนเป็นแม่แบบ  ก็น่าจะดีกว่า  ...

และนั่นแหละ  พวกนี้ไม่รู้จักคิดเลยแม้เรื่องง่าย ๆ เรื่องการทำมาหากิน ยุคโควิด19มันยากลำบากเพียงไหน เรื่องของตนเองนั่นแหละไม่รู้จักคิด  หากมีเหตุร้ายขึ้นในสภา  ก็คงมีรัฐประหารอีกครั้ง  แล้วพวก สส.สว.ก็คงตกงานไปตาม ๆ กัน  จะหาเงินไหนให้ลูกให้เมียใช่  ยังไม่รู้จักคิดเลย  ตอนนั้นก็จะกลายเป็นคนตกงาน คน500 ตกงาน  กลายเป็นปัญหาให้รัฐบาลเขาอีก มีงานทำดี ๆ อยู่แล้ว เงินเดือน-รายได้ก็ร่วมแสนไปถึง ล้านบาท  ไปด่าเจ้านายเขาทำไมไม่รู้คิด  เขาก็ไล่ออก  ก็เท่านั้นเอง  แหละคงคิดถึงเงินคนแก่  มีเงินคนพิการ  ที่รัฐบาลประยุทธเขาจัดให้ไว้คนละ แค่ 600-700-800บาทก็มือสั่นรับเอาอย่างยินดีมากแล้ว ..

ก็จะไปทำอะไรกิน  มีหน้าที่ให้ทำ แต่ไม่ทำหน้าที่ ไม่คิดถึงเงินของประชาชน ก็เลยจบลงน่าอับอายสมน้ำหน้าจริง ๆ ......นอนรอความแก่ ความตายไปอย่างเดียวสมน้ำหน้าจริง ๆ   และมาสู่ความคิดกันไปเลย  ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ก็ปกครองไปได้ดีกว่าอีก .....นี่เป็นเพียงความคิดนะครับจริง ๆ เราต้องเป็นประชาธิปไตยต่อไป ยืนยัน

@สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณ ณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 10 ส.ค.2565 08.00น.

-----*****-----

7.เรื่องที่ 2.  เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทย ต่ออีกสักวัน

เขาว่า การข่าวโซเชียลไทยเป็นอันดับ8ของโลก วงการข่าวนี่แหละอ้างบีบีซีหรืออะไรนี่แหละ  นี่เป็นเรื่องที่ดีทีเดียวหากมองว่าดีในการทันเทกโนโลยี่โลกของไทย  แต่ที่ไม่ดีคือ ส่วนที่เขาเอาเครื่องมือนี้มาใช้ทำอะไร.... และแน่ละ มีแต่เอามาด่า ด่า ด่า และด่า คนที่เขาไม่ชอบ โดยเป็นเรื่องที่บอกถึงความตกต่ำของวงการวารสารศาสตร์ วงการสื่อมวลชนโดยตรง ที่บอกถึงการศึกษาในด้านนี้ มีสาระเพียงเรื่องเลวทรามเรื่องจะด่าคนอย่างไรให้ถูกใจคนทั้งโลก .... 

แท้จริงมีหลักสูตรการด่า   อย่างที่มีการไปเรียนมาจากต่างประเทศและด่าเป็นระบบจนได้เป็นใหญ่เป็นโตก็มี    แต่ที่อยากจะพูดวันนี้ อยากให้เข้าใจคน ๆ ในสังคมมีหลายแบบ พวกทหารเขามักจะพูดไม่เก่ง เหมือนพวกอาชีพใช้ปาก ใช้ปากกา ใช้เพียงคำพูด

ฉะนั้นพวกนักข่าววันนี้ นักพูดวันนี้มีปากดีมาก แกสัมผัสอะไรนิด ๆ หน่อย แกออกปากหมดเลย  ประชาชนก็จะไม่เข้าใจจึงอยากบอกว่า  พวกใช้ปาก พวกข่าววงการข่าววันนี้ ก็เหมือนหมานั้นเอง เห่าเก่งแบบหมา หมาบ้านหมาวัด เหมือนกันหมด  ..... เราอย่าไปเชื่อเขามาก  อย่างทีวีบางช่อง ลูกน้องเขา เอาปากไปรับจ้างเขา นี้มีหลายช่อง  แกก็เห่าแบบหมานี่แหละ(ต้องขออภัยนะ เพียงการเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย) เพื่อไปสู่ข้อสรุปว่า  พวกนี้อย่าเพิ่งไปเชื่อ การข่าววันนี้ตกต่ำจนถึงขั้นอย่าเพิ่งเชื่อ  ....

แล้วพวกมีปากนี้ก็เลยเข้าไปนู้น  สภาผู้แทนราษฎร ไปเลย ....คนของประชาชน ก็ทำให้สภาผู้แทนราษฎรตกต่ำ  ไร้ศักดิ์ศรี  และครั้นเปรียบเทียบไป  พวกทหารเขา ๆ ไม่ได้ฝึกมาทางการพูด เขาก็พูดไม่ค่อยเก่งเหมือนพวก สส.  ....เหมือนหมา(พวกสส.)   กับสิงโต  นี่แหละ  

กลัวประชาชนจะไปฟังเสียงหมา มากกว่าดูผลงาน ดูเหตุผลตามหลักการปกครองหลักการบริหารที่แท้จริง  และ พวกปากหมาในสภาผู้แทนราษฎร นั้น  ไม่เข้าใจว่าตนทำความเสื่อมเสียอย่างไรแก่สภาผู้แทนราษฎร....ก็เอาแต่ด่า  พรรคฝ่ายค้านไทยวันนี้ ไม่เคยคิดถึงฝ่ายที่เขาเอาเรื่องราวในสภาไปปฏิบัติ คือรัฐบาลฝ่ายปฏิบัติฝ่ายบริหารนั้น ว่ามันแสนยากเพียงไหนยิ่งในสภาแบบนี้ยิ่งสุดที่จะกล่าวว่าไม่เข้าใจกันจริง ๆ เรื่องประชาธิปไตย   ที่แท้จริงแล้ว  รัฐสภานั้นต้องปกครองประเทศร่วมกัน กับฝ่ายบริหาร ฝ่ายรัฐบาล ต้องให้กำลังใจกัน นั้นต่างหาก  แต่ฝ่ายค้าน ทำไมไม่คิดเรื่องหน้าที่ที่ตนก็ต้องปกครองประเทศไปพร้อมกับฝ่ายรัฐบาลเลย  เพราะอะไร?  

มันทำผิดหลักการประชาธิปไตยไปหมด  เขาไม่ได้แปลว่า  ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลเป็นศัตรูกัน  ประชาธิปไตยไม่ได้แปลอย่างนั้นเลย  แต่แปลว่าให้การปกครองประเทศไม่มีศัตรู  ให้การบริหารงานส่งผลนโยบายเข้มแข็ง มีแรงงานช่วยกันว่องไวขึ้นแก้ไขสถานการณ์เร็วขึ้นร่วมกันหมด ประชาชนที่เป็นเจ้านายได้ประโยชน์แรงเร็วขึ้น ไม่สับสนใครเป็นใคร    แต่ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่พรรคก้าวไกลแปลผิดมาตลอด  แล้วยังอ้างว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยไปอีก อ้างฝ่ายรัฐบาลทหารที่มาตามรัฐธรรมนูญเป็นเผด็จการโกงบ้านโกงเมืองไปนู้น โง่จริง ๆ !! แล้วไปทำตามคำสั่งคนต่างประเทศ.

ความจริง...นายทักษิณชินวัตร นี่  เคยเป็นทหารตำรวจก็จริง  แต่ไม่มีบุคคลิก เขาถอดยศออกไปก็สมควรแล้ว ทำเขาเสียสถาบัน ฐานไม่มีนิสัยทหารหาญ ไม่เข้าใจประชาธิปไตย  หาเงินแบบโกงกินประเทศชาติจนเป็นคดีไปหลายคดี ต้องหลบหนีไปอยู่ มอนเตเนโกร แล้วรู้หรือเปล่า คนไทยรู้หรือเปล่าว่า  ประเทศนั้นกำลังพิจารณานายทักษิณนี้อยู่  ฐานเอาสัญชาติมอนเตเนโกรประเทศเขาไปรุกรานประเทศอื่น ทำผิดอธิปไตยของชาติเอกราช จะไปคิดเปลี่ยนประเทศเขาเป็นสาธารณรัฐล้มสถาบันกษัตริย์เขา นั้นเป็นเรื่องใหญ่โตระดับโลกที่ยูโนจะต้องพิจารณา เป็นโทษที่ประเทศเอกราชทั้งโลกต้องตำหนิ และเป็นความผิดระดับโทษประหารชีวิตอยู่แล้ว มอนเตเนโกรเป็นประเทศด้อยพัฒนาก็จริงแต่เขาเอาจริงแน่ 

และเรื่องเช่นนี้ ก็มาเกี่ยวไปถึงตำรวจอีกคนหนึ่ง  นายเสรีพิสุต เตมียาเวทย์ หัวหน้าพรรคเล็ก ๆพรรคหนึ่ง  นั้นอีกคน  ...ไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย.....ก็เลยเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในสภามาตลอดไงครับ คนอะไร มีแต่ด่าด้อยค่าคนอื่นสถานเดียวทั้ง ๆ ที่เคยร่วมสถาบันการศึกษามาด้วยกัน   มาทำความเสื่อมแด่สภาลงไปอีก .....และสภาแบบนี้ มันลดค่า  ลดราคา สภาผู้แทนราษฎรลงไปเรื่อย ๆ ในเรื่องทางปาก แบบหมาวัด  จนกระทั่งวันหนึ่ง คนไทยก็จะมาสรุปกันเองว่า สภาผู้แทนราษฎรมีประโชน์อะไร  เงินที่จ้างมาก็หลายร้อยหลายพันล้านบาท  ....ไม่ต้องมีสภาอย่างนี้ดีกว่า

และขนาดที่สงครามโลกกำลังจะเกิด ก็ยังมีพรรค สส.ฝ่ายค้านต่อต้านเรื่องอาวุธ ไม่ให้มีในกองทัพไปอีกก็มี  เช่นนาย  สส.มหาสารคามแกต่อต้านเรือดำน้ำมาตลอดเลย  มาวันนี้ต่อต้านเครื่องบินรบ เอฟ 35 อีก และเตรียมหยุดกองทัพไทยลงด้วยเหตุผลง่ายๆโง่ๆ ว่าเอาเงินมาช่วยประชาชนอดหยากดีกว่า (คือแกไม่นึกเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของประเทศเลย...ไม่เข้าใจหลักยุทศาสตรของชาติ ทางบก  ทางเรือ ทางอากาศ อย่างไร เอามาปกครองประเทศไม่ได้คน ๆนี้) นั้นไง   คนก็คิดไปอย่างนี้ ขนาดไร้ศักดิ์ศรี เรื่องของตนเองแท้ ๆ  ตนเป็นใหญ่มีอำนาจเต็มอยู่แท้ ๆ แต่ไม่คิด  ไปคิดให้ กกต.ตัดสินให้  เป็นต้น  ....พอตกงานไม่มีสภา   พวกนี้จะไปหากินอะไร ทำอะไรเป็น  ไม่เป็นเลย  แม้เป็นสส.ก็ทำหน้าที่ไม่เป็น  ทำแบบหมาวัดคือเห่าเป็นเท่านั้น(คือเห่า ๆ ๆ  พอโดนเตะก็ร้องเอ๊งวิ่งหนีไปเท่านั้นเอง)   .....

นี่แหละสิ่งที่ประชาชนไทยจะต้องมีหลักพิจารณาเรื่องปากคนพูดวันนี้ มาถึงระดับที่ว่าอย่าไปให้คะแนนเลย ท่านมาดูคลิปวันนี้ มีหลายประเภทมากเลย มีคลิปสั้นมาใหม่... เอาเป็นเพียงเรื่องตลก สนุก ๆ ไปวัน ๆ ก็พอ   

ไม่ใช่พิจารณาจากปากคน แต่ดูตามผลงานเขา  ดูงานเขา  เราจะขอบอก กทม.มีงานที่น่าสรรเสริญมากก็งานลอกคลองไง  คลองในกรุงเทพ มาเป็นคลองสะอาดไปหมด ใครทำ  ทำได้อย่างไร   มีบ้านเรือนสะอาด ทันสมัยขึ้นข้างคลอง กลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่พักผ่อนหย่อนใจไปอีก  แต่ก่อนนับร้อยปีมั้ง แสนสกปรกจนกระทั่งไหลไปท่วมแม่น้ำเจ้าพระยาไปอีก เป็นวันนี้ได้อย่างไร   เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ จริงๆ   มันหายไปไหนหมด  โล่งไปหมด    แต่เป็นจริงไปแล้ว... ก็น่าแปลก คนที่ทำเขากลับไม่เคยพูดเลยว่าเขาทำ  แต่แน่ละคนไทยมีกตัญญูตามหลักพุทธศาสนา ย่อมรู้จักให้กำลังใจกันบ้าง  อีกอย่างก็ สายไฟ เสาไฟในกรุงเทพ หายไปอีก ...อีกอย่างก็ดูรัฐบาลประยุทธเขารักษาประเทศชาติไว้ได้ ยามโควิด19เรืองอำนาจ ทำลายชีวิตไปร่วมหกสิบล้านศพแล้ว 

ก็ดูลังกาสิ  พังไปหมดแล้ว ดูพม่าสิ   ดูยูเครน  รัสเซีย  ดู อินเดีย  ดูซีเรีย ดูซาอุดีอาระเบียเจ้าทะเลทราย ลงสู้ความยากลำบากขนาดไหน ขนาดประชาชนไหลเข้าไทยกันเยอะเลย  อเมริกาสิ  ตายไปเกือบหมดประเทศแล้ว เขายังไม่ออกมาไล่โจ ไบเดนเลย (เพราะเขาคนอเมริกันเข้าใจประชาธิปไตย รับผิดชอบเป็น  ในฐานะตนต้องพึ่งตนเป็นเสรีชนได้จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ถาวรมั่นคงก้าวหน้าพร้อมกันทุกคนๆ และชนะทุกอย่าง)   นี่แหละที่ประชาชนไทยควรจะระวัง ให้เข้าใจเรื่องคนกันดี ๆ 

วันนี้ มันแทบมีข้อสรุปแล้วว่า  พวกสื่อพวกมีแต่ปากวันนี้ไร้ค่า ไร้ราคาไปหมด ไม่ควรจะเชื่อถือได้เลย  เอาเป็นเพียงพวกตลกโปกฮา พวกบ้า ๆ บอ ๆ พวกหนึ่งเท่านั้นเอง ขนาดไปอยู่ในสภายอดอธิปไตยการปกครองของประเทศ ยังไม่เข้าใจความสำคัญของตนเองเลย เห็นสภาเป็นที่สำหรับระบายความโกรธแค้นส่วนตน นายต่างประเทศ ส่วนพรรคพวกมาตลอดไม่มีอะไรบอกถึงส่วนรวมเลย  เลือกพวกพูดน้อยต่อยมาก ดีกว่า(คือพวกที่ปากมากทำอะไรไม่เป็นหรอกที่ทำเป็นพวกพูดน้อยต่อยมาก เชื่อทฤษฎีนี้ได้เลยไม่ผิด)  คือการเลือกตั้งคราวหน้า  พวกที่พูดดี ๆ วันนี้  อย่างนายรังสิมันต์ โรม  นางอมรัตน์....

อย่างครูอะไรที่มีคำว่าครูหน้าชื่อตนเองทางอิสานน่ะ(ขนาดตั้งชื่อยังโกหกประชาชนเลย)...อย่าเอาเข้าสภาเลยทำความเสื่อมแก่สภาไปมากแล้วถึงขั้นคนเขาไม่อยากมีสภาแล้ว คนอย่างนี้เอาออกไปเลย ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนปากมากเข้ามาอีก ให้เขาไปทำมาหากินอย่างอื่นเถอะ

@สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 11 ส.ค.2565 11.35น.

-----*****-----

8.เรื่องที่ 3. เรื่องของวงการข่าวกับการเมืองไทย  ตอนที่ 3

ปัญหาไม่ได้เกิดจากทหาร แต่เกิดจากนักการเมืองที่แสนโง่ไม่รู้เรื่องการปกครอง

ก็ทหาร คสช.เขาเกิดขึ้น   เนื่องจากสภาตีกันไง   แล้วสมาชิกสภา คือ  สส. ลาออกจากสส. มาตั้งขบวนการประชาชน ที่เรียกว่า กปปส.ไง   แล้วยกขบวนไปยึดสถานที่ราชการ 6-7 แห่ง  แล้วประกาศยึดประเทศไทย   ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปรายงานตัวกับ หน.กปปส. ..แล้วก็มาจากเหตุเป็นเพราะพรรคทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คิดออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ ...ก็ทนกันไม่ได้ นั่นเองตีกันในสภา ....

นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพรรคการเมืองโง่ๆทำอะไรผิด ๆ ทั้งนั้นนี่นะ และก็ปลุกปั่นประชาชนมาเข้าข้างตัวเอง   แบบที่พรรคอนาคตใหม่  ทำอยู่ขณะนี้  แต่ตอนนั้น  มีแดงเพื่อประชาธิปไตยเป็นฝ่ายยิ่งลักษณ์   จะเคลื่อนพลแดงนับล้านออกมาห้ำหั่นกับ  กปปส..........

ดูเรื่องราวให้ดีหน่อย  ว่าสาเหตุมาจากพรรคการเมือง  ไม่ได้มีเหตุมาจากทหารเลยทหารเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ..พรรคการเมืองที่ทำไม่ถูกหลักการเมือง อย่างที่ทำอยู่ขณะนี้แหละ  คราวนั้นก็หวุดหวิดจะเกิดสงครามกลางเมือง ระหว่างพรรครัฐบาลเสื้อแดง กับ  กปปส.   บ้านเมืองหวุดหวิดเกิดกลียุคแบบตะวันออกกลาง แน่  

ลองคิดดูดี ๆ    เหตุเกิดเพราะพรรคการเมือง  ที่พอได้อำนาจเข้าก็ไม่เคารพกติกาการเมือง  ตนเองมักใหญ่ใฝ่สูง จะต้องเป็นใหญ่  ซึ่งผิดหลักอารยธรรมประชาธิปไตยในเรื่องการแบ่งปันอำนาจการเมืองกันอย่างสงบ   คราวยิ่งลักษณ์เป็น นรม.นั้นแหละ  ตัวเองก็โกงข้าว   จน  รมว.พาณิชย์ลูกน้องตนเองติดคุก 43 ปี  ยังอยู่ในคุกอยู่ทุกวันนี้พร้อมพรรคพวก 5-6คน  .ส่วนตัวเองหนี รอส่งผู้ร้ายข้ามแดนมา ....เรื่องเกิดจากพรรคการเมืองเลวๆ ไม่ยอมรับกติกาประชาธิปไตย ไม่รู้จักยอมรับ แพ้ชนะให้อภัย ในการต่อสู้ทางการเมือง  เกิดปะทะ ตายไปเยอะแล้วหวิดเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น 

ทหารก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปฏิวัติเพื่อแก้ปัญหาสงครามกลางเมืองให้คนไทยฆ่ากันนับแสนนั่นเอง ทหารไทย เนื่องจากเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางทหาร(ไม่เหมือนตะวันออกกลางที่ทหารก็แตกกันเป็นสองฝ่าย รบกันเองไม่หยุด) คิดดูเหตุผลหน่อย  คสช.ก็บริหารมาแล้วให้เลือกตั้งตามหลักการประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชน 14 ล้านคนรับรองจากการทำประชามติ แล้วขณะนี้ พรรคการเมืองอีก  ที่ไม่รู้จัก รู้จักแต่ไม่เคารพกติกาจะพยายามทำอย่างเดิมอีก  ทำมา 86 ปีแล้ว ไม่เคยแก้ไขตนเองเลย   อย่างที่พรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทยทำอยู่ขณะนี้  ทำไมกติกาเขา ให้รอแค่4ปีก็เลือกตั้งใหม่ทำไมไม่รอ  ถ้าเก่งก็จะได้เป็นรัฐบาลโดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ

และตอนนี้ก็ได้รัฐบาลแล้วก็มีคนใช้เราแล้วทำไมไม่ให้เขาทำงานล่ะ  ปัญหาที่คั่งค้างมาก็จะได้กวาดล้างไปโดยการมีคนงานมาทำคือรัฐบาลนี่แหละ รัฐบาลเขาจะได้บริหารประเทศ เราคอยแต่หาเรื่องด่าว่าเขาขัดแม้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆเช่นนรม.เขากล่าวคำปฏิญญาณว่าอิ เป็น อี  ผิดเล็กๆน้อย ๆ  ก็ทำเป็นว่าถึงเป็นถึงตาย แบบกัดไม่ปล่อยก็ตำรวจคนนั้น มองว่าเป็นโทษใหญ่นายกและรัฐบาลทั้งรัฐบาลต้องลาออก นู้น  พาลกันจริง ๆ  เห็น ๆ อยู่ 

ใครบ้าตามก็ทำชาติไทยพินาศไปอีกแล้ว  นี่แหละพรรคฝ่ายค้านขณะนี้ ทำไม่ถูกต้องเลย  ไร้น้ำจิตน้ำใจไปโดยสิ้นเชิง  และที่สำคัญ ไปเอาคนนอกประเทศมาควบคุมครองอำนาจอธิปไตยของคนไทย แบบนี้ไม่ได้ เป็นความผิดร้ายแรงมาก  ไม่อาจเกิดประชาธิปไตยขึ้นได้เลย

@สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์

   13 สิงหาคม 2019  •

-----*****-----

9.เรื่องที่ 4. เรื่อง คาร์ม็อบแบบโง่ไม่รู้ประชาธิปไตยจริง ๆ เพราะมันไม่มีใครมีสิทธิตรงนี้

เคยเป็นถึงรัฐมนตรี แต่ไม่รู้เหตุผลความเป็นประชาธิปไตยเลย เป็นคนโง่ ๆ

วิจารณ์ ข่าวเช้าช่อง3, ThaiPbs.,15 ส.ค. 2564,  8-9 โมงเช้าวันอาทิตย์

เรื่องคาร์ม็อบประชาธิปไตย-----

เปิดเผยโฉมหน้าแกนนำ 2 คน ที่ป่าวประกาศไล่นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งให้ได้ ยังไม่ออกก็จะไล่ทุกวันๆ จนกว่าจะออก ประสานการไล่กับพรรคเพื่อไทยพรรคก้าวไกลในสภา โดยแสดงความโง่ทึ่มที่สุดในเรื่องการอ้างสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย   ซึ่งมันไม่มีใครมีสิทธิตรงนี้เลย 

เพราะคุณจะไปไล่เขาออกจากการงานอาชีพเขา  ออกจากการทำมาหากินของเขา  ออกจากหน้าที่ราชการของเขา  ออกจากบ้านที่อาศัยของเขา ออกจากประเทศไทยของเขา ได้อย่างไรในเมื่อเขามีสิทธิอันสมบูรณ์เต็มที่แล้ว ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และ ในเมื่อเขาทรงสิทธิ์นั้นอย่างสมบูรณ์  ในฐานะนักการเมืองคนของประชาชน  ผู้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เขาเป็นคนของประชาชนประชาธิปไตย แล้วพวกม็อบนี่ก็ม็อบขยะแท้ๆ    ม็อบไร้ศักดิ์ศรีไร้สิทธิที่จะไปไล่ใครออกจากการงานของชาติของประชาชน  ยังหลงตนหลงตัว หลงอัตตาตัวตนไปได้ขนาดนี้ จะไม่บอกว่าพวกโง่จริง ๆ ได้อย่างไร?  คือมันบอกแต่ต้นแล้วว่า แผนการร้ายนี้ไม่อาจจะสำเร็จลงได้ตั้งแต่ต้นนั่นเอง 

การจะทำขบวนคาร์ม็อบวันนี้  สื่อถามหามาตลอดว่า ทำไมแกนนำชุมนุม แม้ชุมนุมหน้าพระบรมมหาราชวังเพื่อปฏิวัติสถาบันกษัตริย์ไทย  7 ส.ค.2564 ก็ไม่ปรากฏ แกนนำหายไปหมด  เขาว่าแกนใหญ่ก็ไปฝรั่งเศส บางแกนก็หลบหน้าจะออกไปต่างประเทศอีก  แต่แล้ววันนี้  ที่ออกมาปรากฏตัว  ทางข่าวช่อง 3 ไทยทีพีบีเอส เวลานี้เอง ก็นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  นาย สมบัติ บุญงามอนงค์  นั้นเอง  ...  ออกมานัดหมาย กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการรุกการรบแบบม็อบอันธพาล   จะไปไล่นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง โดยที่ไม่รู้สิทธิของตนสิทธิของคนอื่น และไม่เข้าใจว่าผิดกฎหมายหลายข้อหลายบทบัญญัติ ขนาดเคยเป็นรัฐมนตรีผู้ช่วยมา ยังไม่รู้เรื่องการเมืองประชาธิปไตยเลย   ก็เอาไปเถอะ...คนขี้คุก

บังเอิญมีคลิปคุณยายจากอยุธยาออกมาด่าอย่างแหลก นายณัฐวุฒิ น่าจะฟังบ้าง แกด่าว่านายกรัฐมนตรีเขาเลือกตั้งมา  มึงเป็นใครจะไปไล่เขา ทุกคนกลัวโควิดจะกระจายออกไปจึงนิ่งอยู่หมด  โควิดหมดลงเมื่อใด มึงมาเจอกูยายแกท้าเลย  ก็ก่อนนี้และเดี๋ยวนี้เอง ก็เทพ โพธิงามเรา นั้นมีความรู้เยอะกว่านายณัฐวุฒิ และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีก   ดูสิ ความรู้ต่างกันมากเลย  ด่านายณัฐวุฒิว่าเป็นคนโง่แสนโง่   ที่ให้คนไปหลอกเด็กอยุธยา ที่ยายว่าไปหลอกเด็กว่างงานไปเข้าขบวนคาร์ม็อบ วันที่ 15 ส.ค. 

เอาเงินไปจ้างคันละพันสองพันบาท  มันก็เอา ..นี่ไง... นี่หรือประชาธิปไตย เอาเงินไปจ้างคนออกมา เขาไม่ได้มากันเองแบบมีความเป็นตัวของตัวเอง มีอิสรเสรี  เสรีประชาธิปไตย...  นี่มันระบบคนทาสเราดีๆ  ต่างชาติเอาเงินมาซื้อได้ 

แต่การไปอ้างว่าตนเป็นประชาธิปไตยนี้ คือการหลอกลวงประชาชน และทรยศต่อประชาธิปไตย ผู้ทำลายประชาธิปไตยไทยนั้นเอง  และนี่แหละความผิดฉกรรจ์สำหรับนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ คนระดับรัฐมนตรี  ถ้าเป็นเสรีชนคนประชาธิปไตย ก็ต้องมาเองมาเองไม่มีการว่าจ้าง  การเอาเงินไปเที่ยวจ้างเด็กว่างงานอยุธยาออกไปเดินขบวนคาร์ม็อบก่อการจลาจล ทำลายการจราจรของประชาชนไทย...ซึ่งนี่แหละผิดต่อประชาธิปไตยซึ่งตำรวจ และฝ่ายรักษาความสงบบ้านเมือง มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้สงบ ก็จับตัวนายณัฐวุฒิ  กับนายสมบัติ ไปได้แล้ว ก็จบเรื่อง  ..... 

มาพูดเป็นวิชาการหน่อย  เพราะคนพวกนี้ สองนายนี้ มันตอบไม่ได้ว่า 1. พวกเขาเป็นอะไร โจรหรือ ผู้ดี ทำไมคนเขาอยู่ดี ๆแล้วเอารถราพาพวกออกมาเกลื่อนกล่นถนนไปหมดมาทำไมมันกีดการจราจรอยู่แล้ว  ไม่เห็นหรือ มีปัญญาคิดเอาเองจึงจะเป็นประชาธิปไตย  แบบเขาสั่งเขาซื้อเอานี่เป็นคนขายชาติ  2.   อ้างว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย  แบบไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร ประชาธิปไตยคือคนทั้งประเทศ เข้าใจไหมไม่ใช่คนกระจิบมือเดียว ไม่ใช่ม็อบสวะ  ขยะ ไร้ค่า   ...ก็จะไปยุ่งยากไล่นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งไปทำไม  ในเมื่อไม่ต้องไล่ก็ถึงเวลาที่จะออกจากตำแหน่งเองอยู่แล้ว...เขากำหนดไว้แล้วทุก ๆ 4ปี ดูอเมริกา ญี่ปุ่น  ฝรั่งเศส สิ  ..ตามระบอบการแบ่งปันอำนาจการเมืองประชาธิปไตย  เข้าใจหรือเปล่า?  ....

ประชาธิปไตย  ไม่มีการยกพวกออกมาไล่ใครออกจากงานเขาแบบนี้  ไม่งั้นคุณไม่ชอบใครก็ยกพวกไปไล่คนๆ นั้นออกสิ   เช่นไม่ชอบขี้หน้าข้าราชการนายนั้น ก็นัดยกพวกไปไล่เขาออก  อ้างว่ามีสิทธิตามประชาธิปไตย  นั้นล่ะซี ?

อย่างนั้นทำไม่ได้อย่างไรก็ไม่ได้อย่างนั้น  คุณไม่มีสิทธิไล่ ม็อบไม่มีสิทธิ์ไล่  เพราะคนเขาเป็นคนไทย และยังเป็นคนของประชาชน มาจากการเลือกตั้ง  คือมาจากการรับรองของประชาชนทั้งประเทศ  นี่แหละประชาธิปไตย แล้วตัวเองมีกี่คนจะไปอ้างตนว่าเป็นประชาชนมันอ้างไม่ได้   เพราะคนที่มาไล่ล้วนเป็นม็อบไร้ค่าสวะๆอย่างนี้  ไม่มีค่าพอจะไปไล่เขาได้อย่างไร โจร อันธพาลเราดี ๆนี่เอง  ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยนี้  มาจากประชาชนจากการเลือกตั้ง  เขาเป็นคนของประชาชนทั้งประเทศ

ฟังคุณยายอยุธยา แดนสงครามในอดีตสิ  แกพูดอย่างนักรบเลย แล้วคุณเพิ่งออกจากคุกมา นายณัฐวุฒิน่ะ  เพื่อนนายจตุพร  คนหนึ่งเข้าคุกไป  คนที่ออกมาจากคุกก็ทำงานต่อ นี่อันธพาลประชาธิปไตยชัด ๆ   แบบงานอันธพาล จะไปไล่คนของประชาชนออกจากตำแหน่ง    จะมาไล่เขาออก  นี่มันความคิดเด็ก ๆ  อมมือจริงๆ  อ้างตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแบบรู้เพียงว่าประชาธิปไตยทำอะไรก็ได้ อยากด่าใครก็ด่าได้ อยากตีหัวใครก็ตีได้  ไม่รู้ว่าอะไรคือประชาธิปไตย  แบบรู้เพียงว่าประชาธิปไตยจะไปไล่ใคร  ไปด่าใครก็ได้  นั้นมันไปละเมิดสิทธิคนอื่นเขา เขาจะเตะเอา    เรื่องนี้   อย่าว่าแต่นายณัฐวุฒิ ผู้เป็นอดีตนักโทษ  ขนาดเคยเป็นรัฐมนตรีผู้ช่วยยุคโกงจำนำข้าวสร้างหนี้ให้รัฐบาลประยุทธใช้ปีละ 7 แสนล้านอีกหลายปีข้างหน้า ...

แม้องค์การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กศม.)ก็ยังไม่เข้าใจว่า สิทธิมนุษยชนคืออะไร    ทำไม กก.สิทธิมนุษยชน จึงไม่มองดู  เรื่องที่  ประชาชนทั้งหลายถูกอันธพาลกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า  ละเมิดสิทธิของเขาอยู่ตลอดมา  ดูที่ดินแดงก็แล้วกัน   ดูสี่แยกคอกวัว ดูราชประสงค์  ดูท้องถนนหนทางที่คนเดินทางสัญจรประจำเขาสูญเสียสิทธิของเขาไปแล้วไปเล่า    ดูประชาชนคนอาศัยทำมาหากินอยู่ตรงนั้น  พวกเขาเป็นคนไทย  มีสิทธิมนุษยชนเหมือนกัน   เท่ากันกับคนอื่นนี่น่ะ   หรือไม่ใช่  ?   ถามกก.สิทธิมนุษยชน  ... 

แล้วพออันธพาลไปอ้างว่าตนมีสิทธิมนุษยชนที่จะไปละเมิดสิทธิมนุษยชนคนอื่นเขา   กก.สิทธิมนุษยชนก็เชื่อตาม   โง่ขนาดไหน ?   ไล่ออกเถอะ  เอาไว้ทำไม  คนโง่เง่าเต่าตุ่นขนาดนี้สอนก็ไม่รู้หรอก ไล่ออกให้หมดอีกพวกหนึ่ง  ..ยุบไปเลย กศม..    

ในแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง  ...คงต้องเอานายณัฐวุฒิ กับนาย ลายจุดคนนั้น  ไปเก็บไว้ที่เดียวกับนายจตุพรและเหมือนนาย เพนกวิน อีกคนแล้วละ   เขาไม่รู้แม้กระทั่งที่ทำเรื่องร้ายแรงแก่ประเทศชาติประชาชนไทยอย่างยิ่งใหญ่  นั่นคือ  ทำการแพร่กระจัดกระจาย โควิดออกไปทั่วประเทศโดยคิดขยายคาร์ม็อบออกไปเรื่อย ๆ     ไม่หยุดยั้งการเดินขบวน  โรคก็แพร่ไปเท่านั้น  .....

ขอประชาชนไทยนึกแบบยายอยุธยาเถอะ   ให้หยุดโควิด ก็ออกมาไล่คนอย่างนี้ไปเสียจากท้องถนนหนทางประเทศไทย  ไล่หนีไปจากประเทศไทย....

@สุไหงปาดี ชินะกุล...ฆิกเมฆ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุญเสฏฐ์ 

15 ส.ค.2564 17.00 น.      

-----*****-----

10.เรื่องที่  5..การเมืองกับเยาวชนนั้นมันไม่สมดุลกัน 10 สค.63

1.

ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :- เอาละ เห็นกันแล้วละซี  เรื่องราวการเมืองกับเยาวชน นิสิต นักศึกษา นั้นมันไม่สมดุลกัน  เพราะการเมืองนั้น  (นี่เข้าใจคำว่าการเมืองกันก่อนนะ) ไม่ใช่เรื่องตื้น ๆ  ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แบบฝรั่งว่า simple  นั้นแหละ  มันเป็นเรื่องลึก และสลับซับซ้อน มีหลาย dimension มากเลยที่มันเกี่ยวพันสัมพันธ์กันไปหมด    ส่วนเยาวชน นิสิต นักศึกษานั้น เป็นอะไร ที่ simple มากเลย   จึงกล่าวได้ว่า  การเมืองกับเยาวชน นิสิต นักศึกษา นั้นมันไม่สมดุลกัน  หมายความว่า  ที่ไปตั้งตนเป็น  เยาวชนปลดแอกนั้น มันก็เป็นอะไรที่ทำลายตนเองไปหมด  และแพ้ไปหมด 

อย่างที่พากันออกมา ก่อม็อบที่นั่นที่นี่ โดยคิดว่าตนเป็นประชาธิปไตย(ทั้ง ๆ ที่ความจริงเป็นเผด็จการ ไปถึง เผด็จการก่อการร้าย)  ซึ่งในที่สุดก็ได้พบความจริงเบื้องหลังการก่อม็อบ ว่า แท้จริงนั้น มีครูบาอาจารย์มารับใช้ด้วย อย่างธรรมศาสตร์เป็นต้น โผล่ออกมาถึง 105 คน แล้ว 

รองอธิการบดี  และอธิการบดีค่อยโผล่ออกมา  เช่นวันนี้อธิการบดี  รศ.เกศินี วิบูลชาตินี่ออกมาปรากฏตัว   ก็เหมือน 105 คนที่ออกมาก่อนนั่นแหละ  คือ ควรไล่ออกเสีย  ไม่มีความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตยพอ ๆ กัน(ที่แกว่าให้อดทนต่อความเห็นต่างนั้นแหละ แสดงถึงว่าเป็นพวกคิดล้มกษัตริย์นั้นเองและ  นี่แหละเรื่องใหญ่ ที่ทางเราเสนอไปแล้ว  วันนี้เสนอ ยุบไปเลยธรรมศาสตร์เสียทีเถอะ   สร้างใหม่  เหตุก็คือ อวิชชา แพร่ไวรัสการเมืองร้ายที่หลงผิดในประชาธิปไตยมาตลอด สู่เยาวชนนิสิตนักศึกษามาตลอดถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ตัวนั่นเอง 

2.

ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :-  เอาละต่อไปอีกหน่อย การชุมนุมวันนี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลางถนนหนทางอีกครั้ง จบลงด้วยข้อเสนอ 3 ข้อ ของเยาวชนปลดแอกที่ได้วิพากษ์ไปแล้วว่า อันธพาลเราดีๆ นี่เอง   เรื่องข้อเสนอวันนี้ ก็เป็นข้อเสนอแบบ simple  ไปเหมือนเดิม ด้วยความรู้ความคิดและประสพการณ์แบบ simple ครั้นเสนอไปแล้วเขาไม่รับก็ไม่เข้าใจ ว่าเพราะอะไร ก็จะด่าเขาต่อว่าไม่รับฟังความเห็นของประชาชน

แบบที่นายชลน่าน ศรีแก้ว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายรังสิมันต์ โรม  ด่าไปในสภาผู้แทนราษฎรนั้นเองแล้วเอาไปเป็นเหตุก่อม็อบ คิดผิดไปถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ ทำคนโง่ๆ เข้าใจผิดตามไปอีกนั่นเอง    

มาสรุปก่อนดีกว่า  ที่ตื่นกลัวมากกลับเป็นเรื่องที่บอกถึงความโง่ของเขาจริง ๆ ไม่เข้าใจทั้งนั้นในเรื่องยุทธศาสตร์ และ ยุทธวิธี  คือ ก็คือกลัวปฏิวัติรัฐประหาร   เสนอเป็นข้อสำคัญลงท้ายก่อนเลิกการชุมนุม  อย่าทำรัฐประหารเด็ดขาด    นี่คือ  คนที่simple จริง ๆ  เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย  ก็เขาจะปฏิวัติไปทำไม เพราะเขาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว(และไม่โง่อย่างรัฐบาลทักษิณ ที่ให้อิสลามปฏิวัติ แล้วตนเองหนีไปไหนไม่พ้นต้องไปอยู่อิสลามให้อิสลามขูดรีดอย่างสุดแสบสันต์น้ำตาตกในเพียงใดก็ยอม เพราะไม่มีที่อยู่ มาถึงทุกวันนี้ และก็พอ ๆ กันน้องสาว ที่เป็นรัฐบาลเงามีพี่ชายสั่งการอยู่เบื้องหลัง โกงเงินจำนำข้าวจนลูกน้อง(รมว.พาณิชย์)ถูกจำคุก 43 ปี อ่อนแอมากจนโดนปฏิวัติหนีไปอยู่อิสลามให้อิสลามขูดเลือดอีกแบบยิ่งกว่าเก็บภาษีคนรวย) 

แต่รัฐบาลนี้ เขาได้รับการยอมรับจากรัฐสภาไง คือประชาชนทั้งประเทศรับรองเขาอันดับ 1 ถึง 8 ล้านคน   แล้วยังไง  

3.

ทหารทั้งกองทัพบก เรือ อากาศ ตำรวจ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อยู่ใต้อำนาจเลื่อมใสเชื่อฟังเขาอยู่แล้วเพราะผลงานช่วยเหลือประชาชนยามตกทุกข์ยากไร้เขาไม่ทอดทิ้ง  และที่สำคัญที่สุดก็คือ  ขบวนการหาเสียงของฝ่ายค้านพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ร่วมกับเยาวชนปลดแอก ที่ทำผิดพลาดไปอย่างใหญ่โต ในการหาเสียงวันที่ 10 ส.ค. นั้นเอง ในธรรมศาสตร์ โดยทำตนเป็นหมาน้อยคิดสู้ราชสีห์นั่นเอง

คือคิดล้มกษัตริย์  วันนี้ หากมีอะไรอีก  คนทุกจังหวัด ทั้ง 60 กว่าล้านคน ก็จะลุกขึ้น หรือเพียงปลุกด้วยวาทะหน่อยเท่านั้น ว่าพวกนี้คือโจรปล้นราชบัลลังก์ เนรคุณต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ก็กลัวจะเอาไม่อยู่  นั่นคือ  คนทั้งแผ่นดินจะลุกขึ้นมาเหยียบพวกนี้ตายราบไปง่าย ๆ เลยนั่นเอง  เขาจึงไม่คิดเรื่องปฏิวัติอะไร   แต่คนโง่ ๆ เท่านั้นคิดไปเอง   นี่เห็นไหมความคิดโง่ๆ หรือ ยุทธศาสตร์ที่โง่ ๆ   

การเมืองวันนี้  ทางฝ่ายรัฐบาลเขามีความมั่นคงเกินที่คุณจะคิดเอาง่าย ๆ ว่าเพียงปลุกคน simple ๆ ๆ แบบนักเรียน เยาวชน นิสิต นักศึกษาที่ใส่แอกให้ว่าเยาวชนปลดแอก คือแอกที่ว่านั้นเป็นแอกที่ครูอาจารย์มธ.นั่นเองใส่ให้พวกเยาวชนเขา แล้วจะไปปลดแอกใคร ปลดแอกตัวเองสิ        

ฉะนั้น  มาทบทวนดีกว่า  การสร้างประชาธิปไตยไทยนั้น ต้องคำนึงสุภาษิตเดิมของคนสากลโลกที่ว่า  กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว เราทุกคนวันนี้คิดในเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตยไทยพอ ๆ กัน แต่ต้องโดยเหตุผลและสันติ

4.

แล้วก็มาข้อเสนอว่าให้ยุบสภาในทันทีไม่เกินเดือนหน้า กันยายนนี่ให้ยุบเลย   คือ นี่คือผู้เสนอนี่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถารนการณ์การเมืองไทย การเมืองโลกขณะนี้เลย ผิดหลักการเมืองไปอย่างสุด ๆ  #อะไรจะเกิดขึ้น หากยุบสภาในเดือน ก.ย.นี้ รู้คิดหรือเปล่า ?   

(1.) การบริหารงานประเทศจะไม่มีคนรับผิดชอบคนสั่งการบริหารเหมือนเดิม หยุดลงหมด นาวาลำใหญ่ของไทยก็จะไร้คนคุมหางเสือเรือ ท่ามกลางสถานการณ์โลกอันวิกฤตจากไวรัสโลกโควิด19  โควิด19 ก็จะทะลวงมาสู่ประเทศไทย  ก็เอาไม่อยู่ คนไทยก็จะตายกันหมดอย่างที่อเมริกาตายไปเกือบถึง 2  แสนคนไปแล้ว  บราซิล ก็ไปแสนกว่า  อินเดียก็พอ ๆ กันตายไปห้าหมื่น แล้วยังตายต่อไปอีกเรื่อย ๆ   ไทยขณะนี้ตายไปเพียง  58 คนเท่านั้นเอง สุดยอดไหม  ทั่วโลกติดเชื้อ 20 ล้าน ไทยติดแค่  3000 กว่าคนเท่านั้น  

นี่มันแสดงอะไรดูด้วยใจเป็นธรรมสิ    แสดงว่าไทยเราถูกล้อมไงล่ะ  โควิดล้อมเราจากทั่วโลก  เรามีกำแพง กั้นเอาไว้ได้ เพราะงานของรัฐบาลและสาธารณสุขไทยเขาทำได้จริง จนโลกทั้งโลกเอาอย่าง และสรรเสริญมาบ่อย ๆ เลย  เพราะรัฐบาลเก่งจริงเอาจริง  (ไม่ใช่อย่างที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมาโฆษณาชวนเชื่อเป็นแบบการด่ารัฐบาลมาถึงวันนี้ของฝ่ายเขาว่า  รัฐบาลหัวควย รัฐบาลเผด็จการ  โจรห้าร้อย  ไม่รู้เรื่องไวรัสเลย อีกหน่อยไทยจะพินาศเพราะความโง่เขลา ต้องออกไปเสียวันนี้เลย ออกไปเลย  นี่แหละแบบที่ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลไว้แต่แรกที่โควิดเข้ามา 

5.

 แล้วก็พิศูจน์ไงว่ารัฐบาลเก่งจริง  เอาจริง  นั่นเอง  แต่โลกทั้งโลกล้อมเราอยู่ เทียบกับโลกแล้วประเทศเล็กนิดเดียว หากไม่ระวังละก็ แน่ละกำแพงพังลงก็ดุจเขื่อนแตกเลยละ ตายกันทั้งประเทศแน่  นี่แหละ  อย่าได้ทำอะไรเป็นเล่น ๆ ไปเลย และความคิดของศัตรูการเมืองกัน อย่าให้เลยไปถึงขั้นเอาไวรัสมาช่วยด้วยการเสี่ยงต่อการทำลายประเทศทั้งประเทศเลย 

(2.) ประเทศจะล่มจม ประชาชนจะอดอยาก เกิดจลาจลทั่วประเทศ  เพราะไม่มีใครบริหารงานเศรษฐกิจ ที่กำลังจะตายอยู่ขณะนี้ คนก็จะแก่งแย่งกัน นับแต่คนในรัฐบาล  ในราชการ  มือใครยาวสาวได้สาวเอา โจรกรรมท่วมท้น ก็จะเห็นกันหากมีการยุบสภาลงในวันนี้

(3.) แล้วการเลือกตั้งก็จะไม่เรียบร้อย จะเสียเงินเสียทองไปมากมายมหาศาล  ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ก็พอ ๆ เห็นอยู่ แล้ว เป็นเรื่องโง่ของฝ่ายค้านของเด็กปลดแอกนั่นเอง ที่คิดยุบสภาและโดยเฉพาะเป็นเรื่องโง่ ๆ ของคนไม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตย นับแต่พวกเยาวชน นิสิตนักศึกษา นักคิดปลดแอก และครูอาจารย์ในธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยทั่วไปโดยมีพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนการล้มเจ้าและให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทั้ง ๆที่ไม่มีเหตุผลสมกาละเทศะเลย นั้นเอง 

( 4.) ไม่รู้อะไรไปอีก  ยุบสภาเดือนกันยายน  รธน. 60 ก็จะมีอำนาจอยู่  ประยุทธ จันทร์โอชา ก็จะชนะได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป แล้วที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ก็ข้อเสนอโง่ ๆ น่ะสิ นี่แหละปัญญาต่ำตื้นจริง ๆ ใครเขาจะรับไปทำได้ เห็นไหมแล้วยังไง 

6.

ก็จะออกมาเดินขบวนอีกว่าเผด็จการ คสช.สืบอำนาจ  ว่าตนเป็นประชาธิปไตยต้องขับไล่ต่อไปอีก หลายสมัยเลยคราวนี้  ฝ่ายค้านโง่ ๆ  ก็จะต้องหน้าแห้งต่อไปอีก  ก็จะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  เพราะยุบสภาแล้วก็ต้องจัดการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ60เดิมนั่นเอง  คุณไม่รู้เลยหรือไง ?

5.) ที่ว่าฝ่ายรัฐบาลเป็นเผด็จการโจรห้าร้อย นั้น ....มาถึงตอนนี้ คนไทยก็จะเห็นได้ว่า ข้อเสนอของขบวนการปลดแอกเยาวชน นิสิต นักศึกษา นี้  เป็นเรื่องโง่เขลาเบาปัญญาจริงๆ  เพราะเสนอในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจเลย  ทั้ง ๆ ที่อ้างตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย  กลับทำอะไรเสนออะไรไปแบบไม่ถูกครรลองประชาธิปไตยเลย เช่นนี้ 

อะไรคือเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องไร้สาระขึ้นมาที่สูญเสียอะไร ๆ ไปมากมายแบบไร้ประโยชน์เปล่า ๆ ไปหมด  เสียเวลาทำมาหากิน  เสียเวลาร่ำเรียนหนังสือ เสียเงินทองพ่อแม่ส่งมาให้เรียน ไปเปล่า ๆ   เสียหลายอย่างเหลือเกิน  อย่างที่น่าเสียดายจริง ๆ  และน่าวอนจริง ๆ ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาทำไม   และนี่เป็นเพียงเรื่องการเมือง  

แต่เรื่องที่ร้ายแรงไปที่สุดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ก็คือ เรื่องข้อเสนอ 10 ข้อ นั้น(ซึ่งอาจารย์105 คนออกมายืนยันว่าสนับสนุน) ซึ่งแท้จริง เป็นเรื่องเสนอล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไทย  อย่างโง่เขลา ในความเข้าใจผิด ไร้ความรู้ในหลักวิชาประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง  โดยเหตุที่อ้างว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น ย่อมไม่มีกษัตริย์  กษัตริย์ย่อมไม่มีในระบอบประชาธิปไตย    ฝ่ายเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จึงเสนอ 10 ข้อ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยจะต้องไม่มีกษัตริย์  

7.

ซึ่งนี่ ได้ทราบเบื้องหลังจากขบวนการนี้เองว่าเดิมมาจากนายปิยบุตร  แสงกนกกุล  อดีตพรรคอนาคตใหม่ นั้นเอง ต่อมาอาจารย์105คนเอาไปปรับแรงขึ้น ซึ่งพอ ๆ กับเพื่อนเขาอีก 3 คน คือนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ   นางพรรณิกา วาณิช  (ที่ทั้ง 3 คนนี้ล้วนแต่สร้างประวัติตลกการเมืองไทยไปทั่วโลก  นางพรรณิกา วาณิช  พอเข้าไปในสภา ในฐานะ สส.พรรค  ก็ไปแสดงแฟชั่น  เปลี่ยนชุดแต่งตัวไปทุกวัน ๆ วันละหลายครั้งจนคนคิดว่าเป็นนางแบบประจำสภา  จนโดนไล่ออกไปจากสภาพร้อม ๆ กันทั้ง 3 ตลกนั้น  กลายเป็นหญิงตลกหน้าด้านคนหนึ่งเลยทีเดียว  ส่วนนายปิยบุตร นั้น ยิ่งหน้าด้านกว่าใคร  เวลาคิด คิดว่าตนคิดอะไรคนอื่นจะต้องฟังตน เชื่อตนคนเดียว  ใครคิดผิดไปจากตน นั้นเป็นเผด็จการ 

แล้วขนาดนี้ที่ เป็นครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัยยังคิดอะไรไม่เป็นเลย แล้วจะไปอยู่ไหนทำมาหากินอะไรในโลกนี้  แม้กระทั่งว่าตนคิดผิดไปจริงๆ ยังทนทานยืนยันว่าตนถูก  นี่สุดหน้าด้านเลยละ   เพราะข้อเท็จจริง ตามหลักวิชาการประชาธิปไตย นั้น ประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ หรือสถาบันกษัตริย์เลย  และตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญไทยมา  มีประชาธิปไตยมา  กษัตริย์ไทยก็ทรงอยู่ใต้กฎหมายมาตลอด   ดูสิ ดูว่าอำนาจทั้ง3 คือ นิติบัญญัติ บริหาร และ  ตุลาการ  นั้น  ล้วนมีอิสระเฉพาะสถาบันอย่างเด็ดขาดทั้งนั้น  ไม่เกี่ยวกับกษัตริย์เลย  

ความเข้าใจผิดเหล่านี้มาจากไหนก็มาจากครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้นเอง  หลบลี้อยู่เบื้องหลัง วันนี้จึงเปิดเผยออกมา 105 ชื่อ  ที่ควรไล่ออกจากมหาวิทยาลัย  ล้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสียใหม่เลย ทั้งหมด และโดยเฉพาะอธิการบดีนางเกศินี วิบูลยชาติ นั้น นั่นแหละ เอาออกไปก่อนเพื่อนเลย    รองอธิการบดีมธ.รังสิต นายอะไรนั่นน่ะ ก็เหมือนกัน  ต้องไล่ออกไปเสีย   นี่ก็เป็นข้อเสนอ  พอ ๆ กับที่เสนอไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ นั่นเอง ตามสิทธิของประชาธิปไตย

8.

และข้อสรุปในวันนี้ ก็คือ การชุมนุมของหมู่คนที่เรียกตัวเองว่า เยาวชนปลดแอก  และเยาวชนนิสิตนักศึกษา  มาตลอดหลายเดือนมาแล้ว โดยมีลักษณะประสานสอดคล้องแบบการหาเสียงร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในสภาผู้แทนราษฎร และในวงการสื่อสารมวลชน  ประเด็นความไม่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างไร  จึงเป็นเหตุทำผิดหลักการประชาธิปไตยไปหมด ตลอดการชุมนุมที่เราเรียกว่า  การหาเสียงของพรรคฝ่ายค้านมีพรรคอนาคตใหม่เดิมหรือพรรค ก้าวไกลและพรรค เพื่อไทยนั้นเอง โดยเสนอให้ประชาชนทั้งประเทศผู้รักประชาธิปไตยได้เข้าใจประชาธิปไตยให้ถูกต้อง 

และการแก้ไขโดยหลักประชาธิปไตยก็คือ  สิทธิในการเลือกตั้งของเรานั้นแหละเป็นอาวุธ  ทำอะไรไม่ได้ก็เอาอาวุธสิทธิ1เสียงนี่แหละมาจัดการ  ที่เราจะไล่สส.พรรค 2 พรรคนี้ออกไปเสียในการเลือกตั้งคราวหน้านี้   อันเป็นอำนาจของเสรีชนอย่างเต็ม+มีการคุกคามทำร้ายเลยมีแต่การป้องกันให้  จนคนรักสถาบันประชาชนและอาชีวะศึกษาที่มาคุมอยู่ถอนตัวไปก่อน 

(2.) ยุบสภาเสียในเดือน ก.ย. นี้ ก็เสนอไปได้ตามสิทธิ แต่ไปตามระบบเขาสภาผู้แทนราษฎรเองเสียก่อน เพราะเขาเป็นตัวแทนประชาชน 60 ล้านคน เราเป็นคนส่วนน้อยนิด จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร ในเมื่อเสียงในสภาใหญ่กว่า

(3.)  ให้แก้รัฐธรรมนูญ  แก้แบบไหนเล่าเสนอมาอีกสิ อาจารย์ในมธ. 105คนเสนอออกมาสิ จะบอกให้ว่าอย่างไร  และวันนี้ควรสรุปลงได้เลยว่า  ความคิดความเห็นความหยากของคนเหล่านี้มันออกมาแบบ simple เกินไป คือเดินไปแบบคนปัญญาอ่อนเกินไป ไม่มีความสมดุลระหว่างคนพวกนี้กับการเมืองของชาติ  ข้อเสนอจึงเป็นเรื่องโง่ ๆ  จริง ๆ ตามที่ได้วิเคราะห์ให้ฟังมาแล้ว โดยเฉพาะข้อเสนอให้ยุบสภาในเดือน ก.ย.2563 

และข้อเสนอ อย่าเหิมเกริมทำการปฏิวัติรัฐประหารอย่างเด็ดขาด นั้น เป็นข้อเสนอของใครที่ไม่สมกับเป็นคนในมหาวิทยาลัยเลย  ตามที่ได้วิเคราะห์มา ยุบสภาวันนี้ ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ บ้านเมืองเกิดจลาจลแน่ ๆ แล้วการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ได้อย่างไรเมื่อยุบสภาลงไป   จะให้แก้อะไรบ้างก็ไม่รู้  บางทีลองเสนอออกมาหน่อยก็ได้  จะได้แสดงปัญญาอะไรหรือเปล่า นี่แหละสรุปลงอย่างนี้แหละ

และเรื่อง 105 อธิการบดี รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์  ไล่ออก  ล้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างใหม่ไปเลย    ส่วนเรื่องที่ทำผิดมาแต่การชุมนุมคราวก่อน ๆ  ก็คิดว่ามีการลงโทษถึงจำคุกก็มี  ก็เข้าคุกรับใช้การกระทำของตนไป   นี่แหละเรื่องราวที่พอจะให้เข้าใจกันวันนี้ 

@ดร.ฆิกเมฆ  สุวรรณเมฆินทร์ 17 ส.ค.2563 01.39 น.

-----****-----

ชุดที่ 3: เรื่อง

11.เรื่องที่ 1..สามกีบอ่อนประวัติศาสตร์ จะเล่าให้ฟัง

มีทหารเผด็จการจริง ๆ ก็ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แกปฏิวัติยึดอำนาจ่ จอมพลป.พิบูลสงคราม ให้หนีไปตายต่างประเทศ แล้วให้จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกฯก่อนสามเดือน จอมพลถนอมก็เป็น  แกสั่งให้จอมพลถนอมออกมาแกจะเป็นเองจอมพลถนอมก็เชื่อ แกไล่พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจออกไป เพราะอธิบดีเผ่าคิดจะสร้างกองทัพตำรวจให้พอ ๆ กับกองทัพบก เผ่าก็ต้องไป ใครขัดแกไม่ได้ทั้งนั้น แล้วแกก็ออกกม.มี ม.17ที่ให้อำนาจเด็ดขาดแก่แกคนเดียว ที่โดยม.17 นี้ได้ออกคำสั่งฆ่าคนไปหลายร้อยคนไปเลยทีเดียว

 แบบไม่มีการพึ่งศาลสถิตยุตติธรรม จะสั่งฆ่าประหารใครก็ได้ที่เลื่องชื่อมาถึงทุกวันนี้  และแกก็ให้ไปจัดการเยาวชนที่ชอบมาเล่นกันราวสะพาน บอกว่าห้ามไม่ให้ใครมาเล่นราวสะพาน  ห้ามขี่รถเที่ยวเล่นกลางดึกเสียงดังหนวกหูคน  ไม่เชื่อแกแกก็ให้จับไปในข้อหาอันธพาลทุกคนๆ แกก็ปกครองประเทศไป 6 ปีแบบทรงอำนาจยิ่งใหญ่ แกสั่งจ่ายเงินทำงบประมาณอย่างไรตามใจแกทั้งสิ้น ระหว่างนี้แกก็มีเมียน้อยกว่า 100 คน แต่ละคนมีเงินเดือน  เอางบประมาณประเทศนี่แหละให้เมียน้อยทั้ง 100 กว่าคนนั้นแบบเป็นระบบ

นับแต่มีทอง มีเพชรประดับกายเหมือนกัน เท่ากันทุกคน  แล้ว มีบ้าน ที่ดินให้คนละ 1 หลัง ๆ ละ 5 ไร่   มีรถเบนส์ประจำตำแหน่งคนละ 1 คัน  มีเงินเดือนคนละ 5,000 บาท ทุกคนกินเงินแผ่นดินทั้งนั้น  ในมธ.เอง มีคณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ที่เป็นผู้หญิงโสดบริสุทธิ์ ศาสตราจารย์ที่ดีมีเมตตากรุณาต่อศิษย์มากเลย แกสวยสง่างาม จนคนอย่างจอมพลสฤษดิ์หลงไหลมากเลยต้องเอามาเป็นเมียให้ได้ แม้แกไม่ยอม แต่แล้วคนเผด็จการทรงอำนาจเด็ดขาดขนาดนั้น ก็หาเล่เพทุบายบังคับเอาไปเป็นเมียน้อยจนได้เลย  นั่นแหละทำให้ศิษย์มธ.โกรธเผด็จการมาถึงวันนี้ แต่ขณะนั้นไม่มีใครกล้าหือ เพราะแกมีมือปืนนับร้อย ที่มีหน้าที่อย่างเดียวคือ ฆ่า มือปืนพวกนี้ปกปิดตัวเองลับ ๆ ไม่มีใครรู้จัก คอยเพียงคำสั่ง ที่ในคำสั่งจะบอกชื่อ นามสกุล  เท่านั้นเองก็เรียบร้อย ทำให้ฝ้ายค้านไม่กล้าหือกลัวภัยมืด มีมือปืนสฤษดิ์อยู่คนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่วันนี้ที่รู้เรื่องมือปืนสฤษดิ์นี้ดีมาก มีนับร้อยมือปืน  เพียงคอยฟังคำสั่งฆ่าเท่านั้นเอง  เขาต้องการให้คนเกรงกลัวอำนาจเขา อย่างไม่กระดุกกระดิกนั่นเอง และก็ได้ดั่งนั้น

นี่แหละเผด็จการยุคนั้น เผด็จการอย่างแท้จริง ที่ไม่เหมือนสมัยนี้เลย   คนสมัยนั้นกลัว 2 อย่างคือ มาตรา 17  กับ มือปืนลับนี่เอง  ทำให้เกิดเรื่องราวแบบเมียน้อยจอมพลผ้าขะม้าแดง มีเงินเดือนมีบ้านอยู่มีรถเบนซ์  มีเครื่องทอง  เครื่องเพชร แบบเป็นเงินเดือนไปเลย  แต่ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นเดินขบวนไล่แบบทุกวันนี้ ขนาดเคยไปเกาะราวสะพานเล่น ขี่รถเล่น  หรือทำคาร์ม็อบแบบวานนี้ยังไม่ได้เลย  ต่อมาแกตายไป  จอมพลถนอมก็เอาอย่างแกและเริ่มมีเสียงประชาชนเรียกร้องรัฐธรรมนูญ  เรียกร้องมานานถึง 10 ปี  แกก็เฉย ๆ จนที่สุดก็เกิดสภาวะที่เหลือทนเกิดขึ้น  เกิดขบวนการสามประสาน กรรมกร นิสิตนักศึกษา ประชาชนเรียกร้องรัฐธรรมนูญ  14 ต.ค. 2516 ขึ้นมา(ที่พวกเราเอาอย่างอยู่ทุกวันนี้  หากแต่เรายังไม่เข้าใจเท่านั้นเองว่ามันเป็นคนละสถานการณ์ ซึ่งสมัยนั้นยุคนั้นเรียกว่าไล่เผด็จการได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเผด็จการจริงๆต้องระวังกันดีๆ แต่วันนี้  หากเป็นเผด็จการสฤษดิ์ แล้ว กระดุกกระดิกไม่ได้ก็แล้วกัน  เพียงแต่เราต้องมองในลักษณะสังคมประชาธิปไตย  มองในแง่สิทธิเสรีภาพของคนเสมอกัน  เราจะทำอะไรไปแบบระราน ละเมิดสิทธิของคนอื่นไม่ได้   เพราะสิทธิเสรีภาพของคนนั้นได้รับการป้องกันจากตำรวจและรัฐบาลประชาธิปไตยอย่างสูงสุด...รัฐบาลประชาธิปไตยมีหน้าที่ในการป้องกันการละเมิดสิทธิของประชาชนนั้นเอง หน้าที่สำคัญ)  

สามประสาน ก็เรียกร้องรัฐธรรมนูญจนสำเร็จเผด็จการถนอมหนีไปจากประเทศไทย    นี่เล่าโดยย่อเพื่อให้รู้ว่า  ทหารยุคนั้น  มันไม่เหมือนยุคนี้  ....  เหมือนกับตำรวจเหมือนกัน  ตำรวจยุคนั้น ก่อนคอมมิวนสิต์นั้นมันไม่เหมือนตำรวจยุคนี้  ยุคนั้นใช้อำนาจอย่างน่าเกรงกลัวจริง ๆ  ตำรวจฝ่ายเดียวจับโจร หรือจับใครก็ได้ ไม่ต้องมีใบสั่ง ใบค้นทั้งนั้น จะเอาไปฟ้องศาลก็ได้ ไม่ฟ้องก็ได้  คุมตัวมาระหว่างทางเกิดขี้เกียจก็เอาไปยิงทิ้งเสียข้างทางก็แล้วเรื่อง ปั้นเอกสารหลักฐานขึ้นมาง่าย ๆว่าผู้ร้ายคิดหลบหนีไปจึงต้องวิสามัญฆาตกรรมเสีย หรือแม้เอามาขังที่โรงพักแล้วผิดถูกอย่างไรไม่คำนึ่งข่มขู่บีบบังคับให้สารภาพให้ได้ นั้นเป็นธรรมดาตำรวจยุคเผด็จการนั้น)  แล้วด้วยความใหญ่มีอำนาจก็มีแต่หาเมียน้อย เจอลูกสาวเขาสวย ๆที่ไหนก็ตาม ก็เอามาเป็นเมียน้อยจนได้ กระทั่งเมียเขาสวย ๆ ก็ฆ่าผัวเขาเอาเมียมาก็มี   เหมือน จอมพลผ้าขะม้าแดงเลย ดังได้พบจากงานการวิจัยคอมมิวนิสต์พัทลุงยุคนั้น ที่คนเข้าป่าเพราะราชการนั้นเอง  นี่แหละสาเหตุของการเป็นคอมมิวนิสต์ การหนีเข้าป่า  มีการรายงานการปกครองตำรวจไทย  ได้พบว่าตำรวจในแดนคอมมิวนิสต์มีรายงานจำนวนภรรยากันคนละ10 กว่าเมียน้อย  ทั้งนั้น   จึงเกิดคอมมิวนิสต์ขึ้นมาเพราะตำรวจรังแกประชาชน   นั่นเป็นเรื่องราวสมัยก่อน ยุคคอมมิวนิสต์ ยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์   ไม่เหมือนสมัยนี้ ซึ่งเราจะเห็นว่า  การเดินขบวนของนิสิตนักศึกษา 14 ต.ค. 2516  นั้น  เป็นสิ่งที่ชอบธรรม เป็นการไล่ล้างระบอบเผด็จการจริง ๆ  และนักประชาธิปไตยก็สรรเสริญขบวนการนิสิตนักศึกษายุคนั้นมาจนเท่าทุกวันนี้

เราเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ก็เพื่อให้รู้การวิเคราะห์ว่า  ยุคนั้น  เป็นเผด็จการจริง ๆ  คือ  สฤษดิ์ มาถึงถนอม ประภาส  นี่แหละเผด็จการจริง ๆก็ดูแค่เรื่องเมียน้อย,  มาตรา 17,  กับเรื่องมือปืน,  นั้นก็เห็นแล้วว่าเผด็จการอย่างไร  ควรลุกขึ้นมาเดินขบวนขับไล่อย่างไร  ....แต่สถานการณ์ทหารและตำรวจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไปทั้งหมดแล้ว  ที่จะขอบอกก็คือ  เป็นการเปลี่ยนแปลงจากความเลว ความชั่วมาเป็นความดี  ที่น่าสรรเสริญ (แบบองคุลีมาลเลย)   ไม่มีทหารเผด็จการอย่างจอมพลสฤษด์ ถนอม   อีก 

ไม่มีตำรวจแบบเดิมอีกแล้ว  เพราะประเทศไทยมีการตกลงกันทุกฝ่ายที่จะทำความดีร่วมกัน มาร่วมกันพัฒนาบ้านเมือง แผ่นดินไทยด้วยกันพร้อมกันแทนที่จะเป็นศัตรูกัน และฝ่ายที่ทำการเอารัดเอาเปรียบประชาชนก็พากันกลับใจประพฤติความดีกันจริงๆมาจนถึงวันนี้  จึงทำให้สงครามคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงได้  ฝ่ายอยู่ป่าก็กลับเข้าเมืองมาเป็นเพื่อนพัฒนาประเทศไทยแผ่นดินของเราแผ่นเดียวกัน   ตำรวจกลายพันธ์มาเป็นตำรวจดีมาก ๆ  อย่างที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้แล้ว(ผลของคำสั่งที่ 66/23 ยุคพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ)  และทหาร  อย่างที่ปกครองประเทศอยู่  ก็เป็นทหารที่ดี  และเป็นประชาธิปไตยแล้ว ที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตยก็เพราะการเมืองเรายังสะเปะสะปะ  ยังเข้าใจไม่ตรงกันเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ และความเป็นประชาธิปไตย ยังเข้าใจไม่ตรงกัน และยังจะมีการค่อยแก้ไข รัฐธรรมนูญไปอีกซึ่งสามารถทำไปได้อย่างสงบเรียบร้อยอยู่ นั้นเอง  ซึ่งสามารถเรียนรู้เข้าใจไปพร้อมกันได้  

นี่แหละที่ขอให้พิจารณา อย่าได้คิดว่าทุกวันนี้ทหารเป็นเผด็จการเหมือนกับยุคสฤษดิ์ ถนอมประภาส   ครั้นมาสู่พื้นฐานที่ดีที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว(อำนาจการเมืองมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศแล้ว เริ่ม 24 มี.ค.2562 มันเริ่มต้นถูกทางดีแล้ว ก็เดินต่อไปให้ได้ตามทางนี้ อย่าออกนอกทางไป หากออกนอกทางการเลือกตั้งไปก็เป็นการทำลายประชาธิปไตยลงอีกครั้งหนึ่ง กลับไปเริ่มใหม่เหมือน 89 ปีมาแล้วทำไม?)นั้น  เราทั้งหลายก็ควรจะร่วมมือกันสิ ช่วยกันไปได้แบบเป็นประชาธิปไตยพร้อมกันหมดทั้งประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าคิดปลุกระดมมวลชนออกมาท่วมประเทศไทยเพื่อล้มรัฐบาลและสถาบันกษัตริย์เลย  ทำไม่ได้หรอก

และที่สำคัญที่สุดก็เกี่ยวกับความเป็นความตายของคนไทยเราและคนทั้งโลก คือการศึกครั้งใหม่ อันเป็นสงครามโรคสงครามโลกเลย  ซึ่งโลกทั้งโลกกำลังทำสงครามโลกโรค สู้กับโควิดมันอยู่  เราอย่าไปคิดเรื่องเผด็จการอีกต่อไปเลย เพราะไม่มีเผด็จการแล้ว ก็หากมีเผด็จการก็ไม่มีการเลือกตั้งอย่างไรล่ะ   รอแต่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ในไม่ถึง ปีครึ่งข้างหน้า  จะมาไล่กันทำไม?  มันไม่ชอบด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และหากทำไปมันผิดกฎหมาย   จะต้องเสียเวลาของชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์  มาร่วมมือกันสู้โควิดให้ชนะเสียก่อน  พยายามทำให้ประเทศเราเป็นประวัติศาสตร์ของคนทั้งโลกโดยการรำลึกธรรมะเพื่อประชาธิปไตย นั้นเอง 

@สุไหงปาดี ชินะกุล ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์  บัวระบ้า  ชบาบุณเสฏฐ์  17 ส.ค.2564  24.30 น.

-----*****-----

12.เรื่องที่  2. องค์กรนักเรียนเลว

20 สิงหาคม เวลา 20:20 น.  ·  

ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :-#องค์กรนักเรียนเลว เรื่องการล้างสมอง มีในประวัติศาสตร์หลายประเทศ ไทยเราก็มี เมื่อล้างสมองแล้วก็คิดผิดไป   อย่างที่วันนี้มีการคิดล้างสมองเด็กไทยที่เป็นเด็กดีมีวัฒนธรรมดีอยู่แล้ว มาเป็นเด็กเลวแล้วให้คนเลวเหล่านี้มารวมกันทำความเลวต่อไปอีกแบบเป็นวงกว้างขวางออกไปอีกโดยเรียกกลุ่มตนว่า องค์กรนักเรียนเลว โดยเริ่มงานเลวทันที ที่นัดกัน ไปชุมนุมเป่านกหวีดไล่รมว.ศธ.ที่กระทรวงศึกษาธิการวันที่ 19 ส.ค.2563 นั่นเอง  วิธีการนั้นใช้วิธีการปลุกระดมจนทั้งกลุ่มทั้งหมู่เชื่อตาม เห็นตาม  อย่างเยาวชนเรดการ์ด ของจีนแดงที่โดนล้างสมองให้เนรคุณไปสืบความผิดบิดามารดาตนเองไปให้คอมมิวนิสต์ลงโทษประหารชีวิตไปทั้งแผ่นดิน

วันนี้ สังคมไทยทั้งสังคมทั้งประเทศ ที่ต่างตกตะลึงเพราะเราเป็นชาวพุทธกันทั้งประเทศ จึงมีคำถามไปถึงผู้ที่เป็นต้นคิดใครเป็นคนเลวต้นความคิดปลุกระดมล้างสมองนักเรียนเช่นนั้น ประเด็นที่น่าวิตกยิ่งนั้นก็เพราะเป็นการสอนให้คนทำเลว ที่ตรงกันข้ามกับคำสอนในพระพุทธศาสนาข้อสำคัญขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือโอวาทปาฏิโมกข์ ที่ระลึกเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาวันมาฆะบูชาเดือน 3 นั่นเอง  ที่เป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา 3 ข้อสำคัญที่สุดของความเป็นคน คือ 1. จงอย่าทำบาปทั้งปวง(สพฺพปาปสฺส อกรณํ) คืออย่าทำเลว ทำชั่วนั่นเอง   2.  ทำแต่ความดี(กุสลสฺสูปสมฺปทา)  และ 3. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์(สจิตตปริโยทปนํ)  แต่ใครเล่าที่มาพาตั้งองค์กรนักเรียนเลว และพาไปทำเลวจริง ๆ ดังที่เห็นในกระทรวงศึกษาธิการวานนี้นั่นเอง คือพระพุทธศาสนาสอนไม่ให้ทำชั่วทำเลว แต่มีคนสอนให้ทำเลว และพานักเรียนไปทำเลว  และยังให้ตั้งองค์กรนักเรียนเลวขึ้น นั้นแหละเป็นคนสุดเลวจริง ๆ   เห็นได้จาก การชุมนุมใน กระทรวงศึกษาธิการนั่นเอง ทำเลวกัน นับแต่เป่านกหวีดไล่ รมว.ศธ. ไม่มีความเคารพหรือการต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่กันเลยแล้วทำตีตัวเสมอท่าน ออกคำสั่งให้ท่านเจ้าของสถานที่ไปเดินตามก้นตน ในกฎเกณฑ์ที่ไม่ชอบธรรมด้วยเข้าใจผิด  แบบว่ามีปัญหาไปชุมนุมกันแต่ถามก็ไม่บอกว่ามีปัญหาอะไร พูดได้เพียงว่าอย่าคุกคามนักเรียนนักศึกษา  เรียกว่าพาทำเลวจริง ๆ

และแน่ละคนที่พาทำเลว  ต้องเป็นคนที่ไม่รู้สัจธรรมในพระพุทธศาสนาเลย นี่แหละคนบาป และมองสำรวจดูในผู้นำพรรคก้าวไกลอนาคตใหม่  นี่เอง ที่น่าเป็นต้นความคิดนี้ เพราะแกไม่รู้ธรรมะ ไม่รู้ศาสนา  คือศาสนาอะไรแกก็ไม่รู้  อยู่เมืองพุทธก็ไม่รู้หลักศาสนาพุทธเลย เช่นหลัก ประการ นั้น แกไม่รู้ว่า มาจากโอวาทปาฏิโมกข์คาถา ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแด่พระอรหันต์ล้วน ๆ  1250 องค์ เป็นคำสอนอันสูงสุดสุดยอดไปถึงเรื่องมรรคผลนิพพานในพระพุทธศาสนา และทรงสอนหมู่พระอรหันต์ ตั้ง1250 องค์ ซึ่งเป็นผู้ที่ล้วนไกลกิเลสไปแล้ว  ไม่ใช่คำสอนคนธรรมดา ๆ   แกเคยบอกว่าแกไม่ใช่คนพุทธ ตามภาพนะครับ   ก็เคยพานักเรียนเลิกไหว้ครู ไม่ให้ไหว้บิดามารดา  แล้วชาวพุทธเราจะคิดอย่างไรกับคนแบบนี้ แต่แน่นอน วงการสงฆ์ไทยเราจะต้องคอยติดตามคนๆนี้  การพาคนไปทำเลวและรวมหมู่คนเลวขึ้นในแผ่นดินพระพุทธศาสนา ให้ตั้งองค์กรนักเรียนเลว นั้น เป็นเรื่องที่เลวมาก คนเลวเท่านั้นจึงชักชวนไปนอกทางแห่งความดี และมันเป็นใครเล่า เราต้องป้องกันไม่ให้คนเช่นนี้เผยแผ่ความเลวเช่นนี้อีกต่อไปเพราะนั่นเท่ากับทำลายพระพุทธศาสนานั่นเอง แต่เอาละ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่จัดการไม่ยากเลย เพราะผลกรรมขนาดบาปหนักทำลายพระพุทธศาสนาเช่นนี้ของเขาเองนั้นแหละจะสะท้อนกลับมาไม่ช้าก็เร็วนี้ ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ 20 ส.ค. 2563 20.20 น.    อธิบายภาพ  นั่นไง  The sun also rise. นึกว่าตัวเป็นเพชร แต่ที่จริงดูดีดี ก้อนขี้หมา  กับ นโยบายพุทธศาสนาของเขา ....

-----****-----

13.เรื่องที่  3วาจาหยาบคายโกหกเพ้อเจ้อ ส่อเสียด ผิดหลักศีลธรรมในพระพุทธศาสนา

คำถามนี้ที่ว่า "ร.7สละราชบัลลังก์ แล้วปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแล้ว ปัจจุบันนี้ปกครองระบอบเช่นนั้นอยู่หรือไม่?" คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าถามมากเพราะเรื่องอย่างนี้เองที่บอกว่าในขณะนี้ มีการเข้าใจผิดหลายอย่างที่น่าเป็นห่วง มันบอกไปถึงเรื่องความรู้ที่คนเรายังรู้ไม่พอไม่รู้เรื่องสังคม การเมือง เลย ยังแคบมาก แต่เมื่อไม่รู้แล้ว ยังออกมาแสดงความคิดเห็นของตนไปอย่างสุด ๆ ด้วยความโลภ ความโกรธและความหลง จึงที่ผิดพลาดไปแบบไม่รู้ตัวเอง ไม่พอในเรื่องที่จะวิจารณ์การเมือง หรือคิดเรื่องการเมือง เพราะยังไม่รู้เลยว่าเราปกครองกันอย่างไร ปัจจุบันนี้ปกครองระบอบเช่นนั้นอยุ่หรือไม่

ขอแนะนำว่าเราควรจะเริ่มให้ข้อสังเกตเอาเองด้วยความมีเหตุมีผล ศึกษามาตั้งแต่ เรื่องวิชาการ การเมืองคืออะไร เผด็จการคืออะไร ประชาธิปไตย คืออะไรให้เข้าใจเป็นพื้นฐานเสียก่อน ไม่งั้นจะเข้าใจผิดไป คิดผิดแบบตรงข้ามกันไปเลยเช่นมองเผด็จการเป็นประชาธิปไตย มองประชาธิปไตยเป็นเผด็จการได้ อย่างที่เห็นอยู่วันนี้ ที่ก่อความปั่นป่วนแด่สังคมจากความไม่รู้ ทำให้สังคมระดับชั้นต่างๆ แม้ระดับอนุบาลประถม มัธยมศึกษาวุ่นวายกลายเป็นไม่สงบเหมือนเดิม อันเกิดจากความหลงผิดในเรื่องเสรีภาพนั่นเอง ซึ่งเพียงแต่เราใช้สามัญสำนึก แบบคนเราปกติ ๆ ในฐานะความเป็นคนของเรานี่เอง พิจารณาเอง ว่าการทำอะไรได้ตามใจอยากทำอะไร อะไรก็ทำ อยากพูดหยาบคายไปสุด ๆ ยิ่งดี อะไรก็พูดได้ ด่าใครก็ได้ จะต่อยตีใครก็ได้ โดยคิดว่าเป็นเรื่องเสรีภาพนั้น มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือ?

แต่ทุกวันนี้ก็มีคนคิดและทำเช่นนั้น ดูตัวอย่างที่พวกมาชุมนุมเดินขบวนด่าคนอื่นเขาอย่างอึกทึกครึกโครมบนเวที แล้วอ้างว่ามีสิทธิตามหลักเสรีประชาธิปไตย ใครขัดแย้งห้ามเราพูด ห้ามเราทำ ผู้นั้นนั้นเป็นเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย นั้น มันถูกต้องหรือไม่ แต่สำหรับชาวพุทธเอง ในเรื่องวาจาคำพูด ศาสนาพุทธเรา ยิ่งให้ต้องระวัง จนบัญญัติเป็นศีลข้อสำคัญข้อหนึ่งของคนพุทธทั้งโลก นั่นก็คือศีลข้อ 4 ห้ามกล่าวคำเท็จ หรือการโกหก และมีรายละเอียดไปโดยสมบูรณ์ 4 คำพูด คือ (1.) คำโกหกหรือคำเท็จ (2.) คำหยาบคาย (3.) คำเพ้อเจ้อ คือไร้เหตุผลพูดอะไรมาให้ร้ายคนอื่นแบบที่ไม่มีเหตุผลเลย นี่แหละเพ้อเจ้อ และ (4.) คำส่อเสียดคือคำพูดยุแยกให้แตกสามมัคคีธรรมของสังคมเรานั้นเอง แบบนิทานเรื่องกา เวลาไปหาราชสีห์ก็พูดอย่างหนึ่ง เวลาไปหาเสือก็พูดอย่างหนึ่ง จนเกิดทำให้เสือและราชสีห์ เจ็บใจโกรธกันและกันเผ่นออกมากัดกัน นั่นแหละ มีเยอะมากเลยในสังคมไทยวันนี้

-----*****-----

ชุดที่ 4..เรื่อง

การเมืองเสนอให้คิดคนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริง ๆ ชุดที่ 3 

14. เรื่องที่ 1.  ประวัติศาสตร์การปลุกระดมมวลชนจากฝรั่งเศสฝ่ายค้านไทยยุคนี้เอามาเป็นแบบอย่างอย่างงมงาย

1.

ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ :-เรื่องที่คนไทยนักประวัติศาสตร์ จะให้ความสนใจทางการเมืองก็คือ เรื่องราวจากฝรั่งเศส เริ่มจากการปลุกระดมเรื่อง สิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมือง แบบที่ทางพรรคการเมืองฝ่ายค้านไทยเราทำอยู่ตลอดมาถึงวันนี้นั้นเอง  ...

แต่ฝรั่งเศสก็คือฝรั่งเศส  ไม่เหมือนไทยเราเลย ฉะนั้นไม่น่าจะมีความหวัง  ไทยเรานั้น ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์ กับประชาชน นั้นมีมาแบบสันติธรรมและมีเมตตาธรรมมาตลอด ไม่เหมือนฝรั่งเศส ซึ่งฝรั่งเศสนั้น มีศาสนาคริสต์ครอบงำ ที่นำไปสู่เผด็จการกษัตริย์ขุนนางปกครองแบบศักดิ์สิทธิ์ แบบมีโองการพระเจ้าครอบงำ สั่งการอย่างไรก็ได้ แบบที่สั่งการกษัตริย์ยุคนั้นไปรบในสงครามครูเสดกลายเป็นสงครามศาสนาร่วม300ปีต่อมา ตายไปกว่า 7 ล้านคนนั้นเอง  และกลายเป็นเรื่องความกดดันอย่างลึก อย่างสุด ๆในจิตใจของความเป็นคน ผู้รักเสรีภาพ จึงนำไปสู่  การระเบิดออกมาในยุคสมัยมืดของฝรั่งเศส ดังกล่าว  

เราเริ่มศึกษาฝรั่งเศสมาตั้งแต่ฝ่ายต่อต้านระบบเดิม คือแบบนักเดินขบวนแบบไทยวันนี้นั่นเอง รวมพลังมวลชนไปทำลายคุกบาสติล  ในปี ค.ศ. 1789(พ.ศ.2332) ปลดปล่อยนักโทษออกมา เป็นหัวหอกของการปฏิวัติ  แล้วมุ่งสู่พระราชวังแวซายส์  ประกาศตั้งสาธารณรัฐในเดือน กันยายน ค.ศ.1792(พ.ศ.2335)   ไล่ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศส 

พระราชวังตุยเลอรีถูกบุกเผาทำลายในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.1793(พ.ศ.2336)  #พระเจ้าหลุยที่ 16 ทรงถูกประหารชีวิตท่ามกลางเสียงโห่หิวโหยของมวลชน ในปีนั้นเอง  นับแต่นั้นไปจึงเกิดปั่นป่วนไปทั่วแผ่นดินฝรั่งเศส สถานการณ์แห่งการจองเวรและการแก้แค้นทางการเมืองฝรั่งเศสจึงไปสู่ยุคเลวร้ายไร้ความกรุณาปรานี ที่นักประวัติศาสตร์ตั้งชื่อว่า #ยุคแห่งความน่าสะพรึงกลัว นั่นเอง  หนึ่งปีเต็ม ๆ ต่อไป ระหว่างปี ค.ศ. 1793- 1794(พ.ศ.2336 -2337 ) มีผู้เสียชีวิต ถูกสังหารไปในฝรั่งเศส  16,000 – 40,000 คน

2.

 เหตุการณ์สงบ ลงจากนายพลนโปเลียน โบนาพาร์ต นายทหารปืนใหญ่  ถูกสั่งการให้ไปดูแลพวกก่อการร้ายที่ก่อการร้ายปลุกระดมมวลชนมาต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลไม่หยุดหย่อน ในยุคที่ต่อเนื่องมาจากยุคที่น่าสะพรึงกลัวคนตายเป็นว่าเล่น แห่งฝรั่งเศสนั่นเอง  และเมื่อนายทหารปืนใหญ่คนนี้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ปราบปรามการจลาจลแบบที่ใคร(ขุนนางฝรั่งเศส)ไม่อาจจะเชื่อได้ว่าจะหยุดยั้งลงได้ง่าย ๆแบบที่ปราบปรามมาตลอดก็เอาไม่อยู่ไม่มีสงบลงนั่นเอง  

แต่นโปเลียน  โบนาพาร์ต ทำได้ง่ายๆ บอกว่าไม่ยากหรอก คอยดู  นั่งอยู่เฉย ๆ เถอะ  ไม่ต้องทำอะไรมาก  ก็เอาปืนใหญ่ไปตั้ง ตรงที่พวกฝ่ายค้านนักปลุกระดมมวลชนยกขบวนจะเดินมาไล่รัฐบาล   แล้วพอตั้งขบวนใหญ่ เคลื่อนมาถึง  หลบมุมมาเข้าทางปืน ก็ไม่มีการพูดการจาอะไร  ก็กดปืนใหญ่ไปตูมสองตูมเท่านั้นเอง  พวกกะเลวะราดนั้น ก็กระจัดกระจายหายไปหมด ตายไปเกือบหมด   แล้วนโปเลียนก็เอาทหารราบๆไปตามจัดการ  เกลี้ยงไปหมดแผ่นดินฝรั่งเศส ที่จลาจลมา 3-5 ปี ก็จบ   จากนั้นทหารก็ครองประเทศ หยุดยุคมืดน่าสะพรึงกลัวลงไปได้ตั้งแต่นั้น   

และตั้งแต่นั้นมานโปเลียน  โบนาพารตก็ยึดอำนาจ  บอกพวกขุนนางว่า  ไปเสียสิ  เราจะครองบัลลังก์แล้ว  พวกนั้นก็ไปโดยดี   นโปเลียนชนะใจประชาชน   แผ่อำนาจทางทหารไปทั่วโลก เป็นมหาอำนาจฝรั่งเศส   สร้างประวัติศาสตร์การทหารโลกขึ้นมาให้ศึกษาทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีต่อมา  นโปเลียนขึ้นครองราชย์ เป็นจักรพรรดิฝรั่งเศส  ต่อมาอีกร่วม 20-30 ปี 

3.

 เรื่องที่เล่ามานี้ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นเรื่องราวร้ายแรงที่น่าเป็นตัวอย่างว่า ไทยเราไม่เหมือนฝรั่งเศสหรอก

และแท้จริงเหตุการณ์ปลุกระดมมวลชนของฝรั่งเศสในยุคนั้น   ไม่อาจจะเอามาทำเป็นแบบเป็นอย่างในไทยได้เลย ยุคไหนก็ตาม    เพราะ กษัตริย์กับศาสนาพุทธนั้นมีความสัมพันธ์กันมาตั้งแต่ยุคพระบรมศาสดาเอง เพราะทรงเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ กษัตริย์ทรงมาเป็นพระบรมศาสดาศาสนาพุทธเอง แล้วกษัตริย์ทั้งชมพูทวีปก็นับถือบูชาธรรมะของพระองค์ ช่วยเผยแผ่ศาสนาพุทธไปทั้งชมพูทวีปสงบ  โดยเฉพาะอโศกมหาราช 200 ปีต่อมานั้นเอง  ช่วยเผยแผ่ทำนุบำรุงพุทธศาสนา ไปทั่วโลก  มาถึงไทยสยามประเทศ ถึงทุกวันนี้ 

นี่คือความหมายที่ว่าชาวไทยชาวพุทธนั้นมีความใกล้ชิดสถาบันกษัตริย์ เสมือนเป็นสายเลือดเดียวกันนั่นเอง  เพราะเป็นสายเลือดเดียวกันมากับพระบรมศาสดาศาสนาพุทธนั่นเอง    ก็ไม่เหมือนฝรั่งเศสเลย   ไทยไม่มีลักษณะที่จะปลุกระดมได้อย่างฝรั่งเศส 

แม้ฝรั่งเศส เมื่อเอาการปลุกระดมมาคิดสร้างฐานอำนาจการเมืองการปกครองของฝ่ายค้านขณะนั้น  ก็ทำไม่สำเร็จ มีแต่ก่อความวอดวายพินาศแด่ฝ่ายตนเองเองทั้งประเทศ ฝ่ายค้านนักปลุกระดมเองก็เสมือนกับเครื่องมือแห่งการเมือง ที่วอดวายไปเอง ตลอดเวลาที่มีพวกนี้ดำเนินการอยู่ ยุคที่ว่า ยุคตายกันเป็นว่าเล่นน่าสะพรึงกลัวที่สุด นั่นเอง  ที่สุดวอดวายไปอย่างง่าย ๆ  ด้วยนโปเลียยน โบนาพารต ผู้ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์ทหารโลกขึ้นอย่างเด่นดัง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส ๆ รุ่งเรืองต่อมาถึงร่วม 200 ปี  ..

4.

 ในวันนี้ การเมืองไทยเรา โดยพรรคฝ่ายค้านพรรคก้าวไกล อนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  มาถึงขั้นตอนไหน  ในการคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นั้นเริ่มชัดเจนขึ้นแล้วตามลำดับ..และวันนี้ ที่เอาเรื่องในฝรั่งเศสมา  ก็เพื่อประชาชนไทยเราจะได้มีมีสติ ร่วมพิจารณาไปอย่างถูกต้องมีเหตุมีผล   จะเห็นว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้าน คือพรรคอนาคตใหม่ก้าวไกล นี่เอง  ได้นำยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการปลุกระดมมวลชนและทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ มาจากฝรั่งเศสยุคน่าสะพรึงกลัวนั้นเองมาใช้ในการเมืองไทย  โดยมุ่งหมายในการยกเลิกล้างสถาบันการเมืองเดิม และสถาบันกษัตริย์ ที่เห็นชัดไปตามลำดับแล้วตั้งแต่การชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 10 ส.ค.2563  

ดังจะเห็นเป้าหมายของพวกเขา และหลักการปลุกระดมมวลชน  และการโฆษณาชวนเชื่อ วาทะวาจา ถ้อยคำการปลุกระดมมวลชนก็คล้ายคลึงเอามาจากฝรั่งเศสทั้งนั้น แต่โดยเข้าใจผิด ๆ ไปหมด และโดยคิดอย่างคนยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 นั่นเอง คิดจะเผาล้มล้างพระราชวังแวซายส์  เอาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไปปลงพระชนม์ชีพด้วยอาวุธเครื่องประหารพิเศษคือ กิโยติน นั่นคือยุคที่นักประวัติศาสตร์เรียกกันว่า ยุคน่าสะพรึงกลัว   แต่แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้น ฝ่ายก่อการร้ายนั้น ก็ไม่สามารถระงับยับยั้งได้  ตนเองก่อปัญหาให้ตนเอง  ผู้ก่อการยุคนั้นทั้งหมดนับแต่เจ้าความคิดผู้มักใหญ่ใฝ่สูงนับแต่ โรแบสปิแยร์ครองอำนาจเผด็จการยุคนั้น  จึงหายไปจากแผ่นดินฝรั่งเศส หายไปจากโลกไม่มีใครได้ดิบได้ดีได้เป็นใหญ่เลย 

5.

ฉะนั้น ดูไทยยุคนี้ก็ วันนี้ เริ่มมาตลอดจากหัวคิดต่ำตื้นของนักการเมืองพรรคการเมือง ที่จะเอายุทธศาสตร์ ยุทธวิธีแบบฝรั่งเศสยุคนั้นมาใช้  จนมาถึงวันนี้ จึงเห็นได้ชัดว่า เขาต้องการจะล้มล้างสถาบันการเมืองเดิม(จะเอาระบบประธานาธิบดีมาใช้แทน ระบบนายกรัฐมนตรี) โดยจะต้องล้มล้างสถาบันกษัตริย์ อย่างที่มีแผนการไปทีละก้าวย่าง ทีละขั้นตอนมาตลอด   แต่อย่างที่บอกนั้นเอง  เราพูดวันนี้เพื่อบอกว่า พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกลควรจะหยุดคิดเสียเถิด ไม่ควรคิดมักใหญ่ใฝ่สูงแบบเห็นแก่ตัวเช่นนั้น  คนไทยไม่ใช่คนประเทศไหนเลย  คนไทยคือคนไทย  ไม่อาจจะใช้วิธีแบบคนฝรั่งเศสยุคปลุกระดมล้มล้างสถาบันกษัตริย์ได้ เพราะผลก็คือมีแต่นำไปสู่การจลาจลฆ่าฟันกันจนเกิดกลียุค น่าสะพรึงกลัวนั่นเอง

จึงวันนี้ มีคำถามว่า พรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล เพื่อไทย   เราจะเอาอย่างนั้นหรือ ?        แต่มองพรรคฝ่ายค้านวันนี้ด้วยเหตุด้วยผลแล้ว ใครก็จะเริ่มเห็นแล้วว่า  คิดผิดมาตลอด  ไม่คิดเหตุและผล  พยายามใช้ยุทธศาสตร์การปลุกระดมมวลชนแบบฝรั่งเศสยุคนั้นเลย  พยายามเอาหลักการโฆษณาชวนเชื่อของคอมมิวนิสต์มาใช้ปลุกระดมมวลชนล้างสมองมวลชนนักเรียนนิสิต นักศึกษา   มาวันนี้ มาปลุกให้คนชั่วคนเลวรวมกันเป็นหมวดหมู่เป็นคณะเป็นองค์กร   ปลุกปั่นล้างสมองให้เห็นความชั่วเป็นความดี  

นั่นรวมไปถึงการยุให้คนที่ทำผิดกฎหมายลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างไม่ต้องคำนึงความดีความชั่ว ความผิดความถูกตามกฎหมายบ้านเมืองเลย  ปลุกให้คนทำชั่วแบบไม่คำนึงศีลธรรมอันดี  แบบคนนับถือศรัทธาในธรรมะของพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่เริ่มจะให้คนเชื่อในความเลว ไปปลุกให้คนที่ทำผิดกฎหมายให้ตื่นตัวมาเข้าข้างตนผู้คิดล้มล้างศาสนาและพระมหากษัตริย์ ปลุกให้นักโทษในเรือนจำทั้งประเทศไทยคิดแหกคุกคิดก่อการจลจล  

ดังที่ปรากฏขึ้นมาจากการปลุกปั่นเยาวชนปลดแอด นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศแล้วลงมาถึงระดับชั้นประถม อนุบาล  ที่ปรากฎนักเรียนวันที่ 17 ส.ค.นี้เอง ให้รวมกันเป็น  คณะองค์กรนักเรียนเลว ไม่มีครูบาอาจารย์ที่ต้องรำลึกนึกถึงบุญคุณและจริยธรรมอันดี ตามหลักสัจธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  

6.

มันก็มีเค้าของการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามที่ฝ่ายค้านต้องการบ้าง  แต่อย่างที่บอกคือ ไม่รู้คิด  คุณจะได้อะไร และที่สำคัญก็คือ  คนไทย ไม่ใช่ฝรั่งเศส ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศฝรั่งเศส  และถึงเป็นไปแบบฝรั่งเศส ฝ่ายค้านนี้ฝ่ายเดินขบวนนี้ก็ไม่ได้อะไรมีแต่จะเกิดจะพบความพินาศฝ่ายตนและประเทศชาติเท่านั้น   ในเรื่อง ประชาธิปไตยเรา ฝ่ายค้านก็เพียงเอามาแอบอ้าง ในเรื่องผิดๆคือเสรีภาพ ที่นำไปยุยงนักเรียนนักศึกษา เยาวชน ให้ทำผิดกฎหมายทำผิดแบบแผนประเพณีวัฒนธรรม และโดย เอาหลักการประชาธิปไตยมาใช้ผิด ๆ ไม่รู้ที่มาที่ไปของประชาธิปไตยเลย  เพราะแท้จริงหลักการเหล่านี้มาจากศาสนาพุทธนั้นเอง 

นั่นคือเสรีภาพ หรือ liberty  นั้น หมายถึงเสรีภาพของคนทุกคน คนอื่นเขาก็มีเสรีภาพ ฉะนั้นหลักเสรีภาพประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมีเหตุมีผล  การใช้สิทธิของเราจะต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น  จะไปคิดว่าอยากทำอะไรก็ทำได้ ไปตีหัวใครก็ได้เป็นเสรีภาพนั้นไม่ได้ เพราะมันไปขัดเสรีภาพของคนอื่นนั่นเอง

ในหลักการข้อที่ 2  เรื่อง Equality  ความเสมอภาคนั้น นั่นคือหลักการความเป็นคนเสมอกันนั่นเอง  ประชาธิปไตยต้องเคารพความเป็นคนของผู้อื่นตามที่พุทธศาสนาสอนเอาไว้นั่นเอง    ซึ่งในเรื่องนี้ หากไม่มีความเสมอภาคแล้วก็จะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้  ซึ่งพระมหาก ษัตริย์ไทยก็ทรงมองกาลไกลจึงได้ทรงวางฐานระบบเริ่มต้นให้แล้ว  นั่นคือทรงเลิกทาสนั้นเอง เพราะตราบใดทึ่คนเป็นทาสอยู่ ย่อมไม่อาจเรียกว่ามีความเป็นคนเสมอคนอื่นหรือมี equality ได้  ความเป็นทาส นั้นไม่อาจจะเป็นประชาธิปไตยได้  ซึ่งเราทำได้แบบสันติวิธี ไม่เหมือนอเมริกาเขาถึงต้องทำสงครามทาสเพื่อประชาธิปไตย 

7.

และหลักการข้อที่ 3  ภราดรภาพ Fraternity นั้นแหละ ประชาธิปไตยที่แท้จริง  ที่เราไทยเราเองมีสิ่งนี้อยู่เต็มแผ่นดินแล้ว คือความเป็นพี่เป็นน้อง หรือ ในภาษาพระพุทธศาสนาก็คือ  เราไทยทั้งหมดนี้มีความเป็นญาติธรรมกันทุกคนอยู่แล้ว นั่นแหละ คำว่าญาติธรรม นั่นแหละที่ฝรั่งเรียกว่า ภราดรภาพหรือ คำว่า Fraternity  และ เห็นไหมว่าประชาธิปไตยนั้น ฝรั่งเขาเอามาจากพระพุทธศาสนาเรานั้นเอง   

เรามีสามสิ่งนี้โดยถูกต้อง  ก็เป็นประชาธิปไตยได้ แบบสันติธรรม และซึ่งฝ่ายค้านวันนี้ ที่พยายามทำอะไรไปแบบตามก้นยุคอันตรายของฝรั่งเศสแล้วก็จะต้องรับผลกรรมไปตามลำดับ  อะไรที่เป็นกฎหมาย อะไรที่เป็นวัฒนธรรม  ก็ต้องเคารพ  หากไปทำผิดกฎหมายเข้าก็ต้องรับผลทางกฎหมาย นั่นแหละหลักการปกครองทุกระบอบการเมือง   การคิดจะนำไทยไปสู่ยุคมืด ยุคแห่งความหวาดหวั่นอย่างฝรั่งเศสนั้น มองเห็นจากฝ่ายค้านก็คือการต่อต้านมาตรการต่าง ๆ ของการสาธารณสุขและต่อต้านคำสั่งทางการบริหารของรัฐบาลมาตลอด ในกรณีโควิด-19 โดยพยายามพังปราการนี้ลงเสียให้เกิดความพินาศปั่นป่วนขึ้นในประเทศไทยให้ได้ 

แต่อย่างไรก็ตาม  ไทยไม่อาจจะเดินไปแบบฝรั่งเศสได้ ตามความคิดของผู้อยู่เบื้องหลังพรรคฝ่ายค้าน พรรคอนาคตใหม่ก้าวไกลหรือ เพื่อไทยได้ และนั่นแหละเราจึงจะต้องตื่นขึ้นมามองเหตุการณ์เสียแต่เนิ่นๆ โดยพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ด้วยหลักการเมืองที่ถูกต้องด้วยกฎหมายและระเบียบวัฒนธรรมประเพณีชาวไทย และด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันทั้ง 3 คือ ชาติ  ศาสนาและพระมหากษัตริย์  ที่มีมาพร้อมความเป็นคนไทยมาแต่อดีต 

ซึ่งนั้นหมายความถึงชาวพุทธ ทั้งประเทศ ทั้งโลกที่จะเห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยว่าทรงมีพระคุณต่อชาติ ต่อศาสนาและจะควบคู่ไปเป็นระบบ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดกาลนิรันดรข้างหน้า.ผู้ใดมุ่งหมายทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย จึงต้องมองดู และร่วมป้องกันแก้ไขภัยอันตรายนี้เสียแต่เนิ่น ๆ  และให้หายไปหมดจากแผ่นดินไทยแบบสิ้นเชื้อ แบบฝรั่งเศสที่เริ่มสมัยนโปเลียน โบนาพารต นั่นเอง

ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ 21ส.ค.2563 15.30 น.

-----*****-----

15. เรื่องที่ 2. แม้สถาบันการศึกษาไทยยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย สอนศิษย์แบบเด็ก ๆมา 86 ปีถึงวันนี้

ที่ได้วิเคราะห์มาตลอด และล่าสุดได้ออกความเห็นว่า การเมืองไทยตั้งแต่มีการปฏิวัติ ปี 2475 มานั้น ยังไม่สามารถเป็นประชาธิปไตยได้เลย  จน 86 ปีผ่านมาถึงวันนี้  การเมืองไทยก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม คือเดินไปไม่ได้ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด  ที่ได้วิเคราะห์สรุปมาให้ทราบแล้ว  นั่นคือ "ตั้งแต่ 24 มิ.ย.2475 มา วงศ์กษัตริย์ไทย มิได้มีอำนาจทางการเมืองอย่างเผด็จการเดิมอีกต่อไป แต่ทหารเขายังอยู่ ยังมีอำนาจอยู่ตลอด และเนื่องจากการเมืองประชาธิปไตยเราตั้งแต่ 2475 มา ยังเป็นประชาธิปไตยเด็กๆ อยู่ เมื่อมีการเลือกตั้งได้รัฐบาลมา จึงเป็นรัฐบาลเด็ก ๆ สภาเด็ก ๆ    อย่างไร ?

ก็อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แหละครับ มีพรรคการเมืองที่เป็นเด็ก เข้าใจผิดๆ ไปหมดเลย คือไปอ้างอิงเสรีภาพ อ้างอิงการกระทำอิสระมีอำนาจของตนเอง มีสิทธิเสรีภาพของตนเอง แต่เข้าใจไปว่าสิทธิประชาธิปไตยนั้นคือสิทธิที่จะทำอะไรตามใจตนเองได้หมด ..... คิดว่าประชาธิปไตยทำอะไรก็ได้ตามใจ ดีแต่ด่าเขา ด่าไปไม่เกิดผลก็โกรธ ก็ไปอ้างเอาการเมืองนอกสภา คืออ้างประชาชน ระดมประชาชนมา.."  

ทีแสดงความเป็นเด็กชัด ๆ อีกอย่างหนึ่งขณะนี้ของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เพื่อไทย และ  อนาคตใหม่ ก็คือ  คิดแบบเด็ก ๆ  จะเอาอะไร  จะเอาให้ได้โดยไม่มีเหตุผล  โกรธใครเข้าก็จะเข้าไปตีหัวเขา โดยไม่คิดว่าเขาจะตีหัวคืนบ้าง พอเขาตีคืนบ้างก็หาว่าเขารังแกเด็กไปอีก (เช่นกรณีนายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ นั่นเอง ไปโกหกพกลมศาลเขา เรื่อง บัญชี เรื่องการโอนเงิน ฯลฯ  จนเขาไล่ออกจากรัฐสภา มาถึงวันนี้ก็ได้แต่ด้อม ๆ มอง ๆเข้าไปในสภา  นั่นเอง)

ที่ต้องคิดและต้องมองดูให้ดี ก็คือ   ตั้งแต่มีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อ 24 มี.ค.2562  มานั้น  เป็นสถานการณ์ที่ประเทศไทยเราว่างจากรัฐบาล  โดยหลักการ รัฐบาลรักษาการณ์เท่านั้น  เท่ากับว่ารัฐนาวา  หรือเรือใหญ่ไทยที่ขนคนไทยทั้งประเทศ   ที่กำลังเดินพาคนไทยทุกคนทั้งหมด 69 ล้านคนนี่ ฝ่าไปกลางมหาสมุทร์ ท่ามกลางธรรมชาติที่โหดร้าย  และอริราชศัตรู และปัญหานานาชนิด 

สิ่งที่ต้องคิดให้ถูกต้องก่อนก็คือ เรื่องส่วนรวมของประเทศชาติ   หรือเป้าหมายว่าว่า  ชาติ  ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ นั้น  คนไทยจะต้องคิดเหมือนกันหมด ตรงกันหมด   มุ่งไปแบบเดียวกันทุกคนเป้าหมายเดียวกันหมด  และด้วยสามัญสำนึกนี้ สิ่งที่เราจะต้องให้มีอยู่ตลอดเวลาก็คือประเทศเรา เรือใหญ่หรือรัฐนาวาไทย  จะปราศจากกัปตันเรือไปไม่ได้ แม้แต่นาทีเดียว    กัปตันผู้นำเรือไปในทิศทางที่รอดปลอดภัย ก็คือ  จะต้องรีบหากัปตันเรือคนมีอำนาจหน้าที่มาอย่างเร็วที่สุด  ให้ได้ก่อน  ซึ่งในวันนี้ เราก็ได้เสียเวลาในการนี้มาตั้งแต่มีการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 มาร่วมครึ่งปี แล้ว   

แต่จะเห็นว่าพรรคฝ่ายค้าน มีอนาคตใหม่นี่  คิดเป็นใหญ่เป็นโต  เหมือนเด็ก ๆ  ที่พอตนไม่ได้อะไรดังใจก็โกรธ งอแง พาลทำทุกอย่างไม่ยอมรับคนที่เขาได้อะไรผิดใจเรา เหนือกว่าเราตามกฎตามกติกา  จนมาถึงบัดนี้  กว่าจะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ  ประชาชนไทยทั้งชาติก็ได้เสียเวลามา ทางฝ่ายพรรคการเมือง นักการเมืองก็ต้องฝ่าฟัน เสียเวลา เสียพลังงานไปมาก  จนกว่าจะตั้งรัฐบาลได้   และเมื่อตั้งรัฐบาลได้นั้น  แทนที่จะคิดแบบผู้ใหญ่  การเมืองเด็กฝ่ายค้าน แทนที่จะมองว่า  เรือใหญ่ไทยได้กัปตัน  รอดตัวไปแล้ว  ต่อไปนี้เรือใหญ่เราก็จะมีผู้ตรวจตรานำทางไปอย่างถูกต้อง มีคนมารับใช้เรา ทำงานแทนเราแล้ว   รอดพ้นภัย  มรสุมต่าง ๆ ก็จะได้รับการแก้ไข   แต่ไม่คิดอย่างนั้น   เพราะเด็ก  ตนไม่ได้นั่นไม่ได้นี่ ก็ไม่ยอม  ออกปากด่าว่าตลอด  และไม่เท่านั้นยังกลับคิดขัดขวางอย่างสุดฤทธิ์ ไม่ให้กัปตันรัฐนาวา (คือคณะบริหาร ตุลาการ และ นิติบัญญัติ ที่ได้มาใหม่) พาเรือเดินไปในทะเลที่กำลังมีคลื่นลมปั่นป่วนอย่างที่สุดอีก  

นี่แหละจึงบอกว่า  การเมืองเด็ก ๆ ตนไม่ได้เป็นรัฐบาลก็โกรธ คิดจะให้ตนได้เป็นให้ได้ โดยไม่คิดแบบผู้ใหญ่เขา    ก็คิดว่าอีก ปี  ตนก็จะมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งได้  ตามกฎกติกาประชาธิปไตย  ตามหลักการแบ่งปันอำนาจการเมืองกันของระบอบประชาธิปไตยนั่นเอง เข้าใจตรงนี้กันหน่อย   

ขณะนี้ได้รัฐบาล ก็ควรให้รัฐบาลทำหน้าที่กัปตันเรือใหญ่ไปให้รอดมรสุมพายุร้ายไปก่อน  แต่ไม่คิดอย่างนี้   ท่ามกลางมรสุมนี่เอง  ตนคิดอยู่อย่างเดียวคือจะต้องชิงตำแหน่งกัปตันเรือให้ได้ทุกเล่กล   ว่าไปแบบเด็กเลย  เช่นขณะนี้ก็เอาเรื่องในหลวงมากล่าวหาเขา  โดยคิดว่าจะเอาเขาล้มได้ ด้วยเรื่องทรยศต่อกษัตริย์นี่แหละ เพราะเรื่องในหลวงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย  และทั้งคิดกลบเกลื่อนความผิดตัวเองที่ร้ายแรงมากมีเหตุผลจริงในเรื่องในหลวงนี้  .... 

แล้วการพูดก็เหมือนเด็ก ๆ จะให้มีการเลือกตั้งใหม่  ล้มรัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชาเสีย โดยเหตุโดยผลของรัฐบาลโจร (ว่าเขามาอย่างนี้โดยตลอดแต่ประชาชนเขารู้ดีอะไรเป็นอะไร)  ตั้งรัฐบาลใหม่  ก็เด็กนี่ก็น่าจะได้รู้ว่า   หากมีเหตุให้ประเทศไทยเราว่างไปจากรัฐบาล  ไม่ว่าโดนล้มไปเพราะเราๆชนะได้ ก็ตาม หาเรื่องล้มรัฐบาลลง  แล้ว   เรือใหญ่ก็จะไร้กัปตันเรือไปอีกครั้งหนึ่ง ภาวะการล่มสลายของประเทศ ประชาชนทั้งชาติก็มีสูงไปกว่าเดิมไปอีก  และก็ยังไม่ทราบว่าจะผ่านพ้นวิกฤตไปเมื่อไร  แล้วจะประกันได้อย่างไรว่าใครจะได้เป็นรัฐบาลใหม่  มาเมื่อไร  ท่านจะประกันได้อย่างไรว่าหากล้มรัฐบาลประยุทธ ลงได้วันนี้  นายธนากร จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ และจะได้เป็นเมื่อไร   ....ทำไมเราจะต้องเสี่ยงอย่างนั้นล่ะ    รออีก ปี  ก็หากประยุทธ ได้รับเลือกอีกล่ะ  อนาคตใหม่นี่คงอกแตกตายไปเอง แบบจิวยี่มั้ง นี่แหละเด็ก ...

แล้วมรสุมร้ายของประเทศนับแต่ภัยแล้ง  คู่ไปกับ ภัยน้ำท่วมขณะนี้    และปัญหาความยากจนยากไร้ของปีนี้ก็มีมากจริง ๆ(อันเป็นปัญหาของประชาชนทั่วไป และที่น่าสังเกตก็ปัญหาความยากจนของนักการเมืองไทย เรานี่เองพลอยเป็นเหตุปัญหาการเมืองรวมไปด้วย)  อันเกิดจากปัญหารวมทางเศรษฐกิจโลก นับแต่น้ำแข็งขั้วโลกละลายลงมา  การต่อสู้ทางเศรษฐกิจ   ที่กำลังผันผวน  ปั่นป่วนไปไม่เฉพาะไทยเรา แต่ทั้งโลก โลกที่ แม้โลกเองก็กำลังทำสงครามเศรษฐกิจโลกกันอยู่ขณะนี้  นับแต่อเมริกา กับ จีนแดง ประกาศกันไปอย่างเปิดเผย แต่ไม่ยอมกัน   ก็ยังทำศึกสงครามแบบใหม่กันอยู่  คือสงครามเศรษฐกิจวันนี้นั้นนับเป็นสงครามโลกเลยทีเดียว

ตามที่โดนัล ทรัมพ์ พอได้เป็นประธานาธิบดี ก็ประกาศให้กองทัพเตรียมทำสงครามโลกไว้เลยและขณะนี้เริ่มด้วยสงครามเศรษฐกิจ)  นั้นย่อมมีผลไปทั่วโลกและไทยเราเองผันผวน ปั่นป่วนตามไปด้วย   ทำไมพรรคการเมืองฝ่ายค้านจึงไม่รู้จักคิดดี พูดดี ทำดี บ้าง (ซึ่งมันเหมือนกับที่ทำมา 86 ปีแล้ว นั่นเอง  ทำไมไม่รู้จักแก้ไขแบบวิธีให้ถูกต้อง)

และต้องเข้าใจว่า ประชาธิปไตยจะเจริญไปไม่ได้หากสร้างอารยธรรมประชาธิปไตยขึ้นไม่ได้ ซึ่งเบื้องต้นของอารยธรรมประชาธิปไตยนั้นก็คือ การต่อสู้ทางการเมืองนั้นต้องต่อสู้มีเหตุมีผลตามกฎกติกาขณะนั้น  และต้องต่อสู้อย่างสันติวิธี  ด้วยความเป็นมิตร  โดยสงบกาย วาจา และใจ  นั่นคือสันติธรรม และที่ต้องเข้าใจ มีจิตใจที่เต็มใจจริง ๆ แท้จริงเป็นการต่อสู้ระหว่างคนไทยด้วยกัน คนที่รักกันไม่ใช่ศัตรูกัน คือคนในครอบครัวเดียวกัน  ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างศัตรู  ต้องไม่มีการห้ำหั้นด้วยอารมณ์ร้ายโลภ โกรธ หลง กันเลย ไม่ถึงต้องฆ่าฟันกันนั่นเอง   โดยที่ต้องมองคู่ต่อสู้เราเป็นมิตร เสมอไป..นี่แหละกฎประชาธิปไตยเบื้องต้น  ไม่มีกฎนี้ ประชาธิปไตยไทยเกิดขึ้นไม่ได้ (ดูอเมริกา อังกฤษ คานาดา  ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เป็นแบบอย่าง)   ขาดอารยธรรมประชาธิปไตย ก็จะต้องเป็นเด็กเกเรต่อไป ...

แม้เรื่องรัฐธรรมนูญ ก็คิดแบบเด็ก ๆ  คือไปพบอะไรที่ตนไม่ชอบ ไม่ถูกใจก็ดิ้น จะให้แก้ให้ได้  นี่แหละเด็กจริง ๆ แม้กระทั่งจะให้แก้เรื่อง กษัตริย์ ตามความคิดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจนั้น  ก็ยังเป็นการมองการเมืองแบบเด็ก ๆ ที่ไม่เข้าใจการเมืองด้วยซ้ำ  เพราะว่าในระบอบประชาธิปไตยนั้น การมีกษัตริย์นั้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับประชาธิปไตยเลย   เป็นการที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์มิได้ทรงมีอำนาจการเมืองเลย แต่เด็กมองผิดไปเป็นร้าย  ซึ่งในที่สุดอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ เหล่านั้น   ประชาชนไทยทั้งประเทศจะต้องติดตามมองดูอย่างมีเหตุมีผล 

แต่สำหรับสถานการณ์วันนี้ ด่วน และในเวลานี้ สิ่งที่ต้องคิดก็คือการจะปล่อยให้เรือ นาวารัฐไทยล่องไปอย่างเคว้งคว้างปราศจากการควบคุมทิศทางไม่ได้  เพราะหากพังไปแล้ว ก็พังกันทั้งประเทศ  เด็ก ๆ จะต้องเข้าใจ   โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่ คือ อนาคตใหม่ ของนายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ  ที่กระหายอำนาจเหลือเกิน น่าจะมองดูตัวอย่างประชาธิปไตยในอังกฤษเขา   กว่าพรรคกรรมกร ซึ่งเหมือนพรรคอนาคตใหม่นี่แหละ  จะได้ชัยชนะ เขาแพ้มาติดต่อกันถึงกว่า10 ครั้ง ร่วม 40 กว่าปี (แต่เขาแพ้ เขาก็ยอมรับมาตลอดว่าเขาแพ้ และยอมรับฝ่ายชนะ  แก้ตัวให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จึงชนะ) จนที่สุดโทนี่ แบล จึงเอาชนะพรรคศักดินานิยมอังกฤษซึ่งเป็นรัฐบาลครองอำนาจมาตลอดได้ เขาทนมาสร้างความดีตามหลักอารยธรรมประชาธิปไตยมาตลอดจึงชนะใจประชาชนได้ และทำให้ประชาธิปไตยอังกฤษ เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ที่สร้างสรรค์ที่สุดในโลกคู่กับประชาธิปไตยอเมริกา นั่นเอง

-----*****-----

ชุดที่ 5. 3 เรื่อง

1.   ม็อบที่ชุมนุมประเด็น 8 ปีนายกรัฐมนตรี  ดูมีค่าหัว ไม่เคารพกฎหมายเลย .. น้ำใสใจจริง” ตอบมา..ด่าแหลก
2.    ทำไมนิธิ เอียวศรีวงศ์ จึงพูดเหมือนเด็ก ๆ ไปขนาดนั้น
3.  ตำรวจใหญ่รวมพวกฆ่าคนผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแบบโหดเหลือเขื่อ
-----

16..เรื่องที่ 1. การเมือง  ม็อบที่ชุมนุมประเด็น 8 ปีนายกรัฐมนตรี  ดูมีค่าหัว ไม่เคารพกฎหมายเลย .... น้ำใสใจจริง” ตอบมา..ด่าแหลก


1.  มาชุมนุมโดยถูกว่าจ้างมีค่าหัว  นี่คือการทำผิดของผู้ว่าจ้าง แบบเดียวกับการซื้อเสียง นั้นเอง ผู้ซื้อเสียง จ้างออกมาชุมนุมต้องถูกลงโทษ อย่างกรณีซื้อเสียง อบจ. ที่พัทลุง  ถึงติดคุกไปทั้ง 2 คน  นี่ก็เหมือนกัน ตำรวจต้องสืบไปถึงมือว่าจ้างรายหัวของคนที่มาชุมนุม   คนที่จ่ายค่าหัวจ้างคนมาชุมนุมก็ถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน  ตำรวจและหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของรัฐทั้งหมดต้องทำหน้าที่และสืบหาบุคคลผู้ว่าจ้าง หาพะยานหลักฐานไว้ให้ครบถ้วน 

2.  ทำผิดกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมาย เมื่อยื่นเรื่องไปแล้วก็ต้องหยุดชุมนุมรอฟังผลการพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ  และเคารพในคำตัดสิน  นี่ศาลรธน.พิพากษาให้พล.อ.ประยุทธ หยุดทำหน้าที่เสียก่อน  รอให้ศาลพิจารณาให้รอบคอบ สักเดือนก.ย.จึงจะออกคำตัดสินอีกครั้งหนึ่งว่าพล.อ.ประยุทธ จะต้องออกจาก นรม.ฐานครบ8ปีหรือไม่  และต้องรอกันอยู่...และพวกม๊อบก็ต้องเข้าใจ  หากแต่ฝ่ายรัฐบาลนั้นต้องมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ อันเป็นไปตามหลักการปกครองปกตินั่นเอง และพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ มีหน้าที่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีต่อไป....แต่ทำไมพวกฝ่ายค้านจึงยังไม่หยุดม็อบอีก ยังคงเคลื่อนม็อบไป ไล่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีชุมนุมที่ทำเนียบต่อไปอีก  นี่เป็นการทำผิดกฎหมาย   ไม่เคารพหลักการในรัฐธรรมนูญ...ประชาชนจะต้องเข้าใจ  มีโทษ  ทุกคนที่ออกมาชุมนุมนั้นมีโทษ   

3.  การที่ขบวนม็อบไม่หยุดการชุมนุม  นั้นคือแผนการเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ จนท่วมประเทศเพื่อการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ พลิกการเมืองไทยไปเป็นสาธารณรัฐที่เบื้องต้นต้องขับไล่กษัตริย์ไปเสียก่อนนั่นเอง นี่คือความผิดมหันต์ของขบวนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ...ประชาชนไทยจะต้องเข้าใจ และลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันกันอย่างเต็มที่  และร่วมมือกับฝ่ายปกป้องความสงบภายในของประเทศอย่างเต็มใจ ......

@สุไหงปาดี ชินกุล ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฎฐ เมฆินทร์  26 ส.ค.2565 23.20น.

ความคิดเห็น 9 รายการ

@@@ น้ำใส ใจจริง

คุณเป็นพระยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่สบายเกินไปในกรงทองพุทธศาสนา.มันจะพลิกเป็นประธานาธิบดีเป็นกษัตริย์ภูฏานแม่งอะไรถ้าชาวบ้านพสกนิกรมีชีวิตดีขึ้นก็เป็นไปเถอะ.พวกมึงแค่มันเป่าหัวว่ามีหวัดพันธ์ใหม่ก็ขี้คร้านจะไปฉีดวัคซีนปัญญาอ่อนกันทั้งวัด   พวกลัทธิกลัวตายหวงชีพไว้สวดหากินและยังใส่แมสเป็นหมาพันธ์ใหม่ตลอดเวลาตามนโยบายหลอนของรัฐเจ้าเล่ห์พันธ์หมาป่า...แค่นี้ก็ตายห่าแล้วพวกอวดฉลาดคลุมผ้าเหลืองชาวบ้านตายห่ามาฟรีๆกี่แสนๆศพแล้ว.และเปลี่ยนมือจากประยุทธ์ครองเมืองมาเป็นประวิตรรักษาการณ์แล้วมันยังหม้อข้าวเดียวกันอยู่มึงไม่รู้ ไอ้ยุท ไอ้วิต ไอ้ป๊อก สามทรราชผลาญชาติรึมึงร่วมผลาญด้วย

ชอบหยิบประเด็นล้มล้างกษัตริย์มึงทำให้ได้สิเดี๋ยวกูจะไปปิดทองหัวไข่มึงเลยกี่แสนๆชาติแล้วพูดอยู่อย่างนี้..นักศึกษาเขาพูดประจานออกสื่อน่ะเพราะเขารู้ว่าอำนาจกษัตริย์ถูกพวกอำมาตย์ขันทีกะล่อนไกล้ชิดพระองค์ชอบดึงอำนาจกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือครอบงำชาวบ้านให้โง่และสูญพันธ์ง่ายๆ.เอามาเป็นเครื่องมือให้รัฐกระหายมหาอำนาจล้มล้างประชาธิปไตยตลอดเวลาเหยียบย่ำพสกนิกรใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทใต้เศษดินใต้เกือกตลอดเวลา....

คนอย่างมึงห่มเหลืองกินข้าว ขอทำงานไม่ได้ ทำงานไม่เป็น.เข้าอาศัยวัดอาศัยช่องโหว่ศาสนาหากิน.ใครแก่ๆทำงานไม่ได้เข้าวัดหญิงบวชชี...ชายบวชพระ....ใชชีวิตกักขฬะ.แต่ขอฐานเสียงสังคมให้ตีค่าเป็นบุคคลชั้นสูงนี่แหละที่ศาสนาอื่นโจมตีขากถุยใส่....ชีวิตบัดซบแต่;!ยกตัวขึ้นสูงส่ง.....มันไม่มีสมองส่วนไหนไปทาบนักศึกษาที่รู้ความอัปรีย์ของพวกครองเมืองไม่ได้เลย..เทียบได้อยู่อย่างก็เห็นจะเป็นคอยอยู่ข้างๆนายกฯประยุทธ์ถอดรองเท้าเช็ดรองเท้าหิ้วรองเท้าให้...จะดี...แต่ต้องใส่จีวรไปด้วยนะ.จะได้เช็ดไข่ประยุทธ์ที่ไปทำพิธีเพิ่มความขลังจากสุนัตถ์ มาพิธีขลิบตัดเปลือกปลายไข่ช่วยเอาจีวรพุทธศาสนาช่วยเช็ดชำระให้ไข่แขก.ไข่ท่านนายกประยุทธ์ทุกๆวันนะจ๊ะ....พระขอทานกุศโลบาย.ขอทานดิจิตอล...ขอทานไฮเทค...อ่ะ.อ่ะ.อ่ะ....

อย่าคิดว่าเราเป็นมือปราบจอมอหังการ์.ยอดศักดาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สูงยิ่งๆนะ.ที่ปราบไปทั่วแหล่งหล้าทุกสมรภูมิวงการ..ไม่เลย!!!เราไม่เป็นอย่างนั้น!!!!อย่ากลัวจนช๊อค.อย่าตกใจจนเอาปืนเอสเค..คาไบล์ยิงถล่มกันเองตายเกลื่อนเมืองล่ะ...อย่าทำอย่างนั้น!!!!

@@@ สุไหงปาดีชินะกุล ฆิกเมฆ ณเมฆิน บัวระย้า ชบาบุณเสฎฐ

น้ำใสใจจริง เราเป็นใครล่ะ ฟังคนจากคำพูดนี่แหละ และที่คุณพูดมานี่แหละบอกว่า ยังไม่เข้าใจการเมือง คุณต้องเข้าใจการเมืองสิ ...และเป็นการเมืองประชาธิปไตย.....คุณต้องเข้าใจก่อนว่า การเมืองคืออะไรที่คุณพูดนี่คุณไม่เข้าใจเลย เมื่อพูดไปบนความไม่เข้าใจ มันก็ผิดไปใหญ่ การแก้ไขปัญหาก็ผิดไป.....มันจะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ไปกว่าเดิมนี้อีกกลายเป็นอันตรายไป..........เราจึงต้องมองการเมืองให้ถูกต้อง ....

ก็การเมืองเรากำลังจะครบวาระ 4 ปีอยู่แล้ว นับว่าเป็นเกียรติ์ที่ไทยสามารถดำเนินการเมืองไปครบรอบวาระโดยสันติได้ แต่พรรคฝ่ายค้าน ที่นำโดยนายทักษิณ ชินวัตรอยู่เบื้องหลัง พยายามไล่รัฐบาลนี้ ซึ่งมาจากหลักการใน รธน.60 ที่เป็นประชาธิปไตย...คุณต้องอ่านให้เข้าใจว่า ตรงไหนที่บอกประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญ...พรรคเพื่อไทยของทักษิณก็ไล่รัฐบาล ออกจากตำแหน่ง ต่อต้านในสภา เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาตลอด 3 ปีมาไม่หยุด...และแม้อยู่ในสภาอันทรงเกียรติ์ ก็ใช้ภาษาหยาบคาย อย่างคุณนี่เอง

ในแต่ละปีก็ขับไล่เรื่องงบประมาณ และอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตลอด และไล่ในสภา ซึ่งตรงนี้คุณต้องเข้าใจว่า.....ทำได้... ไม่ผิด.... แต่การไปก่อม็อบไล่รัฐบาลนอกสภานั้น....มันผิด ฟังดี ๆ ...มันผิด ผิดหากมีการซื้อเสียงคนมาชุมนุม ผิดเพราะการซื้อเสียง ....ต้องไม่มีการว่าจ้างคนมาชุมนุม เพราะจะผิดกฎหมายการเลือกตั้ง...เกี่ยวกับสิทธิอำนาจการเมืองของประชาชน1คน1เสียง.... คนผู้ว่าจ้างจะถูกลงโทษแบบเดียวกับ การซื้อเสียง จ้างลงคะแนนวันเลือกตั้ง นั้นเอง ...ตรงนี้คุณจะต้องเข้าใจให้ได้....ตรงวนี้แหละ แม้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยก็ไม่เข้าใจ สอนผิด ๆ มาตลอด จนควรล้มมหาวิทยาลัยเสียตั้งใหม่ ....

.ทำไมกรณีพัทลุง ผู้จ้าง ซื้อเสียง ลงคะแนนเสียง อบจ. อดีตสส. กับผู้สมัครอบจ.พัทลุง จึงติดคุก .....นี่แหละหลักการเดียวกัน กับการจ้างคนมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล หรือ รมต.คนใดก็ตาม เป็นหลักประชาธิปไตย คุณต้องเข้าใจ... โดยต้องยึดหลักประชาธิปไตยนั่นเอง การชุมนุมนั้น ประชาธิปไตยต้องมากันเอง มีเสรีภาพเอง มากันเอง มาตามสิทธิอำนาจทางการเมืองของตน1 คน 1 เสียงปกครองประเทศ เพราะมาแสดงความเห็น ทางการเมือง หมายความว่าทางการเมืองนั้นมีผลต่อตำแหน่งทางการเมืองเสมอไป เข้าใจไหม ?

ฉะนั้น หากประชาชนมาอย่างมีสิทธิเสรีภาพตนเอง ไม่ถูกซื้อมา ไม่เพราะเราขายเสียงมาชุมนุม... ไม่มีความผิด.... แต่มีการซื้อเสียงมามีความผิด เพราะมีผลทางการเมือง มีผลต่อผู้ครองตำแหน่งทางการเมืองเพราะม็อบมาไล่เขาออกจากตำแหน่ง....คุณต้องเข้าใจ...การชุมนุมทางการเมือง(ไม่ใช่ชุมนุมทางวัฒนธรรม ประเพณี แห่เทียนพรรษา บวชนาค กีฬา ชุมนุมปิติยินดีถวายพระพรวันเฉลิมพระชนม์พรรษา   วันครองราช ท่วมฟ้าท่วมแผ่นดิน ฯลฯ.....เข้าใจคำว่าการเมืองหรือเปล่านี่ ?) .....

แบบนี้ต้องมาแบบเสรีชน ตามสิทธิประชาธิปไตย แต่มาเพราะมีการซื้อตัวมาชุมนุม นั่นแหละเท่ากับการซื้อการขายเสียง มาเพราะมาขายเสียง นั้นแหละผู้ซื้อเสียง ผู้ใช้เงินซื้อแกนนำ ซื้อประชาชนมาชุมนุม ที่เกิดมาตลอด ทำให้การเมืองไทยวุ่นวายไม่รู้จบ เพราะคนยังไม่เข้าใจหลักการตรงนี้นั่นเอง เป็นความผิดแบบเดียวกับการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้ง นั่นเอง....นี่แหละที่สังคมไทยยังไม่เข้าใจ ...และเมื่อมีการชุมนุมแบบนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงของรัฐตำรวจ ทหาร จะต้องสืบหาตัวผู้จ้างผู้ซื้อเสียงประชาชน เอามาลงโทษ ในหลักการเดียวกันกับเรื่องสส.จ้างเสียงลงคะแนนให้ตนนั้นเอง.....มีเสียงกล่าวหามามาก ที่ตำรวจต้องสืบสวน จ้างหัวคะแนนใหญ่(ผู้นำม็อบไหญ่) เป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน จ้างประชาชน ใครมาได้ 1,500 บาท เป็นต้น ก็มีความผิด ฐานซื้อคะแนนเสียง นั้นเอง...........

มันเป็นโทษแบบอันตรายต่อชาติบ้านเมือง เพราะหากละเลยคนต่างชาติมีเงินก็สามารถมาปลุกระดมมวลชน ใช้เงินซื้อประเทศไทยได้ นั่นเอง...เข้าใจไหม? ....สุไหงปาดี ชินะกุล ฆิกเมฆ ณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏ 27 ส.ค.2565 08.30 น.

@พรชัย แขมคำ    ฮุดากกูหนิ

@@@Phayap Panyatharo:สุไหงปาดี- ฆิกเมฆ- บัวระย้า

ไปดูเพจของ น้ำใสใจจริงแล้ว นึกว่าเป็นมุสลิมเสียอีก แต่แท้จริงก็ชาวบ้านเรานี่เอง และยังอ้างเกจิอาจารย์อีกด้วยหลายองค์ แต่ทำไมวันนี้กล่าววาจาดูถูกดูหมิ่นพระสงฆ์ในพุทธศาสนาแบบท้าทายนรกโลกันต์จริง ๆ ยังหรอกยังไม่รู้เรื่องศาสนาพุทธเลย ไม่รู้ธรรมะไม่รู้อธรรม สัมมาทิฏฐิ สัมมาวาจา ไม่รู้ทั้งนั้น วาจาที่ออกมาวันนี้ บาปหนักเลย ต้องรีบทำความดีกลับใจเสีย....แต่ที่พูดมาให้ฟังนี้ เป็นเรื่องการเมือง อ่านดูให้เข้าใจ และให้เป็นประชาธิปไตย ให้เป็น ต้องอดทน ต้องมีระบบ ต้องเป็นไปตามระบบ นั่นคือ ให้มีเลือกตั้งทุก ๆ 4 ปี และประชาชนนั้นเอง เลือกรัฐบาล ......หากคุณไม่ชอบนักการเมืองคนนี้ คุณก็ไม่ต้องเลือกเขา เท่านั้นเอง และไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงอย่างเด็ดขาด นั่นคุก ....เพียงแต่ต้องมีการเลือกตั้ง จะเอาเงินมาจ้างหัวคะแนน จ้างเสียงมาเดินขบวนขับไล่เอาแบบนี้ ไม่เป็นธรรม ไม่ถูก ไม่ใช่ประชาธิปไตย.....

-----

@พรชัย แขมคำ พระแดกเหล้ามันกะแนวนั้นแล้ว@พรชัย แขมคำสมควรโดนด่า@พรชัย แขมคำเด็กเขาทันสมัย@พรชัย แขมคำเขามีมันสมอง

-----*****-----

17.เรื่องที่ 2.ทำไมนิธิ เอียวศรีวงศ์ จึงพูดเหมือนเด็ก ๆ ไปขนาดนั้น

สุไหงปาดี ชินะกุล ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์  บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ

ทำไม นิธี เอียวศรีวงศ์ จึงพูดเหมือนเด็กๆไปขนาดนั้น  จากคลิปเครือมติชน เขาตอบคำถามณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  ว่าผมสนับสนุนเต็มที่ที่จะรวมม็อบไปเดินขบวนไล่ประยุทธ จันทร์โอชา ออกไปจากตำแหน่งให้ได้  พอถามว่าประยุทธออกแล้วจะจัดการระบบไปอย่างไร   แกก็ตอบไม่ได้เพราะแกไม่รู้ว่าการเมืองคืออะไรนั่นเอง แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รธน.60เขียนการเมืองไว้อย่างไร อำนาจทั้ง 3 แกก็ไม่รู้  และที่น่าคิดก็คือแกมองว่าเรื่องนี้ค่อนข้างสลับซับซ้อน มีอำนาจที่สลับซับซ้อนยิ่งใหญ่อยู่หลังประยุทธ  ประยุทธเหมือนกำแพง  หากพังลงไม่เฉพาะกำแพงพัง  แต่หลังกำแพงก็จะพังลงไปด้วย    ซึ่งถึงไม่บอกออกมาแต่แกก็หมายถึงสถาบันนั้นเอง  

นี่คือความหมายของ  นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่มีนักเรียนธรรมศาสตร์นับถือเยอะ ซึ่งนี่อีกคนที่มีความคิดหลักคิดปฏิรูปล้มล้างสถาบันที่เพิ่งเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างชัดแจ้ง ตามความโง่ของตน   และเห็นได้ว่าคนนี้อยู่หลังม็อบมาตลอดเหมือนกัน  และนี่แหละที่ส.ศิวะรักษ์ เรียกเจ๊กอีกคนหนึ่ง  และเจ๊กคนนี้ วันนี้ ก็ยังไม่ประสงค์ดีต่อระบอบประชาธิปไตย  อันเรื่องของเจ๊ก นี้มีผลประโยชน์ส่วนตนทั้งนั้น  หากตนไม่มีช่องทางจะได้ผลประโยชน์ หรือได้อะไร  ก็จะว่าไม่ดีไปทั้งนั้น   แต่ถ้าตนได้ประโยชน์ก็จะว่าดีไปหมด(อย่างเจ๊กที่เปิดอ่างอาบน้ำจนร่ำรวย  ได้เป็นนักการเมือง ซึ่งวันนี้ก็ออกมา ทำท่าจะแสวงหาประโยชน์อีกครั้งตามประสาเจ๊ก)   แม้ว่าเข้าทางประชาธิปไตยแล้ว มีรธน.ที่กำหนดระบบเลือกตั้งให้แล้ว  ก็ไม่เข้าใจ  ไม่ยอมรับ   

ในที่นี้นิธิ ฯเขาว่าประยุทธ บริหารงานโง่ๆมา7ปีแล้วไม่เอาออกก็จะเสียหายแก่ประเทศชาติต่อไป (ก็ถูกใจนายณัฐวุฒิ สิ)   ....ก็ทำไมไม่มองแบบประชาธิปไตยล่ะว่า  ไม่ต้องไล่  ประชาธิปไตยไม่มีการรวมม็อบมาไล่นอกสภา    ถึงวาระเขาก็ออกเอง ก็ตอนเลือกตั้งใหม่นี่แหละคุณก็หาคนเก่งๆ มาลงให้ประชาชนเขาพิจารณาสิ  นี่แหละไม่ต้องไปไล่เขา   หากอยากเป็นนรต.แทน คุณก็ลงเลือกตั้ง  เอาชนะคนโง่นี้น่าจะง่าย   ทำไมไม่คิดไปแบบนี้ล่ะ ?  นี่แหละประชาธิปไตย  โง่หรือฉลาดเขาให้ประชาชนดูเอาเอง  ให้ได้อำนาจโดยเสียงประชาชน จะทำอย่างอื่นไม่ได้  อย่างที่จะไปยุยงคนมาเดินขบวนไล่ออกไปนี้  ทำไม่ได้   ไม่ถูกต้องตามระบบประชาธิปไตย  มีทางเดียวคือ การเลือกตั้งตามวาระ  หรือ  การต่อสู้ในรัฐสภาเท่านั้น  ก็มีอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตั้งหลายครั้ง ฝ่ายค้านก็แพ้ไปทุกครั้ง (...แบบนี้เป็นเรื่องในสภาทำได้  เขาให้อำนาจเฉพาะในสภา  ทำการไล่นายกรัฐมนตรีนอกสภาไม่ได้   

อยากเป็นใหญ่เป็นโตก็ได้ไม่มีใครว่า หากทำโดยให้ประชาชนเขาเลือกตั้งเอา เพราะอะไร?  ไม่รู้หรืออย่างไร?)   แต่ต้องมีพรรคการเมืองของตน ให้สส.ในพรรคเขาพิจารณาก่อนว่าเก่งไหม แล้วต้องได้เป็นตัวแทนพรรคก่อน  แล้วรอการเลือกตั้ง  เพราะการเลือกตั้งนั้นหมายถึงเสียงประชาชนทั้งประเทศ  นี่แหละทางประชาธิปไตย  เท่านี้นิธิ  เอียวศรีวงศ์ ยังไม่รู้เรื่อง ยังไปสนับสนุนเรื่องผิด ๆ ให้ไปปลุกระดมม็อบมาไล่นอกสภาได้ตลอดเวลานั้นแหละทำไปอย่าหยุด.....ซึ่งนี่ไงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยเลย  ไม่ใช่เสียงม็อบ เพราะม็อบมากันแบบอันธพาลไม่ใช่เสียงประชาชน และจะเทียบเสียงประชาชนทั้งประเทศไม่ได้  การเลือกตั้งเท่านั้นจึงเป็นวาระของการเมืองระบอบประชาธิปไตย ...

นิธิ เอียวศรีวงศ์ จึงเป็นอะไรไปล่ะ ที่ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยไปอีกคน  แบบนี้อาจจะติดคุกแบบไม่รู้เรื่องไปอีก   พอเถอะ ๆ ๆ   อย่าโผล่ออกมาเลย   ทำลายประชาธิปไตยไปเปล่า ๆ  หรือ  มิฉะนั้นก็จะเสี่ยงต่อการถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการโค่นล้มล้างสถาบัน คิดสร้างไทยเป็นสาธารณรัฐ  อยู่เบื้องหลังการยุยงส่งเสริมม็อบล้มสถาบันอีกคนหนึ่ง โทษระดับกบฏ  ถึงประหารชีวิตละ@สุไหงปาดี ชินะกุล  ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์  บัวระบ้า ชบาบุณเสฏฐ์  28 ส.ค. 2564 13.20 น.

-----*****-----                                                                                                                                                            

18 .เรื่องที่  3.  ตำรวจใหญ่รวมพวกฆ่าคนผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแบบโหดเหลือเขื่อ

ก็ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผลหรือ ผกก.โจ้พร้อมพวกอีก 6นายตำรวจใหญ่ รุมกันฆ่านายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ที่ถูกจับมาข้อหายาเสพติด ในคลิปใครๆก็เห็นกันทั้งประเทศทั้งหมู่ 7 คนนี้รุม ใช้ถุงพลัสติก(3 ใบ 7 ใบ) คลุมหัวผู้ต้องหา รัดคอจนเสียชีวิต  ข่าวว่าเขาให้ 1 ล้านไม่เอา จะเอา 2 ล้าน...ที่แปลก แม่ผู้ต้องหาบอกไม่เอาเรื่อง  ...ก็แปลกดี 

มีการวิเคราะห์ว่าเขาเอาเงินไปปิดปากตั้งแต่ระดับสูง ๆ ลงมาเลย เพราะตำรวจคนนี้มีเงินเยอะเลย    ...เบื้องหลังนี้ มีเรื่องโหด ๆ  เกี่ยวกับเงินทั้งนั้น  และดูเหมือนมีหลักฐานหมด ....และเลยมีเสียงคนทั้งประเทศก็ว่าได้  โดยเฉพาะคนนครสวรรค์ ว่าจะออกมาขับไล่ไม่ให้คนๆนี้อยู่นครสวรรค์ หนักแผ่นดินเขา...คนมองไปไกลถึงระดับศาลสถิตยุติธรรมเลย   ว่าโทษต้องประหารชีวิตสถานเดียว  .....

 มันไปถึงระดับการเมืองด้วยอย่างแน่นอน..... จะไปถึงพวกเดินขบวนก่อกวนความสงบภายในชาติ เช่นพวกคาร์ม็อบ ที่ออกมาเหมือนคนบ้า เพราะไม่รู้ไม่มีคำตอบว่าออกมาทำอย่างที่เขาทำไปทำไม จะไปไล่ใครเขา  ระบบราชการใครจะเข้าจะออก เขามีหลักความยุติธรรมประกันให้ทุกคน ไม่ใช่อยากจะไปไล่ใครออกก็ยกขบวนไปไล่  ไม่รู้จักคิดเลย  มันเหมือนเด็กไร้ความคิดเราดีๆนี่เอง ขนาดเคยเป็นรมช.อย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อนี่แหละ ไม่ต้องไปวิเคราะห์ถึงหลักรัฐศาสตร์ หลักประชาธิปไตย  หลักสิทธิมนุษยชนอะไรเลย 

แค่ดูว่ามันมาทำความวุ่นวายบนท้องถนนหนทางเท่านั้นก็เอามันไปได้  ก็เท่านั้น ทางตำรวจและรัฐบาลเขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา ก็มองเรื่อง  ความสงบภายใน  internal stability  ธรรมดา ๆ นี่เองก็เอาไปเข้าคุกได้  ทำไมไม่ทำ   เช่นเดียวกับ กรณี ตำรวจเลวที่เอาเงินซื้อทุกอย่างนี้  กรณีนี้แหละ    ประหารชีวิตสถานเดียว .........จึงน่าที่จะให้มันเกลี้ยงเกลาไปเสียที@สุไหงปาดี ชินะกุล  ฆิกเมฆณ ณเมฆิน  บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 28ส.ค.2564 09.00 น.

-----*****-----

-----*****-----

-----*****-----  

การเมือง เสนอให้คิดคนไทยไปสู่ประชาธิปไตยจริง ๆ ชุดที่ 1-5  18 เรื่อง ต้นฉบับไทยสมบูรณ์

-----   -----




1.Thai-ไทย

1..วาทะที่ 1.. ไวรัสวูฮั่น โลกจะผ่านไวรัสร้ายนี้ไปได้อย่างไร มารู้แจ้งสัจธรรมความสะอาด ความสกปรกเสียก่อน
2..วาทะที่ 2.. cleanliness ไวรัสวูฮั่นมาจากความสกปรกของโลกยุคนี้ Cleanliness ความสะอาด เท่านั้นจักชำระได้ และนั่นแหละเส้นทางสู่มรรคผลนิพพาน
3..วาทะที่ 3..คนทั้งโลกจำต้องหลบโควิด-19 ถึง 14 วัน จงเอาโอกาศนี้ปฏิบัติธรรมแห่งความสันโดษให้ถูกต้อง ทั้งกายและจิตวิญญาณแนวทางบรรลุสู่โลกนิพพานตามหลักสัจธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนา
4..วาทะที่ 4..ชนะไวรัสร้ายโควิ-19 ชนะโลกเข้านิพพานได้ด้วยการรู้แจ้งสัจธรรมแห่งดวงอาทิตย์
5..วาทะที่ 5.. สู้สงครามโควิด-19 ด้วยการปฏิบัติงาน การอาชีพที่เป็นการปฏิบัติธรรม
6..วาทะที่ 6..ปัญหาที่ดินไม่พอฝังศพผู้ตายมากมหาศาลจากโควิด-19 ทำความเข้าใจเรื่องชีวิตสังขาร แล้วเผาเถิด
9..วาทะที่ 9.. บ้านของเราแต่ละหลังนั้นเองเป็นวัด วัดใหม่จะเกิดขึ้นทั่วโลก โลกมาสู่ยุคมรรคผลมีพระอริยบุคคลผู้พ้นทุกข์กันทั่วแล้ว
10..วาทะที่ 10.. เศรษฐกิจแบบพอเพียงกับส่วนเกินช่วยประชากรโลกยุคโควิด-19นี้
12..วาทะที่ 12..โควิด19นี่เองที่น่าจะได้เตือนจิตเตือนใจคนทั้งหลายให้รำลึกสัจธรรมแห่งความพินาศความเสื่อมสลายของทุกชีวิตและสรรพสิ่งแม้อนันตจักรวาลอันไร้ขอบเขตก็ไม่มีข้อยกเว้น
32..วาทะที่ 32..พระคุณของแม่ แม่มีพระคุณเสมอมาทุกยุคทุกสมัยอดีตถึงยุคโลกาภิวัฒน์วันนี้ #พระคุณของแม่
34..วาทะที่ 34.. แด่อินเดียและชาวโลกยุคโควิด19มหาภัยวันนี้ ขึ้นมาจากแม่น้ำคงคามหานทีเสียทีเถิด
38..วาทะที่ 38..โควิดไวรัสร้ายกำลังกลืนชีพมนุษยโลกไปอย่างมหาศาล โลกเองกำลังจะถึงความสิ้นสุด จงนำดวงจิตไปสู่สู่ความสงบสันโดษสันติธรรมเถิด ซักฟอกดวงจิตให้สะอาดขาวรอบ นั่นแหละทางประเสริฐสู่ โลกนิพพานแห่งพุทธะ
39..วาทะที่ 39..โควิดพันธ์ใหม่ในอังกฤษวันนี้เป็นสิ่งทดสอบสัจธรรมอันสูงสุด จงควบคุมตัวเองให้อยู่ในส่วนภายในของชีวิตในหัวใจที่ว่างเปล่าสงบเย็น
41..วาทะที่ 41.. สคส.2564 43 ภาษาโลก แสนเวทนาโควิดเอาชีวิตชาวโลกไปมหาศาล จงสู้ด้วยสัจธรรมแห่งความสันโดษเถิดทางนั้นไปสู่โลกนิพพาน ที่สิ้นทุกข์มีแต่สุขอมตะนิรันดร
42..วาทะที่ 42.. แด่ตรุษจีน 12 ก.พ.2564 บุญคุณอันล้ำเลิศ ของบรรพบุรุษผู้สร้างแผ่นดินสร้างชาติมา ลูกหลานรำลึกรู้ไม่มีวันลืม
43..วาทะที่ 43..แด่วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ.2564
44..วาทะที่ 44..ก่อนที่คุณจะตายด้วยวัยชราหรือเพราะCOVIDวันนี้
50..วาทะที่ 50 .. เสนอรัฐบาลทั่วโลกให้สร้างเมืองใหม่ ช่วยประชาชนคนอดยากให้รอดชีวิต
50..วาทะที่ 50..44 ภาษา เสนอรัฐบาลทั่วโลกให้สร้างเมืองใหม่ ช่วยประชาชนคนอดหยากให้รอดชีวิต
51..วาทะที่ 51..วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 จันทร์เพ็ญเต็มดวง บอกใจที่ไร้มลทินไปทุกอย่าง นั้นแหละโลกนิพพานที่ บังเกิดขึ้นในดวงใจเรานี้เอง
52..วาทะที่ 52.. แด่วันสตรีสากล For International Women's Day
53..วาทะที่53.. เอาชนะตนเอง ทางชนะสงครามของชีวิต
54..วาทะที่ 54..(44ภาษา)รูปัง ภิกขะเว อะนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา แด่ พระศพ พระครูวรธรรมคณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอวังหิน ศรีสะเกษ
55..วาทะที่ 55 แด่คณะรัฐประหารเมียนม่า ลืมสัจธรรมความอดทน ทำลายประชาธิปไตยจะไม่มีแผ่นดินอยู่
57..วาทะที่ 57..To Montenegro : แด่ประเทศมอนเตเนโกร คิดการปฏิวัติและล้มล้างสถาบันกษัตริย์ไทย???
58..วาทะที่ 58.. To Afganistan and New Taliban 1. แด่อาฟกานิสถานและตาลีบันใหม่ 1.
59..วาทะที่ 59..To Afganistan and new Taliban 2 แด่อาฟกานิสถานและตาลีบันใหม่ 2
60..วาทะที่ 60..To Afganistan and new Taliban 3 แด่อาฟกานิสถานและตาลีบันใหม่ 3
61..วาทะที่ 61..สัญญาณสันติธรรมแห่งโลกยุคใหม่ Signs of peace in the new world ERA
62..ยอดสุภาษิตโลก (44ภาษา) world proverb(44 languages)
63..ลาลิสาแบลคพิ้งค์ Come out and listen to LALISA BLACKPINK
64..TO UNO
66..วันเด็กแห่งชาติ Children’s day of Thailand
67..44ภาษาแด่วันคริสต์มาส 25 ธค.2021
68..มุสลิม ปัญหามุสลิมโลก Muslims Muslim World Problem
69..มาฆะบูชา วันสำคัญของมวลมนุษย์ทั้งโลก รอบ 16 ก.พ. 2565
70..แด่สงครามรัสเซีย-ยูเครน
75..อริยสัจ 4 ข้อที่ 1 ทุกข์
76..อริยสัจ 4.ข้อที่ 2 สมุทัย เหตุแห่งทุกข์
77..อริยสัจ 4 ข้อที่ 3 ทุกขนิโรธ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ 1. นิโรธ
78..อริยสัจ 4. ข้อที่ 4..ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(มรรค8) ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์,
79..อริยสัจ 4 ต้นฉบับ สำหรับการแปล 64 ภาษาโลก ครบ 4 สัจจะทุกข สมุทัยบ นิโรธ มรรค (ยังมีต่อ)
80..อริยสัจ 4 ต้นฉบับ สำหรับการแปล 64 ภาษาโลก ข้อที่ 1 เรื่องทุกข์(ต่อ) 12, นิพพิทาญาณของพระอรหันต์ 13.อาทิตตะปริยายสูตร
81..อริยสัจ 4 ต้นฉบับ สำหรับการแปล 64 ภาษาโลก ข้อที่ 4 เรื่อง มรรค 8 (ต่อ) 3 สัมมาอาชีโว - อริโย วายาโม
90 อริยสัจ ๔ Please translate to your language by Google translate
91 คำชี้ทางปฏิบัติ สังหารกามกิเลสลงได้จริง Please translate to your language
92..รวมยอดสุภาษิตใหม่ ต้นฉบับแปล 64 ภาษาโลก, 211 บท A collection of new proverbs, original translations in 64 world languages. A collection of new proverbs, manuscripts translated into 64 world languages, 211 chapters.
93..มุสลิมไทยไม่เข้าใจคัมภีร์อิสลามว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น มีฐานะเป็นเพียงทาส ทรยศโทษถึงตายเลย วันนี้อิสลามในไทยทำผิดมากจนถึงระดับที่คนไทยทั้งประเทศต้องลุกขึ้นไล่หนีไปจากแผ่นดินไทยแล้ว
99..อริยสัจธรรมแห่งชีวิต บทที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 Please translateto your language by Google translate
99..อริยสัจธรรมแห่งชีวิต บทที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 Please translateto your language by Google translate
100..พุทธศาสนาสอนอะไร? นี่เป็นข่าวดีสุดประเสริฐ แจ้งไปให้รู้ทั่วโลกเลยนะ
102 ยอดสภาษิตเดือนก.ย.2565 50 บท ต้นฉบับ 64ภาษาโลก
103 Please translate Phayap Panyatharo ประวัติชีวิตนักปฏิบัติธรรมทั้งชีวิต พระพยับ ปัญญาธโร (เล่าเอง) ตอนที่ 1-2 ไทย 48 บท
104.pleasetranslate รวมยอดสุภาษิต ถ่ายทอดไป 138ภาษาโลก ครอบพลเมือง 7.6 พันล้านคน
105 please translate รวมยอดสุภาษิตวรรคสั้น 210 บทต้นฉบับ ถ่ายทอดไป 138 ภาษาโลกครอบ 8พันล้านประชากรทั้งโลก
106 please translate ปัญหาของพระพุทธศาสนาแก้ไขได้ง่ายทั้งระบบสงฆ์แล้วนั้นหมายถึงสว่างรุ่งเรืองไปทั้งโลกยุคนี้
107. ส.ค.ส.(ส่งความสุขปีใหม่) 2566 แด่พลโลก 8พันล้านชีวิต
108.Please translate อิสลาม-พุทธศาสนา รายวัน 21 ธ.ค.2565 สมาธิ3ระดับสุดยอดมหานิพพาน
109. Please translate รายงานการวิจัยความคิดเห็นของคนไทยต่อปัญหาเดินขบวนในกรุงเตหะราน อิหร่าน
110.please translate พุทธศาสนารายวัน 26 ต.ค.65-5 ม.ค.66(21ตอน)ปัญหาพุทธศาสนาวันนี้แรงร้ายแต่แก้ไขได้ด้วยพุทธิปัญญา ไทย
111.please translate พุทธศาสนารายวัน 26 ต.ค.65-5 ม.ค.66(21 ตอน ๆ ที่21) กลับมาทำหน้าที่เถิด
111.please translate การเมืองโลก ประชาธิปไตยอเมริกาจากธัมมจักกัปปวัตนสูตร สู่กาลามสูตร ต้นฉบับ 138 ภาษาโลก
112 พุทธศาสนาวันนี้ รำลึกวันอาสาฬหบูชา วันพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา
113. การเมืองอเมริกาเข้าใจการเมืองประชาธิปไตย แต่ไม่เข้าใจไทยและเผด็จการ ก่อปัญหาการเมืองสากลขึ้น
114. รัฐประหารในไนเจอร์ แอฟริกา 27 กค.2566 มวลชนออกมาสนับสนุนรัฐประหารแน่นแผ่นดิน
115. พุทธศาสนารำลึกวันอาสาฬหบูชาวันทรงแสดงปฐมเทศนา3พระสูตรก้องโลก ธัมมะจักกัปปะวัตตนะสูตร
116.พุทธศาสนารำลึกวันอาสาฬหบูชาวันทรงแสดงพระปฐมเทศนา3พระสูตรก้องโลกอนัตตะลักขณะสูตร
117. พุทธศาสนารำลึกวันอาสาฬหบูชาวันทรงแสดงพระปฐมเทศนา3พระสูตรก้องโลก อาทิตตะปริยายะสูตร
118. ทบทวน !!! 14 ส.ค. 2566 พุทธศาสนาสอนอะไร จงแจ้งข่าวให้โลกรู้ทั้งโลกรู้
120 แด่เพื่อน 2567
121 เรื่องราวของชีวิต ตอนที่ 1+2+3+4 ต้นฉบับไทย
122.การเมืองไทยวันนี้ 22สค.2566 ทักษิณกลับไทยแบบมหาเศรษฐีต้องโทษอาญาแผ่นดินเข้าคุกทันที8ปีทบทวน11กพ.2567
123 โหราศาสตร์ชี้ชะตาสงครามรัสเซีย-ยูเครน และ อิสราเอล-ฮามาส
124 โหราศาสตร์ ดาว6ดวงเคลื่อนมารวมกัน ใน7เม.ย.2567 อะไรจะเกิดขึ้นแก่ประเทศไทย
125 พุทธศาสนา โอวาทปาฏิโมกข์ วันมาฆะบูชาของชาวพุทธไทยและชาวพุทธทั้งโลก
126 การเมืองไทยวันนี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ พิธา-ก้าวไกลคิดล้มล้างการปกครอง ไม่ผิดหรอก
127 การเมืองไทยคัวอย่างที่น่าอัยอาย อำนาจตุลาการสูงสุดถูกแทรกแซงก้าวก่ายลดน้อยด้อยค่ามาตลอดจากอำนาจยริหารแม้หน่วยงานกระจิบกระจ้อยต้อยต่ำแค่กรมราชทัณฑ์ยังทำได้
129 พุทธศาสนารายวัน 9 มี.ค.2566 มรรค 8 เพื่อบรรลุอริยบุคคลอรหันต์
130 การเมืองประชาธิปไตย พุทธศาสนธรรมมรรคผลนิพพาน ยุคเก่ามาสู่ยุคใหม่ยอร์จ วอชิงตันถึง ดร.อัมเบ็ดก้าร์
130 การเมืองประชาธิปไตยอเมริกาเป็นการปกครองตามหลักธรรมะอันสูงสุดในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
130 การเมืองไทยวันนี้ 11 มี.ค. 2567 ศึกษาการเมืองไทย ประชาธิปไตยไม่เหมาะแก่การเมืองสัตว์ป่า จ่าฝูงเผด็จการทุกชนิด ประชาชนไทยต้องตื่นทำหน้าที่แล้วดูนายพลยอร์จ วอชิงตัน ผู้รู้ธรรมะประชาธิปไตยโลก
131 พุทธศาสนา สมาธิสูงสุดปราณ และ 9 เทกนิคการฝึกสมาธิของแพทย์ประสานกัน
132 การเมืองไทยวันนี้ยังเละเทะสับสนด้วยยุคซ็อฟท์เพาเวอร์ และพลังสงครามจิตวิทยา อันซ่อนเร้นเกินความรู้สึกอันเกี่ยวกับการเมืองอันตรายทั้งสิ้น
133. รวมเรื่องร้ายกาจรายวันในโลกยุคนี้ 4 เรื่อง
134 การเมืืองไทยวันนี้ 30 มี.ค.2567 บอกความคิดอ่านยังด้อยพัฒนาเป็นการเมืองต่ำต้อยด้อยพัฒนาจริง ๆ
135. การเมืองไทยในรัฐสภาวันนี้ 28 มี.ค. 2567 รับเรื่องบ่อนการพนันครบวงจรถูกกฎหมาย
138 พุทธศาสนา สัจธรรม4อย่างที่มนุษย์ทั้งโลกควรจะรู้ให้ได้ก่อนตายไปจากโลกนี้
139 พุทธศาสนา เราจะปฏิบัติมรรค8อย่างไรให้สำเร็จอริยอรหันต์พร้อมกันทั้งโลกตามรอยบาทพระบรมศาสดา ผนวกความคิดเห็น ดร.นันทสาร สีสลับ
140 ชีวิต เรื่องราวของชีวิต ตอนที่ 5
140 ชีวิต เรื่องราวของชีวิต ตอนที่6 เศรษฐกิจแบบพอเพียง
140 ชีวิต เรื่องราวของชีวิต ตอนที่7เศรษฐกิจคนจนของในหลวง การขาดทุนของเราเป็นการได้กำไรของเรา
141 ชีวิต เรื่องราวของชีวิต ตอนที่ 8 คำว่ารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ?
141 รวมยอดสุภาษิต 210 บท ไทย-อังกฤษ
142.การเมืองแบบอย่างประชาธิปไตย นับแต่ยอร์จ วอชิงตัน ถึง โจ ไบเดน แห่งมหาอำนาจประชาธิปไตยโลก 30 ก.ค.2567
143.แผนเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก-แผนงานสำคัญสำหรับพระพุทธศาสนายุคนี้



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์ สื่อของเราทั้งหมดนี้ ได้กลายเป็นแดนสนุกน่าท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกกว่า 8 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ที่สรรพสิ่ง ล้วนเดินไปสู่โลกาวินาสน์ในวันข้างหน้า ภาวะอริยบุคคลจะนำคนทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน 8 พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น.