This is a definition of tyranism
นี่คือนิยามของคำว่า ทรราชย์
เราไม่ได้พูดคำนี้ แต่เป็นโทรทัศน์อัลจาชีร่า เร็ว ๆ นี้ เขาขึ้นสปอตที่หน้าจอ เป็นภาพของนายอภิสิทธิ์ กำลังออกแอคชั่นทางสุนทรพจน์ มีภาพทรราชคนอื่น ๆ ของโลกเป็นฉากหลังหลายคน เขาบอกว่า นี่เป็นทรราชคนใหม่ในหลาย ๆ ทรราชคนเก่าของโลก
และทรราชก็คือโกง จึงโดน มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ฝ่ายค้านสั่งสอนเอากลางสภา ในการอภิปรายงบประมาณกลางปี เมื่อ 15 ก.พ.2554 อย่างเป็นการสั่งสอนในหลักการสำคัญเลยทีเดียว กล่าวคือ ในเรื่องงบประมาณ นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ใช้น้ำลายละเลง บรรยายเป็นเวลานานมาก โดยนายชัย ชิดชอบ ปล่อยให้พูดอย่างอิสระ ตามใจนายกรัฐมนตรี พวกเดียวกัน แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นเรื่องของ งบประมาณ เป็นเรื่องของตัวเลข ไม่เข้าใจความหมายของตัวเลข
จึงถือว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ได้ทำการสั่งสอนครั้งสำคัญ ด้วยการเอาตัวเลขมาแสดง ง่าย สั้น กระทัดรัด เพียบไปด้วยเหตุและผลทางการเงิน งบประมาณ นั่นคือสัจธรรมว่าด้วยงบประมาณ ดังสัจธรรมว่า ตัวเลขของงบประมาณ สามารถทีจะอธิบายได้ดีกว่าลมปากหลายพันเท่า นายอภิสิทธิ์ พูดอยู่ทั้งวันแต่ไม่มีตัวเลขมาแสดงเลย จึงเท่ากับการโกหกพกลม ตามนิสัย แต่ถึงพูดโกหกพกลมไปอย่างไร ๆ น่าเชื่อเพียงใด นานเพียงใด ก็สู้ตัวเลขตัวเดียวที่นายมิ่งขวัญเอามาแสดงไม่ได้ เหมือนสัจธรรมของการข่าว ที่เขาว่า ภาพ ๆ เดียว ดีกว่าคำพูดตั้งหลายพันคำพูด นั่นแหละ
มาถึงวันนี้ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้บริหารงานไปโดยทุจริตต่าง ๆ มากมาย เป็นผลให้บ้านเมืองและประชาชน ตกต่ำลำบาก และซ้ำเลยไปรบกวนความสงบสุขของต่างประเทศ นับแต่ประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา รวมไปถึงกลุ่มเอเซียน ที่พวกเขาพากันวิตกว่าไทยจะเป้นจุดเสื่อมที่ดึงอาเซียนทั้งอาเซียนตกต่ำลงไป ในทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม ทำให้เอเซียนทั้งเอเซียนเดือดร้อน เท่านั้นยวังไม่พอ ทำให้องค์การโลก นับแต่องค์การสหประชาชาติ พลอยเกิดวิตกเดือดร้อน โลกเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน อย่างเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย
ข้อสรุปก็คือ นายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลนี้ หมดคุณสมบัติของความเป็นรัฐบาลไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์อยู่ในตำแหน่งต่อไปอีกแล้ว และไม่มีสิทธิ์คิด พูดถึงการเลือกตั้งเข้ามาใหม่อีกเลย เท่านี้ยังไม่พอ เขาจะต้องขึ้นศาลอาชกรรมระหว่างประเทศ
- สุไหงปาดี ชินะกุล
20 ก.พ. 2554/11.57น.
เสื้อแดงที่ไคโร วันที่ 5 ก.พ.2554
Cairo's red shirt February 5,2011
เสื้อแดงที่ไคโร อีกภาพหนึ่ง วันเดียวกัน
Cairo's red shirt another photo the same day.
เสื้อแดงที่กรุงเทพ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 18.40 น. 13 ก.พ.2554
Bangkok's red shirt at 18.40 February 13, 2011
เสื้อแดงที่กรุงเทพ วัน เวลาเดียวกันอีกภาพหนึ่ง
Bankok's red shirt another photo the same time the same day
ข้อสังเกตุ
การชุมนุมของชาวเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 13 ก.พ.2554
1. ทางอียิปต์ ชุมนุมอยู่ 18 วันเพื่อไล่ประธานาธิบดีมูบารัค ได้สำเร็จ ทางอัลจาชีร่า(Aljazeera) โทรทัศน์ข่าวสงคราม กับ บีบีซี (BBC)ได้รายงานมาตลอดตั้งแต่ต้น เมื่อการชุมนุมขนาดใหญ่เกิดขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.2554 ทางอัลจาชีร่าได้รายงานว่ามีประชาชนออกมาที่จตุรัสตาหรี(Tahrir Square) กรุงไคโร กว่าสองล้านคนแล้ว (up to two million protestors now) ภาพที่ออกทางโทรทัศน์ อัลจาชีรา ดังเช่นที่เห็นจากสองภาพข้างต้นสุด เมื่อเปรียบเทียบกับการชุมนุมของเสื้อแดงครั้งนี้แล้วก็ดูไม่ต่างกันนัก แต่แดงถูกตีค่าว่ามาประมาณ 1 แสนคนเท่านั้นเอง ซึ่งนี่ไม่น่าสงสัยว่าเป็นความเอียงของอัลจาชีร่า โดยเอียงเข้าข้างประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย (อัลจาชีร่าเอียงเข้าข้างเชิรตแดงไทยอย่างชัดเจนด้วย) พอ ๆ กับนาน ๆ ที่จะมีสิ่งบอกเหตุของความลำเอียง เช่น บีบีซี ที่แสดงความรังเกียจเคียดแค้นต่อการก่อการร้ายอย่างออกหน้าออกตา กรณีเกิดระเบิดของพวกก่อการร้ายมุสลิมกลางกรุงลอนดอนพร้อมกัน 8 จุด ในยุครัฐบาลนายโทนี่ แบล เป็นต้น ในอียิปต็วันที่ 1 ก.พ.ดังกล่าว ยังมีการชุมนุมใหญ่ในสถานที่อีกแห่งหนึ่งคือ จตุรัสลิเบอเรชั่น(Liberation Square) กรุงไคโร แต่อัลจาชีร่าไม่ได้นับจำนวนมารวมด้วย และนอกจากนั้น อียิปต์ยังมีการชุมนุมกันที่เมืองใหญ่พอ ๆ กับเมืองหลวงไคโรอีกแห่งหนึ่งก็คือ เมืองอเลกซานเดรีย (Alexandria) ซึ่งเป็นเมืองท่าริมทะเลเมดิเตอเรเนียน แต่ชัยชนะอันเฉียบขาดของประชาชนอียิปต์เกิดจากการชุมนุมทั่วทุกจังหวัดของประเทศอียิปต์ในวันนั้น แน่นอนการต่อสู้ของประชาชนอียิปต์ กำลังใจและแบบแผนส่วนหนึ่งได้มาจากเสื้อแดงไทยเรานี่เอง (ดูแกนนำบนเวทีที่ชูธงเหนือหัว สวมเสื้อแดง)
2. จากข้อเท็จจริงขณะนั้นทหารอียิปต์ ไม่เข้าข้างประธานาธิบดีมูบารัค แต่เข้าข้างประชาชน เข้าข้างประชาธิปไตย กองทัพจึงไม่ยอมอยู่ใต้คำสั่งประธานาธิบดีเผด็จการเพื่อเคลื่อนเข้าปราบปรามประชาชน เป็นทหารคนละอุดมการณ์และที่แตกต่างในศักดิ์ศรีกับกองทัพไทยกรณี 19 พ.ค.2553 มีผู้ออกมาวิจารณ์ผ่านโทรทัศน์อัลจาชีราว่า เป็นเพราะทหารฟังคำสั่งของสหรัฐอเมริกาต่างหาก ได้เปิดเผยความจริงว่า สหรัฐอเมริกาได้ให้เงินสนับสนุนกองทัพอียิปต์จำนวนมหาศาลในแต่ละปี คือถึงปีละ (1,000,000,000$) หนึ่งพันล้านดอลลาร์(Egypt's military receives over a billion dollar a year in aid from the U.S.) ส่วนกองทัพไทยรับเบี้ยเลี้ยงและผลประโยชน์โดยตรงจากรัฐบาลผสมพลเรือน-ทหารอมาตยาธิปไตยไร้อุดมการณ์ จึงสามารถล้อมเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า ๆ ได้อย่างไม่คำนึงศักดิ์ศรีของทหารไทย
3. แดงประชาธิปไตย ไม่ว่าของอียิปต์ หรือของไทย จะต้องมองไปไกลถึงการเลือกตั้ง และชัยชนะคือ ชนะการเลือกตั้ง เป็นเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแดงประเทศไทย อย่าลืมการเลือกตั้งซ่อมกทม.ล่าสุด ระหว่างนายพนิช วิกิตเศรษฐ ปชป. กับ นายก่อแก้ว พิกุลทอง พรรคเพื่อไทย เป็นอันขาด ที่พรรครัฐบาลและพวกพ้องของอมาตยาธิปไตย และพวกทหาร ได้เปรียบถึง 100% จนอาจกล่าวได้ว่ามัดมือชกเลยทีเดียว เพราะนายก่อแก้ว พิกุลทอง คู่ต่อสู้ ๆ อยู่ในคุก และมีศาลสถิตไม่ยุติธรรมคอยกักขังเอาไว้ให้ ไม่มีโอกาสออกไปหาเสียง พบปะประชาชนเลย ซึ่งน่าเป็นสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ของวงการประชาธิปไตยโลก ในครั้งหน้า พวกเขาก็จะไม่ละอายใจที่จะต้องพยายามเอารัดเอาเปรียบและใช้กลโกงฝ่ายแดงประชาธิปไตย ทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขาได้รับชนะการเลือกตั้ง ซึ่งแน่นอนพวกเขาทำได้ โดยจะมีกระบวนการยุติธรรม และตุลาการศาลสองมาตรฐานคอยเป็นทาสรับใช้อยู่ในทุก ๆ กรณีการตัดสินความ
4. แต่เมื่อแดงวืนยันในยุทธศาสตร์ ความจริง สันติและ อหิงสาแล้ว ตาสว่างย่อมเพิ่มขึ้นในแผ่นดิน เมื่อตาสว่างทั้งแผ่นดินแล้ว ประชาธิปไตยก็จึงจะสมบูรณ์
- สุไหงปาดี ชินะกุล
15 ก.พ.2554
อาจารย์จา ในชุดสามอาจารย์แดงขณะแปลวีดีโอลิงค์จากทนายแดงอัมสเตอร์ดัม
Professor Jar in red shirt the same day as translating a vediolink from mr.Amsterdam
อาจารย์หวาน ในชุดสามอาจารย์แดง กำลังแปลวีดิโอลิงค์ของทนายแดงเช่นกัน
Professor warn in red shirt the same duty
อาจารย์ตุ้ม ในชุดสามอาจารย์แดง ขณะทำหน้าที่นักวิชาการแดง เช่นเดียวกัน
Professor Toom in red shirt as doing the same duty for democracy
ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากคนเสื้อแดง ผู้ส่งวิดิโอลิ้งค์มาสู่ฃุมนุมเสื้อแดง
เมื่อเวลาประมาณ 19.20 น.วันที่ 13 ก.พ.2554 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
Mr.Amsterdam on videolink to the red shirt Feb. 13,2011 19.20 O.
จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำเชิตแดง(หัวหมู่ทะลวงฟัน) ก่อนจะมีวีดิโอลิงค์จาก อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
Jatuporn Prompant backbone of the red shirt [who goes through to strike enemy at head] before a Taksin's videolink.
วีดิโอลิงค์ จาก อดีตนายกรัฐมนตรีในดวงใจเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เวลา 2 ทุ่ม
13 ก.พ.2554 ว่าอนาถใจที่เมืองเกษตรอย่างไทย ประชาชนต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันปาลม
Taksin in hearth's videolink to all red shirt at 20.00 same day. He said sad at hearth to see people in an agricultural country as Thailand queueing to buy food.
ภรรยาแกนนำ มาแทนผู้อยู่ในคุก
a wife of a backbone to continue fight for democracy and justice
รักษาการณ์ ประธาน นปช. อาจารย์ธิดา ถาวรเศรษฐ์
Acting for president of the National Red Shirt Front, Professor Thida Tavaraset
พบกันอีกครั้ง 19 ก.พ.2554
Let meet again Feb.19,2011[2554]
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประเทศไทยเยาะเย้ยว่าทนายรับจ้าง
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ นปช. ขณะแถลงข่าวการยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ วันที่ 31 มกราคม 2554 ประเทศญี่ปุ่น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมกล่าวข้อความสำคัญว่า ทำไมชาวไทยทั้งประเทศจึงปล่อยให้คนชาติอื่นมาเข่นฆ่าคนไทยและสามารถอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อมาได้อย่างสบายอยู่อีก ทำไมไม่หาทางลงโทษเขา เขาอ้างกฎหมายอังกฤษว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สัญชาติอังกฤษโดยการเกิดที่ประเทศอังกฤษ หากเขาไม่ปฏิเสธเสียก่อน และนั่นเป็นเหตุให้ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ในข้อหา อาชญากรผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงได้
ในด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวเป็นเชิงตอบโต้นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ว่า เขาทำหน้าที่ธรรมดา ๆ ของทนายรับจ้าง หวังรับเงินค่าจ้างเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นท่าทีที่ดูแคลนนายอัมสเตอร์ดัม และนปช. การที่นายกรัฐมนตรีไทยมีทัศนะเช่นนี้ ยิ่งเป็นการเน้นไปอีกถึงความไร้ปรัชญาหรือมาตรฐานของการตัดสินใจเพื่อชีวิต และความไม่เข้าใจปรัชญาของระบอบการเมืองแบบประชาธิปไตย เพราะท่าทีที่แสดงออก พร้อมแววยิ้มเยาะนั้น เป็นปรัชญาที่ไม่ถูกต้อง หากเรามาตรึกตรองถึงเหตุผลเบื้องต้นว่า การรับจ้างนั้นเป็นสิ่งที่เสียหายอย่างไร เราไม่ควรจะรับจ้างและไม่รับเงินค่าจ้างอย่างนั้นหรือ ? ทำไมล่ะ ? ในเมื่อนี่เป็นความเป็นธรรมและความยุติธรรม เราออกแรงไปเท่าไรเราย่อมสมควรได้ค่าตอบแทนเท่านั้น นี่เป้นความเป้นธรรมไม่ใช่หรือ? แล้วจะเยาะเย้ยได้อย่างไร ? การเป็นทนายรับจ้างนั้น เป็นสิ่งที่เสียหายอย่างไร ทนายความไม่ควรจะทำการรับจ้าง และไม่ควรรับเงินค่าจ้างอย่างนั้นหรือ ? ถ้าเช่นนั้นความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ? เมื่อเราเข้าใจผิดในปรัชญาว่าด้วยการรับจ้าง ย่อมล้าหลัง การเห็นว่าการรับจ้างเป็นสิ่งที่น่าสมเพช น่าเยาะเย้ย อย่างที่นายอภิสิทธิ์ แสดงท่าทีนั้น เป็นธรรมเป็นปรัชญาที่ผิดพลาดอย่างมากมายเลยทีเดียว เพราะในระบอบประชาธิปไตย กรรมกร ชาวนาผู้ยากจน หรือกุลีผู้รับจ้างแบกขนของตามโกดัง ท้องถนนหนทาง เขาก็ไม่สมควรได้รับความหมิ่นแคลนเพราะเหตุที่พวกเขาทำงานรับจ้างเช่นนั้น ตราบที่พวกเขากระทำด้วยความสุจริต แท้จริง การรับจ้างนี่แหละ เป็นความเป็นธรรมของสังคมมนุษย์ แม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย ท่านยังจำเป็นต้องคำนึงทุกลมหายใจเข้าออกว่า นายกรัฐมนตรีและผู้ปกครองทุกคน แม้ดูเหมือนค่านิยมจะยกท่านว่าชั้นสูง แต่แท้จริงแล้ว ท่านก็ล้วนเป็นผู้รับจ้างและรับเงินค่าจ้างหรือค่าตอบแทน ซึ่งจ่ายออกมาจากเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น นายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ไม่เข้าใจหรือว่าท่านอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีรับจ้าง กินเงินเดือนของประชาชน นี่คือสถานะอันแท้จริงของท่าน แม้นี่ท่านยังไม่เข้าใจปรัชญาชีวิตว่าด้วยการรับจ้าง แล้วจะเข้าใจประชาชน เข้าใจระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ??? และนั่นเป็นเหตุผลที่ประชาชนรากหญ้า ไพร่ฟ้าทั้งแผ่นดินกำลังขับไล่ท่านออกไป......เพราะความที่หน้าด้านอยู่อย่างหลงลืมตัว.....(อ่านอัมสเตอร์ดัมย้ำคน2สัญชาติในข่าวสดครับ คลิก)
ร่วมสร้างกติกาประชาธิปไตยไทย
กระบวนการยุติธรรมไทยน่าอดสูเพียงไหน อับอายไปทั่วโลก
คุมขังพวกเขาทำไม ? เขาเป็นสัตว์ร้ายหรือถึงต้องตีโซ่ตรวน ?
พวกเขาเพียงเรียกร้องให้ระบบไทยทั้งระบบ ทั้งประเทศดำเนินไปโดยวิถีทางประชาธิปไตย ให้ละทิ้งวิถีทางเผด็จการเสีย มาเป็นประชาธิปไตยกันเถิด พวกเขามีแนวคิดประชาธิปไตยอยู่ในหัวแล้ว ก็แปลว่า ไร้ความรุนแรง ประชาธิปไตยแปลว่าพูดคุยกันได้และแก้ไขปัญหาอย่างอหิงสาและสันติ ฉะนั้นพวกเขา ทุกผู้ทุกคน ผู้รักประชาธิปไตยในโลก ทั่วโลก ไม่เฉพาะแดงในแผ่นดินไทย จึงย่อมไม่มีแนวคิดรุนแรงอยู่ในแผนการประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพราะระบบประชาธิปไตยเป็นเช่นนั้น และประชาชนแดงทั้งแผ่นดิน แดงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนแดงทั้งแผ่นดิน พวกเขาจึงไม่ได้คิดใช้กำลังเลย แต่นั่นเป็นความพยายามที่จะยืนยันถึงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ จำนวนมหาศาล ที่น่าเพียงพอสำหรับฝ่ายบริหารจะรับฟัง ในประเด็นที่ว่า เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประเทศชาติทั้งระบบ เรียกว่าถือความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก นี่ก็เป็นหลักการสำคัญของประชาธิปไตย พวกเขาทำถูกหลักการประชาธิปไตย แต่พวกคุณเป็นเผด็จการที่โง่เง่า ไม่เข้าใจอะไรดีอะไรชั่ว อะไรจะเป็นประโยชน์ ไม่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ คุณเองต่างหากที่ทำตัวเหมือนไม่ใช่คน เป็นสัตว์ร้าย มีข้อเท็จจริงพิศูจน์ชัดเจนอยู่ ก็ในเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค.2553 นั่นเอง ไม่เห็นหรือ ??
แล้วคุณคุมขังพวกเขาทำไม ? เขาเป็นสัตว์ร้ายหรือถึงต้องตีโซ่ตรวน ?
กติกาประชาธิปไตยข้อต่อไป
ว่าไปตามสถานการณ์
มาทำความเข้าใจกัน ว่าเรื่องมันง่าย(simple)จริง ๆ จนคนทั่ว ๆ ไปขึ้นชื่อว่าคน แม้เด็ก ๆ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก เมื่อฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าของพรรคการเมืองใด ได้อำนาจการบริหารแล้ว รัฐบาลต้องบริหารไปอย่างสุจริตสอดคล้องนโยบายที่ให้ไว้แด่ประชาชน นั่นคือก่อนการเลือกตั้งคุณพูดอะไรไว้ คุณก็ต้องทำตามที่พูด นั่นคือหลักการว่าด้วยศีล(ขอที่ 4 ในพระพุทธศาสนาคือ อย่าโกหก ซึ่งชาวพุทธทั่วไปเขาถือและใช้ประมาณการณ์สถานการณ์และบุคคล) หากพบว่ารัฐบาลบริหารออกนอกแนวนโยบายที่เคยพูดไว้ต่อหน้าประชาชน แล้ว นั่นพึงเชื่อไว้ก่อนเลยว่า คือร่องรอยของรัฐบาลทุจริต คิดมิชอบต่อประชาชน และเมื่อมีการแสดงหลักฐานสำคัญที่พิศูจน์ให้เชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว นั่นหมายถึงการขาดความชอบธรรม ขาดทั้งสิทธิที่ และทั้งคุณสมบัติจะอยู่เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลก็ต้องพิจารณาตัวเอง ต้องออกไป
แต่ในความเป็นจริงของเหตุผลหลาย ๆ ด้าน ถึงแม้จะมีการทุจริตดังว่านั้นแล้ว แต่รัฐบาลที่หน้าด้านจะไม่ยอมลาออกไปง่าย ๆ อย่างเช่นรัฐบาลอภิสิทธิ์ปัจจุบันนี้เลย เราต้องให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ไล่รัฐบาลแทนประชาชน ในการนี้ฝ่ายค้านจะต้องมีหน้าที่สำคัญคือการตรวจสอบแทนประชาชน สามารถตั้งกระทู้ถาม เพื่อตรวจสอบสิ่งที่น่าสงสัยได้ทุกอย่าง ทุกประการ ตลอดเวลา ตามความเหมาะสม สิ่งที่เราจะต้องมาทำความเข้าใจก็คือ สำนึกของฝ้ายค้าน ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลนั้น ก็คือหน้าที่ในการไล่รัฐบาลทุจริตออกไป เมื่อพบว่ารัฐบาลทุจริตโดยเหตุผลที่ฝ่ายค้านได้พบ ท่านต้องว่าไปตามเหตุผล และบทสรุปคือ ต้องไล่รัฐบาลทุจริตออกไปให้ได้ อย่าเอาไว้ ต้องไม่ยอมเปิดโอกาสให้รัฐบาลกระทำการทุจริตได้อีกต่อไป นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ง่าย ๆ ว่าทำไมเราจึงต้องมาตั้งกติกา ให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รวมทั้งกติกาข้ออื่น ๆ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนขับไล่รัฐบาลทุจริตได้
เมื่อมาคำนึงดู ก็จะได้พบว่าทางตะวันตกอเมริกาก็ได้แบบแผนนี้มาจากหลักการในพระปาฏิโมกข์นั่นเอง เมื่อประยุกต์มาใช้ในทางการเมือง ก็พบว่ามีความผิดอยู่สำคัญ ๆ 4 ประการที่สามารถจะไล่รัฐบาลออกไป โดยกติกากำหนดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รวมทั้งกติกาสำหรับประชาชนที่จะขับไล่รัฐบาลได้โดยตรง
หลักการในพระปาฏิโมกข์ในประเด็นนี้ก็คือหลักพระวินัย ปาราชิก 4 เมื่อเปรียบเทียบหลักการพระปาฏิโมกข์กับหลักการประชาธิปไตยแล้ว ได้ปาราชิก 4 ทั้งฝ่ายพระสงฆ์และฝ่ายรัฐบาล ดังนี้ (ลำดับแรก เป็นปาราชิกฝ่ายสงฆ์ ลำดับหลัง เป็นปาราชิกฝ่ายฆราวาส)
1 อนึ่งภิกษุใด ถึงพร้อมด้วยสิกขาสาชีพของภิกษุทั้งหลายแล้วไม่บอกคืนสิกขา ไม่ทำความเป็นผู้ทุรพลให้แจ้ง เสพเมถุนธรรม โดยที่สุดแม้ในสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้"
1. รัฐบาลเสพสมกับพรรคการเมือง หรือกลุ่มบุคคลที่ชั่วร้ายทุจริต เช่นรัฐบาลประชาธิปัตย์ ได้ความเป็นรัฐบาลมาจากการเสพสมกับบุคคลเลว ๆ 4 ประเภทคือ ราบ 11 และพวกทหารเผด็จการอมาตยาธิปไตย, ขบวนการโฆษณาชวนเชื่อพันธมิตรสนธิ-จำลอง-ประชาธิปัตย์ ที่นำโดยเจ๊กลิ้ม, กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน และพรรคการเมืองโสเภณี ฯลฯ
2 อนึ่ง ภิกษุใด ถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยส่วนแห่งความเป็นโขมย จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี พระราชาทั้งหลายจับโจรได้แล้ว ประหารเสียบ้าง จองจำไว้บ้าง เนรเทศเสียบ้าง ด้วยบริภาษว่า เจ้าเป็นโจร เจ้าเป็นคนพาล เจ้าเป็นคนหลง เจ้าเป็นโขมย ดังนี้ ในเพราะถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานใด ภิกษุถือเอาทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้เห็นปานนั้น แม้ภิกษุนี้ ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้"
2. รัฐบาลบริหารการเงินการงบประมาณของชาติอย่างหละหลวม เปิดช่องให้เกิดการรั่วไหล มีการเปิดทางให้แก่นักการเมืองและคนภายนอกทำทุจริตหากินกับงบประมาณอย่างมากมายมหาศาล พบการทุจริตจากโครงการของรัฐบาลทุกโครงการ วันแล้ววันเล่า แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลและคนของรัฐบาลก็ยังหน้าด้านไม่อับอายสายตาประชาชน ปล่อยประชาชนให้ลำบากปากกัดตีนถีบไปตามยถากรรม
3. อนึ่ง ภิกษุใดจงใจพรากกายมนุษย์จากชีวิต หรือแสวงหาศัสตราวุธอันจะปลิดชีวิตให้แก่กายมนุษย์นั้น หรือพรรณนาคุณแห่งความตาย หรือชักชวนเพื่ออันตายด้วยคำว่า แน่ะนายผู้เป็นชาย จะประโยชน์อะไรแก่ท่าน ด้วยชีวิตอันแสนลำบากยากแค้นนี้ ท่านตายเสียดีกว่าเป็นอยู่อย่างนี้ เธอมีจิตอย่างนี้ มีใจอย่างนี้ มีความหมายหลายอย่าง อย่างนี้พรรณนาคุณในความตายก็ดี ชักชวนเพื่ออันตายก็ดี โดยหลายนัย แม้ภิกษุนี้ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้"
3. รัฐบาลที่ฆ่าคน สังหารประชาชน เห็นชัดเจนในเหตุการณ์ปี 2553 ตั้งแต่ต้นปี มาหลายครั้ง จนถึงครั้งใหญ่ 19 พ.ค.2553 ที่รัฐบาลล้อมปราบปรามประชาชน ตายถึง 91 ศพ และฆ่าคนของมูลนิธิเพื่อการกุศลที่ปฏิบัติหน้าที่การกุศลอยู่ในเขตอภัยทาน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา 6 ศพตายในวัดปทุมวนาราม กลางกรุงเทพ
4 อนึ่ง ภิกษุใดไม่รู้เฉพาะกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตนว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ ครั้นสมัยอื่นแต่นั้น อันผู้ใดผู้หนึ่งถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตาม ก็ตาม เป็นรอันต้องอาบัติแล้ว มุ่งความหมดจด จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า แน่ะท่าน ข้าพเจ้าไม่รู้อย่างนั้น ได้กล่าวว่ารู้ ไม่เห็นอย่างนั้น ได้กล่าวว่าเห็น ได้พูดพล่อย ๆ เป็นเท็จเปล่า ๆ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ แม้ภิกษุนี้ ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้" (ศึกษาเพิ่มเติมจากเวบบอร์ดเรื่อง ศอฉ.สามารถจับพระสงฆ์สึกได้จริงหรือ???)
4. รัฐบาลโอ้อวดผลงานของตนเกินความเป็นจริง เช่นรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ไม่มีแม้แต่นโยบายของตนเอง เป็นนักลอกกากนโยบาย (เช่นลอกกากนโยบายประชาวิวัฒน์ของประธานาธิบดีเบน อาลี ประเทศตูนีเซีย ซึ่งบัดนี้โดนประชาชนอัปเปหิไปนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว มาเป็นนโยบายประชาวิวัฒน์ 9 ข้อสำหรับประชาชนไทย เป็นต้น) ไม่เคยแถลงนโยบายต่อหน้ามหาประชาชนก่อนการเลือกตั้ง และไม่เคยแถลงนโยบายในสภาผู้แทนราษฎร และไม่ปรากฏผลงานออกมาเลย ไม่ว่าตรงนโยบายหรือไม่ตรงนโยบาย และซ้ำยังออกนโยบายขัดความจริงตามเหตุตามผลที่ควรจะเป็นไปได้ตามสายตาประชาชน เช่นนโยบายชั่งกิโลไข่ขาย เป็นต้น โดยมีการโอ้อวดเกินความจริงและการโกหกพกลมตลบตะแลงไปอย่างไม่หวั่นต่อคำครหานินทาและหน้าที่รับผิดชอบ ผ่านรายการของหัวหน้ารัฐบาลเช่น รายการเชื่อมั่นประเทศไทย รายการเจิมสาก และเอเอสทีวี เป็นต้น
ทั้ง 4 ประการนี้ ทำให้เกิดสิทธิอย่างสำคัญของฝ่ายค้านในรัฐสภา ที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ซึ่งในการนี้ฝ่ายค้านต้องพยายามพิศูจน์ให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลได้กระทำความผิดประการใดประการหนึ่งใน 4 ประการข้างต้น ก็สามารถขับไล่ได้
ในสภาวะการณ์ทั่วไปในขณะนี้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยุคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีข้อไหนใน 4 ข้อที่รัฐบาลนี้ไม่ทุจริต โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อที่รัฐบาลล้อมปราบปรามประชาชน 19 พ.ค.2553 นั่นเป็นหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว และหมายความว่ารัฐบาลปาราชิกต้องออกไปทันที แต่ฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทย อ่อนด้อย หรืออาจจะไม่รู้ในสิทธิและหน้าที่ของตน ก็ได้ ฉะนั้นจึงต้องเข้าใจว่าหน้าที่สำคัญของตนเองมาถึงแล้ว จะเอารัฐบาลทุจริตเยี่ยงนี้ไว้ทำไมให้ทำลายชาติและประชาชน ? ถ้าเขาหน้าด้านนัก ประชาชนต้องมาร่วมใจกันขับไล่..เสมือนพระสงฆ์ต้องปาราชิก 4 ...นี่เป็นกติกาสากลธรรมชาติของประชาธิปไตย.
หนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) เล่มที่ 46
ศึกษาประชาธิปไตยไทย
คัดสรรบทวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยก่อนและหลัง 19 กันยายน 2549 เกี่ยวกับประชาธิปไตยไทย
สารบาญ
A second Urgent Message to President Mubarak of Egypt
Your highness, the President Hosni Mumbarak of Egypt
Let me say s'thing. Your word is wrong. You've been missled. The word "My Egypt" is untrue. Egypt is not yours. Egypt is of Egyptians. Egypt is not for you. Egypt is for Egyptians. This is also true for a power to rule Egypt. For the power to rule Egypt is not yours but of all the Egyptians'.
Please hear my warnings. I warned you that to kill can not end the difficulties but makes more difficulties. Now can you see by yourself that it is true. For your order to make a seperation in liberation square last day make at least 5 people died and several wounded. But can it solve the problem? You see now that they come ever much much more that you can do nothing.
So I think that you should not delay any more because Egypt is not yours but Egypt belongs to all the Egyptians and all the Egyptians manage power over Egyptians ownselves. I think you must go. Your decision should come before the day "day of departure".
This is urgent for the sake of your security.
Be blessed.
PanyaTharoBhikkhu
Thailand
February 4,2011
จดหมายด่วนถึงท่านประธานาธิบดีมูบารักแห่งอียิปต์ฉับที่ 2
ท่านประธานาธิบดี ฮอสนี่ มูบารักแห่งอียิปต์ที่เคารพ
ขอให้ข้าพเจ้าได้พูดความจริงบางอย่าง ที่ท่านประธานาธิบดีพูดไปนั้นมันผิดความจริง ท่านเข้าใจผิด คำพูดที่ว่า "ประเทศอียิปต์ของผม" นั้นมันไมถูก มันผิด ประเทศอียิปต์ไม่ใช่ของ ๆ ท่าน ประเทศอียิปต์เป็นของประชาชนอียิปต์ ประเทศอียิปต์ไม่ใช่เพื่อท่าน แต่เพื่อประชาชนอียิปต์ นี่เป็นความจริงสำหรับอำนาจที่ปกครองอียิปต์ด้วย เพราะอำนาจการปกครองไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นของประชาชนอียิปต์ทั้งหมดทั้งมวล
ได้โปรดฟังคำเตือนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้เตือนท่านว่า การฆ่าไม่ใช่วิธีที่แก้ปัญหาได้เลย การฆ่ามีแต่จะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นไปอีก บัดนี้ท่านเห็นแล้วหรือยังว่ามันเป็นความจริง? เพราะการที่ท่านได้ออกคำสั่งให้ทหารไปทำลายการชุมนุมที่สี่แยกลิบเบอเรชั่นวันที่แล้ว อันเป็นผลให้คนตายไปถึง 5 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน แล้วมันสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่? ท่านจะเห็นได้ด้วยตนเองว่าพวกเขาพากันมายิ่งมากกว่าเดิมหลาย ๆ เท่า จนท่านไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้ว.
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงคิดว่า ท่านไม่ควรจะรีรอต่อไปอีกแล้ว เพราะว่าอียิปต์ไม่ใช่ของท่าน แต่มันเป้นของประชาชนอียิปต์ทั้งหมดทั้งมวล และประชาชนอียิปต์ทั้งหมดทั้งมวลเป็นผู้จัดการอำนาจการปกครองประเทศด้วยตัวของพวกเขาเอง. ข้าพเจ้าคิดว่าท่านจะต้องไป และการตัดสินใจของท่านควรจะมาก่อนวัน วันแห่งการจากพราก
ข้าพเจ้าเขียนจดหมายด่วนอีกฉบับก็เพื่อประโยชน์ของท่านประธานาธิบดีเอง
ขอได้รับความปรารถนาดี
ปัญญาธโรภิกขุ
ประเทศไทย
4 ก.พ.2554
An Urgent Message to President Mubarak of Egypt
จดหมายด่วน