แผ่นดินไหวในพม่า 6.7 ริกเตอร์
มีศูนย์กลางที่เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน แคว้นไทยใหญ่ เมื่อ24 มี.ค.2554 ตาย 74 บาดเจ็บ 110 บ้านพัง 240 หลัง(ข่าว sms nation 25 มี.ค.2554 17.26.17 น.) ห่างจาก จ.เชียงราย ประมาณ 56 กิโลเมตร ห่างจาก อ.แม่จัน และอ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 30 กิโล เมตร
ทางกรมกรมทรัพยากรณ์ธรณี ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลา 20.55 น. ตามเวลาประเทศไทย มีศูนย์กลางละติจูด 20.87 องศาเหนือ ลองจิจูด 99.91 องศาตะวันออก ที่ระดับความลึก 10 ก.ม. ห่างจากเมืองเกงตุงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฉาน ประเทศพม่า และเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 ริกเตอร์ตามมาอีก 6 ครั้ง ซึ่งการเกิดเเผ่นดินไหวสืบเนื่องจากการเลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งวางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงทิศตะวันตกเฉียงใต้ ระนาบเหลี่ยมซ้าย มีความยาว 150 ก.ม. อยู่ในประเทศพม่าต่อเนื่องเข้าไปในประเทศลาว โดยวางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งเป็นรอยเลื่อนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย
"สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนอีกแนวหนึ่งของกลุ่มรอยเลื่อนน้ำมา ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ในประเทศลาว เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 50 ที่ผ่านมา ส่วงผลให้พระธาตุจอมกิตติ ร.ร.เม็งรายมหาราชวิทยาคม ร.พ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และ ม.แม่ฟ้าหลวง เกิดรอยแตกร้าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก" อธิบดี ทธ.กล่าว(ข่าวสดออนไลน์ 26 มี.ค. 2554)
กระแสความรุนแรงสะเทือนถึงกรุงเทพ ในจังหวัดภาคเหนือไทยได้รับความเสียหาย วัดพระธาตุเจดีย์หลวง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ยอดเจดีย์หักลงร่วม 6 เมตร มีสตรีตายเพราะโดนกำแพงพังทับ 1 คน ยังมีรายงานจากเวียดนามว่าได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน ส่วนภาพข้างบน จากโทรทัศน์อัลจาชีราเช้าวันนี้(26 มี.ค.2554 11.30น.) อัลจาชีรา รายงานยอดผู้เสียชีวิต กว่า 70 คนแล้ว หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไทยรายงานค่อนข้างตรงกันว่า ขณะนี้มีบ้านของประชาชนพม่าที่พังลงเพราะแผ่นดินไหวครั้งนี้ ยังคงกองทับถมกันอยู่ รัฐบาลพม่ายังไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยประชาชนแต่อย่างไร คงปล่อยให้ประชาชนช่วยเหลือตนเองไปตามยถากรรม รายการ intelligence ของ voice tv. เช้านี้ก็ได้ส่งนักข่าวไปถึงท่าขี้เหล็กและรายงานเรื่องราวต่าง ๆ เข้ามา ที่ได้รับฟังแล้วก็น่าอนาถใจ เพราะไม่มีความช่วยเหลือใดใดของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลเข้าไปถึงเลย สิ่งที่น่าพิศวงก็คือ แทบไม่ได้เห็นด้วยว่า มีการคาดการณ์ของประชาชนผู้ได้รับภัยพิบัติเหล่านี้ ว่าพวกเขาจะต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐบาล รวมทั้งความช่วยเหลือของมนุษย์ร่วมโลกอย่างไร นี่คือการที่ได้ตกอยู่ใต้วัฒนธรรมเผด็จการมาเนิ่นนาน รัฐบาลเหมือนเทพเจ้าผู้ประทาน สุดแต่จะประทานอะไรให้ประชาชนเท่านั้น ประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้อง ซึ่งความจริงนี้ได้เห็นกันอย่างแจ้งชัดมาตั้งแต่พม่าถูกพายุไซโคลนถล่ม หลังปีที่เกิดการเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ คือเดือนตุลาคม 2550 ที่มีประชาชนกว่า 7 หมื่นพร้อมพระภิกษุสงฆ์อีกกว่า 3 หมื่นรวมเป็นแสน ชุมนุมที่เจดีย์ชะเวดากอง แล้วทหารเผด็จการทำการสลายการชุมนุมอย่างแรงเป็นผลให้ประชาชนและพระสงฆ์เสียชีวิตกว่า 300 ศพ หลังนั้นไปจึงเกิดบาปกรรมสนองประเทศพม่าโดยเกิดพายุนากิสถล่ม เป็นผลให้เสียชีวิตประชาชนไปในจำนวนมหาศาล พอ ๆ กับคราวเกิดสินามิของประเทศทะเลอันดามัน รวมทั้งไทยด้วยรวมกันทั้งหมด 14,0000 คนเศษ ๆ (คือไซโคลนนากิสในพม่า ประเทศเดียว ทำคนตายพอ ๆ กับภัยสินามิของหลาย ๆ ประเทศ) ซึ่งในคราวเกิดพายุไซโคลนนั้น ระบบปกครองเผด็จการทหารพม่าไม่มีความแยแสเลยว่าประชาชนพม่าจะเป็นอย่างไร ไม่ได้มีความกระตือรือร้น ในเชิงการเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์เลย จึงไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนแต่อย่างใด ปล่อยให้ประชาชนช่วยเหลือตนเองตามยะถากรรม และทั้งยังประกาศไม่ยอมรับความช่วยเหลือของนานาชาติ จนกระทั่งนานาชาติ โดยเฉพาะอเมริกา ทั้งองค์การสหประชาชาติ ทนดูอยู่ไม่ได้ จึงเริ่มกดดันรัฐบาลพม่าให้รับการช่วยเหลือของนานาชาติ โดยสิทธิของมนุษยชน ก็เข้ามาช่วยเหลือ แต่จะเห็นว่าพม่าก็ยังมีท่าทีไม่ยอมให้ต่างชาติโดยเฉพาะอเมริกาเข้ามาช่วยเหลือประชาชนของตนอย่างสดวก แม้กระทั่งการสื่อสาร พม่ามีทีวีผ่านดาวเทียมที่มีชื่อว่า MRTV 1-4 แต่ได้ปิดการเผยแผ่ลงไปตั้งแต่ระบอบทหารเริ่มเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ มาจนถึงบัดนี้ วันนี้ MRTV ก็ไม่สนใจจะสื่อข่าวสารไปสู่นานาประเทศ (ล้าหลังขนาดไหนก็จินตนาการเอาเอง) จึงไม่มีใครทราบข่าวคราวความเป็นตายร้ายดีของประชาชนพม่าอีกเลย สหรัฐอเมริกาแถลงว่า การให้ความช่วยเหลือที่ไม่ทันการณ์ เป็นเหตุให้ประชาชนพม่าเสียชีวิตไปจำนวนมาก นี่คือตัวอย่างของระบอบโง่ ๆ ของพม่า(ที่ทหารไทยคิดจะเดินตามก้นอยู่ขณะนี้) ที่สืบมาถึงกรณีแผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้
สุไหงปาดี ชินะกุล
26 มี.ค.2554/12.30 น.