ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ประชาชนพ้นทุกข์ ได้ปัญญา ตาสว่างทั้งแผ่นดิน
ทักษิณคิดอย่างไร ได้ฟังกันแล้วเมื่อ วันที่ 23 เม.ย. 2554 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
และขณะนี้ วันนี้ วงการสื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักการเมือง และประชาชนทั่วไปก็ตกอยู่ในอาการตื่นกับความคิดของทักษิณ ในทัศนะของเราเห็นว่า แนวความคิดนี้ ก็เป็นสิ่งที่ได้แสดงผลออกมาแล้วในยุคพรรคไทยรักไทยปกครองประเทศ ครั้นพรรคไทยรักไทยถูกยุบด้วยอำนาจอมาตยาธิปไตย หัวล้าหลัง ที่ได้โกงอำนาจและรัฐบาลประชาชนไป โดยมีผู้มีบารมีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ เป็นตัวชักใยวางแผนล้มล้างรัฐบาล ด้วยความคิดอันล้าหลังสุดกู่แต่มักใหญ่ใฝ่สูง จึงทำประเทศล่มจมลงไปอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุให้คนรู้ความจริง และประชาชนได้เรียกร้องนโยบายทักษิณ พรรคทักษิณ และทักษิณเอง กลับคืนมา จนบัดนี้ มีโอกาสได้รับฟังว่านโยบายที่จะฟื้นประเทศไทยที่กำลังค่อยจมลงไปด้วยหัวอำมาตย์ล้าหลัง เป็นอย่างไร ประเด็นสำคัญของนโยบายนี้ ไม่ใช่มีความสำคัญเพียงว่า ทำอย่างไรประเทศไทยจึงจะหายจากความยากความจน มาสู่ความร่ำรวย ที่อาจจะร่ำรวยกันได้ทุกชั้นวรรณการอาชีพ และมีเกียรต์ในสายตาต่างประเทศ แต่มีนัยยะสำคัญของความเป็นประชาธิปไตย ในแง่ที่ว่าทำอย่างไรประชาชนจึงจะสามารถขึ้นมาสู่อำนาจอธิปไตยของประเทศ และรักษาอำนาจเอาไว้เป็นของประชาชนอย่างถาวรต่อไป นั่นคือความเป็นประชาธิปไตย..........และความคิดทักษิณนี้แทบทั้งหมดนั่นแหละ กระตุ้นวงจรลัดให้แด่ประชาธิปไตยไทย มันลัดไปได้อย่างเร็วเกินความคาดหมาย โดยการปลุกประชาชนให้ตื่นและรู้จักคิดและรู้จักทำได้ด้วยตนเอง .... เป็นนโยบายอันเร่งรัดและข้ามขั้นตอนการวิวัฒนาการของประชาธิปไตยไปได้เป็นศตวรรษ เราจึงสนับสนุนนโยบายและตัวบุคคลผู้จะทำนโยบายนี้อย่างเต็มที่
ส่วนที่จะมีเกิดขึ้นของปฏิกริยาในทางไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ก็ย่อมมี สำหรับพรรคการเมือง และบุคคลผู้ตามไม่ทันการเมืองยุคใหม่..และไม่เข้าใจอะไรเป็นอะไรเกี่ยวกับประชาธิปไตย ไม่เข้าใจหน้าที่ของพรรคการเมืองและนโยบายทางการเมือง ....มีพรรคการเมืองลักษณะนี้อยู่ในประเทศไทย ที่ไม่รู้จักประชาธิปไตย ไม่รู้จักทำนโยบายมาก่อนเลย แม้จะเกิดมานานกว่าพรรคการเมืองอื่น...ก็ได้แก่พรรคประชาธิปัตย์และทหาร ที่ได้เป็นรัฐบาลในขณะที่มิได้มีอะไรอยู่ในหัวเรื่องนโยบายของพรรคการเมืองเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จึงไม่ได้มีการแถลงนโยบายก่อนขึ้นปกครองประเทศ(การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้แถลงนโยบายในสภาผู้แทนราษฎร แต่เลี่ยงไปแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น ถือว่าไม่ได้แถลงนโยบาย และสะท้อนถึงการไร้นโยบาย และหมายถึงการเสี่ยงนำรัฐนาวาไปท่ามกลางความมืด ไร้หางเสือ ซึ่งก็ได้พิศูจน์แล้วว่าได้นำรัฐนาวาคือประเทศและประชาชนไปสู่ความหายนะแล้ว...และถลำไปคิดผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิที่ร้ายกาจ...กล่าวคือไปคิดวิธีการบริหารอันโหดเหี้ยมเยี่ยงสัตว์ป่าขึ้นมาใช้กับประชาชนตนเอง (เพราะคิดอย่างคนผู้เป็นประชาธิปไตยไม่เป็น) นั่นคือฆ่าประชาชนส่วนหนึ่งทิ้งเสีย...อย่างน้อยก็ 91 ศพ... โดยข้ออ้างว่า เป็นมะเร็ง คือส่วนที่เลวร้ายของเลือดและเนื้อที่ไม่มีทางรักษาให้หายได้.....ในทัศนะของพรรคประชาธิปัตย์และทหารที่โง่เง่า..... มีทางเดียวคือตัดก้อนเนื้อร้ายนั้นทิ้งเสีย...แต่แล้วเนื้อที่อ้างว่าร้ายนั้นกลับงอกขึ้นมามากกว่าเดิมและงอกขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ่งที่คิดว่าเนื้อร้ายนั้นจะท่วมตัวท่วมตนจนคนที่อ้างว่าเนื้อดีนั้นค่อยฝ่อลงไปจนจวนจะไม่มีที่อยู่แล้ว ) เมื่อเป็นเช่นนั้นรัฐบาลประชาธิปัตย์และทหาร จึงจำต้องยอมลอกกากนโยบายพรรคการเมืองอื่น เช่นพรรคไทยรักไทยไปทำ อย่างไม่เข้าใจเหตุผล แนวคิดอย่างประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นไว้นั้น รัฐบาลนี้เขลาขนาดที่ต้องไปเสียค่าโง่ เพื่อจ้างบริษัทต่างประเทศให้ทำนโยบายเรื่องไข่ชั่งกิโล เสียเงินซื้อไปถึง 71 ล้านบาท แต่แล้วก็โดนตุ๋นเสียเปื่อย ...... น่าอับอายโลกทั้งโลกจริง ๆ (เขาก็จะเอาไปพูดว่า ขอให้ ปชป.ได้เป้นรัฐบาลอีก เขาจะเสนอนโยบายอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกเงินค่าทำนโยบายเท่านั้นเท่านี้ได้อย่างสบาย) แล้วยังไปลอกกากนโยบายประชานิยมมาจากอดีตประธานาธิบดีตูนีเซีย มาทำอย่างตูนีเซีย ที่แจก ๆ ๆ ๆ ตลอดมานั่นแหละ จนประธานาธิบดีตูนีเซียเผ่นหนีไปแล้ว ยังไม่รู้คิด (อันผิดหลักการประชาธิปไตยในแง่ที่ไม่ช่วยให้คนคิดเป็นทำเป็น) และยังมีก๊กการเมือง คือก๊กการเมืองใหม่ และก๊กภูมิใจไทย(ที่เรียกก๊กก็เพราะไม่มีลักษณะที่จะเรียกได้ว่าพรรคการเมือง) ที่มืดบอด สิ่งที่ไม่ใช่นโยบายไปประกาศว่าเป็นนโยบาย เช่น เอาหลักการโฆษณาชวนเชื่อมาประกาศว่าเป็นนโยบายได้อย่างไร จนกกต.เขาตำหนิ แล้วก็คิดอับอายตนเอง รีบปลดป้ายลงทั่วประเทศ เสียเงินเท่าไรไม่คำนึง ..อันเป็นท่าทีที่หมิ่นแคลนประชาชน นึกว่าคนไม่รู้ทัน .. เราคิดว่าพรรคเหล่านี้ควรจะถอนตัวจากการเลือกตั้งเสีย เพราะ นี่คือวัชพืชของประชาธิปไตย ทำให้ทางเดินของประชาธิปไตยรก...........
เราพบว่าคนทั้งหลายกำลังตื่นในนโยบายใหม่เอี่ยมของพรรคเพื่อไทย โดยทักษิณ วันนี้ เพราะแม้ชาวนาในชนบทก็วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างอึงคะนึงในเรื่องเครดิตถ์การ์ดและหนี้เกษตรกร ....ทางชลบุรี ทางใต้ก็คงตื่นเรื่องการถมทะเลสร้างเมืองใหม่..การป้องกันน้ำท่วม....ตลอดทั้งนิสิตนักศึกษาผู้จบการศึกษาแล้วที่จะได้มีโอกาสได้งานเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท บ้านใหม่ รถคันใหม่ และการเริ่มต้นชีวิตใหม่......แม้พี่น้องชาวมุสลิม3จังหวัดใต้ก็มีสิทธิได้เขตปกครองตนเองตามสิทธิประชาธิปไตย ....และอย่าลืมว่า มีประชาชนตาดำ ๆ ผู้ที่มีปากเหมือนน้ำท่วมปาก...(เพราะเขาป่วยอยู่).....เขาไม่อาจจะพูดได้ ว่าสิ่งที่พวกเขารอคอยคือ...... 30บาททุกโรค.....ทุกโรค........ในรายละเอียดของนโยบาย นั่นเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย นักการเมือง และประชาชนผู้สร้างประชาธิปไตย จะนำมาขยับขยายความออกไปตามลำดับ ๆ และให้เห็นว่าทั้งหมดของนโยบายทักษิณ....ไม่อาจจะแยกส่วน....แต่เป็นการสัมพันธ์กันเป็นองค์รวม.............
- สุไหงปาดี ชินะกุล
24 เม.ย.2554