ไอ้ขี้หมา ไอ้หน้าตัวเมีย
ผุสดี งามขำ อายุประมาณ 62 ปี คนถือธงคนสุดท้าย รอให้พวกทหารมาฆ่า ณ เวทีราชประสงค์ วันที่ 19 พ.ค. 2553 ภาพวันที่ 23 มิ.ย.2554 ช่องเอเซียอัพเดท ให้สัมภาษณ์ตรีชฎา ศรีธาดา เบื้องลึกของจิตใจนักรบเสื้อแดงที่มีความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และมีสติปัญญาอย่างแท้จริง เธอเป็นคนกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด ดูบุคคลิกภาพเหมือนจำลองมาจากนักรบบางระจัน ยุคพม่ารุกรานไทยสมัยอยุธยา ที่รบอย่างถวายชีพเป็นพลีจริง ๆ เพิ่งได้ฟังคำพูดของเธอ เป็นคำพูดของนักรบไทยภาคกลาง อย่างแท้จริง นั่นคือหมายถึงจิตใจที่เป็นนักรบ ทรงความเป็นธรรม รักความยุติธรรม ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ประโยคคำพูดแต่ละคำพูดเฉียบคม มีความหมาย เธอพูดถึงเจตนาของการชุมนุมเสื้อแดงว่า บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย พวกเสื้อแดงไม่อาจจะบอกรัฐบาลเผด็จการได้ ได้แต่ทน ...พวกเสื้อแดงเพียงเรียกร้องเอาศาลยุติธรรม เอาความเป็นธรรมคืนมาให้เรา นี่เป็นการขอครั้งสุดท้าย ...รัฐบาลอภิสิทธิ์ และทหารที่ฆ่าประชาชนต่อหน้าของเธอ เห็นชัดเจน...คุณมันไอ้ขี้หมา ... เรายอมตายเพื่อกันและกันไม่มีหรอกจะฆ่ากันเอง....ทำงานกินเงินเดือนภาษีของประชาชน มีความสุขนักหรือที่ไล่ฆ่าประชาชน...ไอ้หน้าตัวเมีย..... ซึ่งวันเดียวกันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยคนสำคัญของพรรค 4 คนคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกอบศักดิ์ สภาวะสุ นายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งเวทีปราศรัย ที่สี่แยกราชประสงค์ หน้าห้างเซนทรัลเวิล ซึ่งชาวเสื้อแดงเห็นว่าเป็นการเหยียบย่ำจิตใจอย่างไร้น้ำใจที่สุด และแล้วเทวดาก็แก้แค้นให้ด้วยเกิดฝนตกหนักก่อนหน้าการปราศัย ไปจนถึงเวลา 18.20 น. จึงหยุดลง ผุสดี งามขำ แสดงทัศนะว่า "มันบีบหัวใจ....มันเหยียบย่ำ ....แสดงความต่ำช้าสามานย์ของมัน"......กรรมจะต้องลงโทษมัน....กรรมแท้ ๆ คือคนเสื้อแดงนี่แหละ ที่จะติดตามพวกมันไปจนกว่าความยุติธรรมจะคืนมา ........การเลือกตั้งนี่แหละจะต้องเป็นธรรมก่อน เราเพียงหนุนพรรคที่จะช่วยพวกเราให้ได้ความเป็นธรรมกลับมา.....เพราะเราเป็นอิสระชน ที่ไม่ขึ้นกับใคร ใครนำประชาชนไปสู่ประชาธิปไตยเราหนุน หากไม่ทำ เฉไปเราต่อต้าน .......
001 รายงาน
23 มิ.ย.2554/ 23.40 น.
ทัศนะของผู้ฟังนายอภิสิทธิ์ พูดที่ราชประสงค์
กล่าวลาด้วยเสียงสะอื้นว่า..... ผมจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว................ดูเศร้าโศก แต่คนฟังดูไม่สะเทือนใจไปด้วย...............คนฟังเขาคงไม่ได้รักจริงมั้ง
จบแล้วมั้ง.................
ณัฐวุฒิพูดมา ...........ว่ามาพูดทำไมที่ราชประสงค์ .........แฝงเจตนาสร้างความแตกแยก............ฟังแล้วมองเห็นแต่อดีต ไม่มีอนาคต.....
ขอเป็นนายกอีก 4 ปี ..............พุทโธ่ !!!!
ผมว่าไร้สาระจริง ๆ .................. ไม่ใช่ครั้งนี้ แต่ทุกครั้งที่คน ๆ นี้พูด ล้วนเรื่องไร้สาระ ๆ.... มาตั้งแต่....พูดในสภาคราวเป็นฝ่ายค้านรัฐบาลสมัครแล้ว ...ไร้สาระมาถึงรายการ เชื่อมั่นประเทศไทย.....................มาถึงวันนี้...
เพราะแกไม่ได้พูดอะไรที่เป็นสาระ...............
ผมว่า ไร้วุฒิภาวะแต่......กระหายอยากเป็นใหญ่ อยากได้ตำแหน่ง............ ไม่มองตัวเอง ......... ก็เท่านี้เอง แกไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยเลย วิถีทางประชาธิปไตยที่จำเป็นต้องเอามาแก้ปัญหาประเทศไทยขณะนี้ .......แกก็ไม่เห็นไม่รู้ไม่เข้าใจเลย ผมหมายถึงแท้จริงปชป.อยากได้คะแนนเสียง 250 เสียง แต่กลับหาเสียงแบบไม่ถูกธรรมชาติ ผมหมายถึงปชป.ไม่ควรมาหาเสียงด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อเช่นนี้ .........ต้องพูดถึงนโยบายของการบริหารประเทศ และต้องแข่งกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ได้ แต่นี่ ปชป.และอภิสิทธิ์ ไม่มีอะไรไปต่อสู้เชิงนโยบายกับพรรคเพื่อไทย ..........เพราะในเวลาที่เกิดปัญหา ใดก็ตาม เช่นปัญหาเศรษฐกิจ คนเขาจะถามถึง วิธีการหาเงินหาทอง หากินหาใช้ หาเลี้ยงชีวิตตนและครอบครัว ทั้งนั้นแหหละ ใครให้ความหวังเขาในทางที่จะหาเงินหาทอง ปลดหนี้ปลดสิน ให้หากินพอปากพอท้อง หรือให้หายหิวหายโซ ให้ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เขาก็พอใจคน ๆ นั้น เป็นธรรมดา นี่แหละที่เรียกว่า นโยบาย ที่พรรคเพื่อไทยยิ่งพูดยิ่งมีเสียงต้อนรับอึงคะนึงไปเรื่อย ๆ .....(ในขณะที่ปชป.ไม่พูดถึงเรื่องเช่นนี้ แต่คอยด่าแต่คนอื่นไปเรื่อย ๆ ).... เมื่อคู่ต่อสู้เขาเก็บคะแนนไปเรื่อย ๆ แต่เรายังเงื้อง่าไปคนละทิศละทางต่อเป้าหมายเช่นนี้ แล้ว เกิดประโยชน์อะไร ??? ประชาชนที่มาฟังหน้าเวทีวันนี้ เขาก็ใช่ว่าฟังอะไรไม่เป็น เขาก็คงได้ฟังทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่น ๆ มาแล้ว เขาก็คงคิดในใจว่า นายชวน นายสุเทพ จะพูดเรื่องเศรษฐกิจอย่างไร น้ำมันปาล์มอย่างไร ยางอย่างไร ข้าวอย่างไร ฝนตกน้ำท่วมอย่างไร แต่ไม่ได้ยินเลย ซ้ำหัวหน้าพรรคก็ยังแสดงความไร้เดียงสาไม่รู้โตสักทีต่อไป ......... เขาก็ต้องรู้ว่า มันฟัง ๆ ไม่เหมือนพรรคไทยรักไทย ทักษิณ พูด ไม่เหมือนเพื่อไทย ยิ่งลักษณ์พูด ฟังแล้วเลือดฉีดแรง มีความหวัง เห็นอนาคตเจิดจ้า เห็นเงินตุงในกระเป๋า และคนจน ๆ คนที่มีหนี้สินชนิดที่ใช้หนี้ชั่วชีวิตสัก 3 ชาติ - 10 ชาติก็ใช้ไม่หมด ก็ยังมีความหวัง อยากอยู่ต่อไปและให้พรรคที่สร้างความหวังให้ได้เป็นรัฐบาล...........เหมือนครั้งทักษิณ ยังอยู่...... ฯลฯ.........
- ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-06-23 23:14:48