it's amazing
WAR IN THAILAND
It's amazing that there has been a heavy war in Thailand. It began in June 2011[2554] and lasted and is lasting now. More than 53 provinces[of 77] are fighting hard now.The mankind side that leads by the Prime Minister of Thailand, Miss Yingluck Shinnawatra seems cheerful eventhought her deputy Prime Minister Mr.Kittiratana Na Ranong, had to wipe a tear from his eyes a fewdays past to see the defeat of Ayudhayan front, the second line from Bangkok. Now they're fighting hard to defend Bangkok the capital. It's amazing because their enemy is water. They're fighting with floods or in fact more than floods but alike tsunami.
It's a good war. Kittiratana Na Ranong, the second from head has defeated but the commander- in - chief Yingluck Shinnawatra has not yielded. And all citizen still stand.
สงครามใหญ่ในประเทศไทย
นี่คือเรื่องราวที่น่าประหลาดมาก ที่มีการสงครามขนาดหนักเกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ มันเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้วต่อเนื่องมาไม่หยุดหย่อนจนถึงขณะนี้กำลังสู้อยู่อย่างหนักในพื้นที่ 53 จังหวัดจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ฝ่ายมนุษย์ที่มีนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำการสู้รบ ดูเหมือนยังมีกำลังใจต่อสู้อยู่ไม่เหือด แม้ว่ารองนายกรัฐมนตรีของเธอ ถึงกับหลั่งน้ำตาให้แก่ความพ่ายแพ้ที่แนวรบด้านพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นด่านหน้าจากกรุงเทพก็ตาม ขณะนี้พวกเขากำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อป้องกันนครหลวงกรุงเทพจากข้าศึกให้ได้ มันเป็นเรื่องประหลาดที่การสงครามครั้งนี้เป็นการทำสงครามกับน้ำ พวกเขากำลังต่อสู้กับพายุหลายลูก หรือแท้ที่จริงอาจจะเป็นมากว่าพายุ แต่เป็น สินามิ
มันเป็นสงครามที่ดีมาก กิตติรัตน์ ณ ระนอง หมายเลข 2 พ่ายไปแล้ว แต่แม่ทัพใหญ่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ยอมแพ้ และพลเมืองทั้งสิ้นยังคงยืนสู้อย่างทรนง
- ผู้แสดงความคิดเห็น phayap panyatharo (newworldbelieve-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-10-17 19:39:09 .....เรื่องเดิมจาก facebook.com - phayap panyatharo
Live among the water War in Thailand
Thai people still smiles, The world can see
It’s amazing !
War in Thailand is amazing because they’re fighting with water, one side of the war is mankind, the another side is water. They both have been fighting hard for each purpose, for more than 4 months. Their enemy, the water with a huge quantity has first invaded the North since July 2011[2554]. The mankind alerted in full stream when the water moved through Pijitt, Nakornswan, Angthong, Singhaburi to the olden capital, Pranakorn Si Ayudhaya, an important industrious center of Thailand. This front had been defended at top degree of the defense but man could not conquer, have to let the water move through Ptumtani Nontabury and at last met Bangkok. They have already lost the outer part of Bangkok, and have been fighting hard to defend the inner part of Bangkok now. Meanwhile the government Yingluck Shinnawatra seems to get the way out. That is a talk between the two sides and came to an agreement . For what the water want is not to destroy anyone but only a need to get back its home land in the gulf of Thailand. It has been a question that Bankok stand against its way home, can the Bangkokians open a way wide enough for the water to flow through to the sea at the gulf of Thailand. That is the desire of their enemy and the government seems to accept its proposal that makes things going well now.
What I want to tell the world is also another amazing in Thailand. We, the world, see Thai people enjoy with water even though in danger. All part through Thailand is on the alert and with all their heart, they come out to help each other. They prepare food for all the hungers so that there have no a hungry face in this Thai flood situation. No one lacks foods. No children thin with illness. They prepare new houses for all the sufferers. They also prepare boats to go by water ways instead of roads. They prepare everything in need of the sufferers as well as they can. These acts make Thailand still smile. You can see now all smile in every face of Thai people. This is a show of the rich food of Thailand, no people hungry eventhough in great flood. This is amazing.
อยู่ท่ามกลางสงครามกับน้ำ แต่ประชาชนไทยก็ยังยิ้มอยู่
โลกก็เห็นเช่นนั่น
นี่แหละของประหลาดน่าตื่นเต้นในประเทศไทย
สงครามกับน้ำในประเทศไทยเป็นเรื่องประหลาดเพราะเป็นการต่อสู้กับน้ำ ข้างหนึ่งเป็นมนุษย์ อีกข้างหนึ่งเป็นน้ำ ทั้งสองข้างต่างสู้รบกันอย่างหนักเพื่อความจำนงหมายและผลประโยชน์ของตน มากว่า 4 เดือนแล้ว ข้าศึกของมนุษย์ คือน้ำซึ่งมีปริมาณมหาศาลได้เข้าท่วมครอบครองแดนเหนือมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2011 (2554) แล้ว ฝ่ายมนุษย์ตื่นตัวสุดขีดเมื่อน้ำได้เคลื่อนเข้าท่วมพิจิต นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี ทะลุถึงเมืองหลวงเก่าคือพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ แนวรบด้านนี้ได้ถูกป้องกันไว้อย่างสุดความสามารถแต่มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะได้ ต้องปล่อยให้น้ำไหลลงสู่ปทุมธานี นนทบุรี และในที่สุดมาถึงกรุงเทพมหานคร ฝ่ายมนุษย์ได้สูญเสียพื้นที่กรุงเทพชั้นนอกไปเรียบร้อยแล้ว กำลังต่อสู้เพื่อป้องกันกรุงเทพชั้นในอยู่ณเวลาปัจจุบีนนี้ ในขณะเดียวกันกับที่ทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มองเห็นทางออก นั่นคือมีการเจรจา กันระหว่างสองฝ่ายที่สู้กันนั้น แล้วนำไปสู่ข้อตกลงร่วมกัน เนื่องจากน้ำนั้นไม่ได้มีความประสงค์ที่จะทำลายผู้คนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย แต่น้ำมีความจำเป็นจริง ๆ ในการเดินทางกลับบ้านถิ่นเกิดของพวกเขาเท่านั้นเอง และถิ่นเกิดพวกเขาก็คือ อ่าวไทยนั่นเอง คำถามของน้ำที่ได้ถามมาตลอดเวลานานก็คือ กรุงเทพนั้นตั้งขวางทางเดินของพวกเขากลับบ้าน ชาวกรุงเทพจะสามารถเปิดทางให้กว้างพอที่น้ำจะไหลลงทะเล ที่อ่าวไทยได้หรือไม่เท่านั้นเอง นั่นแหละเป็นความประสงค์ของน้ำศัตรูของพวกเขา และดูเหมือนว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะรับข้อเสนอนี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น
สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการที่จะบอกโลกก็คือ ได้มีสิ่งที่น่าประลาดใจอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย เราและชาวโลกจะได้เห็นประชาชนไทยต่างมีความสุขกับน้ำแม้ว่าอยู่ระหว่างอันตรายก็ตาม จะเห็นประชาชนตามภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทยตื่นตัวขึ้นมาช่วยเหลือกันและกัน ด้วยความเต็มอกเต็มใจ พวกเขาต่างตระเตรียมอาหารไว้สำหรับทุก ๆ คนที่หิวอาหาร จนไม่มีปรากฏว่ามีใบหน้าคนไทยที่แสดงความหิวโหย หรืออาหารไม่เพียงพอ และก็ไม่มีเด็ก ๆ ที่ผอมกะหร่อง เพราะความหิวโหยและป่วยไข้ พวกเขาเตรียมหาแม้กระทั่งบ้านสำหรับผู้ไร้ที่อยู่ อาศัย ตระเตรียมแม้กระทั่งเรือที่สัญจรทางน้ำแทนทางถนน และตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับผู้ตกทุกข์ได้ยากอย่างดีที่สุดที่เขาหาได้ การกระทำเช่นนี้เป็นเหตุให้ประเทศไทยยังคงมีรอยยิ้มแย้มอยู่ในขณะนี้เอง คุณจะสามารถเห็นใบหน้าของพวกเขาที่มีรอยยิ้มอยู่ในทุก ๆ ใบหน้าของประชาชนไทย นี่ก็คือสิ่งที่ยืนยันถึงความร่ำรวยด้านอาหารการกินของประเทศไทย ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหิวโหย และนี่แหละสิ่งที่น่าประหลาดตื่นเต้นในประเทศไทยอีกสิ่งหนึ่ง
- จาก FaceBook.com - Phayap Panyatharo
