มันเป็นอวิชชามาตั้งแต่ตั้งชื่อตัวเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้วละ..............โง่บริสุทธิ์........ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร แต่เดาะเรียกตนเองว่า ............ เพื่อประชาธิปไตย.....
ทั้งนี้รวมความถึง พรรคประชาธิปัตย์ด้วย เพราะชื่อ พธม.นี้รวมคน 3 กลุ่มเป็นพันธมิตรมาแต่เริ่มต้นที่คบคิดล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตย คือ
1. ขบวนการเจ๊กลิ้ม
2. พรรคประชาธิปัตย์ และ
3. สันติอโศก-มูลนิธิกองทัพธรรม จำลอง ศรีเมือง
ครั้งนั้น ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ขนคนจากภาคใต้มาร่วมชุมนุมแทบทุกครั้ง มีการยืนยันภายหลังนี่เอง ว่าการมีชุมนุมขนาดใหญ่นั้นแท้จริงเป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ สันติอโศก จำลอง ก็ระดมมาจากสาขาเขาทั้งประเทศ ประมาณ 9-10 สาขา อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เห็นจริงมาจนถึงวันนี้ ส่วนเจ๊กลิ้มทำหน้าที่ฝ่ายอำนวยการและแผนยุทธศาสตร์การโฆษณาชวนเชื่อ โดยเฉพาะงานการข่าวกรองเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ (งานล้วงความลับของบุคคลสำคัญหรือบุคคลในเป้าหมายของเขา)
ขณะนี้ มีคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข ที่มีตาสว่าง เห็นแล้วว่าวิถีทางที่ถูกคือวิถีทางประชาธิปไตย จึงแยกตัวออกไปจาก พธม. ในฐานะที่เป้นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และแกนนำอีกคนก็คือนายวีระ สมความคิด ที่ถูกแทงข้างหลังจากทั้งเจ๊กลิ้ม และ อภิสิทธิ์ ปชป. หลอกไปติดคุกเขมรอยู่ ส่วนอีกคนคือนายสุริยะใส กะตะศิลา ทีแรกดูเหมือนจะไปกับคุณสมศักดิ์ แต่พอเจ๊กลิ้มทวงบุญคุณ ก็จบ และดูเหมือนว่าจะต้องอยู่เป็นขี้ข้าเจ๊กต่อไปจนชั่วชีวิตแล้ว มีอดีตสส.ปชป.แกนนำอีกคนหนึ่งหายหน้าไป ข่าวว่าเป็นอำมะพาต...อ้อ สมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ นี่แหละตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ใน พธม.
นี่คืออวิชชาครับ
แล้วมีกรณีที่คนคงจะลืมยากกรณีหนึ่ง ก็คือ เจ๊กลิ้มประกาศยุทธศาสตร์ 70 : 30 ที่น่าคิดก็คือ การที่ปรากฎว่ามีนักวิชาการในมหาวิทยาลัยเป้นจำนวนมาก รวมทั้งนายสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ที่อยู่นิดา (เป็นศาสตราจารย์เสียด้วย) แห่ไปสนับสนุน ว่าชอบด้วยระบอบประชาธิปไตยไทย
รวมกันเป็นพวกโง่เง่า ไม่รู้จักประชาธิปไตย
การรณรงค์โหวดโน นั่นแหละครับ เป็นเรื่องของการเสียมารยาททางการเมืองอย่างแรง ... มันไม่ถึงมีความผิดร้ายแรงหรอกครับ ...แต่เป็นเรื่องของจริยธรรมทางการเมือง ซึ่งในระบอบการเมืองผู้ดี ย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็น
และซึ่งคนพวกนี้ ก็ไม่รู้จักอีก
คนพวกนี้แหละครับควรเรียนรู้ประชาธิปไตยอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มคำเดียวว่า ประชาธิปไตยกินได้ ...
|