อย่าพยายามทำอย่างอื่นครับ นอกจากพูดคุยกัน ปรึกษากัน คนไทยพูดกันได้ครับ หนักหนาสาหัสขนาดไหน แม้ขนาดน้ำท่วมใหญ่ แล้วนิ่งแช่เป็นเดือน ๆ จนน้ำเปลี่ยนสี ดำคล้ำ ขุ่นคลัก คนไทยก็พูดกันได้ อย่าสร้างความขัดแย้งครับ อย่า เพราะทางที่ดีกว่าคือ พูดคุย เน้นอีกที คนไทยพูดคุยกันได้ครับ ต้องเอาธรรมะว่าด้วยการพูดมาทุกข้อทุกอย่างเลยครับ มาใช้ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมไทย
ที่เห็นก็เพียงพูดกันดี ๆ คนไทยก็ออกมาช่วยกัน หาข้าวหาน้ำ หาอะไร ๆ มาแจก คนน้ำท่วม แม้กระทั่งคนต่างจังหวัด เช่นคนศรีสะเกษ อุบล คนอุดร ขอนแก่น ทางอีสาน เขายังอุตส่าห์ส่งอาหาร ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง แม้อาหารสด ๆ มาช่วยคนเมืองกรุง ศรีสะเกษส่งข้าวสารมาหลายครั้ง ๆ แรก น้ำยังไม่ท่วมศรีสะเกษ เขาก็เห็นใจส่งข้าวสารมาช่วยถึง 1,000 ตัน แต่เขาไม่พูดเอง ที่จริงคนที่ออกมาช่วยกันนั้นก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ แต่เขามีน้ำจิตน้ำใจขึ้นมาเพราะคำพูด เพราะกริยา อาการ พฤฒิกรรมที่ปฏิบัติตอบต่อกันนั้น นุ่มนวล ต่างแสดงออกซึ่งความเข้าใจในทุกข์ในสุขซึ่งกันและกัน ไม่ทอดทิ้งกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันและกันเหมือนอยู่เรือลำเดียวกัน คนเราต้องรู้สถานการณ์ซิครับว่า อะไรควรทำไม่ควรทำ ทำอะไรที่มันมีแต่เสีย ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่มีดีเลย ก็อย่าทำสิครับ อย่างเช่นวาทะกรรมแรง ๆ มักจะสร้างความขัดแย้งขึ้นมาโดยไร้เหตุผล อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามสร้างขึ้นมาในช่วงปลายสถานการณ์น้ำท่วมนี้ ทั้ง ๆ ที่ในช่วงปลายน้ำท่วมนี้ น้ำได้มาขังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเอง และถามว่าใครปกครองกรุงเทพมหานครอยู่ ก็พรรคประชาธิปัตย์ นั่นเอง พรรคนี้คงจะลืมไปว่ากรุงเทพมีผู้ว่าการกรุงเทพมหานครเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ มีหน้าที่อะไรครับ ก็ดูแลกรุงเทพไง ลืมไปได้อย่างไร ? แล้วเมื่อ ผู้ว่าการ กทม.ของ ปชป. ทำงานไม่ทันใจ ไม่ถูกใจ ทำไม ปชป.ไปตำหนิพรรคเพื่อไทยเขา ก็แปลกแต่จริง ........ และก็เรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดในรัฐสภาก็ตาม ในระหว่างสถานการณ์ของประชาชนกรุงเทพนี้ ล้วนเกิดจากฝีปากของคนพรรคประชาธิปัตย์
ที่ฉกรรจ์ที่สุด โดยไม่สอดคล้องหลักการอะไรเลยก็คือ หาว่านรม.ทำงานไม่เป็น ด้อยประสพการณ์ อ่อนหัด แม้กระทั่งแนวร่วมที่ถึงกับด่าว่า ให้ไปเป็นโสเภณีเสียก็ยังมี ซึ่งกำลังจะกลายเป็นความกันอย่างใหญ่โตในวันข้างหน้าแน่ ๆ ซึ่งการกล่าวหานี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีงานทำอะไร ก็เอาเวลาว่าง ๆ มาทำวาทะกรรม ทำตนเป็นมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เท่านั้นเอง แล้วคิดหรือว่าคนจะเห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกล่าวหาที่ไม่ถูกหลักวิชาเลย คุณมองอย่างไรว่า นรม.ทำงานไม่เป็น อ่อนด้อย เอาหลักการอะไรมาเป็นมาตรฐานการวัด มันยิ่งฟ้องตนเองเท่านั้นว่า คนอย่างนี้ โง่จริง ๆ เหมือนที่เล่าขานเป็นนิทานกันที่อีสานว่า พวกกรรมกรว่างงานหน้าเทศกาลกลับบ้านไปแล้วเล่าเรื่องต่าง ๆ สู่กันฟัง แล้วหัวเราะกันสนุกสนานเมื่อเล่าว่า "แบกหนักทั้งวันกูได้พันห้า หัวหน้ามันเดินไปเดินมาได้ห้าพัน" คุณพอจะเข้าใจอะไรไหมครับ ? เคยไปดูที่ไซต์งานก่อสร้างไหมล่ะ นายใหญ่มันแค่เดินไปเดินมา มันไม่ได้ไปตอกตาปู ขนดินขนหิน ปีนป่าย อะไรหรอก แต่มันได้เงินแสน คนโง่ ๆ ดูก็ว่าเขาทำงานไม่เป็น
แต่ฝ่ายรัฐบาล เข้าใจ จึงไม่เอาใจใส่ นั่นแหละครับ ในสถานการณ์นี้ คนไทยพูดคุยกันได้ วาจาคำพูดต้องให้อ่อนหวาน เป็นปิยะวาจา ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกันครับ ขาดไม่ได้ เพราะคนเราว้าเหว่ สิ้นหวัง แต่เพียงคำพูด กริยาอาการ ที่ไร้พิษสง เต็มไปด้วยความเป็นมิตร ก็สามารถประเล้าประโลมใจได้
ทั้งนี้ก็เพราะคนไทยมีธรรมะและรักความเป็นธรรมครับ เรื่องภัยธรรมชาติ มันมีความเป็นธรรมอยู่ในตัวมัน คนไทยจึงไม่อาฆาต เกลียด หรือโกรธ คือธรรมชาติเมื่อมันทำลาย ให้โทษมันก็ทำลาย ให้โทษอย่างสม่ำเสมอ มันไม่ละเว้นให้แด่เศรษฐีหรือยาจก ไม่ละเว้นให้แด่เจ้า หรือไพร่ แม้กระทั่งอยูในคฤหาสน์ หรือในคุก มันก็ให้ความเป็นธรรม มันท่วมทั้งคก และมันท่วมทั้งคฤหาสน์ ราชวัง กษัตริย์หรือประชาชน นี่คือเหตุผลที่คนไทยเข้าใจและสามารถจะพูดคุยกันได้ คนไทยพูดคุยกันได้ครับ อย่ามาทะเลาะกันเลย จะสามารถพูดคุย จงคุยกันในทุก ๆ ประเด็นปัญหาเรื่องน้ำท่วม แล้ว จะจบลงอย่างน่าประทับใจ เป้น อเมซซิ่งไทยพีเพิล [Amazing Thai People]
|