ยกมาจากกระทู้อื่น
ความเห็นที่ 13 (3317757)
สื่อที่ชั่วก็เอเอสทีวีอย่างไรครับ ทุกรายการ บิดเบือนทุก ๆ ข่าว ข่าวกับความเห็นต้องแยกกัน แต่นี่เอาข่าวกับความเห็นไปด้วยกัน แล้วมีเจตนาบิดข่าวไปทุกข่าวเลย ที่บิดก็เพื่อให้ตรงไปทำร้ายศัตรูเขานั่นเอง และคนที่รับประจำ ๆ มาก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ชั่วจริง ๆ
ต้องสังเกตครับ ว่าชั่วอย่างไร เขาบิดข่าวอย่างไร ?
คำว่าบิดข่าว หมายถึง วิเคราะห์ออกความเห็นต่อข่าวชิ้นนั้น โดยเอาข่าวชิ้นนั้นไปสนับสนุนความเห็นของตน
เช่น เจ๊กลิ้มโดนถล่มแผ่กลางถนนหน้าวัด (ข่าว) จากนี้ก็บิดไปสนับสนุนความเห็น ความคิด อารมณ์ ของตน ว่าต่อไปว่า
.......... คนโกงกินบ้านกินเมืองตายเสียก็ดี สมน้ำหน้า ......... รกแผ่นดินมานานแล้ว แผ่นดินจะได้สูงขึ้น ........... เป็นต้น
- ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-11-20 19:36:36
ความเห็นที่ 14 (3317842)
และเอเอสทีวี ทำการรายงานข่าวและบิดข่าว จนอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นแบบขึ้นมา แล้วทีวีอื่น ช่องอื่น คนอื่น ก็เอาไปทำตาม ..............
โดยเฉพาะแนวร่วมของเขา .................
สิ่งที่เสียหายต่อวงการสื่อสารมวลชนในองค์รวมก็คือ ความเป็นกระจกเงาจริง ๆ ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ นั่นเองครับ
นั่นคือ ทำไมสังคมเราสับสน กับข่าว ในเมื่อประชาชนแยกไม่ออก หรือไม่ทันระวังว่า อะไรเป็นข่าว อะไรเป็นบทวิจารณ์ หรือ ความเห็น และ อะไรคือการบิดข่าว โฆษณาชวนเชื่อ แบบที่เอเอสทีวีทำมาหลาย ๆ ปีมาแล้ว โดยไม่มีสถาบันยุติธรรมใดใด อาจลงโทษ ตักเตือนได้ ยิ่งได้ใจ (เพราะนายชวน หลีกภัย กับขบวนการกฎหมายของเขา ให้ท้าย ในฐานะพันธมิตรของเขา......นายชวน หลีกภัย ขึ้นเวทีเอเอสทีวี ประกาศว่า ใครจะล้มใคร ล้มได้ แต่ เอเอสทีวีล้มไม่ได้ ) ที่ยกตัวอย่างนายชวน ก็เพราะนายชวนเป็นถึงอดีตนรม.ไทย 2 สมัย และเป็นนักกฎหมายไทยคนหนึ่ง คนขนาดนี้ยังตามไม่ทันเจ๊กลิ้มเลย !!!!
ที่ว่านี้ คือพื้นฐานเทกนิกของ เอเอสทีวี ในการบิดเบือนข่าว
แบบที่เหนือไปอีกก็คือ การแอบอิงสถาบัน
ไปดูเอเอสทีวี ขณะนี้ สดจากอาคารบ้านเจ้าพระยา (บ้านเจ๊กลิ้ม) ภายหลังตั้งเค้าเดินขบวนใหญ่ สลายไป เพราะทราบข้อความจริง เหลือจิ๊บจ้อย มีคนอยู่หยิบมือหนึ่ง แค่นี้ ก็ออกมาโจมตีรัฐบาลต่อ และพูดจาใหญ่โตต่อไป แท้จริงระดมพลใหญ่แล้วได้แค่นี้ ไม่ละอายใจเสื้อแดงที่โด่งดังไปทั่วโลก ยังคุยต่อไปว่า พวกเขาจะเดินขบวนต่อต้านใหญ่ก็เมื่อ 2 กรณี คือ
1. จาบจ้วงดูหมิ่นสถาบัน
2. หากออกกฎหมาย นิรโทษให้ทักษิณ
คนที่พูดนี้ นายปานเทพ แม้ภายในอกจะขมขื่น ทุกข์ทนทรมานเพียงใดก็ตาม ต้องแสร้งตีสีหน้าให้สด หรือแม้มีการแต่งหน้าให้สด ๆ แต่งตัวดี ๆ ดูภาพสวย ๆ เข้าไว้(แม้ในใจจะขมขื่นเพราะความเป็นขี้ข้าเขา ขี้ข้าเจ๊กลิ้มมาเนิ่นนาน เรียกใช้เมื่อไรต้องรีบงุด ๆ มารับใช้ได้ทุกสถานการณ์......นี่คือทาสที่ปล่อยไม่ไป)
เขาเอาจดหมายของทักษิณ มาบิดเบือนไปตามวิธีของเขา และแสดงวาทะที่บอกถึงความจงรักภักดี (ความจริง เจ๊กลิ้มเคยถูกศาลพิพากษาว่าหมิ่นสถาบันมาแล้ว แต่กลบเกลื่อนไป เอาความดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น)
มีคำถามว่าทำไมขบวนการนี้จึงต่อต้านทักษิณแบบถวายหัวถวายชีวิต ...... เรื่องดูเหมือนไม่ลึกซึ้งอะไร ....... ครั้งหนึ่ง ก่อนที่เจ๊กลิ้มจะถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย (คนไทยน้อยคนที่ทราบว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุลเป็นบุคคลล้มละลายทางการเงิน โดยคำสั่งศาล เพราะขบวนการเขาช่วยกันกลบเกลื่อนมาตลอด เนื่องจากเป็นจุดอ่อนอย่างยิ่งของขบวนการเอเอสทีวี ขบวนการโฆษณาชวนเชื่อ) ขณะที่ทักษิณกำลังเข้าสู่ตำแหน่ง เจ๊กลิ้มได้เข้าไปพินอบพิเทาทักษิณอย่างออกหน้าออกตา เขาเล่าว่านายสนธิถึงกับคลานเข้าไปหาทักษิณ แล้วออกข้อเขียนชมเชยว่าทักษิณนี่แหละนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่เคยมีมาแต่อดีต ตามข่าวทั่วไปขณะนั้น ในข่าวบอกว่า ประชาชนก็รู้ แต่ทำไมเปลี่ยนท่าทีไปแบบฉับพลัน ก็เพราะได้รับการปฏิเสธจาก ดร.ทักษิณ ไม่อาจจะให้กู้ยืมเงินได้ระดับพันล้านที่ขอกู้นั้นเพราะเหตุผลไม่พอเพียง แต่ที่เจ็บใจก็คือ ไม่ให้กู้เงินแล้วยังด่าว่า กุ๊ยข้างถนน กุ๊ยการเมืองอีกด้วย (เขาเล่ามา ใช่ว่าทักษิณพูดจริง) คำพูดว่า กุ๊ยข้างถนน กุ๊ยการเมือง ที่จริงก็สมแก่เขาอยู่ เจ๊กลิ้มก็ไม่น่าจะอาฆาตขนาดนี้
นี่แหละเรื่องส่วนตัวแท้ ๆ นำมาเป็นปัญหาทางการเมือง สู้กันทุกวิถีทาง แม้กระทั่งดึงเอาสถาบันมาไว้ข้างตนก็ยังกล้าเสี่ยง ทั้งสถาบันโลกและสถาบันธรรม ทั้งนายและลูกน้อง เช่นนายปานเทพ น่าที่จะเป็นหมารับใช้ตัวสุดท้ายของเจ๊กลิ้ม ที่กล้าพูดในวันนี้ และคำด่ารัฐบาลที่ว่า น้ำท่วมขนาดนี้ก็เอาไม่อยู่ แล้วจะรอดไปได้อย่างไร ? ......(นี่คือการโฆษณาชวนเชื่อ เห็นแล้วยัง?) ทำไม ไม่ดู วีระ สมความคิด กับ นางสาวอะไรอีกคน ที่ไปติดคุกเขมรอยู่ เป็นตัวอย่าง และไม่เห็นหรือ แม่เขายังร้องไปถึงทักษิณให้ช่วยเอาออกจากคุกเขมรเสียอีก เจ๊กลิ้มทำอะไรได้ น้ำท่วมพันธมิตรอโศกอุบล(เรียกเสียโก้ว่า ราชานีอโศก) ก็ไม่เห็นช่วยอะไร ปล่อยเพื่อนตามยถากรรมจริง ๆ ต่างคนต่างเอาตัวรอด
ตอนท้ายเขาท้าทายหลายอย่าง แบบหมาจนตรอก แยกเขี้ยงรอไม้ตะพด..... ว่าพวกแดงคงดู..โดยเฉพาะแดงอุดรคงดูอยู่ นรม.ยิ่งลักษณ์ก็คงดูเขาอยู่(ที่จริง นรม.ยิ่งลักษณ์มีงานหนักสำคัญ ๆ เขาคงไม่ให้ความสำคัญขนาดนั้นหรอกน่า อย่าหลงตัวเองเลย) ...... แบบนี้ก็คือยุทธวิธี ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊งแบบเจ๊กลิ้ม (แบบกามิกาเซ่) แบบเริ่มการต่อสู้ของเจ๊กลิ้มใหม่ ๆ นั่นเอง นั่นแหละ ลงทุนขนาดนี้ถึงจะได้ผลบ้าง
ก็ลงทุนไปเถอะ ... จนฝ่อไปเหมือนลูกกรอก ในที่สุด
นายนักร้อง ศรัญญู วงศ์กระจ่าง กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ มีคนหน้าเวที(คงถูกจ้างมาเหมือนเคย) ไม่กี่คน
ร้องเพลง ตบมันเลย ตบมันเล้ย ตบมันเล๊ย........
ตบเจ๊กลิ้ม เหรอ ????
- ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-11-21 20:22:05
|