แดงชุมนุมที่ศรีสะเกษวันนี้ 28 ม.ค.2555
แดงยกพวกขบวนการเสรีประชาธิปไตยเชิร์ตแดงที่เลื่องชื่อไปทั่วโลก มาชุมนุมกันที่ศรีสะเกษ แกนนำคนสำคัญ ๆ มาหมด นับแต่ วีระ มุสิกพงษ์ จตุพร พรหมพันธ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ธิดา ถาวรเสฏฐ์ ลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ จสต.ประสิทธิ์ รวมทั้งศิลปินแดงมาครบทีมใหญ่ ขณะนี้เวลา 21.00 น. สายัณฆ์ สัญญา กำลังร้องเพลงถึงทักษิณอยู่ ......
- สุไหงปาดี ชินะกุล รายงาน
28 ม.ค.2555/21.00 น.
แถลงข่าว นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
25 ม.ค.2555 เวลา 13.35 น.
นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงข่าววันนี้ ขณะนี้ วันที่ 25 ม.ค.2555 เวลา 13.35 น. นำแถลงโดยจตุพร พรหมพันธ์ ว่า แดงทั้งแผ่นดินมีหน้าที่รักษาประชาธิปไตย และให้การเดินไปสู่ประชาธิปไตยของสังคมไทยเป็นไปตามลำดับ ย้ำว่าเวลานี้ได้มีคณะผู้คิดทำการล้มล้างรัฐบาล โฉมหน้าปรากฎชัดเจนยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ขอแดงทั้งแผ่นดินอย่าลืมประวัติศาสตร์ระยะหลัง รัฐบาลประชาธิปไตย ล้วนถูกล้มล้างไปด้วยอำนาจรัฐทหาร ว่าแดงจะรวมแสดงพลังที่โบนันซ่า เขาใหญ่ อีกครั้งหนึ่ง วันที่ 19 ก.พ.2555 แดงนับล้านจะไปรวมพลังกันที่นั่น ส่วนอาจารย์ธิดา ถาวรเสฏฐ์ รก.ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงว่า มีคณะที่คิดปฏิวัติปรากฎตัวออกมาแล้ว ข่มขู่ประชาชน ว่าจะทำการปฏิวัติ ล้มล้างรัฐบาล นี่เป้นการท้าทายแดงทั้งแผ่นดิน ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาประกาศว่าถึงเวลาที่จะทำการปฏิวัติอีกครั้งแล้ว โดยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ออกปากขับไล่ผู้คิดแก้ไขมาตรา 112 ไปอยู่ต่างประเทศ .... นี่เป็นตัวเสนียดของแผ่นดินที่แท้จริง ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยคือแดงทั้งแผ่นดินไม่อาจจะยอมได้ ... นางธิดา เตือนเรื่องน้ำท่วมปี 2555 ว่าเขื่อนภูมิพลน้ำยังเก็บกักไว้มากถึงสามเท่าของปี 2554 มีพื้นที่รองรับน้ำเหลืออยู่เล็กน้อย ระวังฝน พายุมาจะเกิดน้ำท่วมอีก เรื่องที่ไม่ให้รัฐบาลประมาทก็คือ กลไกฝ่ายอำมาตย์ยังคงควบคุมระบบราชการอยู่ รัฐบาลจะต้องเข้มแข็งกว่านี้
การแสดงออกของทหารในระยะหลัง ๆ มานี้ ยังคงเห็นได้ว่า ยังไม่มีการชำระความเชื่อ หรือ ความคิดเดิม ๆ อันเป็นแนวคิดอดีตกาลที่ล้าหลังออกไป ยังคงฝังใจกับความเชื่อความคิดเดิมต่อไปอีก ในระบอบการเมือง แน่นอนท่าทีของทหารเช่น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และทั้ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. นี้บอกถึงการเป็นตัวปัญหาของสังคมใหม่ ซึ่งย่อมจะเป็นสังคมแห่งอนาคต สังคมแห่งอนาคตนั้น แน่นอน ย่อมมีการเมืองสำหรับอนาคต จึงจะเหมาะสมกับยุคสมัย นั่นคือ ประชาธิปไตย เราจะกลับไปใช้การเมืองเก่า ที่เป็นเพียงเครื่องมือที่ล้าหลังในอดีตได้อย่างไร แต่ท่าทีของทหารระยะหลัง ๆ นี้ แสดงถึงการยึดติดอย่างไร้เหตุผลต่อแนวคิดเดิมของ พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาค 4 (ภาคใต้) ผู้เสนอแนวคิดกลับไปสู่การเมืองระบบ "ธรรมราชา" (ใน เอเอสทีวี..เมื่อ 2 ก.ค.2553) .....
น่าจะเลิกความคิดเก่า ๆไปเสีย การที่คนไทยทั้งหลายและทั้งสถาบันทั้งปวงลงมติกันว่าจะต้องมุ่งหน้าไปสู่อนาคตนั้น มันบอกถึงวิถีทางประชาธิปไตย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทหารกลับมองไปในอดีต มองเครื่องมือของอดีต ซึ่งนั้นแหละ ตัวปัญหาการเมืองของประเทศไทย รัฐบาลและนักวิชาการทั้งหลาย จะต้องช่วยกันอบรมให้ทหารรู้จักประชาธิปไตย ในฐานะเครื่องมือของอนาคตให้ได้
- สุไหงปาดี ชินะกุล
รายงาน/25 ม.ค.2555 เวลา 19.45 น.
แด่ วันเด็กและวันครู
จากเฟสบุ๊ค
Phayap Panyatharo
Children day passed. Teacher day passed. I would like to say a little about the past in an important point. That is; many people in the world has not passed the past away normally because of some fright in their heart. They fear for the future. They imagine a rather bad things waiting for them and their society in the future. They fear for war which expected to be the last war that destroy all human races. I think if we know 'how to' for the future we need not fear. The fear for the future derives from an absorb with the old 'how to', and you think to use the old 'how to' for the future, that is impossible. Because the truth is; the past has its own 'how to', the present has its own 'how to', and the future also has its own 'how to'. If the people know well about these 'how to', life could be free from fear. And this is what I would like to say for the children day and the teacher day. 'How to' should be a new believe, a new Dhamma. Learn 'how to' quick.
วันเด็กได้ผ่านไป วันครูก็ได้ผ่านไปแล้ว ข้าพเจ้ามีความประสงค์จะขอกล่าวอะไรบ้างเล็กน้อยเกี่ยวกับอดีต ในประเด็นสำคัญ นั่นคือ ยังมีประชาชนในโลกจำนวนไม่น้อยไม่สามารถจะให้อดีตผ่านไปได้ตามควรที่จะเป็น เพราะเหตุที่มีความกลัวบางชนิดอยู่ในดวงใจของพวกเขา พวกเขากลัวอนาคต พวกเขามีจินตนาการเกี่ยวกับสิ่งที่ชั่วร้ายรอคอยพวกเขาและสังคมพวกเขาอยู่ในอนาคต พวกเขากลัวสงครามจะเกิด เป็นสงครามครั้งสุดท้ายอย่างใหญ่จนกระทั่งทำลายเผ่าพันธ์มนุษย์ทุกเชื้อชาติให้สิ้นไป ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ถ้าคนเรารู้วิธีที่ 'ควรทำอย่างไร' กับอนาคต พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอนาคตอีกต่อไป ความกลัวต่ออนาคตนั้นมาจากการปักใจเชื่ออยู่กับวิธี 'ควรทำอย่างไร' แบบเก่า ๆ และคิดว่าจะนำวิธี 'ควรทำอย่างไร' แบบเก่า ๆ มาใช้ในอนาคต ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะความจริงก็คือ อดีตมีวิธี 'ควรทำอย่างไร' ของอดีต ปัจจุบันมีวิธี 'ควรทำอย่างไร' ของปัจจุบัน และอนาคตก็มีวิธีของตนเองที่ 'ควรทำอย่างไร' กับอนาคต ถ้าประชาชนได้รู้กันอย่างดีเกี่ยวกับวิธี 'ควรทำอย่างไร' เหล่านี้แล้ว ชีวิตก็สามารถเป็นอิสระได้จากความกลัว และนี่แหละที่ข้าพเจ้าประสงค์จะกล่าวในวันเด็กและวันครูปีนี้ ว่าวิธี 'ควรทำอย่างไร' นี้ควรเป็นความเชื่อแห่งศาสนาใหม่และธรรมะข้อใหม่ จงเร่งเรียนรู้เรื่อง 'ควรทำอย่างไร' โดยเร็ว
WAR IN THAILAND