ภาพที่อัปยศแด่วงการตุลาการไทย
1. ภาพเดิมที่อัปยศ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขณะกำลังฟังคำตัดสินของ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ให้ปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งต่อมาในเร็ววันนี้เอง ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ สารภาพว่าได้ตัดสินไปอย่างผิดพลาด......ซึ่งเป็นคำสารภาพว่าได้ทำผิดไปแล้ว อันเป็นเหตุเสียหายแก่บ้านเมืองอย่างยิ่งใหญ่ แล้วทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับผิดชอบ....ด้วยการลาออกไป เป็นอันดับแรก.....แล้วมีการพิพากษา ตลก.รธน.ชุดนี้ฐานปฏิบัติหน้าที่อย่างเลินเล่อ หรือประมาทอันเป็นเหตุเสียหายแก่บุคคลอื่นและประเทศชาติอย่างร้ายแรง...โทษที่ลงไปจะต้องเป็นสถานหนักด้วยเหตุที่เป็นเจ้าหน้าที่เองทำผิดหน้าที่เอง.....ผู้มีหน้าที่ดูแลความยุติธรรมตามกฎหมาย แต่ละเมิดกฎหมายเสียเองเป็นเหตุเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศชาติไปทั่วโลก
กรณี ม.68 นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ พูดว่า ....กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นไปตามมาตรา 68 หรือไม่นั้น กว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติรับคำร้องใช้เวลาถกเถียงกันนานถึง 2 ชั่วโมงกว่า ตอนแรกถ้าไม่รับ สบาย ถ้ารับ เป็นเรื่อง แต่ก็กัดฟันรับไว้ก่อน เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง ไต่สวนและไม่มีไรก็จบ แต่ยอมรับว่าบางครั้งศาลก็ทำงานชุ่ยเกินไป สังเกตได้ว่าช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับก็ด่าคนรับทันที ไม่เห็นว่าจะด่าคนยื่น พอศาลอาญารับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นฟ้องแกนนำ นปช.กลับด่าคนยื่น นี่คือสองมาตรฐานชัดเจน.......
ตลก.รธน.พูดไปนอกเรื่อง...........ตนเองก็รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์รับเรื่อง .........เพราะเหตุผลที่คุณอ้างนั้น ไม่เป็นเหตุให้รับเรื่อง.........แต่เมื่ออ้างเหตุใดก็ตาม โดยที่ไม่มีอำนาจที่จะรับเรื่อง.....แล้วรับเรื่องเอาไว้ นั้นย่อมบ่งบอกถึงการลุแก่อำนาจ หลงอำนาจ และได้กระทำผิดไปอีกข้อหนึ่ง คือรับเรื่องเอาไว้โดยพละการ โดยที่ตนไม่มีอำนาจที่จะรับ มีความผิดฐานกระทำการโดยพละการโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมายรับรองไว้ให้กระทำ เป็นการทำเกินบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ........เจ้าหน้าที่รัฐเองทำผิดรัฐธรรมนูญเอง จึงต้องมีโทษแรงกว่าคนธรรมดากระทำผิด ศาลรัฐธรรมนูญทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง ก็อัปยศ จะมีค่ามีศักดิ์ศรีควรแก่ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร?
กรณีม.68 นี้ ตลก.รธน.ยังทำความผิดซ้ำอีกหลายครั้ง โดยเจตนา....... ซึ่งแสดงถึงการไม่สำนึกในความผิดของตนเลยแม้แต่น้อย .....ย่อมเพิ่มโทษไปอีกหลายเท่าตัว
ประชาชนจึงถามว่า ใครจะลงโทษ ตลก.รธน. ถ้าไม่ใช่พวกเขา ?
2. ภาพข้างต้น ภาพอัปยศนี้มีความหมายอะไรเป็นที่น่าสนใจพิเศษ ?
มีความหมายถึง อหังการแห่งคน 9 คนบนบัลลังก์นั้นอย่างไร นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี มาจากการเลือกตั้งของประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ และเป็นประมุขแห่งอธิปไตยฝ่ายบริหาร ซึ่งย่อมมีศักดิ์และสิทธิแห่งอำนาจที่เสมอภาคพอกับอีก 2 อำนาจ คือ นิติบัญญัติ และตุลาการ การมาของนายกสมัคร จึงมีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นคนของประชาชน ประชาชนส่วนมากอนุญาตให้นายสมัครขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหาร ส่วนคน 9 คน คือ ตลก.รธน.นั้น เป็นใคร ? มาจากไหน ?
ประชาชนส่วนที่ห่างไกลประชาธิปไตยส่วนหนึ่งก็เพิ่งเข้าใจในวันนี้เองว่า พวกเขามาจาก สนธิ บุณยรัตนกลิน มุสลิมชั่วร้าย ที่ได้เป็นหัวหน้ารัฐประหาร 19 ก.ย.2549 มาอย่างไร ก็ยังเป็นความลับอยู่..... นั่นคือที่มา อันปราศจากศักดิ์และสิทธิ์ที่ต่ำต้อยด้อยไม่อาจเทียบเทียมกับผู้นำฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติได้ แต่ในภาพ คน 9 คนนั้น สามารถมีอำนาจสั่งการให้หัวหน้าฝ่ายบริหารคือนายกรัฐมนตรี ที่มาจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย พ้นจากตำแหน่งได้ .... แล้วในภายหลังบัดนี้ ยังกล้าบอกด้วยว่าตนได้ตัดสินผิดพลาดไปจริงแต่ไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างใดเลย....... นี่คือ อหังการของตุลาการทั้ง 9 ของศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่ง
พวกเขากล้ารับเรื่องที่เสนอให้ยับยั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ถึง 2 ครั้ง 2 คราว โดยไม่คำนึงหลักการแบ่งหน้าที่ของอำนาจทั้ง 3 ...อันขัดต่อบทบัญญัติในมาตรา 68 วรรคสอง รธน.50 อย่างชัดเจน อย่างชัดแจ้ง .......หมายความว่า ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น แต่พวกเขาก็กล้าทำเช่นนั้น และกระทำมากกว่า 2 ครั้งไปแล้ว ......นั่นคือความอหังการของคนทั้ง 9 คน บนบัลลังก์ ที่ปรากฎในภาพนี้
อหังการหมายความว่า หลงในตัวกูของกู นึกว่าตัวกูยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน กูจะตัดสินความใครใต้แผ่นดินนี้อย่างไรก็ได้ เพราะกูใหญ่ที่สุดในแผ่นดินนี้..........(สนใจโปรดอ่าน พุทธสาสนา ของคณะธรรมทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวกูของกู โดยท่านพุทธทาสภิกขุ)
นั่นแหละย่อมนำมาซึ่งหายนะแด่ผู้หลงในตัวตน และคณะตลก.รธน. ผู้อหังการ อยู่ขณะนี้ก็หาพ้นไปจากกฎแห่งธรรมชาตินี้ไม่
เพราะประชาชน เจ้าของอำนาจที่แท้จริง ตามหลักการที่กำหนดว่า อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย ทุกหมู่เหล่า เขาได้สัมผัสกับความอหังการนี้แล้ว และมองว่าเหล่าชนผู้อหังการทั้ง 9 ได้กระทำการไปตามอำเภอใจโดยไม่ได้เคารพและเกรงกลัวกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ตนเองมีหน้าที่ต้องเคารพและเกรงกลัวกฎหมาย แต่ก็กระทำผิดกฎหมายเสียเองอย่างซึ่ง ๆ หน้า และทั้งไม่คำนึงศีลธรรมในสังคมเสียเลย .......นอกจากนั้น พวกเขาดูเหมือนว่าจะมองด้วยสายตาอันหยามเหยียดปวงชนชาวไทย เจ้าของอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน...ว่าเป็นเพียงพลเมืองโง่ๆ ไร้การศึกษา จะทำอะไรได้..... นี่เป็นความอยุติธรรมไปอย่างสุด ๆ ในแผ่นดินของเสรีชน ...เป็นการสุดที่คนทั้งแผ่นดินจะทนทานกับความอหังการของคนทั้ง 9 คนต่อไปอีกได้แล้ว
3. เราได้เห็นมาในประวัติศาสตร์มนุษย์นี่เอง ว่าเดิมอำนาจทั้งหมดรวมอยู่ในคน ๆ เดียว ดังกรณีตัวอย่างโป๊ปสามารถสั่งกษัตริย์ในยุโรปอย่างไรก็ได้ โดยอ้างว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ทางอิสลามก็อ้างเช่นเดียวกัน คนสองฝ่ายนี้จึงสามารถสั่งการกษัตริย์และประชาชนพวกของตนทำอะไรก็ได้ตามใจตนเอง เช่นในที่นี้ก็คือ สั่งให้ทำสงคราม โดยความหมายว่าจงไปฆ่าศัตรู ผู้ทรยศต่อพระเจ้าให้ราบเรียบไปจากแผ่นดินของพระเจ้า ก็เกิดสงคราม 300 ปี ระหว่างรัฐคริสต์ กับรัฐอิสลาม อันเป็นประวัติศาสตร์สงครามที่ยิ่งใหญ่ของโลกมนุษย์ ท่านเห็นแล้วยังว่าการที่อำนาจอยู่ในมือคน ๆ เดียวนั้นเป็นอันตรายอย่างไร แต่ในที่นี้ เราจะมาพิเคราะห์อย่างรอบคอบสักหน่อยเกี่ยวกับราชาธิปไตย ของประเทศไทยในอดีต ในอดีตราชาธิปไตยไทย กษัตริย์มีอำนาจสูงสุดก็จริง แต่กษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงเป็นชาวพุทธ์ ซึ่งในคำ ๆนี้ เราก็ต้องเข้าใจว่าเมื่อกษัตริย์ไทยทรงเป็นชาวพุทธนั้นก็หมายความว่ากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม อย่างเช่นรัชกาลปัจจุบันทรงตรัสในวันครองราชว่า เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม ซึ่งหมายถึงทศพิธราชธรรมนี้เอง มี 10 ประการ และได้มีคำอธิบายกษัตริย์พุทธกับการปกครองไว้อย่างสมเหตุผล สมกับความเป็นจริง ดังนี้คือ
ธรรมะข้อ 1.ทาน
หมายถึง พระราชทานพัสดุสิ่งของ หรือปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงค์ชีวิต แก่ผู้สมควรได้รับ ได้แก่ พระภิกษุสงฆ์ และราษฎรผู้ยากไร้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ แก่พระราชวงศานุวงค์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามสมควรแก่ฐานะ.
ธรรมะข้อ 2.ศีล
หมายถึง การทรงศีล หรือการที่ทรงตั้งสังวรรักษาพระอาการ กาย วาจา ให้สะอาดปราศจากโทษอันควรครหา พระองค์ทรงมีพระราชศัทธาในบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้เสด็จออกทรงผนวช เพื่อทรงศึกษาและปฎิบัติพระธรรมวินัย อุทิศพระราชกุศลพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย.
ธรรมะข้อ 3.บริจาค
หมายถึง การพระองค์พระราชบริจาคไทยธรรม หรือสิ่งของที่พระราชทานให้เป็นประโยชน์ทั้งแก่พระราชวงศานุวงค์ และทูลข้าละอองธุลีพระบาท ตามฐานะที่ราชการฉลองพระเดชพระคุณ รวมทั้งพระราชทานแก่ประชาชนผู้ยากไร้ได้อาศัยเลี้ยงชีวิต.
ธรรมะข้อ 4.อาชวะ
หมายถึง ความซื่อตรง ทรงมีพระราชอัฌชาสัย อันประกอบด้วยความซื่อตรง ดำรงในสัตย์สุจริต ซื่อตรงต่อพระราชสัมพันธมิตรและพระราชวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งปวง ไม่ทรงคิดลวง ประทุษร้ายโดยอุบายผิดยุติธรรม.
ธรรมะข้อ 5.มัททวะ
หมายถึง ความอ่อนโยน ทรงมีพระราชอัฌชาสัยอ่อนโยน ไม่ดื้อดึงถือพระองค์แม้มีผู้ตักเตือนในบางอย่าง ด้วยความมีเหตุผลก็จะทรงพิจารณาโดยถี่ถ้วน ถ้าถูกต้องดีชอบก็ทรงอนุโมทนา และปฎิบัติตาม ทรงสัมมาคารวะอ่อนน้อมแก่ท่านผู้เจริญโดยวัยและโดยคุณ ไม่ทรงดูหมิ่น.
ธรรมะข้อ 6.ตบะ
หมายถึง ความเพียร ทรงสมาทานกุศลวัตร ด้วยการเอาพระราชหฤทัยใส่ ในการปกครองพระราชอาณาเขต และประชาชนให้มีความสุขปราศจากภยันตราย ตลอดถึงการที่ทรงมีพระอุตสาหะอันแรงกล้าในกุศลสมาทาน ระวังบาปที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น และเพื่อจะกำจัดบาปกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้เสื่อมสูญ ไม่ตั้งอยู่ในพระสันดาน.
ธรรมะข้อ 7.อักโกธะ
หมายถึง ความไม่โกรธ ทรงมีพระกริยาที่ไม่โกรธโดยวิสัย มิใช่เหตุที่ควรโกรธ แม้มีเหตุที่ให้ทรงพระพิโรธ แต่ทรงข่มเสียให้อันตรธานสงบระงับไป ด้วยทรงมีพระเมตตาอยู่เสมอ ไม่ทรงปรารถนาจะก่อภัย ก่อเวรแก่ผู้ใด.
ธรรมะข้อ 8.อวิหิงสา
หมายถึง ความไม่เบียดบียน ด้วยทรงมีพระราชอัฌชาสัยกอปรด้วยพระราชกรุณา ไม่ทรงปรารถนาจะก่อทุกข์แก่ผู้ใดแม้กระทั้งสัตว์ ไม่ทรงเบียดเบียนพระราชวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท และอาณาประชาราษฎร์ ให้ลำบากด้วยเหตุอันไม่ควรกระทำ.
ธรรมะข้อ 9.ขันติ
หมายถึง ความอดทน ทรงมีพระราชหฤทัยดำรงมั่นในขันติ มีความอดทนต่อสิ่งที่ควรอดทน เช่น อดทนต่อทุกข์ อดทนต่อเวทนาอันเกิดขึ้นในพระกาย และทรงมีพระขันติเมตตากรุณาธิคุณ งดโทษผู้มีความประมาท กระทำผิดล่วงพระอาญา และควรจะลงราชทัณฑ์ แต่ก็ทรงระงับด้วยความอดทนไว้ได้.
ธรรมะข้อ 10.อวิโรธนะ
หมายถึง ความเที่ยงธรรม ทรงรักษาความยุติธรรมไม่ให้แปรผันจากสิ่งที่ตรง และดำรงพระอาการไม่ยินดี ยินร้าย ต่ออำนาจคติทั้งปวง หรืออีกนัยหนึ่ง คือความไม่ประพฤติผิดในขัตติยราชประเพณี ทรงดำรงอยู่ในพระราชจริยาวัตรของพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง.
ในฐานะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินความในนามของพระมหากษัตริย์ ท่านจึงควรมาตรวจสอบทศพิธราชธรรมของท่าน แล้วตัดสินความให้แด่ตนเองดูว่าควรจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปหรือไม่ ?
4. # มาร์ค สุเทพ เข้ารับข้อหาสั่งฆ่าคนตายแล้ว ธาริตคาดส่งสำนวนฟ้องได้ภายใน 1 เดือน .....DNN 14 พ.ค.2556 11:43:04
# อำนวยยัน 312 สส.สว.ไม่แจงศาลรธน.ก่อนครบ 15วันพรุ่งนี้พร้อมเดินหน้าแก้รธน......DNN 14 พ.ค.2556 14:25:21
# พท.มีมติเอกฉันท์ส่งยุรนันท์ลงสส.ดอนเมือง เจ้าตัวมั่นใจเดินหน้าสานต่องาน.....DNN 14 พ.ค.2556 16:28:19
ฆิกเมฆ
14 พ.ค.2556 17:40:10