ประเด็นรัฐธรรมนูญโจร อ่านภาษาไทยให้ชัดเจนเท่านั้นเอง
อาจารย์มานิตย์ จิตจันทร์กลับ กำลังพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจจริง ๆ ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลมารณรงค์ให้อ่านออกเขียนเป็น กฎหมายทุกตัวทุกคำทุกฉบับ ต้องเอาทุกตัวมาจากพจนานุกรมราชบัณฑิตย์สถาน
ที่สำคัญคำว่า กฎหมายคืออะไร ?.......กฎหมายคือ กฎที่สถาบันผู้มีอำนาจสูงสุดตราขึ้น..........
รัฐธรรมนูญคืออะไร ?...... กฎหมายสูงสุด......กฎของประชาชนเท่านั้นจึงเป็นกฎหมาย........
· ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2013-03-05 21:33:08
[1]
ความเห็นที่ 1 (3360375)
ท่านมาพูดในรายการอาจารย์ตุ้ม .........เอเซียอัพเดท.....ตอน 3 ทุ่มเศษ ๆ
ผมว่านี่เป็นประเด็นจริง ๆ จะต้องรีบเร่งศึกษา ผมเข้าใจครับ และเห็นว่านี่ใช่เลย
ขอให้อาจารย์ตุ้มเชิญท่านอาจารย์มาพูดบ่อย ๆ ครับ
ฟังทีแรกท่านว่าเรียนภาษาไทยให้ดีก็จะเข้าใจกฎหมาย ................ นั่นน่าหัวเราะ แต่แล้วกลับกลายเป็นประเด็นจัดจ้านขึ้นมาแล้ว
เลื่อมใสอาจารย์มานิตย์ครับ ขอสนับสนุน
สิ่งที่ท่านคิด ทำอยู่นี้ นี่แหละทางลัด ที่ถูกต้องจริง ๆ ที่จะอาจชำระประเด็นกฎหมายไทย ศาล องค์การอิสระ ได้อย่างเรียบเกลี้ยง
· ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2013-03-05 21:40:36
ความเห็นที่ 2 (3360377)
รัฐบาลไทยจะต้องฟังประเด็นนี้ครับ
และรัฐสภาก็จะต้องฟัง
คนเสื้อแดงก็ต้องฟังครับ
แต่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2550 ฟังแล้ว ต้องสะดุ้งแน่ ๆ และแน่นอน ความถูกต้องความเป็นธรรมมันอยู่ข้างอ.มานิตย์เต็ม 100 %
ประชาชนทั่วประเทศจะต้องฟัง
เพื่อแก้ปัญหาทางกฎหมายไทยที่สับสนอยู่ขณะนี้
ผมจะพยายามขยายความแนวคิดนี้ออกไป และขอให้แสดงความเห็นกันที่นี่อย่างถูกประเด็นกันครับ
· ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2013-03-05 21:46:38
ความเห็นที่ 3 (3360453)
มาดูประเด็นใน พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2552 :-
>>>กฎหมาย (กฎ) น. กฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ ...>>>
>>>สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุด>>> คือใครล่ะครับ แน่นอน....ตามระบอบประชาธิปไตย....ก็คือรัฐสภา
ถ้าคนอื่นนอกจากรัฐสภาเขียนขึ้น ก็ไม่ถือว่าเป็นกฎหมาย..... จริงไหม?
ทีนี้ นายอาบัง สนธิ บุณยรัตนกลิน แกยึดอำนาจแล้วสั่งเขียนรัฐธรรมนูญ 2550 ขึ้นเอง ....... ไม่ใช่รัฐสภาเขียนขึ้น รัฐธรรมนูญนั้นก็ไม่ใช่กฎหมาย..................
นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ก็ไม่ใช่ผู้มีอำนาจออกกฎหมาย เพราะเป็นเพียงคนที่รับคำสั่งมาจากสนธิ บัง ....... ไม่ใช่สภาของประชาชน ที่ผ่านการเลือกตั้งมา
ฉะนั้น รัฐธรรมนูญ 2550 จึงมิใช่กฎหมาย
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-06 15:10:12
ความเห็นที่ 4 (3360454)
เมื่อไม่ใช่กฎหมายก็ใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ ...ไม่ได้
สิ่งที่เรียกว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระต่าง ๆ ในรัฐธรรมนูญก็เป็นองค์กรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-06 15:18:21
ความเห็นที่ 5 (3361185)
วันนี้มีข่าวว่าประธานศาลรัฐธรรมนูญยอมรับว่าตัดสินคดีถอดถอนท่านนายกสมัครผิดพลาด และที่รีบยุบพรรคพลังประชาชนเพราะเร่งรีบเนื่องจากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย แล้วท่านจะรับผิดชอบอย่างไร อะไรเป็นเหตุดลใจให้พึ่งคิดได้ว่าผิดพลาด ทั้งๆที่น่าจะคิดให้รอบคอบเพราะผลจากการกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนและประทศเสียหาย เสียโอกาสถอยหลังเข้าคลองตั้งเยอะ พอมีข่าวออกไปก็ทำท่าแก้ตัวพัลวัน ผู้อ่านคิดอย่างไรลอง
โพสมาหน่อยนะ
· ผู้แสดงความคิดเห็น หิ่งห้อย วันที่ตอบ 2013-03-15 23:23:38
ความเห็นที่ 6 (3361642)
สงสัยจะอยู่ร้อนนอนทุกข์เลยเผลอพูดออกมา เชิญแกไปเสวนาบ่อยๆ พูดบ่อยๆเดี๋ยวก็พลาดเอง ประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงต้องทวงถามความถูกต้องชอบธรรม เกาะติดอย่าให้เงียบหายเป็นคลื่นกระทบฝั่งเด็ดขาด
· ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-03-20 16:54:41
ความเห็นที่ 7 (3362272)
ขอคุณคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ร้องเรียนให้ ปปช. ตรวจสอบความชอบธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ และคงมีโจทก์อีกเยอะที่จะทวงถามความชอบธรรม ประชาชนคนไทยต้องไม่ยอมให้องค์กรใดๆฉ้อฉลนำอำนาจผิดๆไปปฏิบัติในทางมิชอบ ทอย่าปล่อยให้องค์กรที่ลุแก่อำนาจลอยนวล ทวงถาม กกต.กลางหน่อย กฎหมายเลือกตั้งห้ามใส่ร้ายป้ายสีพรรคอื่น แล้วพรรคการเมืองกล่าวหาอีกพรรคว่าเผาบ้านเผาเมืองแล้วศาลเขายกฟ้อง กกต.จะว่าอย่างไร งานนี้ขอบอกประชาชนและองค์กรประชาธิปไตยเขาเกาะติด จะมามั่วนิ่มเหมือนเมื่อก่อนมได้ ระวังการใช้อำนาจตามใจชอบอาจกลายเป็นมุมมะแลงได้นะ ทางที่ดีนำธรรมะของพระพุทธเจ้าไปใช้จะดีกว่า " ความชั่วไม่ทำเสียเลยจะดีกว่าเพราะเรื่องจะไม่ให้ผลเป็นไปไม่ได้
" เคยได้ยินไหม "
· ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-03-27 13:20:28
ความเห็นที่ 8 (3362273)
บาป กำลังตามสนองคนทำบาปๆๆๆๆๆๆๆ พระพุทธเจ้ากล่าวกับองคุลิมาลว่า " เราหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด องคุลิมาลเลยเกิดดวงตาเห็นธรรม ใครที่เห็นความจริงนี้บ้าง รีบกลับตัวเสีย
· ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-03-27 13:24:21
ความเห็นที่ 9 (3362300)
นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธาน ตลก รธน. 2550 แกตีความแบบไม่รู้ภาษาไทย ก็กรณีมาตรา 68 ไงครับ วรรค 2 ไงครับ
....... ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........
เลยเป็นเหตุให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญค้างเติ่งอยู่ที่วาระที่ 3 มาจนบัดนี้
แกอ่านภาษาไทยไม่เข้าใจครับ ไม่มีข้อความไหนเลยที่บอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็รับไปหน้าตาเฉย แสดงอำนาจยิ่งใหญ่ของตน ว่าข้าจะรับเอาไว้ ใครจะทำไม ?
ก็ประชาชนนี่แหละครับเขาจะทำไม.......เขาจะไล่คุณไป................ยังไม่เจียมตัวอีก
แกคงอ่านไม่เข้าใจภาษาประชาธิปไตย...ภาษาไทยที่ว่า อำนาจเป็นของประชาชน โดยประชาชน และ เพื่อประชาชน
คำว่าประชาชน แปลเป็นภาษาต่างประเทศว่า people พอเข้าใจไหม ถ้าไม่เข้าใจภาษาไทย ก็ไปดูภาษาต่างประเทศก็ได้
ประชาธิปไตยนี่ประชาชนเป็นใหญ่ นี่แหละกฎหมายสูงสุด ถ้าอ่านไม่เข้าใจภาษาไทยก็จะทำพลาดไปเรื่อย ๆ
การไปไล่นายกรัฐมนตรีสมัครออกจากตำแหน่งและยุบพรรคการเมือง และละเว้นการยุบพรรคการเมืองพวกของตนนั้น .......... สาเหตุมาจากตลกคณะนี้ ไม่เข้าใจภาษาไทยนั่นเอง ................นี่เป็นเรื่องจริง
เพราะนายกสมัคร มาจากประชาชนนับล้าน ๆ เขาเป็นคนของประชาชน ๆ เท่านั้นมีสิทธิ์ไล่เขาออกจากตำแหน่ง แต่เป็นคณะอะไร 9 คนเท่านั้น(9 คนที่บังสนธิตั้งขึ้น เท่านั้นเอง) ไล่คนของประชาชนได้อย่างไร
และคณะตลก รธน.คณะนี้ ควรจะต้องรับผิดในการกระทำของตน ไล่ออกไป.....
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-27 18:16:59
ความเห็นที่ 10 (3362302)
มีคำว่า และ อยู่ในวรรคนั้นครับ ตลก รธน. อ่านคำว่าและ เป็น หรือ ................. ตลกมากจริง ๆ ......เพราะอ่อนภาษาไทย ไม่เข้าใจคำว่า และ คำว่า หรือ ว่าแตกต่างอย่างไร
แล้วก็กลายเป็นว่าไปบัญญัติกฎหมายใหม่เอาเอง เป็นดังนี้ครับ
....... ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........
เห็นไหมครับ เมื่อบัญญัติคำว่าหรือก็ทำให้มีสิทธิ์รับเรื่องได้เองไงครับ นี่เป็นความผิดที่น่าละอาย เอาหน้าไปไว้ไหน ขนาดนี้แล้วไม่เข้าใจภาษาไทยคำว่า และ คำว่า หรือ แล้วจะนั่งในตำแหน่งอันสูงสุดของกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร ?
ลาออกเถิด อย่าให้ประชาชนต้องไล่เลย
กลัวไหม? กลัวประชาชนไหม?
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-27 18:28:08
ความเห็นที่ 11 (3362304)
คนไทยทั้งประเทศ ใช้ภาษาไทย พูดไทย เขาเข้าใจดีเมื่อพูดคำว่าและ หรือคำว่า หรือ ในกฎหมาย(เก๊)นั้นใช้คำว่าและ คนก็เข้าใจว่าและ แต่ ตลก รธน.ไปเข้าใจว่า หรือ ก็เลยกลายเป็นจอมป่วนภาษาไทยไป ตลกจริง ๆ นึกว่าคนไทยไม่รู้หรืออย่างไร ?
มีความผิดอีกเยอะแยะครับ ที่สมควรไขก๊อกตนเอง
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-03-27 18:34:26
ความเห็นที่ 12 (3362608)
เราคิดว่าระบบศาลไทยกำลังสับสน ถูกปั่นหัวให้หมุนติ้วไปกับพรรคและพวกพ้องของตนซึ่งกำลังมุดเข้ารกเข้าพงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นอันธพาลทางการเมืองไปด้วยได้ใจ ....... คือพวกประชาธิปัตย์ ...... จ้องแต่จะช่วยพวกตนเองและเอาผิดเข้าคนอื่นพรรคอื่น ........... และโดยเป้าหมายนี้ก็ต้องคิดวิธีการให้แยบคาย ให้ดูดี......... เช่นบัดนี้ช่วยพรรคพวกตนเองให้ได้เป็นผู้ว่า กทม.ไปอีกครั้ง ด้วยอุบายวิธีที่แยบยล ................ ทำให้ปั่นป่วน สับสน กระทำสิ่งที่คนทั้งหลายผู้เป็นประชาชนเจ้าของประเทศตามอำนาจของระบอบประชาธิปไตยเห็นแจ้งชัดเจนขึ้นจนไม มีข้อสงสัยว่า ใครเป้ฯใคร ใครเป็นพวกเผด็จการทรราชย์บ้าง และใครเป็นประชาธิปไตย
และแสดงถึงความรู้ในภาษาไทยตกต่ำไปกว่าชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้เรียนวิชากฎหมายมา และที่ไม่ได้มีวิชาชีพทางการตัดสินความหรือกระบวนการยุติธรรม.............
ในเมื่อมีการจับกุมคุมขังประชาชนไว้เป็นจำนวนมาก กว่า 100 คนโดยไร้เหตุผล และโดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวออกมาสู้คดี
เพราะอ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ
..................ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด...................ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้................(รธน.50 ม.39 วรรค2-3)
คุณอ่านภาษาไทยข้อความข้างต้นเข้าใจไหม ผู้พิพากษา...?
แต่คนไทยทุกคน ที่เขาพูดไทยเขียนไทยกันได้....ตั้งแต่เรียนป.2 ก็เข้าใจแล้ว ไม่ต้องถึงเป็นผู้พิพากษาหรอกเขาเข้าใจกันหมด............และนี่แหละประชาธิปไตย
คือภาษาต้องเป็นภาษาของประชาชน ประชาชนอ่านเข้าใจตรงกันหมด ไม่ต้องให้ผู้พิพากษาตีความ......
ถึงตีความไปก็ค้านประชาชนไปไม่ได้ ..............คำว่าและ ก็ต้องเป็นและ คำว่าหรือก็ต้องเป็นหรือ ..... และประชาชนจะลงโทษอย่างสาสมกับความผิดของพวกท่าน ................โดยวิถีทางประชาธิปไตย...........ลงโทษอย่างไร .......ก็ลงโทษโดยวิถีทางประชาธิปไตย เข้าใจไหมล่ะ ?............ถ้าไม่เข้าใจก็เวรกรรมมาถึงไม่รู้ตัวละ น่าสมเพชละ
· ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2013-04-01 08:04:30
ความเห็นที่ 13 (3362609)
หน้าที่ของคุณคืออะไร......โดยระบอบประชาธิปไตย หน้าที่คุณคืออะไร ?............
· ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2013-04-01 08:11:14
ความเห็นที่ 14 (3362610)
คงเบลอไป ถึงเป็นฝ่ายเผด็จการเขาก็เขียนแบบประชาธิปไตยเอาไว้แล้ว ว่า หน้าที่คุณคือต้องรีบเร่งปลดปล่อยประชาชนผู้ไม่มีความผิดโดยเร็ว ............ แม้เพียงสงสัยว่ามีความผิดก็ไม่ได้ ต้องปล่อยโดยไม่มีเงื่อนไขใดใดทั้งสิ้น............ หากมิฉะนั้นก็จะถือว่าทำผิดหน้าที่ไงครับ คุณก็จะต้องรับผิดในฐานทำผิดหน้าที่ของคุณ จะลอยนวลไปไม่ได้เด็ดขาด.........
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-04-01 08:15:05
ความเห็นที่ 15 (3363103)
ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร?
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กับพวก ได้เสนอศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่ามีบุคคลจำนวนหนึ่งกำลังกระทำความผิดคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 และศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบเพื่อวินิจฉัยสั่งการแล้ว ด้วยมติ 3 : 2
บุคคลที่นายสมชาย แสวงการ กับพวกกล่าวหาว่ากระทำผิดร้ายแรงดังกล่าวนั้นก็คือ สมาชิกรัฐสภาจำนวน 312 คน ผู้กำลังทำการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญและได้ผ่านวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 นี่เอง และฝ่ายค้านที่ได้ทำการก่อกวนเป้นอันธพาลของประชาธิปไตยไทยสู้ทางรัฐสภาไม่ได้ จึงยื่นเรื่องไปทางศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างมาตรา 68 รธน.2550
แต่มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ได้ให้อำนาจแด่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะรับคำร้องไว้หรือไม่ ไม่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิและอำนาจที่จะรับเรื่องร้องเรียนไว้ได้ นี่เป็นการละเมิดอำนาจรัฐธรรนูญมาตรา 68 เป็นครั้งที่ 2 เราจึงทวงถาม ณ ที่นี้ว่า ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร ?
โดยหลักการประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญุทุกฉบับของประเทศไทย ล้วนรับรองว่าประเทศไทยจะต้องมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ทุกฉบับ นับแต่รัฐธรรมนูญฉบับแรก ๆ ที่กำหนดไว้ในมาตรา 1 ว่า อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย............ นี่คือความหมายของประชาธิปไตย มันถูกรับรองด้วยข้อความคล้าย ๆ กันนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ รวมทั้งระบบการแยกอำนาจ ......ฯลฯ อันยืนยันว่าประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย .............
นั่นหมายถึงรัฐธรรมนูญเขียนขึ้นเพื่อให้ประชาชนไทยทั้งปวงอ่านเข้าใจ ไปตามภาษาไทยเพื่อให้รู้ชัดตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของตนอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 ได้เขียนเอาไว้ด้วยภาษาไทย เพื่อให้ประชาชนไทยตระหนักในเงื่อนไขของกฎหมาย อย่างถูกต้องตรงกันทั้งประเทศ อันเป้นเจตนารมณ์ของกฎหมายของประชาชนเพื่อประชาชนและโดยประชาชน
แต่ปรากฎว่าศาลรัฐธรรมนูญเองได้ละเมิดมาตรา 68 มาแล้วครั้งหนึ่ง ในเรื่องราวที่ร้ายแรงมากนี้ ด้วยการรับเรื่องราวโดยตนไม่มีอำนาจที่จะรับ และบัดนี้ได้กระทำความผิดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยรับเรื่องราวที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กับพวก โดยอ้างมาตรา 68 เราจึงทวงถามซ้ำอีกครั้งว่า ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร ?
มีข้อความตรงไหนที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญไว้ในมาตรา 68 มาอ่านดูครับ อ่านภาษาไทย
มาตรา 68 บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้
ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำดังกล่าว
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้พรรคการเมืองใดเลิกกระทำการตามวรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองตามวรรคสาม ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบในขณะที่กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งดังกล่าว
คำถาม ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 ศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิและอำนาจในการรับเรื่องเสนอเพื่อวินิจฉัยสั่งการต่อไปได้หรือไม่?
ดูตรงไหนที่มีข้อความให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ สามารถกระทำการได้ดังกล่าว
มีข้อความไหนครับ ?
ในวรรคสองหรือ ? วรรคสองเขียนเอาไว้อย่างไร ?
เขียนเอาไว้อย่างนี้.........<<<< ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำดังกล่าว >>>>
ไม่มี
แล้วมีข้อความไหนที่ให้อำนาจท่านไว้ ............. อ่านไทย.......อ่านพบมีแต่คำว่า อัยการสูงสุด กับคำว่า และ โดยข้อความว่า.....>>>>....ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว <<<<....
ฉะนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ โดย ตลก.รธน.3 ใน 5 มีมติรับเรื่องเอาไว้วินิจฉัยต่อไป
จึงเป็นการกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดในระบอบประชาธิปไตย ..... เป็นครั้งที่ 2
โดยหลักประชาธิปไตย กฎหมายย่อมเป็นของประชาชน ประชาชนย่อมตรวจตรา มีสิทธิในการดูแลตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างสอดคล้องความต้องการของประชาชน โดยถูกต้องตามเจตนารมณ์ของประชาชน โดยจะต้องมีความเป็นธรรม ตามระบบสังคม และตามหลักกฎหมายเอง ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นเจ้าหน้าที่เอง กระทำความผิดเองอย่างยิ่งใหญ่และซึ่งหน้าเช่นนี้ สมควรจะได้รับการลงโทษอย่างไร ?
........ จากศาลของประชาชน................หรือจากประชาชนโดยตรง อันเป็นสิทธิพื้นฐานตามหลักการประชาธิปไตย นั่นคือ >>>> มาตรา 1 อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย <<<<
ประเด็นที่ 2 การมองประเด็นปัญหานี้ เพื่อความเป็นธรรม ก็ต้องมองในองค์รวมทั้งหมดของระบอบ ปัจจุบันนี้โดยรัฐธรรมนูญไทยทั้ง 18 ฉบับ ล้วนบ่งบอกเจตนารมณ์ว่าต้องการให้ประเทศไทยนำระบอบประชาธิปไตยมาใช้ปกครองประเทศ ไม่มีการหวลย้อนหลัง เพื่อกลับไปสู่ระบอบเก่าก่อนอีกแล้ว เพราะเหตผลของยุคสมัยและองค์รวมของโลกมนุษย์ สำหรับแนวคิดประชาธิปไตยไทยขณะนี้ มีเรื่องที่ควรมองอยู่ดังนี้คือ
1. เรื่องอำนาจการปกครอง ท่านจะเห็นว่าประชาชนโดยขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย(หรือคนเสื้อแดง)ได้เติบโตออกไปมาก ๆ และจะเติบโตต่อไปอีกไม่หยุดหย่อน โดยไม่มีอำนาจใดใดจะระงับยับยั้งได้อีกต่อไป เหตุผลก็คือ พวกเขาได้มาลิ้มรสของอำนาจเข้าแล้ว และรสของอำนาจเป็นรสที่เอร็ดอร่อย อันนี้ตรงหลักสัจธรรมในพระพุทธศาสนาที่ว่า วโส อิสสริยัง โลเก อำนาจเป็นใหญ่ในโลก คนจึงมักหลงอำนาจเสมอ ๆ เพราะหลงด้วยรสอำนาจนี่เอง เมื่อประชาชนคนธรรมดา ๆ มาระลึกและได้ลิ้มรสอำนาจเข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะคาย มีแต่จะแสวงหาอำนาจของประชาชนเรื่อยไป (เช่นสามล้อคนหนึ่ง มีความเหลิงในอำนาจของตนที่บังอาจจะด่าทอเผด็จการอมาตย์ได้อย่างไม่เกรงกลัวใครในแผ่นดินในยุคนี้ พวกเขาได้อำนาจแล้วก็ติดใจในอำนาจการเป็นประชาชนธรรมดาของพวกเขา ไม่ยอมคายแน่นอน) แต่เรานำเอากฎกติกาประชาธิปไตยมาใช้ผนวกกับหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนประจำชาติไทย จึงเป็นที่หวังได้ว่าประชาธิปไตยไทยจะเจริญไปอย่างดีและเป็นแบบอย่างของการต่อสู้โดยวิถีทางประชาธิปไตยได้ในโลกนี้
2. อำนาจทางการบริหาร และนิติบัญญัติ บัดนี้เป็นของประชาชนแล้ว แม้จะยังไม่อยู่ในระบบที่สมบูรณ์ แต่การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นแหละจะนำมาซึ่งระบบอันสมบูรณ์ต่อไป แนวทาวงพัฒนาประชาธิปไตยจึงต้องเป็นไปแบบนี้ แต่เรายังมีอำนาจหนึ่งที่เป็นอำนาจไร้ที่มาอันไม่สอดคล้องหลักประชาธิปไตย ที่เห็นง่าย ๆ ก็องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2550 นี่เอง ที่มีสถานะของตนอย่างลักลั่นกัน อย่างไม่สอดคล้องหลักความยุติธรรมอยู่แล้ว มีบางคนไม่ได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง กับมีบางคนได้ทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง มีความลักลั่นเช่นนี้แล้วตัวองค์กรเองยังไม่มีความขวนขวายที่จะแก้ไขระบบขององค์กรตนเองให้ดีขึ้นเป็นมาตรฐานสากลขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือ ที่มาขององค์กร ที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร นั่นคือผู้ที่แต่งตั้งองค์กรนี้มาจาก สนธิ บุญรัตนกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ 2549 สนธิ บุญรัตกลินเป็นใคร เป็นอรหันต์หรือ ไม่ แต่เป็นมุสลิมชั่วร้ายคนหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านจะเห็นว่านี่คือที่มาอันไม่ชอบตามหลักการประชาธิปไตย และโดยสามัญสำนึกของความเป็นธรรม คนเก้าคนที่มาจากมุสลิมชั่วร้ายคนเดียว มีอำนาจอันชอบธรรมอย่างไรสามารถยุบพรรคการเมืองของประชาชน ที่มาอย่างชอบธรรมถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตยแล้ว ที่มีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้ โดยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทย พลังประชาชน เป็นต้น แล้วยังสามารถที่จะเลือกไม่ยุบพรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนอยู่ได้อีกด้วย(โดยแค่ออกคำพูดว่า หมดอายุความ 15 วัน อันเป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชนทั้งชาติ) และสามารถอย่างชอบธรรมอย่างไรในการตัดสินขับไล่นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน(เพียงเพราะทำรายการอาหารในโทรทัศน์เท่านั้นเอง) ซึ่งได้ปรากฎว่านายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ได้ออกมาสารภาพว่าที่ตัดสินนายสมัครนั้นเป้นการผิดพลาด นั่นก็ดีแล้ว ซึ่งต่อไปท่านต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบในผลงานที่ผิดพลาดนั้น(จะอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร ตามหลักกฎหมายและหลักกรรมในพระพุทธศาสนา ทำกรรมใดใดไว้ตนเองต้องรับผลของกรรมนั้น.....คุณวสันต์ ลองอ่านบทสวดนี้ดู.... กัมมัสโกมหิ เรามีกรรมเป็นของตัว, กัมมะทายาโท มีกรรมเป็นผู้นำมามอบให้, กัมมะโยนิ มีกรรมเป็นผู้นำมาเกิด, กัมมะพันธุ มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์และพวกพ้อง, กัมมะปะฏิสะระโณ มีกรรมเป็นเครื่องยุยงเป็นเครื่องระลึก, ยัง กัมมัง กะริสสามิ เราจะทำกรรมอันใดไว้, กัลยาณังวา ดีก็ตาม, ปาปะกังวา ชั่วก็ตาม, ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ เราจะต้องเป้นผู้รับผลของกรรมนั้น....... ไม่มีใครรอดจากกรรมได้ ประชาธิปไตยก็เช่นกัน การเจริญก้าวหน้าในประชาธิปไตย หลักกฎหมายจะต้องศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีใครรอดจากการกระทำผิดไปได้ )
3. ประชาธิปไตยไม่ได้สร้างขึ้นในวันเดียว ยังมีสิ่งที่จะต้องทำอีกมากมายเพื่อให้ประชาธิปไตยไทยเติบโต ไปจนถึงระดับที่มั่นคงและก้าวหน้า ในระยะปัจจุบัน เราจงมาร่วมมือกันให้ได้มาตรฐานชั้นปกติเสียก่อน นั่นคือ การเมืองประชาธิปไตยต้องแก้ด้วยการเมืองระบอบประชาธิปไตย นับแต่นี้ไปจะต้องไม่มีรัฐประหาร ไม่มีการยุบพรรคการเมือง ไม่มีการก้าวก่ายอำนาจระหว่างตุลาการไปก้าวก่ายบริหารหรือนิติบัญญัติ อย่างที่ท่านทำอยู่ขณะนี้นั่นเอง จะต้องไม่มีขึ้นอีก ........จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหลายครั้งจนกว่าจะเป็นที่พอใจของประชาชน....ซึ่งสิ่งนี้ทุกฝ่ายจะต้องเข้าใจตรงกันว่าเป็นสิทธิโดยตรงโดยปกติของประชาธิปไตยอยู่แล้ว.... จนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ...... ในระยะต่อไป ประชาชนต้องเติบใหญ่ ประชาชนต้องยืนบนขาตัวเองให้ได้ ปราศจากระบบทาส ฉะนั้น ประเทศไทยจึงต้องรีบเร่งพัฒนาอย่างที่รัฐบาลประชาชนเขาพยายามทำอยู่ ถือว่าเป็นมาตรการยกระดับประชาชนให้ยืนได้อย่างมั่นคง ถ้าเรารักประชาธิปไตย เราต้องพัฒนาไปอีกหลายก้าวใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่เพิ่งผ่านสภาไปคือ โครงการลงทุนคมนาคม 2 ลล. บาทนั่นเป็นตัวอย่าง
ประเด็นที่ 3 ยกประโยชน์ให้แก่จำเลย
ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน
6 เม.ย.2556/08.20 น.
· ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2013-04-06 21:38:32
ความเห็นที่ 16 (3363535)
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสว. ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ............ ตามมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ปรากฎว่า ตลกมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รับเรื่อง.................
ก็ ตลก.ชุดนี้ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไรด้วยซ้ำ ...... ยากครับ แต่ถ้ารู้จักว่าประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ก็สมควรจริง ๆ ที่จะยุบพรรคนี้เสีย ตั้งนานมาแล้ว ผมบอกแล้วว่า คนที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย บอดมืดในประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่ประชาชน คนไร้การศึกษา แต่เป็นคนมีการศึกษา และอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ ทั้งนั้น
และบัดนี้ยังพิศูจน์ว่าอ่อนภาษาไทย อย่างน่าฉงนฉงาย ว่าผ่านมาสู่ระดับสูงนี้ได้อย่างไร
ตลก.รธน.คณะนี้ อย่าหวังครับ ว่าแกจะช่วยในการสร้างสรรค์ ให้ประชาธิปไตยไทยเติบโต เพราะเมื่อไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยแล้ว พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ......... ทางเดียวคือต้องแก้ไขฐธรรมนูญ เอาคนพวกนี้ออกไปจากระบบเสียให้ได้เท่านั้นเอง
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-04-11 18:26:11
ความเห็นที่ 17 (3363546)
เราจะต้องฟ้องไปยังราชบัณฑิตยสถานครับ ว่าตลก.รธน.คณะนี้กระทำผิดในการใช้ภาษาไทย และเป็นเหตุให้คนอื่นสูญเสียซึ่งเสรีภาพ หรือได้รับผลอันร้ายแรงด้านเสรีภาพของประชาชนในยุคเสรชน
ไม่เข้าใจมาราตรา 68 วรรคสอง
....... ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........
เราจะต้องออกข้อสอบให้เด็กที่เรียนภาษาไทยในชั้นประถมศึกษาวิเคราะห์ 2 ประโยคนี้ ว่าแตกต่างกันอย่างไร และให้เด็ก ๆ ให้คะแนน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะนี้ด้วย ว่าสมควรได้คะแนนเท่าไร สอบตกหรือไม่......รับรองว่าเด็กมันจะต้องให้คะแนนต่ำกว่า 0 คะแนนแน่ ๆ (เพราะเป้นผู้ใหญ่แล้ว ..... มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแล้ว.......มีอาชีพชั้นสูงสุดของสังคมไทย......และ มีอาชีพตัดสินความยุติธรรมของสังคม.......)
โพลสำนักต่าง ๆ น่าจะลองออกแบบสอบถาม ๆ ประชาชนดู รับรองว่า ประชาชนจะตอบคำเดียวกันว่า ตลก.รธน.คณะนี้ อ่อนภาษาไทยระดับต้น ๆ ที่สุด(คือระดับประถมศึกษา)
ข้อสอบควรเป็นอย่างนี้ครับ ให้นักเรียนพิจารณาข้อความในวรรคทั้งสองต่อไปนี้ แล้วตอบว่ามีความหมายที่แตกต่างกันอย่างไร?
วรรคที่ 1 ....... ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........
วรรคที่ 2 ....... ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว.........
ใคร ๆ ก็อาจจะตอบคำถามนี้ได้ครับ ลองตอบซีครับ
แหม คิดถึงท่านอาจารย์มานิต จิตจันทร์กลับ จังเลย ...............
· ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรีชน วันที่ตอบ 2013-04-12 00:24:46
ความเห็นที่ 18 (3363547)
ในฐานะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ลองอ่านมาตรานี้ดู
..................ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด...................ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้................(รธน.50 ม.39 วรรค2-3)
· ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรีชน วันที่ตอบ 2013-04-12 00:30:23
ความเห็นที่ 19 (3363548)
เราจะต้องถามไปทุกสถาบันครับ โดยเฉพาะสถาบันภาษา
และมหาวิทยาลัยทุกแห่ง โดยเฉพาะคณะอักษรศาสตร์ วารสารศาสตร์ และ ศิลปศาสตร์ สถาบันครูหรือ ราชภัฏ ให้ร่วมวิเคราะห์ตลก.รธน. ในกรณี ม. 68
ถามตรง ๆ ว่าคุณไม่อายหรืออย่างไร ? ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีลูกเต้าเหล่าหลานของคุณ ............ลูกศิษย์ลูกหาของคุณก็มี ................
· ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-12 00:37:02
ความเห็นที่ 20 (3363549)
ทำไมต้องถามไปยังราชบัณฑิตยสถานและสถาบันภาษาไทย? ก็เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะนี้ดูถูกดูหมิ่นสถาบันภาษาไทย นั่นเอง ........และดูหมิ่นดูแคลนคนไทยทั้งประเทศ
พวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษ ........... อย่างสูงสุดก็ไล่ออกจากความเป็นคนไทยเสีย
· ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-12 00:42:27
ความเห็นที่ 21 (3363951)
พวกเขาเข้าใจคำว่าสถาบันหรือเปล่า ?
สถาบันเป็นโครงสร้างหลักของสังคม ............. มีลักษณะเป็นทั้ง ราชการ และ ไม่ใช่ราชการ
แต่ที่ไม่ใช่ราชการนั้นแหละทรงคุณค่าจริง
ในที่นี้คือ สถาบันประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ....................
ยอมรับว่า เสื้อแดงเขามาสู่ระดับสถาบันของประชานแล้ว
และสถาบันภาษาไทย ................ ยิ่งใหญ่เพียงไหนในความหมายของคำว่า ชาติไทย
ตลก รธน. ได้ทำลายภาษาไทยลงโดยสิ้นเชิงเช่นนี้ ..........
หมายถึง ดูหมิ่นดูแคลนสถาบัน ............... โดยเขลา ไม่เข้าใจ ........ แต่อันตรายจากการดูหมิ่นดูแคลนสถาบันนั้น.........จะร้ายแรงเกินที่จะคาดคิดถึง ...... สำหรับคนเขลา .............(จะเหมือนอินเดีย.....ประเทศยักษ์ใหญ่........ตกเป็นขี้ข้าอังกฤษ......ประเทศแจ๊กผู้ฆ่ายักษ์......อยู่ 100 กว่าปีไปได้อย่างไรนั่นเอง ?)
ต้องร้อนถึงสถาบันแน่ ๆ .............
· ผู้แสดงความคิดเห็น แดง ดำรงวธรรม วันที่ตอบ 2013-04-19 08:17:06
ความเห็นที่ 22 (3364191)
ศาลอาญายกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว นายก่อแก้ว พิกุลทอง โดยให้เหตุผลว่าจำเลยยังไม่แสดงให้ศาลเห็นว่าสำนึกในการกระทำความผิด
โดยวันนี้ ศาลอาญานัดฟังคำสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำเลยคดีร่วมกันก่อการร้าย ที่ถูกศาลเพิกถอนประกันตัวไปเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2555 เนื่องจากมีพฤติการณ์ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าข่ายยุยง ปลุกปั่น ปลุกระดม ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย อันเป็นการผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จำเลยจะมีพยานขึ้นเบิกความยืนยันพฤติกรรม ว่าเรียบร้อย ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และอยู่ในกรอบเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว แต่พฤติการณ์ของจำเลยที่ผ่านมายังไม่แสดงให้ศาลเห็นและเชื่อได้ว่าจำเลยมีความสำนึกในการกระทำผิด จึงไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ไม่อนุญาตให้ประกันตัว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทนายความยังไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาล จึงเตรียมจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งอีกครั้ง ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้
· ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-04-22 20:20:54
ความเห็นที่ 23 (3364193)
เหตุผลที่ว่า .....แต่พฤติการณ์ของจำเลยที่ผ่านมายังไม่แสดงให้ศาลเห็นและเชื่อได้ว่าจำเลยมีความสำนึกในการกระทำผิด จึงไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ไม่อนุญาตให้ประกันตัว.............
คำว่าไม่สำนึกในการกระทำผิด......... ไม่ชัดเจนเสียเลย
ในด้านคุณก่อแก้ว สำนึกเขาเป็นประชาธิปไตย และยึดมั่นในสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ................ เขาทำสิ่งที่เป็นสิทธิของเขา และยืนยันสิทธิของเขา ..... ซึ่งเป็นความประพฤติที่ถูกต้องเป็นตัวอย่างของประชาชนในระบอบประชาธิปผไตย ........เพื่อจะทำให้ประชาธิปไตยมีมาตรฐาน.... แต่คุณไปบอกว่าเขาไม่สำนึกผิดได้อย่างไร ......... เพราะสำนึกของเขาถูก เขาก็ยืนยันสำนึกเขาเช่นนั้น ............ คุณต่างหากที่ไม่เข้าใจสิทธิประชาธิปไตยของประชาชน.......และมองว่าการที่คนอื่นมองไม่เหมือนตนนั้น เป็นการไม่สำนึกผิด....... เป็นการไม่สำนึกเหมือนคุณ ซึ่งไม่เข้าใจประชาธิปไตย.....
การยุติธรรมไทยจึงเสียหายต่อไปอีก มองไม่เห็นฝั่งแห่งสากลการยุติธรรมเสียแล้ว
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-04-22 20:32:59
ความเห็นที่ 24 (3364332)
ดูที่ข้อเท็จจริงเชิงกฎหมายเถอะ อย่าไปดูที่สำนึก เพราะคุณมีสำนึกเผด็จการที่รับใช้เผด็จการ แล้วจะมาให้อีกคนที่เขาสำนึกในประชาธิปไตย มาสำนึกอย่างเผด็จการได้อย่างไร .................ควรมองข้อเท็จจริงทางกฎหมาย ในที่นี้ ข้อเท็จจริงก็มีว่า ........ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า.....จำเลยมีพยานขึ้นเบิกความยืนยันพฤติกรรม ว่าเรียบร้อย ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และอยู่ในกรอบเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ........ ก็ปล่อยเขาไปซีครับ อย่าไปมองเลยไปถึงสำนึกของตนกับของเขา......เพราะคุณเป็นเผด็จการ สำนึกอย่างเผด็จการ แล้วคุณจะให้คนที่เขาเป็นประชาธิปไตย สำนึกอย่างประชาธิปไตย หันมาสำนึกอย่างคุณได้อย่างไร.........ก็เห็นอยู่แล้วว่าเขามีพฤติกรรม เรียบร้อย ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว และอยู่ในกรอบเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว........ก็ปล่อยซี .............
· ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2013-04-23 23:33:42
ความเห็นที่ 25 (3364435)
ขอบคุณคุณก่อแก่้ว พิกุลทอง คุณทำให้นักสู้เพื่อประชาธิปไตยมีความหมาย ปลุกวิญญาณนักสู้เสรีชน การอารยะขัดขืนของคุณจะจุดพลังให้แดงทั้งแผ่นดิน นักวิชาการฟากประชาธิปไตย และสส.เพื่อไทยลุกขึ้นมาขานรับประกาศไม่ยอมรับอำนาจที่ฉ้อฉลต่อไป
· ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเา วันที่ตอบ 2013-04-24 19:22:09
ความเห็นที่ 26 (3364692)
# ศาลยกคำร้องประกันก่อแก้ว ชี้ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ทนายยื่นขอประกันใหม่ทันที...DNN 22 เม.ย.2556 10:27:39
# นายกเข้าทำเนียบหลังหายป่วย เตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้ารับทีมทนายคดีพระวิหาร...DNN 22 เม.ย.2556 09:05:26
# นายกขอบคุณ ชื่นชมทีมสู้คดีพระวิหารทำหน้าที่ดีที่สุด อลินาภูมิใจขวัญใจคนไทย...DNN 22 เม.ย.2556 14:32:59
# ณัฐวุฒิหนุนสส.สว.ไม่ยอมรับอำนาจศาลรธน.ระบุตลก.ใช้ดุลพินิจเกินเขตอำนาจ...DNN 23 เม.ย.2556 09:54:28
# ก่อแก้วไม่ขอโทษตลก.รธน. ยันไม่ผิด ถามหามาตรฐานศาลตัดสิน ทำใจได้ติดคุกยาว...DNN 23 เม.ย.2556 10:23:16
# ธิดายกย่อง 312 สส.สว.ยื่นถอดถอนตลก.รธน. ยันนิรโทษ แก้รธน.เรื่องเร่งด่วน...DNN 24 เม.ย.2556 13:41:44
# ตร.กองร้อยรปภ.เข้มแดงชุมนุมหน้าศาลรธน.จี้ตลก.ลาออก ระบุสถานการณ์ยังปกติ...DNN 24 เม.ย.2556 10:38:27
· ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-04-27 19:28:49
ความเห็นที่ 27 (3364693)
# แดงลุยต่อยื่นสำนักงบตัดเงินเดือน9ตลก.รธน.ประกาศล่า2หมื่นชื่อยื่นถอดถอน...DNN 24 เม.ย.2556 14:44:41
# พท.ยินดีเยาวภาชนะลต.ซ่อมเชียงใหม่ขอบคุณปชช.วางใจหนุนขับเคลื่อนนโยบายฯ#...DNN 22 เม.ย.2556 11:53:11
# นายกฯชี้ชุมนุมกดดันตลก.ทำได้ตามสิทธิ ยันเจตนาแก้รธน.รักษาสมดุล3เสาหลัก...DNN 27 เม.ย.2556 13:16:31
# พท.ยันจดหมายเปิดผนึกไม่รับอำนาจศาลรธน.ไม่ก้าวล่วงและล้มล้างองค์กรอิสระ...DNN 27 เม.ย.2556 11:29:46
# นพดลยันมีหลักฐานสู้คดีลงนามพระวิหารไม่มีเจตนาฝ่าฝืนม.190จ่อแถลงวันนี้...DNN 27 เม.ย.2556 11:01:55
# แดงกวป.ยกระดับการต่อสู้ประกาศอารยะขัดขืน ตั้งสน.ประชาชนแจ้งจับ9ตลก.รธน....DNN 26 เม.ย.2556 17:36:38
# สามารถเผยพท.ล่ารายชื่อสส.ครบแล้ว พร้อมดูท่าทีตลก.ศาลรธน.ก่อนยื่นถอดถอน...DNN 26 เม.ย.2556 16:28:26
# นพดลยัน MOUปี51ปกป้องพื้นที่ทับซ้อนพระวิหารพร้อมพิศูจน์เชื่อศาลเป็นธรรม ...DNN 26 เม.ย.2556 13:22:27
# คนเสื้อแดงเตรียมยื่นหนังสือปปช.ตรวจสอบการทำงานของตลก.ศาลรธน.14น.วันนี้...DNN 26 เม.ย.2556 12:06:41
# ศาลรับฟ้องปปช.กล่าวหานพดลเอี่ยวเขมรขึ้นทะเบียนพระวิหารนัดสอบปากคำ5กค....DNN 26 เม.ย.2556 10:18:36
# ประเสริฐ สส.พท.ดับเครื่องชนศาลรธน.ลั่นยื่นถอดถอนบอกอะไรจะเกิดก็ให้เกิด...DNN 24 เม.ย.2556 15:41:39
# อุกฤษอัดศาลรธน.ทำสังคมแตกแยกหลายคดีก้าวล่วงคนอื่นชงลดอำนาจ4ปีวาระเดียว...DNN 24 เม.ย.2556 15:19:32
· ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-04-27 20:04:54
ความเห็นที่ 28 (3364701)
อุกฤษเสนอปรับปรุงศาลรธน.
นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้นำเสนอบทความเรื่อง "ข้อเสนอปรับปรุงศาลรัฐธรรมนูญ" โดยความตอนหนึ่งระบุว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีสำคัญช่วงระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่าเป็นคำวินิจฉัยที่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความถูกต้องเป็นธรรม และหลายคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยโดยก้าวล่วงการใช้อำนาจอธิปไตยขององค์กรอื่นโดยไม่มีอำนาจ และขัดต่อหลักการแบ่งอำนาจ โดยมีกรณีตัวอย่างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่น่าสนใจ และผู้เขียนมีความเห็นว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยเกิดความขัดแย้งทางสังคม เช่น คดียุบพรรคการเมืองหลายพรรค คดีตัดสินให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดลง เพราะเหตุเป็นพิธีกรในรายการ "ชิมไปบ่นไป" หรือคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญกรณีรับคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ไว้พิจารณา และมีคำสั่งรับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ และนายบวร ยสินทร ที่ใช้สิทธิตามมาตรา 68 เพื่อขอให้ยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมาตรา 237 ของรัฐสภา เป็นต้น
@ แนะยกเครื่องใหม่4ด้าน
อย่างไรก็ตาม นายอุกฤษได้นำเสนอการแก้ไข ปรับปรุงศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้ 1.แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้เฉพาะแต่ในกรณีที่เป็นร่างกฎหมายที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยเท่านั้น และวิธีการที่จะทำให้บทบัญญัติใดของกฎหมายตกไป หรือเป็นอันใช้บังคับไม่ได้ เฉพาะแต่ฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะผู้แทนปวงชนเท่านั้นที่จะปรับปรุง หรือแก้ไขเพิ่มเติม
2.แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของศาลรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญ 1 คน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนอื่นอีก 14 คน รวมเป็น 15 คน และองค์คณะในการนั่งพิจารณา และในการทำคดีวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่า 10 คน และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนตุลาการทั้งหมด ทั้งนี้ เทียบเคียงได้จากมาตรฐานกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการตรา พ.ร.ก.ใดไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด (มาตรา 185 วรรคสี่)
3.ควรกำหนดให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 4 ปี และให้ดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียว นอกจากนี้ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญควรมีที่มายึดโยงกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอธิปไตยด้วย
4.แก้ไขเพิ่มเติมกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเร่งดำเนินการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว กฎหมายดังกล่าวจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในแต่ละประเภทคดีไว้อย่างชัดเจน และจะต้องมีการกำหนดเวลาในการเผยแพร่คำวินิจฉัยกลาง และความเห็นในการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคนในราชกิจจานุเบกษาภายใน 30 วัน
· ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-04-27 21:59:27
ความเห็นที่ 29 (3365512)
เรียน เว็ปมาสเตอร์ ตัวหนังสือเล็กจริงๆและเขียนยาวด้วย ทำให้อ่านแล้วลายตา และพาลเลิกอ่านเอาดื้อๆ ควรเพิ่มตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้นกว่านี้จะดีมาก
· ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-05-08 17:47:34
ความเห็นที่ 30 (3370703)
เพิ่มแล้ว โตแล้ว คงถูกใจนะครับ
· ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-07-15 20:04:22
ความเห็นที่ 31 (3370705)
มาวิเคราะห์ภาษาไทยกันสักหน่อย ๆ ครับ
ระดับชั้นประถมศึกษาเขาสอนให้รู้ความหมายของคำ ของประโยค และเนื้อหาทั่ว ๆ ไปของการใช้ภาษาไทยทั่วไป
จะต้องเข้าใจคำต่าง ๆ ในเชิงไวยากรณ์ พอสมควร
เขาจะสอนหลักไวยากรณ์ไทยเบื้องต้น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ ม.68 ก็คือ ลักษณะประโยคภาษาไทย และคำในภาษาไทยเป็นอย่างไร
เช่นมีหลักเกี่ยวกับคำ คำนาม สรรพนาม คุณศัพท์ กริยา กริยาวิเศษณ์ บุรพบท สันธาน และ คำอุทาน เป็นต้น
นี่เป็นระดับประถมศึกษา
ทีนี้ ที่ผมว่า ภาษาไทยระดับประถมศึกษา ก็คือ คำว่าและ คำว่าหรือ นั้น ใคร ๆ ก็เข้าใจความแตกต่าง แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นความแตกต่างระหว่างคำว่า และ กับ คำว่า หรือ ซึ่งผิดหลักภาษาไทยชั้นประถมศึกษาดังกล่าว และทำความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างยิ่ง จึงถือว่าขาดความรู้ภาษาไทย แม้เพียงระดับประถมศึกษา และเมื่อเป็นเช่นนี้จะสมควรแก่ตำแหน่งนี้หรือ มิเสี่ยงเกินไปหรือที่ปล่อยให้คนไร้วุฒิภาวะต้องตัดสินปัญหาอันสำคัญยิ่งของชาติบ้านเมือง
นอกจากนั้นแล้ว เราก็ต้องเข้าใจคำต่าง ๆ ว่าทำหน้าที่อะไร
ในที่นี้ คำว่า และ ในวรรค 2 ของม.68 เป็นคำสันธานครับ ทำหน้าที่เชื่อมประโยค 2 ประโยคเข้าด้วยกัน
ค่อนข้างจะตรงกับไวยากรณ์อังกฤษ คือตรงกับคำ conjunction ทำหน้าที่เชื่อม เหมือน ๆ คำบุรพบทหรือ peposition ในภาษาอังกฤษ แต่คำสันธานเชื่อมประโยคต่อประโยค คำบุรพบทเชื่อมคำต่อคำ เข้าใจไหมครับ ........ หลักไวยากรณ์ไทยระดับประถมศึกษา ?
ในม.68 วรรค 2 เราก็ต้องเข้าใจว่า ในเมื่อหลักการมีว่าคำว่าและทำหน้าที่เชื่อมประโยค ก็จงไปตรวจดูว่ากฎหมายทำถูกหรือไม่ เอาประโยคนั้นมาดูครับ ก็คือประโยคที่ว่า.......
อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ..........
ประโยคแรกคืออะไรครับ คือ.....อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง................ใช่ไหม........? ใช่
แต่ประโยคที่ 2 ล่ะ .........ตกใจใช่ไหม ..... เขาละตัวประธานเอาไว้ .......ในฐานที่เข้าใจ
แต่เราจะต้องเข้าใจว่า โดยหลักภาษาไทย ประธานของประโยคที่ 2 นั้น มันจะต้องเป็นตัวเดียวกันกับประธานของประโยคแรก ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ซ้ำซาก และยืดเยื้อ ...........นั่น ถ้าเขียนเต็มก็จะเป็นว่า ......อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และ อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ..........
นี่คือหลักภาษาไทยจะตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ประธานของประโยคต้องเป็นตัวเดียวกันคือคำว่า อัยการสูงสุด ทั้ง 2 ประโยค จะไม่มีคำว่าประธานศาลรัฐธรรมนูญ ...............แต่เมื่อ ตลก.รธน.ตีความเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญไป จึงถือว่าตีความผิดหลักภาษาไทยแม้ชั้นประถมศึกษา ถือว่าไร้วุฒิภาวะอันสมควรแก่ตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญของประเทศ.........น่าอับอายขายหน้าไปถึงลูก ๆ หลาน ๆ ตนเอง
และจะปฏิเสธได้อย่างไร ที่ว่าคุณมีความรู้ภาษาไทยอ่อนมาก ระดับประถมศึกษายังใช้ไม่ได้ แล้วมีความชอบธรรมอย่างไร ในการนั่งในตำแหน่งที่ต้องตัดสินคนอื่น ในเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศชาติเช่นนี้
และได้กระทำความผิดอันยิ่งใหญ่ไปแล้วถึง 2 ครั้ง 2 หน ใครจะรับผิดชอบ ............ ก็จะใคร ก็ตลก.รธน.นั่นแหละต้องรับผิดชอบ.........
และประชาชนจะต้องจดจำไว้ จนกว่าจะได้ชำระ ......
· ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-07-15 20:44:34