สุเทพ เทือกสุบรรณ มนุษย์วานรยุค 1.8 ล้านปี
สุเทพ เทือกสุบรรณ ขี่หลังเสือ ลงไม่ได้... ต้องเอาเชือกผูกกิ่งไม้ไว้ แขวนคอตนเองจึงจะลงจากหลังเสือได้ ขอบคุณเจ้าของภาพวาดนี้ด้วยครับ
สุเทพ เทือกสุบรรณ กบฎคนล่าสุดของประเทศไทย....คือคิดล้มล้างรัฐบาล และระบอบการปกครอง มีโทษตามกม.อาญาของประเทศไทย
ม็อบสุเทพ-ประชาธิปัตย์ เป็นกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวสุด ๆ เอารัดเอาเปรียบสังคมไทยอย่างไร้ความละอายใจ โดยถูกครอบด้วยอวิชชาความโง่เขลาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น
1. คุณไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้คำว่า มวลมหาประชาชน เพราะคำว่ามวลมหาประชาชน แปลว่าประชาชนส่วนใหญ่ ในเมื่อคุณเป็นประชาชนหยิบมือหนึ่ง หรือพอกล่าวว่าเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นเช่นนี้เสมอมา พิศูจน์ได้ ตั้งแต่อยู่ในรัฐสภาคุณก็เป็นเสียงส่วนน้อย ฝ่ายรัฐบาลมีถึง 300+ กว่าเสียง คุณมีแค่ 140-50 เสียง ฐานะทางกฎหมายของคุณจึงเป็นได้เพียงฝ่ายค้าน(ที่กลายเป็นฝ่ายแค้น) นั่นไง ยอมรับแล้วยัง ? ครั้นปชป.ตัดสินใจพาพวกทั้งหมดลาออกจากตำแหน่งสส. (โดยเสียท่าถูกหลอกให้ลาออกทั้งพรรค) มาก่อม็อบราชดำเนิน คุณก็อ้างว่ามีคนมาร่วมคุณถึง 5 ล้านคน (ทั้ง ๆ ที่ความจริงมาไม่ถึง 1 แสนคนเศษ ๆ ตามมาตรฐานข่าวนอก) คุณก็ยังไม่มีสิทธิ์จะใช้คำว่า มวลมหาประชาชนอยู่ดี เพราะยังมีมวลมหาประชาชนจริง ๆ คือคนเสื้อแดงอย่างไรล่ะ? เสื้อแดงมีมากกว่าคุณถึง 100 เท่า ....... คุณจึงเป็นคนที่มีวาจาไม่ซื่อตรง ที่เฉไปจากความจริงแต่ต้นแล้ว....เอาความเท็จนี้ไปโฆษณาให้ประชาชนเข้าใจผิด ในทางศาสนา ย่อมเห็นชัดเจนว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนโง่เง่าที่หลอกลวงประชาชน จะได้ผลร้าย และห้ามเสียซึ่งการได้เกียรติยศแต่ต้นแล้ว ดังจะเห็นว่าสอดคล้องกับพระวจนะในพระคัมภีร์ไบเบิลที่ว่า As snow in summer and as rain in harvest, so a place of honour is not fitting for a fool. เกียรติยศไม่เหมาะสมกับคนโง่ เช่นเดียวกับหิมะ ในฤดูร้อนและฝนในฤดูเกี่ยว [HOLY BIBLE: PROVERBS:26;1] มนุษย์วานรยุค 1.8 ล้านปีอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ จึงไม่อาจจะคู่ควรกับคำว่า เกียรติยศ ของพระเจ้า
2. กปปส.เป็นกลุ่มพรรคพวกที่โง่จริง ๆ เพราะนายสุเทพแปลคำกปปส.ว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อปฏิรูปประชาธิปไตยไปสู่ประชาธิปไตยสมบูรณ์ โดยไปเน้นว่า จะปฏิรูปประชาธิปไตยไทยไปสู่ความสมบูรณ์ แต่นายสุเทพก็ไม่เข้าใจวาทะนี้เลย เพราะสิ่งที่เขาทำกลายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยเลยแม้แต่เล็กน้อย แท้จริง ระบอบ กปปส.ของนายสุเทพนี้คือระบอบคอมมิวนิสต์นั่นเอง ดูจากเหตุผลง่าย ๆที่เห็นอยู่ขณะนี้เองเลยคือ ระบอบคอมมิวนิสต์ไม่มีการเลือกตั้ง แต่ประชาธิปไตยมีการเลือกตั้ง ก็ดุพรรคประชาธิปัตย์และกปปส.ยังขัดขวางการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 อย่างเต็มที่เสียอีก คุณก็เห็น ๆ อยู่ไม่ใช่หรือ? แล้วนั่นจะนำไปสู่ประชาธิปไตยได้อย่างไร ประชาธิปไตยมันเริ่มต้นการพัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์ด้วยอะไร? ขอถามหน่อย ...(ถ้าไม่ใช่ด้วยการเลือกตั้งพร้อมสิทธิ 1 คน 1 เสียงแห่งอำนาจอธิปไตยของมหาประชาชน) แต่สิ่งที่กปปส. ปชป.ทำนั้นมันคือคอมมิวนิสต์ จึงเป็นความหลงผิด โง่เง่าและตลบตะแลงของพวก กปปส.และ ปชป. จะต้องได้รับโทษ สอดคล้องพระวัจนะอันศักดิ์สิทธิ์ว่า Thorns and snares are in the way of the perverse; he who guards his soul will go far from them. หนามและบ่วงอยู่ในทางของคนตลบตะแลง บุคคลที่ระแวดระวังตนเองจะอยู่ไกลเสียจากสิ่งเหล่านี้ [PROVERBS 22:5]....สุเทพมีบ่วงรออยู่จริง บ่วงผูกคอตายไงครับ
3. คนที่ไม่รู้อะไร จะทำอะไรได้อย่างไร? กปปส. ปชป. พวกจะทำประชาธิปไตยให้สมบูรณ์โดยไม่เคยมีกปปส.คนใด ปชป.คนใดกล้าให้คำอธิบายเลยว่าจะทำอย่างไรประชาธิปไตยไทยจึงจะสมบูรณ์ วาจากับการกระทำไม่เคยตรงกัน เช่นปากบอกจะทำประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ แต่กลับไม่ลงเลือกตั้ง ยังต่อต้านขัดขวางอย่างแรงเสียอีก นี่คือพวกกลับกลอก หลอกลวงทั้งตนเองและประชาชนชาวใต้ ตนเองก็หลอกลวงตนเอง และย่อมหลอกลวงพระเจ้าด้วย และนำความสมเพชในความโง่เง่าของเขาไปสู่บิดามารดาผู้ให้กำเนิด ดังพระคัมภีร์กล่าวว่า A foolish son is grief to his father and bitterness to her who bore him. บุตรชายโง่ เป็นที่โศกสลดแก่บิดา และเป็นที่ขมขื่นแก่สตรีผู้ให้กำเนิด [PROVERBS :17;25]....คำว่าบุตรชายโง่ ก็ตรงกับบุตรชายที่ชื่อสุเทพ เทือกสุบรรณ กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นเอง(ขอแถมไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.สามสี=บุตรชายโง่อีกคน) ก็ย่อมเป็นที่โศกสลดแก่บิดา และเป็นที่ขมขื่นแก่สตรีผู้ให้กำเนิด.....เข้าใจคำว่า สตรีผู้ให้กำเนิดไหมครับ.สุเทพ-อภิสิทธิ-สามสี? ก็ แม่ นั่นเอง ขณะนี้คุณกำลังทำให้แม่ผู้ให้กำเนิดของคุณขมขื่นอย่างยิ่ง
4. ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกายุคสงครามกลางเมือง มีสิทธิ์ที่จะไม่จัดให้มีการเลือกตั้ง ตามข้อเสนอของฝ่ายทหาร แต่ท่านยอร์จ วอชิงตัน ยืนยันว่า ถึงอยู่ระหว่างสงครามกลางเมืองก็ต้องจัดการเลือกตั้งให้จงได้ เพราะประเทศนี้ถูกปกครองโดยประชาชนในทุกสถานการณ์ ทหารก็ก็เข้าใจเหตุผลของวิถีทางประชาธิปไตย ก็เชื่อฟังประธานาธิบดีของพวกเขา โดยเหตุผลที่ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งและการใช้อำนาจของประชาชนอเมริกัน 1 สิทธิ์ 1 เสียงนั่นเป็นเหตุเบื้องต้นของการพัฒนาประชาธิปไตย แต่ท่านจะเห็นว่ามีพรรคการเมืองไทยที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลยและไม่เคยมีการพัฒนาพรรคของตนให้เป็นประชาธิปไตย นั่นคือพรรคประชาธิปัตย์ เห็นได้จากการบอยคอตการเลือกตั้ง ปีพ.ศ.2547 ซึ่งหลายปีผ่านมาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่เข้าใจว่าการบอยคอตการเลือกตั้งนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบธรรมด้วยประการใดใดเลย เป็นความโง่เขลา น่าละอายใจของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เพราะมาปีนี้พรรคเก่าแก่นี้ก็ยังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ยังคงมีการใช้พฤติกรรมอันเลวทรามแบบเดิม ๆ ต่อไป นั่นคือการที่พรรคการเมืองนี้ได้ประกาศบอยคอตการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกครั้งหนึ่ง แล้วร่วมกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ กบฏของประเทศ ต่อต้านขัดขวางการเลือกตั้งอย่างสุดฤทธิ์สุดแรงความโง่เขลาอยู่ขณะนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ กปปส.กับ ปชป.จะอ้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวของตนเองได้อย่างไร ในเมื่อการกระทำใดใดของตนเป็นความโง่เขลาและทำลายสังคมและเป็นการขัดขวางต่อต้าน และล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นี่แหละอวิชชา พึงรำลึกสุภาษิตว่า A worthless man, a wicked man, is he who walks with a croocked mouth, winking his eyes, shuffling with his fingers. With perversity in his heart, devising evil continually, he sows discord. คนไร้ค่า คือคนชั่วร้าย ที่เที่ยวไปด้วยวาจาคดเคี้ยว ตาของเขาก็ขยิบ เท้าของเขาก็ขยับ นิ้วของเขาก็ชี้ไป ประดิษฐ์ความชั่วร้ายด้วยใจตลบตะแลง หว่านความแตกร้าวอยู่เรื่อยไป [PROVERBS : 6;12-14] ปชป.และ กปปส. ก็คือสัจธรรมที่ว่า ทำงานไม่เป็น ดีแต่พูด คือคนไร้ค่า คนชั่วร้าย ที่เที่ยวไปด้วยวาจาคดเคี้ยว ตลอดกาลนานมาแล้วตราบเวลาวินาทีนี้
ภาพนี้ได้จากเฟสบุคหนึ่ง ขอขอบคุณ นี่เป็นการต่อสู้ของเอกชนเขาที่ต่อต้านการผิดศีลธรรมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
5. การโฆษณาชวนเชื่อ(propaganda)หมายถึงการพูดกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ มีหลักการว่าให้พูดบ่อย ๆ ซ้ำไปซ้ำมา คนก็จะเชื่อ นี่เป็นยุทธศาสตร์หลักจริง ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์มาแต่ดั้งแต่ดิมแล้ว พวกเขาจึง ดีแต่พูด ในสภาผู้แทนราษฎรก่อนยุบสภาครั้งหลังนี้ จึงได้เห็นสส.พรรคนี้พูด อภิปรายในแบบโฆษณาชวนเชื่ออย่างเต็มรูปแบบ นอกสภาก็เห็นคนของพรรคนี้โฆษณาชวนเชื่ออย่างเต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน แท้จริงการโฆษณาชวนเชื่อเป็นเรื่องการผิดกฎหมาย แต่ในไทย ไม่สามารถกระทำการลงโทษได้ เพราะเมื่อมีการฟ้องร้องไปยังศาลแล้ว ศาลซึ่งเป็นพวกของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยกฟ้องทุกที จนกระทั่งไม่มีใครคิดจะฟ้องร้องอีก คนของพรรคนี้ก็ได้ใจ เพิ่มพูนทวีการโฆษณาชวนเชื่อไปอีกอยางลำพองใจและขยายความหลายหลากทางการโฆษณาไปอีกโดยพิสดารอย่างยิ่ง แต่การโฆษณานี้เป็นเรื่องของวาทะ หรือวาจา เมื่อการวาทะเป็นไปอย่างพิสดารนั้นก็หมายถึงว่าพรรคนี้ได้กระทำทุจริตทางวาจาไปอย่างไม่คำนึงหลักศีลธรรม จริยธรรมและศาสนาเลย ทุกวันนี้คนของพรรคประชาธิปัตย์ ทีวีที่โฆษณาของพรรคการเมืองนี้ และ กปปส.ของนายสุเทพ ล้วนแต่กระทำผิดศีลธรรมตามหลักการพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะทางวาจา คนพวกนี้เหมือนว่าได้ลาออกไปจากความเป็นชาวพุทธไปแล้วโดยสิ้นเชิง เพราะพวกเขาโฆษณาชวนเชื่อไปอย่างมีการกระทำทุจริต หรือวจีทุจริตครบถ้วนตามบทบัญญัติส่วนศีลธรรมของศาสนานั่นคือวาจาทุจริต 4 ประการ (1) มุสาวาท พูดเท็จ (2) ผรุสวาท พูดคำหยาบ (3) ปิสุณวาท พูดส่อเสียด และ (4) สัมผัปปลาสวาท พูดเพ้อเจ้อ สำหรับนายุเทพ เทือกสุบรรณเอง ที่ตั้งตนเป็นคล้าย ๆ เจ้าลัทธิอยู่ขณะนี้ ก็เป็นคนป่าเถื่อน เป็นมนุษย์วานรยุค 1.8 ล้านปี เพราะไม่คำนึงหลักศีลธรรมของศาสนา เขากระทำผิดศีล 5 ในศาสนาบรรพบุรุษของเขาทุกข้อ นับแต่(ข้อ 1) ปาณาติปาตา เวรมณี จงละเว้นซึ่งการฆ่าสัตว์ (ข้อ 2) อทินนาทานา เวรมณี จงละเว้นซึ่งการลักทรัพย์ (ข้อ 3) กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี จงละเว้นซึ่งการประพฤติผิดในกาม (ข้อ 4) มุสาวาทา เวรมณี จงละเว้นซึ่งการพูดเท็จ และ(ข้อ 5) สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี จงละเว้นซึ่งการดื่มสุราและเครื่องดองของเมาทั้งปวง.....ส่วนทางศาสนาคริสต์ นายสุเทพก็ประพฤติผิดหลักศาสนาคริสต์เช่นเดียวกัน สำหรับหลักศีลธรรมพื้นฐานของศาสนิกชนของศาสนานั้น ปรากฎใน The Ten Commandments พระบัญญัติสิบประการ ในไบเบิลว่า ...You shall not murder! You shall commit no adultery! You shall not steal! You shall not witness falsly against your neighbour! You shall not covet your neighbour's household: you shall not covet your neighbour's wife, nor his servant, nor his maid, his ox, his donkey or anything that belongs to your neighbour..... อย่าฆ่าคน ....อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา .... อย่าลักทรัพย์.....อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน....อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน.....อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใด ๆ ซึ่งเป็นของเพื่อนบ้าน.[EXODUS:20;13-17] สุเทพกลายเป็นคนป่าเถื่อนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว เพราะฆ่าประชาชน 99 ศพ บาดเจ็บ 2,000 ราย แล้วยังไม่พอ ยังมีการประพฤติผิดศีลข้อ 3 ข้อกาเมสุมิจฉาจารทางฝ่ายพุทธศาสนา และละเมิดบทบัญญัติ 10 ประการของพระเจ้า ข้อที่ว่า you shall not covet your neighbour's wife, nor his servant, nor his maid, his ox, his donkey or anything that belongs to your neighbour.:อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใด ๆ ซึ่งเป็นของเพื่อนบ้าน. สถานะของสุเทพขณะนี้ เป็นสถานะที่กำลังลำพองใจ ต้องตามสุภาษิตว่า Before destruction a man's heart is haught, but before honour goes humility....ใจของคนก็จองหองก่อนถึงจะถูกทำลาย แต่ความถ่อมใจเดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ [PROVERB 18:12] ขณะนี้ ต่างก็จองหองกันไป ทั้ง สุเทพกปปส. และ อภิสิทธิ์-ชวน ปชป. รวมทั้งมวลหมู่บริวารตาบอดที่ห้อมล้อม อีกไม่นานหรอกก็จะถูกทำลาย ส่วนผู้ที่มีความถ่อมใจก็จะชนะ
6. เหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งก็เกี่ยวกับผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความคิดอันล้าหลังมาแต่เดิมแล้ว เช่น มรว.เสนีย์ ปราโมช ยุคที่มีคดีเขาพระวิหารกับกัมพูชา พ.ศ.2505 มรว.เสนีย์นี้ได้อาสาไปว่าความคดีเขาพระวิหารปรากฎว่าก่อนเดินทางไปว่าความที่กรุงเฮก มีหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า ฝ่ายทนายเขมรที่จะเดินทางไปสู้กับเรา ได้เกิดอาการเจ็บป่วยแบบแปลกประหลาด คือแพ้อาหาร อาหารเป็นพิษ "ขี้แตกขี้แตนถึงต้องหามเข้าโรงพยาบาลไปตาม ๆกัน" คนที่เมืองไทยสันนิษฐานว่าถูกไสยศาสตร์ทางฝ่ายไทย และดูเหมือน มรว.เสนีย์ ดีใจมากประกาศว่า ไทยจะต้องชนะอย่างแน่นอน ซึ่งแสดงให้เห็นเค้าความคิดที่ไม่ถูกต้อง คือความคิดทางไสยศาสตร์ แทนที่จะใช้วิธีการวิทยาศาสตร์ กลับไปใช้วิธีไสยศาสตร์(แทนที่จะไปศึกษาข้อมูล ว่าแผนที่ฝรั่งเศสเขียนเอาไว้อย่างไร จะเตรียมการเรื่องคดีอย่างไรให้มีเหตุมีผล เป็นที่ยอมรับได้ ก็เปล่า) ก็เลยแพ้กลับมา...หน้าแหก... ประเด็นอยู่ที่ว่า ประชาธิปไตยนั้นเป็นแนวคิดวิทยาศาสตร์ ปชป.เริ่มมาด้วยความงมงายในไสยศาสตร์ จึงไม่อาจจะช่วยสร้างประชาธิปไตยได้อย่างไร เพราะนั่นย่อมหมายถึงความที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยของพรรคการเมืองนี้มาแต่เริ่มต้น และยังไม่มีการพัฒนาความคิดให้เป็นวิทยาศาสตร์มาจนถึงปัจจุบันนี้ มาถึงยุคอภิสิทธิ สุเทพ จึงหมายถึงความจริงที่ว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ-อภิสิทธิ- ชวน นั้นเป็นคนหัวโบราณ ไม่ทันยุคไม่ทันสมัย จึงสมกับสมญา มนุษย์วานร ยุค 1.8 ล้านปีอย่างแท้จริง ประชาธิปัตย์จึงควรเงี่ยหูฟังสุภาษิตของพระเจ้าข้อที่ว่า With the fruit of his mounth a man's stomach is filled; with the increase of his lips he will be satisfied.....ท้องจะอิ่มก็จากผลแห่งปากของเขา เขาหนำใจเพราะผลอันเกิดจากริมฝีปากของตน [POVERBs :18;20] ปชป.นี่แหละต้องคำพยากรณ์บทนี้ จะจนเพราะปากตนเอง ท้องจะหิวโหยก็เพราะปากตนเอง จะทำประเทศชาติยากจนก็เพราปากของประชาธิปัตย์
7. นายชวน หลีกภัย หรือสมญาว่า มีดโกนอาบน้ำผึ้ง แกพูดเก่งในเชิงกลับดำเป็นขาวกลับขาวเป็นดำ ปรากฎว่าเคยพูดในยุคตำรวจเข้าล้อมจับผู้ร้ายค้ายาเสพติดในกระท่อมกลางบึงใหญ่ครั้งหนึ่งแถว ๆ ราชบุรี แล้วผู้ร้ายสู้จนโดนตำรวจสังหารทั้งหมู่ร่วม 10 คน สะใจคนทั้งประเทศ แต่นายชวนไม่พอใจกับเขา แกพูดเสียจนชาวใต้เชื่อว่าตำรวจกลายเป็นโจรค้ายาเสพติดเสียเอง ส่วนผู้ร้ายกลายเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ซื่อบริสุทธิ์สะอาดที่โดนกลั่นแกล้งและไม่ได้ค้ายาเสพติดเลย นี่แหละความชำนาญของนายชวน หลีกภัย จึงได้ชื่อว่า ต้นตำหรับพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น และด้วยความสามารถในด้านดีทางพูดเช่นนี้ ก็มาสู่ประเด็นวัฒนธรรมการเมืองระบอบประชาธิปไตย ที่นายชวนเป็นต้นเหตุทำลายไปอย่างเรียบเกลี้ยงและมาสู่อันตรายอยู่ทุกวันนี้ นั่นคือชี้นำประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อในประเด็นสำคัญ ๆ 2 ประเด็นคือ
(1) ว่า คนบ้านนนอกบ้านนาอีสาน-เหนือเป็นประชาชนด้อยการศึกษา ล้าหลัง แต่เมื่อมีการเลือกตั้งก็ชนะ ได้รัฐบาลโง่ ๆ มา คนกรุงจึงยอมรับไม่ได้ จึงต้องล้มรัฐบาลบ้านนอกเสมอไป นายชวนให้การชี้นำไปว่า คนกรุงต้องได้มีสิทธิโหวตมากกว่า อย่างที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กับนายเสรี วงศ์มณฑา พูดกันอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง ที่ว่า จบปริญญาตรีควรได้ 1 เสียง ปริญญาโทได้ 2 เสียง ปริญญาเอกได้ 3 เสียง เป็นศาสตราจารย์ ดร.อย่าง 2 คนนั้นได้ 10 เสียง ประมาณนั้น
(2) อีกประเด็นหนึ่งก็คือนายชวนเจ้าวาทะที่ว่า พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นตลอด โดยพูดย้ำเน้นไปทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งว่าพรรคประชาธิปัตย์สู้การเมืองอย่างขาวสะอาด ประชาธิปัตย์ไม่เคยทุจริตเลือกตั้งเลย ส่วนพรรคทักษิณใช้เงินซื้อเสียงทุกครั้งไป ชนะเพราะใช้เงิน นี่เป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมทราม ๆ ที่ไม่มีคำว่าให้อภัยทางการเมือง ไม่ยอมรับไม่เข้าใจกติกากีฬาการเมือง ทุกครั้งแพ้การเลือกตั้งนายชวนจึงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตน กลับไปเน้นย้ำ ให้เกิดความเกลียดชังฝ่ายที่ชนะอย่างฝังใจต่อไป ตามหลักการประชาธิปไตยแล้ว เมื่อแพ้การเลือกตั้งต้องแสดงสปิริต กีฬาการเมือง จะต้องอภัย ไม่ผูกโกรธ อาฆาตแค้นต่อไป ต้องให้อภัยแล้วต่อกันไป กลับมาเป็นคนไทยด้วยกัน เสมอภาคและมีภราดรภาพความเป็นพี่น้องญาติสนิทมิตรสหายกันทั้งประเทศต่อไป แต่นายชวนไปย้ำให้เกิดการแค้น ผูกโกรธต่อไปด้วยประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว
จึงเป็นเหตุให้เกิดการแตกแยกเป็นคนใต้ คนเหนือ คนอิสาน และคนกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเลวทราม ที่แบ่งแยกแตกออกไปเป็นประชาชนกรุง ประชาชนบ้านนอก เป็นชาวใต้ ชาวเหนือ ชาวอีสาน อย่างหนักอยู่ในทุกวันนี้ นี่คือต้นเหตุของการทำลายวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ร้ายแรงมาก อันเกิดจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนนี้ ....ทีนี้ พอนายชวนได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายชวนก็ทำอะไรไม่เป็น มีแต่ผลงานด้านลบ เช่นเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ ทำชาติเสียหายด้วยคดี ปรส.หลายแสนล้าน มีการโกงและคอร์รัปชั่นมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่นายชวนไม่เคยยอมรับ
มีเรื่องราวที่น่าขายหน้าขณะนายชวนไปประชุมอาเซียน เวลานั่งประชุมเอเซียนก็ไปนั่งวาดภาพในห้องประชุมแทนที่จะใช้ความคิดจินตนาการให้เกิดประโยชน์ทางการนำหมู่ การนำของอาเซียน การนำของประเทศไทย แต่ไปนั่งวาดภาพกาตูนเล่น จนเลิกประชุมผู้นำเขาพากันมาดู ถามว่าภาพอะไรครับ นายชวนก็ได้แต่ยิ้ม แค่นี้เองที่ผู้นำไทยอย่างนายชวน หลีกภัยทำได้
แล้วก็มีการประชุมอาเซียนอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้นายชวนไปนั่งใกล้ ๆ นายโจเซฟ เอสตราด้า นายกรัฐมนตรีฟิลิลปปินส์ เขาสนใจข้าวไทยมานานแล้วเขาบอกนายชวนว่าข้าวไทยอร่อยนะครับ นายชวนนี่แกเป็นนักกฎหมายแกก็ไม่เข้าใจ แกก็เฉย(แกควรจะกระตือรือร้นให้ความสนใจเขาทันทีจึงจะถูกหลักการค้าการขาย ก็จะขายข้าวได้ง่าย ๆ ไม่ต้องออกแรงมากแต่นายชวนเฉย) เขาก็ยังมีจิตใจบอกว่าเขาอยากจะซื้อข้าวไทยหลายหมื่นตันซึ่งเขาก็ถามว่าข้าวหอมมะลิของคุณขายกันอย่างไร คุณทราบไหม นายชวนพูดอะไร นายชวนบอกว่า เอ ผมก็ไม่ทราบนะครับแต่ว่าเดี๋ยวผมจะไปบอกให้พวกพาณิชย์ที่มากับผมมารายงานท่านภายหลังนะครับ.....เขาก็เลยไม่ได้ซื้อข้าวไทย ....... นี่คือนายชวน หลีกภัย เก่งอย่างเดียว คือ ดีแต่พูด...
ในคราวยางราคาถูกราคากิโลละ 10-20 บาท(ต่อมาทักษิณแก้ไขเป็นราคาถึง 120 บาท) แกก็บอกวิธีแก้ไขว่าให้ตัดยางทิ้งเสียไปปลูกจัมปาดะแทน(นายชวนคงคิดว่าลดซัพพลายลงราคาก็จะขึ้นมาเอง) ซึ่งก็ไม่มีเกษตรกรไหนทำตามเลย ในคราวเกิดสินามิเดือน ธ.ค. 2547 ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นสส.ส่วนมากทั้งหมดในภาคใต้ นายชวนบอกว่าเป็นหน้าที่รัฐบาลเขา เราไม่มีหน้าที่ ....เราจึงไม่เห็นภาพสส.ใต้ช่วยประชาชนชาวใต้เลย เห็นแต่รัฐบาลทักษิณ และเห็นยอร์ช บุช(ผู้พ่อ,พรรครีปับลิก)กับนายบิล คลินตัน(พรรคดีโมแครต) มาช่วยไทย.....
สิ่งที่นายชวนควรระลึกขณะนี้ก็คือนายชวนน่าจะรำลึกว่าตนได้อาศัยรัฐสภาและประเทศไทยทำมาหาเลี้ยงชีพมาตลอดชีวิต และน่าจะมีความกตัญญูต่อระบอบ แต่นายชวนกลับไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย เช่นนี้ จึงเป็นธรรมดาที่ผู้อกตัญญุจะได้ประสบความเสื่อมหายนะในที่สุด โดยนำพรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรคเสื่อมทรุดลงไปถึงที่สุด ณ วาระนี้
…..My son, heed the instruction of your father and reject not your mother’s teaching: for they are a fair garland upon your head and adornments for your neck. My son, if sinners entice you , do not consent…..บุตรชายของเราเอ๋ย จงฟังคำเตือนของพ่อเจ้า และอย่าทิ้งคำสั่งสอนของแม่เจ้า เพราะทั้งสองนั้นเป็นมงคลงามสวมศีรษะของเจ้า เป็นจี้ห้อยคอของเจ้า บุตรชายของเราเอ๋ย ถ้าคนบาปล่อชวนเจ้า อย่าได้ยอมตาม [PROVERBS:1;8-10]
8. วันที่ 13 ม.ค. 2557 นายสุเทพว่าจะปิดกรุงเทพมหานคร คือจะเอาคนไปชุมนุมไว้ 7 ทางแยกเข้ากทม. ...... ก็ไม่ทราบชัดว่าเขาจะทำไปทำไม ? เห็นด้วยจริง ๆ กับคำแนะนำขององค์กรสิทธิมนุษยชนสากลที่เขาแนะนำว่า ประชาชนควรดำเนินชีวิตประจำวันไปโดยปกติ ...... หากใช้ความรุนแรง นั่นเป็นอันพบ ประยุทธ จันทร์โอชา แน่ (พล.อ.ประยุทธพูดเองผมได้ยินเมื่อตะกี้นี้) ...... เท่านี้ก็สิ้นเรื่องครับ
สหสฺสํ อปิ เจ วาจา
อนตฺถปทสญฺหิตา
เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย
ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ
คำพูดที่เหลวไหลไร้ประโยชน์ตั้งพันคำ
ก็สู้คำพูดที่มีประโยชน์คำเดียวไม่ได้
เพราะฟังแล้วทำให้จิตใจสงบ
Better than a Thousand useless words
Is one beneficial single word,
Hearing which one is pacified.
จาก..ธรรมบท, สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย, ฯ 100 ฯ
- นายวิจัยประชาธิปไตย
7 ม.ค.2557/14.54.14