ไม่ซื่อตรงต่อสถาบัน
FB : Phayap Panyatharo
พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ เป็นประธานองค์มนตรี แต่ไม่เคารพในพระราชดำรัส ที่ทรงตรัสเรื่องมาตรา 7 ว่า นรม.ที่มาจากม.7 ไม่เป็นประชาธิปไตย..ใครคิดก็มั่ว....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยอมรับว่า ประชาธิปไตยเป็นหนทางการพัฒนาของประเทศยุคนี้ ทรงรับหลักการธรรมดา ๆ ของระบอบนี้ ในแง่ที่ว่า ทรงเป็นกษัตริย์อยู่ใต้กฎหมาย นั่นคือทรงมอบอำนาจอธิปไตยไว้แด่ประชาชน ....
และทรงปล่อยให้การเมืองเป็นไปตามระบบการเมือง แก้ปัญหาการเมืองด้วยระบบการเมืองเอง ตามหลักการรัฐศาสตร์ที่ว่า การเมืองแก้ด้วยการเมือง
แต่พล.อ.เปรม ไม่เคยยอมรับพระราชดำรัส การเมืองแก้ด้วยการเมือง ดังได้เห็นพฤติกรรมมาแล้วหลายครั้งที่พล.อ.เปรมได้กระทำการแทรกแซงการเมืองไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่การทำรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ซึ่งเป็นการละเมิดดำรัสพระมหากษัตริย ์มาครั้งหนึ่งแล้ว เร็ว ๆ นี้พล.อ.เปรม แม้อายุ 94 แล้วก็มิได้วางมือการเมือง ได้ปรึกษากับ พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผบ.สส.คนแก่อายุ 92 พอ ๆ กัน ซึ่งคน ๆ นี้ได้ยกหางตนเองว่าเป็น รัฐบุคคล Man of State ว่าจะต้องขับไล่ นรม.ยิ่งลักษณ์ออกไปและจัดตั้งนรม.ฝ่ายอมาตย์ตามม.7
[พล.อ.สายหยุด เกิดผลได้กล่าวอาฆาต นรม.ยิ่งลักษณ์ว่า จะลาออกเองหรือจะให้ไล่ออก(แล้วก็จริง เมื่อศาลรธน.ตัดสินให้พ้นจากตำหน่ง นรม.เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2557)
อันเป็นสิ่งที่ไม่เป็นไปตามพระราชประสงค์ แต่คิดจะช่วยพวกของตน โดยวิธีที่ไม่เป็นไปตามพระราชประสงค์ คือประสงค์ต่อระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง นั่นคือจะหาทางช่วยนายสุเทพ ซึ่งเป็นคนต้องโทษข้อหากบฏแผ่นดิน ที่อสส.สั่งฟ้องไปแล้ว ตั้งนรม.ม.7 ให้ได้.....โดยเดิมจะให้กองทัพทำการรัฐประหารแต่กองทัพไม่เอาด้วย จึงมาใช้งานองค์กรอิสระที่เคยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์อีกครั้งหนึ่ง อันเป็นผลให้นรม.ยิ่งลักษณ์พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อ 7 พ.ค. 2557 .....
นี่คือพฤติกรรมที่พล.อ.เปรม ไม่ซื่อตรงต่อสถาบัน
ซึ่งในอดีตยังมีหลักฐานชัดเจนก็กรณีม็อบพันธมิตร-ประชาธิปัตย์ยกขบวนปิดกั้นเส้นทางพระราชดำเนินในปีพ.ศ.2551โดยปิดถนนราชดำเนิน ไม่ยอมให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมพระราชวงศ์ (พร้อมคณะรัฐบาลและคณะทูตานุทูต) เสด็จผ่าน ในคราวพระราชทานเพลิงศพ พระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่สนามหลวง โดยปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินช่วงถนนราชดำเนินอยู่ทั้ง 6 วันที่ทรงเสด็จไปทรงพิธีกรรม จนพระองค์ต้องทรงเสด็จเลี่ยงไปทางถนนลูกหลวง อันเป็นการเสื่อมเสียพระเกียรติยศของสถาบันอย่างมากมายจนมิอาจอภัยให้ได้ อันเป็นโทษหนักถึงกบฏ
แต่พล.อ.เปรม ในฐานะประธานองค์มนตรีก็ไม่ได้ทำการปกป้องเกียรติของสถาบันแต่อย่างไร แต่กลับปกป้องพวกพ้องตนเองคือพรรคประชาธิปัตย์ผู้นำม็อบขวางเส้นทางพระราชดำเนินคราวนั้น นี่คือคนทรยศ และทรราช
ทุกวันนี้ไม่มีใครแม้ประชาชนผู้จงรักภักดีก็ไม่อาจจะตรวจสอบได้ถึงความจงรักภักดีของพลเอกเปรมต่อสถาบันกษัตริย์ แต่ได้มีข้อสงสัยมากมายว่าพล.อ.เปรมมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเป็นที่น่าไว้วางใจต่อสถาบันขนาดไหน ?
ความเห็นที่ 31 (3380505)
ถึงอย่างไร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ ก็ยังไม่เข้าใจในหลักการประชาธิปไตยที่เอามาตัดสินความ.........เราคิดว่า เมื่อประกอบด้วยเหตุผลอื่น คือสถานะของศาลรัฐธรรมนูญเอง ที่โดยหลักการประชาธิปไตย ตามมาตรา 2 มาตรา 3 รธน. 2550 ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรเถื่อน ไม่มีอำนาจใดใดเลย ในฐานะที่เป็นองค์กรเถื่อน
พวกเขายังไม่รู้สถานะตนเองตามระบอบประชาธิปไตยอยู่ตราบใด นั่นบ่งถึงความไม่เข้าใจประชาธิปไตยอยู่ตราบนั้น และวันนี้ พวกเขาก็เข้าใจผิดไปหมด ความรู้ยังไม่พอเพียงที่จะอยู่ในฐานะที่สูงส่งจนสามารถตัดสินเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ .............จะกลายเป็นผู้สร้างปัญหาแด่ประเทศชาติ และประชาธิปไตยไทย ต่อไปอย่างไม่สิ่นสุด
จึงน่าจะพิจารณาถอนตัวเสีย ลดบทบาทตนเองลงไปเสีย จะเกิดผลดีต่อประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์
แต่แน่นอน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่วันนี้ ก็วันหน้า จนได้ และปัญหาของประเทศประชาธิปไตยไทย ก็คือ มีคณะบุคคลเช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน นั่งอยู่ตรงนั้น......นั่นเป็นปัญหาของประเทศแน่นอน
• ผู้แสดงความคิดเห็น นายยอดเยี่ยม ยิ่งยง วันที่ตอบ 2013-11-20 16:21:25