ประชาชนสงสัย ทำไมธนาคารของรัฐถึงให้กู้เงินนับ 1000 ล้าน แล้วเอาหลักทรัพย์อะไรมาค้ำประกัน ทีประชาชนข้าราชการข้อกู้ต้องใช้คนค้ำ หลักทรัพย์ค้ำมากมายหนี้ไม่มีโอกาสสูญ อย่างนี้ประชาชนตาดำๆก็รับความเสี่ยงกับหนี้สูญจำนวนมากนะซิ เพราะสังเกตดูค่าธรรมเนียมต่างๆสูงมากกว่าปกติโดยเฉพาะการทำบัตรเอทีเอ็ม การขอสลิปแพงเกินเหตุ

สำหรับเจ๊กลิ้ม  เขาสารภาพด้วยนะ  ว่าทำเอกสารเท็จจริง รับรองเอกสารเท็จจริง  จึงได้ลดครึ่งหนึ่ง จาก 85 ปีเหลือ 42 ปี 6 เดือน  แล้วเหลือ 20 ปี   ตรงนี้เป็นประเด็น ที่ว่าเจ๊กลิ้มนี่แหละ ตัวการโฆษณาชวนเชื่อจริง  ทำประเทศชาติพัง และวุ่นวายไม่รู้จบ เพราะคนโกหกหลอกลวง ทำประชาชนสับสน   คนนี้    และเป็นผู้บงการทีวีโฆษณาชวนเชื่อ  ASTV  มาจนถึงวันนี้

ถึงวันนี้  เจ๊กลิ้มยังสู้ไม่ถอยนะครับ   ด้วยวิธีโกหกพกลม บิเบือน ใส่ร้าย อ้างหลัก ทุนนิยมสามานย์  ผมหมายความว่า  เมื่อเจ๊กลิ้มสู้   บรรดาลูกน้อง ตัวจิบตัวจ้อย  ต่างก็ลุกขึ้นสู้ด้วย   ได้ฟังนายเสรี วงศ์มณฑา แล้วก็เข้าใจว่า  นี่เองเป็นตัวต้นเหตุที่มีการปฏิบัติการด่าอย่างถี่ขึ้นในสื่อมวลชนต่าง ๆ ทุกแขนง   นายเสรีนี่เองเป้นคนแนะนำดีนัก ให้เกิดขบวนการใส่ร้ายฝ่ายแดงประชาธิปไตย ไปในทุก ๆ สื่อ   เขาสั่งให้ลูกน้องแทรกเข้าไปทุกสื่อ และทำการแบบน่ารังเกียจเช่นที่เอเอสทีวีทำ คือการใส่ร้าย ดิสเครดิตถ์ ฝ่ายรัฐบาล แกนนำเสื้อแดง และผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  รูปธรรมที่ปรากฎก็คือคำด่าอย่างหยาบคายมาก  ในสื่อที่พวกเขาทำอยู่

ตัวอย่างในเฟสบุค    มีลูกน้องเจ๊กลิ้มอยู่สองคนทำหน้าที่ด่าคนทั้งเมืองขณะนี้  ไปดูสิ

1.    นายนิรัน เยาวภา   Niran yowapa

2.    นัฏฐิยา แฮนดอลเมด   Nattiya Handollmade  

2 คนนี้เป็นเพื่อนกัน มีกัน 2 คน มีเพื่อน 2 คน   แต่เป็นผัวเมียหรือเปล่าไม่ทราบ  ทำงานด้วยกัน ตามคำสั่งเจ๊กลิ้ม คือคอยดิสเครดิตคนสำคัญ ๆ ในฝ่ายรัฐบาลและเสื้อแดงอยู่เป็นประจำในเฟสบุค  คนพวกนี้จะแกร่งกล้ามากในการด่าอย่างหยาบคาย  ใช้การด่าอย่างที่คนธรรมดาไม่กล้าทำ  และคนทั่วไปไม่กล้าไปต่อคำด้วย .......   เพราะเขาจะไม่ละอาย และเป็นเล่ห็เหลี่ยมของพวกเขาที่ว่า  จะต้องด่าอย่างเจ๊บแสบอย่างเลวที่สุดเท่าที่จะเลวได้    เพื่อที่จะได้ไม่มีใครกล้ามาตอบโต้ได้   เขาจะได้ด่า ได้คริสเครดิตได้ตามใจเขา   

เมื่อไม่กี่วันมานี้ รายการหนึ่งที่พอบพูล่า ทันสมัยของวอยส์ทีวี ก็โดนด่าอย่างหยาบคายมาก  โดยไร้เหตุผล  โดยนางนัฏฐิยา แฮนดอลเมด นี่แหละ  

เราเป็นว่าไม่เป็นธรรม  จึงเอามาเล่าให้ฟัง  และจะพาไปดูว่านายนิรัน กับ นางนัฏฐิยา ด่าใคร...อย่างไรบ้าง  .....

นายนิรัน เยาวภานี่  กล้าด่ามากเลย    มีเฟสบุคเอาไว้คอยหาเรื่องคนเสื้อแดง  ดูถูกดูหมิ่นคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน  ......   ทำงานที่น่ารังเกียจ คือคอยมองคนอื่นในแง่ลบ  คอยมองความเลวของคนอื่น .  แม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เอามาวิจารณ์ ....  เพื่อดิสเครดิตถ์เขา

หลงลืมตัว เหมือนสองพี่น้อง สุพจน์ กับ สุพัฒน์  ที่กล้าไปดักต่อยอาจารย์วรเจตน์ ในมหาวิทยาลัยธรรมศษสตร์  นั่นแหละ ........กล้ามาก  เลยเข้าคุก ...............  โบราณว่า กล้านักมักบิ่น  นี่แหละ 

นายนิรัน นี่ก็เหมือนกัน  เหมือนนายเขา เจ๊กลิ้ม   ที่กล้าแบบตายเป้นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง   จนในที่สุด เจ๊งไปแล้ว  ติดคดีนับร้อยคดี  ชาติหน้าก็ใช้ไม่หมด  

สิ่งที่น่ารังเกียจก็คือ  คนพวกนี้ไม่มีความเข้าใจคนด้วยกัน 

เอาเปรียบ

เพราะธรรมดาคน  ขึ้นชื่อว่าคนแล้ว ไม่มีใครดี 100 % หรอกครับ  พระพุทธเจ้าตรัสว่า   โลกย่อมพร่องอยู่เป็นนิจ      ถ้าคุณคิดจะหาเรื่องมาด่าใคร คุณก็หาได้ทุก ๆ คนแหละ    แต่ถ้ามองตนเองดูบ้าง  ก็น่าจะเข้าใจ ว่าตนเองก็กุ๊ยคนหนึ่ง 

เพียงแต่เขาไม่คิดจะไปให้ความสำคัญแก่คนก๊ย ๆ เช่นคุณเท่านั้น  

ต้นเรื่องของพวกวจีทุจริต ก็มาจาก เจ๊กลิ้ม และเอเอสทีวี นี่แหละ  สร้างแบบอย่างขึ้นมา   ทำให้เกิดแบบ คนหน้าด้าน  ทฤษฎีหน้าด้านและการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อดิสเครดิตถ์ขึ้นมา เอาตามกันไปอยู่ทุกวันนี้  

ในยุคนั้นก็มีเด่น ๆ หลายคน   ที่น่าดูก็   อัญชลี ไพรีรักษ์  หรือ   อีปอง   ที่นายจำลอง ศรีเมือง  ชมว่า  แม้ศัตรูก็ยังรักอีปอง   เดี๋ยวนี้หายตัวไปเสียแล้ว   ไม่ทราบเป็นตายร้ายดีเพียงไร  อย่างไร     แกกล้าหาญมาก   กล้าแบบเจ้านายกล้าคือ  เจ๊กลิ้ม   แบบตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง  .................   ก็เลยเจ๊งไป

คิดว่ามีคำด่าที่เจ็บแสบที่สุดแห่งยุคไทยก็ว่าได้   ก็คือแกกล้าด่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ขณะนั้น   อย่างกล้าหาญ  ไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงเลย  และเป็นวาทะที่ด่าอย่างเจ็บแสบที่สุดและเป็นการดูหมิ่นดูแคลนทหารทั้งกองทัพ  ไม่ใช่เฉพาะแค่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เท่านั้น     แต่ทหารก็เฉยเมย     นั่นแสดงถึงความเป็นพันธมิตรกันอย่างแนบแน่น ของทหาร กับพวก พธม. ซึ่งประกอบด้วย  เอเอสทีวี  สนธิลิ้ม จำลอง โพธิรักษ์ และ ประชาธิปัตย์

เขาเป้ฯพันธมิตรกัน   ทหารก็เลยยอมให้ถูกด่า  จนกระทั่งยอมเสียเกียรติยศของทหารไทยไปอย่างน่าอับอายขายหน้าที่สุด  โดยที่คนด่ายังลอยนวลอยู่จนบัดนี้ 

นั่นคือวีรกรรมของอีปอง   อัญชลี ไพรีรักษ์  เพราะเธอด่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา  ผู้บัญชาการทหารบกขณะนั้นว่า..........    ทหารหัวควาย  ในหัวมีแต่ขี้เลื่อย  มานี่มาหาแม่    แม่จะเคาะกะโหลกให้จะได้รู้อะไรเป็นอะไรเสียที  .....    แกด่าบนเวทีพันธมิตรในทำเนียบรัฐบาลเวลานั้น  ที่พวกเขายึดเอาไว้ 193 วัน

เราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทหารไทย  ทนได้อย่างไร  และนี่เป็นการดูหมิ่นแคลนถึงสถาบันทหารไทยทั้งสถาบัน    .....  แต่แน่นอน นี่เป็นเหตุสำคัญละ  ที่อีปองต้องลาเวทีเอเอสทีวีไป   และไม่ทราบเป็นตายร้ายดีอย่างไร

นี่เป็นตัวอย่าง    งานด่า   งานจ้องดูข้อผิดพลาดของคนนั้น  เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ  ถ้าไม่คิดถึงความเป็นมนุษย์ด้วยกัน  มีจริยธรรมในจิต   โลกก็จะเต็มไปด้วยพวกวจีทุจริต     และที่สำคัญผลงานเช่นนี้  ไม่ได้บอกถึงความสามารถอะไรของบุคคลเลย   เพราะงานมองคนในแง่ร้ายเป็นงานง่ายดาย ทำดีทำยากทำชั่วทำง่าย  มีแต่จะบอกถึงความน่ารังเกียจขยะแขยง  ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ไม่มีใครอยากคบหาสมาคม 

แต่เขาทำเป้นอาชีพมั้ง  มีคนจ้างให้ทำ 

รับจ้างทำงานทุจริต ผิดกฎหมาย วันหนึ่งก็ต้องเข้าคุก    เหมือนสองพี่น้อง สุพจน์-สุพัฒน์   ท่าทางจองหอง พองขน  ดีเหลือเกิน   แต่แล้ว  คงซีดไปแล้วภายหลังเข้าคุก.......ซีดเหมือนเจ๊กลิ้ม  ที่ต้องสารภาพว่าตนโกหก   สร้างเอกสารเท็จไปกู้ยืมเงินธนาคาร......ตั้ง  1000 ล้าน ใครเขาจะให้แก  เจ๊กลิ้ม   ...

พวกนี้เป็นพวกโง่พวกหนึ่ง    ทำอาชีพสุจริตไม่เป็น    รับงานด่า   ทำเฟสบุ๊คหาเรื่อง..............  นายนิรัน นี้เหมือนหมาบ้าอีกตัวหนึ่งเท่านั้นเอง    แต่เป็นหมาน้อย      เหมือนหมาน้อยเห่าเรือบิน   อย่างที่ สส.อีสานคนหนึ่ง (ท่านไขแสง สุกใส) อภิปรายในสภา ยุคนั้น

มีเพื่อนอยู่คนเดียว คนที่ระบุไว้ข้างต้นนั่นแหละ  ผัว-เมีย หรือเปล่า     2 คนเท่านั้น คอยเขียนเฟสบุ๊คด่าคนทั้งวัน    เดี๋ยวเขียน  เดี๋ยวเขียน    ..........เอาเรื่องส่วนตัวเขามาแคะไค้  ค่อนขอด  ...............ออกวาทะ วาจาล้วนอยาบคาย ดูถูกดูหมิ่น  ราวกับว่าตนเองเลิศประเสริฐเหนือคนทั้งแผ่นดิน .....แท้จริงแค่กุ๊ย   ............  พูดภาษาคนไม่เป็น    ไม่รู้ใครเป็นใคร   ไม่รู้ประชาธิปไตย   ไม่รู้เสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย  ......

แถมกล้ามาก ๆ       หน้าตาก็เก้ง ๆ ก้าง ๆ      ดูเอาไว้พี่น้องเสื้อแดง   มันพยายามที่จะดิสเครดิตถ์คนของประชาชน  นรม.ที่รักของเสื้อแดง   ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  และ  ทักษิณ ชินวัตร    คนที่ทำประโยชน์เพื่อประชาชน    และเพื่อประชาธิปไตยไทย 

นายนิรัน เยาวภา ในเฟสบุค เขาคอยมองคนอื่นแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ   แล้วเอาไปด่าอย่างเจ็บแสบ    วิเคราะห์แล้ว อิจฉาริษยา นั่นเอง  ต้องระบายออก  ไม่งั้นอกแตกตาย  

มองหาอะไรได้นิดหนึ่งเอาไปเหน็บแนมหมด  สันดารชั่วจริง ๆ  รู้หรือเปล่าว่าสันดารอย่างนี้ มีลูก ๆ แกก็จะเลียบแบบเอาอย่าง  แล้วผลสุดท้ายก็ติดนิสัยชอบมองคนในแง่ร้าย ....แล้วทำอะไรไม่เป็นดีแต่พูด  ...........     ดูแล้วนายคนนี้แกไม่เห็นทำอะไร ออกวารสารผู้จัดการ  ขายได้กี่เล่มก็ไม่รู้ ข่าวว่าเจ๊งแล้ว  ......   คนแบบนี้ต้องคอยดู  พอเอาเข้าคุกได้ก็เอาเข้าไป   มันทำผิดกฎหมายเมื่อไร  ก็ไม่ปล่อยแกละ...... ให้รู้เสียบ้างว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป  ใช่จะกล่าวหาคนไหนก็กล่าวได้   ไม่เห็นลูกพี่ตัวเองหรือ   ไอ้เจ๊กขี้คุกคนนั้น   มีคดีสุมหัวอยู่ไม่รู้กี่ร้อยคดี  .......  เริ่มจากคดี     ล้มละลายไปเรียบร้อย   เป็นคนล้มละลายไปเรียบร้อยแต่ตอนต้น ๆ   .............  ไม่รู้หรือ ............แล้วจะเอาเครดิตที่ไหนมาให้คนนับถือน่ะ............แล้วล่าสุดเป็นไง       85 ปี    ติดคุกถึงชาติหน้ามึงยังไม่สำนึก แล้วรู้หรือเปล่าเจ๊กลิ้มสารภาพ ๆ ว่าตนเป็นนักโกหกหลอกลวง   ....(เขาจึงลดโทษค่าสารภาพให้ไง   ไอ้โง่  ไม่รู้หรือ  )......   หลอกทำเอกสารเท็จไปกู้เงินเขาตั้งพันล้าน   สารภาพแปลว่าอะไร      ใส่หัวจำไว้บ้าง  มึงจะโดนแบบนั้นเหมือนกัน

ตอนทักษิณฟีเวอร์ ที่ลาว  เขมร   หมอนี่เอาไปเหน็บแนม   ทำท่าเยาะเย้ยถากถาง ................

แม้กระทั่งนรม.ปิดโทศัพท์มือถือ   หมอก็เอาไปเหน็บได้ 

ไอ้นี่ต้องเอาขึ้นศาล เข้าคุกให้เข็ดเสียที  ฐานสร้างวัฒนธรรมชั่ว ๆ ขึ้นในสังคม

มันชั่ว แบบไม่เห้นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

นิรัน เยาวพา กับ  นัฏฐิยา แฮนดอลลเมด พอ ๆ กันครับ  ในเฟสบุค   ฟัง ๆ เหมือนไม่เต็มบาท  นางนัฏฐิยานี่ด่าเจ็บเหมือนกัน  พวกนี้เผ่าพันธ์เจ๊กลิ้ม ด่าเจ็บมากเลย  เพราะสะสมความชำนาญในด้านการมองแง่เสีย แง่ลบ ของคนอื่น  ของตนไม่มอง   ว่าเขาขี้เหร่แต่ตนเหร่กว่าเขายังไม่อายใจ อย่างนี้แหละ หน้าด้านหน้าทนมาก

ตอนหลังนี้กล้ามาก  กล้าด่าคนสำคัญ ๆ แสดงท่าว่าตนเองเก่ง  ด่าท่านนายกของเราด้วยนะ  ว่า  อีแพง  เอารูปท่านนายกไปแต่งให้ตาแดง ๆ ทำไม้มือเหมือนผีปอบ   ใส่ข้อความว่า  ผีอีแพง  ..........  นี่เป้นการหมิ่นประมาท  น่าฟ้องร้อง... .......  ให้ติดคุกหัวโตไปตลอดชีพ

แต่คงไม่มีใครทำเพราะเล็กเกินไปเกินกว่าจะเอาเรื่องเอาพิมเสนไปแลกกับน้ำปลาร้า  

แล้วมีการเยาะเย้ย ว่าให้นายกลาออกอย่าแสร้งทำน้ำตาไหล ให้ชาวบ้านสงสาร    ..........   นางนัฏฐิยานี้เป็นผู้หญิงอยาบคายจริง ๆ  เพื่อนพ้องเสื้อแดงจำไว้ มันขายตุ๊กตา  อย่าไปซื้อของมัน  หรือพบว่าขายอะไรก็อย่าไปสนับสนุน  ลงโทษมันเสียบ้าง ให้รู้บ้างว่าชนส่วนใหญ่เขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  ปล่อยให้มันคลานไปจูบเท้าเจ๊กลิ้ม  บริการกามารมณ์เจ๊กลิ้ม ขอเงินใช้ นั่นแหละจะได้สำนึก 

นางนัฏยานี่ ไม่น่าอภัยเพราะสิ่งที่คิดที่ทำที่พูด ล้วนแต่ไปลิดรอนสิทธิคนอื่น ไปสร้างความเสียหายให้คนอื่น โดยไม่ชอบธรรม   หมายความว่าธรรมดาการวิพากษ์วิจารณ์คนสาธารณะ ในที่สาธารณะ จะต้องมีเหตุผล เพราะคนทั้งหลายในสาธารณะนั้นมีมาก เมื่อออกเฟสบุคนั้นก็หมายความถึงคนทั้งโลก   เขาใช่ว่าจะเชื่อคุณ เขายิ่งรู้ดีเสียอีกว่าคุณคิดอะไรทำอะไรด้วยการพูดเช่นนั้น ๆ  มันสามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่าเจตนาที่แท้จริงของคุณเป็นอย่างไร  

และเห็นหรือไม่ แม้กระทั่งกฎของเฟสบุคเองเขาก็ไม่อนุญาตให้คุณพูดด้วยวาจาหยาบคาย ไร้เหตุผลเช่นนั้น   เขาพบเขาก็ตัด ๆ ๆ ๆ ๆ  เราเองก็ขอเสนอว่าควรทำอย่างนั้น  เพราะเราทั้งหลายต้องการความเป็นธรรม    ความเป็นธรรมเท่านั้นที่รักษาสมดุลแห่งโลก  ส่วนคนผู้ไม่มีส่วนในการสร้างสรรค์ ไม่มีส่วนในความเป็นธรรม เพื่อสมดุลแห่งโลก   นั่นควรสำนึกละอายใจ ว่าตนกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  เป็นการทำลายสมดุลแห่งโลก ทำลายโลก   ย่อมไม่สมควรอยู่เอง  

แต่นางนัฎยานี่แกไม่สนใจ  ใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงในการใส่ความทำร้ายคนอื่นด้วยวาจา   ต้องการให้คนอื่นเสียหายให้ได้

แกใช้ 3 วิธีการครับ

1.     อิงในหลวงและสถาบัน      อันนี้จะเสียหายแก่ตนเอง ในเมื่อตนเองเป็นคนไร้ค่าไร้คุณงามความดีอยู่แล้ว ไปใกล้ใครก็ย่อมทำให้คนนั้นเขาเสื่อมเสีย   อุปมาเหมือนขี้แหละครับ มันเหม็นอยู่แล้ว  แต่พอเอาไปยืนใกล้ ๆ คน ๆ ก็เหม็น  ไปใกล้ใครคนนั้นก็เสื่อมไปด้วย    เช่นนี้ เราขอร้อง  อย่าได้เอาตัวของคุณเองไปใกล้ชิดพระองค์ท่านเลย เพราะคุณจะทำพระองค์ท่านเสื่อมเสีย  เหมือนหมาขี้เรื้อนไปใกล้ใคร ๆ เขาก็รังเกียจ ใช่ว่าจะเป็นผลดี    และเลิกเสียทีที่อ้างว่าตัวจงรักภักดีที่สุด ยิ่งกว่าใครทั้งสิ้น  ก็หมาขี้เรื้อน อย่าได้เข้าไปใกล้ ๆ ใครเลย  โดยเฉพาะสถาบัน เดี๋ยวคนทั้งหลายผู้จงรักภักดีเขาจะเคืองแค้นเอา ในฐานะที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไร  เราเป็นหมาขี้เรื้อนก็อยู่ไปตามประสาหมาขี้เรื้อนก็ไม่มีใครว่า 

2.    อิงศาสนา อิงพระดัง ๆ  นับแต่ ว.วชิระเมธี นี่ทำเป็นว่าเลื่อมใส เอาสุภาษิตท่านมาอ้างบ่อยเชียว  อาจารย์มั่น ภูริทัตโต ล่าสุดเอาสุภาษิตท่านมาลงว่า "การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจของตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย".... รู้ทั้งรู้แต่ตนกลับทำ.....นี่คือคนคบไม่ได้ บอกถึงคนหน้าไหว้หลังหลอกและดูหมิ่นดูแคลนท่าน.....   สุดท้ายอ้างมาบ่อยคือหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน  ล่าสุดวานนี้เองอ้างว่าหลวงตาพยากรณ์ทักษิณไว้ 3 ข้อ  ข้อ 1  จะไม่มีแผ่นดินอยู่  .....  ข้อ 2 ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ก็จะค่อย ๆ หมดไป  ข้อ3 แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้   ..... เอามาอ้างบ่อยเลย ....   เป็นการอ้างอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิง  ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ อยู่ใต้การปกครองของระบบปกครองทั้งมวล  ท่านจะกล้าไปให้ร้ายผู้ปกครองโดยไร้เหตุผลได้อย่างไร มันไม่เป้ฯธรรม....   นี่คือการอ้างมาอย่างไร้สมบัติผู้ดีที่สุด  ก็ท่านเป็นพระ ท่านพูดให้ร้ายแบบนั้นไม่ได้หรอก  รู้หรือเปล่าตาบัวนี่แกเป็นถึงพระโสดาบัน(ญาติ ๆ แกว่าเป็นถึงพระอรหันต์โน้น คนเมืองอุดรรู้ดี  )    ถ้าพระโสดาบัน...จะมีจิตโง่เขลาอยู่เช่นนี้ได้อย่างไร ?    ...  และการทำนายก็ไม่จริง  ทักษิณเขามีแผ่นดินอยู่ได้ทั่วโลก เขาถูกใส่ร้ายจากอภิสิทธิ์ ๆ ไปโกหกประเทศต่าง ๆไว้ .....ขณะนั้นประเทศต่าง ๆ ยังไม่รู้ความจริง .......  บัดนี้เป็นยังไง  เขารู้ความจริงไปตาม ๆ กัน ว่ารัฐบาลเด็กกะล่อนอภิสิทธิ์โกหกเขา   เขารู้เขาก็คืนพาสปอร์ตให้ทักษิณกันทั้งโลก   ความจริงวันนี้ก็คือทักษิณจะอยู่แผ่นดินไหนก็ได้บนโลกนี้  เว้นแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ยังป่าเถื่อนเพราะผลความป่าเถื่อนจากรัฐบาลที่แล้วยังไม่หมดฤทธิ์  ล่าสุดทักษิณก็เข้าประเทศจีน เยอรมันและอังกฤษ .ไม่นับลาว กัมพูชา...  รู้หรือเปล่า ยัยงั่ง !   ส่วนที่ทำนายว่าทรัพย์สินจะค่อยหมดไป  ก็ไม่จริง   แม้โดนรัฐบาลเด็กเวรหาเรื่องยึดไป 70000 ล้าน  ก็วารสารฟอบส์เขายังรายงานอยู่ว่าเป็นมหาเศรษฐีของโลก(ไปดูหน่อย เราจำได้ว่าอันดับที่ 13นี่แหละในเอเซีย)   แล้วรูปธรรมมันก็เห็นชัด ทักษิณนี่ไปไหนมาไหนมีเครื่องบินเจตส่วนตัว ถ่างตาดูบ้าง อีทึบ !  เขาจะเอาทักษิณมาใช้งาน เอามารีดความรู้ออกมาใช้  มึงคนเดียวตาบอดมองไม่เห็นประโยชน์ แบบนี้จะทำอะไรรวยได้  น่าทุเรศเสียเปล่า ๆ นะ  ประจานความโง่ของตนเอง   ข้อ 3 แม้แต่ชีวิตก็จะรักษาไว้ไม่ได้   ข้อนี้ไม่ต้องทายหรอก ดูตาบัวปะไร  แกรักษาชีวิตแกเองไว้ได้หรือเปล่า ......ตายไปแล้ว    ขนาดเป็นพระอริยะบุคคลนะเนี่ย    เข้าตัวเองไปก่อนแล้ว    แต่ข้อนี้ไปว่าใครไม่ได้หรอก  เพราะสัจธรรม ใคร ๆ ก็ต้องตาย........ดูเจ๊กลิ้ม ๆ แผ่หรากลางดิน ทุเรศขนาดไหน เจ็บขนาดไหน  ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าใครทำ ยังพูดไม่ได้เลย  อีกหน่อยก็ไป.....   มึงเองก็จะรักษาชีวิตมึงไว้ไม่ได้   คนเราเกิดมาเท่าไร ตายไปเท่านั้น นี่ว่ากันไม่ได้   หากอ้างตาบัวว่า  ตาบัวก็บ๊องสสส์ เลอะเลือนเต็มที    มันทำนายแบบกำปั้นทุบดิน ทุบร้อยทีก็ถูกร้อยทีไม่ผิดหรอก  พระป่าวิปัสสนาจะโง่ขนาดนั้นหรือ จึงไม่เชื่อว่าตาบัวพูดอย่างนั้นจริง ๆ      แต่เพียงนางนี่ชอบอิงกับสถาบัน อ้างมาผิด ๆ แบบนี้ก็เอาเข้าคุกเสียบ้าง เป็นไร   ตัดลิ้นทิ้งแบบโบราณเสียบ้าง คนอื่น ๆ จะได้ไม่เอาเป็นตัวอย่าง

3.   ชอบยกตัวเองสูงเกินความจริง  เหมือนมวยชกข้ามรุ่น  คือชอบด่าคนใหญ่คนโต โดยไร้เหตุผล .......  คือเป็นข้อเท็จจริง  แกวิจารณ์การเมืองแบบไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง ก็เพราะทำได้แค่ด่า ภาษาพระว่า  ผรุสวาทะ   ปกติการวิจารณ์การเมืองทำได้  แต่ต้องมีเหตุผล ในการวิจารณ์การเมือง ในเบื้องต้นต้องเข้าใจและรับผิดชอบก่อนว่าการเมืองเป็นเรื่องสูง สำคัญ ไม่ใช่เอามาพูดเล่นพล่อย ๆ ได้  การพูด วิเคราะห์การเมืองต้องมีหลักวิชา   .....   แต่ยัยนี่ ไม่มีหรอก หลักวิชาที่ว่า   ไม่เข้าใจเรื่องข้อมูลอะไรทั้งสิ้น ......   แล้วไปด่าคนสำคัญ ๆ อย่างไร้เหตุผลเช่นนี้แหละ ที่ว่าเข้าหลักชอบชกข้ามรุ่นโดยไร้ฝีมือ....  อยากให้ไปดูมวยทางยูทูบก็ได้  มีคู่หนึ่งหาญชกข้ามรุ่นนี่แหละ ถูกจับทุ่มคอหักตายบนเวทีเลย ท่ามกลางสายตาคนชมทั้งโลก   น่าเศร้า  เป็นมวยเทคอนโดนี่แหละไปสู้กับมวยปล้ำเขา  เต็นเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไปมาเขารวบเอายกขึ้นทุ่มหัวลง  ทีเดียวเท่านั้นเอง .คอหักตาย   ....  ถ้าไม่เก่งเหมือนมวยไทย 70 กก.สู้มวยปล้ำ 173 กก. มวยไทยเตะสูงตรงก้านคอทีเดียว มันร่วงฟุบลงไปแน่นิ่ง ...นี่คนเก่ง........แต่นางนี่ไม่เก่ง....เก่งดีแต่พูดแบบนายอภิสิทธิ์  แต่ขอชกข้ามรุ่น .....เผื่อฟลุกมั้ง แต่...มันไม่อาจจะฟลุคได้ ...............ก็เหมือนกัน มีเปอร็เซนต์สูงที่จะถูกทุ่มคอหักตาย   และยังไร้จิตใจ ไร้ความงามของสตรีทั้งรูปธรรมนามธรรม ไปสิ้นเชิง(คงหาผัวยาก)  เรามีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศที่ทั้งแสนสวยแสนดีแสนเก่งแสนรวย และที่สำคัญเธอไม่ออกปากว่าใครให้หมางใจเลยแม้แต่น้อย   แต่นังนี่ว่าแกอย่างเสีย ๆ หาย ๆ  ไม่คำนึงว่าเป็นสตรีเพศด้วยกัน  ไม่ให้เกียรติ์กันเอง  ....   ล่าสุดพวกทีวีบลูสกายมั้ง ทีวีแห่งความเศร้าโศก พรรคประชาธิปัตย์ปั้นเรื่องว่าเข้าของแพง   พาสื่อไปนั่งกินข้าวแกงจานละ 70 บาท แถวไหนไม่บอก  แล้วกระพือข่าวให้เสื่อมเสียว่ารัฐบาลนี้ของแพง.........   ยัยนัฏยานี่รับลูกไปออกเฟสบุ๊คใหญ่ ออกต่อเป็นชุด ๆ เพื่อชิงพื้นที่ของคนอื่น  ด่าว่า นรม.เป็น   อีผีแพง  เอารูปนายกคนสวย ๆ ไปแต่งให้น่าชังนาเกลียด เหมือนผีปอบอีหยิบ ระบายตาแดง ๆ ยื่นมือออกมาเหมือนจะกินตับเด็ก ประมาณนั้น ........  คนอะไร เป็นผู้หญิงแท้ ๆ  ผู้หญิงไทยด้วยกัน  ไร้น้ำจิตน้ำใจขนาดนี้  ............   แล้วเกี่ยวอะไรกับยายนัฏยา   แกก็ไม่ได้เป็นนักการเมืองกับเขา  คิดหวังจะได้อะไรกับเขาก็เปล่า ........โดนนักการเมืองกะล่อนพรรคประชาธิปัตย์หลอกใช้เปล่า ๆ   จะได้บ้างก็คงจากเจ๊กลิ้มมั้ง   .........   บริการทางเซกส์แด่เจ๊กลิ้มมัน   (อย่างที่นายหัวหมอว่าแหละครับ ผมไปสืบมารู้หมดแหละ เรื่องราวเกี่ยวกับเจ๊กลิ้มนี่   !!!!

นี่คือนางนัฏฐยา แฮนด์ดอลเมด ที่น่าสมเพช น่าสงสารที่สุดในแผ่นดิน   คอยติดตาม จะเกิดความวิกลจริตตามมาเร็ว ๆ นี้หรือไม่ เพราะเหตุที่ถูกกด บีบคั้นทางอารมณ์จากการทวนกระแสของความถูกต้องดีงามของคนทั้งแผ่นดิน  อย่างน้อยก็คนแดงทั้งแผ่นดินละ   ตกเป็นทาสของเจ๊กลิ้ม ทาสนักการเมืองปากมอมปชป. ยกคนไร้สาระแก่นสารเป็นเจ้านาย   เป็นทาสความหลงผิด ทำตนเสียหาย ลดทอนคุณภาพตนเองลงไปทุกวัน ๆ  ในที่สุดก็หมดสาระในตัวตน หมดแก่นความดีงามในตัวตน หมดสติสัมปัชชัญญะที่สามารถวิเคราะห์อะไรดีอะไรชั่ว   ผมจึงขอทำนายบ้างว่า อีนังนี้อาจถึงวิกลจริต....ระดับไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิงถึงขนาดเปลื้องผ้าเปลื้องผ่อนเดินโทง ๆ ไปตามถนนก็เป็นได้...ในเร็ววันนี้ หากไม่กลับใจเสีย   ติดตามดูในเฟสบุ๊ค nathaya Handdollmade  ว่าจะมีอะไรแปร่ง ๆ บ้องสสสส์ ออกมาอย่างว่าหรือเปล่า......

เจ๊กลิ้มติดคุกอีกแล้ว  ศาลอุทธรณ์ ลดโทษจากศาลชั้นต้นจาก จำคุก 6 เดือนเหลือ 3 เดือนไม่รอลงอาญาและให้ประกาศขอโทษในหน้าหนังสือพิมพ์อีก 10 วัน 

คดีดูหมิ่นนภดล ปัทมะ 

เจ๊กลิ้มทำสีหน้าอย่างไร  ไม่ทันเห็น  ใสแว่นกันแดด กันเสียมาด  แท้จริงคงสะอึกสะอื้นอยู่ในอก  ดวงตาจะบอบช้ำ ก็เลยเล่นแว่นกันแดดบังเอาไว้  เขาเรียกว่าซ่อนสายตาอันเศร้าโศก

แกด่านภดลไม่พอ  ยังสั่งให้พวกตนถ่มน้ำลายใส่  บอกว่า  พบนายนภดลที่ไหนให้ถ่มถุยน้ำลายใส่  ทำตัวอย่างให้ดูอีกด้วยว่าถ่มน้ำลายอย่างไร   นี่คือเจ๊กลิ้ม  คนที่ชั่วมาก ๆ  ไร้สมบัติผู้ดีโดยสิ้นเชิง  มาจากเมืองกุ๊ยเหลียง จีนแผ่นดินใหญ่   ก็กักขละหยาบคายประสาเจ๊ก ๆ นั่นแหละ (เวลาเจ๊กจะถ่มน้ำลายมันจะว่า   ขาก...........ถุย)   นี่แหละนายสนธินี่บอกให้พวกพันธมิตรถ่มน้ำลายใส่นภดล    มันบอกทางเอเอสทีวี   ถ้าคุณติดตามการพูดของเจ๊กลิ้มนี่  นึกไม่ออกเหมือนกันว่า  คุณจะให้คะแนนผู้ดีแก่มันเท่าไรคะแนน  ...... คือนี่คือสันดารหยาบคายที่สุด เท่าที่เคยเห็นคนในประเทศไทยเรา  

ทราบว่าได้ประกันตัวอีกครั้ง   นั่นแหละพวกเขาก็ช่วยกัน  

 นายเปรมก็ชัดเข้ามาแล้ว    เห็นภาพราง ๆ    

คนแดงกำลังเคลื่อนใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกที  นั่นคือผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงของรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และผู้สั่งการปราบปรามประชาชนที่แท้จริง    นามว่า  เปรม ตินสูลานนท์  

นั่นแหละ  สิ่งที่แสดงปฏิกริยาตอบโต้คนเสื้อแดงออกมาระยะนี้  นับแต่พวกตลกต่าง ๆ ในศาลต่าง ๆ  พวกสองมาตรฐาน พวกตลกภิวัฒน์ พวกศรีธนญชัย   ............. พวกทหารเตรียมยึดอำนาจอีกครั้ง ...... เป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย  ........  แดงระวังหน่อย   

จำนวนคนอ่านล่าสุด 3915 คน

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 17:58 น. ข่าวสดออนไลน์

ไม่คิดว่า จะเขียนได้ขนาดนี้ เห็นแล้วสะเทือนในหัวใจของพวกเราทุกคน แบบนี้ไม่เหมาะสม ควรเห็นใจพวกเราทุกคน พวกเรามาถามว่า ทำอย่างนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร เรามาเพื่อจะได้ระบายออกบ้าง เพราะบางคนก็รู้สึกโมโหและโกรธ ขอให้ผู้จัดการอย่าทำหน้าที่บนความเดือดร้อนของผู้อื่น ขอให้เขียนข่าวบนความสร้างสรรค์ ขอให้หยุดแค่ตรงนี้ อย่ามากไปกว่านี้ ซึ่งกลุ่มของผมเป็นการรวมขึ้นมาของทหารที่อยู่ในภายในกรุงเทพ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย เพราะทุกคนมีความรู้สึกเจ็บปวด การรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นหลังเวลาราชการ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้บัญชาการทหารบก และไม่มีผู้บังคับบัญชาคนใดมาสั่งการ ขอให้เห็นใจของทหารที่กำลังทำงานบริเวณชายแดนอยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มของผมจะคอยดูว่า หนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่จะตีพิมพ์ในวันพรุ่งนี้อย่างไร หากยังใช้ถ้อยคำรุนแรงอีกก็อาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อไป”จ.ส.อ.อนุชิต กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้โทรศัพท์ไปยังผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี ขอร้อไม่ให้เดินทางมาทำข่าวในกองบัญชาการกองทัพบกในวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 12ม.ค.นี้ พร้อมกับขอรูปผู้สื่อข่าวประจำกองทัพบกไปดูว่า ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีคือ คนใด

Natthaya Dollhandmade shared Pokpong Wongman"s photo.

สิ่งแรกที่คนไทยรักชาติ ต้องรีบทำ คือ ต้องพยายามทุกวิถีทาง ไล่ตื๊บอีเหี่ยวธิดานี่ให้ได้ แล้วจับมันโยนออกนอกประเทศอย่าให้เป็นเสนียดบนแผ่นดินไทยเลย ...อิห่านนน !!!!

คุณดูสิ     หยาบคายยั่งยืนจริง ๆ นางนัฏฐิดานี่

ปากเหม็นเช่นนี้มีผัวแล้วยัง  เลิกกับผัวแล้วยัง

ขี้ทักษิณทั้งนั้นมาอม***พ่อที

การชกมวยไทยที่ดีต้อง มีการยืนที่มั่นคงเป็นหลัก