ใช่แล้ว ยังมองไม่เห็นความอยู่ดีกินดีของประชาชนเลยทั่วทุกภาคได้รับผลกระทบหมด  แทบทุกธุรกิจก็พลอยย่ำแย่  มีแต่คนของรัฐบาลเท่านั้นที่ดูจะไม่เดือดร้อน และคงจะอยากอยู่ยาว ช่วยตรวจสอบดวงเมืองและดวงรัฐบาลอีกครั้งจะขอบคุณ

ทุกสรรพสิ่งในโลก...เกิดขึ้น...ตั้งอยู่...และดับไป....

คดียุบพรรคประชาธิปัตย์

มีเรื่องที่อยู่ในสายตามวลชนขณะนี้ก็คือ   ปิดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เงิน29ล้านบาทผิดประเภท ..................ในวันพรุ่งนี้ ที่29 พ.ย.2553........

ข้อพิจารณา

ระบบดาวจรที่เห็นดูเหมือนว่าคดีนี้ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไร  ดูเหมือนยุบหรือไม่ยุบก็เท่ากัน   นั่นคือความจนมุมตกอับ และการแตกแยกอย่างหนักของพรรคประชาธิปัตย์ในระยะนี้ ไม่เกี่ยวกับคดีนี้เลย  (เราได้พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว.......และพยากรณ์สถานการณ์พรรคปชป.ถึงปี 2554  โปรดติดตามในคอลัมน์โหราศาสตร์)

แต่ระบบดาว น่าจะออกทางลบ  คดีน่าจะเป้นโทษต่อพรรคประชาธิปัตย์  คือ  ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ในวันพรุ่งนี้  เหตุผลมีดังนี้

1.     ในเมื่อดาวพุธ(๔)กาลกิณีจร ย้ายราศีเข้าสู่ธนูตั้งแต่วันนี้(28 พ.ย.2553)แล้ว  และวันพรุ่งนี้อังคารจร(๓)ย้ายเข้าสู่ราศีธนูตามดาวพุธจรไปอีกดวงหนึ่ง ณ เวลา 01.30 น. ........เป็นผลให้ดาวพุธ(๔)กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจร ปะทะราหู(๘)เดชเดิมเป็นเดชจรในราศีธนู พร้อมกับเล็งราหู(๘)เดชเดิมในราศีมิถุน  .............. และอังคาร(๓)มนตรีเดิมเป็นมนตรีจร ถึงอังคาร(๓)มนตรีเดิม รวมกระแสอังคาร2ดวงพุ่งไปยังอาทิตย์เดิมตนุลักคณ์   ปะทะอาทิตย์(๑)เดิมอย่างแตกหัก เด็ดขาด    ยังมีเหตุผลสมทบอย่างร้ายแรงอีก....ข้อ 2   

2.     ดาวอาทิตย์(๑) ตนุลักคณ์มูละเดิมอยู่ราศีมีน    เป็นมูละจรอยู่ราศีพิจิก     ทั้งตนุลักคณ์เดิมและจร   ต้องกระแสอย่างแรงของดาวมรณะ คือพฤหัสบดี(๕)ซึ่งเป็นอายุจร    อยู่ณราศีมีน เป็นดาวเกษตรทรงพลังอำนาจอยู่ขณะนี้     ทับอาทิตย์เดิม  นั่นคือ  ดาวมรณะทับดาวตนุลักคณ์   แล้วยังถึงโดยร่วมธาตุกับอาทิตย์จรที่ราศีพิจิก    นั่นคือดาวตนุลักคณ์ทั้งดาวเดิมและดาวจรโดนกระแสดาวมรณะอย่างแรงทั้งคู่    ดาวมรณะคือดาวพฤหัสบดีเกษตรจร   ก็สมควรแล้ว  เพราะความหมายคือคำพิพากษาของตุลาการศาล.......(พฤหัสบดีหมายถึงผู้พิพากษา...ผู้ทรงความเป็นธรรม....บัดนี้เป็นผู้นำความตายมาสู่พรรคประชาธิปัตย์)

3.     จากตนุลัคณ์เดิม........อาทิตย์(๑)ตนุลักคณ์เดิม  L90 เสาร์(๗)เดิม+ราหู(๘)เดิม L90 เสาร์(๗)บริวารจร L90 ราหู(๘)จร+อังคาร(๓)จร+พุธ(๔)จร L 90 อาทิตย์(๑)ตนุลักคณ์เดิม....... เป็นวงจร......   หมายถึง   ภาวะคับขันไม่มีทางออก.....

4.     จากตนุลักคณ์จร.......อาทิตย์(๑)จรในราศีพิจิก  L90 พุธ(๔)กาลกิณีเดิม+เกต(๙)เดิม  L90 จันทร์(๒)วินาสน์เดิมมหาอุจ+มฤตยู(๐)เดิม+เกตุ(๙)จร  L90 ลักคณ์+จันทร์(๒)วินาสน์เดิมกัมมะ  L90 อาทิตย์(๑)จรในราศีพิจิก..........เป็นวงจร.......หมายถึง   ภาวะคับขันไม่มีทางออก..... 

ตามเหตุผลทั้ง 4 ข้อนี้  น่าจะให้การพยากรณ์ได้ถึงขั้นว่าตุลาการศษลรัฐธรรมนูญออกเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์.......(ถ้ามีการตัดสินพรุ่งนี้)........

ช.โหรชนบท
28 พ.ย.2553
21.32 น.

      แล้วผลออกอย่างไรล่ะ    โหรใหญ่ อย่าง ช.โหรชนบทคว่ำไม่เป็นท่า..........

พรรค ปชป. เขาเป็นพรรคเทพประทาน หล่อสั่งได้ อิอิอิ

ขออภัยด้วย  เรายอมรับว่าให้การพยากรณ์ผิด  ยอมรับว่า ให้คำพยากรณ์ผิดจริง ๆ  .....................................................................  แต่เราจะขอพูดสักนิดหนึ่ง  ไม่ใช่คำแก้ตัว  แต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่วงการศึกษาโหราศาสตร์  

ขอให้ดูดี ๆ  ว่าเหตุผลทั้ง 4 ข้อ  ที่เราบรรจงบันทึกลงไว้นั้น  ในเชิงงานวิจัย  เป็นสมมติฐาน   ...................    สิ่งที่ผิดคือ  สมมติฐานผิดต่างหาก.............. แต่ถ้าดูให้ดีแล้วก็จะพบสัจธรรม.................  เพราะในเหตุผลทั้ง 4 ข้อนั้น มีสมมติฐานซ้อนอยู่  .........................  และผลการพิพากษาตรงกับสมมติฐานที่ซ้อนอยู่....................... และเราได้พบสัจธรรม..................ในทางการศึกษาวิจัย ถือว่าเราถูกต้องทีเดียว   เนื่องเพราะได้พบสัจธรรม  หรือทฤษฎีโหราศาสตร์ข้อสำคัญ..........ที่จะช่วยให้การพยากรณ์แม่นยำไปกว่าเดิมทีเดียว     ........

เราขอให้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ต่อไปทางวิชาโหราศาสตร์  เราจะไม่เปิดเผยสัจธรรมนั้น.......เพราะ......เราหวงวิชา......ก็เท่านี้    ......  ขอให้ดูเอาเอง ในเชิงงานวิจัย.........

เราอยากจะข้ามไปดูดวงชาตาเมือง  และปรารภกับหมู่โหรว่า  จะมีปรากฎการณ์ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เกิดขึ้น นับแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2554  ไปจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2555   นั่นคือ  ดาวเสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์  ดาวราหู(๘)จรมาเข้าราศีพิจิก   ทำมุมแหลมแบบปลายหอกเข้าสู่ดวงเมือง.................................  ศึกษาย้อนไปในอดีตราว 50 ปี ยังไม่เคยพบ ว่ามีดาวเสาร์กับดาวราหูจรเข้าบีบ ทิ่มแทงลักคณาดวงเมืองเช่นนี้  ............................................

ความหมายไม่น่าจะดีเพราะดาวร้าย 2 ดวงนี้เดินสวนกันเข้าบีบทิ่มแทงดวงเมือง .......................แต่อย่างไรก็ตาม เราขอยืนยันว่า  เศรษฐกิจภาครัฐจะดีแน่ในปี 2554   นับจาก 4 พ.ค. 2554 เป้นต้นไป ประมาณ 1 ปี  เพราะดาวพฤหัสบดีจรสู่ราศีเมษ    นั่นหมายถึง การเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ  จะดี   แต่อำนาจการจรของดาวเสาร์(๗)กับดาวราหู(๘)ที่ทำมุมปลายหอกทิ่มดวงเมืองนั้น  น่าหมายถึงการรั่วไหล ....................ขนาดใหญ่    อุปมาเหมือนแผลใหญ่ จากการทิ่มแทงด้วยอาวุธหอกปลายแหลม เข้าเส้นเลือดใหญ่   ...........     ฉะนั้นจะเป็นปีที่ราษฎรเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า      หากินไม่พอปากพอท้อง  ...............เข้าของราคาแพง      ค่าเงินตกต่ำ   ราคาน้ำมันขึ้นสูงลิ่ว   หาได้ไม่พอจ่าย   จริงอยู่หามาได้  แต่รายจ่ายดูดเอาไปหมด  อย่างนิ่ม ๆ  ไม่รู้ตัว   จะหมายถึงระดับราคาและค่าครองชีพจะสูงลิ่ว   และหมายถึงอุบัติเหตุสำคัญ ๆ   ฯลฯ.............................

นี่เป็นเพียงข้อสังเกตเบื้องต้น  เพื่อสกิดท่านที่อยู่ฝ่ายโหรได้เอาใจใส่ดูบ้าง  ............  เพื่อร่วมกันคิดดู   ว่าอะไรจะเป็นอะไร..................................................

เดี๋ยวจะหาว่าโหรไม่เตือน.......      เราจะค้างเอาไว้แค่นี้ก่อน   จะได้พิจารณาในรายละเอียดทีหลัง

โหรน่ะ พยากรณ์ได้ถูกแล้ว ตามหลักฐาน เจตนา   พรรคปชป ยังไงก็ไม่รอด

นายก..สมัครทำกับข้าว ไม่มีในกฏหมาย คุณพี่เขาก็ไปเปิดพจนานุกรมเอา.. ฮ่วย!!

แต่ยุบพรรค ปชป คุณพี่ไปหยิบของหมดอายุมาคุยได้อย่างนิ่มๆ...ฮา..ฮ

จะดูดวงพรรค ปชปให้แม่น  ต้องดูดวงผู้อุปถัมภ์จะแม่นกว่า

เห็นด้วยกับ ต.เต่าหลังตุง  วิชาโหราศาสตร์น่าจะสอดคล้องกับหลักของกฏแห่งกรรมความเป็นเหตุเป็นผลที่ว่าใครทำดีย่อมได้รับการสรรเสริญ  ใครทำชั่วย่อมได้รับการลงโทษหรือตำหนิติเตียน  เป็นความปกติในวิถีชีวิตมนุษย์จนนำมาเป็นสถิติที่เก็บรวบรวมเป็นตัวเลขที่น่าเชื่อถือและได้ในการนำมาเป็นศาสตร์พยากรณ์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เกิดจากความไม่เป็นปกติ ทั้งที่มีพยานเอกสาร พยานบุคคลว่าพรรคประชาธิปัตย์กระทำผิด พรบ.พรรคการเมืองอย่างแน่ชัดแต่ก็เอาผิดไม่ได้ ทั้งนี้เพราะประชาชนหรือแม้แต่โหรเองคงคาดไม่ถึงว่าโจทย์เป็นเช่นนี้  แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกลับไปหาคำตอบจากโจทย์อื่น เรื่องเลยโอละพ่ออย่างที่เห็น ดังนั้นไม่ควรกล่าวว่าโหรทำนายผิดไม่เป็นท่า

ที่ชลัมพุช โหรชนบท ทำนายว่าปี 2554  เศรษฐกิจภาครัฐจะเติบโต  แต่เศรษฐกิจภาคประชาชนจะย่ำแย่ไปตามๆกันนั้นไม่ต้องรอถึงปี 2554 หรอกเพราะขณะนี้ข้าวของอุปโภคบริโภคแพงมาก แม่ค้าบ่นว่าขายได้น้อยลง ตลาดสดเงียบเหงา  เพราะรายได้ในครัวเรือนฝืดเคือง น้ำมันก็ขึ้นเอาๆ เวลาลงลงนิดเดียวแต่เวลาขึ้นๆมากกว่านี่กระมังเป็นเทคนิคการบริหารแบบศรีธนญชัย สงสารคนไทยตาดำๆที่ต้องกล้ำกลืนความทุกข์ยาก  แม้อยากจะตะโกนผ่านสื่อไปบอกรัฐบาลว่าเขาลำบากจะแย่แล้ว แต่เสียงที่ตอบมาจากสื่อทีวีกลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตโดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์  ไม่มีใครไล่รัฐบาลได้เพราะไม่มีใครฟังเสียงประชาชน พอมาประท้วงก็ถูกกล่าวหาว่าสร้างความปั่นป่วนต่อความมั่นคงของประเทศ

สถิติย้อนหลัง

กรณีดาวเสาร์(๗) กับดาวราหู(๘) เดินสวนกันเข้าบดขยี้  สิ่งที่อยู่ตรงกลาง  นี้  สำรวจย้อนหลังไปถึงปี 2464  ตามปฏิทินโหร ของ ทองเจือ อ่างแก้ว  ในช่วงเวลา 88 ปี ที่ผ่านมาตราบปัจจุบันนี้  ไม่พบเลยว่า  เสาร์(๗) ขณะสถิตย์ภพอริของเมืองณราศีกันย์ แล้ว มีราหู(๘) จรมาเข้าภพมรณะของดวงเมืองณราศีพิจิก  ปรากฎการณ์นี้  อันเป็นความร่วมมือของมหามิตรร้ายในวงการโหราศาสตร์ เพื่อกระทำการร้าย กำลังจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลัง88 ปีผ่านมา ในระหว่างวันที่  24 พ.ค.2554 - 7 ก.ย.2555 

ดาวเสาร์(๗)จรเข้าสู่ราศีอริคือราศีกันย์ของดวงเมืองเป็นรอบ ๆ รอบหนึ่งกินเวลานานถึง 32 ปี  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง กว่าดาวเสาร์(๗)จะเดินทางมาถึงราศีกันย์ในแต่ละรอบต้องใช้เวลาถึง 32 ปี  ลองสำรวจดูว่าเมื่อดาวเสาร์(๗)จรมาสู่ราศีกันย์ 3 ครั้ง นับแต่ปีพ.ศ.2464 เป็นต้นมา ดาวราหู(๘)จรอยู่ไหน  ดังนี้ครับ

-ครั้งแรก 25 ส.ค.2464 - 29 ต.ค.2466  เสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์  ราหู(๘) อยู่ราศีกันย์และราศีสิงห์  
-ครั้งที่2    5 ต.ค.2493 -  13 ก.ย.2496 เสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์  ราหู(๘) อยู่ราศีมีน ราศีกุมภ์ และราศีมังกร
-ครั้งที่ 3 20 ส.ค.2523 -  24 ต.ค.2525 เสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์ ราหู(๘) อยู่ราศีกรกฎและราศีมิถุน
-ครั้งที่ 4 30 ก.ย.2552 -    7 ก.ย.2555 เสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์ ราหู(๘)อยู่ราศีธนูและราศีพิจิก     

ฉะนั้นลักษณะเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 88 ปี   และกำลังจะเกิดขึ้นระหว่าง  24 พ.ค.2554 - 7 ก.ย.2555

ความสำคัญ

-เป็นการเดินจรขนาบแบบบดขยี้  โดยเดินสวนกันระหว่างดาวร้ายขนาดใหญ่ หนัก อย่างเสาร์(๗) และราหู(๘) คู่มหามิตรร้าย ผิดกับการขนาบของพระเคราะห์โดยทั่วไป    ที่เดินไปทิศเดียวกันไม่สวนทิศกันเช่นนี้   และเนื่องจากเป็นดาวร้ายขนาดใหญ่มีอันตรายที่สุดและร้ายที่สุดในระบบดาวเคราะห์ทั้งสิ้น   ทั้งเป็นดาวคู่มิตรใหญ่อีกด้วย   จึงต้องส่งผลขนาดใหญ่แน่นอน  

- การทำมุมปลายหอกเข้าสู่ลักคณา และอาทิตย์(๑)ในดวงเมือง ณราศีเมษ เฃ่นนี้ ก็ไม่เคยปรากฎมาก่อน ว่าจะมีคู่ดาวร้ายเสาร(๗)-ราหู(๘) กระทำการต่อประเทศไทย ซึ่งจะหมายถึงน้ำหนักที่กระทำร้ายรุนแรงมาก 

สมมติฐาน

1.    การรั่วไหลทางเศรษฐกิจการเงินของประเทศ  หนี้สินและการสูญเปล่า
2.    มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น  เป็นเรื่องที่สำคัญ และแปลกประหลาด (เช่นการลอบฆ่าบุคคลสำคัญ  ฯลฯ)
3.    สถานะการณ์ประชาชนยากลำบาก หากินไม่พอปากพอท้อง 
4.    การพังของรัฐบาลขณะนั้น
5.    เข้าของราคาแพง  ค่าครองชีพสูงขึ้น  ราคาน้ำมันสูงลิ่ว    
6.    เกี่ยวกับต่างประเทศ  หรือคนต่างประเทศ  คดีความสำคัญ ๆ
7.   เรื่องวิปริตทางธาตุ มีดิน น้ำ และลม ไฟ

ห้วงเวลาสำคัญ

-ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.2554
-พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค.-ส.ค.-ก.ย.2555

เรายังไม่ได้พยากรณ์นะครับ  เพียงสร้างสมมติฐานนำ   เพื่อให้แนวร่วมฝ่ายโหรได้สังเกต ช่วยกันคิดวิเคราะห์ระหว่างหมู่โหร  ผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์โดยเฉพาะ    เพราะปรากฎการณ์นี้   ร้าย  และแรง แน่ ๆ  

เราจะพิจารณาในรายละเอียดต่อไปและออกมาเป็นคำพยากรณ์

เพื่อเห็นว่า หน้าที่ของโหร   ยังคงมีอยู่  มีความรับผิดชอบอยู่

ทบทวนหลักการ

1.    การจรของเสาร์(๗) 3 ระยะ ที่บ่งถึงความหมายสำคัญต่อประเทศไทย คือ
1.1   เสาร์(๗)จรเข้าสู่ราศีกันย์ อยู่กันย์ ระหว่าง 30 ก.ย.2552 - 7 ก.ย.2555    พฤหัส(๕)อยู๋ มกร,กุมภ์,มีนและเมษ
1.2   เสาร์(๗)จรเข้าสู่ราศีตุล  อยู่ตุล ระหว่าง 7 ก.ย.2555 - 27 พ.ย.2557   พฤหัส๕)อยู่เมษ,พฤษภ,มิถุนและกรกฎ
1.3   เสาร์(๗)จรเข้าสู่ราศีพิจิก อยู่พิจิก ระหว่าง 27 พ.ย.2557 -  1 ธ.ค.2560 พฤหัส(๕)อยู่สิงห์,พักรสู่กรกฎ,สิงห์,และกันย์

2.    การจรของราหู(๘) 2 ระยะ ที่บ่งถึงความหมายสำคัญต่อประเทศไทย คือ
2.1  ราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีพิจิก อยู่พิจิกระหว่าง 24 พ.ค.2554 - 10 ธ.ค.2555  เสาร์(๗)จรอยู่ที่กันย์ถึง 7 ก.ย.2555
2.2  ราหู(๘)จรเข้าสู่ราศีตุล อยู่ตุลระหว่าง 10 ธ.ค.2555 - 30 มิ.ย.2557  ช่วงนี้ทั้งหมดราหู(๘)จรร่วมกับเสาร์(๗)ณราศีตุลเล็งลักคณาเมือง

ตามหลักโหราศาสตร์ราหู ๘ จรมาพบกับเสาร์ ๗ และเล็งลักคณาเมืองเป็นอย่างไร  และอยากให้นำดวงเมืองช่วงที่กรุงศรีอยุธยาแตก 2 ครั้งมาเปรียบเทียบด้วยว่ามีลักคณาอย่างไร ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยค่ะ 

จะเกิดสินามิท่วมแผ่นดินไทย ??

คำว่า เล็ง เป็นศัพท์วิชาโหราศาสตร์ครับ  ขณะนี้เรายังไม่ได้พูดถึงลักษณะเสาร์(๗) ราหู(๘)  เล็ง ลักคณาเมือง  

เรากำลังพูดถึงการจรของดาวเคราะห์คู่มิตรคู่ใหญ่  มาทำมุมปลายแหลมทิ่มแทงลักคณาดวงเมือง    เราเกรงมาก ๆ ว่านี่ต้องร้าย และแรงมาก ๆ    และนัยความหมายก็ยากจะอ่านได้เพราะไม่เคยมีเสาร์(๗) และราหู(๘) จรมาทำมุมเช่นนี้ต่อลักคณาเมือง

เราได้สำรวจย้อนหลังไปจนถึงปฏิทินโหรทองเจือเล่มเก่าสุดคือเล่ม พ.ศ.2464 (ที่เรามีใช้อยู่)  เวลา 88 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยปรากฎมาก่อน   เรายังไม่อาจสำรวจไปไกลกว่านั้น  เพราะขาดปฏิทินถอยหลังไปไกลถึงอยุธยา    ...........    ต้องสำนักโหรฝ่ายคำนวณโดยเฉพาะ ท่านจะมีปฏิทินให้สำรวจได้  .......

เนื่องจากไม่เคยมีตัวอย่างมานานถึง 88 ปีดังกล่าว    จึงมาสู่  อาการงง.....  แต่แน่นอน  จะต้องร้ายแรงหนักหน่วงแน่ ๆ ......

เรากำลังเพ่งเล็งเหตุร้ายอยู่ 2 ประการที่ดูจะชัดสักหน่อยคือ 

1.     เรื่องธาตุแปรปรวน     ภัยทางธรรมชาติ  และน่าเป็นภัยทางน้ำ    สินามิ.....เพราะสินามิคราวที่แล้วมีราหู(๘)ธาตุลมเป็นตัวการร่วมอย่างสำคัญตัวหนึ่ง  

คราวนี้ก็มีราหู(๘)จรเข้าสู่พิจิกธาตุน้ำ ลมแรง+น้ำ    และคราวนี้มิใช่เพียงราศีพิจิก แต่ราศีธาตุน้ำทั้งสามราศีคือ กรกฎ,  พิจิก  และมีน   ถูกกระแสดาวเคราะห์ป่วนอย่างหนัก  เริ่มแต่ ราหู(๘)ธาตุลมจรเข้าสู่ราศีพิจิกเป็นมหาอุจ  พิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ   กระแสราหู(๘)แผ่ไปถึงราศีธาตุน้ำด้วยกันทุกราศี  คือราศีกรกฎที่มีจันทร์(๒)เดิมเป็นเกษตรประจำอยู่   และราศีมีนที่มีศุกร์(๖)เดิมเป็นกาลกิณีมหาอุจประจำอยู่  

ด้วยเหตุที่ดาวที่จรเข้ามาและดาวประจำเดิมในราศีธาตุน้ำทั้ง 3 ราศี ล้วนแต่ดาวเข้มแข็ง ทั้งสิ้น  นั่นคือ จันทร์(๒)ธาตุดินเดิมในราศีกรกฎเป็นเกษตร   ศุกร์(๖)ธาตุน้ำเดิมเป็นกาลกิณีมหาอุจ และราหู(๘)จรแรงเป็นศรีจรมหาอุจ  (ศรีกับกาลกิณีปะทะกันด้วยพลังมหาอุจทั้งคู่ สะท้อนถึงจันทร์เกษตรในภพที่4ของดวงเมือง  อันหมายถึงแผ่นดินของเผ่าพันธ์ไทย 

อ่านความหมายได้

ประการที่ 1 ว่า    สินามิท่วมแผ่นดินสำคัญของไทย(น่าเป็นเมืองสำคัญ  อาจจะเป็นกรุงเทพเองได้หรือไม่...หากมิเช่นนั้นก็ต้องเมืองสำคัญ)    หรือมิฉะนั้นก็เกิดอุทกภัย น้ำท่วมทั่วประเทศ.....  

ประการที่ 2  อ่านว่า   สตรีคนสำคัญของแผ่นดินจะสิ้นอายุ (ด้วยเหตุมาจากอุทกภัย).....หรือมิฉะนั้นก็มีเหตุสตรีตายหมู่ขนาดใหญ่อันเนื่องจากอุทกภัย..และในหมู่นั้นล้วนสตรีคนสำคัญ ๆ ของประเทศ

เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9 กันยายน - 31 ตุลาคม 2554

 2.    มีการปฏิวัติหรือรัฐประหาร ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น   หรือ  มีการใช้บทบาทของทหารในทางที่เข้มและเคร่งครัดเกิดขึ้น  

 เราจะยังคงตรวจสอบทบทวนในรายละเอียดต่อไป 

และขอร้องให้เข้าใจว่า  นี่เป็นงานการวิจัยทางฝ่ายโหราศาสตร์ เพราะยังไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน อย่างน้อยก็ 88 ปีย้อนหลัง  เราบันทึกนี้เพื่อประโยชน์โดยตรงทางการศึกษาโหราศาสตร์โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม  ในช่วงที่ร้ายแรงนี้  ยังมีเวลาที่ดีแก่ประเทศไทยอยู่ระหว่างวันที่ 7 ธ.ค.2554 - 5 เม.ย.2555

และครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่ง  ก็จะถึงวาระที่ประเทศไทยเข้าสู่ทางบวกขนาดใหญ่    จะบ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนขนาดใหญ่และรุนแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างพลิกโฉม   ประชาธิปไตยเจริญ....... 

เรายังจะขอทบทวนนะครับ..................   

* ช.โหรชนบท 22 ธ.ค.2553

     แล้วยังไงล่ะครับ ?

อีกไม่นาน   ชั่วอึดใจ ครับ เรากำลังจะออกคำพยากรณ์  สิ่งที่เราได้พบล้วนน่าตื่นเต้นตกใจ จึงต้องทบทวนอย่างรอบคอบเสียก่อน

โปรดติดตามคำพยากรณ์ดวงชาตาประเทศไทย พ.ศ.2554 ต่อเนื่องไป  ในสารบาญโหราศาสตร์  คลิกที่นี่เลยครับ

หรือตามอ่านจากเวบบอร์ดนี้

ในลำดับต่อไปก็ได้ครับ   ....  ขอบคุณ

• ชลัมพุชโหรชนบทให้การพยากรณ์ไว้ ณ 7 พ.ค.2553

• ชลัมพุชโหรชนบทให้การพยากรณ์ไว้ ณ 22 ธ.ค.2552  

แน่นอนประชาธิปไตยต้องเจริญ เพราะหากมีภัยพิบัติขนานใหญ่เกิดขึ้น  ย่อมพิสูจน์ฝีมือของรัฐบาล แล้วรัฐบาลเด็กจะรับมือไหวหรือ  นี่ก็กู้ไปแล้วนับล้านล้านบาท  แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ระยะทางจะพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน  นี่คือสัจธรรม

อยากให้อธิบายแง่เหตุผลทางโหราศาสตร์ ในเรื่อง สินามิครับ    ตรงไหนที่บอกถึงเรื่องจะมีสินามิ....  กรุณาหน่อยครับ เพื่อการศึกษาทางโหราศาสตร์ครับ......

เราจะลองอธิบายให้ทราบว่าโหรคิดอย่างไร นะครับ

1.     โหรสำรวจปฏิทินโหร ซึ่งเป็นแผนที่การหมุนจรไปในแต่ละวัน เดือน ปี ชั่วโมง นาที ของดาวเคราะห์บนท้องฟ้าทั้ง 10 ดวงที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์   โหรทำใจไว้นานแล้วเมื่อเห็นว่าดาวร้ายราหู(๘)จรใกล้ราศีพิจิกเข้ามาทุกที   ทำไม ?  เพราะณ ราศีพิจิกนั้นเป็นจุดที่ราหู(๘)มีกำลังมากที่สุด เรียกว่ามีกำลังเป็นมหาอุจ เหมือนจรเข้ได้ลงคลองนั่นแหละ จึงมีกำลังมาก จะต้องคอยดูว่าร้ายหรือดี   และเนื่องจากราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ ราหูเป็นธาตุลม โหรก็ต้องพิจารณาว่าเมื่อลมแรงขนาดเป็นมหาอุจมาสู่ราศีธาตุน้ำ  น้ำก็ต้องปั่นป่วน เกิดกระแสน้ำ ลม แรงขึ้น   

2.      แล้วก็ได้พบว่ากระแสราหู(๘)ที่รุนแรงนี้เชื่อมแผ่ไปถึงราศีธาตุน้ำอีก 2 ราศีคือราศีมีน กับราศีกรกฎ  ซึ่งในราศีมีนนั้นมีดาวธาตุน้ำที่มีกำลังแรงสุด ๆ เป็นมหาอุจอยู่ดวงหนึ่งคือดาวศุกร์(๖) และที่ราศีกรกฎก็มีดาวจันทร์(๒) ที่มีแรงมากเป็นเกษตรอีกดวงหนึ่ง 

3.     สรุปจาก 1 และ 2  นั่นก็คือ วาระนี้ ทะเลใหญ่ของโลก 3 ทะเลใหญ่ (คือราศีธาตุน้ำ 3 ราศี กรกฎ พิจิก มีน เปิดทางเชื่อมถึงกันแล้ว ด้วยพลังของราหูธาตลม ที่รุนแรงเป็นมหาอุจ)  น้ำทะลักถึงกันกลายเป็นทะเลเดียว ลมแรงและน้ำจำนวนมหาศาลได้เกิดปั่นป่วนขึ้น  

ดังที่ได้บันทึกลงไว้แล้วในข้อ 7.1 ว่า 

ความจริง เรายังไม่อาจชี้ชัดลงไปว่าจะเกิด สินามิ  ด้วยเพียงได้เห็นการเชื่อมต่อพลังแรงของดาวเคราะห์ในราศีธาตุน้ำทุกราศีมาบรรจบกัน  ทั้งดาวเคราะห์เดิมในดวงเมือง และดาวเคราะห์จรมาสู่จุดกระทบถึงกันทุกราศี  อันมีน้ำหนักมากทุก ๆ ราศีธาตุน้ำ  การจรของดาวเคราะห์ที่ทรงพลังแรงทุกราศีธาตุน้ำ มาบรรจบกัน ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้น 

เรายังไม่พยากรณ์  ว่าจะเกิดสินามิ   ด้วยเหตุผลเท่านี้    

ยังได้ตรวจสอบจากเหตุผลอื่นอีกหลายประการก่อน    นั่นแหละ     เราว่าไปตามเหตุผล(ที่เราเชื่อได้) ของทฤษฎีโหราศาสตร์ของเรา

เหตุผลอื่น ทฤษฎีอื่นมีประการใด...........  เอาละ   เราจะทะยอยเล่าให้ฟังนะครับ    

ในดวงเมืองดวงเดิมหรือดวงกำเนิด    มีราศีธาตุน้ำเชื่อมถึงกันอยู่ 2 ราศีคือ กรกฎ กับ มีน    ส่วนราศีพิจิกว่างอยู่  

ที่ราศีมีนนั้น เป็นราศีที่อยู่ข้างหลังของลักคณาดวงเมืองเดิม  เป็นภพที่ 12 ของดวงเมือง   มีดาวเคราะห์ดวงสำคัญ 2 ดวงคือ  ราหู(๘) กับ ศุกร์(๖) ดาวศุกร์ทรงพลังเป็นมหาอุจ  แต่โดยทักษาเป็นกาลกิณี     จึงส่งผลร้ายให้กรุงเทพเป็นเมืองน้ำท่วมบ่อย   ฝนตกนิดหน่อยก็ท่วมอยู่เป็นประจำปี    และบอกถึงการสูญเสียทรัพย์สิน สมบัติของประชาชนหรืองบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อจัดการเรื่องน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ  เสียอย่างไม่พึงเสีย (ความหมายของภพที่ 12+ความหมายของธาตุน้ำ+ความหมายของดาวพระเคราะห์ศุกรและราหู +ความหมายของราศีกรกฎ+ความหมายของพระเคราะห์จันทร์เกษตร)   

โดยสรุปก็คือ กรุงเทพ ประเทศไทย เป็นเมืองที่ไวต่อน้ำท่วม   มีพื้นฐานชะตาเพื่อรับการเกิดเหตุน้ำท่วมอยู่แล้ว  

ตรงนี้ทำให้เราเห็นได้ เชื่อได้ว่ามีโอกาสที่น้ำจะท่วมใหญ่ในกรุงเทพอย่างแน่นอน   และซึ่งในประวัติศาสตร์  ก็เคยเห็นมาแล้ว  แบบพายเรือแทนรถ ในถนนราชดำเนินปี 2485  

ก็ถามว่าเมื่อไร ?

ก็ได้เห็นโดยปราศจากความสงสัยเมื่อเกิดสินามิขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2547  เพราะเกิดจากดาวธาตุน้ำ 2 ดวง คือ พุธ(๔)ธาตุน้ำ กับศุกร์(๖)ธาตุน้ำ จรเข้าสู่ราศีพิจิกซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ  (มีพลังสูงตามทฤษฎี อสีติธาตุ) กลายเป็นกระแสน้ำอันมหาศาลปั่นป่วน  และเชื่อมไปถึงราศีธาตุน้ำที่กรกฎ และมีน   และดาวอังคาร(๓)ธาตุลม จรมาตกน้ำที่ราศีพิจิกด้วย   อันหมายถึงท่วมแผ่นดินไทย ๆ เสียหาย

ตรงนี้ ราศีพิจิกเมื่อราหู(๘)ธาตุลมจรมาเป็นมหาอุจ ลงสู่ราศีธาตุน้ำ  ก็น่าจะประเมินพลังได้ว่าไม่ด้อยกว่ากัน  และย่อมสร้างความเสียหายเพราะระยะนั้นดาวอังคาร(๓)ธาตุลม จรมาสู่จุดดับแสงอยู่ในราศีกรกฎธาตุน้ำ

วันที่เรามองว่าเป็นวันสำคัญ ที่จะเกิดเหตุก็คือวันที่ 1 พ.ย.2554 เวลา21.04 น.  ก็เพราะเห็นดาวธาตุน้ำทั้ง 2 ดวงคือดาวพุธ(๔) กับดาวศุกร์(๖) จรเข้าสู่ราศีพิจิกธาตุน้ำ  เหมือนเหตุการณ์สินามิ 26 ธ.ค.2547   แต่คราวนี้ไปเพิ่มพลังก่อเหตุร่วมกับราหู(๘)ธาตุลมมหาอุจไปอีก    กลายเป็นน้ำมหาศาลผนวกกับลมพายุใหญ่

ในด้านความเสียหายก็ดูที่ดาวอังคาร(๓) เป็นนิจอยู่ที่ราศีกรกฎ  อาทิตย์(๑)เป็นนิจอยู่ราศีตุล   

นี่ก็คือเหตุผล  ที่จะเกิดสินามิขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิการยน 2554 เวลา 21.04 น.

ตามที่เราได้พยากรณ์ไว้แล้วในข้อ 10

มาถึงตรงนี้  เราให้ความสำคัญแด่ราศีธาตุ และดาวเคราะห์ธาตุ  ซึ่งเห็นการรวมตัวของน้ำ จากราศีธาตุน้ำ+ดาวเคราะห์ธาตุน้ำ+ดาวเคราะห์ธาตุลม   ว่ามีพลัง เพราะมีดาวเคราะห์ที่ทรงพลังอยู่ครบทุกราศีธาตุน้ำ 

แต่แค่นี้ก็ไม่น่าจะรอบคอบเพียงพอที่จะให้มองว่าจะเป็นเหตุให้เกิด สินามิ  ได้       มีอะไรมาประกอบที่สำคัญให้เกิดความร้ายแรงจากสินามิหรือไม่ ?

นี่คือสิ่งที่เราได้พบ  จากการเปรียบเทียบระบบดาว  ระหว่างสินามิคราวที่แล้ว 26 ธ.ค.2547  กับ  ระบบดาว เมื่อ 1 พ.ย.2554   ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง  ดังนี้

1.     ในสินามิ 26 ธ.ค.2547  เริ่มจากดาวมฤตยู(๐)จรเข้าไปสู่ราศีกุมภ์   ซึ่งตรงจุดนี้มฤตยู(๐)ทำการตรึงดวงเมืองทางด้านหลังไว้อย่างไม่ให้กระดุกกระดิก  แล้วต่อมาดาวเสาร์(๗) ก็เคลื่อนเข้าไปสู่ราศีมิถุน ทำการตรึงดวงเมืองทางด้านหน้าไว้ไม่ให้กระดุกกระดิก   นี่คือปฏิบัติการกระชับดวงเมือง โดยดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่สุดในวงการโหราศาสตร์

ความหมายก็คือ  ข้าศึกขนาดใหญ่มาซุ่มซ่อน ทำการตรึงเมืองไว้ล่วงหน้าก่อน  รอปฏิบัติการฉากร้ายแรงที่จะตามมา   นั่นก็คือ เมื่อดาวพุธ(๔)+ดาวศุกร(๖) คู่ธาตุน้ำ จรเข้าสู่ราศีพิจิก  กลายเป็นคู่อสีติธาตุน้ำ อันทรงพลังสูงส่ง พอที่จะก่อกวนราศีธาตุน้ำทั้ง 3 ราศีให้เกิดกลายเป็นเหตุร้ายแรงได้  แล้วครั้นดาวอังคาร(๓) พลอยจรตามไปสู่ราศีพิจิก แม้เป็นอังคารมีพลังเป็นเกษตรก็ตาม ................   นั่นก็ถึงวาระเกิดเหตุร้ายแรง คือ  สินามิ ของชาวทะเลอันดามัน รวมทั้งประเทศไทยขึ้น ใน 26 ธ.ค. 2547

2.      ในวันที่ 1 พ.ย.2554  ซึ่งยังมาไม่ถึง  ขณะนี้ดาวเสาร์(๗)อยู่ในราศีกันย์ ซุ่มซ่อนอยู่   แล้วพอถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ราหู(๘) ก็จรมาเข้าราศีพิจิก  ทำมุม 60 องศารับกับดาวเสาร์(๗) เป็นมุมแหลมแบบปลายหอกเข้าทิ่มแทงลักคณาดวงเมือง    ในอาการตรึงดวงเมืองไม่ให้ขยับเขยื้อน     แล้วรอจังหวะการกระทำการร้ายของดาวเคราะห์อีกพวกหนึ่ง   นั่นก็คือ ดาวพุธ(๔)+ดาวศุกร(๖)ดาวคู่ธาตุน้ำจรเข้าสู่ราศีพิจิกธาตุน้ำ ให้พลังเป็น อสีติธาตุ เช่นเดียวกัน  และครั้นดาวอังคาร(๓)จรสู่ราศีกรกฎธาตุน้ำและดับแสงลง  พร้อม ๆ กับดาวอาทิตย์(๑)จรเข้าสู่ราศีตุลธาตุลม อาทิตย์ดับแสงลง   ดาวจันทร์(๒)ดับแสงลงในราศีมกร     ก็เกิดภัยอันร้ายแรงจากน้ำ  ตรงกับวันที่ 1 พ.ย.2554

3.    ท่านจะเห็นว่า  สิ่งที่ร้ายมาก ๆ และคล้ายคลึงกันแทบว่าเป็นแบบเดียวกันระหว่างเหตุการณ์ตาม 1  และ 2   ก็คือมีดาวร้ายขนาดใหญ่มาทำการตรึงดวงเมืองไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว   ไม่ให้กระดุกกระดิก    นั่นคือ ตาม 1  ดาวเสาร์(๗) กับดาวมฤตยู(๐)เจ้าแห่งความตาย   เข้ามาก่อน   เสาร์(๗)ตรึงด้านหน้า มฤตยู(๐)ตรึงด้านหลัง (โดยทำมุม 60 องศากับลักคณาเมือง) 

และตาม 2  ดาวเสาร์(๗) กับดาวราหู(๘) ก็กำลังเริ่มปฏิบัติการตรึงดวงเมือง   พร้อมทำร้ายเมืองไปพลาง ๆ ก่อนอย่างเลือดเย็น โดยขณะนี้ดาวเสาร์(๗)มารออยู่ที่ราศีกันย์แล้ว  ส่วนราหู(๘) กำลังผ่านองศาที่ 6 ของราศีธนู อีกชั่วอึดใจก็ถึงราศีพิจิก ที่ซึ่งเป็นราศีมหาอุจของราหู นั่นคือวันที่ 24 พ.ค.2554 ราหู(๘)จรเข้าพิจิก  ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ และร่วมเสาร์ขนาบทำร้ายดวงเมือง

4.     การจรขนาบดวงเมืองของดาวเสาร์(๗)กับมฤตยู(๐) ตาม 1  ไม่เคยมีมาก่อนกว่าระยะเวลา 88 ปี     และการจรของดาวเสาร์(๗) กับราหู(๘) เข้าทิ่มแทงตรึงดวงเมือง ตาม 2  ก็ไม่เคยมีมาก่อนกว่าระยะเวลา 88 ปี เช่นเดียวกัน  

5.     สรุปความหมายของปรากฎการณ์นี้ก็คือ  แม้ว่าดาวคู่ธาตุน้ำคือพุธ(๔)และศุกร(๖) จะจรเข้าราศีพิจิกให้พลังแรงด้วยอสีติธาตุ พร้อมกันแทบทุกปีก็ตาม [ดาวพุธ(๔)กับดาวศุกร(๖) เป็นดาวขนาดเล็กจรเร็ว  มีโอกาสพบกันในราศีพิจิกบ่อย  2-3 ปีครั้ง ประมาณนี้] แต่ถ้าปราศจากดาวร้ายขนาดใหญ่โอบอุ้มให้การช่วยเหลือแล้ว  ก็ไม่อาจก่อเกิดอันตรายขนาดใหญ่ได้  

แต่เมื่อมีเสาร์(๗)และมฤตยู(๐) มาให้ความช่วยเหลือในการก่อการร้ายตาม 1   จึงเกิดเหตุร้ายแรงระดับ สินามิได้    ในคราวต่อไปวันที่ 1 พ.ย.2554 ก็มีปรากฎการณ์ดาวใหญ่คือเสาร์(๗)และราหู(๘) มาให้ความช่วยเหลือแด่พุธ(๔)และศุกร(๖) เช่นเดียวกัน ก็ย่อมเป็นสัญญาณของน้ำท่วม  และสินามิ ได้เช่นเดียวกัน

ทฤษฎีที่ใช้ในการพยากรณ์ เรื่องสินามิ

1.     ทฤษฎีธาตุ 4  ดิน น้ำ ลม ไฟ   
2.     ทฤษฎีดาวคู่ธาตุ
3.     ทฤษฎีราศีธาตุ
4.     ทฤษฎีกำลังอำนาจดาว
5.     ทฤษฎีราศีร่วมธาตุ
6.     ทฤษฎีราศีภพ 12 ภพ
7.     ทฤษฎี12ราศี
7.     ทฤษฎีดาวร่วมธาตุ
8.     ทฤษฎีธาตุน้ำ 3 ราศี
9.     ทฤษฎีคุณภาพดาว
10.   ทฤษฎีประสานอำนาจดาว 
11.   ทฤษฎีดาวเดิม 
12.   ทฤษฎีดาวจร 
13.   ทฤษฎีองศาดาวหรือมุมดาว
14.   ทฤษฎีอสีติธาตุ
15.   ทฤษฎีทักษา
16.   ทฤษฎีดาวดับแสง
17.   ทฤษฎีดาวรุ่ง
18.   ทฤษฎีขนาดและน้ำหนักดาว
19.   ทฤษฎีการแปรปรวนของราศีและดวงดาว
20.   ทฤษฎีลักคณา
21.   ทฤษฎีตนุลักคณ์
22.   ทฤษฎีเจ้าเรือน
23.   ทฤษฎีดาวลอย
24.   ทฤษฎีอุบัติเหตุและหายนะ
25.   ทฤษฎีสวัสดิภาพและความสำเร็จ
26.   ทฤษฎีประสานระหว่างดาว
27.   ทฤษฎีองค์รวม 
28.   ทฤษฎีมิตรและศัตรู
29.   ทฤษฎีความคับแค้นยากจนไร้ทางออก
30.   ทฤษฎีความร่ำรวยและก้าวหน้า ประสบความสำร็จ
32.   ทฤษฎีมหาบุรุษ
33.   ทฤษฎีโมฆะบุรุษ

ฯลฯ

อยากถามว่า หากมีภัยธรรมชาติร้ายแรงเกิดขึ้นครั้งนี้จริง  จะร้ายเท่า 26 ธันวาคม 2547 หรือไม่หมายความถึงความรุนแรงของสึนามิ แต่เรื่องเศรษฐกิจคงเลวร้ายกว่าแน่เพราะในครั้งนั้นรัฐบาลใช้หนี้ของ ไอเอ็มเอฟหมดแล้ว ละเศรษฐกิจภาคครัวเรือนก็ดี แต่ถ้าเกิดในครั้งนี้ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้ ประเทศไทยจะประสบกับสภาวะล้มละลายได้หรือไม่

ตอนนี้แถบชายแดนไทยกัมพูชาหลายจังหวัดมีทหารทั้ง 2 ฝ่าย ตรึงกำลังกันหนาแน่น หากมีสงครามเกิดขึ้นจริงระหว่างชายแดนไทยกัมพูชา จะยืดเยื้อหรือไม่ และจะมีโอกาสคลี่คลายให้สงบสุขโดยเร็วมีสัมพันธไมตรีที่ดีเหมือนเดิมได้หรือไม่

ตอบข้อคลางแคลงใจของหิ่งห้อย

1.     กรณีภัยธรรมชาติ เราพยากรณ์ไปว่าจะเกิดสินามิ  นั่นหมายถึง  สินามิ  ไม่ใช่เพียงน้ำท่วมใหญ่ธรรมดา   อย่างไรก็ตามเราได้พบว่าระยะเวลาที่จะเกิดภัยพิบัตินี้อยู่ที่เดือน ต.ค.-พ.ย.2554 (น่าที่สุดที่ 1 พ.ย.2554 ดังพยากรณ์ไว้แล้ว)  ไม่น่าจะเกิดก่อนเวลาที่ระบุไว้อย่างแน่นอน แม้ว่าได้มีบางกรณีที่ทำให้ไม่แน่ใจเรื่องปฏิทินโหราศาสตร์ว่าอาจจะคลาดเคลื่อน   เวลาที่เหลือก่อนเกิดเหตุ 5 เดือน ทำให้เราได้มีเวลาพอที่จะทบทวนเหตุผล และทฤษฎีโหราศาสตร์  เรามองอยู่ว่า  มีสิ่งที่ไม่เหมือนกันเลยทีเดียวระหว่าง สินามิ 26 ธ.ค.2547 กับ สิ่งที่เราคาดไว้ ณ 1 พ.ย.2554  ก็คือเรื่องของมุมดาวของดาวใหญ่ คือ เสาร์(๗)+มฤตยู  สำหรับกรณีสินามิ 26ธ.ค.2547  กับเสาร์(๗)+ราหู(๘) ใน 1 พ.ย.2554   เป็นคนละทฤษฎีกัน   จะมีผลเหมือนกันตรงดิกเลยได้อย่างไร ? เรากำลังพิจารณาเพิ่มเติมไปในประเด็นนี้อยู่ทีเดียว   แต่เรายังไม่พบว่าจะมีความหมายอื่นไปได้อย่างไร นอกจาก  สินามิ   หรือ  น้ำท่วมขนาดมโหฬารไม่แพ้กัน  

กระนั้นเราก็ได้พบสมมติฐานใหม่เร็ว ๆ นี้แล้วว่า  น่าเป็นไปได้อีกทางหนึ่งทีเดียว  นั่นก็คือ แผ่นดินเลื่อน  เขื่อนแตก น้ำท่วมใหญ่อาจจะไม่เท่าสินามิ     อันมาจากเหตุผล 3 ประการ  
(1.)   ดาวเสาร์(๗) และราหู(๘) ทำมุมกันเป็นปลายหอก ย่อมหมายถึงแผล  การแตกร้าว  การไหลออกจากแผล  การพังทะลายราบลงไป
(2)   อย่างไรน้ำต้องท่วมแผ่นดินสำคัญ ตามความหมายของราศีกรกฎและจันทร์เกษตร  และต้องเกิดผลร้ายแรงแน่ ๆ เพราะดาวอังคาร(๓)ตนุลักคณ์ดับสนิท ดาวอาทิตย์(๑)กุมลักคณ์ดับสนิท ... นี่หมายถึงการแตกร้าวของอะไร ทำให้น้ำท่วมลงมาถึงกรุงเทพ?       นอกจากกรุงเทพ แล้วก็มีอยุธยา ฯลฯ 
(3)  ทฤษฎีทักษา ที่ว่าดาวราหู(๘) ไม่ร้ายแรงเพราะเป็นศรีจร  น่าจะลดทอนอานุภาพลง  ไม่น่าถึง สินามิ .....  ไม่น่าจะใช้ได้  เพราะอานุภาพของธาตุลมที่แรงเป็นมหาอุจ...เมื่อมาสู่น้ำ ย่อมมีผลทางเดียวคือน้ำต้องปั่นป่วนแน่ ๆ   ระดับความรุนแรงจึงน่าจะไม่แพ้กรณี สินามิ

เรายังไม่สรุป........ ยังยืนยันคำพยากรณ์เดิม  ........  อันนี้เป็นเพียงสมมติฐานใหม่  เรายังมีเวลาตรวจสอบต่อไปอีกอยู่   ..........

2.    เราได้พยากรณ์ไว้แล้วว่า สิ่งที่จะยืดเยื้อไปตลอดปีหกเดือนข้างหน้าก็คือ  คดีชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา.......หมายความรวมถึงสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกัมพูชาจะเลวร้ายไปตลอดปี2554 เลยปีไปอีกหกเดือน    ตราบมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในประเทศไทยระหว่าง เดือนธันวาคม 2555 เป็นต้นไป   อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า ดวงชะตาท่านฮุนเซนจะตกต่ำลงไปอีกหลังเดือนเมษายน 2554 ไปแล้ว  ก็จะมีปัญหาการแตกร้าวภายใน  และสามัคคีในชาติก็จะร้าวรานไปมาก แต่เขาเหนียว     สงครามไทย-กัมพูชา  ไม่น่ามี  แต่จะมีความตึงเครียดเช่นนี้ไปนาน    เราได้พยากรณ์ว่าจะมีการปะทะทางทะเลชายแดนไทย-กัมพูชา    แต่เราไม่ได้พยากรณ์ว่าเป็นทหารไทย-กัมพูชา  เพราะเป็นประเด็นที่ละเอียดเกินหลักวิชาของเรา   และไม่เคยมีข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์มาก่อน     แต่นั่นคือเหตุปะทะ  จะมีการปะทะทางทะเล หรือเหตุการณ์ร้ายแรงทางทะเลชายแดน อย่างใดอย่างหนึ่ง  อาจจะเป็นการปะทะหนักก็ได้ 

3.   เราอยากให้ข้อสังเกตว่า    เริ่มข้อที่ 1 ถูกต้องหรือไม่  หากถูกต้อง ข้อต่อไปก็ย่อมจะถูกต้องทั้งหมด    เพราะอยู่ใต้ทฤษฎีเดียวกัน

ขอบคุณครับ  

อยากให้วิเคราะห์ดวงชะตา พล.อ.ประยุทธ  จันทร์โอชา  ผบ.ทบ.ผู้กุมอำนาจ  ขณะนี้

เกิดวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2497 ครับ  กูเกิลค้นให้ครับ  ขอบคุณครับ

วันนี้ 9 ก.พ.54 ดูข่าววอยซ์ทีวีเห็นผู้บริหารกูเกิลตำหนินายฮอสนี มูบารัคผู้นำอียิปต์อย่างรุนแรงว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการที่กดขี่ข่มเหงไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน ต่อไปนี้กระแสต่อต้านรัฐบาลเผด็จการคงลุกลามไปยังประชาชนและสื่อเสรีทั่วโลก ต้องขอชื่นชมกูเกิลที่เป็นสื่อเสรีที่มีความเป็นกลาง เป็นธรรมรักษามาตรฐานวิชาชีพของตนเอง

กูเกิลช่วยให้คนไทยตาสว่าง สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายทุกสาขาวิชา จึงไม่แปลกใจว่าทำไมการศึกษาในประเทศที่เจริญแล้วสถานศึกษาทั้งในเมืองใหญ่และในชนบทจึงมีคุณภาพไม่แตกต่างกัน นี่กระมังโลกไร้พรมแดน ดังนั้นคนที่หลงไปว่าคนในเมืองใหญ่ฉลาดกว่าคนชนบทจึงต้องเปลี่ยนทัศนะมุมมองเสียใหม่  เพราะในวันนี้แม้ในชนบทก็มีทีวีผ่านดาวเทียมกันเกือบทุกบ้าน มีอินเตอร์เนตความเร็วสูงในบ้านในสถานศึกษา เด็กๆมีโน้ตบุคไปโรงเรียน 

อยากถามอีกข้อหนึ่งแง่โหราศาสตร์ครับ  นายกอภิสิทธิ์จะได้รับเคราะห์ร้ายแรง............ผมทราบว่านายกทักษิณ ก็มีลักคณาอยู่ราศีกันย์เหมือนกัน  ......  จะมิรับเคราะห์ร้ายแรงเหมือนกันหรืออย่างไรครับ ??   เท่าที่ผมศึกษามา  นายกบรรหารอีกคนหนึ่งมีลักคณาราศีกันย์เหมือนกัน   พวกราศีกันย์จะไม่พลอยได้รับเคราะห์ร้ายแรงไปทุกคนหรือ  มีอะไรเหป้ฯข้อแตกต่างครับ ?

มารอฟัง...จ้า...

กระแสประชาธิปไตยทั่วโลก ที่กำลังปลุกประชาชนในกลุ่มประเทศมุสลิมให้ออกมาต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ  จะสร้างกระแสโลกให้เป็นโลกเสรีนิยม และที่แน่ๆแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ทำให้กลุ่มอำมาตยาธิปไตยของไทยต้องตระหนักถึงพลังบริสุทธิ์ของประชาชน ที่ต้องการเสรีภาพในตนเองไม่มีประชาชนคนไหนอยากเป็นทาสอีกต่อไป เพราะนั่นคือโลกในยุคดึกดำบรรพ์ของมนุษยชาติ

ขอยกไปต่อในกระทู้โหราศาสตร์(๒) นะครับ  โปรดติดตาม  คลิกได้เลยที่นี่ครับ      บก.

ปี๕๖ ดาวเสาร์เดินไม่ผิดปกติเท่าไหร่ ถือว่าไม่ร้ายแรง ดาวอังคารเดินปกติ จะมีช่วงดาวเสาร์เดินพักต์อยู่บ้างกลางปี แต่ไม่ร้ายแรง แค่ก่อให้เกิดข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ และการใส่ร้ายป้ายสีกัน ดาวพฤหัสย้ายราศีเข้าเมถุนเดินเสริตเลย การเดินเสริตของดาวพฤหัสเป้นการดี สรุปแล้วปี๕๖ไม่มีอะไรร้ายแรงอย่างที่คิด แต่ที่แน่ๆ การแก้รํฐธรรมนูญมีแน่นอน ดาวพฤหัสจรราศีเมถุนธาตุลม เป้น ดินเหนียว ดินโคลน แม้นได้รัฐธรรมนูญใหม่ก็ยังเหมือนเดิมคือ เป้นประโยชน์แค่คนบางกลุ่ม