15 พฤษภาคม 2553 เวลา 04.22 น. ยังสามารถรับฟังเวทีปราศรัยจากราชประสงค์ได้ สถานการณ์เป็นปกติ มีนักร้องเพลงเพื่อชีวิตหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาขับกล่อม ผู้ร่วมชุมนุมยังคงคึกคักสลับกับการลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างสนุกสนาน จิตใจเข้มแข็งฮึกเหิมอยู่เช่นเดิมราวกับจะประกาศว่า  ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ประชาชนปรารถนาอย่างแรงกล้าได้ แม้จะมีความตายมาพรากเขาไปจากโลกนี้เขาก็ไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด  ได้ยินเสียงคุณอนุศร  เอี่ยมสะอาด  พิธีกรบนเวทีแจ้งว่า คาดว่ารัฐบาลจะส่งทหารมาสลายการชุมนุมเวลา 06.00 น. ไม่มีความหวาดกลัวใดๆจากหัวใจของประชาชนผู้ใฝ่หาเสรีภาพ และเขาพร้อมจะยืนหยัดต่อสู้ด้วยความทรหดอดทน ด้วยหัวใจที่ทรนง สิ่งเหล่านี้รัฐบาลไม่เคยล่วงรู้หรืออย่างไร แม้จะพยายามโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อทีวีทุกช่องตลอดเวลาว่าในกลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่

แกนนำ นปช. ใช้เขาเป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมือง และเขาอาจได้รับอันตราย ให้เขากลับบ้านและยินดีจัดพาหนะไปส่งคนในต่างจังหวัด แต่สิ่งที่รัฐบาลพยายามโฆษณาชวนเชื่อกลับไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด มีแต่มวลชนในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ทะลักกันเข้ามาสมทบ แม้จะต้องฝ่าด่านตำรวจทหารมากมายแต่ก็ไม่อาจต้านทานอุดมการณ์อันบริสุทธิ์ได้ ชีวิตจิตใจของมวลชนและแกนนำทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสียแล้วและเขาพร้อมจะร่วมเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไม่มีกำแพงใดมาขวางกั้น แม้แต่ความตายจากอำนาจอำมหิตของกองทัพอำมาตย์ ทางที่ดีรัฐบาลควรหยุดใช้ความรุนแรง และคืนอำนาจให้ประชาชน ก่อนที่อะไรๆจะสายมากไปกว่านี้ เพราะอย่างไรเสียประชาชนเขาต้องชนะอยู่แล้วเพราะเขาเป็นเจ้าของประเทศโดยชอบธรรม  

15 พฤษภาคม 53 เวลา 11.27 น. มีรายงานความเคลื่อนไหวจากเวทีราชประสงค์ว่า  อาหารการกินและน้ำกื่มยังอุดมสมบูรณ์มีการลำเลียงมาอย่างต่อเนื่อง  และมีเสบียงสะสมไว้จำนวนมากสามารถกินไปได้ถึง 10 วัน มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนมากหลั่งไหลมาที่เวทีราชประสงค์ เข้ามาทางด่านสี่แยกศาลาแดง  และถ่ายรูปกันอย่างตึกตักร่วมกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่เป็นสุภาพสตรีซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนภาคกลางและจังหวัดชลบุรีจากแหลมฉบัง  ที่สร้างความสนใจให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศอย่างมากคือ  แม้รัฐบาลจะประกาศให้ออกนอกพื้นที่การชุมนุม แต่นักข่าวชายหญิงไม่ยอมกลับออกไป  ด้วยได้เห็นการต่อสู้ของประชาชนคนเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยด้วยสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ และสามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี แม้จะถูกย่ำยี สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความตระหนักให้นักข่าวต่างประเทศต้องประกาศไปสู่สายตาชาวโลก  เพื่อให้คนเสื้อแดงได้รับความอยุติธรรม  นี่คือการต่อสู้ของชาวพุทธผู้รักสงบและรักเสรีภาพอย่างแท้จริงที่โลกต้องยอมรับว่า  นี่คือต้นแบบของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

15 พฤษภาคม 2553 เวลา 22.54 น  ขณะนี้ครูประทีป  อึ้งทรงธรรม ฮาตะ และคุณวรชัย  เหมะ ได้เปิดเวทีชุมนุมที่คลองเตย  มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 20,000 คน และที่ด่านบ่อนไก่  ด่านดินแดง มวลชนเสื้อแดงก็ยังยึดพื้นที่คุมเชิงเจ้าหน้าที่ทหารอยู่อย่างเข้มแข็ง แม้จะมีเหตุปะทะถึง 30 ชั่วโมง มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่พลังมวลชนก็ไม่ท้อถอยยัง คงตรึงพื้นที่ไว้เพื่อปกป้องพี่น้องในราชประสงค์ให้ปลอดภัย  

15 พฤษภาคม 2553 รายงานจากศูนย์เอราวัณ ขณะนี้มียอดประชาชนผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับทหาร

วันที่ 13-15 พฤษภาคม 2553 จำนวน  22  ราย  บาดเจ็บ 194  ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 25  แห่ง

ขณะนี้คนเสื้อแดงได้ตั้งเวทีย่อยกระจายอยู่หลายเขตทั่วทั้งกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นเวทีราชประสงค์ ดินแดง บ่อนไก่ คลองเตย ลาดพร้าว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมทั้งเวทีในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสันติ  สงบ ปราศจากอาวุธ แล้วรัฐบาลจะส่งกำลังไปปิดถนน ปิดเส้นทางเดินรถ เดินเรือ ตัดน้ำ  ตัดไฟ ตัดสายโทรศัพทืไหนกันล่ะนี่  หรือจะสลายการชุมนุมให้หมดทุกเวทีทุกด่าน คาดว่าต่อไปประชาชนคงชุมนุมกันทุกเขตในกรุงเทพ อย่าทำเรื่องง่ายๆธรรมดาๆให้เป็นเรื่องยากเลย ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเถอะ ถึงจะใช้สื่อโฆษณาชวนเชื่ออย่างไรก็คงยากเสียแล้ว  เพราะตลอดเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมารัฐบาลพูดมากกว่าทำ แล้วใครจะเชื่อถือล่ะ ยิ่งประชาชนที่เขาเป็นกลางๆไม่ได้อยู่สีไหนเขาได้สัมผัสพบเห็นกับเหตุการณ์จริงๆเขาจะเชื่อตาตัวเอง  หรือจะเชื่อที่สื่อบอก ตอนนี้สื่อก็เริ่มลังเลแล้วว่าจะรายงานข่าวอย่างไร

เพราะประชาชนเขาปิดทีวี เปลี่ยนช่องไปดูสื่อทางเลือก หรือถ้าจะให้ดีก็เข้าไปสังเกตการณ์เสียเลยว่าคนเสื้อแดงมาทำอะไรกัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี   เคยสัญญาว่าจะเลือกตั้ง 14 พ.ย. 2553        ลืมหมด

บอกโทรทัศน์ต่างประเทศว่า    ขอให้แดงยอมก่อนแล้วจึงจะเจรจา     ก็ลืมหมด  

คนอย่างนี้   จะจารึกเป็นประวัติศาสตร์ไทยอย่างไร  เสียสถาบัน  ???

เพราะทั้งหมดที่นายคนนี้พูด  ล้วนเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น  

ประชาชนฟังผมไว้นะครับ      "ทั้งหมดที่นายคนนี้พูด ล้วนเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น   "

รัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่คน ซาตานทั้งคณะ และจอมซาตาน

การพูดหลอกลวงบ่อยๆ ย่อมมีผลทำให้คนจับได้และไม่เชื่อถืออีกต่อไป แล้วประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนี่สำคัญมากนะ หากไม่มีความน่าเชื่อถือเท่ากับฉุดรั้งประเทศให้ถอยหลัง  ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนายกเด็กคิดอย่างไร อย่าลืมนะเรื่องปากท้องสำคัญมากๆ หากประชาชนต้องอดอยากยากจนทั้งประเทศเพื่อสนองกิเลสตัณหาความบ้าคลั่งของผู้มีอำนาจบางกลุ่ม ถึงเวลานั้นไม่มีใครที่จะรักคนอื่นมากกว่าตนเอง บางทีการหัวเราะทีหลังจะดังกว่า และจะดังไปชั่วกัลปาวสาน ตอนนี้รัฐบาลอาจจะหัวเราะได้ แต่คอยดูคนที่จะหัวเราะไม่ออกเป็นคนแรกคือ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ที่ตอนนี้อาจจะไม่รู้ตัวว่าได้ถลำตัวไปมากแล้วอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ภรรยาของนายกเวลาออกทีวีดูเหงาเศร้าสร้อยอย่างไรบอกไม่ถูกเหมือนคนที่รู้สึกว่ายืนอยู่คนเดียวในโลก ไม่รู้ว่านายกมองเห็นหรือไม่ ?