หน้าแรก | หน้ารวมกลุ่มเว็บบอร์ด | School of Horasatra | นิทานสนุก | ประวัติ 16 ตอนจากนสพ.ดี |
กระทรวงศึกษาธิการประกาศนโยบายสุดเจ๋งให้เด็กตั้งครรภ์มาเรียนได้ | |
ในฐานะที่ดิฉันเป็นครูคนหนึ่ง ได้สัมผัสกับปัญหาเยาวชนตั้งครรภ์ก็มาก แต่ไม่มีเด็กนักเรียนคนไหนใส่ชุดคลุมท้องมาเรียน มีแต่ลาพักการเรียนไป พอคลอดแล้วก็กลับมาเรียนใหม่จนจบ สถานศึกษาก็ไม่ได้ไล่ออกและ ไม่ต้องเที่ยวประกาศให้ใครรู้ว่าลาพักการเรียนเพราะตั้งครรภ์ เพียงเขียนเหตุผลว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพต้องลาพักรักษาตัว สถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาเขามีวิธีจัดการกับปัญหาโดยไม่ต้องไปตีฆ้องร้องปล่าวให้มันเป็นกระแส นักศึกษาที่มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนมักมีปัญหาเรื่องการไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เรียนไม่รู้เรื่องเครียด วิตกกังวลสูง บางรายที่เคยไปทำแท้งหรือมีบุตรต้องเลี้ยงดู มักมีปัญหาด้านสุขภาพกายสุขภาพจิต เมื่อถึงภาคเรียนที่ต้องไปฝึกงานกับสถานประกอบการ เด็กกลุ่มนี้จะอ่อนด้อยในประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าเด็กปกติที่ไม่เคยทำแท้งหรือมีภาระต้องเลี้ยงดูบุตร เป็นการเสียโอกาสที่ดีในชีวิต หลายคนเป็นภาระของพ่อแม่ต่อไปอีก | |
ผู้ตั้งกระทู้ ครูอาชีวะ :: วันที่ลงประกาศ 2010-07-15 22:19:29 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3220421) | |
ที่กระทรวงศึกษาและกระทรวงสาธารณสุขกำลังทำอยู่ในตอนนี้ คุณมองปัญหาสั้นเกินไปหรือเปล่า การรู้จักหักห้ามใจไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปมีเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ต้องส่งเสริมและพยายามตีฆ้องร้องปล่าวให้เป็นกระแสมากๆและต่อเนื่องควบคู่ไปกับการชี้ให้เห็นโทษของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควร ไม่มีเด็กคนไหนหลอกที่ตั้งครรภ์แล้วมีความสุข มีภาระมากมายต้องเลี้ยงดูบุตรลำบากทั้งตนเองและครอบครัว เรียนไม่ได้เต็มที่ ทำงานขาดประสิทธิภาพ มีความเครียดวิตกกังวล มีอารมณ์ไม่มั่นคง ซึมเศร้า ลองศึกษาวิจัยกับเด็กพวกนี้ดูซิว่าสมมุติฐานที่บอกมาเป็นจริงหรือไม่ และไม่ได้คิดเอาแบบมั่วๆแต่เกิดจากการได้ใกล้ชิดกับปัญหามาอย่างรอบด้านต่อเนื่องและยาวนาน แล้วจะรู้ว่าแนวคิดเรื่องให้เด็กอุ้มท้องไปเรียนได้ เป็นการมองแบบคนตาบอดคลำช้างหรือไม่ สังคมไทยไปกันใหญ่เพราะชอบให้คนที่มองอะไรแคบๆมาบงการทิศทางของสังคม และคงจะต้องเสียค่าโง่เช่นนี้ไปอีกนาน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ครูอาชีวะ วันที่ตอบ 2010-07-17 23:42:48 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3234571) | |
test | |
ผู้แสดงความคิดเห็น readyplanet วันที่ตอบ 2010-08-20 22:32:52 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3234576) | |
เด็กไทยมีปัญหามากในเรื่องเพศ เด็กผู้ชาย หรือคนไทยผู้ชาย มักมองว่าตนใหญ่กว่าเด็กผู้หญิง หรือผู้หญิง นี่คือปัญหาประชาธิปไตยในไทย มองสิทธิคนสองระดับ คือระดับผู้ชาย กับระดับผู้หญิง คนไทยผู้ชาย มักมองว่าผู้หญิงต้องรับใช้ตน ๆ มีสิทธิเรียกใช้ผู้หญิง หรือเลือกอะไร ๆ ก่อนผู้หญิง นี่เป็นข้อเท็จจริงในสังคมไทยจริง ๆ ในเรื่องเพศ เด็กผู้ชาย มักพูดจาหยาบคาย ประพฤติตนไม่สุภาพ ดูแคลน ดูหมิ่นผู้หญิง มักมองผู้หญิงว่าเป้นวัตถุทางความใคร่ของตนเท่านั้น ไม่ให้เกียรติ์ ในฐานะเป้นคน มีสิทธิ เสรีภาพ เสมอกัน นี่ก็เกี่ยวข้องไปถึงปัญหาประชาธิปไตยไทยอย่างมากเหมือนกัน
เราต้องสอนเด็กชาย หญิง ให้พูดจากันอย่างสุภาพ และพูดเรื่องเพศกันอย่างสุภาพด้วย อย่างแบ่งกันเป็นชนชั้น เด็กชายต้องปฏิบัติตนสุภาพต่อสตรีโดยสำนึกว่า เขาก็เป้นคน ๆ หนึ่งพอ ๆ กับผู้ชาย และมีสิทธิทางการปกครองเท่ากันกับผู้ชาย ในโรงเรียนทุกวันนี้ เด็กชายจำนวนมากประพฤติตนไม่ถูก มองเรื่องเพศอย่างกักขละ อันเนื่องมาจากขาดความเข้าใจเรื่อง เสรีชน เรื่องสิทธิพื้นฐานของคนในระบอบประชาธิปไตย ผู้หญิงก็มีสิทธิเท่า ๆ ผู้ชาย แม้สิทธิทางเพศก็เท่ากัน ควรเคารพในสิทธิของเขาและเมื่อนึกได้หรือยอมรับได้เช่นนี้ สายตาคนก็จะไม่ดูแคลนกัน หรือนึกเหยียดหยามกันในเรื่องเพศ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ไกรสิทธิ์ เสมาชัย วันที่ตอบ 2010-08-20 22:37:24 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3238813) | |
รัฐบาลบ๊องส์ส์ส์ ๆ ปิดเวบไซต์นับพันนับหมื่นเวบ แต่เวบโป๊วเต็มบ้านเต็มเมือง เฉย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า มันจะบ๊องส์ไปไกลขนาด คนบ้าใน รพ.สมเด็จเจ้าพระยา หรือเปล่า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2010-08-30 22:12:08 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3240946) | |
เวลามีการประชุม ทำไมครูอาจารย์ปล่อยให้เด็กชายหญิงหนุงหนิงกันเหลือเกิน มันไม่สุภาพ และไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และไม่คะนึงการศึกษาเรื่องวินัย เราต้องให้เด็กเรียนรู้ในการที่จะเคารพกันและกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ให้เรียนรู้วินัย หรือ discipline มาตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นคือการศึกษาระดับต้น ๆ เรื่องเสรีชน....ในเพศศึกษา . | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2010-09-02 22:30:18 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3241612) | ||||
| ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น แมงกุดจี่ วันที่ตอบ 2010-09-04 01:52:17 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3241613) | |
ขณะนี้ผลพวงที่ติดตามมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆกำลังแสดงผล วัยรุ่นไทยถูกพ่อแม่ตามใจอย่างมาก นักเรียนทุกระดับแทบจะทุกคนมีโทรศัพท์มือถือรุ่นที่มีราคาแพงใช้กันดาดดื่น แม้แต่ลูกชาวไร่ชาวนากรรมกรหาเช้ากินค่ำก็มีกับเขา ด้วยพ่อแม่มักเข้าใจว่าหากลูกไม่มีเหมือนเพื่อนลูกจะน้อยเนื้อต่ำใจ ขณะนี้ที่เป็นปัญหาอย่างมากคือนักเรียนมักใช้โทรศัพท์พร่ำเพรื่อไม่เว้นแม้แต่เวลาเรียนก็นั่งดูคลิป หรือใส่หูฟังเพลง ไม่ฟังครู เดินไปไหนเปิดเพลงไปตลอดทางโดยไม่เกรงใจครูที่กำลังสอนอยู่ในห้อง ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือความจำของเด็กสั้นมาก ฟังอะไรจับใจความไม่ค่อยรู้เรื่อง ครูภาษาไทยให้สอบท่องอาขยาน จะท่องได้เพียงบทสั้นๆ เท่านั้น แล้วมาสอบกับครู ครูต้องยืดหยุ่นให้ไปท่องบทต่อไป แล้วมาสอบใหม่หลายรอบกว่าจะเสร็จ เป็นเช่นนี้จำนวนมาก สันนิษฐานว่าเซลสมองของเด็กคงถูกทำลายจากคลื่นไมโครเวฟเพราะใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ เด็กจะไม่สนใจการศึกษาค้นคว้า ไม่อ่านหนังสือถ้าไม่ถูกบังคับ ขณะที่พ่อแม่ต้องหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลามาดูแลอย่างใกล้ชิด ข้าพเจ้าไปรับลูกที่โรงเรียนสอนพิเศษ เห็นเด็กๆทยอยเดินออกจากห้อง แทบจะทุกคนจะคว้าโทรศัพท์มือถือมาโทรก่อนเรียกผู้ปกครองให้มารับ ทั้งๆที่ผู้ปกครองก็ไปส่งไปรับทุกวัน และทราบดีว่าลูกเลิกเรียนเวลาเท่าไร แต่เด็กก็ไม่รู้จักการรอคอย และพ่อแม่ก็ไม่เคยชี้แจงแสดงเหตุผลให้ลูกรู้จักรอคอย ทำให้แกขาดความอดทนอยากได้อะไรพ่อแม่ต้องรีบสนองตอบเดี๋ยวนั้น และไม่ละเว้นแม้กระทั่งเรื่องเพศ ชอบใครก็ตามใจตัวเองไม่มีการยั้งคิด เด็กจึงมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย นี่คือความน่าเป็นห่วงว่าเยาวชนไทยจะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคในชีวิตได้อย่างไร เพราะพ่อแม่สนองความต้องการอยู่ตลอดเวลา ตามชนบทพ่อแม่จำนวนไม่น้อยยอมนำไร่นาไปจำนองเพื่อหาเงินมาปรนเปรอลูก สังคมไทยไม่ได้สร้างวินัยให้เด็กพอมีเหยื่อมาล่อเด็กจึงมัวเมาได้ง่าย น่าเป็นห่วงอนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร หากเยาวชนมีสติปัญญาตกต่ำ ขาดความอดกทนอดกลั้น ขาดความเพียรพยายาม พึ่งตนเองไม่ได้ ก็คงต้องเป็นภาระของพ่อแม่และสังคมต่อไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2010-09-04 02:17:11 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3243156) | |
วัยรุ่นไทย มีประเภทที่อยากได้มือถือเหลือเกิน แต่ฐานะยากจน แล้ววันหนึ่งก็มีโอกาสได้กับเขาบ้าง ก็เลยเอาใหญ่ วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร เอาแต่โทรศัพท์ อย่างนี้เรียกว่า ยาจกตื่นมี เหมือนอยากได้จักรยานยนต์ พอได้ก็เอาแต่เที่ยว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อย่างนี้ก็ ยาจกตื่นมี เหมือนกัน สุภาษิตบทนี้ เต็มว่าอย่างไร จำได้แต่ท่อนหลัง .......... ยาจกตื่นมี....
บางคนขายนาไปซื้อ จตุคามรามเทพ ยุคที่กำลังเฟื่อง .... อย่างนี้ก็มีในหมู่คนชนบทชาวนาไทย
แล้วก็มีการเห่อ อยากมีแฟนกับเขาบ้าง ส่วนมากคนขี้เหร่ ๆ เห่อที่สุด กลัวไม่มีแฟนลามั้ง
เป็นประเด็ฯของวัฒนธรรม คล้าย ๆ ๆ ๆ วัฒนธรรมศรีธนญชัย นั่นแหละ เต็มบ้านเต็มเมือง ต้องแก้ที่วัฒนธรรม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กงจักร เสมาคำ วันที่ตอบ 2010-09-07 21:29:30 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3248554) | |
มะพร้าวตื่นดก ยาจกตื่นมี ฮิ !!!! | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชาม เบญจรงค์ วันที่ตอบ 2010-09-18 00:28:40 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 115482 |