คนชมหลายคนว่ามีคุณธรรม  แต่ผมว่านี่คือ  หัวเก่า  อีกรายหนึ่ง   มองหน้าที่นักการเมืองเพียงการดูทิศทางการเมือง  วิเคราะห์ให้แม่นยำ แล้วรู้จักผันแปรไปตามทิศทางการเมือง   นี่คือ  นักการเมืองหัวเก่า สุดกู่ของไทย 

เป็นประเภททรยศต่อประชาธิปไตยอีกรายหนึ่ง ชัด ๆ

หดหู่... กับวังวนที่เลวร้ายเดิมๆ ...ยุคนี้มันปี พ.ศ.2499 หรือไงหนอ

นี่คือนักการเมือง ที่ไม่รู้การเมือง  ไม่รู้ประชาธิปไตย  เขารู้แบบเดิม ๆ ที่ ปชป.พาเรียนรู้   คือ รู้ทิศทางลม   และคนที่ได้รับนับถือว่ารู้ดีก็คือ  นายชวน  หลีกภัย  นั่นเอง    เป็นแบบอย่างให้นักการเมืองรุ่นน้อง ๆ  ศึกษาตาม    แล้วก็มี บรรหาร ศิลปอาชา   รู้ทิศทางการเมืองดีมาก   แล้วก็มี  สนั่น ขจรประศาสน์   แล้วก็มี   เนวิน  ชิดชอบ     และ  นี่ล่าสุด   กรุง  ศรีวิลัย 

มีความรู้ตื้น ๆ เพียงความเข้าใจว่า  เป็นนักการเมืองต้องศึกษาทิศทางลม    หรือทิศทางการเมือง   พร้อมที่จะแปรพักร์ได้   ด้วยเหตุผลอะไรก็ได้ 

ทางแก้ คือเขียนบทลงโทษไว้ในรัฐธรรมนูญให้หนักก่อน  สักชั่วระยะหนึ่ง   กว่าสำนึกรับผิดชอบในประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นในใจนักการเมือง  

ประเทศไทยไม่เจริญเพราะมีนักการเมืองประเภทที่ไม่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่เข้าใจความต้องการของประชาชน นายกรุง  ศรีวิไล

แกพูดอะไรจับไต๋ได้เลยว่าแกไม่มีความรู้เรื่องประชาธิปไตย  ไม่เข้าใจความสำคัญของการสร้างนโยบายพรรคการเมือง แกรู้แต่ว่าใครมีอำนาจขออยู่ด้วย  อย่าลืมนะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ได้อำนาจมาจากประชาชน  พิสูจน์มาแล้วมากกว่า 60  ปี  แม้พรรคการเมืองที่ นายกรุง  ศรีวิไลจะไปอยู่ด้วยก็ไม่ได้แสดงออกว่ามีความเข้าใจประชาธิปไตย ไม่รักประชาชน ทุกโครงการที่เข้าไปรับผิดชอบก็หาแต่ผลประโยชน์ ดูตัวอย่างคดีกล้ายาง ที่พรรคไทยรักไทยต้องมัวหมองอย่างมากก็เพราะมีคนกลุ่มนี้มาร่วมด้วย ยกตนข่มประชาชน อ้างว่าตนเองจงรักภักดีปกป้องสถาบัน ดีเลิศกว่าคนอื่น กล่าวหาประชาชนคนเสื้อแดงว่าจะล้มสถาบันทั้งที่ไม่เป็นความจริง เป็นนักการเมืองประเภทแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว ถนนขึ้นเขาใหญ่อยู่ดีๆก็ไปตัดไม้ทำลายป่า นี่หรือคือพรรคการเมืองที่ควรไปฝักใฝ่ ดีเหมือนกันพรรคเพื่อไทยจะได้ล้างบ้านทำความสะอาดเสียที เหตุการณ์ครั้งนี้จะได้พิสูจน์ให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่าใครเป็นนักการเมืองน้ำดี มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ฝักใฝ่อำนาจเผด็จการ คัดนักการเมืองน้ำเสียออกไป พรรคเพื่อไทยไม่ต้องไปหวั่นไหวกับนักการเมืองประเภทงูเห่า เพราะประชาชนเขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร กว่าจะได้ประชาธิปไตยต้องอดทนและรอคอยได้แล้วจะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ดูจังหวัดศรีสะเกษซิรับรองไม่มี ส.ส.เพื่อไทยคนไหนกล้าย้ายพรรคเพราะประชาชนที่นี่เขาเข้าใจนโยบายพรรคการเมืองอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่านโยบายแบบไหนให้โอกาส  แบบไหนให้เป็นทาน ถึงประชาชนคนเสื้อแดงที่นี่จะดูไม่ขึงขัง เหมือนเสื้อแดงในจังหวัดอื่น นั่นเพราะคนศรีสะเกษรักสงบ แต่นี่แหละคือคมในฝักรักใครศรัทธาใครด้วยเหตุผลมิใช่ด้วยอารมณ์หรือกระแสพาไป  ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ ส.ส.ที่นี่จึงต้องฟังเสียงประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง

ลาออกไปแสดงหนังเสียดีกว่า  แต่คงเป็นพระเอกไม่ได้แล้ว   เป็นผู้ร้ายกระจอก ๆ พอไปได้   คนเสื่อมศรัทธาสิ้นเลย   กรุง ศรีวิลัย    ....  

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับหิ่งห้อยบึงมะลู พรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ล้วนเกรงกลัวต่ออำนาจเผด็จการที่กดขี่ข่มเหงประชาชนคนไทยให้คุณภาพชีวิตตกต่ำยากจน ไร้โอกสที่ดี นักการเมืองกลุ่มนี้กลัวการไม่ได้เป็นรัฐบาล นี่คือนักการเมืองหัวเก่าที่ทำให้ฉุดรั้งประชาธิปไตยไม่พัฒนา  ดีล่ะให้ไปอยู่ร่วมกัน ล้างบางให้หมด ประเทศไทยต้องการนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เข้าใจประชาธิปไตย เข้าใจความต้องการของประชาชน และอำนาจของประชาชน เพราะเป็นอำนาจบริสุทธิ์ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนได้รับประโยชน์จากรัฐอย่างเท่าเทียมกัน  แต่อำนาจเผด็จการเป็นอำนาจที่มีความหลงผิด มีโลภะ โทสะ โมหะ ความถือตัวถือตนเป็นหลัก และมุ่งแต่ประโยชน์ของกลุ่มตน ไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน ในที่สุดประชาชนก็จะยึดอำนาจคืนเพื่อศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์