ทุกวันนี้ระบบธนาคารไม่เป็นธรรม  กรณีพักหนี้  น่าจะให้พักเฉพาะคนที่จำเป็นเท่านั้น     แต่รัฐบาลให้พักหมด   มีคนส่วนหนึ่งที่มีฐานะดีแต่อยู่ในฐานะหนี้รัฐบาลเหมือนกัน  แล้วได้ประโยชน์จากการพักหนี้ไปด้วย  เป็นการเอาเปรียบชาวนาผู้ยากจน 

สมัยนี้น้ำมันท่วมก็ให้ท่วมไปเพราะเลยไปแล้ว แต่รัฐบาลต้องมาดูว่าคราวหน้าจะแก้ไขอย่างไร     ถึงเราจะเคยชอบรัฐบาลทักษิณมาก่อนเพราะท่านแก้ปัญหาได้อย่างเด็ดขาด   แต่รัฐบาลไหนที่แก้ไขปัญหาได้  เราก็จะชอบเหมิอนกัน    นายกรัฐมนตรีต้องมาดูด้วยตนเอง  มาดูทางน้ำ  แม่น้ำ  ทางระบาย ตั้งแต่โคราชซึ่งเป็นต้นน้ำนี่  ไปถึง บุรีรัมย์ สุรินทร์ ทะลุไปถึงศรีสะเกษ และอุบล ๆ  เป็นปลายน้ำนี่ ว่าทางน้ำเป็นอย่างไร   วางแผนการระบายน้ำให้ทั่ว ๆ สิ    เตรียมการหลาย ๆ อย่างไว้เลย  ไว้ต้อนรับปีหน้า  ฝนหน้า     และดูว่าประชาชนมีปัญหารอบตัวจริง ๆ  อย่างไร   พูดแล้วก็ต้องทำ  ไม่ใช่พูดไปเพียงปลอบใจจะกลายเป็นซ้ำเติมความรู้สึกของประชาชนผู้เดือดร้อนไปเปล่า ๆ   ประชาชนเดือดร้อนเพราะปัญหาความไม่เป็นธรรมในชนบทมากมายหลายเรื่อง ล้วนแต่กระทบความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ทั้งนั้น   ในขณะนี้มีเรื่องหนึ่งคือความไม่เป็นธรรมในเรื่อง ไฟแนนซ์   เช่นเรื่องการกู้ยืมเงิน ใช้หนี้ไม่ทันก็โดนยึดที่ดินที่นา  อย่างไม่เป้ฯธรรม    และเรื่องผ่อนส่งรถ  บริษัทเอาเปรียบประชาชนมากเกินไป   เขาขาดสัญญาเพียง 3 เดือนก็ยึดรถกลับคืนไปได้แล้ว  ทั้ง ๆ ที่เขาผ่อนมาเป็นเงินแสนแล้ว  อย่างนี้  ไม่เป็นธรรม ส่อเจตนาเอารัดเอาเปรียบประชาชนอย่างชัดเจน  ไม่ใช่การอนุเคราะห์หรือการส่งเสริมการงานอาชีพหรือความอยู่ดีกินดีของประชาชน  แต่เป้ฯการทำลายประชาชน     เช่นเดียวกับการจำนำจำนองที่ดิน  ระบบนี้ทำให้ชาวนาสูญเสียที่ดินไปเรื่อย ๆ อีกหน่อยคนไทยจะไม่มีที่ดินอยู่   จะเสียที่ดินให้ต่างชาติหมด  และต่างชาติจะครอบครองประเทศไทยแทน  ถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไข 

โดยหลักการประชาธิปไตย และโดยสปิริตประชาธิปไตย   รัฐบาล นายกรัฐมนตรีนี้เป็นผู้รับใช้   ประชาชนเป็นเจ้านาย    รัฐบาลรู้สึกหรือไม่ว่า สถานการณ์เช่นนี้แหละที่รัฐบาลอาจจะได้รับการพิจารณาว่า  สมควรอยู่หรือไม่ 

ดูว่ามีความสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชน  ซึ่งในที่นี้ ประชาชนอยู่ในฐานะเจ้านาย  ได้เป็นที่ถูกใจประชาชนหรือไม่ ??

เราย่อมหวังว่ารัฐบาลจะต้องรีบเร่ง  กระตือรือร้นอย่างที่สุด  เพราะอะไร   เพราะตนอยู่ในฐานะลูกจ้าง   เจ้านายเขาจ้างให้ดูแล  เมื่อเจ้านายเดือดร้อนเช่นนี้   จะอืดอาดล่าช้าอยู่ไม่ได้  ผิดใจนักไล่ออกทันที  

แต่เราจะเห็นว่า   รัฐบาล  ข้าราชการ  ท่าทางเป็นผู้ดี  เป็นเจ้าขุนมูลนายเหลือเกิน   ยังอยู่ในสำนึกล้าหลัง เก่า ๆ  ทำตัวเป็นนายประชาชน   เวลาออกมาตนนั่งเก้าอี้สูง ประชาชนหมอบราบคาบแก้วคอยรับเมตตา....

นั่นบ่งไปถึง ความไม่เข้าใจในหลักการของประชาธิปไตย   และขาดสปิริต    ทั้งสปิริตของคน ๆ หนึ่ง  มนุษย์คนหนึ่ง อันเป้ฯพื้นฐานของความเป้นคนอยู่แล้ว    และทั้งขาดสปิริตของความเป้นประชาธิปไตย  

สปิริตประชาธิปไตยนั้นคือ  ความสามารถ   ถ้าเราทำอะไรไม่ได้ไม่เป็นเลย  แล้วจะอยู่ให้อับอายขายหน้าไปทำไม   ก็ออกไปเสีย    เขาจะได้จ้างคนมาทำงานคนใหม่   ถ้าคนใหม่ทำอะไรยังไม่เป็นอีก  ก็ไล่ออกอีก  แล้วหาไปจนกว่าจะมีคนเก่งเข้ามา   นี่เป็นสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย     และเป้ฯธรรมเนียมหรือวัฒนธรรมของระบอบสำหรับสังคมที่มีจิตใจเจริญแล้ว  เช่นญี่ปุ่น  อเมริกา  อังกฤษ  ฯลฯ  

แต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์    ขณะนี้แหละกำลังพิศูจน์อีกหนหนึ่ง ถึงความไม่ประสีประสา   แล้วยังไร้สปิริต  ไร้ความอับอาย.........ขายหน้าไปทั่วโลก  

ขนาดนายบันซีมูน  เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ มา   ยังตีความหมายเขาไม่ออก

เขาเป็นผู้ดีประชาธิปไตย เขาจะออกปากออกมาได้อย่างไรว่า   ที่คุณทำอยู่นี้ ไม่เป็นประชาธิปไตยเลย  ออกไปเสีย  .......  เขาจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร   เขาทำได้แต่แสดงความหมายเงียบ  ....  กระนั้นก็ยังไม่รู้ความหมายของเขา...

ประชาชนต้องตายก่อน   เกิน 99 ศพตายได้จริง คนไทยโชคดีที่ได้คนหนีทหารเป็นนายกฯ

น้ำท่วมเงียบสงขลา  ภายหลังท่วมอีสาน และภาคกลาง   ตายเกือบร้อยศพอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลเด็ก    โดยมีโคราชตายมากที่สุดและเสียหายมากที่สุด   ข่าวว่า คาราบาวไปเล่นที่หาดใหญ่    กลางคืนพักโรงแรม  เช้าน้ำท่วมมิดหลังคารถกลับบ้านไม่ได้    รายงานโทรทัศน์ว่าน้ำท่วม อ.ระโนด  หาดใหญ่  และสงขลา   ท่วมสูงถึง 3 เมตร  ...... (ท่วมหัวคน)    รัฐบาลเด็กยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนกระทั่ง 3 ทุ่มวันนี้  ประชาชนน้ำท่วม ไม่ทราบเป็นหรือตายไปเท่าไร   ไม่มีเรือไปช่วยเอาข้าวปลาอาหารไปส่ง  รัฐบาลปชป.ปล่อยประชาชนของตนไปตามยถากรรม     ขณะเดียวกัน นายชวน หลีกภัยกับคณะ  นักกฎหมาย  ทนายความ  พรรคประชาธิปัตย์  ก็สนใจเรื่องฟ้องร้อง......  ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่  .....   เบี่ยงเบนประเด็ฯความสนใจไป  แต่นั่นแหละสะท้อนให้เห็นว่านักกฎหมายไทย ทำงานอะไรไม่เป็น ไม่มีลักษณะการสร้างสรรค์และการพัฒนาไปเลย  เป็นเวลานานมาแล้ว   นักกฎหมายมีบทบาทอยู่เพียงการฟ้องกันไปกันมา  นักกฎหมาย มีความหมายพอ ๆ กับคำว่า  ทนายความ  เอาแต่คิดฟ้องร้อง....  ฟ้องกันไปฟ้องกันมา หากินที่ตีนโรงตีนศาล    ทำลายประเทศชาติ   เพราะนี่เป็นการกีดกันมิให้สังคมก้าวไปข้างหน้า  เหตุที่ไม่อาจจะสร้างสรรค์  ริเริ่ม ไปนอกกรอบเดิม ๆ ได้  .....  และวงการกฎหมายไทย  ขาดสิ่งที่เรียกว่า   งานวิจัยทางกฎหมายกับสังคม โดยสิ้นเชิง   ....   นั่นคือสิ่งที่ได้เห็นจากพรรคการเมืองใหญ่คือ พรรค ประชาธิปัตย์ ที่เต็มไปด้วยนักกฎหมาย ทนายความ  .......    ที่ขาดวิสัยทัศน์  ไม่เคยเข้าใจการเมืองในฐานะ  การนโยบายเลย    แม้ได้เป็นรัฐบาล  ก็ยังเลี่ยงไปแถลงนโยบายนอกรัฐสภา คือกระทรวงการต่างประเทศได้อย่างไร   ???     นั่นก็เพราะ เป็นเพียงพรรคทนายความ หัวเก่า ๆ   ............. ที่ไม่รู้วิธีการของการสร้างสรรค์นโยบายการเมืองอย่างไร     เท่านั้นเอง   

แล้วน้ำท่วมเมืองใต้   รัฐบาล ปชป.ไม่ได้เตรียมรับไว้เลย     นั่นเป็นสิ่งที่ย่อมเกิดได้เป็นธรรมดา ของการเมืองที่ไร้นโยบายอย่างพรรคประชาธิปัตย์  ......

ถ้าพรรคการเมืองเข้าใจนโยบาย  มีนโยบาย  แถลงนโยบายโดยเปิดเผยเป็นที่รู้ไปทั่วสู่ประชาชนทุกคนผู้มีสิทธิ์ในการปกครองประเทศตามระบอบประชาธิปไตย     ก็จะไม่มีคณะกรรมการอะไร ๆ  อย่างที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ตั้งขึ้น  เช่นไม่จำเป็นต้องมีคณะนายอานันท์   ไม่จำเป็นต้องมีคณะนายประเวศร์   ไม่จำเป็นต้องมีคณะนายสมบัติ  ไม่จำเป็นต้องมีคณะนาย.......  ฯลฯ  

นี่คือความสำคัญของพรรคการเมืองกับนโยบาย    ซึ่งรัฐบาลเด็ก  ประชาธิปัตย์  อ่อน  จนแทบว่าไม่น่ามีสิทธิ์จะมาเป็นรัฐบาล  เนื่องเพราะก่อนมาเป้ฯรัฐบาลก็ไม่ได้แถลงนโยบาย   หลังเป้ฯรัฐบาลก็แอบ ๆ ไปแถลงแบบงุบงิบ ๆ  ไม่เปิดเผย  ไม่รู้ทั่วถึง     และเมื่อน้ำท่วมมาแล้ว ยังทำอะไรไม่เป็นอีก ก็น่าจะพิศูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า ไร้ความสามารถ ไม่สมควรบากหน้าอยู่ต่อไปอีกเลย  อะไรในการบริหารของระบอบประชาธิปไตย   นั้นคือ  ประชาชนไม่สามารถจะรอได้     และไม่จำเป็นเลยที่จะให้โอกาสใคร  เพื่อพิศูจน์ฝีมือหรือแก้ตัวอีกครั้ง   เพราะสมมติฐานแห่งประชาธิปไตยนั้นก็คือ  ประชาชนทุก ๆ คน สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทุกคน .....

หมายความว่า   อยุธยาไม่สิ้นคนดี .......   มีคนเก่งคนดีอีกมากมาย   ใช่ว่ามีแต่คุณคนเดียวเมื่อไร    เมื่อคุณทำอะไรไม่ได้  ไม่เป้น  ก็ออกไป......ไม่อดคนเก่งจะเข้ามาทำงานแทน   ....  นี่แหละ  ประชาธิปไตย   (และโดยวิธีนี้  คนไทยก็ไม่ต้องฆ่ากัน...  ไม่มีโอกาสที่คนไทยจะฆ่ากันเอง)  

ขนาดทำงานไม่เป็นท่ามา 2 สมัย  ยังไม่ละอายใจ   อยากเป็นอีกสมัยหนึ่งเป็นสมัยที่ 3  นั่นคือนายชวน หลีกภัย    ....

คือเป็นประเด็นในแง่ว่า  ประชาธิปไตยย่อมมีประชาชนทุกคนพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้เสมอ......   แล้วคุณคนเดียว ทั้ง ๆ ที่พาประเทศไทยไปเป็นหนี้เป็นสินต่างชาติ และทั้งแสดงความไร้สามารถมาแยอะแยะแล้ว   ยังไม่นึกละอายใจ    แทนที่จะหยุดเปิดโอกาสให้คนอื่น   เปล่า   .............    นั่นแหละคือความไม่เข้าใจประชาธิปไตย  และไร้สปิริตแห่งประชาธิปไตย .......

จริงครับ.......อย่าดูถูกประชาชน  ว่าเขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้    ..........    ประชาธิปไตยจะเจริญต้องมองอย่างเคารพประชาชน  ......  และมองความจริงเกี่ยวกับประชาชน   มองสมมติฐานของประชาชนให้ถูกต้อง......   ใช่หรือเปล่าครับ ?

หมายถึงตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งด้วยนะครับ    ไม่ใช่มีคนเก่งคน ๆ เดียว   .........   มีคนเก่งพร้อมที่จะเข้าสวมแทนตำแหน่งคุณอยู่ทุกเมื่อ   แล้วคุณจงมาคิดให้ถูก   นั่นคือ   อย่าคิดครองอำนาจไปชั่วชีวิตคุณ...  ซึ่งเป้นไปไม่ได้    เพราะประชาชนเขาพร้อมจะไล่คนไร้ความสามารถออกไปได้ทุกเมื่อ   นี่แหละ  ทางแห่งประสิทธิภาพของประชาธิปไตย  

นายชวนหรือแกไม่มีทางลามือจากการเป็นนักการเมืองหรอก  เพราะตลอดชีวิตของแกไม่เห็นทำอาชีพอะไร  นอกจากเล่นการเมือง ถ้าแกไปจากอาชีพนี้แล้วก็จะไปทำอะไร ธุรกิจอะไรก็ทำไม่เป็น  นี่ก็ทำถ้าจะส่งลูกชายคนเดียวให้เจริญรอยตาม  สงสารประเทศไทยจังหากต้องมีนักการเมืองที่ทำอะไรไม่เป็น  นอกจากเล่นการเมืองไปวันๆ  ในยุคนี้คนไทยเขาฉลาดมากแล้ว โดยเฉพาะนายกทักษิณท่านได้แสดงฝีมือเปรียบเทียบให้ประชาชนได้ตาสว่างเห็นกึ๋นของนักการเมืองและพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มิใช่ประชาธิปไตยจอมปลอมที่พรรครัฐบาลกำลังแหกตาหลอกประชาชนอยู่ในขณะนี้ 

แมงกุดจี่สรุปได้ชัดเจนมาก.......  แล้วยังไงต่อละครับ  ?????

นายชวนหัวแกคงปลื้มปิติกับฉายา " มีดโกนอาบน้ำผึ้ง " มั้งแกจึงพยายามให้ลูกชายคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนเจริญรอยตาม  ในสมัยที่ท่านนายกทักษิณบริหารประเทศ  เด็กชาย...คนหนึ่งแกก็ด่าว่าท่านเสียๆหาย  แต่นายกในขณะนั้นท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านบอกไม่ถือสาเด็ก ทำให้เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมหุบปากแทบไม่ทัน คนสมัยนี้เขาฉลาดแล้ว เขามีสื่อที่เปิดหูเปิดตาโลกทั้ง 360 องศา  เขาไม่ต้องการนักการเมืองดีแต่พูด พูดให้ดูดี แต่ทำไม่ได้  ดูจากนายกคนปัจจุบันน้ำท่วมชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง แกไม่แสดงภาวะผู้นำในการแก้ปัญหา  แต่ไปตั้งคนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรไม่ได้ มัวแต่แจกยิ้มแอ็คชั่นถ่ายรูปอยู่ได้  เปรียบเทียบกับสมัยที่ภาคใต้โดนคลื่นสึนามิ เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก  แต่ผู้นำมีความเฉลียวฉลาดแก้ปัญหาได้ฉับไว  จนคนไทยและนานาชาติยอมรับสรรเสริญไปทั่วโลก  โบราณท่านถึงกล่าวว่า  ถ้าจะดูความกล้าหาญมีความสามารถของผู้นำให้ดูในยามมีภัย  พรรคฝ่ายค้านเขารู้ว่าประชาชนเดือดร้อนเขาลุยช่วยชาวบ้านอย่างเต็มที่โดยไม่เลือกสี  อวสานของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีกลยุทธในการใช้ปากทำงานและโฆษณาชวนเชื่อถึงความดีว่าเป็นพรรคซื่อสัตย์สุจริตนักการเมืองมีคุณธรรม  เพื่อทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองมานานถึง 76 ปี คงจะมาถึงอีกไม่นานนี่แล้วเพราะตอนนี้  ทุกกระบวนท่าที่ ปชป. งัดมาใช้ประชาชนเขาเห็นความจริงจนหมดเปลือกแล้ว

แทนที่จะรีบเร่งรัดสั่งการออกไปอย่างฉับพลันทันเหตุการณ์  กลับไปมอบอำนาจให้รัฐมนตรีอื่น   ก็เพราะฉะนั้นจึงเรียกแต่เริ่มแรกแล้วว่า  รัฐบาลเด็ก  ..........   ทำอะไรไม่เป็น   .............   ไปมอบให้นายอานันท์บ้าง  นายประเวศรบ้าง  นายสมบัติบ้าง   นายคณิต บ้าง   นั่นก็เพราะอยากเป้นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้คิดว่า  จะไปทำอะไร  อย่างไร  ?     

รัฐบาลเด็กไร้นโยบายบริหารประเทศโดยสิ้นเชิง    แรก ๆ ก็ลอกเลียนของไทยรักไทยไปอย่างไม่นึกละอายใจ   ..

แล้ว  ก็ได้เห็น...........   ได้ฟัง........    คำพุดของนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์........   ไม่รูอะไรเลยเกี่ยวกับการไร่การนา........  ต้องให้ชาวบ้านสอน................   อย่างนายอภิร้กษ์ โกษะโยธิน   มีปัญหาอยู่เฉพาะหน้า  แกไม่พูดว่าจะทำอย่างไรบ้าง   แต่แกไพล่ไปเน้นเรื่องระยะยาวข้างหน้า..........พูดไปถึงเรื่องข้างหน้า ระยะยาวไปนู้น......... 

อย่างนี้แหละ  จึงไม่เคยชนะการเลือกตั้งสักที

อย่างนี้แหละครับ   ประชาธิปไตยจึงให้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์และขับไล่ไปเสีย.......   เพื่อให้คนอื่นเข้ามาทำงานแทน    นี่เป้นสิทธิของประชาธิปไตย...

วิธีแก้ปัญหาของพรรคแมงสาป  ครั้งนึงเคยแก้ปัญหาโสเภณีเด็กด้วยการ รออีก 2ปี โสเภณีเด็กก็โตแล้ว

แก้ไข้หวัด 2009 ** ประชาชนเป็นเอง ถ้าไม่หายเอง ก็ตายเอง (ตายเยอะด้วย)

น้ำท่วม **  ท่วมเอง เดี่ยวมันก็ลดเอง

 คนไทยโชคดี หนีทหารแล้วจะได้ดี

ทุกวันนี้  คนใหญ่คนโตที่เคยออกมาพูดผ่านสื่อไปทั่วโลกว่าเมืองไทยโชคดี  ที่มีนายกชื่ออภิสิทธิ์ แกรู้หรือยังว่าวิสัยทัศน์แกใช้ไม่ได้หลงยุคนายกคนปัจจุบันยังไม่เคยประสบความสำเร็จในการทำงานอะไร   ไม่ว่างานการเมืองหรือเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อย จปร. ก็มีวันลาตั้งมากมายเกินกว่าที่ระเบียบกำหนดจะเป็นแบบอย่างที่ดีและประสบความสำเร็จได้อย่างไร แล้วตอนที่คนพูดแกเป็นนายกถึง 2 สมัย

ถ้ามีวิสัยทัศน์เช่นนี้  ประเทศไทยมิเสียโอกาสแย่หรือ ผู้หลักผู้ใหญ่ต่อไปจะพูดอะไรต้องคิดให้รอบคอบ มิฉะนั้นจะเสียผู้ใหญ่ เสื่อมเสียความศรัทธาเมื่อความจริงปรากฏ

อ่อนอกอ่อนใจกับประเทศไทยจังเลย    น้ำท่วมซ้ำ ๆ ซาก ๆ      เปล่าไม่ได้อ่อนใจกับการระดมช่วยเหลือน้ำท่วม   แต่อ่อนใจกับสถาบันทั้งปวง  โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ระดับมหาวิทยาลัยของชาติ   สถาบันการเมือง  โดยเฉพาะพรรคการเมืองเอง   และรัฐบาลปัจุบัน ......

จริงอยู่มีการร่วมมือกันช่วยน้ำท่วม   แต่เราไม่เคยเห็นมีความกระตือรือร้นในการศึกษาปัญหาน้ำท่วมเลย  

มหาวิทยาลัยมีไว้ทำไม   ทำไมไม่ออกไปศึกษา   เพื่อทำการศึกษาข้อมูลและโครงการวิจัยให้ต่อเนื่อง .......   ไม่ทำเรื่องนี้แล้วจะไปทำอะไร ????  ไม่ทำขณะนี้แล้วจะได้โอกาสทำอีกเมื่อไร ???     พรรคการเมืองทำอะไรอยู่   พรรคการเมืองทุก ๆ พรรคการเมือง คุณจะต้องสร้างนโยบาย ใช่ไหม   แล้วนิ่งเฉยอยู่ทำไม   ทำไมไม่ออกไปเก็บข้อมูล  เพื่อการวิจัย และสร้างนโยบาย........   เพื่อหาวิธีการที่จัดการกับปัญหาให้ชงัด ๆ 

หน่วยงานรัฐบาล ที่เฉยเมยยิ่งกว่าเฉยเมย..... ในด้านการศึกษา เก็บข้อมูล เพื่อการวิจัย   ก็คือ  มหาดไทย   เกษตร   ........ วัฒนธรรม ....

และนี่   สภาวิจัยแห่งชาติ   ............    ตั้งเอาไว้ทำไม.......   ยุคนี้เป็นยุคงานวิจัย  ................   ทำไม่เป็นก็ลาออกไปเสียเถิด..... โละของเก่าเสียที.................   

     ปชป.แห่งรัฐบาลเด็กยิ่งไม่เอาไหน 

เนเธอร์แลนด์เขามีพื้นดินต่ำกว่าระดับน้ำทะเล  น้ำยังไม่ท่วม เดนมาร์คเขาสร้างโรงเก็บพลังงานจากธรรมชาติแม้กระทั่งพลังงานจากฟ้าผ่าเขายังเก็บมาใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ประเทศเขาจะออกแบบให้มีสิ่งก่อสร้างและแหล่งน้ำทุกๆที่  เพื่อให้มนุษย์อยู่กับน้ำได้และธรรมชาติไม่ถูกรุกราน แสดงให้เห็นว่าประเทศที่เจริญแล้วเขาให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัย  และนำสมองของคนเก่งๆมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง  เมืองไทยโชคดีหรือที่อำมาตย์เขาคัดเลือกคนอ่อนหัดทั้งความรู้และความสามารถมาบริหารบ้านเมือง หากไม่รีบแก้ไขความล้าหลังหายนะคงมาถึงแน่ๆ

เนเธอร์แลนด์เขามีพื้นดินต่ำกว่าระดับน้ำทะเล  น้ำยังไม่ท่วม เดนมาร์คเขาสร้างโรงเก็บพลังงานจากธรรมชาติแม้กระทั่งพลังงานจากฟ้าผ่าเขายังเก็บมาใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ ประเทศเขาจะออกแบบให้มีสิ่งก่อสร้างและแหล่งน้ำทุกๆที่  เพื่อให้มนุษย์อยู่กับน้ำได้และธรรมชาติไม่ถูกรุกราน แสดงให้เห็นว่าประเทศที่เจริญแล้วเขาให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัย  และนำสมองของคนเก่งๆมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง  เมืองไทยโชคดีหรือที่อำมาตย์เขาคัดเลือกคนอ่อนหัดทั้งความรู้และความสามารถมาบริหารบ้านเมือง หากไม่รีบแก้ไขความล้าหลังหายนะคงมาถึงแน่ๆ

อ่อนใจกับระบบการศึกษาไทย  ระดับมหาวิทยาลัย  ขั้นปริญญาเอก  ศระดับาสตราจารย์ไปตาม ๆ กัน    ยังไม่ประสีประสากับงานวิจัยเลย (เห็นชอบทำโพล   งานของเด็ก ๆ ในประเทศฝรั่ง)    

อเมริกัน   น้ำไม่ได้ท่วมประเทศเขา   แต่เขาออกไปศึกษาวิจัยน้ำท่วมในทุ่งใหญ่......  เขาอุทิศตนทั้งชีวิตเพื่อตามศึกษา  เพื่อให้ได้รู้หลักวิชา....... เกี่ยวกับ ฤดูกาล  ภัยแล้ง  และน้ำท่วม  อันกระทบชีวิตสัตว์ป่าในทุ่งกว้าง   (ดูงานศึกษาวิจัยสัตว์โลกซี....)

ของเราน้ำท่วมทั้งประเทศ ..........................  หามีคนคิดงานวิจัยศึกษาแต่อย่างใดไม่เลย   แม้แต่สถาบันเดียว  ...........

พรรคกากรเมืองก็ไม่ทำงานของพรรคการเมือง  นี่เป็นความบกพร่อง   ในเมื่อพรรคการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยหมายถึง  การเตรียมคณะไว้เพื่อเข้าปกครองประเทศ  เพื่อเป็นรัฐบาล   ................   แล้วพรรคการเมืองจะบริหารงานไปอย่างใด   ในเมื่อไร้สติปัญญาที่จะสร้าง เตรียมนโยบายที่ถูกต้องเอาไว้  ..............  ตัวอย่าง.... ประเทศนี้พรรคการเมืองทุกพรรค จะต้องสนใจนโยบายการเกษตร  และเป้าหมายคือประชาชนตามท้องไร่ท้องนา  ที่พวกเขาประสบหายนะอย่างใหญ่หลวงอยู่ในขณะนี้   เพราะพวกเขาเป้นชนส่วนใหญ่    ......  ประเด็นคือ ภัยแล้ง  น้ำท่วม  สินามิ   ที่เกิดซ้ำซาก   แต่ไม่มีใครคิดศึกษา   น้ำสำหรับการเกษตร  และน้ำที่ไม่ทำอันตรายแก่เกษตรกร  ...............

แต่หายนะมาขนาดใหญ่  ป่านฉะนี้แล้ว   หาพรรคการเมืองใดมีความคิด ริเริ่มการศึกษาวิจัยน้ำท่วมครั้งนี้ไม่เลย     น่าเศร้าแท้ ๆ..

แล้วพรรคกากรเมืองจะสร้างนโยบายที่ดี ที่ถูกต้องตรงประเด็นได้อย่างไร  ????

ดูตัวอย่างพรรคประชาธิปัตย์ซิ........................ทำอะไรไม่เป็นเลย..........  ทุกยุคมาตั้งแต่ได้เป็นรัฐบาลมีแต่สร้างความหายนะให้ประเทศชาติ  และชาวไร่ชาวนา เกษตรกร   ปชป.จึงไม่มีวันชนะใจประชาชน   โดยเฉพาะ  อีสาน.............

นอกจากไม่คิดศึกษานโยบายน้ำท่วมแล้ว  ยังออกมาเบี่ยงเบนประเด็ฯไปเสีย  เช่นนายไตรรงค์  สุวรรณคีรี  สามสี  ไปพูดว่า...ชิมิ   ไม่ควรใช้  ............  ไม่เห็ฯเข้าเรื่องเข้าสถานการณ์เลย

แล้ว  ตุลาการรัฐธรรมนูญ  มีอะไร.............  วุ่นวายไปหมด

ตุลาการรัฐธรรมนูญหรือครับ...............  ไล่ออกให้หมด......................  หน้าด้านน่าดู......................   คอยแต่จะช่วยพวกเดียวกัน  ไม่สนใจข้อเท็จจริง  และเสียงประชาชน

ท่าดีทีเหลว    ดูฉลาด  แต่อมโง่   ไปเสียเลย  ไปให้หมด...

อึดอัดกับ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจัง.............................. เห็นในข่าวทีไรไม่สบายใจทุกที           แกไม่ฟังหรอกครับเสียงประชาชนพื้น ๆ เช่นเรา  เขา.......   เขาถือว่าเขาสูงสุดแล้ว  ไม่ฟังใครทั้งสิ้น.................   แต่ก็  อมโง่   อย่างคุณคนคุ่ยว่าแหละครับ

น่าเศร้าใจจริงกับประเทศไทยยุคนี้  ยุคหลังปฏิวัติโดยคณะทหารสนธิ บุณยรัตนกลิน  19 ก.ย.2549   ประเทศไทยทรุดลงทั้งประเทศ     มาบัดนี้แทบสิ้นประเทศ.............................จริง.................   จะเอาอะไรกินกัน...........

จะเอาอะไรไปขาย .........   ทุกวันนี้นักศึกษาหญิงก็พอขายอะไร ๆ ได้บ้าง  ได้เปรียบนักศึกษาชาย    ....   หลังน้ำท่วม  ก็คงงัดเอามาขายได้อย่างไม่มีใครอาจจะว่ากล่าวได้   เพราะคนจะอดตาย  ก็ต้องขายของหากิน  เอาชีวิตรอด  ใคร ๆ ก็จะว่ากันไม่ได้     สังคม วัฒนธรรมก็จะเสื่อมทรามลง  แม้ว่าคนใน  กท.วัฒนธรรมกลับยิ้มอยู่  ไม่ประสีประสา.....

เรื่องเศร้า   และจะเศร้าไปยิ่งกว่า  หากรัฐบาลเด็กคิดจะอยู่ต่อไปอีก.........................  อะไรจะด้านขนาดนั้น....

และ... ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ............   เป็นสัญลักษณ์แห่งความเศร้าโศกอันกินใจลึกซึ้งของประชาชน  ผู้รักประชาธิปไตย ...........

เพราะสถาบัน  ศาลสถิตยุติธรรม   กลายเป็น   ศาลสถิตไม่ยุติธรรม   ไปเสียแล้ว.......  นั่นประเด็นที่ 1   และ  2 ไม่นึกรำลึกถึงความที่ตั้งตนไม่เหมาะไม่ควรแก่ความเลื่อมใส ศรัทธา ของประชามหาชนเลยหรืออย่างไร  ????    อะไรจะขนาดนั้น....ขนาดโกงข้อสอบ   ก็เกิดขึ้นในวงการศาลสถิตยุติธรรม  แล้วจะสถิตยุติธรรมได้อย่างไร   ถามหน่อย ......??????

คดีที่  ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย  ถูกพิพากษาว่าไม่ผิด    ..............   แต่ดันตัดสินให้คนนอกซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อการขาย  ไม่ได้เป็นตัวการกระทำการซื้อหรือการขายเลย     เพียงเซนต์รับรองให้ตามระเบียบฯ ที่บังคับเอาไว้  เท่านั้น  มาว่ามีความผิด  และตัดสินลงโทษให้ถึงขั้นจำคุก..............   นั่นบ่งบอกอะไร ????    ทบทวนแล้วก็ทบทวนอีก  ร้อยครั้ง    ไม่เห็นอะไร นอกจากความลำเอียง  อวิชชา  และความอิจฉาริษยา อย่างโจ่งแจ้ง....  และบอกถึงการรวมหัวกันของสถาบันกฎหมายล้ายุค เพื่อทำลายล้างคน ๆ หนึ่งอย่างไม่ยอมให้ผุดให้เกิด  .............     นี่คือการชั่วร้ายจริง ๆ    ...........   นี่เป็นประเด็น........  ที่คน ๆ หนึ่ง ผู้รักความเป็นธรรม และจงเกลียดอธรรม    จะลืมเสียไม่ได้  ...........   เพราะนี่คือภัยอันร้ายแรงของสังคมการ    กระทำเช่นนี้  ไม่บังเกิดผลดีอย่างไรเลยแก่ประเทศชาติและสังคมโดยรวม 

นั่นแหละ  คนโง่ครองเมือง    ประเทศไทยจึงน่าเศร้าใจอย่างที่สุด    ในยามนี้   ยามที่จิตใจหนาวเหน็บ  เพราะลมหนาว  และน้ำค้าง  และเพราะข้าวที่ล้มจมสลายไปกับกระแสน้ำท่วมแผ่นดิน

เฮ้อ  !!!!    ยุครัฐบาลบาป..............

นั่งรถไปดูน้ำท่วมแล้วเศร้าใจ ซึ่งเวลาเช่นนี้เคยเต็มไปด้วยรวงข้าวที่เหลืองอร่ามรอการเก็บเกี่ยว  มา ณ วันนี้มีแต่ผืนน้ำขนาดใหญ่มองไม่เห็นแม้แต่ต้นข้าวเพียงต้นเดียว  น่าอนาจหนอเกษตรกรไทยหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินหากินด้วยความยากลำบากให้คนไทยได้มีข้าวปลาอาหารกิน แต่ใครจะรู้บ้างว่าชาวนาไทยต้องกินน้ำตาต่างข้าวมา หนี้สินท่วมท้น  เพราะอาชีพที่เขาทำอยู่พึ่งใครไม่ได้เลยแม้แต่รัฐบาลที่ควรจะมีนโยบายที่ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง พืชผลไม่ได้ราคา เพราะรัฐบาลมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะช่วยบริหารจัดการน้ำได้  แต่ก็ไม่มีนโยบายที่จะให้ฝันของเกษตรกรเป็นจริง อนิจจาเกษตรกรไทยคงต้องรอความเมตตาปรานีของธรรมชาติ  ซึ่งไม่รู้ว่าจะพิโรธขึ้นมาวันไหน  ประชาชนทุกอาชีพเริ่มประจักษ์แจ้งในความอ่อนด้อยไร้ความสามารถของรัฐบาล เขาพร้อมใจกันเปล่งเสียงอันดัง  และจะดังยิ่งขึ้นไปทั้งประเทศว่า  เขาไม่ต้องการนักการเมืองน้ำเน่า เขาไม่ต้องการรัฐบาลที่ไม่มีวิสัยทัศน์ทำงานไม่เป็น  ไม่มีความเฉลียวฉลาดในการบริหาร  นอกจากมากอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัว ประเทศไทยถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่อำนาจทั้งหมดมาจากประชาชน เสียงของประชาชนต้องมาก่อน  อย่าคิดว่าจะทำเหมือนพม่า  เพราะตอนนี้เองคนพม่าทั้งประเทศก็กำลังเปล่งเสียงขับไล่รัฐบาลทหารเผด็จการอยู่ และจะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆปลุกชาวโลกทั้งหลายให้ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทุกรูปแบบ

แม้การช่วยเหลือประชาชฃน   ก็หาความไว้วางใจรัฐบาลนี้ยาก   เพราะมาตรการการเงินหละหลวมโพรก   ถึงจะไม่มีการทุจริต  ก็เหมือนมีทุจริต  เพราะมาตรการที่จัดการกับการเงินนั้นไร้มาตรฐาน  ไร้ความละเอียดรัดกุมของประสิทธิภาพงาน

ประกอบทั้งเจตนาฉวยโอกาสหากินกับงบประมาณของนักการเมืองหลายพรรค ฝ่ายรัฐบาล  ..............

เราจึงได้พบเห็นการทุจริตของคนในรัฐบาลเด็กมาแต่ต้นแล้ว  เป็นลำดับ ๆ มา   แต่พวกเขาก็ช่วยกันปกปิด  กั้นกันเอาพวกเขาออกไปเสีย..........  ทหารที่อดหยากปากแห้ง  ก็โกงกินกับเครื่องไม้เครื่องมือทหาร  เช่นเครื่องตรวจวัตถุระเบิด  ต้นทุนเพียง 120 บาท  ซื้ออย่างไรในราคาถึง  5 แสนบาท   ................   คนจะคิดอย่างไร ถ้าไม่คิดว่า  ทหารหัวกระบือ....(ขอยืมคำมาใช้หน่อยนะครับ....พบในกระทู้อื่น)

คิดแล้วน่ากลุ้มใจจริง ๆ กับรัฐบาลอภิสิทธิ์    ตั้งแต่มีรัฐบาลหลังปฏิรูป 19 ก.ย.49 มานี้   ระเบียบการใช้จ่ายเงินไม่มีความรอบคอบรัดกุมเลย   ไม่มีใครประมาณการณ์ได้ว่า  เงินทองที่รั่วไหลออกไปจะขนาดมหิมาเท่าไรในรัฐบาลนี้ 

นอกจากนั้น  เป็นรัฐบาลที่มีแต่การจ่าย   จ่ายตลอดเวลา   แต่ไม่ปรากฎเลยว่ามาตรการหาเงินหาทองเข้าประเทศมีอะไร  อย่างไรบ้าง   แม้กระทั่งปัญหาค่าเงินก็มาดันซ้ำเติมเข้ามาในรัฐบาลเด็กน้อย......    แล้วจะได้เงินมาจากไหนมาบริหารประเทศ   นอกจากกู้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

หนีไปเสียเถิด   ประชาชนให้โอกาสมาจนเอือมระอาเหลือเกินแล้ว     ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แม้แต่นิดเดียว

 รัฐบาลที่เริ่มต้นด้วยการโกหกพกลม   ................    คงจบลงในคุก    ฐานสั่งฆ่าประชาชน 91 ศพ   และทำน้ำท่วมประเทศทั้งประเทศ....... ทำคนตายไปอีกกว่า 100  ศพ.......

เอือม .............  

ยุคทักษิณ เขาทำอะไร ๆ ได้หลายอย่าง  เรื่องหนีนอกระบบ หนี้ในระบบ  เขาก็ทำจริง  แก้ปัญหาได้จริง  ใครขูดรีด มีหลักฐาน  ไม่ว่าตำรวจหรือใครเขาทำจริง ปลด ไล่ออกจริง  จึงแก้ปัญหาได้  รัฐบาลนี้ก็มีมือมีเท้าเหมือนกัน  ทำไมจะทำไม่ได้  และก็น่าจะรีบแร่งทำ เพราะประชาชนเดือดร้อน  ต้องหากินหาใช้  เวลาไม่รอคอยใคร  แต่ถ้ารัฐบาลทำไม่ได้  ทำไม่เป็น  เราก็ไม่ได้ไล่ท่าน   แต่ก็ควรจะต้องพิจารณาตนเอง  ให้คนที่เขาทำได้เข้ามาทำการแก้ไขปัญหาของประชาชน   เพราะเราจะปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วหัวระแหงไม่ได้ 

ในการช่วยเหลือน้ำท่วม  ทำไมไม่ออกไปดูให้รอบคอบ  บางคนไม่มีนาเลยแต่ก็อ้างว่ามีนาน้ำท่วมเท่านั้นเท่านี้ไร่  ได้เงินชดเชยไป ได้อย่างไร   มีแค่2-3 ไร  บอกไปเป็น 10-20 ไร่ได้อย่างไร.........  ทำไมไม่ออกไปดูจริง ๆ    อบต. กับอำเภอ  ก็เชื่อถือไม่ได้หรอก   การช่วยเหลือของธนาคารก็ลักลั่นไม่เปHoธรรม   ถ้าเปHoเช่นนี้ไม่ต้องช่วยหรอก   ถ้าช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้หมดทุกคนที่เดือดร้อน  จึงจะเป็นธรรม......

แต่ที่น่าคิดก็คือ  รัฐบาลจะได้เงินที่ไหนมาช่วยประชาชนทั้งประเทศ   .........   อยู่เป้ฯรัฐบาลมาไม่เห็นเลยว่าทำมาหาเงินเข้าประเทศได้......  แล้วจะได้เงินมาจากไหนมาช่วยประชาชน............  จะไม่สร้างปัญหา  เอาเปรียบคนที่จะเข้ามาภายหลังหรือ..........