อย่าทำเป็นซีเรียสเลยน่า  คุณสำราญ  รอดเพ็ชร   หัดยิ้มเสียบ้าง   ดูหน้าตาจะเป้นเจ๊กลิ้มอยู่แล้ว......

ผมจะบอกสุภาษิตให้   เมื่อเรายิ้ม โลกทั้งโลกยิ้มกับเรา   แต่เมื่อเราร้องไห้  เราร้องไห้คนเดียว    ...............  ขอบคุณผมด้วยนะครับ..........................

ทำไม  มองให้สูงถึงไหน    ถึงระดับอาระยะบุคคลเลยหรืออย่างไร    .

นั่นมันนิทานโกหกของสันติอโศกต่างหาก......

พูดไป ๆ   คนหน้าเวทีก็ยิ่งสงสัย    ขัดความรู้สึกคนสมัยใหม่   ...........   ก็ค่อยหายไป ๆ      แล้วคอยฟังเหตุผลของเขา   เมื่อตอนจะเลิกชุมนุม.......................

แต่แน่ละ    พวกอาระยะบุคคลสันติอโศก  นำมาโดยตรงโดยโพธิรักษ์     .........    จะพิศูจน์ให้เห็นว่า  พวกเขาเป็นอาระยะบุคคลจริง  ด้วยแสดงการทรหดการอดทนผิดคนธรรมดาสามัญ...................พวกเขาจะกินน้อย   จะนอนน้อย    จะทำงานมาก   และนั่งนาน..........และเมื่อด่า   ก็ด่าแหลกราญ  ผิดมนุษย์ธรรมดา   ไร้สติสตัง........... ใช่เปล่า ?????

มาอีกแล้ว    หัวเหน่ง คลุมผ้าดำ    อาระยะบุคคลแห่งสันติอโศก   ชื่อ  สมณะจันทร์

มีสุภาษิตเพียบ............แดกดันคนอื่นว่าไม่รู้ธรรม.........................  ว่าคนอื่นเป็นสัตว์เดียรฉานไม่รู้แจ้งซึ่งความจริง.........................................................

ทำไมผมจะไม่รู้ความจริง   หัวเหน่งโทรศัพท์ไปจีบสาวเวลาดึก ๆ   .............

ก็จีบลูกสาวคนสวยของผม................ผมก็รู้..........   ว่าไง   ยอมรับหรือเปล่า   เหน่ง ......  แน่ะ   อย่าอมยิ้มซี..........

ไม่ใช่แค่นี้นะ.......ยังมีอีก....จะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง.......... 

พอโทรศัพท์ไปหาโยมนี่    ......  ออดอ้อน โยมจ๊ะโยมจ๋า    หลวงพี่ปรานีน่ะ  จะบอกธรรมข้อพิเศษให้  ....

ชอบพูดอะไรให้เขาเข้าใจว่าตนนี่บรรลุอาระยะธรรม   .......................

โฆษณาแบบเกาะกระแส      เกาะกระแสคนดัง     ตามรอยเจ๊กลิ้ม..........

        อ้าว     นักการเมืองฟังไว้   หัวเหน่งว่าพวกท่านโง่มาก ๆ

ด่าแหลก.....................ด่าเจ้ากระทรวง   พรรคการเมือง.............  ด่าพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา   ผบ.ทบ...........

ปากคอเราะรายจริง ๆ  นายจันทร์นี่  

เรียกตัวเองว่า         ท่านจันทร์  เสียด้วย เพราะเป็น   อาระยะบุคคลแล้ว   ............ ฮ่วย !!!!

เอาเข้าแล้ว        สติสตังชักจะเฟือน ๆ ไปแล้ว    

นิมนต์โยมให้พูดต่อ..................  นิมนต์คุณพูดต่อ.............(คำนิมนต์ใช้สำหรับพระสงฆ์  ไม่เข้าใจหรือไง  เหน่ง )  กับโยมที่นั่งข้าง ๆ เขาใช้คำว่า  เชิญ    ไปพูดว่า นิมนต์ได้อย่างไร    นี่หรื้ออาระยะบุคคล   

อุตส่าห์อธิบายเรื่องสังฆทาน...........อะไรถูกอะไรผิดเรื่องสังฆทาน..........  รู้หมด  แต่ตัวเองกลับไม่สอนตัวเอง   

นายตายแน่ มุ่งมาจน  กับ  แซมดิน  เลิศบุศ   ฟ้องนรม.เด็ก     

พะนันได้ว่า  นายตายแน่   ตายแน่ ๆ

แล้วศาลกัมพูชาก็ตัดสิน

วีระ  สมความคิด   คุก 8 ปี   ปรับ  1,200,000 เรียล   ไม่รอการลงอาญา   ให้ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน

ราตรี                     คุก 6 ปี  ปรับ   1,200,000 เรียล   ไม่รอการลงอาญา   ให้ยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน

ยอมเขาเถอะ  อย่าเสียเวลาอุทธรณ์เลย  คุณจะได้พักผ่อนอย่างไร  วีระ     เท่าที่ผ่านมา2-3ปีมานี้เห็นใจคุณเหลือเกิน  เขาใช้คุณยังกับทาส   คราวที่คุณพาคนไปตีกับชาวบ้านบึงมะลู ศรีสะเกษ  แล้วหลบไปอยู่สันติอโศก บ้านกะแซงใหญ่ ถึงหกทุ่ม ทหารจึงมารับไป นั้น   แทนที่จำลอง  ศรีเมือง  สนธิ  ลิ้มทองกุลจะเห็นใจคุณ  กลับด่ากราด หาว่าทำไปโดยพลการ .............. แถมประจานทางเอเอสทีวีด้วย  ผมมองดูอยู่ว่าทำไมทำกับวีระเช่นนั้น  มันน่าน้อยใจจริง ๆ     จริงไหม  ... .   คุณยอมเขาได้อย่างไร  ถอนตัวเสียเถิด   หรือไม่ก็อยู่คุกเขมรแหละดีกว่าอยู่ประเทศไทยเวลานี้  ????  

เชื่อเถอะน่า............พวกเขาแกล้งคุณ   แกล้งให้คุณไปตาย  ..........  และก็สมใจพวกเขา ........ 

ถึงเวลาจะสำนึกแล้วว่า  ไปรับใช้ทรราช  ดีอย่างไร ???

แก่นฟ้า  แสนเมือง  (คนนี้เป็นผู้ชาย)  พูดแล้วของขึ้น      ว่าเขากลับมาจากปลีกวิเวก มาพูดแล้วของขึ้น

อะไรล่ะของขึ้น   ฟังเชยจังเลย  

นี่แหละพวกอาระยะบุคคล .......แต่แท้จริงเป็นพวกไสยศาสตร์ มีความคิดป่าเถื่อนเราดี ๆ นี่เอง (คำว่าของขึ้น นี่พวกล้าหลัง  พวกเขมรป่าดงพูด)  ถูกโพธิรักษ์หลอกมาใช้งาน..... เท่านั้นเอง..

อาการของขึ้นนี่  เป็นกับทุกคนครับ  เห็นจากเอเอสทีวีขณะนี้  

ผมเห็นคน ๆ หนึ่งที่ของไม่ขึ้น  เป็นคนปกติดี  คือคุณปานเทพ  วงศ์พัวพัน 

น่าเสียดาย เข้าข้างคนผิด 

พูดเชย ๆ อย่างนี้หนีเถอะ  ฟังทำไม

ตลก !!!!  

พูดว่า   ดูคนนี่ ผมดูไปถึงกำพืดของคน       ว่าดูถึงกำพืดทักษิณ...........................นายคนนี้กลับไม่ยอมดูกำพืดตัวเอง  

ลองบอกหน่อยซี   แนะนำตัวเองก่อนพูด     ว่ากำพืดตนเองมีมาอย่างไร..........ไม่งั้นเสนอทฤษฎีกำพืดไปคนจะเชื่อหรือ ??

หนีไปเถอะน่า   คนนี้ไร้กำพืด   ไร้พันธุ์ที่ดีพอ..........

แล้วพอเกิดยิงกันขึ้นที่ชายแดนเขมร-ไทย พวกโพธิรักษ์ เทวทัต โห่ร้องกันใหญ่  แสดงความยินดี ออกมาเต้นแร้งเต้นกา  และจัดระบำรำฟ้อนกันใหญ่.......

นี่เป็นนักบวชประเภทไหนกัน      

แล้วขนมาทั้งโรงเรียน โรงเรียนสัมมาสิกขา ศรีสะเกษ มาทั้งโรงเรียน  อ้างกระสุนตก ไม่ปลอดภัย  

พอใจกับสงครามอย่างไร ????    แล้วบัดนี้คำว่า  สงบ สันติ  อหิงสา    ไม่หลอกลวงตัวเองหรืออย่างไร  โพธิรักษ์  ????

นี่คือ ระยะทางพิศูจน์ม้  กาลเวลาพิศูจน์คน จริง ๆ   

พวกปีศาจปากคาบคัมภีร์  จริง ๆ 

ทำไมโพธิรักษ์จึงเพ้อเจ้อไม่ยอมหยุด ตั้งแต่ก่อนจะบวช  ก็เพ้อเจ้อ มาถึงบัดนี้ก็ยังเพ้อเจ้อ  เรียกว่า เพ้อเจ้อไม่หยุด..........

วันนี้โพธิรักษ์เพ้อเจ้อว่า  ถ้าสังคมมีอาริยบุคคลกันหมด การปกครองประเทศ ๆ จะดีไหม ?

แล้วนิยามคำว่า อาริยบุคคล  คือคนกินผัก กินหญ้า  แทนธรรมชาติของคนที่สมบูรณ์  ที่ต้องกินอย่างคน อย่างมนุษย์

......... ทำไมจึงต้องการทำคนให้เป็นควาย   ผมไม่เข้าใจ ....?

ผมได้รับคำตอบว่า  เพราะแกหลงผิด  .............  ในเรื่องอริยะบุคคล   แกว่าอาริยบุคคลต้องจำเริญเมตตาจิต  ต้องไม่ฆ่าสัตว์และไม่กินเนื้อสัตว์...........  ต้องไม่ยินดีในการฆ่า  และเสพภักษาหารเนื้อ .........

แล้วบัดนี้แกก็สับปลับ    เกณฑ์เอาพวกสันติอโศกมาทั้งหมด  ทุกสาขา   มาชุมนุมเรียกร้องสงคราม....ไทย-กัมพูชา .................  วันนี้มีการปะทะเกิดขึ้นแล้ว  ดังไปถึงต่างประเทศ  อัลจาชีราออกข่าวคนไทยชายแดนศรีสะเกษ หลบไปมุดเข้าท่อน้ำ   ข้างถนน ยัดเยียดหลบภัยกันจนเต็มท่อ ล้นท่ออกมา   น่าสมเพชเพียงไหน  แต่ชาวสันติอโศกที่เวที ข้างทำเนียบพากันดีอกดีใจโห่ร้อง เต้นรำฉลองกันใหญ่  ...............

นี่หรือ  อาริยะบุคคล.........

ถ้าจะอุปมาก็คือ   ตอนบวชก็ปฏิญญาณว่าจะอยู่ในศีลธรรม.........แต่นานไปก็กลับพฤติกรรมเสีย.........  เพราะทนต่ออยากกามารมณ์ไม่ไหว  ...........ก็บัญญัติศีลข้อใหม่ขึ้นมา ...................  ให้เต้นรำ  รำวงกันได้...........  อย่างที่เต้นกันบนเวทีขณะนี้ วงดนตรีสันติอโศก....................ระยะทางที่พิศูจน์  ได้พิศูจน์ม้าตัวนี้แล้ว   กาลเวลาที่พิศูจน์  ได้พิศูจน์คน ๆ นี้แล้ว............................

โพธิรักษ์............เขาเป็นคนโรคจิตประสาทชนิดหนึ่งมานานแล้ว  เป็นโรคเพ้อเจ้อถึง  อาริยบุคคล    นึกว่าตนเป็นอาริยบุคคล.........ก็เท่านั้นเอง  

ดูลูกศิษย์  เป็นถึงพลตรี นายทหารที่จบจาก จปร.มาบำเพ็ญตนทางเมตตาบารมีอย่างสูง  ตามโพธิรักษ์  แกเลี้ยงหมาจรจัดไว้นับพันตัวที่กาญจนบุรี  ว่าเมตตาสัตว์โดยไม่มีประมาณ ไม่จำกัด   ..............

แต่แล้ว  ก็ได้เห็นเนื้อแท้  ว่าไม่ใช่หรอก  นี่คืออาริยะบุคคลจอมปลอม  เพราะไปเกลียดคนอีกพวกหนึ่งอย่างแรง  จนต้องยื่นคำขาดให้ ผบ.ทบ.ขณะนั้นล้อมฆ่าประชาชนเสื้อ   บอกว่าฆ่าเสียสัก 500 คน ก็จบ    จำลองศรีเมือง นี่เอง ที่เป็นต้นเหตุของการล้อมฆ่าประชาชน 91 ศพ รวม 6 ศพในวัดปทุมวนาราม

และบัดนี้  เป็นผู้ยุยงส่งเสริมให้เกิดสงครามไทย-กัมพูชา 

นี่หรือบำเพ็ญเมตตาบารมี  

ถอนตัวเสียเถิดพี่น้อง ในสันติอโศก   .........    นี่คือพวกอลัชชีเท่านั้นเอง

มีทหารเก่ามาพูดยุยง  พล.อ.ปรีชา  (จำลอง แนะนำ)

ส่งเสริมให้ทหารไทย ฃายแดน  รบกับเขมรเลย  ยุพล.ท.ชวลิต  ให้ยิงมันก่อนเลย 

ปรากฎว่ามวลชนไร้สติสตัง  โห่ต้อนรับ  คำพูดทหารเก่า   พอใจในการสงครามกันทั่วหน้า....................

สิ่งที่เราไม่เข้าใจ  ไม่ใช่ประชาชนเสื้อเหลือง   แต่ประชาชนสันติอโศก    ที่ถือสัตย์ปฏิญญาณ จะปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผล  ด้วยการบำเพ็ญบารมีทางเมตตาธรรม  แต่ทำไมจึงนิยมคาวเลือดเช่นนี้ 

ชาวสันติอโศกต้องทบทวนสัจธรรมให้จงดี   

จำลอง ศรีเมือง   กับ  โพธิรักษ์   คือจอมหลอกลวง   และเป็น   โมฆะบุรุษ  เต็มตัวไปแล้ว  

คือ   เสียชาติเกิด.........................เสียดายที่เกิดมาเป็นมนุษย์...............

มาถึงวันนี้เข้าใจหรือยังว่า  กองทัพธรรม   คืออะไร โพธิรักษ์ -  จำลอง ศรีเมือง ?  

ตั้งมูลนิธิ ชื่อว่า มูลนิธิกองทัพธรรม 

รู้หรือเปล่าว่า คำว่ากองทัพธรรมหมายถึงหมู่พระสาวกอรหันต์ ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา  

มาใช้คำเรียกตนเอง  คนแย่ ๆ คนหนึ่งว่าเป้น  กองทัพธรรม  นี่น่าอาย........

กองทัพธรรมนั้นใช้ธรรมเป็นอาวุธ

แต่กองทัพอะไรของจำลอง ศรีเมือง  โพธิรักษ์  สันติอโศก ที่กลายเป็นบ่างช่างยุ ให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ  ที่กระหายสงครามเสียจริง ๆ  ไร้สติเตลิดไปด้วยโมหะอวิชชา

นี่คือความน่าสมเพช ที่สุดของผู้ประกาศตนเป็นผู้นำกองทัพธรรม

เพราะเนื้อแท้ขณะนี้ก็คือ  ความโง่เขลาเบาปัญญาทางธรรมะล้วน ๆ    อวิชชาล้วน ๆ

ก็น่าจะคิดได้นะ สำหรับคนไทยที่หลงไปสู่สันติอโศก   เพราะเห็นได้ว่าไม่ใช่สันติอโศกเสียแล้ว  แต่เป็น ซาตานอโศก

จงมองพวกเขาด้วยสายตาใหม่เถิด......................เขาหลอกและลวงเราอย่างไร้เดียงสา  เพราะความโง่เขลา..............และเพราะไร้สติปัญญาที่สอดส่องถึงสัจธรรมอันแท้จริง 

บันทึก 4 ก.พ.2554  ปะทะครั้งแรก  ณ ชายแดนศรีสะเกษ  กระสุนปืนใหญ่เขมร ตกบ้านภูมิซรอล  คนไทยตาย 1 บาดเจ็บอีกหลายราย  บ้านไหม้หลายหลัง  มีกระสุนปืนใหญ่ตกบ้านภูมิฃรอล ต.เสาธงชัย หลายนัด  ลงที่ รร.มัธยม  ไม่ได้ลงหมู่บ้าน

5 ก.พ. 2554  ปะทั้งครั้งที่ 2

6 ก.พ. 2554  วันนี้ ครั้งที่ 3  ยิงปืนใหญ่ใส่ภูมะเขือราว 06.45 น.   แล้วตอบโต้กันไปด้วยพลปืนเล็ก ราว 20 นาที ราว 4 ทุ่มเศษ   ตี 1 มีข่าวกัมพูชาบุกยึดปราสาทโดนตวน ในเขตไทย   ประมาณ 10 กม.

มีปะทะตลอดแนวเขตชายแดนราว 10 กม.  บันไดหัก  อานม้า ผามออีแดง

จรวดบีเอ็ม 21 มาไกล 20 กม. ลงที่ภูมะเขือ  บริเวณบ้านภูมิชรอล  กระสุนปืนใหญ่ตกเขตศรีสะเกษ-อุบล

ถือว่ารุนแรงที่สุดในหลาย ๆ รอบ

ผล ทหารไทย 10-11 คนบาดเจ็บ

ฮุนเซน ทำหนังสือถึงประธาน  UNHC  เมื่อ 5 ก.พ.54  ว่าทหารไทยยิงเขาวิหารเสียหาย

(สรุปจากรายการ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ช่อง 3  06.00 น.)

ในขณะที่เกิดเหตุ พวกจำลอง ศรีเมือง พวกโพธิรักษ์  กองทัพธรรม โห่ร้องกันสนั่นเวที  .......................พอใจยินดีกับสงครามชายแดน  ระหว่างเพื่อนบ้าน และพอใจกับความยากลำบากเสี่ยงภัยเสี่ยงชีวิตของประชาชนบ้านภูมิชรอล ต.บึงมะลู(เสาธงชัย) 10 กว่าหมู่บ้าน  จำนวน 3000 คน ที่ต้องอพบยพหลบภัย เสียชีวิต บ้านเรือนและทรัพย์สิน

ทำไมประชาชนผู้รักสันติ และมุ้งหมายทางความสงบอย่างแท้จริง ตามหลักการพระพุทธศาสนา จำนวนมากมาย  ในสิ่งที่เรียกว่า  พุทธสถานสันติอโศก สาขาร่วม 16-17 แห่งทั่วประเทศไทย  จึงมาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมสงคราม  โดยทำหน้าที่ยุแยกให้แตกความสามัคคีในชาติ  และยุยงส่งเสริมให้ทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นการขัดหลักการทางพระพุทธศาสนา  และเป็นการขัดกับวิถีทางความประพฤติเดิมของตน  ที่อุตส่าห์บำเพ็ญตนอย่างถ่อม มักน้อย ใจดี มีเมตตา  โดยกำหนดตนเองให้เมตตาอย่างสูงสุดถึงขั้นเป็นนักมังสวิรัติ  ไม่กินเนื้อสัตว์อีกด้วย  และถึงขั้นบริจาคชีวิตทั้งชีวิตแด่พระพุทธเจ้า  โดยมีบางคนสละบ้าน ที่ดิน ทรัพย์สินทั้งหมดมาบริจากแด่พุทธสถาน แล้วอพยพมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมหมู่ที่บำเพ็ญเมตตาบารมี เช่นนี้

นั่นก็พิศูจน์แล้วว่า   นี่คือสำนักหลงผิด  คลั่งศาสนาและคลั่งอะไรต่าง ๆ ไปทางรุนแรง  นอกทางสายกลาง  นั่นเอง

และตัวการคือ  จำลอง ศรีเมือง   และ  โพธิรักษ์

ในชั้นเชิงการทหาร  เท่าที่ได้ฟังพล.ต.จำลอง ศรีเมือง พูดมา   คนนี้แทบไม่เข้าใจเลยว่า อะไรคือ ยุทธศาสตร์  และอะไรคือยุทธวิธี   ..........   เป็นคนโง่ ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง .................. ไม่เข้าใจสัจธรรมของการรบ  ................   คุณไปประมาทเขาได้อย่างไร ..........   ว่าเรามีกำลังแสนยานุภาพเหนือกว่า...............แล้วจะอาจเอาชนะได้อย่างง่าย ๆ   .............   นี่คือคติของคนโง่เง่าโดยแท้จริง  ....ชายชาติทหาร ถึงแม้ต้องเข้ารบกัน  เขาก็ไม่ดูแคลนกัน......เขานับถือให้เกียรติ์ความเป็นนักรบ .........เขารบ อย่างนักรบ.......   ก็ดูเถอะครับ  อุตส่าห์ตั้งกองทัพของตนเอง....................เพราะใฝ่ตามอำนาจกิเลส อยากเป็นแม่ทัพ  .  จึงตั้งกองทัพขึ้น   ชื่อว่ากองทัพธรรม  ..............   แล้วก็ไม่เข้าใจ  ..........  ไม่รู้ยุทธศาสตร์  ยุทธวิธีของกองทัพธรรม ..............  ไม่รู้แม้กระทั่ง  อะไรคือกองทัพธรรม................

และทำความเสื่อมเสียยิ่งใหญ่แด่กองทัพธรรมที่แท้จริง  

เขาเป็นเพียง  โมฆะบุรุษ  คนหนึ่งเท่านั้นเอง   และเช่นเดียวกับเจ้าสำนักพุทธสถาน.......... สำนักพุทธสถานสันติอโศก   ซึ่งบัดนี้ไม่น่าใช่พุทธสถานอีกต่อไป....................  โพธิรักษ์......

ชาวบ้านสันติอโศกเห็นแล้วว่า   นี่ถูกธรรมอย่างไร   ผิดธรรมอย่างไร   เห็นเอง    .............   ถอนตัวเสียเถิด....

แท้ที่จริง  ชาวบ้านสันติอโศกมีจำนวนมากมายที่ยกที่ดิน  บ้านและทรัพย์สินทั้งหมดของตน ของบรรพบุรุษ  ให้แด่สันติอโศก   แล้วตนเองมายอมเป็นข้ารับใช่สันติอโศก   เสียอิสรภาพ  และความเสรีของตน  ตามระบอบประชาธิปไตยให้แด่โพธิรักษ์   ไม่ต่างจากกลับไปสู่ยุคทาสอีกครั้งหนึ่ง  

aljazeera รายงานเช้าวันนี้ ขณะนี้ว่า  ปะทะกันมา 4 วัน ทหารไทยใช้อาร์พีจีถล่ม พร้อมปืนเล็กยาว  ตายไป 5 คน บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง  อพยพอีกเป็นพัน ๆ คน  ปราสาทเขาพระวิหารถูกลูกปืนจากฝั่งไทย คานหัก  มีรูลูกปืนฝังในปราสาท หลายแห่ง

พวกโฆษณาชวนเชื่อรับจ้าง สะพานมัฆวาน  ยังโฆษณาอยู่  ปลุกระดมกันใหญ่   ทุกตัวตนออกแอคชั่นกันอย่างเต็มที่   ....เพื่อเป็นส่วนของการโฆษณาชวนเชื่อ  รับจ้าง

วันนี้  คนจำนวนมากแล้ว ที่รู้ว่าพวกนักโฆษณาชวนเชื่อนี้  พวกเขารับใช้ใคร ๆ เป็นนายของพวกเขา ที่อยู่หลังเงามืด....

แผดเสียงกันใหญ่......

ถึงวันนี้ เราหวังว่าประชาชนไทย จะได้เข้าใจว่าการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นสิ่งที่อันตราย  นับแต่อันตรายถึงล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน  ลำดับมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ  รัฐบาลสมัคร  และรัฐบาลสมชาย   และขณะนี้พวกเขากำลังทำลายพวกเดียวกันเอง  คือพวกพันธมิตร-สนธิ-จำลอง -ประชาธิปัตย์ .....................เพราะ   ผลประโยชน์ไม่ลงตัว

มึงจะจับกู มึงมาเลย  กูจะอยู่ที่นี่   กูตายก็ก็ยอม 

กูจะยอมให้มึงฉีดน้ำใส่กู   ฉีดเพลิงใส่กู ๆ จะไม่หนี .....และนั่นมึงต้องพินาศ.........

เขาพูดแรงมาก   ...........  ไม่ทราบชื่อ  

กูจะสู้กับมึง  ไม่ใช้อาวุธเลย  .............. ตายเป็นตาย   สู้กัน   ออกมา  ไอ้ฉิบหาย   กูเหลืออดจริง ๆ    คิดได้อย่างไร ????

มันจะเอาปืนมายิงพวกเรา  มันจะจ่อปากกระบอกปืนมาใส่เรา .............  มึงจะต้องเจอกับกู..............

เวลานี้สงครามเกิดขึ้นแล้ว  แทนที่มึงจะจ่อปืนไปทางเขมร  มึงจะเอาปืนมาจ่อคอกู   มึงคิดได้อย่างไร ?

เราต้องรักษาบ้านนี้เมืองนี้ไว้ชั่วลูกหลาน..............

พี่น้องทหารตำรวจจงหันปากกระบอกปืนไปสู่นักการเมืองชั่ว.............  รัฐบาลชั่ว  มันทำทุกอย่างเพื่อให้เขมรชนะ  รัฐบาลชั่วจริง ๆ  กูละเหลืออดจริง ๆ   

ฝากบอกถึงพ่อแม่คุณอภิสิทธิ์ ๆ กำลังจะพาตัวเองไปสู่ตะแลงแกง   ไม่น่ารวดเร็วเช่นนี้เมื่ออายุยังน้อยอยู่............... จะอยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ..............

ให้เขายิง  ให้เขาล่า  ให้เขาพร่า  ให้เขายำ   เราสู้อย่างสันติ   บัดซบที่สุด  แทนที่จะสู้กับเขมร มาคิดฆ่าประชาชนตัวเอง  มึงคิดได้อย่างไร  ...............

คน ๆ นี้พูดไปออกกำปั้นไป  ออกเขี้ยวเข่นฟันไป  ทุบโต๊ะไป     ..........   คนหยิบมือหนึ่งหน้าเวทีก็เฮ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ    แต่ไม่สังเกตว่า   มีคนอีกกลุ่มหนึ่งยืนฟังอยู่ห่าง ๆ   ......พวกเขาคงจะนึกทุเรศบ้างละ.....

แล้วคนตัวอ้วนหน้ากลม ๆ  ใส่แว่นตา  ก็มาพูดต่อ............... ไม่ทราบื่อเหมือนกัน     พูดอะไรออกมาก็มีเฮ  เฮ    ตาม    จากพวกคาราวานรับจ้างโฆษณาชวนเชื่อ............นายคนนี้เอาเรื่องเท็จบ้างจริงบ้างมาโฆษณา  ...........  ชนิดที่ไม่อายว่าคนอื่นจะจับโกหกได้........ คุณหล่อจ้อเก่ง...  ใครหนอ   อ๋อ.......เด็กคนนั้น   ............แล้วไอ้หน้าเหลี่ยมใครล่ะ........ ว่าไอ้หน้าเหลี่ยมเคยทำรัฐประหารฮุนเซนมาแล้ว.......แต่ไม่สำเร็จ  ...........ดู  เอาเรื่องราวอะไรมาเล่า    นึกออกแล้ว   นี่แหละนายคนที่เขียนปฏิญญาฟินแลนด์  ........  เรื่องโกหกเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อทั้งเรื่อง  โดนคุก รอลงอาญานี่.....

แผดเสียงไป      เดี๋ยวคอแตก.......ทำงานไม่สำเร็จก็ไม่ได้ค่าจ้าง................(คนนี้ชื่อ ณัฐวุต.........คนก่อนชื่อปรีชา..........ผู้หญิงพิธีกรบอก  เป็นพลเอก   พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ........ใครหนอใช้มา  ดูท่าทรงอำนาจแท้)

กลับไปคืนดีกับเขาดีกว่า  ยอมกินน้ำใต้ศอกเขาต่อไปก็ดี.......กว่าตาย......

แล้วเราจะพิศูจน์ให้ทราบว่า  แก๊สน้ำตาทำอะไรเราไม่ได้..................

ลุงจำลองว่าเข้าคุกก็ยอม  ไม่นานก็ออกมาเพราะผิด พรก.ไม่นาน...................

คิดได้แค่นี้เอง...............................

จบแล้ว..................  คนหนีหมด  เหลือนักโฆษณาชวนเชื่อเด็กหญิง  โฆษกเอเอสทีวี ออกมาหน้าตาเศร้า ๆ  ทำท่าจะวิ่งหนีไปแล้ว) 

หนีไปเถิดน่า   ปล่อยให้พวกอาระยะบุคคลเก๊ ๆ สันติอโศก  แสดงความเป็นอาระยะบุคคลของพวกเขา  ด้วยการแสดงความสามารถที่จะทนอดทนอยาก  ทนต่อการหิวโหย  ทนอดหลับอดนอน  ทนนั่งอยู่กับที่ไม่กระดุกกระดิก    .................หลับตาไม่รู้เรื่องรู้ราว(คือปัญญาอ่อน)ต่อไป  โดยไม่สะดุ้งสะเทือนต่อการกระทำใดใด......................................................

แล้วก็มีหัวเกรียน  สวมชุดดำ (เป็นหมอนะเนี่ย)  มาแสดงธรรม  อวดรู้    ใจ  วาจา  กายกรรม ต้องบริสุทธิ์    .....................  พวกอาระยะอีกแล้ว   พวกนี้ไร้สติ  พูดอย่างหนึ่ง  คิดอย่างหนึ่ง   ทำอย่างหนึ่ง   ไม่เคยตรงกัน..................นี่คือพวกอาระยะบุคคลเก๊ ๆ ๆ ๆ ๆ  ขณะนี้คิดอย่างไรไปยุให้เขาทำสงคราม  ขัดที่วาจาพูดธรรมะ................  ก็แปลว่าคนบ้าพูดธรรมะเท่านั้นเอง.............

เขายังทำดีไม่พอ.......................ต้องทำไปจนตลอดชีวิตจนเห็นผล............ นี่แหละโดนหลอกจากโพธิรักษ์ละ  ให้เป็นทาสรับใช้เขาตลอดชีวิต

โดยวาทะว่า  ไปกล่าวตู่พระอรหันต์  ต้องตกนรก.................เขาหมายถึงอรหันเก๊  โพธิรักษ์  นั่นเอง 

คือคนพวกนี้ถูกฝังหัวให้คิด  ให้พูด  ให้เชื่อเรื่องสันติอโศกว่าเป้นแดนอารยะ  แดนนิพพาน  และก็พูดกันแต่เรื่องสูง ๆ   เข้าใจตนเองว่าตนก็สูงไปด้วย.................นับกันเองว่าเป็นนั่นเป็นนี่อยู่ทุกลมหายใจ 

พวกนี้วิปลาตไปไกล   เป็นพวกเสียสติหมู่     เหมือน ๆ กรณีจิม โจน พาสาวกไปกิยาตายหมู่ ในแดนบำเพญตนต่อพระเจ้า ถึงกว่า 700 ศพ  บางคนพบว่าถูกบังคับให้ฆ่าตัวตาย....................จิมโจนส์บอกว่าเพื่อจะได้ไปอยู่กับพระเจ้าเร็วขึ้น   

เป็นเรื่องที่ตื่นตะลึงในโลกยุคใหม่...........

หมอเขียวมั้ง  ว่าให้ช่วยด่ารัฐบาล   เพื่อ   ได้บุญ

นี่แหละหลงผิด    โดยคิดว่าตนเป็นผู้มีบุญ คิดว่าตนเป็นนั่นเป้นนี่  ไม่ใช่คนธรรมดานะเรานี่   เป็นนั่นเป็นนี่ที่เหนือกว่าคนธรรมดา   ด่าได้ไม่บาป

เผลอ ๆ หมอเขียวนี่อาจจะคิดว่าตนเป็นพระอาระยะบุคคลไปแล้ว   ...ก็แสร้งตีสีหน้า  ท่าทาง  คำพูด  ให้เหมือนว่าตนเป้นคนสิ้นกิเลส........................ตามรอยโพธิรักษ์  จำลอง  นั่นเอง   .........

ไร้สติสตัง  จนไม่รู้ว่าตนทำบาปอะไรอยู่    อย่างนี้จะเรียกว่า  อาระยะบุคคลได้อย่างไร   สติไม่สมบูรณ์ก็ได้แค่ของเก๊   อาระยะบุคคลเก๊ ๆ .

อย่างหัวเหน่ง ห่มดำมาอีกแล้วนี่   หัวเราะเสียด้วย.................  นี่รู้ไหม  เบื้องหลังเป็นอย่างไร  ????   ดึก ๆ ละก็ควักโทรศัพท์ดูรายชื่ออีหนู ๆ    ..................เพื่ออะไรครับ ????    ถามวัยรุ่นซี  เขารู้ดี.............. สำเร็จความใคร่ด้วยลมปากของอีหนู ๆ   ..

จริงไหมล่ะเหน่ง...........  ?    เดี๋ยวจะให้ลูกสาวคนสวยมาพูดให้ฟัง......................... 

คนอะไรหน้าด้านจริง ๆ   

นี่เป็นเรื่องจริงแห่งสันติอโศก

สดจากสะพานมัฆวานรังสรรค์  แต่เช้า

สองคนชาย-หญิงอ่าน  วิจารณ์ข่าว ภาพ  ฯลฯ   

ได้ยินแต่เสียงท้าตีท้าต่อย   จากเวที  ทั้ง ๆ ที่หน้าเวทีมีคนหรอมแหรม.............................

ด่าคนได้ทั้งแผ่นดิน     ใหญ่จริง ๆ  

ที่ประหลาดคือ  ผู้ชายคนนั้นมาจากสันติอโศก.................... แดนอาระยะบุคคล 

อยากทำสงคราม......กระหายเลือด......ไม่รู้จักคำว่าญาติ.... ญาติธรรมเสียแล้ว  เพื่อนบ้านเป็ฯญาติธรรม....

ลีลาท่าทางวันนี้ แผดเสียงสนั่นเป็นระยะ ๆ  ด่าคนได้ตั้งแต่คนโตสูงสุด มาถึงคนธรรมดา ไม่เว้น   .......  คงนึกว่าตัวเองเป็นราชสีห์  อย่างในนิทาน หมาจิ้งจอกน้อยหลงแผดเสียงอย่างราชสีห์ ก็คอแตกตายเอง  

มีอะไรเกิดขึ้นในแดนสันติอโศก.........?

พี่น้องเอย.............. วันนี้วันที่ 15 แล้ว..........

สันติอโศกนี่คือระบบการปกครอง  ระบบทาสครับ   ..............  เป็นความจริง

นี่คือปัญหาประชาธิปไตยไทย 

นี่เป็นประเด็นใหม่  ที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องรับทราบ...................

มีเรื่องควรทราบครับ   เจ๊กลิ้มนี่แหละเป็นเหตุให้หลวงตาบัว  มรณภาพ     แกไปให้ข้อมูลผิด ๆ ของนายกทักษิณ  ว่านายกทักษิณโกงชาติ  ยกตัวอย่างโกงค่าโทรศัพท์มือถือ  โกงเพียง 1 สตังก็รวยแล้ว ประมาณนี้    หลวงตาแกก็พระบ้านนอก ๆ  แกก็ไม่รู้อะไร แกก็โกรธ  และให้ทำการคว่ำบาตรนายกทักษิณ    และสาปแช่งนายกทักษิณต่าง ๆ   ตามที่เจ๊กลิ้มพูดถึงนั่นแหละ      ท่านหลวงตามารู้ความจริงทีหลังก็เสียใจ  ที่เสียรู้เจ๊กลิ้มเข้าให้   ...........    ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ไม่สบายใจ เพราะเจ๊กลิ้มเกาะท่านแน่น   และท่านเองก็ไม่คิดอะไร เพราะใคร ๆ ก็ไปหาท่าน  ไปสักการะท่าน ไม่เฉพาะเจ๊กลิ้ม    ใคร ๆ ก็ไปกันทั้งนั้น  แต่เจ็กลิ้มไปหาด้วยเล่ห์เพทุบายเพื่อเอาไปโฆษณาชวนเชื่อ อ้างการไปหาเอามาประกาศโฆษณาชวนเชื่อว่าตนเป็นสานุศิษย์เอก ที่หลวงตาเชื่อถือไว้วางใจมากที่สุด  ซึ่งที่จริงคนอุดรเขารู้ดีว่าอะไรเป็ฯอะไร  เขากันไม่ให้เจ๊กลิ้มเข้าใกล้หลวงตาด้วยซ้ำ   มีครั้งเดียวที่หลวงตารับนิมนต์มาที่บ้านท่าพระอาทิตย์ ก็ครั้งเดียว  ท่านก็รู้อะไรเป็นอะไร  ไม่มาอีก    แต่เจ๊กลิ้มก็ไม่วายดึงของสูงลงมาใช้ประโยชน์ทางการโฆษณาชวนเชื่อ  เอาท่านมาเกลือกกลั้ว  เอาเป็นพวกด้วย  ทำให้เสื่อมเสียอย่างยิ่งใหญ่ต่อท่านหลวงตา   เป็นเหตุสำคัญให้ถึงมรณภาพลง   นี่คือความเลวของเจ๊กลิ้ม........รายงานจากศิษย์หลวงตา

แว่วยินชื่อ   มาลีรัตน์  แก้วก่า      นึกว่านางฟ้า  โผล่ออกมาเป็นยักข์ขมูฉี   

มาลีรัตน์   แก๊ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ก่า................

กะปอมบ้านผม

นี่อย่างไร.....................  อาระยะขัดขืน.....................

จะขัดขืนไม่ยอมให้ตำรวจจับแบบ    ....     อารยะบุคคล   

คอยดูนะครับ   นี่แหละที่พวกสันติอโศกตั้งใจเอามาอวดมาแสดง   ...........   เขาจะอวดจะแสดงให้ดูว่า   พวกเขานี่แหละอาระยะบุคคล  เวลาอาระยะบุคคล  จะขัดขืน  ทำอย่างไร ..........

นั่นก็เป็นสิ่งไร้สาระ   เพราะมีกิเลสอยากอวด      

แค่อยากจะอวดคนว่าตนเป็นอาระยะบุคคล   อาระยะบุคคลต่อสู้อย่างนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ  หรืออีกนัยหนึ่ง  การต่อสู้ขัดขืนอย่างนี้ ๆ แหละ  แสดงความเป็นอาระยะบุคคล  

พวกเรานี่แหละ   อาระยะบุคคล   ไม่ใช่คนธรรมดา........  นี่เอง  เท่านี้เอง   อยากอวด  ......

คนพวกนี้กำลังแสดงความวิกลจริตออกมาเรื่อยๆ  จนในที่สุดพฤติกรรมที่แสดงออกจะมีแต่ความรุนแรง แยกแยะดีชั่วไม่ได้  ขณะนี้มีมวลชนที่เคยหลงใหลได้ปลื้มกับอุดมการณ์ของแกนนำพันธมิตรเริ่มตีตัวออกห่าง  ดังจะเห็นว่าการชุมนุมในครั้งนี้มีมวลชนลดน้อยลงไปมาก  ในหน่วยงานต่างๆที่เคยมีคนนิยมแกนนำพันธมิตรและประกาศตนเป็นคนเสื้อเหลือง  เดี๋ยวนี้กลับไม่กล้าที่จะพูดถึงอุดมการณ์ของกลุ่มพันธมิตร ไม่กล้าพูดถึงเอเอสทีวี เพราะไปทางไหน 2 หูก็ได้ยินแต่เสียงคนกร่นด่าคนคลั่งกระหายสงคราม สร้างความเดือดร้อนให้คนบริสุทธิ์ ในที่สุดความพ่ายแพ้ทางการเมืองก็ปรากฏแก่พวกนิยมเผด็จการเพราะไม่มีใครที่เดือดร้อนแล้วแล้วรู้สึกเป็นสุขนี่คือสัจธรรม

ยังเหลือแต่พวกอาระยะบุคคลโพธิรักษ์......... จำลอง ศรีเมือง 

พวกเขาจะแสดงโวหาร  ทางด่า  ต่อไปเรื่อย ๆ  .......   หวังให้ถึงหูกัมพูชาทั้งประเทศ   ....   แทงจิตแทงใจของคนสำคัญกัมพูชาต่อไปเรื่อย ๆ  

และหยาบคาย.................เกินกว่าจะเรียกว่าคน    อย่าคิดว่า   อาระยะบุคคลเลย     นี่คือ  กุ๊ยดี ๆ นี่เอง  ..................

มีคนที่อยู่ข้างหลัง  ผู้ชักใย   ผู้ถือเชือกคล้องคออยู่ ............... 

เจ๊กลิ้มก็เข้าใจเลือกคน  เลือกเสียง   มาทำการโฆษณาชวนเชื่อ   ...............  แต่แล้วก็หดลง ๆ   ที่เหลือก็คือหน้าม้ารับจ้าง   เหมือนที่เคยทำมาทุกครั้งนั่นเอง       

พวกที่โฆษณาเช้านี้ ฝีมืออ่อนด้อยเกินไปนะ......................

เนื้อหาส่วนใหญ่ไปตอกย้ำจิตที่อาฆาต อิจฉาริษยาของเจ๊กลิ้ม จำลอง  และได้พบข้อมูลใหม่ว่า   ยังมีอีกคนหนึ่งที่แทงใจเจ๊กลิ้มตรงยอดใจเลยก็คือ     กษิต  ภิรมย์    นั่นเอง

เจ๊กลิ้ม  ผู้ถ่มน้ำลายรดฟ้า  ........... อกจะแตกตายด้วยความอิจฉาริษยาอย่างจิวยี่   จะอาเจียรเป็นเลือด....ก็เพราะคนที่ชื่อ    ทักษิณ

แต่แท้จริง   คนที่ชื่อ  กษิต  ภิรมย์   กลับร้ายกว่าไปอีก    เขาฉลาดกว่าเจ๊กลิ้มเยอะ  จนสามารถเก็บเกี่ยวบนแรงงานเจ๊กลิ้มได้สบาย ๆ  

สถานการณ์ฝ่ายเจ๊กลิ้มถดถอยลงไป  โดยเฉพาะเมื่อเอาพวกอาระยะบุคคลมาทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อ มันไปกันไม่ได้ ไม่เนียน  ....................จากอาระยะบุคคลกลายเป็น  หมาจิ้งจอกที่เห่าหอนและแผดเสียง...เท่านั้นเอง เดี๋ยวก้คอแตกตาย

เจ๊กลิ้ม คงกำลังแก้เกมส์อยู่   คงจะได้เวลาปล่อยทายาทสายตรงออกมาทำงานได้แล้ว

จิตอนาถ  ลิ้มทองกุล............................

มีคนหลงตัวหลงตนว่าเป็นอริยบุคคลไง คนอื่นที่คิดไม่เหมือนตนเป็นปุถุชนคนบาปหมด ยังเคยมีใบปลิวโจมตีคณะสงฆ์ไทยว่าไม่ประพฤติปฏิบัติดีเท่าตน ยกย่องโพธิรักษ์เสียเลิศลอยทั้งที่แกเสีนสมณสารูปจะแย่อยู่แล้ว ดวงตาหลุกหลิกพูดจายกย่องตนเอง ปกครองคนในชุมชนอโศกอย่างไม่มีสิทธิเสรีภาพ  ต้องเชื่อฟังเจ้าสำนักเท่านั้น หนังสือหนังหาเทคโนโลยีเด็กไม่ได้เรียนเหมือนโรงเรียนอื่นๆจะได้ไม่ทันโลกแห่งความจริง ให้อยู่ในโลกแห่งความฝันว่าแดนอโศกเป็นดินแดนพระนิพพานเป็นที่อยู่ของชาวอารยะ ซึ่งคนบาปไม่มีโอกาสได้สัมผัส คอยดูต่อไปว่าคนกลุ่มนี้จะหาทางออกของชีวิตอย่างไร อย่าคลั่งลัทธิจนพาสาวกไปทำร้ายตัวเองก็แล้วกัน

กลายเป็นงานวัดไปเสียแล้ว

พวกกระหายสงคราม.........

รัฐบาลไทยย่อมต้องถูกมิตรประเทศ  เครือเอเซีย  มองอย่างหมิ่นแคลน ๆ  ก็ยุคนี้แหละ    เพราะมีคนกลุ่มเดียวกับที่เคยสนับสนุนรัฐบาลให้ขึ้นสู่อำนาจ  แต่ขณะนี้ คนกลุ่มนี้ มาตั้งเวทีใหญ่ก่นด่าประเทศเพื่อนบ้านอยู่ได้อย่างไร

มีความชอบธรรมอย่างไร ที่คนของรัฐบาลหนึ่ง  มาตั้งเวทีด่าประเทศเพื่อนบ้าน  ๆ จะคิดอย่างไร ??

สากลประเทศจะคิดอย่างไร ?

เป็นมิตรหรือศัตรู ?

ถ้าเป็นมิตร   ก็ต้องไม่มีพวกของรัฐบาลมาทำการก่นด่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นนี้

โลกก็ต้องคิดเช่นนี้ 

อย่าว่าแต่พวกรัฐบาลเลย  พวกไหนก็ไม่รู้มาตั้งเวทีด่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นนี้ รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ 

แต่............เอือมระอารัฐบาลเด็กเต็มทีแล้ว   ไร้ความรับผิดชอบจริง ๆ 

เอือมทุกอย่าง  ..........   เอือมฝ่ายค้าน  ไร้ประสิทธิภาพจริง ๆ

วันนี้วันนัดนี่   มิน่า......

11 ก.พ.2554  วันว.เวลานัด  10.00 น. ลานพระรูปทรงม้า

ดูเกณฑ์คนมา................ว่าจ้างมา....................................

มีพล.อ.ปรีชา  มาขึ้นเวที พากล่าวคำปฏิญญาณ  .........................

ข้าพระพุ?ธเจ้า พลเอก ปรีชา เอี่ยมแจ้งพรรณ.................ขอถวายคำสัตย์ปฏิญญาณว่า...............จะเอาแผ่นดินที่เสียให้กัมพูชามาแล้วกลับคืนมาทั้งหมด.......................................ไชโย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ.

ไม่รู้ใครอยู่เบื้องหลัง  นายพลนอกราชการคนนี้......แต่นอกวงการทหารแล้วจะมีใครสั่งทหารได้ล่ะ.......?

เราหมายความว่า   คนที่อยู่เบื้องหลัง  ในเงามืด  นั่นมิต่างจากปีศาจ ..  ภูติผี  ....อสูร..........หรือ   ผีปอบ................

หนักใจแทนประชาชน..... ผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจริง ๆ  

พล่ามอะไรต่ออะไรไปอีก..........นาน เบ่ง  ออกอำนาจ   คงมีแบ๊คดี..............

"ไอ้ฮุนเซน  มึงเห็นแล้วยัง  มึงกับกูต้องเจอกัน"    ประกาศของ พล.อ.ปรีชา........

ยิ่งพูดยิ่งเห็นบุคคลิกโง่ ๆ ของพล.อ.ปรีชา ......................................................  หยุดพูดเถอะน่า  เสียหายแก่ พธม.เขาหมด..................................................คือเป้นบุคคลิกเผด็จการล้าหลังโง่เง่าโดยแท้จริง   คน ๆ นี้ทำท่าจะตั้งกองทัพประชาชนไปสู้กัมพูชาจริง ๆ   ไว้ใจไม่ได้ 

เอาพวกสันติอโศก  อาระยะบุคคลล้วน ๆ ไปรบก็ดีเหมือนกัน   จะได้เห็นว่า    อาระยะบุคคล  เก่ง ทนอด ทนตาย  อย่างไร ???

สร้างภาพกันใหญ่  แห่ป้าย   จัดระเบียบ.....................คนน้อย ให้เห็นคนมาก    แห่ป้าย............

ภาพที่ออกมา ไม่เป้นประชาธิปไตยเลย    แตกต่างจากพวกเสื้อแดงประชาธิปไตยไปอย่างตรงกันข้าม  

ประชาชนที่เห็นนี้   เสมือนทาส ไร้รอยยิ้มแยม  ไร้สัญญาณของเสรีชน   ไร้รอยของความคิดเสรี   และเหตุผล...

แล้วฟังวาจา  เสียดแทง  เยาะเย้ยถากถางตำรวจ  ของพวกผู้หญิง ๆ  ๆ  บนเวทีพธม.

เป็นวาจาส่อเสียด..........

วาจาที่ทำให้คนเจ็บใจ      กระแสเสียงที่เสียดแทงจิตใจ.........เจ็บแสน   ยั่วยุอารมณ์โมโหโทโส .......  นี่เป็นสงครามจิตวิทยา  ถ้าตำรวจมาอย่างโง่ ๆ ไม่เข้าใจว่านี่เป็นสงครามจิตวิทยา  ก็เสียท่าเจ๊กลิ้มแน่ ......

แต่สุภาษิตวันนี้ก็คือ      ขึ้นบนภูดูเสือกัดกัน...............

ดูว่า  ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลเด็ก  สุเทพ  เทือกสุบรรณ  มนุษย์วานร 1.8 ล้านปี  จะคิดอย่างไรต่อไป 

วันนี้ ที่ รัฐสภามีการประชุมครับ

"การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกรที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554"

พวกพันธมิตรกับพวกอาระยะบุคคล จะมากดดันการประชุมสภา

ก๊อปปี้มาจากข่าวสดให้อ่าน (ให้หลวงพี่หัวเหน่งอ่านหน่อย)

เอพีรายงานว่า เมื่อ 10 ก.พ. นายคริสโตเฟอร์ ลี ส.ส. รัฐนิวยอร์กสองสมัย สังกัดพรรครีพับลิกัน วัย 46 ปี ของสหรัฐอเมริกา จำต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งพร้อมทั้งขอขมาผ่านทางเว็บ ไซต์ของรัฐสภา ว่าเสียใจในการกระทำของตนที่ทำร้ายครอบครัว เจ้าหน้าที่และประชาชน หลังถูกแฉว่าส่งข้อความเชิงชู้สาวหาหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา ทั้งยังส่งภาพถอดเสื้อเปลือยอกให้หญิงคนดังกล่าวด้วย

นายลี แต่งงานแล้วและมีลูกชาย 1 คน แถลงว่าเสียใจอย่างที่สุดและขอโทษต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำความผิดร้ายแรงและขอให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างหนักเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ทุกคนยกโทษให้ พร้อมทั้งชี้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนไม่สามารถทำงานต่อไปได้ จึงขอประกาศลาออกจากตำแหน่งในสภาและให้มีผลในทันที

เรื่องอื้อฉาวของนายลีถูกตีแผ่โดยเว็บไซต์กอว์ เคอร์ เว็บไซต์ซุบซิบชื่อดังที่เปิดโปงว่า นายลีส่งอีเมล์เชิงชู้สาวให้กับหญิงคนหนึ่งวัย 34 ปี เป็นลูกจ้างรัฐบาลจากรัฐแมรี่แลนด์ ซึ่งลงประกาศหาคู่ในเว็บไซต์เครกลิสต์ว่า กำลังมองหาชายวัย 30-40 ปีที่มีเสน่ห์ มีฐานะทางการเงิน และนิสัยดี นายลีส่งอีเมล์เข้าไปจีบหญิงคนนี้ ให้ข้อมูลว่าตนเองเป็นนักล็อบบี้ยิสต์ วัย 39 ปี และเป็นพ่อม่าย หย่าแล้ว ในอีเมล์ยังระบุด้วยว่า ตัวเองเป็นชายที่ยอดเยี่ยม แข็งแรง และมีอารมณ์ขัน จากนั้นก็ส่งภาพถ่ายเปลือยอก โชว์กล้าม ยืนหน้ากระจกไปให้ แต่หลังจากนั้นฝ่ายหญิงยุติการติดต่อกับนายลีเพราะสงสัยว่านายลีให้ข้อมูลส่วนตัวที่ไม่จริง

นายลี เป็นส.ส.มา 2 สมัย ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อปี 2551 และครั้งที่สองเมื่อการเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา มีบทบาทในคณะกรรมาธิการร่างนโยบายด้านภาษีของรัฐบาลสหรัฐ

 

อ่านแล้ว  บังเกิดอับอายหรือไม่   และกล้าลาออกไปเหมือน  สส.อเมริกันคนนี้หรือไม่ ????????

โอ้โฮ  !!!!!   พูดธรรมะชั้นสูงมากเลย...........เจ้ากรรม นายเวร......อธิบายมาหมด

พูดถึง  วิปัสนา

แล้วว่า   เหลืออย่างเดียวคือ   เมตตา กรุณา.............................   โอ้โฮ  !!!!!!

นี่คือคนบ้าพูดธรรมะเราดี ๆ นี่เอง

เมตตาแบบไหนไปยุให้ทำสงคราม.......................ไอ้หน้าโง่เอย  

โดยย่อ    นี่คือคนบ้าพูดธรรมะ   เป็นหนึ่งในบ้าห้าร้อย

พูดถึงเทวทัต  แต่เทวทัตอยู่ใกล้ ๆ กลับไม่เห็น..................พิโธ่เอ๊ย  .....

ตาบอดคลำช้างชัด ๆ    

มองซีก ๆ            ไม่เห็นองค์รวม หรือภาพรวม..............แล้วว่าไปอย่างซีก ๆ นั้น แล้วเข้าใจผิด ว่าตนก็รู้หมดแล้ว  เราคงเป็นอาระยะบุคคลแล้วละมั้ง............  ทบทวนแล้วทบทวนอีก เรานี่รู้แจ้งหมดจริง ๆ   มีแต่เมตตาจริง ๆ   เนื้อก็ไม่บริโภค     นี่แหละนะอาระยะบุคคล  หมอเขียวเป็นอาระยะบุคคลแล้ว........สรุป   ประเภทคนบ้าพูดธรรมะ.......เพ้อเจ้ออยู่ทั้งวันทั้งคืน ทั้งเดือนทั้งปี  เรื่อง  อาระยะบุคคลผู้ประเสริฐ......

เอ.....ไม่เห็นเหน่งมานะวันนี้............

ก่อนปิดกระทู้นี้ก็ขอจบลงด้วยคำถามตอบในประเด็นสองมาตรฐานของศาลสถิตยุติธรรมไทย ที่เกี่ยวกับเอเอสทีวี อีกกรณีหนึ่งของสองมาตรฐานศาลไทย  ดังนี้

จากกระดานถาม-ตอบ
ทำไมศาลปกครองจึงสั่งให้ความคุ้มครอง เอเอสทีวี

คำถาม

• คนรักธรรม
  2008-10-15 10:25:14
  
  
  
  

• บก.(newworld_believe-at-hotmail-dot-com) 
  2008-10-23 00:29:29