รายการ  ช่วยกันคิด  กับ วีระ ธีระภัทร  ช่อง 11  วันที่ 2 เม.ย.2555 เวลา 23.00-23.30 น.

คงจะชื่อวีระ ธีระภัทร  ตามป้ายชื่อรายการ โผงผาง เหมือนวัยรุ่น ๆ  ท่าทางอเกรสิฟไม่เบา    เชิญ รมช.ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ มาถามเรื่องยาง   แล้วเลยไปถามเรื่องปรองดอง  ถามหลายเรื่องที่ฟังแปร่ง ๆ  ว่าถามทำไม   เช่นถามว่า   เดี๋ยวนี้การปกครองก็เป็นเสียงส่วนใหญ่ปกครองแล้ว  ยังต้องการอะไรอีก .... ถามว่า   รัฐบาลนี้ก็ได้ดิบได้ดีเพราะรัฐธรรมนูญ 2550  .  .....   จะว่ารัฐธรรมนูญโจร  รัฐธรรมนูญไม่ดีควรเลิกใช้เสีย ได้อย่างไร ?  

ฟัง ๆ  ก็เลยรู้ว่านี่ก็คือ สื่อที่  ไม่รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับประชาธิปไตยอีกรายหนึ่ง ในบรรดาคนสื่ออาวุโสเสียด้วย

ดูแล้วแกไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าปัญหาของประเทศชาตินั้นยังมีอยู่อีกมากมายในประเด็นประชาธิปไตย   การมาทึกทักว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว นั้น   เกิดจากพวกสื่อทีวีช่อง 11 นี่แหละที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย

ลองติดตามดูแกไปอีกหน่อยก็แล้วกัน   ค่อยวิเคราะห์  อวิชชา  ของวงการสื่อ

ประการแรก    ไปเข้าใจว่าเมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว ก็เป็นประชาธิปไตย ......    ก็ถูกที่ประชาธิปไตยกับการเลือกตั้งต้องเป็นของคู่กัน  แต่จะไปสรุปว่าเลือกตั้งเสร็จก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว นั้นมันไม่ถูก  สำหรับประเทศไทย  .............  มันไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งอย่างเดียว ก็เป็นประชาธิปไตยได้     คุณต้องไปศึกษาดูว่า   หลักการประชาธิปไตย    เป็นอย่างไร    วิถีทางหรือ democratic methods เป็นอย่างไรบ้าง  จริยธรรม  วัฒนธรรมประชาธิปไตยเป็นอย่างไรบ้าง   

ต้องเข้าใจประชาชน  ๆ หมายถึงคุณด้วย   ทุกคนต้องเข้าใจอุดมการณ์ร่วมกันของประชาธิปไตย ประชาธิปไตยเป็นเรื่องราวของมนุษยชาติ  และมนุษย์ย่อมเป็นไท   ............   ยุคนี้ไม่มีทาส   

ขณะนี้ยังมีประชาชนหลายพวกหลายหมู่ที่ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย  คุณอาจจะแปลกใจถ้ารู้ว่ามีศาสตราจารย์หลายคน ด๊อกเตอร์หลายคนที่ออกมาพูด บางคนสอนในคณะรัฐศาสตร์ด้วยซ้ำ ที่แสดงถึงความไม่เข้าใจประชาธิปไตย    แล้วยังมีประชาชนอีกหลายส่วนที่ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย    เช่นพวกเสื้อเหลืองนี่  เดิมมีจำนวนมากมหาศาลที่ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย    ..........เขาช่วยกันอบรมให้ตาสว่างไปเยอะ  จนเดี๋ยวนี้แทบไม่มีเหลืองอยู่แล้ว เพราะเข้าใจประชาธิปไตยดีขึ้น      ดูการชุมนุมระยะหลังสิ   ....หลังสุดมีเพียงพวกหน้าม้าหน้าเวที 10-20 คน .... นี่ก็เป็นสัญญาณที่ดี   ต่อเมื่อประชาชนเข้าใจประชาธิปไตยกันทั้งแผ่นดินนั่นแหละ  จึงจะชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยกันแล้ว 

มีพรรคการเมืองไทยแทบทั้งหมด  ที่จัดตั้งโดยแนวคิดประชาธิปไตย แต่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย   เช่นพรรคประชาธิปัตย์นี่แหละ   จัดเป็นฝ่ายค้านที่ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย และยังไร้สปิริต หรือจิตใจประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง      เมื่อเป็นเช่นนี้   จึงมีบอยคอตการเลือกตั้ง   มีการร่วมมือกันทำรัฐประหาร   มีการลอบบี้ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร  มีการยกกองทหารเข้าล้อมเข่นฆ่าประชาชนผู้มาเรียกร้องสิทธิการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย   มีการโฆษณาชวนเชื่อร่วมกันกับ ฝ่ายรัฐประหาร พธม. มาจนถึงปัจจุบันนี้  เพื่อล้มรัฐบาล       ก็เป็นฝ่ายค้านที่ทำไม่ถูกตามหลักประชาธิปไตย   ..........  แบบนี้ประเทศจะเจริญไปอย่างไร .........   ก็ต้องมีการวิเคราะห์ปรับปรุงแก้ไขให้เข้าแนวทางที่ถูกต้องของประชาธิปไตย............ .........  ดูเอาเองบ้างนะครับว่ามันไม่ถูกอย่างไร

ประชาธิปไตยจะเจริญ ก็ต่อเมื่อประชาชนพึ่งพาตนเองได้ ทั้งด้านความคิดและเศรษฐกิจ   หากประชาชนยากจนพึ่งตนเองไม่ได้ ประชาชนก็ยังคงเป็นทาสทางเศรษฐกิจ   รัฐบาลประชาธิปไตย คนประชาธิปไตย ประเทศสาวกประชาธิปไตย(เช่นอเมริกา ตะวันตก กำลังระดมช่วยเมียนมาร์อยู่ในขณะนี้ เพื่อเมียนมาร์ได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ในแบบฉบับประชาธิปไตยแท้)  จึงยังต้องช่วยกันยกระดับ  จึงยังคงต้องทำงานหนักเพื่อยกระดับของประชาชน อย่างน้อยให้อยู่ในระดับเงยหน้าอ้าปากได้  พ้นจากสถานะความเป็นทาสทั้งทางความคิดการเมืองและทางเศรษฐกิจ โดยสิ้นเชิง ..........   ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เขาตั้งใจทำตรงนี้จนเป็นผล  ทำให้ประชาชนเข้าใจประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง  จากคำว่า ประชาธิปไตยกินได้  คุณไปไหนเสียไม่ได้ยินคำ ๆ นี้   ยกระดับของประชาชนให้เป็นไท   ก็เพื่อประโยชน์ของประชาธิปไตย.........แต่บัดนี้ งานตรงนี้ก็ยังหนักอยู่.....  คุณไม่เห็นหรือ ?  แล้วการไปสรุปว่า ก็เลือกตั้งแล้ว รัฐบาลเสียงส่วนใหญ่ก็ได้แล้ว เป็นประชาธิปไตยแล้ว จะเอาอะไรอีก.....   เห็นไหม ว่าเป็นคำถามอย่างอีเดียทที่สุด   ไม่น่าอยู่ในวงการสื่อระดับชาติเลย  

ไปตั้งคำถามว่า   รัฐบาลนี้ก็ได้ดิบได้ดีเพราะรัฐธรรมนูญ 2550  แล้วจะว่ารัฐธรรมนูญไม่ดีอย่างไร ? 

ยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญไทยด้วยซ้ำ  .........

ช่วยกันอธิบายหน่อยครับ   เด็กคนนี้ทึ่มจริง ๆ    ...........  และด้วยความทึ่มของเขานั่นแหละเป็นอันตรายต่อการก้าวหน้าของประชาธิปไตยไทย เขาจะทำตัวขวางประชาธิปไตยเพราะความโง่เขลาของเขา(พอ ๆ กับพรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นชัดเจนขณะนี้แหละครับ)

อีกพวกหนึ่งก็คือ  ในเครือเนชั่น  พบในblockอินเทอเนต ว่า oknation.com  เวลากล่าวหาใครนี่ ไร้จิตใจเป็นธรรม  ไร้ความเห็นอกเห็นใจมนุษย์ด้วยกันโดยสิ้นเชิง และไร้สามัญสำนึกของมนุษยชาติจริง ๆ  และที่สำคัญไร้หลักฐาน

แกเขียนถึงความเลวของคน ๆ หนึ่งได้ไปถึง 63 ข้อ  ..........   มันก็เลวเกินคนไป  คนก็เลยไม่เชื่อ   ไม่เชื่อว่าคน ๆ หนึ่งจะเลวได้ขนาดนั้น  ............   ผมจะขอแนะนำว่า  เขียนไปเถอะ  ก็จะได้ถึง 1,000-10,000 ข้อนู้น  เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่า  ธรรมดาคนย่อมมีดีมีชั่ว .........   ไม่มีใครหรอกที่ปลอดบริสุทธิ์ .........   แม้พระอรหันต์....................นี่เรื่องจริง  เช่นพระจักขุบาลเถร  ท่านตาบอดแล้วเดินเหยียบแมงเม่าที่มาตอมไฟ ระหว่างที่ท่านเดินจงกรม  พระสาวกไปฟ้องว่าท่านไม่บริสุทธิ์จากการฆ่า  .....  พระพุทธเจ้าตรัสว่า   ท่านนั้นบริสุทธิ์ด้วยจิตใจแล้ว  ถึงกายไม่บริสุทธิ์แต่ใจบริสุทธิ์  ย่อมถึงอรหัตผลได้  .................  

อีกองค์หนึ่ง  เมื่อก่อนบวชเป็นหญิงสาวมีคนรักหวังได้แต่งงานกัน   แต่ต่อมาได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ได้บรรลุพระอรหันต์   ............แล้วปลีกตัวไปสันโดษ  ชายที่เฝ้ารอรัก แฟนเก่าได้โอกาศก็ตามไปทำการข่มขืนทางร่างกายของท่าน.............  ก็ทำให้ร่างกายท่านไม่บริสุทธิ์ ..............คุณก็เอาไปตั้งแง่ว่าร้าย ๆ แก่ท่านได้ 

อีกเรื่องหนึ่งคืออัครสาวกสารีบุตร อาพาธ(ป่วย)  พระโมคคัลลานะไปบิณฑบาตรกับโยมอุปปัฏฐาก  เอามาถวายพระสารีบุตร  พระสารีบุตรถามว่าท่านได้บิณฑบาตมาอย่างไร  พระโมคคัลลาน์ว่า  ให้โยมกระทำการหุงหาให้เพื่อจะได้อาหารที่ถูกโรคท่าน   พระสารีบุตรได้ฟังก็คว่ำบาตรลงกับพื้น  ไม่รับฉันอาหารนั้น  .........    อย่างคุณนี่ก็อาจจะตำหนิได้ว่า  ท่านไม่มีมารยาท...เลยไปถึงว่าอกตัญญูก็ได้    

แม้พระพุทธเจ้าเอง   คุณก็มองหาข้อตำหนิท่านได้  เช่นพระพุทธเจ้าท่านดุ  เวลาท่านดู ท่านก็ด่าว่าภิกษุว่า   ทำไมไม่เอา(หัว***)ของแกยัดเข้าไปในปากงูเห่าให้งูเห่ามันกัดให้กุดเสีย  ดีกว่าไปเสพกามกับมาตุคาม ......  คุณก็มองว่าพระพุทธเจ้าหยาบคายก็ได้ 

อย่างนี้เป็นต้น  ที่คนเรานั้นพึงสังวรว่า  ถ้าคนเราไร้มนุษยสัมพันธ์  คือความคิดที่จะอยู่ร่วมโลกกับหมู่มนุษย์ด้วยกันอย่างสงบสุขแล้ว  ก็สามารถจะกล่าวหาอะไร เพียงไรก็ได้  แม้จะกล่าวหาพระอรหันต์  ด่าว่าพระอรหันต์อย่างไรก็ได้  เช่นในเมืองหนึ่งเป็นเมืองพวกเดียรถีย์  ประชาชนถูกปั่นหัวให้เกลียดชังพระพุทธองค์  ก็มายืนด่าพระพุทธเจ้ากับสาวกทุกวัน ๆ  จนพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพุทธองค์รายงานเหตุการณ์ให้ทรงทราบแล้วเสนอว่าควรย้ายไปอยู่เมืองอื่น..........พระพุทธเจ้าถามพระอานนท์ว่าถ้าไปเมืองอื่นแล้วโดนด่าอย่างนี้อีกจะมิต้องย้ายอีกหรือ     พระอานนท์ตอบไม่ได้  พระพุทธองค์กับสาวกก็อยู่เมืองนั้นต่อไปจนกระทั่งพวกเดียรถีย์เลื่อมใส  มานับถือพระพุทธเจ้า    

เขายังมีนิทานสอนคนให้สังวรเรื่องการมองโลกในแง่ร้ายอีกเยอะแยะ เช่น  เรื่องพระพุทธรูป    นายช่างตำหนินายนั้นก็หาข้อตำหนิจนได้  แกว่าพระพุทธรูปองค์นี้เนื้อก็ดีละเอียด  รูปโฉมก็สง่าผ่าเผยดี  งามพระเกศา  งามพระกร  งามพระนลาฏ  งามพระโอษฐ์  งามพระเนตร   เสียอย่างเดียว  พูดไม่ได้เท่านั้นเอง................  แกชมทุกอย่าง  แต่แล้วแกก็หาข้อตำหนิจนได้   .............  ว่าเสียอย่างเดียวเป็นพระใบ้........

คนพวกนี้มีในสังคมไม่ได้หรอก  จะเป็นเหตุของความแตกสามัคคี   ทำให้การงานของสังคมล่าช้าต่อการสร้างสรรค์  และไม่ส่งเสริมสนับสนุนประชาธิปไตยของชาติ    .......     จะเป็นพวกที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย   ในทางลบ เสื่อมเสียไปชั่วลูก  หลาน เหลน  โหลน ฯลฯ

ที่เนชั่นว่าเลว 63 ข้อ  ตามที่กงจักร เสมาคำ พูดถึงนั้น...  ก็ทักษิณ ชินวัตร  นี่แหละครับ.............     ข้อกล่าวหาของเนชั่นมันเลวเกินคนไป คนก็ไม่เชื่อ  ........

คนในเนชั่นน่าจะตรวจตัวเองบ้างว่าตนเลวได้กี่ข้อ   .....

 อยากให้สื่อเปิดโลกทัศน์ให้กว้าง นำเสนอหลายแง่หลายมุม สื่อน่าจะปฏิรูปได้แล้ว ควรให้คนที่มีความคิดเห็นต่างกันได้มาแสดงทัศนะ คนดูจะได้ข้อมูลครบถ้วนทุกด้าน อย่าให้สื่อที่มีความกล้าหาญทางอุดมการณ์ต้องโดดเดี่ยว วงการสื่อต้องทำให้โดดเด่นต่างหาก ผู้ชมต้องการสื่อแบบนี้ ไม่ใช่นำเสนอข้อมูลด้านเดียวไม่ว่าด้านดีเลิศประเสริฐศรีไม่มีที่ติหรือเลวสุดขั้วจนหาความดีไม่เจอ คนแบบนี้ไม่มีจริงในโลก มนุษย์ทุกคนต้องเรียนรู้โลกธรรมเพื่ออยู่กับความจริงให้ได้ ยุคนี้ 2013 ที่โลกเจริญด้วยวิทยาการและมนุษย์กระหายเสรีภาพ มิใช่ยุคมืดสมัยพระเจ้ามีเดชพระวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโลกต้องยอมจำนน ยุคนั้นได้ผ่านไปและสูญสิ้นไปนานแล้ว และจะไม่หวลคืนมาอีก ดูศาสนจักรโรมันคาทอลิกในปัจจุบันยังยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จากการเลือกตั้งพระสันตปาปาองค์ใหม่ที่ทันสมัยปรับตัวไปตามกระแสโลก

 ปัญหาของสื่อไทยที่มีมาช้านานก็คือการนำเสนอความจริงเพียงด้านเดียว โปรดนำเสนอความจริงทุกด้านอย่างเสรีและยุติธรรม นี่คืออุดมการณ์ที่จะปลดปล่อยตนเองออกจากความเป็นสื่อทาส ประชาชนต้องการสื่อเสรีประชาธิปไตย หากยังล้าหลังประชาชนจะปฏิเสธในที่สุด

การเสนอข่าวที่เชื่อถือได้ นี่เป็นหลักการข้อที่ 1  ...........  แต่โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์  มักง่ายเลยกลายเป้นการเสนอข่าวโฆษณาชวนเชื่อไป.......เป็นข่าวที่ปั้นแต่ง หรือแต้มแต่งสีสรร  ซึ่งขายได้ดีในสังคมไทย  .................  แน่ละหมายถึงคนในสังคมค่อนข้างโง่ ตามไม่ทันสื่อ

เราต้องการข่าวที่เจาะลึกในเหตุการณ์ที่จะเป็นประโยชน์......เช่นขณะนี้เราต้องการข่าวเจาะลึกเรื่อง ปรส.ยุครัฐบาลชวน   ทำไม ปปช.จึงว่านายชวน กับนายธารินทร์ ไม่มีความเกี่ยวข้อง    ต้องการเจาะลึกไปถึงเบื้องหลัง ปปช.   กกต.  และ ตลก รธน.  และองค์กรอิสระต่าง ๆ  

เราอยากได้ข่าวเจาะลึกตัวบุคคลเช่นนาย อภิชาติ สุขัคคานนท์  ว่าเหตุใดจึงมีความลำเอียง  อย่างน่าเกลียด เช่นกรณีปลดการุณ โหสกุล ออกจากสส.กทม.ดอนเมือง ..........มีกกต. 4 คน  ออกเสียง 2 ต่อ 2  แล้วนายอภิชาติออกเสียงในฐานะประธานฯอีกครั้งหนึ่ง เป็นการออกเสียงซ้ำซ้อน  เพื่อให้นายการุณหลุดจงได้  ................. มันแสดงถึงความเกลียดชัง อาฆาตแค้นเป้นการส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัด  ทำนองเห็นผู้ต้องหาเป้นศัตรูส่วนตัว ได้โอกาสก็ต้องขย้ำอย่างไม่ให้หลุดรอด  ............. ผมว่าคนเช่นนี้ ออกไปจากราชการแล้วก็ไร้ค่าในสังคมไปทั้งหมด จะเงยหน้าอ้าปากได้ที่ไหนต่อไป ...........

เราอยากได้ข่าวเจาะลึก  คนในบ้านสี่เสา  ว่าจวนตายแล้วหรือยัง  ฯลฯ.....

ข่าวเจาะลึก ได้ข้อมูลจริง  ได้ข้อมูลที่ชัดเป็นหลักฐานเอาคนเข้าคุกได้เลย นั้นแหละ  ที่ต้องการ

นั่นแหละ  สื่อจะกลายเป็นเทพเจ้าได้

ที่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมารวมตัวกันยื่นข้อเสนอไปยังสื่อ  ให้เสนอข่าวที่ควรเสนอ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ...............โดยให้เจาะไปที่  คดี ปรส.    ไปถามนายกล้าณรงค์  ดูบ้าง   กล้าหรือไม่ .............

ขอให้ติดตามต่อไปนะครับขอขอบคุณที่ทำงานตรงใจประชาชน

ไปดูว่า  ปปช.กับนายอะไร สส.ประชาธิปัตย์ พิษณุโลก  ที่พาพวกโยนแฟ้มในประธานสภา ฉุดลากประธานสภาจากเก้าอี้ ......มีความสัมพันธ์กันอย่างไร   ..........    จึงรับเรื่องอะไรนี่ง่ายเหลือเกิน  ถ้าเป้(ฯเรื่องกล่าวหานายกรัฐมนตรี  ...........   เราขอให้ประชาชนู้รักความเป็นธรรมที่ยื่นฟ้อง ปปช.ทั้งคณะ ที่มีมติรับเรื่องจากนายวรงค์ เดชกิจวิกรม ฟ้อง นรม.ยิ่งลักษณ์  โดยไม่ถูกกฎหมาย ...............เดินงานฟ้องร้อง ปปช.นี้อย่างเต็มที่  ขอสนับสนุนนายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์  ทนายความผู้ฟ้อง ปปช.  ว่าผิด ม.157 และ ม. 83    เอาเลยครับ  เชียร์เต็มที่

พบแล้ว  ในเนชั่นสุดสัปดาห์ วันที่ 21 มิ.ย.2556 ที่มีรูป เด็กเณร................ข้อเขียนของคนชื่อแกว    เทพชัย หย่อง ..

เขียนเรื่อง  หยิ่งผยองคือจุดจบของอำนาจ    .........เชียรพวกหน้ากากขาว   คงเป็นพวกเดียวกับหน้ากากขาว   แล้วเขียนไป ๆ ...................  ก็พอเห็นว่าเป็นพวกไร้เหตุผล   อ่านพบคำถามว่า  นายกฯหญิงคนแรกของเราเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยแค่ไหน  ..............  ก็เข้าใจมากกว่าเทพชัย หย่องแหละ  แกเองน่ะแหละที่ควรจะได้รับคำถามว่า   เข้าใจประชาธิปไตยเพียงไหน ..................นักเขียนแบบนี้กวนสังคมจริง ๆ  

เอามาบันทึกไว้ก่อน ได้โอกาสจะชำแหละแล้วเอาเกลือทา  ..........เข้าใจว่าเขาเขียน 63 ข้อความเลวของทักษิณ ข้างต้น

มันนั่นแหละนายแกว  เทพชัย หย่อง  ที่เขียน 63 ความเลวของทักษิณ

คนขี้อิจฉา-ริษยา  วันหนึ่งจะรากเลือดตายเหมือนจิวยี่

น่าชมมากที่มีการเจาะข่าวนายกล้าณรงค์ ......... ปปช. (คนหัวล้านเหน่งน่ะ)  ว่าเป็นหนี้เขาล้านกว่าบาท   เจ้าหนีเขาทวงแล้วยังปฏิเสธ........กำลังเป็นเรื่องราวเข้ม ๆ อยู่ทางสื่อครับ   ประเด็นคือ  เป็นกรรมการในคณะผู้ตรวจสอบความทุจริตของผู้อื่น แต่ตัวเองไม่สุจริตเสียแล้วนี้   ทำไมหน้าด้านอยู่ในตำแหน่งต่อไป น่าลาออกเสีย............

สื่อที่เข้าใจประชาธิปไตยต้องประพฤติอย่างไรครับ?