คนหัวเบี้ยว แก้วสรรค์  อติโพธิ   เป็นคนบกพร่องทาง  อารมณ์ครับ   ทางภาษาจิตวิทยา  ว่าบกพร่องเรื่อง  Emotion Quotient  [EQ]  คราวนั้น  แกเตรียมพวงดอกไม้ พร้อมโฆษณาชวนเชื่อรวมพลพรรคไปที่ศาล  แกกะจะเอาไปบูชา ให้รางวัลศาลน่ะครับ คิดว่าอย่างไร ๆ ศาลก็ต้องตัดสินเข้าข้างแก   แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าตนเป็นพวกเดียวกับศาล  แต่บังเอิญศาลตัดสินออกมาเป็นตรงข้ามกับที่แกคิด   แกก็เลยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย แทนที่จะเอาดอกไม้ไปให้ศาล  ก็พาพวกเผาทิ้งเสียหน้าศาลนั่นเอง  แกเองเหมือนวิกลจริตกระโดดเข้ากระทืบป้ายศาล  อันนี้คนรู้ทั่วประเทศแหละครับ  เป็นข่าว    นี่คือคนหัวเบี้ยว  สติปัญญาก็เบี้ยว ๆ ไปด้วย   แล้วคนหัวเบี้ยว อีคิวขนาดนี้นี้ ที่จริงไม่น่าจะมีสิทธิ์เป็นครูบาอาจารย์ แต่ก็มีสถาบันบองสสส์  ๆ     เอาไปเป็นครูบาอาจารย์  ไปทำลายระบบการศึกษาไทยไปอีก

ส่วนหมอตุลนะครับ  ก็พอ ๆ กัน   แกเป็นพวกเสื้อหลากสีน่ะครับ   เวลาขึ้นเวทีพูดนี่  แกก็พูดสไตล์เอเอสทีวี - ประชาธิปัตย์ นี่แหละ  ลอกเลียนมา  คือ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น   อ้างอะไร ๆ ที่ทำให้คนฟังมองตนว่าเป็นวีระบุรุษ  แต่แล้วที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  วงเวียนหน้า โรงพยาบาล ถนนพหลโยธิน นั่นแหละครับ  แกนัดชุมนุม ขณะกำลังสร้างภาพเช่นนี้อยู่ คือพูดแสดงความกล้าหาญของแก   คนทนฟังแกขี้โม้ไม่ได้ก็จุดระเบิดโพล้งขึ้น  ประชาชนตกใจเคว้งคว้าง  แต่พอมองหาหมอตุล ปรากฎว่าหมอตุลหายตัวไปเสียแล้ว อย่างไร้ร่องรอย ก่อนประชาชนคนอื่นทั้งสิ้น  ไม่รู้หายตัวไปไหน  เร็วเหลือเกิน  ทิ้งประชาชนให้เคว้งคว้างรับชะตากรรมไป

ตอนเกิดเรื่องที่สวนลุมพินิก็เหมือนกัน  พอเกิดเรื่องขึ้นนี่  แกรีบเอาตัวรอดไปก่อนเลยทุกที  ส่วนประชาชนจะเป็นอย่างไร แกไม่คำนึง  นี่คือคนขี้ขลาด  ขาดความเป้นผู้นำ  และบกพร่องทาง  EQ  ต่อมาประชาชนก็ตราหน้าไว้   ไม่คบหาสมาคมอีก จนถึงบัดนี้แหละครับ     ผมว่าหมอตุลนี่คบไม่ได้ครับ  ระวังแกเป็นหมออาจจะใส่ยาพิษให้คนไข้กินตายได้ครับ.....โรงพยาบาลต้องระวังนะครับ  แกเองอาจจะเป็นคนเสีย ๆ เอง ในด้านจิใจและอารมณ์  ไม่ควรเสี่ยงเอาไปทำงานด้วย    ถ้าตั้งคลินิคตัวเอง  ประชาชนต้องระวังอย่าไปเสี่ยงใช้บริการ  ต้องถามก่อนว่าหมอตุลอยู่คลินิคนี้ไหม  ถ้าอยู่ต้องรีบไปครับ    ผมขอบอก

2  คนนี่ทำอะไรบ๊องส์ๆ  ขนาดกรรมการใหญ่ตลาดหลักทรัพย์เขามาบอกว่าสื่อว่ากฎหมายไม่สามารถเอาผิดยิ่งลักษณ์ได้  แกก็ดันทุรังจะเอาเรื่องให้ได้  นักกฎหมายมืออาชีพช่วยสอนแกหน่อย  จะทำอะไรก็ให้มันถูกหลักวิชาการบ้าง อย่ามั่ว  พอเล่นงานยิ่งลักษณืไม่ได้ผลก็หันรีหันขวางไปเอาเรื่องกับจตุพรจะไม่ใหเป็น สส.  เคยอ่านเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ เพิ่งเข้าใจนิทานอีสปเดี๋ยวนี้เอง  ว่างๆพาคน 2 คนที่คิดว่าตนเองดีไปหาหมอก็ดีนะ  เห็นนักวิชาการท่านอื่นบอกว่านายแก้วสรร  แกไม่ได้เป็นอาจารย์แล้วเพราะไม่ได้รับการยอมรับไม่รู้แกเอาตำราอะไรมาสอน  มั่วไปหมด  ว่าแต่ก่อนที่จะจบสาขาแพทย์ศาสตร์เขามีการตรวจสอบทางจิตวิทยามิใช่หรือ  รีบเช็คทีคุณหมอท่านนี้ได้ผ่านการตรวจสอบหรือไม่

พวกเดียวกันอีกคน   อมรา  พงศาพิศ  ครับ   คน ๆ นี้เรามองมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว  เป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ......  เป็นถึงศาสตราจารย์.....   ประเด็นของเราก็คือ   เป็นขนาดนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย  เป็นไปได้อย่างไร  ?    ต้องให้คาราวานคนจน จากอีสานไปอบรม และไล่ออก.....

ออกจากมหาวิทยาลัยแล้วไปเป็นประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ตามรัฐธรรมนูญ 2550  ........เราท้วงแต่แรกแล้วว่า  เป็นได้อย่างไร  ไม่รู้ประชาธิปไตย........ สิทธิมนุษยชนนี้  เขาเป็นเรื่องประชาธิปไตย  หมายถึงเรื่องเสรีชน    สิทธิของเสรีชนเป็นอย่างไร ....   นางอมรา  พงศาพิศ  ไม่เคยรู้เรื่อง......

และแล้ว  แกก็ไปเขียนรายงานเรื่อง  การเข่นฆ่าแดงออกมา   ว่าแดงเป็นฝ่ายผิด   รัฐบาลเป็นฝ่ายถูก   ทั่วโลกมองเขม็งกันอยู่  และ  นักวิชาการไทยแทบทุกสถาบัน มองอยู่ว่าไม่เป็นกลาง........เริ่มจะเห็นอย่างเดียวกับผมแล้ว 

ใช้วิธีแบบเดียวกับพลพรรคประชาธิปัตย์ คือ   หน้าด้านเข้าไว้ ให้ถึงที่สุด  ถึงโง่อย่างไรก็พยายามสร้างภาพให้ตนฉลาด ๆ  เข้าไว้   ก็รอด......

มีข่าวหมอตุลครับ  ว่าอย่างนี้........  ดีแต่เห่า  ตุลย์ยื่นค้านกกต.รับรองจตุพรเป็นสส. อ้าง หน. เลขาพท.ให้การเท็จ.........

แล้วอภิชาติ  สุขัคคานนท์ อีกคน   ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับเขาเรื่องประชาธิปไตย     4 กกต.เขาเข้าใจเหตุผลหมด แกเอง ประธาน กกต. ยังไม่เข้าใจเลย    ก็เช่นนี้แหละ..........ปชต.ไทยจึงขาดความคล่อง  

ผมหมายถึง  4 คนให้จตุพร  แต่ 1 คน อภิชาติ คนเดียวแตกคอกออกไปไม่ให้  ...............

จตุพรเลยได้ออกมาเป็นสส.   ยินดีด้วย

พวกคติบาป-บุญโบราณ ๆ     ไปกรีดเลือดสาบาญเป็นพี่เป็นน้องกับ อมาตย์    ก็ต้องร่วมเป็นร่วมตาย....ไปกับอมาตย์จนชั่วชีวิต ......

ถือว่าเป็นสัจจะแบบโง่ ๆ  .......... ที่ถ้าขัดหลักความเป็นธรรมเสียแล้ว    ก็ไม่ชอบด้วยวิถีทางประชาธิปไตย  

คนขาดธรรมน่าตาจะดูหลุกหลิก วันก่อนเปิดทีวีเห็นป้าอมรา  พงศาพิศ  แกกลอกตาไปมาเหมือนคนแก่เลอะเทอะ นี่ขนาดเคยเป็นครูอาจารย์มหาวิทยาลัยใหญไฮโซ มาดภูมิธรรมภูมิฐานไม่มีเอาเสียเลย ไม่รู้ว่านักศึกษาที่แกเคยสอนจะได้อะไรบ้างที่ประดับสติปัญญา  เพราะประชาธิปไตยยังไม่รู้จักขนาดรับรองว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์สลายการชุมนุมจนมีคนเจ็บตายจำนวนมากยังบอกว่ามีความเหมาะควร

เพิ่งค้นพบ  มีหมออีกคนหนึ่ง  ท่าจะบ๊องสสส์        อยู่ในสภาครับ     ดู ๆ แกเสีย ๆ ไปหน่อย  เพี้ยน ๆ น่ะครับ   คล้าย ๆ หมอตุลนี่แหละ  น่าเอาไปตรวจโรคจิตอะไรประมาณนั้น   คิดว่าคงเพี้ยนว่าตนเองเป็นปราชญ์อะไรประเภทนั้น  ทุกทีมีการประชุม แกจะต้องยกมือ ขอพูดทุกที  หลาย ๆ ครั้ง  และที่ทำประจำขาดไม่ได้ก็คือชอบสอนประธานสภาเสมอ ว่าประธานสภาทำไม่ถูก  ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้จึงจะถูก  และเตือนประธานสภาบ่อย ๆ  ว่า ประธานสภาต้องฟังผม.....ผมพูดยังไม่จบ ....ประธานต้องฟังผม...  อยู่เป็นประจำ  ............  ล่าสุด ประธานสภาก็เตือนเอาบ้างว่า  คุณควรจะฟังผมก่อน.... เพราะเป็นหน้าที่  อำนาจ  ของปรธานสภา  ...........  หมอพิษณุโลก  ชื่อ วรงค์  เดชวิกรม  สส.ปชป.นี่แหละ   เริ่มจับทฤษฎีชีวิตหลอกลวงของพรรคประชาธิปัตย์มาใช้แล้ว  คือ  ทฤษฎีหน้าด้าน .....เหมือน ๆ กับนาย วัชระ  เพชรทอง    พวกหัวกฎหมายคร่ำครึ ปชป.  ทุกคน ๆ