เอาหนังสือพิมพ์ ซื้อมาเล่มละ 10 บาท  แล้วบิดเบือนข่าวเขาไปเข้าแนวคิดของตนเองคือเพื่อวาทะกรรมวาจาที่ส่อเสียดยุแยกให้คนแตกกัน  ให้คนฝ่ายหนึ่งเกลียดชังคนอีกฝ่ายหนึ่ง  

กว่าที่คนทั่วไปจะรู้ว่าเอเอสทีวีทำงานอย่างนี้ก็นาน

นั่นคือ  วิธีที่จะเอาข่าวมาบิดเบือน ก็ต้องสอนต้องเรียน  มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เริ่มสอนวิชานี้ขึ้นก่อน ในเอเอสทีวี ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ   จะเรียกว่า   วิชาบิดเบือนข่าว  หรือ  วิชาใส่ร้ายป้ายสี ก็เรียกได้  แต่นั่นเป็นวิชามาร  วิชาชั่วร้ายอย่างแท้จริง    เพราะเป้าหมายคือทำให้คนฝ่ายหนึ่งเกลียดชังคนฝ่ายหนึ่ง  หรือคน ๆ หนึ่ง   แม้ทั้งรู้ว่าเขาเป้นคนดี  ก็ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นคนชั่วร้ายได้    นี่คือวิชาที่เอเอสทีวีสอนมานาน  

ที่เห็นหน้าจอขณะนี้ เช้า ๆ นี่ก็คือ    นักเรียนสาว ๆ  2  คน  กำลังฝึกหัดอยู่    มืออาชีพเช่น  อีปอง  (อัญชลี ไพรีรัก)  กับ คนรุ่นเดิม  หายไปหมดแล้ว    ก็ต้องมีศิษย์หน้าใหม่หน้าโง่เข้ามาแทน   รวมทั้งพวกโง่ ๆ อาระยะบุคคลจากสันติอโศกก็มาฝึกหัดด่าฝึกหัดเรียนรู้วิชาบิดเบือนข่าวจากเอเอสทีวีไปด้วย

เมื่อคนไทยรู้ทันเอเอสทีวีมากขึ้น   ก็รู้ได้เองว่าเอเอสทีวีและพวก พธม.นี้คือพวกไร้สาระอย่างแท้จริง  เอาเวลาที่มีค่าของชีวิตมาทำสิ่งที่ไร้สาระ พร่าผลาญเวลาไปเปล่า ๆ   และซ้ำทำบาปกรรมแก่ประเทศชาติ   และคนดี ๆ  ทั้งหลาย  ไปแล้วจำนวนหนึ่ง รวมทั้งทำลายประชาธิปไตยลงอย่างราบเรียบ

เช่นขณะนี้  เขายังคงกล่าวหาว่า   เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง   เขาว่า   ปล่อยออกมาทำไมจะให้เผาบ้านเผาเมืองต่อไปอีกหรือ ???

นี่คือ    การโฆษณาชวนเชื่อ  ตามหลักการวิชา  Propaganda   อันอยู่ในแนวยุทธศาสตร์ฝ่าย    Pschychological Warfare    ยุคสงครามเย็นของโลก 

ไม่ทราบว่านายจันทร์หัวเหน่ง หรือที่เรียกตัวเองว่า  สมณะจันทร์  ชอบโทรศัพท์ไปจีบสาว ๆ เวลาดึก ๆ  อ้างว่าจะสอนธรรมะข้อพิเศษให้   .............  โดนรวบตัวไปด้วยหรือเปล่า ????   ผมอยากให้ไป ๆ เสียที.............

แกพูดธรรมะนี่คล่อง....   ก็เหมือนคนบ้าพูดธรรมะอย่างที่ท่านบอกนั่นแหละครับ   คิด ๆ ดูเป็นเช่นนั้นจริง ๆ  

ใครว่าคนบ้าแสดงธรรมไม่ได้   มีเยอะแยะเต็มแผ่นดินไปหมด  ยุคนี้    ยุคหาเงินหาทองด้วยลมปาก    และลมหลอกลวง

ก็ดูที่เอเอสทีวีนี่แหละ  

ระวังหน่อยนะครับ คุณอภิชัย คำว่าคนบ้าแสดงธรรมกันเต็มแผ่นดิน   .......ว่า  คนบ้าแสดงธรรมเต็มเอเอสทีวี ถูกต้องกว่า.....

จตุพร กำลังเฆี่ยนเด็กดื้อพิศิด กลางสภา 

เฆี่ยนแบบไม่เลี้ยง      คงหนีไปนอนร้องไห้หลังบ้านอยู่หลายวันหลายคืน

สารภาพว่า  ผมไม่เคยไปทำเรื่องสละสัญชาติอังกฤษ................

ว่าเป็นความผิดทางตรงและทางอ้อม ............ผ่านระบบอินเทอเนตซึ่งสลับซับซ้อน   นายพีรพันธ์  สาลีรัฐวิภาค  รมว.ยุติธรรม  แก้เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสด.บรมโอรสาธิราช   กรณีคนสามคน  นายอานันท์  พล.เอกเปรม กับ..........ไปประชุมคิดการมิดีมิร้ายต่อองค์รัชทายาท และ  วิกกิลีก เอามาออก โลกรู้กันทั่ว  ...........................

แล้วเรื่อง พธม. คือม็อบสนธิ-จำลอง-ประชาธิปัตย์ ปิดเส้นทางพระราชดำเนิน  พระราชทานเพลิงพระศพเจ้าพี่นางเธอล่ะ.............  เห็นกันโต้ง ๆ  ต่อหน้าประชาชนไทยทั่วประเทศ............ทำไมไม่เอาไปตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรสักที  ................  

เรื่องนี้  เปิดเผยกันตรง ๆ   ผมไม่ยอมครับ  ผมคนเดียวนี่แหละไม่ยอม............

เอาอีกแล้ว         นายบุญยอด  สุขถิ่นไทย      ในสภามีคน ๆ นี้อยู่ในฐานะอะไรครับ ?     

ยังไม่พอนี่.....ผู้กองเหลิมมาเฆี่ยนต่อ ..........  โอ........แตกไปหมดตัวละทีนี้  ..........  น่าสมเพชจริง ๆ  .................   ทนอยู่ไปได้อย่างไรหนอ  ???    ไปเสียเถิด.......ทนดูไม่ได้แล้ว........สงสารเด็ก    ผู้กองก็รู้อยู่ว่าเด็ก..................

มาดูเอเอสทีวีเช้านี้     จำชื่อไว้ด้วยนะครับ  .....  คนพวกนี้ถือว่าทำความผิดทางปาก  ............ใช้วาจาพูด  ดูหมิ่น  ดูถูก  ดูแคลนคนอื่นได้อย่างไม่เกรงกลัวใคร.................ก็น่าคิดเหมือนกันในคำพูดที่ว่า   ม็อบมีเส้น.....  ใหญ่ยิ่งกว่าก๋วยจั๊บ.......

ขนาด  เข้ายึดทำเนียบไว้เป็นเวลาถึง กว่า 130 วัน .................................  ยังไม่มีใครกล้าเอาผิดได้.........นี่บอกถึงเบื้องหลังที่หนุนอยู่  ว่าขนาดไหน.........

และเข้ายึดสนามบินนานาชาติ   นานาชาติเห็นพ้องกันว่าเป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจน    พวกเขาก็ยังสามารถเล่นลิ้นแก้ตัวไปเป็นวัน ๆ   โดยไม่มีใครกล้าเอาผิดได้........................................

นี่คือสิ่งบอกเหตุของอำนาจที่หนุนอยู่เบื้องหลังคนกลุ่มนี้...........ว่าคงมิใช่ธรรมดา....แน่ละ   ...........   มีข้อสงสัย........ว่าเป็นพล.อ.....

สดจากสะพานมัฆวานรังสรรค์วันนี้   ก็มีหญิงแก่ ๆ  คนหนึ่งมาฝึกหัดด่า   ฝึกหัดบิดเบือนข่าว     ก็ดูเงอะ ๆ งะ ๆ อยู่...........

แก่ป่านนี้แล้วมาฝึกงานชั่วร้ายเยี่ยงนี้ไปทำไม........เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ  ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินแล้ว   เอเอสทีวีก็ไม่มีที่อยู่.........................วาทะส่อเสียด  ยุแยกให้แตกกันเช่นนี้   แหละทำไทยให้ล่มจมอยู่ทุกวันนี้  แล้วจะเอาไว้ทำไม  ??

ประพันธ์  คูณมี   คุยว่ามีมหาวิทยาลัยให้รางวัลศิษย์เก่าดีเด่น  .........   ว่าให้เพราะเห็นว่าไล่ทักษิณหนีไปได้

มหาวิทยาลัยไหนล่ะ   ห่วยขนาดนั้น.....

ปกติมหาวิทยาลัยไทย ๆ ก็ห่วย ๆ อยู่แล้วแหละ  ...........   มาให้รางวัลคนห่วย ๆ อย่างประพันธ์  คูณมี  ได้อย่างไร   แล้วไปเกี่ยวอย่างไรกับทักษิณ  ชินวัตร ผู้ตั้งมหาวิทยาลัยชินวัตร.........

มหาวิทยาลัยตั้งหลายแห่งที่นักวิชาการห่วยๆอย่างอมรา พงศาพิชญ์ อดีตคณบดีรัฐศาสตร์จุฬาปัจจุบันเป็นเลขานุการองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ไม่รู้สึกรู้สากับคนไทย 91 ศพ บาดเจ็บ 2000 คนที่ถูกสลายการชุมนุมนี่เงียบหายไปแล้วไม่เห็นออกหน้าจออีกคนก็สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดีมหาวิยาลัยบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า อดีตเลขา สนนท. แกนนำนักศึกษาที่เรียกร้องหาประชาธิปไตย ปัจจุบันยังเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 รอบ 2 โอ้โฮคิดออกมาได้เผด็จการหนักขึ้นไปอีก ไม่เกรงใจประชาชนคนไทยที่จบด็อกเตอร์หรือคนรากหญ้าที่ฉลาดๆก็ไม่น้อยนะ ป่านนี้ดวงวิญญาณของวีรชนจะรู้หรือไม่ไม่รู้ว่า แกนนำเดือนตุลาในอดีตแกคลั่งไคล้หลงใหลระบอบเผด็จการจนไม่มีหิริโอตตัปปะ ก็ลองพิจารณาดู 5 ข้อก็แล้วกันแล้วช่วยกันชำแหละ 

ข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการ เมืองไทยรอบ 2 อีก 5 ประเด็น สรุปได้ดังนี้คือ...

1, พรรคไหนได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุด แม้ไม่ได้ที่นั่งมากที่สุดในสภาฯ ต้องให้พรรคนั้นได้สิทธิ์จัดตั้งรัฐบาล

2, ห้ามรัฐบาลยุบสภาฯ เพื่อให้สภาผู้แทนฯลากยาวจนครบวาระ 4 ปี

3, ห้ามฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลต้องอยู่ครบเทอม

4, เพิ่มอำนาจรัฐบาลให้มีสิทธิ์ยับยั้งกฎ-หมาย ถ้าจะเกิดผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาล

5, เปิดโอกาสให้ ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง

รายงานจากเอเอสทีวีว่า  อภิสิทธิ์ไปสวนจตุจักร  โดนคนเสื่อแดงที่นั่นโห่ไล่    ........... สะใจไหมล่ะพี่น้อง   

.   นั่นสิ   เสื้อเหลือง  โดยเฉพาะกองทัพธรรม ควรจะกลับใจ   มาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่มีสาระ   ดีกว่าต่อสู้เพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ  ที่ไร้อนาคต  ไร้สาระจริง ๆ   และที่สำคัญ เป็นงานที่เพียงรับใช้เขา

เป็นงานข้าทาส  ที่ไม่ได้รับใช้ตัวเอง   แต่รับใช้คนอื่น   เจ้านายของเรา เป็นเจ้านายที่มักไม่มีตัวตน....พวกเราเอเอสทีวีทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีใครรู้ว่านายของเราเป็ฯใคร  เรารับใช้ใคร   .  มันเป้นงานที่น่าทุเรศ และไร้ศักดิ์ศรี.....

งานอัปยศ ที่รับใช้............มือที่ไร้ตัวตน.....เป็นทาสสิ่งที่ไร้ตัวตน

ประเด็นของกระจกเงา   ความเห็นที่ 9  เป็นประเด็นสำคัญมากจริง ๆ

และเป็นเรื่องที่เศร้า  กรณีคนที่เสนอเรื่องนี้  นายสมบัติ  ธำรงธัญญวงศ์ เคยเป็นอดีตเลขาธิการสิตนักศึกษายุค 2516-17  ซึ่งนั่นหมายความถึงสปิริตของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย    ผมเคยติดตามบทบาทของแกในฐานะนักสืบ  การข่าวกรอง     แล้วต่อมาได้ดิบได้ดีเกินหน้าเพื่อน ๆ  โดยได้เป็นถึงอธิการบดีนิด้า  และเป็น ศาสตราจารย์

เขาทำให้สถาบันเสื่อมศักดิ์ศรีลงอย่างสุด ๆ  เพราะตอนหลังอยากได้ลาภยศตำแหน่งกับเขาบ้าง มีแนวคิดที่ทรยศต่อระบอบประชาธิปไตย   แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น  ๆ  คือคนระดับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยระดับที่สอนปริญญาเอกร่วมกับมหาวิทยาลัยนานาชาติเช่นนิด้า และที่สอนเรื่องราวการเมืองการบริหารโดยตรง นี้   ยังเขลา ไม่เข้าใจประชาธิปไตย เลย นี่สมควรอยู่ต่อไปหรือ    

ทำให้เป็นที่มาของคำว่า   มหาวิทยาลัยห่วย ๆ ทั้งหลายในประเทศไทย    ศาสตราจารย์ห่วย ๆ เช่นนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์  เช่นนางอมรา พงศาพิศ......

 แต่บุคคลากรในสถาบันกลับไม่รู้สึก  

เช่นข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญรอบ 2 เป็นไร

นี่คือหลักฐานทางวิชาการ  ที่สะท้อนถึงความทรยศของนายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์   ทรยศต่อประชาธิปไตย   แต่ประเด็นคือ  สะท้อนว่าคน ๆ นี้ไม่เข้าใจเรื่องราวของประชาธิปไตยของโลกที่เจริญและที่มหาวิทยาลัยระดับโลกเขาสอนเลย  ข้อที่จะต้องพิจารณากันอย่างจริง ๆ ในวงการศึกษาระดับอุดมศึกษา ก็คือ เขาไม่น่าจะเหมาะสมกับตำแหน่งคำว่า  ศาสตราจารย์  และไม่เหมาะสมกับตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนิด้า (NIDA = National Institute for Development Administration)  ซึ่งสอนระดับปริญญาโท ถึงเอก    และแม้แต่จะให้เป็นเพียงครูสอนก็ไม่เหมาะสม 

กรณีนี้  พอ ๆ กันกับกรณี นางอมรา  พงศาพิศ   ผู้เป็นถึงศาสตราจารย์ และ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(ที่สอนเรื่องการเมืองของประเทศไทย)    และขณะนี้อยู่ในองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ   (ที่มีหน้าที่ปกป้องประชาธิปไตยของชาติและประชาชนไทย-สากล)

ถามท่านทั้งหลายว่า   จริง ๆ แล้ว  ไม่รู้หรือว่า  ข้อเสนอเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบ 2 นั้น   นั่นคือมาตรการที่ทำลายประชาธิปไตย  ไม่ได้ส่งเสริมประชาธิปไตยเลย

และเด็กพิศิด  ก็ไม่รูเรื่องรู้ราวอะไร  

เป็นถึงนายกรัฐมนตรีเปล่า ๆ   ทำลายหมดทุกระบอบของประเทศเพราะความไร้เดียงสา.....

วงการมหาวิทยาลัยไทย แม้ระดับอุดมศึกษาก็จริง   แต่ไม่เคยแสดงสัญญาณว่า  มีความเข้าใจเรื่องมหาวิทยาลัยเลย  ....  มหาวิทยาลัยคืออะไร  มีหน้าที่อะไร  ?

ไม่เคยเข้าใจ.....

มหาวิทยาลัยห่วย ๆ  ชอบหอบปริญญาห่วย ๆ ไปให้คนนั้นคนนี้  ........   ให้แม้กระทั่งพระสงฆ์  ที่ท่านไม่รูเรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเลย..........เอาเงินเป็นหลัก...................

อย่างเช่นมหาวิทยาลัยห่วย ๆ  หอบปริญญาเอกไปให้  ไทเกอร์ วู๊ด...........ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่อยากได้  เขาถามว่าจะเอาไปทำไม  ????  และให้ด้วยความสามารถอะไร ?????

ไม่เข้าใจเรื่องวิชาการเลย

ผมก็ไม่ได้เก่งหรอกครับ  แต่ผมเห็ฯมหาวิทยาลัยต่างประเทศเขา.......

แต่คนไทยบางคนจบต่างประเทศมา   ก็ยังเป้นคนไทยไม่รูเรื่องอยู่เหมือนเดิม    ก็นายกเด็กของเรานี่แหละ  ไปเรียนอังกฤษ แต่ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย    ................

ให้มันได้อย่างนี้ซี............

สรุป  เมื่อประชาชนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน  จึงช่วยกันปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่เสียที    ............

และโล๊ะคนอย่างนายสมบัตินี้ไปลงขยะ............

ที่นายสมบัติ กับนางอมรา  ได้เป็นศาสตราจารย์  ได้เป็น อธิการบดี   ได้เป็น คณบดี   ในมหาวิทยาลัยนั้น   นั่นแหละครับ  ผลงานของมหาวิทยาลัยห่วย ๆ

ที่ชอบหอบปริญญาไปให้คนโง่ ๆ ได้เป็นใหญ่   ......................  ดูดี ๆ  จริงไม่จริง  ???   

พอ ๆ กับเชิญนักการเมืองไปเรียนปริญญาเอก   เรียนบ้างไม่เรียนบ้างก็ให้ปริญญา    อย่างนายบรรหาร  ศิลปะอาชา   เป็นต้น  

ก็กลายเป็นปริญญาห่วย ๆ ไปตาม ๆ กัน.....

ไหน ๆ  ก็ไหน ๆ   เอาให้สุด ๆ ไปเลย

มีอะไร..........ร้องโอย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ๆโอ๊ย  !!!!!  จิวยี่หรือ จะรากเลือดละมั้ง....

เจ็บใจ..........ตำรวจให้เปิดถนน  ไล่พวก พธม.ไปรวมกระจุกอยู่แถว ๆ หน้าเวที  ....หย่อมหนึ่ง..

แล้วจะไปร้องโอ๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ โอ๊ย  ไปทำไม ............   เปิดทางให้จราจร...........

ที่จริงก็ไม่รู้จะอยู่ทำอะไรหรอก    ก็เลิก ๆ  ชุมนุมไป    หรือไม่ก็ปล่อยให้พวกอาระยะบุคคล พวกกองทัพอธรรม แสดงความอดทนทายาดอวดคนต่อไป     

แต่นี่น่าจะดีกว่า ไปรวมกับเสื้อแดง ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  ไล่เผด็จการ เป้าหมายก็ตรงกันอยู่  ..........

หวังดี    .............     ไม่อยากให้อาเจียนเป็นจิวยี่ ตายเปล่า..............

แล้วไม่เห็นทายาทสายตรงออกมาสักที         จิตอนาถ ลิ้มทองกุล   

สมณะโพธิรักษ์ ยืนยันไม่เปิดถนนพิษณุโลก

ก็เพราะเขาต้องการแสดงธรรมที่ว่า      อาระยะขัดขืน   อย่างไรล่ะ 

เขาอยากอวดตรงนี้

เพื่อให้เห็นว่าพวกอาระยะบุคคลมีความทนทานทรหดเหนือคนธรรมดาขนาดไหน????

ก็ปล่อยให้เขาอวดไปสักเวลาหนึ่งก็ได้นะ   เห็นแก่คนโง่ ๆ คนหนึ่ง   แลกกับภาพพจน์ของประเทศ.......

ที่กำลังพูดอยู่ก็   สุริยะใส  กะตะศิลา      นี่แหละสไตล์ นายกเด็กอภิสิทธิ์ 

ไม่รู้ใครเลียนแบบใคร

คือพูดคล่อง ๆ ไปได้ทุกแบบเพราะไร้ความรับผิดชอบ  โกหกพกลมไปอย่างไร ๆ ก็ได้  มันก็ไม่ติดขัด  พูดไปได้เรื่อย ๆ  ก็เพราะ

1.   ไร้ความรับผิดชอบ

2.    แบบโต้วาที  ไม่คำนึงความจริง

3.    มองด้านเดียวตลอดเรื่อง   มันก็พูดคล่อง    

4.     มีแต่ตรรกล้วน ๆ    พอเข้าหลักตรรกะก็ว่าไปปรุเลย   ไม่คำนึงความจริง

5.     มีส่อเสียด เยาะเย้ย ถากถาง เป็นชูรส  ให้มัน ๆ 

6.     ไม่เข้าใจทฤษฎีมนุษย์  ตัวนี้สำคัญมาก 

เขาก็พูดอยู่แบบมีเป้าหมายการโฆษณาชวนเชื่อ    แบบยุให้คนแตกกันอีกแล้ว     ว่าเอา 7 คนออกมามจากคุกเพื่อถ่วงดุลไม่ให้จตุพรเด่นเกินไป   นั่นแน่..........

แล้วว่าดีใจที่คนเสื้อแดงมาดูเอเอสทีวีมากขึ้น    ...........   ดูเขาหน้าด้านพูดไปจริง ๆ    เข้าข้อ 2  

วิเคราะห์ประชาชนแดงผิดหมด   เพราะหมอนี่ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปตยเลย   .........

พอ ๆ กับอภิสิทธิ์   นั่นเอง   ทำบ้านเมืองฉิบหายเพราะไม่เข้าใจวิถีทางประชาธิปไตย

เป็นเลขาพรรคการเมืองใหม่นะเนี่ย    แต่ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปตยเลย  .....   จึงวิเคราะห์พรรคการเมือง ผิดหมด   ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นเลขขาธิการพรรคการเมืองหนึ่ง........

ก็เป็นเรื่องโง่ ๆ  ของคนโง่ ๆ คนหนึ่งที่ไม่เข้าใจประเด็นประชาธิปตยเลย

เขารู้เรื่องอื่น  ๆ   แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย   แนววิเคราะห์ของเขาจึงกลายเป็นเรื่องตลก

นี่คือ เต่าล้านปีอีกตัวหนึ่งแท้ ๆ    

ก็อย่าไปฟังหมอนี่ให้เสียเวลาเลย    พี่น้องเหลืองเอ๋ย 

เพราะหากหัวคิดไม่ทันยุค   ไม่ทันประชาธิปไตยแล้ว  ก็ไปไม่รอด

ไม่เข้าใจสถานการณ์ตะวันออกกลางขณะนี้ว่าอะไรเป็นอะไร ............

ไม่เข้าใจแดงประชาธิปไตย.....................แดง   กำลังจะแดงทั้งโลก    ..................แล้วจะอยู่อย่างไร.............

ประชาธิปไตย   ไปศึกษาหน่อย  ไอ้เบื๊อกเอย    มันไม่ใช่อย่างที่คุณพูด

แล้วมาถึง    มาลีรัตน์........... แก้ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ก่า       ขอปรบมือให้กับความยืนหยัดของ  สมณะโพธิรักษ์.............

อ้าว   .....

ไม่เข้าใจประชาธิปไตยอีกแล้ว........พวกได....น่ะ

แล้วก็มายุแยกคนให้แตกกันไปอีก  จะให้กรณ์แตกอภิสิทธิ์.............

นี่คือ  มาลีรัตน์  แก๊ว....ก่า.....................ขมูฉี....

ไปจบลงที่ว่า   ให้แดงเผาบ้านเผาเมืองอีกครั้ง......................

ไม่มีคนฟัง   พูดให้คนบนเวทีด้วยกันฟัง   5-6   คน  

อ๋อ   เพิ่งเห็น    มีอยู่  หย่อมหนึ่ง หน้าตาเอื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ

คนที่ 3  ถามว่า   ใช่ไหมครับ  ตั้งหลายคำถาม   แต่หน้าเวที  ไม่มีใครตอบ    

เราไม่เข้าใจว่า  เขาเอาเรื่องเสื้อแดงไปวิจารณ์ทำไม   

เพราะเขาไม่เข้าใจแดงเพื่อประชาธิปไตยเลย  

แต่ตรงนี้ถามว่า    จะสร้างความเป็นเอกภาพแก่พวกเสื้อแดงขึ้นไปอีก   ใช่ไหมครับ  ?     ตอบว่า   ใช่...

นี่คือมาฝึกหัดวิชาใส่ร้ายป้ายสี   ยังไม่ชำนาญงาน 

ฟังหมอนี่ไม่รู้เรื่อง    ............    เขาเองก็สับสน................อะไรคือระบอบอภิสิทธิ์       งงแฮะ    

พายเรือให้โจรนั่ง    ช่วยพวกโจรเข้าปล้นแผ่นดิน

สี่เสาหลัก     สถาบันองคมนตรี   ตุลาการ   กองทัพ   ประชาชน    รัฐบาล 

กองทัพสำคัญใช่ไหมครับ

ปรากฎว่าคนหน้าเวทีเบื่อ  เซ็งไปตาม ๆ กัน     

เพราะหมอนี่พูดไม่รู้เรื่อง..

การเลือกตั้งที่สอดคล้องกับความจริง  สอดคล้องกับสังคมขณะนั้น   ..............อุตส่าห์เสนอ   แต่กลับบอกถึงความไม่ประสีประสาในประชาธิปไตย 

แล้วมีทีเด็ดเหมือนกัน ตอนจบ.................

ผู้บัญชาการเหล่าทัพครับ...  เพียงท่านรู้จักไปคาระวะผู้รู้ผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมคิดร่วมทำร่วมสร้างประเทศนี้เท่านั้น............ประเทศก็ไปได้..............

คนหน้าเวที...........................  หนีเถอะพวกเรา...................  ให้มันพูดฟังกันเอง.

เหลืออีกคนยังไม่ได้พูด.....................  ขี้เกียจฟังแล้ว

เจ้าของหนังสืออาจารย์ชวัช  อายุ 90 กว่ามาชูหนังสือ  ปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย   ก่อนชาติพังทลาย     เขียนเมื่อ 6 ปีกว่า

ว่า   ปฏิวัติรัฐประหาร เป็นคำเดียวกัน  ไม่ควรแยกกัน

แล้วพวกเอเอสทีวีก็เอาไปบิดเบือนไปเป็น

อนาธิปไตย   เหตุการณ์ราชประสงค์   ที่หมายถึงกฎหมู่  ไร้ขื่อแป..............

เป็นกระแสปฏิวัติรัฐประหาร

แต่ปู่แกว่า  ถึงเวลาการเปลี่ยนแปลงแล้ว  จะเป้ฯการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่   โดยอำนาจของประชาชน  

แกอ้างกฎบัตรสหประชาชาติ.................. ให้ประชาชนกำหนดเองถึงการปกครองโดยคำนึงสิทธิมนุษยชน ............     สีใดก็ตามจงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง  ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ไม่ได้  

จำเป็นแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะมีอำนาจเร้นลับแฝงเร้นอยู่

ดูเหมือนพวกเอเอสทีวีจะไม่ชอบใจ   .................    พยายามตะล่อมลุงให้เข้าทาง  .........

................... ลุงว่า  ไม่เคยมีนักการเมือง   มีแต่นักโกงเมือง..........

ประชาชนไม่อาจที่จะป่วยหนักอีกแล้ว

ลุงสรุปว่า   พรรคการเมือง ทุกพรรคไม่มีความชอบธรรม   สิ้นสภาพแห่งความชอบธรรมแล้วที่จะปกครองบ้านเมืองอีก   ...............................................................

ลุงปฏิเสธว่า   เป็นคอมมิวนิสต์.................

ว่านักการเมืองหัวละ 250 ล้าน บาท       รัฐบาลเป็นหนี้   4.2 ล้านล้าน   ใช้หนี้ปีละ 178,000 ล้าน บาทโดยกู้หนี้มาใช้หนี้

ดูท่าลุงจะสอนเอเอสทีวีอย่างแรงตรงไปตรงมา  จนอาจว่าตบหน้าเอเอสทีวีก็ได้ 

เพราะแกสนับสนุนประชาธิปไตย   สนับสนุนประชาชนลิเบีย และสนับสนุนประชาชนไทยทุกสีให้ลุกขึ้นมาสร้างประชาธิปไตย

อ้าวรุมถามใหญ่  เพื่อให้ได้คำตอบตรงประเด็นของตน

ลุงตอบว่าทหารต้องเป็นทหารประชาธิปไตย  กองทัพอยู่ใต้เผด็จการและเป็นเครื่องมือของเผด็จการมานาน..............  ปัจจุบันมันสุกงอมแล้ว.......... ขอให้ทหารปฏิบัติตาม ม.47 รธน.ปัจจุบัน   คือกองทัพต้องรักษา.........เ อกราช  ...........และรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข......... นี่คือหน้าที่ของผู้นำกองทัพทุกระดับ  

ลุงแกว่า   กองทัพต้องเกี่ยวกับการเมือง    ที่เขียนไว้ผิด     กองทัพต้องเป็นกำลังสำคัญในการสถาปนาระบอบประชาธิปไตยให้เป็นจริง.........................

เห็นไหม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

พวกเอเอสทีวีต้องไปร่วมกับแดงประชาธิปไตยแล้ว............และเลิกการโฆษณาชวนเชื่อเสียที

นั่นคือทางออก..........

พล.อ.ปรีชา ยอมรับว่าตนเป็นลูกศิษย์อาจารย์ชวัช...............   แต่ไม่ชอบอ่านหนังสืออาจารย์..................แล้วแกก็แผดเสียงออกไป      ว่าผมเป็นทหารอาชีพ   สอนประยุทธ จันทร์โอชาว่า หน้าที่หลักของทหารคือการป้องกันประเทศ ไม่ต้องรอหมาตนไหนมาสั่งการอีก.................ไอ้น้องเชื่อพี่เถอะ.....

หมอนี่ไปใหญ่  แบบไร้สติ................

เน้น      ไม่ต้องรอหมาที่ไหนมาสั่ง................... 

น่ากลัวเสียสติไปแล้ว...........................

ทหารที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย.................

เดี๋ยวคนหน้าเวสทีก็วิ่งหนีกันหมดหรอก................

อย่ามาฆ่าผมนะครับ..............  ผมออกความเห็นโดยสุจริต.........  เหมือนที่ท่านแหกปากอยู่ขณะนี้แหละ  ท่านก็แหกปากโดยสุจริต  ประชาธิปไตยเขาไม่ว่ากัน

ASTV    คนผู้หญิงสองคนเอาข่าวหนังสือพิมพ์มาอ่านแล้วบิดเบือนไปอย่างสามหาว   ASTV คืออะไร   เอเอสทีคือ ทีวีด่า    มีอาชีพรับจ้างด่า  และทำการโฆษณาบิเบือนข่าว ข้อมูลสาธารณะไปอย่างมีทิศทาง  นั่นคือสร้างความเกลียดชังให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  เท่าที่ได้รับจ้างมา  เช่นสมัยก่อนการปฏิรูป 19 ก.ย.2549  ก็รับใช้ทหารและพรรคประชาธิปัตย์ด่ารัฐบาลทักษิณ  ด่าทักษิณในฐานะหัวหน้ารัฐบาล โดยมีจุดประสงค์สร้างความเกลียดชัง  ให้คนทั้งหลายทั้งปวงเกลียดชังทักษิณ   ซึ่งในการกระทำเช่นนั้น เอเอสทีวีได้รับการคุ้มครองจากศาล และรัฐบาลคณะปฏิรูป และคณะประชาธิปัตย์ ไม่ให้รับโทษ   พวกเขาจึงด่าได้อย่างไม่ยั้ง  ด่าอย่างไร ๆ  ก็ไม่มีใครเอาความผิดได้  และเป็นเช่นนี้มาจนถึงปัจจุบันนี้         นั่นคือสามารถด่าได้อย่างไม่มีใครกล้าเอาความผิด  แปลกที่ว่า  ทำไมสามารถด่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ พวกเดียวกันได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่เกรงกลัว     นี่แหละที่บอกถึงอำนาจที่หนุนหลังอยู่ว่า  น่าจะยิ่งใหญ่พอทีเดียว      พอที่จะคุ้มพครองพวกเอเอสทีวีให้กระทำผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม ได้ทุกอย่าง

แต่เมื่อเขายังคงด่าเสื้อแดงว่า  พวกเผาบ้านเผาเมืองถูกปล่อยออกมาอีกแล้วพี่น้อง......นั่นจะต้องบันทึกเอาไว้  และในที่สุดอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาถึง มาสู่ความสำเร็จ  ใครทำผิดทำชั่วเอาไว้ จะต้องได้รับการชำระ

เพราะแดงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน และของประเทศไทยทั้งประเทศ    มั่นใจไม่มีวันพ่ายแพ้แก่เผด็จการพวกปฏิวัติรัฐประหาร  พวกที่ปกป้องคุ้มครองเอเอสทีวีให้สามารถทำชั่วทางปากได้อย่างไม่จำกัด ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมาย  ละเมิดสิทธิประชาชน ผิดศีลธรรมอันดี อย่างที่เห็น ๆ กันอยู่ 

และเครื่องมือของเผด็จการ  หรือองค์กรรับจ้างด่า  รับจ้างยุยงคนให้เกลียดชังกัน  ที่สร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมอย่างร้ายแรงเช่นเอเอสทีวีนี้   ก็จะต้องไปพร้อม ๆ กับเผด็จการ   และเอเอสทีวีก็ต้องได้รับการลงโทษอย่างแน่นอน

ไม่ได้มาเยี่ยม 4 วัน  ทราบว่าเจ๊กลิ้มอาละวาดใหญ่เลย   ..................  ระวังนะเจ๊กลิ้ม   อย่าลืมตัว  ให้หมั่นคลำขมับตัวเองบ่อย ๆ เข้าไว้   ................เดี๋ยวนี้คนเขารู้แล้วว่าเจ๊กลิ้มนี่คือ   ยอดนักหลอกลวง  ตัวอันตรายของแผ่นดินไทย  ..........   ต้องไล่ไปแผ่นดินเจ๊กนู่น   หรือไม่ก็เจาะขมับอีกข้างหนึ่ง.....................

ต่อต้านการเลือกตั้ง  สรรเสริญเผด็จการ   ได้อย่างไร ในเมื่อนี่มิใช่วิถีทางประชาธิปไตย 

นั่นแหละ  เป็นเพียงนักโกหกหลอกลวง  นักโฆษณาชวนเชื่อ   ตั้งชื่อตนว่า  กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย   คำว่าประชาธิปไตย ก็เป็นเพียงคำอ้างอิงตามหลักการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง      เจ๊กลิ้มแก่ไม่รู้จริง ๆ ว่าประชาธิปไตยคืออะไร  และวิถีทางประชาธิปไตยเป็นอย่างไร   

นี่แหละครับคือเหตุผลที่ว่า   ทำไม  เจ๊กลิ้ม  จึงไม่ควรอยู่นอกคุก  

 หรือ     ควรไปเกิดใหม่ได้แล้ว

มีคนคอยดูแลเขาอยู่..............................มีการเลือกตั้งเมื่อไร  ก็เมื่อนั้น........เจ๊กลิ้มต้องอันตรธาน

เขาจึงต่อต้านการเลือกตั้งไง ....

เจ๊กลิ้มมีปลอกคอหนานะ...........

เจ๊กลิ้มแกเป็นสื่อประเภทล้าหลัง  ไดโนเสาร์เต่าล้านปี เป็นเครื่องมือของระบอบอำมาตยาธิปไตยที่ล้าหลัง นับวันคนไทยก็ยิ่งตาสว่างมากขึ้น ยิ่งแกทำผิดมากแค่ไหนแต่ไม่มีใครกล้าเอาผิด  คนไทยก็ยิ่งเบื่อหน่ายเอือมระอา แม้แต่สาวกของแกก็ทยอยถอยห่างออกไปเรื่อยๆกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามก็มี  จะเหลือก็เพียงคนโง่ที่ถูกล้างสมองอย่างหนักให้ยินยอมเป็นทาสจำนวนหยิบมือ  อีกไม่นานอวสานของสื่อและระบอบการเมืองล้าหลังคงต้องพ่ายแพ้ต่อธรรมชาติของวิถีประชาธิปไตย  เพราะมนุษย์ทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพ  การมีเกียรติศักดิ์ศรียอมรับในความเป็นมนุษย์เสมอภาคเท่าเทียมกัน  

ลูกน้องเจ๊กลิ้มก็ยังซื่อสัตย์ต่อเจ๊กลิ้มอยู่   เช่นที่กำลังพูดเอเอสทีวีอยู่ขณะนี้   ................   ยุแยก  พอเห็นรอยปริแล้วแทรกตัวเข้างัดตีให้แตกกว้างออกไปทันที 

อ้างตัวเป้นนักกฎหมาย ...................สถาบัน รามคำแหงเสียด้วย  ........  โจมตีเฉลิม อยู่บำรุงใหญ่เลย  หาว่าคับแคบ  เมาอำนาจ   ได้เป็นถึงรมว.มหาดไทย  แต่ไม่พัฒนา    ดูถูกไปถึงสถาบัน  ที่ให้เขาได้เป้น   ด๊อกเตอร์ เฉลิม  อยู่บำรุง   .................  ก็รามคำแหงเดียวกับคนพูดนั่นแหละ  แต่เขาเป็นถึงดร.  ตนเองเป็น ป.ตรี  ยังกล้าไปดูถูกเขา  สถาบันเดียวกันและเขาเป็นรุ่นพี่....................   นี่คือแผนการยุแยก  โฆษณาชวนเชื่อของเจ๊กลิ้ม   ............   แล้วหมอนี่ก็ไปยกยอ  มิ่งขวัญ  แสงสุวรรณ ใหญ่เลย..................ว่าเป็นคนรุ่นใหม่  ตรงข้ามไปเลยกับเฉลิม อยู่บำรุง...............   นั่นแน่      เขาเห้นหรอกน่าว่านี่คือบ่างช่างยุ   ตัวร้ายของสังคม   ...............  พูดเป็นวิชาการหน่อยก็คือ   เอาหลักการปกครองเมืองขึ้นมาใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ   หลักที่ว่า   divide and rule   นั่นเอง  นั่นก็คือในบั้นปลายเขาประสงค์ร้าย.........

แล้วพวกที่มานั่งช่วยกันพูดทั้งหญิงทั้งชาย  ก็แซม  ส่งความหมายไปตาม ๆ กัน     แบบหมาหมู่นั่นเอง.........พอตัวหนึ่งเห่าขึ้น  ตัวต่อ ๆ ไปก็เห่าขรมตาม ๆ ไป       นี่คือเอเอสทีวี  .............. เขาเรียนรู้วัฒนธรรมหมามา.....เอาวัฒนธรรมหมาหมู่มาใช้เห่าหอน  โฆษณาชวนเชื่อ ................   มันย่อมไม่กัดนายมัน   เจ๊กลิ้ม      แน่นอน    

และนี่คือสิ่งที่ต้องจำเอาไว้

........อย่าไปคิดว่า  เขาพูดเข้าข้างใครคนใดคนหนึ่ง........ไม่ใช่หรอก   ..........   มันหมาบ้า   กัดหมด  .......ขณะนี้ก็เปลี่ยนมาด่ารัฐบาลต่อไป   .  ด่าตำรวจ..................(จะผ่าตัดตำรวจแห่งชาติ...)   ด่าใครต่อใครไปทั่วทั้งแผ่นดิน   ด่าทหารบก  นี่หลักเลย  ..........(แต่ก็แปลกจริง ๆ ที่ทหารบกตั้งแต่ อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ถึง ประยุทธ  จันทร์โอชา  ผู้รับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีของทหารไทย  ทนให้ด่าอยู่ได้........อันแสดงว่าเอเอสทีวีมีแบ๊คดีจริง ๆ).........

.....เว้นเจ้านายผู้ฝึกหัดการเห่าการหอนให้มันเท่านั้นคือ   เจ๊กลิ้ม     ที่พวกมันไม่ยอมออกปาก   ทั้ง ๆ  ที่เจ๊กลิ้มนี่มีดีอะไรเพียง   กุ๊ยข้างถนน  เท่านั้นเอง   ......... ก็พอ ๆ กับที่พากันด่ากษิต  ภิรมย์  ว่ากุ๊ยการเมือง  นั่นเอง    แต่ 2 คำนี้  คนเขาให้เจ๊กลิ้มมาก่อนแล้ว     ทั้งกุ๊ยข้างถนน กับ  กุ๊ยการเมือง   .......

จะทำอย่างไรกับคนกลุ่มนี้.......................เอาตำรวจเทศกิจไปจะรื้อเต๊นต์เพื่อเปิดทางให้เขาจัดที่ทางสำหรับงานกาชาด   ก็ปรากฎมีกองทหารออกมาขัดขวางให้   อย่างเห็นชัดเจน.........ก็ไล่ รื้อไม่ได้   ...................   เราว่าตำรวจก็ต้องสู้อย่างฉลาดและระยะยาวเหมือนกัน  โดยใช้ปัญญา    ทำให้เห็ฯว่า  มีเบื้องหลัง มือที่ให้ความคุ้มครองคนพวกนี้อยู่ และเป็นมือที่ทรงอำนาจ..............ประชาชนก็ค่อยรู้ไป ....................................

มาสรุปแค่ว่า   ตำรวจเป็นใคร  จะมารื้อมาไล่พวกเขาได้      ขนาดพระมหากษัตริย์ไทยพร้อมราชวงศ์ จะเสด็จบนถนนแห่งเกียรติยศของพระราชอำนาจแห่งกษัตริยาธิราชเจ้า  โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมาร์ค เพื่อไปในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ  โดยทรงพระราชสิทธิ์เด็ดขาดที่จะเสด็จถนนราชดำเนินอันเป็นเส้นทางของกษัตริย์ไทย   แต่หาอาจเสด็จได้ไม่..................เพราะคนกลุ่มเดียวกันนี้แหละ  มีจำลอง  ศรีเมือง  สนธิ  ลิ้มทองกุล  และพลพรรคประชาธิปัตย์  ขวางทางพระราชดำเนินอยู่   จึงทรงต้องเสด็จเลี่ยงไปทั้ง 6 วันเสด็จ  ลดพระราชอำนาจ ศักดิ์แห่งกษัตริยาธิราชเจ้าลง  ไปเสด็จถนนลูกหลวงแทน ................

พวกเขายังบังอาจทำได้ขนาดนี้................

คนหน้าเวทีมีกี่คน................  กลุ่มหนึ่ง   คงจ้างมา..............เป็นหน้าม้า  และพวกสันติอโศก     พวกบ้าอาระยะบุคคลเก๊ ๆ ๆ   ไร้สติสตังกลุ่มนั้น  .......  พวกนี้หวังเพียงให้ได้ออกอากาศเผื่อคนในรัศมีคลื่นที่มีมากทั่วโลกก็ว่าได้   แต่หารู้ไม่ว่า คนรู้ทันหมดแล้วว่า..............................................นี่คือ   ยาพิษในสังคมเราดี ๆ นี่เอง  .....

สมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ใช่ไหม ?     ใช่.......พูดคล่องเชิงด่า..ใส่ร้ายคน  เก่งขึ้นเยอะเลย   ภายหลังง่อยเปลี้ยไประยะหนึ่ง.......

ขณะนี้กำลังด่าทักษิณ    ด่าเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง   และ ชื่นชม   พ่อท่านโพธิรักษ์และ  ขบวนการ  บุญนิยม   ไม่ใช่  ทุนนิยม    ........

เขาว่าต้องเอาธรรมนำหน้า  เอาบุญนำหน้า  เมื่อเข้าใจแล้วถึงจะมีคนมาฟังน้อยก็เหมือนมีคนฟังมาก   ไม่ใช่เรื่องสำคัญ   เขาว่าอย่างนั้น  .................

เขาถามทักษิณ ว่า   คุณจะนิรโทษกรรมคดีไหน   มีหลายคดี  .........   นั่นคือการบิดเบือนของคนเลวร้ายคนนี้  ..............

เขาพูดถึงเจ๊กลิ้ม  เจ้านายเขาว่า  มีคนเล่าว่าเจ๊กลิ้มรับเงินทักษิณมา เขาถามเจ๊กลิ้ม ๆ ตอบว่า เมื่อคน ๆ นี้คิดนิรโทษกรรมตนเองผมจะต่อต้านเป็นคนแรก  เมื่อคน ๆ นี้คิดล้มเจ้า ผมจะออกมาพิทักษ์สถาบัน   .............ไล่ทักษิณ ......

อ้างตนว่าจงรักภักดี อยู่อย่างปกติ ๆ   แต่ตนเองกระทำการร้าย  ไร้ความจงรักภักดีอย่างสิ้นเชิง  ............(ยังต้องรอการรับโทษฉกรรจ์อยู่)   คือปิดเส้นทางพระราชดำนิน  คราวถวายพระเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สนามหลวงปีนั้น   โดยพวกคนกลุ่มนี้แหละ  ปิดเส้นทางอยู่ถึง 6 วัน  จนต้องเสด็จเลี่ยงไปใช้ถนนลูกหลวงแทน ทั้ง 6 วันทรงเสด็จฯ      (มีใครอาจขวางเส้นทางพระราชดำเนิน โทษนี้รอการตัดหัว 7 ชั่วโคตรอยู่........ผู้กระทำผิดซึ่งคนไทยทั้งประเทศเห็น ...ครบทั้งหมู่พวก พธม.  คือพวกจำลอง  สนธิ  ปชป.  รวมทั้งโพธิรักษ์  อาระยะบุคคลเก๊คนนั้น)  ...........

แต่สำหรับสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์  คน ๆ นี้ ยังมีโทษหนัก  คือความผิดบาปอย่างยิ่งใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง  ที่ยิ่งไปกว่าโทษต่อพระมหากษัตริย์ เจ้าชีวิต ในโลกมนุษย์  .........   เพราะได้กระทำความผิดต่อนามธรรมอันบริสุทธิ์ องค์สูงสุดของโลกทั้งสาม   ซึ่งมีความหมายถึงมหันตโทษทั้งในโลกมนุษย์ โลกเทพ และโลกนรก อบายภูมิ     ซึ่งเขาถูกลงโทษอยู่ขณะนี้ (ยิ่งกว่าโทษที่ลงแก่เทวทัต)   และยังต้องถูกลงโทษต่อไปในอบายภูมิและสวรรค์       นั่นเนื่องมาจากปากเป็นเหตุ  เปราะเผลอไปละเมิดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ........  ”...เป็นศาสนา พระชินมุนีศรีมหาโจร เป็นศาสนาชินโจร มี พระชินมุนีศรีมหาโจรเป็นศาสดา ..”.   ซึ่งชาวพุทธทุกหัวระแหง ทุกสถาบันได้รับแจ้งเรื่องการละเมิดนี้อย่างทั่วถึงไปแล้ว .......

เห็นไหมครับ   นี่คือนักโฆษณาชวนเชื่อ  สมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ยังเลวร้ายในวาทะกรรมต่อไปอีกก่อนที่จะอำลาเวทีไป   เขาพูดถึงหลวงตามหาบัว วัดบ้านตาด  อุดรธานี  เอามาอ้างบ่อย ๆ  ในชั้นเชิงการโฆษณาชวนเชื่อ(ทั้ง ๆ ที่ท่านมรณภาพไปนานแล้ว)   ซึ่งเป็นการลบหลู่ ดูหมิ่นดูแคลนหลวงตามหาบัวโดยตรง   เพราะแอบอ้างว่า  หลวงตามหาบัวทรงญาณวิเศษ ได้เห็นแต่แรกแล้วว่าทักษิณเป็นคนเลว ที่เป็นภัยต่อชาติ ศาสนาและสถาบัน  เขาเอ่ยถ้อยคำประโยคหนึ่งโดยอ้างว่าหลวงตาบัวพูด ว่าดังนี้ครับ   "ทักษิณกินตับกินปอดของประเทศ  มันคิดล้มล้างสถาบัน มันวางแผนจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย" 

นี่คือคนเลว  คนบาปจริง ๆ   สมเกียรติ์  พงษ์ไพบูลย์  

เพราะหลวงตาบัวเป็นพระกรรมฐาน  คนจำนวนมากเชื่อว่าท่านสำเร็จธรรมอย่างน้อยก็ระดับพระอริยะบุคคลโสดาบัน   จะกล่าวร้ายคนทั้งหลายได้อย่างไร   ?     คุณคิดเอาเองใช่ไหม คุณสมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ???  และนี่แหละบาปมหันต์  ให้ต้องรับกรรมไปหลาย ๆ ชาติข้างหน้า

โปรดคลิกที่นี่เพื่อไปดูเรื่องราวนั้นครับ... (ตามเรื่องพฤติกรรมบาปมหันต์ของสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์คลิกที่นี่ครับ)