หน้าแรก | หน้ารวมกลุ่มเว็บบอร์ด | School of Horasatra | นิทานสนุก | ประวัติ 16 ตอนจากนสพ.ดี |
น้ำมันพืชขาดตลาด | |
อยากทราบว่าน้ำมันพืชขาดตลาดตรงกับหลักการในข้อใดค่ะ พอดีว่าคุณครูสั่งให้ทำรายงานก็เลยลองหาดู หากใครรู้ช่วยส่งมาทางอีเมลล์ให้ด้วยนะค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ กวาง (sujittra-dot-kvang-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-28 18:02:36 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3286530) | |
1 โดยปกติถ้าผลิตได้น้อย น้ำมันก็ไม่พอป้อนตลาด หลักSupply แต่ขณะนี้เราผลิตได้น้อยหรือเปล่า ? 2. การบริหารงานทุจริต เช่นมีการกักตุนน้ำมันเอาไว้เก็งราคา ทำให้ราคาสูงขึ้น แล้วจึงปล่อยออกขายเอากำไร ซึ่งขณะนี้น่าสงสัยว่าเป็นอย่างนี้ 3. ผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น ก็ทำให้น้ำมันขาดตลาดได้ เรียกว่าหลัก Demand | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรชัย พลับพลาลัย วันที่ตอบ 2011-03-02 22:31:28 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3287101) | |
เท่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ รัฐบาลท่านบอกว่าเราผลิตไม่พอใช้ ต้องสั่งซื้อน้ำมันปาลมมาจากมาเลเซีย และได้สั่งซื้อเข้ามาแล้วหลายหมื่นตัน แต่จากการตรวจสอบของนักวิชาการ ภาคเอกชนและฝ่ายค้าน ได้พบว่ารัฐบาลทุจริต แท้จริงนักการเมืองเจ้าของธุรกิจน้ำมันปาลม มีการกักตุนน้ำมันปาลม ทำให้น้ำมันปาลมขาดตลาด และราคาพุ่งขึ้นสูง แล้วนำออกมาขายได้กำไรราคาดี .... นักกักตุนและพรรครัฐบาลก็ได้เงินเยอะ ๆ ๆ ๆ แต่ประชาชนเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน ฝ่ายค้านจึงตั้งสมญาให้ว่า รัฐบาลสวาปาลม ไงล่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีสะอ่ำ บุญบันดาล วันที่ตอบ 2011-03-08 12:51:07 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3287189) | |
กรณีน้ำมันปาลม ไม่ควรจะเป็นปัญหาในประเทศไทย เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพืชเกษตรมากจนกล่าวว่าเป็นครัวของโลก การที่มีประชาชนมาเข้าคิวซื้อน้ำมันปาลมกันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ดังที่ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ท่านอยู่ต่างประเทศ ท่านได้แสดงความรู้สึกต่อประชาชนเสื้อแดงผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ว่าเป็นสิ่งที่เศร้าใจอย่างที่สุดที่เห็นประชาชนในประเทศเกษตรกรรมอย่างประเทศไทยต้องเข้าคิวซื้อน้ำมันปาล์ม เพราะนายกรัฐมนตรีทักษิณ เป็นผู้สร้างความเจริญให้วงการเกษตรไทยเป็นอย่างมาก จนเป็นที่รักของประชาชนไทยทุกชนชั้น โดยเฉพาะชาวเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย ที่ต่อสู้เพื่อให้ท่านกลับมาบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง
การบริหารประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากเราได้ผู้บริหารประเทศที่ไม่มีความสามารถ เช่นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ชอบโกหกหลอกลวงประชาชนไปวัน ๆ ชอบแก้ตัวมากกว่าแก้ไข พร้อมมีรองนายกรัฐมนตรี หัวขี้เลื่อยอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนยุคไดโนเสาเต่าล้านปี หรือมนุษย์วานร 1.8 ล้านปีบริหารประเทศ โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณเองเป็นผู้บริหารน้ำมันปาลมที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ จึงมีแต่ปัญหา เพราะบริหารไม่เป็น มือเปื้อนเลือด และไม่มีวุฒิภาวะ เป็นรัฐบาลเด็ก
จึงจำเป็นที่จะต้องนำอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ กลับมากอบกู้ประเทศชาติ ๆ จึงจะทรงตัวได้และไม่หายนะ และเพื่อให้ประเทศไทยเราเจริญก้าวหน้าไปอีกครั้งหนึ่ง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีสะอ่ำ บุญบันดาล วันที่ตอบ 2011-03-08 23:24:17 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3287190) | |
อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป้นผู้รักษาความมั่นคงของประเทศ แต่ก็สั่งทหารไปล้อมฆ่าประชาชนที่ราชประสงค์ตาย 91 คน บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน แล้วกล่าวหาว่าแดงฆ่าแดงพวกเดียวกันเอง ว่าแดงเป้นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป้นการหาเรื่องอย่างโง่เง่าเต่าตุ่นที่สุด แล้ววันที่ 5 มี.ค. 2554 ก็ปล่อยให้คนร้ายที่ยะลาฆ่าพระภิกษุสงฆ์ขณะออกบิณฑบาต 1 รูป และไม่สามารถแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะเป้นรัฐบาล ได้บอกว่าจะทำให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เรียบร้อยลงใน 99 วัน ที่เรียกว่านโยบาย 99 วัน นั้น แต่ล่วงมา 2 ปีแล้ว สามจังหวัดยังร้อนระอุไปกว่าเดิมอีก นี่คือคนโกหกหลอกลวง อ่อนความ สามารถ ปกครองประเทศ จะต้องไล่ออกไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีสะอ่ำ บุญบันดาล วันที่ตอบ 2011-03-08 23:32:30 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3287865) | |
ฟังคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่ขณะนี้นะครับ อย่าพลาด ได้ความเข้าใจดีมาก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีสะอ่ำ บุญบันดาล วันที่ตอบ 2011-03-15 10:40:30 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3287946) | |
คุณต้องหัดฟังนะครับ และแยกประเด็นให้เป็นครับ เรื่องน้ำมันปาล์ม มีการพูดตอบโต้กันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ ระวังการแยกแยะประเด็นให้ดี ฟังนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิช แถลงตอบโต้ฝ่ายค้านว่า ไม่มีการทุจริต ไม่มีภาคเอกชนใดได้ประโยชน์ ต้องฟังสส.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคฝ่ายค้าน เพื่อไทย ตอกหน้ากลับไป ขวดละ47บาทหาซื้อไม่ได้ ขวดละ 67 บาท เขาก็หาซื้อ นี่สมัยสุเทพ-พรทิวา ส่วนสมัยมิ่งขวัญ ขวดละ 27 บาทประชาชนไม่เดือดร้อนเลย ยังหาซื้อได้ทุกร้านค้า
นอกจากการโกงแล้ว ก็ยังมีเหตุมาจากบริหารงานไม่เป็น นั่นเอง อย่างที่เห็นกันว่า นายกรัฐมนตรีก็เด็ก รองนายกรัฐมนตรี ก็หัวขี้เลื่อย คนยุคมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ก็เด็กหญิง ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
นางพรทิวายืนยันว่าทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่.....................นั่นแหละทำงานแบบโง่ ๆ ทำงานไม่เป็น งานน้อยก็เป็นงานมาก งานง่ายก็เป็นงานยากไปหมด พอที่จะใช้จ่ายไม่กีสตัง ก็จ่ายเป็นล้าน เพราะในนั้นมีจ่ายค่าโง่ด้วยไง .... และยังไม่เห็นหรือไงว่ารัฐบาลเด็กนี้ได้จ่ายงบค่าโง่ไปเป็นจำนวนแสน ๆ ล้านขึ้นไปแล้ว .....น่าเสียดายเหลือเกิน นอนไม่หลับ
สู้ทักษิณไม่ได้ คุณเชื่อไหมล่ะ เรื่องอย่างนี้คุณอาจจะไปเถียงทักษิณได้โดยทักษิณไม่รู้จะตอบโต้คุณอย่างไร.......นั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องเล็กและไร้สาระเกินที่คนอย่างทักษิณหรือคนฉลาด ๆ จะไปเสียเวลาไงล่ะ นี่แหละเด็ก.....ผู้ใหญ่เถียงสู้เด็กมันไม่ได้หรอก.......แบบจตุพร กับผู้กองเหลิม...นั่นท่านไม่ยั้งมือ ... ก็ลงโทษแรงไปจนดูแล้วสมเพชเด็ก เด็กมันเถียงแบบไร้เดียงสา มันไม่รู้เหตุรู้ผลเท่าไรเพราะความรอบรู้รอบด้านแบบการมององค์รวม เด็กมันมองไม่เป็น ไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่มีวิสัยทัศน์ มันก็นึกว่ามันถูก เขาเรียกว่า บาปบริสุทธิ์ ประสาเด็ก ไร้เดียงสา ปชป.เอาแต่เรื่องไร้สาระมาทำเช่นนี้แหละทำให้ชาติ ประชาชนลำบาก ทุกข์ยากกันขนาดนี้ ทำไมไม่รู้จักทำอะไร ๆ ที่เป็นสาระประโยชน์บ้าง เอาแต่เรื่องขี้ ๆ มาขยายความ เหมือนเล่านิทานตลก มันก็ไม่ได้แก้ตัวปัญหาจริง ๆ ช่วยอะไรประชาชนไม่ได้เลย.........มันได้พิศูจน์อย่างชัดเจนแล้ว ประชาชนต้องเข้าใจ
การพาณิชย์ทำไมไม่พูดถึงเรื่องตลาดข้าวในโลกบ้าง พูดถึงเรื่องว่าเราขายอะไรไปไหนได้เท่าไร ตลาดโลกทำไมไม่ทำต่อจากทักษิณ ........ เรื่องนี้ก็เคยพูด ๆ ไปแล้วเด็กมันก็เถียงว่า เอกชนเขาทำอยู่ เขาทำได้ดีกว่ารัฐบาลทำ และเป็นธรรมชาติธุรกิจเช่นนั้น .................. รัฐบาลทำหน้าที่สนับสนุน..... เด็กมันก็แก้ตัวไปแบบเด็ก ๆ อย่างนี้
สรุปก็คือ เอาเด็กไว้บริหารประเทศชาติต่อไปไม่ได้แล้ว ทำลายชาติไปอย่างตาใสแจ๋ว ไร้เดียงสาเกินไป คนทุกฝ่าย ๆ ต้องเข้าใจ ว่านี่คือรัฐบาลเด็กไร้เดียงสา..........ก็มองไว้แต่ต้นแล้ว บอกแต่ต้นแล้ว ว่าคบเด็กสร้างบ้าน จะทำลายชาติ ทำลายประชาชน ...แม้กระทั่งต่างประเทศเขาก็มองไว้อย่างนี้ ก็ไม่เชื่อ บัดนี้เห็นแล้วยัง ........... ฉะนั้น เอาไว้ไม่ได้ ต้องไล่ออกไป. ทั้งเด็กชายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ เด็กหญิงพรทิวา นาคาสัย คนนี้ ส่วนมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี ที่หากินกับเด็กมา เมื่อเด็กไปแล้ว ก็อยู่ไม่ได้เองโดยอัตโนมัติแหละ.........
เอาไว้ในสวน........... ก็พอได้.........
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2011-03-16 08:00:54 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3290518) | |
และแล้ววันนี้น้ำมันถั่วเหลืองก็ขึ้นราคาอีกขวดละ 9 บาท จากเดิม 46 บาทเป็น 55 บาท เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์นายกอภิสิทธิ์ ก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่สามารถตึงราคา 46 บาท/ลิตรได้แล้ว จำเป็นต้องลอยตัวให้เป็นไปตามกลไกของตลาด วิธีแก้ปัญหาของรัฐบาลคือเพิ่มรายได้ขึ้นค่าจ้างเงินเดือนให้ประชาชน และยังมีสินค้าที่จำเป็นในการบริโภคอีกหลายชนิดเตรียมตัวขึ้นราคา รวมไปถึงปุ๋ยด้วย ในขณะที่ข้าวเปลือกราคาตกต่ำ การบริหารภายใต้รัฐบาลประชาธิปัตย์ล้วนเปิดโอกาสให้พ่อค้ารายใหญ่กำหนดราคาสินค้าได้ตามอำเภอใจ จนขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า และเมื่อรัฐประกาศจะขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำอีกระลอก ทำให้ผู้ประกอบการตอกหน้ากลับมาว่ารัฐบาลชุดนี้หาเสียงโดยการผลักภาระให้ผู้ประกอบการ แม้การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคราวที่แล้วรัฐบาลประกาศว่าจะให้ได้วันละ 250 บาทเท่ากันทุกจังหวัด แต่จนแล้วจนรอดก็ได้ขึ้นเพียงนิดเดียว สูงสุดคือกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้วันละ 215 บาท แสดงให้เห็นว่าเป็นการพูดโดยไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีการศึกษาวิจัยมาก่อน ไม่มีนโยบายที่เด่นชัดเป็นรูปธรรม อาศัยการพูดโฆษณาชวนเชื่อเพียงอย่างเดียวเพือแข่งขันกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ขณะนี้ประชาชนทั่วประเทศก็ยิ่งเริ่มเห็นจริงกับป้ายของพรรคเพื่อไทยที่ว่า " 5 ล้มเหลวของนายกอิสิทธิ์ 10 จำทนของคนไทยทั้งประเทศ หมดเวลาของรัฐบาลที่ทำงานไม่เป็นแล้ว " | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-04-07 02:47:05 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3290519) | |
น้ำตาลทรายขาดตลาด และมีราคาแพงได้อย่างไรในเมื่อถนนมิตรภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเต็มไปด้วยรถบรรทุกอ้อยเต็มไปหมด จนทำให้การจราจรติดขัดไม่ไหลลื่น ยังไม่นับรวมจำนวนกองคาราวานรถบรรทุกอ้อยไปส่งโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันตกและตะวันออก นี่ก็เป็นปัญหาเกี่ยวกับการขนส่งที่ล่าช้าและอาจเกิดอันตรายได้ง่าย เพราะถนนหลักบางสายยังไม่มีถนน 4 เลนส์ ต้องวิ่งหลบกันเป็นที่น่าหวาดเสียว แล้วน้ำตาลทรายขาดตลาดได้อย่างไร สินค้าหลายรายการเตรียมปรับขึ้นราคาล้วนเป็นผลผลิตที่มาจากภาคเกษตรกรรมทั้งสิ้นแต่เกษตรกรมีแต่จนลงๆ จนต้องประกาศขายที่ทำกิน อยากให้ประชาชนช่วยตรวจสอบหน่อยว่าการขึ้นราคาสินค้ามีนัยยะที่เกี่ยวข้องกับโต๊ะจีน 2 ล้านบาทจำนวน 300 โต๊ะหรือไม่อย่างไร เพราะยังไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนบริหารแล้วประชาชนเดือดร้อนได้ขนาดนี้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-04-07 02:57:27 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3293533) | |
เนื้อหมูอาหารหลักของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศขึ้นราคาจากกิโลกรัมละ 120 บาทเป็น 150 บาท และสินค้าอื่นๆก็ทยอยขึ้นราคาไปตามๆกัน ขณะนี้ร้านขายอาหารโดยเฉพาะร้านค้าในสถานศึกษาซึ่งเคยจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดทั่วๆไปได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะไม่สามารถจำหน่ายในราคาเดิมได้ อย่างจัหวัดศรีสะเกษซึ่งประชาชนมีรายได้เฉลี่ยต่อวันต่ำสุดของประเทศทำงานทั้งวันซื้อเนื้อหมูได้กิโลเดียว ไม่ว่านักวิชาการ นักวิจารณ์ ผู้ประกาศข่าวรายไหน แม้แต่โพลทุกสำนักจะบอกว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งเพราะมีเสียงกล้ำกึ่งกับพรรคเพื่อไทย แต่ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่อยู่กับความจริง ได้รับผลกระทบอย่างมากไม่แพ้ประชาชนคนอื่นๆที่หาเช้ากินค่ำ ได้ยินเสียงประชาชนทุกระดับชั้น ทุกเพศทุกวัยก่นด่ารัฐบาลอยู่ทุกวัน จะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาจะไม่รู้สึกว่ารัฐบาลนี้ทำให้เขาเดือดร้อนทุกข์ยาก เป็นไปไม่ได้เลยที่คนครึ่งประเทศจะรู้สึกชื่นชมยินดีและเลือกรัฐบาลนี้มาบริหารประเทศอีกครั้งหนึ่ง เพราะโดยสัจธรรมไม่มีใครจะทนรักคนที่ทำให้ตนเองเดือดร้อนและฝากอนาคตของตนเองให้คนเหล่านี้ปู้ยี่ปู้ยำอีกต่อไปได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น วิญญูชน วันที่ตอบ 2011-05-08 00:47:47 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3414631) | |
เคยได้ยินแต่น้ำมันพืชขาดตลาด แต่ไม่เคยได้ยินน้ำมันเครื่องขาดตลาดนะ โฮโฮโฮ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลื่นปลื๊ด วันที่ตอบ 2016-08-02 15:38:52 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 115890 |