แกคอยหยิบแผ่นชาร์ตให้รัฐมนตรีน่ะคะ   คลานไปคลานมา  แล้วมุมกล้องเห็นเหมือนแกไปนั่งอยู่ใต้ฃายกระโปรงท่านรัฐมนตรีพอดี

เห็นก้ม ๆ เงย ๆ

ครับ   ก็ก้ม ๆ เงย ๆ  ก้มควานหาแผ่นชาร์ต  แล้วเงยเอาแผ่นชาร์ตส่งให้รัฐมนตรี    อยู่ใต้ ๆ กระโปรงนั่นแหละ   

คงเห็นอะไรต่ออะไรด้วย

คงไม่เห็นมั้ง   มันเป็นมุมกล้อง  ๆ  ทำให้เห็นเหมือนเขาคลาน ๆ อยู่ใต้ ๆ ชายกระโปรงผู้หญิง  

เด็กหญิงพรทิวา  นาคาศัย

ประเด็นคืออะไรครับ  ??

คือทำให้นึกถึงยุคราชทูตไทยไปฝรั่งเศส       ภาพที่พระเจ้าหลุยส์ ให้เขียนเอาไว้     คนไทยคลานไปเฝ้าตั้งแต่เริ่มเข้าประตูไป  ส่วนพวกฝรั่งที่มากันเต็มท้องพระโรงต่างพากันยืน เรียงรายอยู่อยู่สองข้างทางดูคนไทยค่อยคลานไป    พระเจ้าหลุยส์อยู่บนบัลลังก์สูงเชียว

เวลายื่นสาส์น  ก็ไม่กล้าสบตาพระเจ้าแผ่นดิน    ยื่นมือถือสารขึ้นไปถวาย

สมัยรัตนโกสินทร์ยุคต้น ๆ   ก็ยังเป็นเช่นนี้............   ฝรั่งจึงกลัว     ไม่ยอมให้คนของตนเองขึ้นศาลไทย   เขาเป็นคนที่อยู่นอกการตัดสินของศาลไทย  ครูสอนมาว่ามีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต 

แต่ประเด็นจริง ๆ คือ   ประชาธิปไตย  ครับ     

คนยุคนี้   ยังเป็นทาสอยู่หรือ     ยุคเสรีชน  แล้วเช่นนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร   นี่มันระบอบล้าหลัง ป่าเถื่อน  

แสดงถึงความคิดล้าหลังป่าเถื่อนของรัฐมนตรีเด็กคนนี้ด้วย  

ทำไมคุณไม่บอกเขาว่า   อย่านั่ง ๆ คลาน ๆ อย่างนี้   ลุกขึ้นยืนเสมอกัน ๆ  ยื่นส่งให้มือต่อมือ   ............ หน้าที่ใครหน้าที่มัน  ทำหน้าที่อย่างมีความเป็นมนุษย์เสรีชน   ไม่ใช่ทาส  ..............คุณต้องการอะไร   ...........   ต้องการความเป็นนาย  กับ  ทาส   อย่างนั้นหรือ

ทำอย่างนั้น มันขัดสายตาเสรีชน   

นี่แหละตัวอย่าง    คนที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย  มีได้ถึงขนาดเป็นคนอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร  ที่มาโดยกฎของประชาธิปไตยเอง  

และกรณีนี้   เป็นถึงรัฐมนตรี..............

ออกไปเสียเถิด........

ปล่อยให้ผู้ชายมานั่งเฝ้าอยู่ใต้กระโปรงได้อย่างไร    ซาดิสม  หรืออย่างไร  ???

ผมขอไม่อภิปรายละครับ เพราะภาพมันฟ้องโต้ง ๆ อยู่   ขอไล่นางพรทิวา  นาคาศัย  ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี...... รัฐมนตรีอะไรก็ได้ไล่ออกหมด...................

โทษฐานดูหมิ่นเสรีชน       โง่เขลา ดูแคลนประชาธิปไตย    และยังมีกระทำการอันลามกอนาจารกลางสภาอันสูงสุดของประชาชน  

รูปธรรมจริง ๆ ก็คือ  เมื่อรัฐมนตรีการค้า  ยังมีความคิดล้าหลัง  อยู่ในยุคเก่าอยู่  เผด็จการอมาตย์อยู่เช่นนี้   ก็ไม่อาจจะใช้วิถีทาง  หรือแนวคิดแบบประชาธิปไตย  ไปค้าไปขายกับประเทศที่เขาเป็นประชาธิปไตยได้   ก็จะทำให้ระบบการค้าขายกับต่างประเทศที่เขาใช้วิถีทางประชาธิปไตยไปแล้ว ของไทย   ขัดข้อง เดินไปไม่สะดวก  และไม่เป็นที่ยอมรับ  ในต่างประเทศ   และทำให้สายตาต่างประเทศดูหมิ่นดูแคลน และทางการค้ารูปธรรมก็ออกมาเป็นการเอาเปรียบ  คิดราคาแพงเป็นพิเศษ  ทำนองนั้น  

เช่นนางพรทิวา  จะไปติดต่อการค้ากับญี่ปุ่น  หรืออเมริกานี่   คนที่นั่นเขารู้ว่านี่พวกหัวล้าหลังยุคทาสมาแล้ว (เวลาไปแสดงตัวอย่าง  คุณก็จะให้มีคนไปคลาน ๆ ใต้กระโปรงคุณเช่นในสภาคราวนี้)  ถึงเขาไม่มองตั้งแต่หัวจดเท้า  เขาก็นึกหมิ่น ๆ   และพยายามเอารัดเอาเปรียบ       ดังจะเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้  ยุคที่มีคนค้าคนขายเช่นนางพรทิวา  นี่   ซื้อของแพง ๆ  ทั้งนั้นเลย   เช่นพวกทหารซื้อไม้ตรวจวัตถุระเบิด  เขาสืบพบว่าต้นทุนเพียง 120 บาท  แต่เขาสามารถขายให้แม่ค้าอย่างนางพรทิวาได้ถึงอันละ 5 แสนบาท   ไปซื้อบอลลูน เขาก็แกล้งขายบอลลูนเก่าให้  ซื้อมาก็ใช้ไม่ได้ ต้องเอาไปปะเสียก่อนเพราะมีรูรั่ว สูบเข้าก็รั่ว  ซื้อรถถังก็โดนโกง เขาเอารถเก่ายูเครน...เศษเหล็กมาหลอกขาย  เป็นต้น (แล้วพอเอาไปใช้ในสามจังหวัดใต้  พวกโจรก็หัวเราะเยาะเอา  เห็นเป็นตัวตลก ๆ และไล่ฆ่าพวกถือไม้ตรวจระเบิดทุนสร้างแค่120บาทแต่ซื้อมา 5 แสนถึง 1.2ล้านนี้ตายเป็นเบือต่อมา   ดูความจริงสิ)    นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ประชาชนไทยยังอาจจะมองไม่เห็นว่าเป็นส่วนของการทุจริต    คือมีค่าโง่รวมเข้าไปในค่าซื้อสินค้าด้วย  ทุก ๆ รายการเลยทีเดียว   ล่าสุดก็ไปซื้อน้ำมันปาล์มมา (ผลงานมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี) แพงผิดปกติ เพราะโดนเขาโกงเอา  ก็เอามาขายแพง  จนเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน  แล้วส่วนที่ตนโง่เสียเปรียบเขามาอย่างไร ปิดเงียบ    นั่นก็เพราะไม่เข้าใจวิถีทางประชาธิปไตยนั่นเอง  ก็ต้องเสียค่าโง่เรื่อย ๆ ไป  

การค้าการขายไทยโดยมีรัฐมนตรีหัวล้าหลัง  ไม่รู้จักประชาธิปไตยเลย   ไม่สามารถใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการค้าขายได้ อย่างนางพรทิวา  นาคาศัย  นี้  ก็จะต้องมีผนวกค่าโง่เข้าไปในรายการซื้อทุกสินค้าต่อไป ๆ ๆ  และข้าวก็ขายไม่ได้ราคา  โดนกดราคา  ก็เพราะสาเหตุเดียวกัน    ประเทศชาติก็เสียหาย     (ทางแก้ก็ต้องอย่างทักษิณ  ชินวัตรสิ   ทักษิณนี่พอบอกว่า  ขายกระสอบละ 50,000  อย่างนี้  เขาก็ซื้อทันที  เขาไม่ต่อรองเลย  แต่อย่างเด็กอภิสิทธิ์นี่   บอกว่า   เอาละผมลดให้คุณอีกก็ได้จาก50,000 เป็นครึ่งต่อครึ่งเลยเอ้า 25,000 เอ้า  เขาก็ยังคิดหนักอยู่  กลัวว่าจะโดนเด็กหลอกเอาสินค้าไม่มีคุณภาพมาขาย (เขาต้องรู้ว่า นายกรัฐมนตรีไทยชอบโกหก ๆ ประชาชนรายวัน)เผลอ ๆ เขาไม่ซื้อด้วย และเขาคิดไปซื้อข้าวลาวจะดีกว่าไหม  คุณคิดดูเมื่อคนไม่เป็นเช่นนี้แล้วจะขายของอะไรได้ล่ะ มืดแปดด้านเลยใช่ไหม  เคยมีตัวอย่าง  สมัยนายชวนเป็นนายกรัฐมนตรี  ไปประชุม นายโจเซฟ เอสตราดา นายกรัฐมนตรีอินโดเนเซีย นั่งติดกันสกิดเข่าถามว่า ข้าวหอมมะลิคุณขายกระสอบเท่าไร ตันเท่าไร  ผมชอบนะผมจะซื้อเยอะเลย   นายชวนบอกว่า เอ... ผมก็ไม่แน่ใจนะ  รอผมจะถามพวกพาณิชให้นะ  ผมไม่มีหน้าที่ตรงนี้ผมไม่รู้หรอก    เขาก็คงคิดว่า  ไม่เป็น  ไม่ทันใจ ก็ไปซื้อข้าวเวียดนามแทน   น่าเสียดายไหม   นายชวนนี่  พอราคายางตก   ให้ชาวไร่..ที่บ้านนายชวนเองแหละ...โค่นยางลงหมด  ให้ปลูกจำปาดะแทน........วันนี้เล่าขึ้นทีไร หัวเราะกันจะตาย...แล้วยังคิดจะมาเป็นอีก....พวกกฎหมายหัวเก่าจะซื้อขะขายอะไรเป็น  . นี่แหละแบบเดียวกับนางพรทิวา  นายอภิสิทธิ์  ไม่มีผิดเลย   แล้วเห็นไหม   ทำประเทศเสียหาย   ทำให้ชาวนาไทยเสียโอกาสไปเท่าไร ๆ)

เท่านี้ยังไม่พอ  ยังเอาคนหัวขี้เลื่อย สุเทพ เทือกสุบรรณ มนุษย์วานร 1.8 ล้านปีมาบริหารน้ำมันปาล์มอีก   แล้วจะไม่บรรลัยวายวอดได้อย่างไร

ผมจึงไม่ไว้วางใจ  นางพรทิวา  นาคาศัย  และไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์  ทั้งนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ......มนุษย์วานร 1.8 ล้านปีคนนั้น .... ผมไม่ยอมให้บริหารประเทศต่อไป   ออกไปเลย   ออกกลางสภานี่เลย  ไร้คุณค่าจริง ๆ แล้วจะอยู่ไปทำไม.......

อีกนิด   แล้วเมื่อออกไปก็อย่าคิดกลับเข้ามาอีก   อย่าหน้าด้านหน้าไม่อายเหมือนนายชวนเลยน่า

ไปแล้วก็ไปเลย  ไปให้พ้น ๆ   ทำลายประเทศไทยจนล่มจมขนาดนี้ ยังไม่ละอายใจบ้างหรืออย่างไร   ???

พรทิวา  นาคาศัย นี่เป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคภูมิใจไทยนะครับ ......มีกระทรวงในความรับผิดชอบใหญ่ ๆ นอกจากพาณิชย์ก็คือมหาดไทย   นาย........อะไรที่ดำนาไม่ถอยหลัง เดินหน้าดำนา....ไปแอ๊คท่าดำนาให้ชาวนาหัวเราะกันทั้งประเทศ..... หัวหน้าพรรค เป็นรัฐมนตรี ........  กับพ่อลูก นายชัย นายเนวิน ชิดชอบ เป็นแกนนำ..................................แต่ผมว่านี่ไม่ใช่พรรคการเมืองตามความหมายของประชาธิปไตย  ........................................................................................

ผมไม่ถือว่าเป็นพรรคการเมือง..............................เพราะไม่รู้แม้กระทั่งว่า   นโยบายคืออะไร....(พอๆ  กับพรรคประชาธิปัตย์......ไม่รู้กระทั่ง ประชาธิปไตยคืออะไร)..............สิ่งที่เขาประกาศว่าเป็นนโยบาย  มันไม่ใช่นโยบาย   เพราะเขาไม่บอกว่าเขาจะทำอย่างไร   ................   เขาบอกเพียงว่าเขาจะทำอะไร..........เด็กก็บอกได้  

และอมมือที่สุดที่บอกว่า   พรรคของเราจะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อในหลวง...........................................................................................................................   มันเป็นนโยบายอย่างไร ??????  ในเมื่อคนไทยทั้งชาติเขาได้สิ่งนี้อยู่แล้ว   เขาไม่ต้องการให้ก๊กภูมิใจไทยมาชักชวนชี้นำเพื่อให้จงรักภักดีต่อในหลวง  มันเป็นเองในจิตใจคนไทยทุกคนอยู่แล้ว...........คุณบ้าหรือ  มาเสียเวลาทำไม.......เขาเป็นเขามีกันเองทั้งแผ่นดินอยู่แล้ว   คุณหาสิ่งที่ประชาชนยังไม่มีมาสิ.........

และที่จริงพรรคภูมิใจไทย เป็นเพียงก๊กการเมืองก๊กหนึ่ง........เท่านั้นเอง    ไม่มีสส.ของตนเอง แต่เป็นงูเห่า ...............  เหมือนตอนกรุงแตกยุคพระเจ้าตาก   ต้องปราบปรามให้หมด  เหลือเพียง  ก๊กเดียว คือก๊กพระเจ้าตาก.......................จึงจะหมายถึงอิสรภาพของประเทศไทย.........................

คุณลองบอกสิว่า   ทำอย่างไรจะขายข้าวได้ราคาดี  ให้ชาวนาร่ำรวย  มีเงินในกระเป๋า.........................

ยาง.........ทำอย่างไรขายได้ราคาไม่ตกและขายได้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ   ตลอดไป..................

เรื่อง  น้ำ   เรื่องชลประทาน  ..............    ทำอย่างไรจะให้มีน้ำดำนาได้ตลอดปี................  ไปคิดดูสิ.............

ที่ดิน............  ทำอย่างไรไม่ให้ชาวนาขายที่นาที่ไร่ให้นายทุน.....................

นี่แหละนโยบาย   ................       ทำอย่างไร  ????  (ไม่ใช่ทำอะไร )

ไปคิดมาสิ..............................   ไปศึกษา   ไปสำรวจ  และวิจัยหาเทคนิกเพื่อกระทำการมา.............(ไม่ใช่นั่งคิดนอนคิดเอา.......)

ทำอย่างไรจะขายไข่ชั่งกิโล  ?????  ได้ราคาถูก ๆ  แต่เกษตรกรได้กำไร  ?    ได้ทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ     ..........   ลองคิดค้นมาดูซิ.......

ทำอย่างไร  จะเลี้ยงหมูโตเร็ว   .....................................พืชผักโตเร็ว   ไม่มีโรค.................

ทำอย่างไรจะให้คนไทยไปขายของได้ทั่วโลก .............................

ทำอย่างไรเด็กไทยคนไทยจะคิดเป็น   และ   ค้าขายเป็น............

ทำอย่างไรสส.   สว.   รัฐมนตรี   ข้าราชการ จะได้เงินเดือนสูง ๆ   เท่า ๆ  สิงคโปร์......................

ทำอย่างไร  ฝนจะตก......................ทำอย่างไรน้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพ............................คุณต้องใช้เวลาศึกษา  พิศูจน์ทดลอง  จนได้เป็นทฤษฎีก่อน   จึงค่อยมาเสนอเป็นนโยบายต่อประชาชน  ................................

ไม่ใช่ไปลอกกากนโยบายเขามาโดยเราไม่เข้าใจเหตุผล   ......  เช่นประชาธิปัตย์ไปลอกกากนโยบายตูนีเซียมา   เป็นต้น ....  ก็ทำประเทศพังไปเป็นแถบ ๆ  อยู่ขณะนี้.............รวมทั้งตนเองก็พังด้วย  

เพราะไม่ได้ผ่านการศึกษาพิศูจน์ทดลองจนเป็นทฤษฎีที่เชื่อถือได้ก่อน เช่นประชาธิปัตย์  ฉะนั้นจึงเหมือนการโกหกประชาชนเพราะทำไปไม่ได้  เช่นสิ่งที่เรียกว่า  นโยบายไทยเข้มแข็ง   .......................  ผลก็คือสูญเสียเงินทองไปมหาศาล   น่าเสียดาย   และ   รัฐบาลไม่ยอมรับผิดชอบเลย   ..............   มีที่ไหน  ? 

ต้องขอบใจผมนะเนี่ย   ที่บอกที่สอนให้

ทำอย่างไรจะให้เรา   ชาวอีสานยิ้มออกบ้างครับ ?

ผมตาสว่างแล้วครับ................  มีเรื่องราวเยอะเลย  ทั่วแผ่นดิน

ที่จะต้องแก้ไขด้วยคำว่า...........................   ทำอย่างไร ?????

ขณะนี้  แม้พรรคการเมืองยังไม่รู้เรื่อง    ...................    ก็จะเลือกมาทำไม    โง่เหมือนเดิมแล้วจะทำอะไรได้  ???