ReadyPlanet.com


ทุกคน ๆ ไทยยอมรับการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่คุณได้ทำอะไรเพื่อประชาธิปไตยบ้าง ??


ถนนทุกสายมุ่งสู่ประชาธิปไตย  โลกยุคใหม่ตื่นตัวกันอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งโลกอิสลามในตะวันออกกลางและอาฟริกา  ก็กำลังตื่นขึ้นรับรู้วิถีทางใหม่ นั่นคือประชาธิปไตย  และพวกเขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยชีวิต  ประเทศไทยเดินทางมา 75 ปีแล้ว บนเส้นทางนี้ แต่เป็นเพราะลูกตุ้มถ่วงประชาธิปไตยหนักพอกพูน ไม่อาจขยับเขยื้อน  มาบัดนี้จึงมีผู้กล้าหาญลุกขึ้นมาขับเคลื่อนประชาธิปไตยไทย และทำสำเร็จก้าวไปข้างหน้าหลายขั้นตอนแล้ว  ชื่อเสียงของพวกเขาเด่นดังไปถึงต่างประเทศ ในนามประชาชนเชิร์ตแดง(the red shirt)  พวกเขาสู้และสละชีวิตเพื่อประชาธิปไตยมาแล้วและกำลังต่อสู้อยู่ ไม่ชนะไม่เลิก ......เพื่อประชาธิปไตย

 

คุณได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง  ?     



ผู้ตั้งกระทู้ นายวิจัย ประชาธิไตยไทย :: วันที่ลงประกาศ 2011-06-12 07:24:51


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3297388)

ถ้าคุณไม่รู้จักเลยว่าประชาธิปไตยคืออะไร     จะให้ประโยชน์อะไร 

ผมก็ขอให้คุณฟังคำสั้น ๆ ประโยคเดียวคือคำว่า    ประชาธิปไตยกินได้..............

 

เอาประชาธิปไตยไปต้มกินได้ครับ   อร่อย  !!!!

ผู้แสดงความคิดเห็น นายบัฟฟาโล(นายควาย) วันที่ตอบ 2011-06-12 07:32:40


ความคิดเห็นที่ 2 (3297389)

มีสื่อที่มืดแปดด้านอยู่สื่อหนึ่งที่ผมมองมานานแล้ว  คือ   เอเอสทีวี   ..............บอด  ไม่รูจักประชาธิปไตย ...........

 

ก็ออกมาประพฤติในทางเป็นศัตรูต่อประชาธิปไตย............ขณะนี้ทำตนเป็นศัตรูอย่างเต็มตัว .......  เพราะอวิชชา

 

แบบว่า บาปบริสุทธิ์  !!!

 

ลองเอาประชาธิปไตยไปต้มกินดูนะครับ   เผื่อจะได้รู้อะไร ๆ ดี ๆ  ของประชาธิปไตยบ้าง .............   ทนคำหยามเหยียดของคนทั่วโลกได้อย่างไร  ว่า เอเอสทีวี พวกป่าเถื่อนล้าหลังแห่งยุค   .....

ผู้แสดงความคิดเห็น นายบัฟฟาโล(นายควาย) วันที่ตอบ 2011-06-12 07:37:15


ความคิดเห็นที่ 3 (3297395)

มันเป็นอวิชชามาตั้งแต่ตั้งชื่อตัวเองว่า  พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้วละ..............โง่บริสุทธิ์........ไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร  แต่เดาะเรียกตนเองว่า  ............ เพื่อประชาธิปไตย.....  

 

ทั้งนี้รวมความถึง พรรคประชาธิปัตย์ด้วย  เพราะชื่อ  พธม.นี้รวมคน 3 กลุ่มเป็นพันธมิตรมาแต่เริ่มต้นที่คบคิดล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตย   คือ 

1.    ขบวนการเจ๊กลิ้ม  

2.   พรรคประชาธิปัตย์   และ 

3.   สันติอโศก-มูลนิธิกองทัพธรรม  จำลอง  ศรีเมือง    

 

ครั้งนั้น  ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ขนคนจากภาคใต้มาร่วมชุมนุมแทบทุกครั้ง  มีการยืนยันภายหลังนี่เอง ว่าการมีชุมนุมขนาดใหญ่นั้นแท้จริงเป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์    สันติอโศก จำลอง ก็ระดมมาจากสาขาเขาทั้งประเทศ  ประมาณ 9-10 สาขา  อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เห็นจริงมาจนถึงวันนี้  ส่วนเจ๊กลิ้มทำหน้าที่ฝ่ายอำนวยการและแผนยุทธศาสตร์การโฆษณาชวนเชื่อ  โดยเฉพาะงานการข่าวกรองเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ  (งานล้วงความลับของบุคคลสำคัญหรือบุคคลในเป้าหมายของเขา) 

ขณะนี้  มีคุณสมศักดิ์  โกศัยสุข  ที่มีตาสว่าง  เห็นแล้วว่าวิถีทางที่ถูกคือวิถีทางประชาธิปไตย   จึงแยกตัวออกไปจาก  พธม.   ในฐานะที่เป้นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่   และแกนนำอีกคนก็คือนายวีระ  สมความคิด ที่ถูกแทงข้างหลังจากทั้งเจ๊กลิ้ม และ อภิสิทธิ์ ปชป.   หลอกไปติดคุกเขมรอยู่    ส่วนอีกคนคือนายสุริยะใส  กะตะศิลา  ทีแรกดูเหมือนจะไปกับคุณสมศักดิ์  แต่พอเจ๊กลิ้มทวงบุญคุณ ก็จบ และดูเหมือนว่าจะต้องอยู่เป็นขี้ข้าเจ๊กต่อไปจนชั่วชีวิตแล้ว      มีอดีตสส.ปชป.แกนนำอีกคนหนึ่งหายหน้าไป  ข่าวว่าเป็นอำมะพาต...อ้อ    สมเกียรติ์  พงษ์ไพบูลย์  นี่แหละตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์   ใน พธม. 

 

นี่คืออวิชชาครับ  

 

แล้วมีกรณีที่คนคงจะลืมยากกรณีหนึ่ง  ก็คือ  เจ๊กลิ้มประกาศยุทธศาสตร์  70  :  30   ที่น่าคิดก็คือ   การที่ปรากฎว่ามีนักวิชาการในมหาวิทยาลัยเป้นจำนวนมาก รวมทั้งนายสมบัติ  ธำรงค์ธัญญวงศ์  ที่อยู่นิดา (เป็นศาสตราจารย์เสียด้วย)  แห่ไปสนับสนุน  ว่าชอบด้วยระบอบประชาธิปไตยไทย  

รวมกันเป็นพวกโง่เง่า  ไม่รู้จักประชาธิปไตย  

 

การรณรงค์โหวดโน  นั่นแหละครับ  เป็นเรื่องของการเสียมารยาททางการเมืองอย่างแรง    ...   มันไม่ถึงมีความผิดร้ายแรงหรอกครับ  ...แต่เป็นเรื่องของจริยธรรมทางการเมือง   ซึ่งในระบอบการเมืองผู้ดี  ย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็น  

และซึ่งคนพวกนี้   ก็ไม่รู้จักอีก 

 

คนพวกนี้แหละครับควรเรียนรู้ประชาธิปไตยอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มคำเดียวว่า     ประชาธิปไตยกินได้    ...

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-06-12 09:41:23


ความคิดเห็นที่ 4 (3297397)

มีวงการอีกวงการหนึ่งในเมืองไทย   ที่ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจึงสร้างบทบาทของตนไปเช่นนั้น............  คือวงการสื่อนั่นเอง

 

สรุปได้ในที่สุดว่าพวกนี้ก็โง่เง่าเต่าตุ่นอยู่เหมือนกัน..........และยังรวมถึงการไม่รู้หน้าที่ของตนด้วย

 

สื่อมีหน้าที่อย่างไรครับ     โดยธรรมชาติของสื่อ ๆ มีบทบาท หน้าที่  จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม  คือ    การพัฒนา.............  ถ้าไร้บทบาทของสื่อเสียแล้ว  ยากที่จะเกิดการพัฒนาขึ้นได้ในสังคม (ลองไปพิศูจน์ทดลองวิจัยดูเองนะครับ จะพบความจริงนี้)

 

ประชาธิปไตยก็เหมือนกันครับ   ไม่อาจพัฒนาไปได้เพราะสื่อไม่แสดงบทบาทให้ถูกต้อง    ..............   และ.....ไม่เข้าใจประชาธิปไตย

 

ผมจึงคิดว่าพวกสื่อนี่ก็ควรมาเรียนรู้หลักเบื้องต้นด้วยคำนี้เช่นเดียวกันคือ      ประชาธิปไตยกินได้...........

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-06-12 10:03:13


ความคิดเห็นที่ 5 (3297398)

ถ้าคุณพูดประโยคนี้ขึ้นมา...............ว่า...........ถ้าทำดีไม่ได้  ก็อย่าทำชั่ว  ........ หรือ.............  ไม่รักก็อย่าทำลาย

 

คุณจะเห็นว่าคุณคิดผิด

เพราะในความเป็นจริง คนที่ไม่อาจจะทำดี   นั่นเป็นผลจากความโง่  เขลา  อวิชชา    คุณจะไปขอร้องคนโง่เขลา อวิชชา  ไม่ให้ทำลาย หรือไม่ให้ทำชั่วนั้น   เป็นการยาก

 

เช่นคุณไปขอร้องคนที่เป็นโรคจิต  ผู้ที่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ  เป็นประจำใน รพ.ศรีมหาโพธิ์  หรือ สมเด็จเจ้าพระยา    อย่างไรก็ได้   เขารับปากหมด   .........แม้กระทั่งเราบอกเขาว่า   อย่าหัวเราะซี............. เขาก็รับปากเรา.......แต่เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าอะไรเป็นอะไรในคำพูดของเขา.......................เขาก็นั่งหัวเราะคนเดียวอยู่ทั้งวันเหมือนเดิม   

 

เหมือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นรม.เด็กนี่แหละ แกไม่รู้ตัวว่าแกโกหกเสียจนเป็นสันดาร    ...........   ใครบอกว่าแกโกหกแกก็โต้กลับว่าแกพูดความจริง   ..........

 

และ   เหมือนพวกสื่อมวลชนไทยนี่แหละครับ...............................

 

ไม่เหมือน  บีบีซี    หรือ  อัลจาชีร่า....หรือ  วีโอเอ.     เพราะพวกนี้เขามีจุดยืนเพื่อประชาธิปไตย  เพื่อการเผยแผ่พัฒนาประชาธิปไตยทั้งสิ้น  

สื่อเป็นนัยตาของประชาธิปไตยโดยตรง......

แต่สื่อตาบอดกับสื่อตาดี  มันต่างกัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-06-12 10:21:21


ความคิดเห็นที่ 6 (3297411)

ถ้าเราจะพูดไกลเกินไป  ก็กลัวสื่อไทยจะไร้ความรู้สึก   เพราะความเง่านั่นเอง    

 

สื่อมีหน้าที่สำคัญมาก ๆ   ต่อระบอบประชาธิปไตย   เพราะ

 

1.       สื่อกับประชาธิปไตยเป็นของคู่กัน   .......................

 

แต่ก่อนจะถึงประชาธิปไตยนั้น  ...............   

2.       สื่อต้องร่วมต่อสู้ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของสื่อ 

 

ผมกลัวว่าสื่อไทยจะบอดใบ้  ไม่ได้ยินคำนี้     

 

3.      คำที่ว่า  ...........สื่อคือ.................หัวหอกของระชาธิปไตย  ..............................

 

 ถามจริง ๆ   พวกคุณสื่อไทยเคยได้ยินบ้างไหม  ????  (ผมสื่อนอกได้ยินชิน)

แต่ได้ยินหรือไม่ได้ยินก็ตามแต่   คำว่า      สื่อเป็นหัวหอกเผด็จการ นั้น  น่าจะไม่มีในวงการศึกษาของวิชาการสื่อสารมวลชน    เนื่องเพราะสัจธรรมที่ว่า  สื่อกับเผด็จการไปด้วยกันไม่ได้    มีแต่  สื่อทาส เท่านั้น   

 

4.        สื่อทาสเท่านั้นที่รับใช้เผด็จการ 

5.        สื่อโง่เง่า  ไม่เข้าใจประชาธิปไตย   

 6.       อย่างเจิมสากไง   ......

    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวิจัย ประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-06-12 12:38:37


ความคิดเห็นที่ 7 (3297427)

ผมหมายถึงนายเจิมศักดิ์  ปิ่นทอง  บริษัทวอทช์ดอก   ที่ไปรับใช้เผด็จการโจมตีฝ่ายตรงข้ามคนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของเผด็จการ  คือโจมตีทำลายทักษิณ  ชินวัตร   รวมความไปถึงพรรคฝ่ายค้านและคนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย  เชิร์ตแดง   มีหน้าที่ขุดคุ้ยทุกเรื่องราวของคนอื่นมาทุกอย่าง  ที่เป็นเรื่องเป็นราวพอจะใส่ไคล้ใส่ความได้เอามาขยายออกไป  อาศัยที่มีภูมิการศึกษาถึงระดับ  ดร.   (ด๊อกเตอ)  จึงเชี่ยวชาญการบิดเบือนไส่ไคล้...........

บริษัท watch dog  นี่ก็สมกับบทบาทครับ  คือแปลแล้วก็คือ  บริษัทหมาเฝ้าบ้าน     บริษัทนี้รวมพวกนายเสรี  วงศ์มณฑา  ที่คนว่าแกไม่ใช่ลูกผู้ชาย  แต่แกเป็นกะเทย     กับหมอความคนหนึ่ง................

 

เอาละ  ผมขี้เกียจพูดถึงนายเจิมสาก    ................   หมาที่เห่าหอน  ในช่อง 11 หอยม่วง   เพราะคิดว่า  อนาคตแกสั้นแล้ว

 

จะรู้หรือไม่รู้จักประชาธิปไตย ..............ปล่อยไปเถอะ....ไร้ค่าจริง ๆ    

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวิจัย ประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-06-12 20:33:45


ความคิดเห็นที่ 8 (3297428)

เจิมสาก  ทำลายศักดิ์ศรีของสถาบันสื่อครับ................เป็นตัวด้วงตัวหนอน ที่บ่อนไส้วงการสื่อ   ........  เป็นสื่อทาส    ...........   เป็นหมาเฝ้าบ้านเผด็จการ.............หมาที่เห่าหอนนอกเรื่องนอกราวของหมา...............

 

เพราะไม่ได้เห่าหอนเพื่อ    ประชาธิปไตย.......

 

เรื่องนี้ต้องกล่าวโทษไปถึงหมาอีกตัวหนึ่งครับ  ตัวการนำหมาเจิมสากมาที่นี่...........   หมากระเป๋าครับ.......

ผู้แสดงความคิดเห็น นายยอดเยี่ยม ยิ่งยง วันที่ตอบ 2011-06-12 20:45:15


ความคิดเห็นที่ 9 (3297469)

ผมขอแจมเรื่องหมากระเป๋าหน่อยครับ    คือ รมว.สาธิต  วงศ์หนองเตย  ตัวแกป้อม ๆ เตี้ย ๆ   มาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ทำหน้าที่คุมสื่อคุมกรมประชาสัมพันธ์  คุมทีวี  หนังสือพิมพ์ด้วย    .............     สมญาหมากระเป๋านี่  พวกคุณวีระ  คุณณัฐวุฒิ  คุณจตุพร  เป็นคนตั้งให้ ทีวีจอดำ    หรือแม้การประชุมสภา   กลายเป้นจอดำ   สัญญาณขาด ๆ หาย ๆ ไปนี่   ฝีมือเขาละ

 

ผมว่านี่แหละบอดใบ้ ไม่เข้าใจสื่อ เป็นเผด็จการตัวจริงเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2011-06-13 09:51:11


ความคิดเห็นที่ 10 (3297471)

ถ้าคุณเป็นสื่อ  สื่อและสถาบันสื่อจะต้องคิดอย่างไรครับ ?

 

คุณก็ต้องคิดว่า  เผด็จการไม่สามารถจะให้อะไรแก่สื่อได้เลย  ....................   นี่เป็นความจริงที่สื่อไทยหลงลืมไป..... 

เมื่อเผด็จการปกครองประเทศ  สื่อจะซบเซาลงไป   และในที่สุด  ไร้ความหมายและไร้ความสำคัญลงไป   และปิดกิจการสื่อไป  อาชีพ  วิชาชีพสื่อจะหดหายลงไปทีละน้อย ๆ ๆ ๆ ๆ    เพราะเผด็จการไม่ต้องการสื่อ   ..............

 

แต่ความจริง   สื่อมากับประชาธิปไตย   ประชาธิปไตยเจริญสื่อเจริญ   .........   และเจริญได้อย่างไม่หยุดยั้ย  ไร้ขีดจำกัดจากประชาธิปไตย  เท่านั้น       คุณก็รวยได้อย่างไม่จำกัดในระบอบประชาธิปไตย 

คุณก็ได้เล่าเรียน วิชาการสื่อสารมวลชนมาแล้ว 

 

ในทำนองเดียวกันอย่าลืมว่าประชาธิปไตยไม่อาจจะจะเจริญไปได้ด้วยตัวมันเอง   ต้องมีสื่อเป็นตัวขับเคลื่อน อย่างขาดเสียไม่ได้   เป็นคู่มิตรสำคัญครับ   ระหว่างสื่อกับประชาธิปไตย     ถ้าขาดกันเมื่อไร   ตายทั้งคู่

 

ผมไม่จำเป็นต้องพูดเลยครับ   เพราะมันเหมือนการสอนเด็กเกินไป  

 

แต่ผมก็ต้องพูด   เพราะสื่อทุกวันนี้เหมือนเด็กจริง ๆ      ผมจะลองสำรวจดูวันนี้เลยก็ได้    ....................

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายยอดเยี่ยม ยิ่งยง วันที่ตอบ 2011-06-13 10:08:26


ความคิดเห็นที่ 11 (3297479)

ผมขอแจมนิดนะครับ   ดูพม่าสิครับ       ประเทศเมียนมาขณะนี้  เป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่เห็นความสำคัญของสื่อสารมวลชนเลย    ตอนเกิดพายุไซโคลนนากิสถล่มเมื่อปี  2550 นั้น  รัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ไม่สนใจที่จะบอกเล่าข่าวร้ายนี้ให้โลกทราบเลยด้วยซ้ำ   .ขณะนั้นสื่อในพม่าไร้บทบาทลงไปหมดแล้ว   แม้กระทั่งโทรทัศน์  เมียนมา 1-2-3-4  ที่เคยรับผ่านดาวเทียม  ก็ปิดกิจการลงหมด .........   แต่อเมริกา และสหประชาชาติสื่อออกไปให้..............   

 

ความหมายคืออะไรครับ   คือเผด็จการทหารพม่าไม่ได้เห็นคุณค่าของชีวิตชาวพม่าเลย  ในสถานการณ์ภัยธรรมชาติขนาดใหญ่เช่นนั้น  รัฐบาลพม่าคิด พบเหตุผลง่าย ๆ  เช่นนั้นว่าประชาชนหรือคนหนึ่งคนใดไม่อาจจะกล่าวโทษเขาได้เลย  ...   เป็นเรื่องเหลือวิสัย  .............

 

อเมริกาตำหนิภายหลังว่า  ถ้าพม่าไม่ปิดการสื่อสารและรีบแร่งขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ก็จะไม่ตายมากขนาดนั้น (ตายพอ ๆ กับสินามิ ปี 2547 คือประมาณ 150,000 คน)   ในความเป็นจริง พม่าทำสิ่งที่น่าเกลียดมาก คือแกจะไม่ยอมให้สหประชาชาติและประเทศอื่น ๆ เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนพม่าด้วยซ้ำไป       ไม่มีเหตุผล  แสดงท่าทีว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลกับประชาชนพม่า  ประเทศอื่นไม่เกี่ยว     ในข่าวบ้านเราพบว่ามีการต่อรอง  ขอเข้าไปแจกจ่ายอาหารให้ประชาชนที่กำลังอดอยาก  และกำลังเกิดโรคระบาด.......

 

นี่แหละครับเผด็จการ  ทำอะไรไปก็ปกปิด     จึงไม่ต้องการสื่อ  ๆ   ไม่อาจเจริญได้ในระบอบเผด็จการ...   เป็นสัจธรรม

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2011-06-13 10:30:59


ความคิดเห็นที่ 12 (3297630)

พลิก ๆ ไปก็พบ   ดูนสพ.ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่วันที่ 13 มิ.ย.2554 หน้า 3  ชื่อคอลัมน์เก่าแก่ทีเดียว "ชักธงรบ"   "กิเลน  ประลองเชิง"   เจ้าของคอลัมน์ และวันนี้ลงชื่อเป็นผู้เขียนบทวิเคราะห์ชื่อว่า   เลือกเพราะรัก       

 

การเลือกเพราะรักคนนั้นเป็นอันตราย    แต่เราต้องเลือกโดยมองที่นโยบายต่างหาก     

คำถามมีว่า  คุณจะกาข้อไหน

1.      คนไม่ถูกใจ  แต่นโยบายดี  กับ

2.     คนถูกใจ  แต่นโยบายเลว.............

 

ตามบทวิเคราะห์ของกิเลน ประลองเชิง  นักเขียนอายุมากคนนี้  เขากาข้อ 2 ครับ  

 

ผมจึงคิดว่าเขากาผิด  คิดผิด  

 

และเป็นประเภทสื่อที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย    ควรจะเลิกเขียนเสียเถิด

 

เพราะด้วย  อวิชชา   นอกจากไม่ช่วยทำอะไรให้ประชาธิปไตยแล้ว   ยังปิดกั้นเส้นทางประชาธิปไตยอีก   .........

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายยอดเยี่ยม ยิ่งยง วันที่ตอบ 2011-06-14 09:17:43


ความคิดเห็นที่ 13 (3297870)

สงสัยมานานแล้วว่าทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งจึงคิดในเชิงแยกแยะเหตุผลไม่เป็น  วันนี้ไม่แปลกใจเลย  เพราะยังมีสื่อล้าหลังที่เจ้าของหนังสือพิมพ์ไม่ดูตาม้าตาเรือ  ปล่อยให้มาขีดๆเขียนแสดงทัศนคติที่มืดบอดต่อคนอ่านอยู่ได้ แกไม่รู้แม้กระทั่งว่านโยบายเลวมันแย่ตรงไหน  คำว่านโยบายเลวมีความหมายเท่ากับการคิดผิด มืดบอดและหาทางออกของปัญหาไม่ได้  แกอุตส่าห์ไปเลือกเท่ากับการประกาศรับรองว่าการคิดผิดเห็นผิดเป็นสิ่งที่ดีกว่าคนไม่ถูกใจแต่คิดดีทำดี ถึงคราวที่ต้องมีการปฏิวัติสื่อเพื่อให้เกิดภูมิปัญญาแก่คนในสังคมเสียที ประชาชนที่ฉลาดๆช่วยกันเป็นกระจกสอดส่องบ้างเพื่อคัดกรองและยกระดับวงการสื่อสารมวลชนไทยให้ได้มาตรฐาน  สื่อไร้แก่นสารสาระก็ให้ไปทำอาชีพอื่น

ผู้แสดงความคิดเห็น แมงกุดจี่ วันที่ตอบ 2011-06-16 00:46:05


ความคิดเห็นที่ 14 (3313624)

คุณทำอะไรบ้าง ?

มาวันนี้ก็ถาม  ศาสตราจารย์อีกคน  คราวนี้เป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์    สมคิด เลิศไพฑูรย์   

เพราะ   ไม่เข้าใจมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ไม่เข้าใจประชาธิปไตย  

ก็เพิ่งเผยภูมิออกมาวันสองวันนี้เอง  ที่ออกมาต่อต้านนิติราษฎร์
ไม่เข้าใจ ปรีดี  พนมยงค์    เอาไปเปรียบเทียบกับพวกเผด็จการ  ว่าเป็นพวกเดียวกันประมาณนั้น 

และไม่เข้าใจ นิติราษฎร์  ซึ่งเป็นคณะ 7 คนของอาจารย์นักวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐประหาร ว่าการรัฐประหารเป็นความผิด 

 

นี่ก็คือ ปัญหาประเด็นประชาธิปไตย   ปัญหาอยู่ที่คนในระดับการศึกษาสูง ๆ   และ ตำแหน่งทางวิชาการการเมืองการปกครองระดับสูง ๆ  แต่   น่าแปลกที่ไม่เข้าใจประชาธิปไตย      จึงกลายเป้นตัวถ่วงประชาธิปไตยไทยเสียเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ยอดเยี่ยม ยิ่งยง วันที่ตอบ 2011-09-30 09:42:14



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.