ล่าสุด  น้ำท่วมสุโขทัย พรรคนี้แสดงความยินดีออกนอกหน้า จนเรียกประชุมพรรคทันที ว่าฉลองน้ำท่วม  ที่แสดงถึงความไร้น้ำยาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

อันนี้ นอกจากเกี่ยวกับประชาธิปไตยแล้ว   ยังเกี่ยวกับจรรยามารยาทโดยทั่วไปของคน หรือ มนุษย์   .....  การแสดงออกซึ่งความดีใจ เมื่อคนอื่นได้พบความทุกข์ลำบาก หรือเคราะห์ร้าย นั้น    ประการแรก  ทางศาสนากล่าวว่า  เป็นมิตรแท้กับใครไม่ได้   เพราะมิตรแท้นั้น ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุข .......  นี่คือท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับประชาชน  ส่วนหนึ่ง ที่นิยมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเมื่อเกิดทุกข์ขึ้น  พรรคนี้ก็แสดงอาการ สมน้ำหน้า  .............    นี่คือมารยาท และพฤติกรรมที่เลวทราม  คนทั่วไปเขาไม่ปฏิบัติ

ไม่เข้าใจหลักการประชาธิปไตย  เขาไม่แยกประชาชนหรอกครับ  เขาถือว่าประชาชนเสมอกันหมด  คุณไปแยกประชาชนเป้นฝักเป็นฝ่าย  ข้างเขา ข้างเรา เช่นนี้  ถือว่าไม่เดียงสาในประชาธิปไตย 

ยังมีคนเก่าแก่ของพรรคร่วมประชุมฉลองน้ำท่วมด้วย เช่นนายชวน หลีกภัย   แน่ละ เขาเอานายชวนมา ก็เพราะเชื่อว่าเวลานายชวนพูดแก้ตัว  เขามีเหตุผลดี ..........     ประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายเขาพอจะรับฟังได้   

ตั้งตนเองเป็นรัฐบาลเงา    ไม่มีหรอกรัฐบาลเงาในระบอบประชาธิปไตย   มีฝ่ายค้าน เขาให้คุณเป็นฝ่ายค้าน 

ทำไม?................

ก็ค่อยศึกษาไปนะไอ้หนูน้อย  

ดูที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อเรื่องในสภา ........    แย่งเก้าอี้ประธานรัฐสภา .......   เขวี้ยงแฟ้มใสประธานรัฐสภา......... ด่าว่าประธานรัฐสภาเป็นเผด็จการ  ล้อว่าไฮฮิตเลอร์  ............บีบคอเพื่อนสมาชิกต่างพรรค........เกือบหายใจไม่ออกตาย......  ถ้าคนปกติ  คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธปกติ  หรือศาสนาอะไรก็ตามนี่    เขาจะละอายใจ 

แต่คนในพรรคนี้ไม่มีความละอายใจเลย  .........  ฝึกเป็นคนหน้าด้านมาตั้งแต่เข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์วันแรก......

คนหน้าด้านที่สุดคือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ    หนัก ๆ เข้าทำเป็นใบ้เบื้อไปเลยก็มี  

คนที่ 2 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   กะล่อนเป็นที่หนึ่ง     เอาเสียงหัวเราะเป็นเครื่องเล้าโลมใจ

คนที่ 3 นายชวน หลีกภัย   ทำเป็นเคร่ง ถือศีล  .......จะสู้เปงเส่ง ได้หรือ ?

คนที่ 4 พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ใช้ไม้เดิม   ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้.......อมภูมิ

คนที่ 5 นายเอกยุทธ อัญชัญบุตร   นี่ออกทางนักเลงหญิง นักเลงการพะนัน  ทำใหญ่

คนที่ 6 นายถวิล เปลี่ยนสี    ฟังนามสกุลก็เชื่อแล้ว   คนนี้แสดงความหน้าด้านมาเงียบ ๆ ล่าสุดจึงพิศูจน์ได้ ว่าหน้าด้านจริง 

คนที่ 7 น.ส.รังสิมา รอดรัศมี    

คนที่ 8 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย

คนที่ 9 นายเทพไท เสนพงษ์

ยังมีอีกครับ เอาแค่ตัวอย่าง  จะต่อทีหลัง   คนประชาธิปัตย์เหล่านี้  เป้นอุปสรรคของประชาธิปไตยครับ  เพราะพวกเขาไม่รู้จักอะไรเป็นอะไรในประชาธิปไตยเลย    และเพราะเหตุนั้น จึงเป็นตัวการร้ายที่ขัดขวางประชาธิปไตยไป  แบบทำบาปบริสุทธิ์น่ะครับ ผมจะพยายามอธิบายต่อไปวันละเล็กละน้อย

คนเขารู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์คิดอะไร อย่างไร   รู้ในความคิดของพรรคการเมืองพรรคนี้ดี ทะลุปรุโปร่ง

เป็นความคิดที่น่ารังเกียจ และต่ำทราม

เขาว่าพรรคขี้อิจฉาริษยา 

มีพุทธสุภาษิตว่า   อรติ โลกนาสิกา     ความอิจฉาริษยาทำให้โลกฉิบหาย  

คนก็เลยรังเกียจว่าพรรคนี้ไม่สมควรเป็นพรรคการเมือง เพราะไร้หลักการ  เอาอารมณ์ ความรู้สึกอิจฉาริษยา มาเป็นวิถีทางบริหารประเทศ  ควรยุบทิ้งเสีย  

เขาแสดงความอิจฉาริษยาออกมาอย่างเปิดเผย เห็น ๆ กันอยู่แล้ว 

เวลาคนอื่นทำดี  พวกเขาจะกลัดกลุ้มไปหมดเพราะกลัวคนอื่นได้ดีกว่าตน   และจริง  เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะ  พรรคนี้แทบอกแตกตาย    คอยแต่ว่าเมื่อไรพรรครัฐบาลจะเพลี่ยงพลั้ง ก็จะระเบิดออกมาใส่ความอย่างแรง ให้พัไปเลย  ตนเองจะได้เป็นใหญ่แทน

 ตอนนี้เหมือนนอนในกองไฟ  เพราะกล้มเรื่องคนอื่นได้ดีกว่า

น่าเกลียดจัง  ..............

ตั้งแต่วันเลือกตั้ง 3 ก.ค. 2554 เป็นต้นมา   พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงให้เห็นว่า   ไม่มีสปิริตเสียเลย

หรืออาจจะเป็นเพราะความไม่รู้อิโหน่อิเหน่เรื่องการเมืองระบอบประชาธิปไตย ..........ก็ไม่รู้กันทั้งพรรคทั้งพวกเลย...พูดตรง ๆ ก็คือ   โง่กันทั้งพรรค   ทั้งระดับรัฐบาล  และระดับ กทม. 

น่าจะดูการเลือกตั้งในอเมริกา เมื่อ 6 พ.ย.2555 นี้   

เขาเริ่มด้วยการต่อสู้กันทางความคิดนโยบาย มาก่อนแล้ว  และเร่งดีกรีขึ้นไปจนถึงสูงสุดในวันก่อนการเลือกตั้ง   ในเวลาต่อสู้ เขาต่อสู้กันจริง   แต่เมื่อประชาชนตัดสินแล้ว เขาก็ยุติลง   เขาจบทุกสิ่งทุกอย่างลงในวันเลือกตั้ง

แต่ประเทศไทยมีการเลือกตั้งมา 1 ปี 3 เดือนเศษ ๆ แล้ว   แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่จบ 

นี่คืออันธพาล  ยิ่งดูยิ่งเห็นเหมือนอันธพาลบอลเลย  คือ  บอลแพ้คนไม่แพ้โว้ย 

และล่าสุด   ก็ร่วมแผนการล้มล้างรัฐบาลกับ  นายบุญเลิศ  แก้วประสิทธิ์(เดิมเป็นพล.อ.  แต่เราได้ถอดยศ  ไม่เรียกพลเอกต่อไป)  ผู้ตั้งตนเป็นประธานองค์การพิทักษ์สยาม(ชื่อใหญ่เสียจริง....พิทักษ์หรือทำลายกันแน่)   ทำการระดมคนฝ่ายผิดหวังในการเลือกตั้ง 3 ก.ค.2554  มารวมกันในสนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2555   แล้วนัดว่าจะมาชุมนุมกันอีกด้วยพลเป็นจำนวนล้านคนในวันที่ 24 พ.ย.2555  เป็นการรับกันกับทางพรรคประชาธิปัตย์ที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยไม่ไว้วางใจ อภิปรายนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต  และ  พล.ต.ท.ชัจ กุลดิลก  .......  โดยไม่แน่ชัดว่าเรื่องอะไร ปัญหาของกระทรวงอะไร แต่ก็จะอภิปราย  ในวันที่ 26-27-28 พ.ย.2555......  นี่คือพรรคกะเลวะราด แห่งการเมืองไทยโดยแท้จริง  ............เพราะ   ไม่มีหลักการที่ชอบด้วยวิถีทางประชาธิปไตยในการขออภิปรายครั้งนี้เลย..........     มีหลักการเดียวคือ   หลักความอิจฉาริษยา  ทนกับการเห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้   ......   เท่านั้นเอง   .........  เพราะไม่มีการสะท้อนอะไรออกมาจากพรรคนี้  ที่เป้นแนวประชาธิปไตยเลย  

ตั้งแต่ที่ไม่ยอมหยุดลงในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.2555   แบบบอลแพ้คนไม่แพ้  ลากยาวมาทุกเรื่อง  หาเรื่องรวนไปหมด   อย่างเปิดเผย.......แม้กระทั่งเรื่องรวนในสภา  มีวอล์คเอ้า  มีประท้วง  และล่าสุดระดมก่อการร้ายกลางสภา มีการไปยื้อยุดประธานสภา ลากแขนออกไปจากเก้าอี้  มีการลากเก้าอี้ประธานสภาออกไป   มีการโยนแฟ้มเอกสารขนาดใหญ่ เล็กใส่ประธานสภา  มีการเยาะเย้ยถากถางด้วยประการต่าง ๆ ที่ไม่มีข้อเท็จจริง   มีการตั้งสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ซึ่งทั้งวันมีแต่เรื่องโกหกพกลม ใส่ความเขา สร้างเรื่องเท็จหลอกลวงประชาชน  ดิสเครดิตรัฐบาล    ............

ซึ่งนี่คือพฤติกรรมที่นอกจากไม่ยอมรับในระบอบประชาธิปไตยแล้ว  ยังเป็นตัวการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยตรง  เห็นได้จากบทบาทหลังการเลือกตั้งเป้นต้นมาจนขณะนี้  ที่ปกติแล้วประเทศที่เจริญเขาจะจบเรื่องราวทุกเรื่องลงในวันเลือกตั้ง ทันทีที่ได้ทราบผลของการตัดสินใจของประชาชน  ในระบบกติกา  Majority rule Minority right     (เข้าใจไหมครับ พรรคประชาธิปัตย์?)  แต่พรรคนี้ไม่ยอมจบ  ยังพยายามที่จะล้มล้างรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตย ทั้งในรัฐสภาและนอกรัฐสภา

และวันนี้   ก็กำลังมาถึงวาระอีกวาระหนึ่ง  ที่แสดงถึงการก่อการร้ายต่อระบอบประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ โดยร่วมมือกับขบวนการม็อบเสียสติ  นายบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์  เราปลดยศออกจากพลเอก และตำแหน่งเสนาธิการกองทัพบก........

เอาละ ผ่านม๊อบบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์มาแล้ว

เด็กหนีทหาร กับคู่หูสุเทพ ก็ถูกดีเอสไอตั้งข้อหาให้แล้ว  ว่าฆ่าพัน คำกอง  ........หาว่ารัฐบาลแกล้ง เป็นการเมือง.......ยังมีคดีที่จะตามมาอีกร่วม 30 คดี  ตายแน่  รวมโทษคงถึงพันปีละมั้ง   เด็กคนนี้ร้องี้มูกโป่งแน่....