หน้าแรก | หน้ารวมกลุ่มเว็บบอร์ด | School of Horasatra | นิทานสนุก | ประวัติ 16 ตอนจากนสพ.ดี |
ประเด็นกู้เงิน 2ลล. และแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เข้าสภาแล้ว | |
ผ่านแล้ว 2 ลล. ขณะนี้กำลังอภิปราย การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชวนก็พูดกับเขาด้วย แล้วยังพูดด้วยว่า ผมไม่เคยโกหก ตรงนี้ต่างหากที่ทำเสียเครดิตถ์นายชวน หลีกภัย นอกจากนั้นนายสุกิจ สส.ปชป.ยังประกาศว่า จ่าประสิทธิ์ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ฐานที่ไปตอบโต้แย้งนายชวน นายสุกิจว่า"จ่าประสิทธิ์กล่าวหาว่าผู้หลักผู้ใหญ่ของผมพูดเท็จ ท่านชวนไม่เคยพูดเท็จ" ....... ให้จ่าประสิทธิ์ ถอนคำพูด จ่าประสิทธิ์ว่า "เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชน เพื่อให้ประชาธิปไตยเดินไปได้ ต้องถอนครับ" ดี จ่าประสิทธิ์ตอบดีมาก เรียกว่ามียุทธศาสตร์และยุทธวิธี ขอสนับสนุน
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ประชา ไทยเสรีชน :: วันที่ลงประกาศ 2013-04-01 20:03:08 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3362649) | |
ผู้หลักผู้ใหญ่ของคุณก็คือต้นตำหรับ พูดเอาดีเข้าตัวเ อาชั่วเข้าคนอื่น นั่นไง ใคร ๆ ก็รู้ แล้วมาโกหกต่อว่าตัวเองไม่เคยโกหก
ผมจะบอกคุณชวนให้ ที่คุณกล่าวหาชาวอีสานทุกครั้งที่ผ่านการเลือกตั้งว่า เอาเงินซื้อเสียง เอาเงินซื้อชาวอีสานนั้น ๆ แหละคุณโกหก และดูหมิ่นชาวอีสาน อีสานจึงเกลียดคนอย่างนายชวนเข้าใส้ .......... คนอะไรหน้าตาซื่อ ๆ ซือบือ แต่โกหกได้ลึกซึ้ง ............... แล้วแถมดูแคลนประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เท่ากับเนรคุณผู้มีพระคุณต่อประชาธิปไตยของไทยเรา
ก็เหมือนนายเอกณัฐ นะครับ สส.กทม.ปชป. แกพูดว่าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าแก้รัฐธรรมนูญ 2550 ไปทำไม ......... ก็เขาซือบือ ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยเสียเลย นั่นเอง .......... เป้นเช่นนี้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจอะไร ต้องค่อย ๆ เบิกดวงตาของพรรคนี้ให้ค่อยเข้าใจประชาธิปไตยไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งก็คงเห็นแจ้งในประชาธิปไตย
ขณะนี้พรรคปชป.นี่แหละที่ต่อต้านทุกอย่าง โดยค้านทุกอย่างที่รัฐบาลประชาธิปไตยขยับจะทำความดี .จึงเป็นพวกมืด ฝ่ายมืด แต่โดยหลักประชาธิปไตย ยังไง ๆ ฝ่ายประชาธิปไตยก็ได้เปรียบ เพราะคุมเสียงประชาชนส่วนข้างมากไว้ได้ โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนส่วนข้างมาก .......... เพียงแต่ดำเนินยุทธศาสตร์และยุทธวิธีให้แนบเนียน พอผ่อนให้เขาบ้างก็ผ่อนไป..........อย่างจ่าประสิทธิ์ทำนั่นแหละครับ ดีแล้ว พอผ่อนก็ผ่อน เพื่อหวังผลต่อเป้าหมายจริง สร้างเป้าหมายลวงหลอกให้ตาม.... ทำให้แนบเนียนก็แล้วกัน และผมขอบอกว่าอย่าไปอ่อนข้อให้ ปชป.ในประเด็นที่เราต้องการ ผมเองในที่นี้จะพาชมวาทะของปชป. ที่เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น ต่อไป
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรี วันที่ตอบ 2013-04-01 20:19:36 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3362698) | |
สส.ยะลา ปชป. ขอพูดจนได้ .......... ไม่ยอมนั่ง ไม่ยอมลดราวาศอกกับประธานสภาเลย ประธานฯรำคาญก็อนุญาตให้พูด พอได้พูด ก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แบบชาวบ้านก็ว่า มึงพูดอะไรกูไม่รู้เรื่องเลย นึกว่าสำคัญอะไรนักหนา ก็เปล่า ....... จริงครับ แกท้าวความไปถึงสส.ใต้ คงมุสลิมด้วยกันคนหนึ่งที่ขอสงวนสิทธิ์เมื่อวานนี้ ....................คล้ายจะว่าสส.คนนั้นทำถูกควรสรรเสริญแต่ประธานไม่สรรเสริญอะไรทำนองนี้นี่แหละ คือเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ไปทาวใยกลับมา และใช่ว่าเป็นเรื่องเป็นราวอะไรก็เปล่า ? ................นี่แหละโง่ในเรื่องประชาธิปไตยก็ไปนอกทางประชาธิปไตยอย่างนี้แหละ เราต้องอดทนสักหน่อย ค่อย ๆ อบรมไป........จนกว่า%ปชป.ประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรีชน วันที่ตอบ 2013-04-02 10:28:32 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3362703) | |
พวกมุสลิมไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยหรอกครับ ...........สส.มุสลิมประชาธิปัตย์ ก็โง่ดับเบิ้นไปเลย ..................
เพราะมุสลิมไม่นับถือรัฐธรรมนูญ ....................... ทั่วโลกประชาธิปไตยเขานับถือว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่มุสลิมโดยเฉพาะประเทศมุสลิม เขาให้เป็นลำดับที่ 2 ยังไม่สูงสุด สูงสุดคือ อัลกุระอาน ................ ก็กลายเป็นแบ่งมุสลิมออกเป็น 2 พวก พวกโดยรัฐธรรมนูญพวกหนึ่ง พวกโดยอัลกุรอานพวกหนึ่ง ขัดแย้งกัน แล้วก็ไม่มีทางออกนอกจากฆ่ากัน
กำลังพูดแบบไม่รู้เรื่องประชาธิไตยอีกคนหนึ่ง คือ รสนา โตสิตระกูล สว.พวก 40 พวกลากตั้งนั่นแหละครับ
แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปสู่อำนาจผูกขาดทางการเมืองใช่หรือไม่ ?
แกไม่เข้าใจหรอกไม่ว่าจะตอบอย่างไร ..................
ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นประชาธิปไตยไปแย้งแกว่า ไม่ใช่ผูกขาด .............เถียงแกไป แกก็ไม่ยอมรับ........ นี่แหละครับคนเราพูดกับพวกเผด็จการยาก ไม่เข้าใจหรอก.......... มันขั้วสว่าง กับขั้วมืด
ดีที่แกพูดไม่นานนัก ก็จบ เกือบมีผู้ประท้วงพอดี ประธานห้ามไว้ว่าเดี๋ยวก็จบแล้ว.............ยายรสนา แกตกใจจะโดนประท้วงก็เลยรีบจบลงไป
เขาให้พรรครัฐบาลพูด 7 นาทีมั้ง ฝ่ายค้านให้พูด 25 นาที ขณะนี้พท.พูดอยู่ มีมาตรา..... มีคำว่าและ และคำว่าหรือหลายคำ ระวัง ปชป.จะฟังไม่เข้าใจนะครับ ขนาดอาจารย์เขาในศาลรัฐธรรมนูญยังฟังไม่รู้เรื่องเลย .............คำว่า.. และ.....หรือ น่ะครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรีชน วันที่ตอบ 2013-04-02 10:48:33 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3362708) | |
รสนา โตสิตระกูล แกยังไม่ได้ระดับความหนาอย่างประชาธิปัตย์ครับ ......... เช่นสาธิต ปิตุเดชะ สส ปชป. ลุกประท้วง สว.ประเสริฐ ที่สนับสนุน พท. โดยหาว่าพูดนอกประเด็น ทั้ง ๆ ที่สว.ท่านอบรมสั่งสอนให้มีความปรองดองสามัคคีกัน แบบจีน แบบสิงคโปร์ ฯลฯ .....................ตามหน้าที่ของท่าน คือ สมาชิกวุฒิสภา คำว่าวุฒิสมาชิก ภาษาไทยมันบอกหน้าที่อะไรพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่รู้เรื่องอีก ............... พอทำผิดทำพลาดไป บ่อย ๆ เข้า ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องใช้ อย่างหนา ....แล้วกลายเป็นสันดารชั่วร้ายไม่สร้างสรรค์ เสียเด็กไป.....แก้ยาก
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-04-02 11:04:10 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3362710) | |
สว.อีกท่านหนึ่งก็อบรมดี ยกตัวอย่างองคุลีมาลย์ ได้ฟังพระพุทธองค์ตรัสว่า เราหยุดแล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่หยุด คราวนี้ประชาธิปัตย์ไม่ประท้วง คงซึ้งเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนี้คงแก้ไขได้สะดวกแน่นอน และโปรดทราบว่า เราจะต้องแก้รัฐธรรมนูญไปเรื่อย ๆ ไปจนกว่าจะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สถาวร ผดุงสิทธิ์ วันที่ตอบ 2013-04-02 11:08:12 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3362711) | |
คงไม่มีอันธพาลลุกไปห้อมล้อมดึงมือประธานสภาให้ลุกจากเก้าอี้ ไม่มีอันธพาลขว้างแฟ้มตราช้างใส่ประธานสภา ไม่มีบีบคอสส.พท.เกือบตายเพราะหายใจไม่ออก(มีเจตนาฆ่า?) ต้องคอยดูนางรังสิมา รอดรัศมีเหมือนกัน ดูว่าวางแผนก่อกวนอะไรไว้หรือเปล่า .......นางนี่เป้นสส.ได้อย่างไรไม่เข้าใจ คอยดูวรงค์ เดชกิจวิกรมด้วยนะ..... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-02 11:13:51 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3362713) | |
วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย พท. ขอเวลาพูด 10 นาที เพื่อให้จบประเด็น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-02 11:17:17 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3363051) | |
เอาเข้าแล้ว ตลก รธน. 3 ใน 2 คน รับเรื่องไว้แล้ว นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวหาว่า คน 312 คน สส.สว. กำลังจะล้มล้างระบอบการปกครอง ตาม ม.68 อีกแล้ว
อาจจะยุบพรรค
เป็นเรื่องที่น่าคั่งแค้นใจสำหรับฝ่ายประชาชน
จารึกนายสมชาย แสวงการเอาไว้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-05 23:26:03 |
ความคิดเห็นที่ 9 (3363099) | |
ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร? นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กับพวก ได้เสนอศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่ามีบุคคลจำนวนหนึ่งกำลังกระทำความผิดคิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 และศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบเพื่อวินิจฉัยสั่งการแล้ว ด้วยมติ 3 : 2 บุคคลที่นายสมชาย แสวงการ กับพวกกล่าวหาว่ากระทำผิดร้ายแรงดังกล่าวนั้นก็คือ สมาชิกรัฐสภาจำนวน 312 คน ผู้กำลังทำการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญและได้ผ่านวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 นี่เอง และฝ่ายค้านที่ได้ทำการก่อกวนเป้นอันธพาลของประชาธิปไตยไทยสู้ทางรัฐสภาไม่ได้ จึงยื่นเรื่องไปทางศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ้างมาตรา 68 รธน.2550 แต่มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ได้ให้อำนาจแด่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะรับคำร้องไว้หรือไม่ ไม่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสิทธิและอำนาจที่จะรับเรื่องร้องเรียนไว้ได้ นี่เป็นการละเมิดอำนาจรัฐธรรนูญมาตรา 68 เป็นครั้งที่ 2 เราจึงทวงถาม ณ ที่นี้ว่า ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร ?
โดยหลักการประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญุทุกฉบับของประเทศไทย ล้วนรับรองว่าประเทศไทยจะต้องมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ทุกฉบับ นับแต่รัฐธรรมนูญฉบับแรก ๆ ที่กำหนดไว้ในมาตรา 1 ว่า อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย............ นี่คือความหมายของประชาธิปไตย มันถูกรับรองด้วยข้อความคล้าย ๆ กันนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับ รวมทั้งระบบการแยกอำนาจ ......ฯลฯ อันยืนยันว่าประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย .............
นั่นหมายถึงรัฐธรรมนูญเขียนขึ้นเพื่อให้ประชาชนไทยทั้งปวงอ่านเข้าใจ ไปตามภาษาไทยเพื่อให้รู้ชัดตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของตนอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 ได้เขียนเอาไว้ด้วยภาษาไทย เพื่อให้ประชาชนไทยตระหนักในเงื่อนไขของกฎหมาย อย่างถูกต้องตรงกันทั้งประเทศ อันเป้นเจตนารมณ์ของกฎหมายของประชาชนเพื่อประชาชนและโดยประชาชน แต่ปรากฎว่าศาลรัฐธรรมนูญเองได้ละเมิดมาตรา 68 มาแล้วครั้งหนึ่ง ในเรื่องราวที่ร้ายแรงมากนี้ ด้วยการรับเรื่องราวโดยตนไม่มีอำนาจที่จะรับ และบัดนี้ได้กระทำความผิดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยรับเรื่องราวที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กับพวก โดยอ้างมาตรา 68 เราจึงทวงถามซ้ำอีกครั้งว่า ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร ? มีข้อความตรงไหนที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญไว้ในมาตรา 68 มาอ่านดูครับ อ่านภาษาไทย มาตรา 68 บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้ ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำดังกล่าว ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้พรรคการเมืองใดเลิกกระทำการตามวรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองตามวรรคสาม ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบในขณะที่กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งดังกล่าว
คำถาม ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 68 ศาลรัฐธรรมนูญมีสิทธิและอำนาจในการรับเรื่องเสนอเพื่อวินิจฉัยสั่งการต่อไปได้หรือไม่? ดูตรงไหนที่มีข้อความให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ สามารถกระทำการได้ดังกล่าว มีข้อความไหนครับ ? ในวรรคสองหรือ ? วรรคสองเขียนเอาไว้อย่างไร ? เขียนเอาไว้อย่างนี้.........<<<< ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำดังกล่าว >>>> ไม่มี แล้วมีข้อความไหนที่ให้อำนาจท่านไว้ ............. อ่านไทย.......อ่านพบมีแต่คำว่า อัยการสูงสุด กับคำว่า และ โดยข้อความว่า.....>>>>....ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว <<<<....
ฉะนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ โดย ตลก.รธน.3 ใน 5 มีมติรับเรื่องเอาไว้วินิจฉัยต่อไป จึงเป็นการกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ อันเป็นกฎหมายสูงสุดในระบอบประชาธิปไตย ..... เป็นครั้งที่ 2 โดยหลักประชาธิปไตย กฎหมายย่อมเป็นของประชาชน ประชาชนย่อมตรวจตรา มีสิทธิในการดูแลตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างสอดคล้องความต้องการของประชาชน โดยถูกต้องตามเจตนารมณ์ของประชาชน โดยจะต้องมีความเป็นธรรม ตามระบบสังคม และตามหลักกฎหมายเอง ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ อันเป็นเจ้าหน้าที่เอง กระทำความผิดเองอย่างยิ่งใหญ่และซึ่งหน้าเช่นนี้ สมควรจะได้รับการลงโทษอย่างไร ? ........ จากศาลของประชาชน................หรือจากประชาชนโดยตรง อันเป็นสิทธิพื้นฐานตามหลักการประชาธิปไตย นั่นคือ >>>> มาตรา 1 อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย <<<<
ประเด็นที่ 2 การมองประเด็นปัญหานี้ เพื่อความเป็นธรรม ก็ต้องมองในองค์รวมทั้งหมดของระบอบ ปัจจุบันนี้โดยรัฐธรรมนูญไทยทั้ง 18 ฉบับ ล้วนบ่งบอกเจตนารมณ์ว่าต้องการให้ประเทศไทยนำระบอบประชาธิปไตยมาใช้ปกครองประเทศ ไม่มีการหวลย้อนหลัง เพื่อกลับไปสู่ระบอบเก่าก่อนอีกแล้ว เพราะเหตผลของยุคสมัยและองค์รวมของโลกมนุษย์ สำหรับแนวคิดประชาธิปไตยไทยขณะนี้ มีเรื่องที่ควรมองอยู่ดังนี้คือ 1. เรื่องอำนาจการปกครอง ท่านจะเห็นว่าประชาชนโดยขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย(หรือคนเสื้อแดง)ได้เติบโตออกไปมาก ๆ และจะเติบโตต่อไปอีกไม่หยุดหย่อน โดยไม่มีอำนาจใดใดจะระงับยับยั้งได้อีกต่อไป เหตุผลก็คือ พวกเขาได้มาลิ้มรสของอำนาจเข้าแล้ว และรสของอำนาจเป็นรสที่เอร็ดอร่อย อันนี้ตรงหลักสัจธรรมในพระพุทธศาสนาที่ว่า วโส อิสสริยัง โลเก อำนาจเป็นใหญ่ในโลก คนจึงมักหลงอำนาจเสมอ ๆ เพราะหลงด้วยรสอำนาจนี่เอง เมื่อประชาชนคนธรรมดา ๆ มาระลึกและได้ลิ้มรสอำนาจเข้าไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีวันที่จะคาย มีแต่จะแสวงหาอำนาจของประชาชนเรื่อยไป (เช่นสามล้อคนหนึ่ง มีความเหลิงในอำนาจของตนที่บังอาจจะด่าทอเผด็จการอมาตย์ได้อย่างไม่เกรงกลัวใครในแผ่นดินในยุคนี้ พวกเขาได้อำนาจแล้วก็ติดใจในอำนาจการเป็นประชาชนธรรมดาของพวกเขา ไม่ยอมคายแน่นอน) แต่เรานำเอากฎกติกาประชาธิปไตยมาใช้ผนวกกับหลักธรรมของพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนประจำชาติไทย จึงเป็นที่หวังได้ว่าประชาธิปไตยไทยจะเจริญไปอย่างดีและเป็นแบบอย่างของการต่อสู้โดยวิถีทางประชาธิปไตยได้ในโลกนี้ 2. อำนาจทางการบริหาร และนิติบัญญัติ บัดนี้เป็นของประชาชนแล้ว แม้จะยังไม่อยู่ในระบบที่สมบูรณ์ แต่การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นแหละจะนำมาซึ่งระบบอันสมบูรณ์ต่อไป แนวทาวงพัฒนาประชาธิปไตยจึงต้องเป็นไปแบบนี้ แต่เรายังมีอำนาจหนึ่งที่เป็นอำนาจไร้ที่มาอันไม่สอดคล้องหลักประชาธิปไตย ที่เห็นง่าย ๆ ก็องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2550 นี่เอง ที่มีสถานะของตนอย่างลักลั่นกัน อย่างไม่สอดคล้องหลักความยุติธรรมอยู่แล้ว มีบางคนไม่ได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง กับมีบางคนได้ทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง มีความลักลั่นเช่นนี้แล้วตัวองค์กรเองยังไม่มีความขวนขวายที่จะแก้ไขระบบขององค์กรตนเองให้ดีขึ้นเป็นมาตรฐานสากลขึ้น แต่ที่สำคัญก็คือ ที่มาขององค์กร ที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร นั่นคือผู้ที่แต่งตั้งองค์กรนี้มาจาก สนธิ บุญรัตนกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ 2549 สนธิ บุญรัตกลินเป็นใคร เป็นอรหันต์หรือ ไม่ แต่เป็นมุสลิมชั่วร้ายคนหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านจะเห็นว่านี่คือที่มาอันไม่ชอบตามหลักการประชาธิปไตย และโดยสามัญสำนึกของความเป็นธรรม คนเก้าคนที่มาจากมุสลิมชั่วร้ายคนเดียว มีอำนาจอันชอบธรรมอย่างไรสามารถยุบพรรคการเมืองของประชาชน ที่มาอย่างชอบธรรมถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตยแล้ว ที่มีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้ โดยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทย พลังประชาชน เป็นต้น แล้วยังสามารถที่จะเลือกไม่ยุบพรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนอยู่ได้อีกด้วย(โดยแค่ออกคำพูดว่า หมดอายุความ 15 วัน อันเป็นการดูหมิ่นดูแคลนประชาชนทั้งชาติ) และสามารถอย่างชอบธรรมอย่างไรในการตัดสินขับไล่นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน(เพียงเพราะทำรายการอาหารในโทรทัศน์เท่านั้นเอง) ซึ่งได้ปรากฎว่านายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ได้ออกมาสารภาพว่าที่ตัดสินนายสมัครนั้นเป้นการผิดพลาด นั่นก็ดีแล้ว ซึ่งต่อไปท่านต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบในผลงานที่ผิดพลาดนั้น(จะอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร ตามหลักกฎหมายและหลักกรรมในพระพุทธศาสนา ทำกรรมใดใดไว้ตนเองต้องรับผลของกรรมนั้น.....คุณวสันต์ ลองอ่านบทสวดนี้ดู.... กัมมัสโกมหิ เรามีกรรมเป็นของตัว, กัมมะทายาโท มีกรรมเป็นผู้นำมามอบให้, กัมมะโยนิ มีกรรมเป็นผู้นำมาเกิด, กัมมะพันธุ มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์และพวกพ้อง, กัมมะปะฏิสะระโณ มีกรรมเป็นเครื่องยุยงเป็นเครื่องระลึก, ยัง กัมมัง กะริสสามิ เราจะทำกรรมอันใดไว้, กัลยาณังวา ดีก็ตาม, ปาปะกังวา ชั่วก็ตาม, ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ เราจะต้องเป้นผู้รับผลของกรรมนั้น....... ไม่มีใครรอดจากกรรมได้ ประชาธิปไตยก็เช่นกัน การเจริญก้าวหน้าในประชาธิปไตย หลักกฎหมายจะต้องศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีใครรอดจากการกระทำผิดไปได้ ) 3. ประชาธิปไตยไม่ได้สร้างขึ้นในวันเดียว ยังมีสิ่งที่จะต้องทำอีกมากมายเพื่อให้ประชาธิปไตยไทยเติบโต ไปจนถึงระดับที่มั่นคงและก้าวหน้า ในระยะปัจจุบัน เราจงมาร่วมมือกันให้ได้มาตรฐานชั้นปกติเสียก่อน นั่นคือ การเมืองประชาธิปไตยต้องแก้ด้วยการเมืองระบอบประชาธิปไตย นับแต่นี้ไปจะต้องไม่มีรัฐประหาร ไม่มีการยุบพรรคการเมือง ไม่มีการก้าวก่ายอำนาจระหว่างตุลาการไปก้าวก่ายบริหารหรือนิติบัญญัติ อย่างที่ท่านทำอยู่ขณะนี้นั่นเอง จะต้องไม่มีขึ้นอีก ........จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหลายครั้งจนกว่าจะเป็นที่พอใจของประชาชน....ซึ่งสิ่งนี้ทุกฝ่ายจะต้องเข้าใจตรงกันว่าเป็นสิทธิโดยตรงโดยปกติของประชาธิปไตยอยู่แล้ว.... จนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ...... ในระยะต่อไป ประชาชนต้องเติบใหญ่ ประชาชนต้องยืนบนขาตัวเองให้ได้ ปราศจากระบบทาส ฉะนั้น ประเทศไทยจึงต้องรีบเร่งพัฒนาอย่างที่รัฐบาลประชาชนเขาพยายามทำอยู่ ถือว่าเป็นมาตรการยกระดับประชาชนให้ยืนได้อย่างมั่นคง ถ้าเรารักประชาธิปไตย เราต้องพัฒนาไปอีกหลายก้าวใหญ่ ๆ โดยเฉพาะนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่เพิ่งผ่านสภาไปคือ โครงการลงทุนคมนาคม 2 ลล. บาทนั่นเป็นตัวอย่าง ประเด็นที่ 3 ยกประโยชน์ให้แก่จำเลย ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆิน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2013-04-06 20:31:23 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3363550) | |
ดีครับกู้มา 2ล้านล้าน มาทำรถไฟหัวจรวด ผมชอบ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2013-04-12 01:00:32 |
ความคิดเห็นที่ 11 (3363551) | |
ดร.ฆิกเมฆ พูดถูกจริง ๆ
ตลก.แก้กฎหมาย รธน. ม.68 วรรค 2 เองตามใจ โดยไม่มีอำนาจที่จะแก้ไข ............ แบบเผด็จการนึกจะแก้ก็แก้เอง นึกจะตีความเข้าข้างตนเองโดยมองข้ามหัวประชาชนไปหมด ก็ตีความเอาตามใจ ......... นี่คือการกระทำผิดกฎหมายครับ ต้องได้รับการชำระโทษ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ประชา ไทยเสรีชน วันที่ตอบ 2013-04-12 01:04:24 |
ความคิดเห็นที่ 12 (3363585) | |
ศาลรัฐธรรมนูญทำผิดกฎหมายเสียเอง เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ประชาชนต้องเอาเรื่อง เอามาลงโทษตามกฎหมายให้ได้เพื่อป้องกันมิให้ตุลาการใช้อำนาจไปในทางฉ้อฉล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-04-12 20:05:54 |
ความคิดเห็นที่ 13 (3363586) | |
ในสภาคราวนี้ มีนายวัชระ เพชรทอง สส.ปชป. คน ๆ นี้เคยแสดงความอหังการ ในสภาจนถูกตำรวจสภาหามออกไปนอกสภามาแล้ว พร้อม ๆ กับคราวนางรังสิมา รอดรัศมี ก็โดนเช่นกัน .............. ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากใช้ทฤษฎีหน้าด้าน กลบเกลื่อนความรู้สึกของตนเอง กลบเกลื่อนความขายหน้า น่าอับอายประชาชนทั่วประเทศของตน ..............เคยคิดว่าคนเช่นนี้เขาเป็นคนอย่างไร ..................ในด้านจิตวิทยา มาดูวันนี้ เขาลุกขึ้นพูดตอบโต้ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ในสภา เขาไม่ได้พูดประเด็น แต่พูดส่อเสียด อันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องในสภาที่สูงส่งว่า..... ณัฐวุฒิชั่วจนกระทั่งไปแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีไปจากพี่ชายคือจตุพร พรหมพันธ์ ..... ได้ตำแหน่งจากเขาแล้วยังไม่รำลึกบุญคุณเขาอีก...................... นี่ก็เป็นข้อมูลทางวาทะ ที่อาจจะแสดงว่าคน เช่นนายวัชระ เพชรทองเป็นคนอย่างไร ?
นี่คือคนอันตรายครับ เพราะ นี่คือการแสดงออกซึ่งความอิจฉาริษยา ........... จึงพอเชื่อได้ว่า ในใจของคนประเภทนี้เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ............... มีศาสนภาษิตของพุทธศาสนากล่าวเอาไว้ถึงโทษความอิจฉาริษยาว่า อรติ โลกนาสิกา ความอิจฉาริษยาเป็นเหตุทำลายโลก (คงไม่ต้องอธิบายนะครับ เพราะมีตัวอย่างคือการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ค้านทุกอย่าง เป็นอันธพาลทางระบอบประชาธิปไตยอยู่ขณะนี้ นี่แหละลักษณะของความอิจฉาริษยา....คือเห็นคนอื่นดีเกินตัวเองไปไม่ได้ ปากสั่น ตัวสั่น ใจรุ่มร้อนทนอยู่ไม่ได้) คนพวกนี้ก็คงได้ยินมา เพราะมีสอนกันตั้งแต่ระดับมัธยม ในขณะที่ชาวพุทธทั่วไปเขาจะรู้และปฏิบัติดีกันทั่วประเทศ อันตรายครับ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเอาทรวงอกฝังความอิจฉาริษยาเอาไว้ทั่วทุกตัวตนเช่นนี้(ที่ถูกก็อันตรายมาแล้วและอันตรายอยู่ขณะนี้แหละ) ดูนายชวน หลีกภัย ก็ได้ หน้าตาซื่อ ๆ แต่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ซ่อนลึกซึ้งภายใน ก็เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีน่ะซีครับ ลูกน้องถึงประพฤติตามกันไป ยิ่งนายอภิสิทธิ์ เดิมชื่อว่าหล่อใหญ่ มาเจอคนสวยอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าก็ยิ่งอิจฉาตาร้อนใหญ่เลย กลั้นไม่ไหวก็ออกมาทางคำพูด วจิกรรม กายกรรม มโนกรรมครบถ้วนนี่แหละครับ และใช้ทฤษฎีหน้าด้านเข้ากลบเกลื่อนเสมือนว่าตนเป็นสุภาพบุรุษ ........ มันซ่อนไม่มิดหรอกครับ คนเห็นอาการอยู่ทุกวัน ๆ
น่าอับอายครับ เลิกความประพฤตินี้เสียเถิด ขนาดประเทศอื่นเขาไม่ใช่ประเทศพุทธศาสนาอย่างเรา คือ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่ง หรือประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย เขาก็ยังรู้โดยธรรมชาติของประชาธิปไตยว่า การอิจฉาริษยานั้นเป็นสิ่งที่เลวทรามไม่สร้างสรรค์และเป็นเครื่องทำลายทุกอย่าง .......... เราเป็นชาวพุทธ ทรงสอนวิธีแก้คือ 1...จงแสดงความยินดีกับเขาเมื่อเขาได้ดี เช่นเขาย่อมจับมือเมื่อฟุตบอลจบลงแล้ว เขาย่อมโทรศัพท์แสดงสปิริตเมื่อทราบผลการเลือกตั้ง (เขารู้ธรรมะข้อนี้มาจากไหน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ใช่ชาวพุทธอย่างคุณ) ........... คุณเป็นชาวพุทธแท้ ๆ ถ้าไม่ยอมแสดงความยินดี ก็สมควรถูกไล่ออกจากชาวพุทธ (ภาษาศาสนาสากลว่า คว่ำบาตร ไม่รู้รึ?) ห้ามเข้าวัดเข้าวา ตายแล้วเอาศพไปไหนก็ได้เว้นแต่เข้าวัด 2. คุณพยายามทำดีอย่างที่เขาทำดีมา พยายามให้มากกว่าเขา ............ นี่เป็นวิธีที่ชอบธรรมที่สุด ในการแก้ไขปัญหาด้านจิตใจที่เป็นโรคอิจฉาริษยา(พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้....ไม่ใช่ผมเอง) เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ และเพื่อความสุขกายสบายใจของคุณบ้าง อกจะได้ไม่ระเบิด จงเลิกอธรรมข้อนี้เสียเถิด.......อรติ โลกนาสิกา ความอิจฉาริษยาเป็นเหตุทำลายโลก...............คนที่อกรุ่มร้อนด้วยความอิจฉาริษยาไม่มีความสุขเลยครับ เชื่อพระพุทธองค์เถิด......พิศูจน์ด้วยตนเองก็ชัดอยู่แล้ว....
สำหรับนายวัชระ เพชรทอง คงคาดคะเนณัฐวุฒิ จตุพร ผิด เพราะเขาไม่เลวอย่างคุณนี่ เขาไม่มีอิจฉาริษยากันหรอก คุณจะเอาความรู้สึกคุณมาประเมินคนอื่นเขาไม่ได้ พูดไปแล้วคนก็หัวเราะเยาะกันทั้งประเทศ ไม่รู้ตัวอีก...
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุพร อ่อนราย วันที่ตอบ 2013-04-12 20:26:32 |
ความคิดเห็นที่ 14 (3363588) | |
เมื่อเรารู้ความจริงนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยก็ควรสร้างสรรค์ยุทธศาสตร์เพื่อเอาชนะได้ง่ายนะครับ
โดยปล่อยให้พวกอันธพาลประชาธิปัตย์ กับพรรคพวก มีศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ให้มันกระอักอยู่ภายในต่อไป จนกว่าระเบิดออกมาตายเอง ...............
ถูกต้องไหมครับ
เรากระตุ้นให้ด้วยก็ได้ แหย่ซ้าย แหย่ขวา ให้มันโกรธ ...... ถูกต้องไหมครับ ? | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดง ดำรงวธรรม วันที่ตอบ 2013-04-12 20:42:28 |
ความคิดเห็นที่ 15 (3363589) | |
ถูกต้องครับ เหมือนขงเบ้งจัดการจิวยี่ จนกระอักเลือดตาย...........เอง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุพร อ่อนราย วันที่ตอบ 2013-04-12 20:51:37 |
ความคิดเห็นที่ 16 (3363591) | |
อย่างเจ๊กลิ้มนี่ จำลองหรือมหาห้าขันนี่ ยิ่งเห้นชัดนะ อกร้อนรุ่มอยู่ตลอดด้วยความอิจฉาริษยา
เจ๊กลิ้มนี่อิจฉาแม้กระทั่งพรรคพวกตัวเอง ........ พอประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล เจ๊กลิ้มนี่แหละทนไม่ได้มาเปิดเผยความชั่วของพรรคประชาธิปัตย์ ..... ไอ้นี่เมื่อไรจะเข้าคุกเสียที .... ให้ไปกระอักเลือดตายในคุกแบบจิวยี่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แดง ดำรงวธรรม วันที่ตอบ 2013-04-12 20:57:42 |
ความคิดเห็นที่ 17 (3380027) | |
แล้วมหา 5 ขันแกไปเสนอตั้งสภาประชาชนหนอย โดยอ้างว่าสภาที่มีอยู่ในปัจจุบันมีปัญหา ก็สภาที่มีอยู่นี่แหละของประชาชน มาจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แกไปเอาประชาชนที่ไหนมาอ้าง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-11-14 17:43:25 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 115794 |