ReadyPlanet.com


การสร้างสงครามแห่งความเชื่อ


 ไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่่อนักศึกษาย่านหัวหมากจำนวนหนึ่ง เมื่อเห็นคนใส่เสื้อสีแดงจึงเกิดอาการคุ้มคลั่ง เข้าไปทุบตีไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง คนแก่ ขนาดอยู่ในรถเมล์ รถแท็กซี่ก็ทุบเอาเป็นเอาตาย เชื่อได้ว่าหากคนกลุ่มนี้ขึ้นไปบนรถได้ คนที่นั่งอยู่ในรถคงไม่รอด ใครกันที่ก่สงครามสีเสื้อเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือการกระทำของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีเกียรติซึ่งในอดีตเคยต่อสู่เพื่อประชาธิปไตย มาวันนี้กำลังนิยมลัทธิเผด็จการ และยิ่งตอกย้ำความคิดเผด็จการดูถูกชนชั้นว่าชีวิตคนเสื้อแดงไม่มีคุณค่าผ่านความคิดของอธิการบดีเมื่อมาออกรายการโทรทัศน์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามแห่งความเชื่อ



ผู้ตั้งกระทู้ กระจกเงา :: วันที่ลงประกาศ 2013-12-04 11:44:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3381692)

135 คณาจารย์ ชี้ 4 ข้อ ปัญหาท่าทีที่ประชุมอธิการบดี

 
5 ธ.ค.2556 คณาจารย์ 135 คน ร่วมลงนามใน ‘จดหมายเปิดผนึกจากคณาจารย์กลุ่มหนึ่งต่อท่าทีของที่ประชุมอธิการบดีในสถานการณ์วิกฤติการเมือง’ ไม่เห็นด้วยต่อการแสดงท่าทีของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในสถานการณ์วิกฤติการเมืองปัจจุบัน โดยระบุไม่ได้สะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาคมทางวิชาการของประเทศ และไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาว
จดหมายเปิดผนึกจากคณาจารย์กลุ่มหนึ่งต่อท่าทีของที่ประชุมอธิการบดีในสถานการณ์วิกฤติการเมือง
 
เรียนที่ประชุมอธิการบดี
 
ข้าพเจ้าผู้มีรายนามดังต่อไปนี้ มีความเห็นว่าท่าทีของที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.)
ในสถานการณ์วิกฤติการเมืองในห้วงเวลานี้ไม่ได้สะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาคมทางวิชาการของประเทศ และไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาว ด้วยเหตุผลสี่ประการ
 
1. ในการประชุมและการแถลงท่าทีของ ทปอ.ต่อสถานการณ์ทางการเมือง ทปอ.ได้จัดการประชุมกันเอง โดยไม่ได้จัดรับฟังความเห็นและข้อถกเถียงจากประชาคมมหาวิทยาลัยของตนเองเลย การบริหารของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้นมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ซับซ้อนและคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะหลักการมีส่วนร่วมและพร้อมรับผิดชอบ (accountability) มิได้ปล่อยให้อธิการบดีเอาความเป็นสถาบัน และภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยออกไปใช้ในทางการเมืองโดยไม่ฟังเสียงประชาคมของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และ นิสิตนักศึกษา
 
2. การนำเสนอความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองของ ทปอ.ในระยะที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนำเสนอทางออกต่อวิกฤติทางการเมืองโดยการนำเสนอเรื่องของรัฐบาลรักษาการที่เป็นกลาง มีแนวโน้มที่จะขัดต่อหลักการและเจตจำนงของรัฐธรรมนูญเนื่องจากขาดการยึดโยงกับหลักการประชาธิปไตย ที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นหลักของความเป็นตัวแทนจากการเลือกตั้งและเสียงข้างมาก อีกทั้งยังขัดต่อหลักนิติธรรมเองในแง่ของความถูกต้องทางกฎหมายและตามขั้นตอนของกฎหมาย การนำเสนอความเห็นจากที่ประชุมอธิการบดีไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะผดุงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง กลับเปิดทางให้เกิดการตีความที่คลุมเครือและสุ่มเสี่ยงทีจะเกี่ยวพันกับเงื่อนไขนอกวิถีทางของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
 
3. ข้อเสนอของ ทปอ.ที่ผ่านมา ส่งผลต่อประโยชน์และความได้เปรียบทางการเมืองของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่างชัดเจน ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้คือ นอกจากนำเอามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันสาธารณะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองแล้ว ทปอ. ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่มีกฎหมายรองรับ ยังไม่ได้ปกป้องการทำหน้าที่หลักของมหาวิทยาลัย นั่นคือการให้บริการการเรียนการสอนต่อนิสิตนักศึกษาของตน เมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมืองจนถึงขั้นที่มีแนวโน้มหรือมีการใช้ความรุนแรงบนท้องถนน ผู้บริหารสถาบันการศึกษาและที่ประชุม ทปอ.ควรแถลงเรียกร้องให้กลุ่มต่างๆ จำกัดพื้นที่ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยของประชาคมมหาวิทยาลัย เพื่อให้ทำการเรียนการสอนดำเนินได้อย่างปกติ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรยืนหยัดต่อเจตนารมณ์ดังกล่าว และเตือนสติขั้วขัดแย้งทางการเมืองให้ตระหนักถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสังคมเป็นสำคัญ การประกาศงดการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัยต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนั้นเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่ก็ต้องตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมาว่าการประกาศงดการเรียนการสอนในบางกรณีนั้นอาจกลายเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มได้เช่นกัน
 
4. ทปอ. ต้องเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองและช่วยนำพาสังคมข้ามพ้นจากวิกฤติทางการเมืองในระยะยาว ซึ่งหมายความว่ามหาวิทยาลัยจะต้องคำนึงถึงความหลากหลายของความคิดเห็นและเสรีภาพทางวิชาการของประชาคมของตน และของสังคมโดยรวม การที่ทปอ.นำมหาวิทยาลัยไปผูกอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของผู้บริหารมหาวิทยาลัยบางคน จึงเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างบรรยากาศที่เชิดชูเสรีภาพและความหลากหลายทางความคิด และความอดทนอดกลั้นของประชาคมมหาวิทยาลัยและผู้คนในสังคม อันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำพาสังคมข้ามพ้นจากความขัดแย้งทางการเมืองเฉพาะหน้า และจะทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันสาธารณะที่รับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว

จากหนังสือพิมพ์ประชาไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น วิญญูชน วันที่ตอบ 2013-12-06 14:10:18


ความคิดเห็นที่ 2 (3381695)

ชื่นชมอาจารย์ทั้ง 135 ท่านที่รักความถูกต้อง รักความเป็นประชาธิปไตย ประเทศไทยไม่ควรให้เครดิตพวกอธิการบดีที่มีอคติทางการเมือง นำสถาบันเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมือง มีอธิการบดีหลายคนเคยพูดผ่านสื่อด้วยถ้อยคำที่ไม่ให้เกียรติรัฐบาล สส.และสว. 312 คนด้วยคำพูดว่าท่านต้องออกมาขอโทษประชาชน ทำเป็นไหมคำขอโทษน่ะ ถ้าทำไม่เป็นจะช่วยสอนให้ คำพูดเช่นนี้เป็นการบ่งบอกทัศนคติและอารมณ์ของผู้พูดว่ากำลังข่มขู่ผู้แทนของประชาชนทั้งประเทศเลือกมา อีกคนหนึ่งคืออธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เรียกร้องให้นักศึกษาออกมาปกป้องเกียรติของสถาบันจนเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวก่อให้เกิดความรุนแรง ในวันข้างหน้าหากนักศึกษารามถูกทำร้ายท่านจะรับผิดชอบอย่างไร หากอธิการบดีเหล่านี้ไม่สนับสนุนมหาวิทยาลัยให้เป็นตลาดวิชาการ ก็ควรอัปเปหิแกไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

ผู้แสดงความคิดเห็น วิญญูชน วันที่ตอบ 2013-12-06 14:23:14


ความคิดเห็นที่ 3 (3382312)

แค่ เปิดตัวสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยได้ 3 วัน มีคนเข้าไปสนับสนุนสมัครเป็นสมาชิกถึง 212,818 คน  เราขอเป็นกำลังใจ และเชิญชวนผู้รักประชาธิปไตยร่วมสมัครเป็นสมาชิกที่ https://www.facebook.com/Assemblyforthedefenseofdemocracy เพื่อร่วมอุดมการณ์ปกป้องประชาธิปไตยอันหวงแหนของคนไทย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2013-12-14 22:28:17



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.