เรื่องสมคิด เลิศไพฑูรย์ จะต้องถูกกดดันจากอาจารย์ นักศึกษาและสังคมในฐานะเป็นหัวหอกแนวคิดการก่อตั้งสภาประชาชน ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับในรัฐธรรมนูญ เท่ากับเป็นผู้คิดการใหญ่ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ก็สมควรอย่างยิ่ง การคิดร้ายต่อประเทศชาติเป็นบาปหนัก และ บาปไม่ให้ผลไม่มี

อ่อนอกอ่อนใจกับท่าทีของพวกที่อยู่ในศาล..........ปปช.  มีคนหนึ่งออกมาเต้นอยู่ขณะนี้คือ  นายวิชา มหาคุณ  เป็นศาสตราจารย์พิเศษ ......   แกไม่ระวังเลยว่าคำพูดแกจะต้องเป็นผู้ใหญ่หน่อย  เป็นหลักเป็นฐาน เป็นเสาหลักของบ้านเมือง.........แกพูดอะไรออกมา มีลักษณะข่มขู่ ทำให้พวกเราตระหนกตกใจ...........เอาละท่านเห็นอย่างไร  เอาไว้นี่ก่อน

นายสุเทพ  ประกาศในวันที่ 9 ธ.ค.ให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ไปรายงานตัวต่อนายสุเทพ ระบุเด็ดขาดว่า  ภายใน 24 ชั่วโมง  ตรงกับเวลา 22.30 น.  ................  ก็ไม่เห็นว่านายกจะสนใจอะไรนี่ครับ ................

ก่อนนี้แกก็ประกาศให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดไปรายงานตัวกับ  กปปส.  ................. ก็ไม่ปรากฎว่ามีใครไป..............ก่อนนั้นไปอีกก็มีข่าวให้ ผบ.ตร.  ผบ.สส.  ผบ.ทบ. ....พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ไปรายงานตัวเหมือนกัน  .............

ท่านจะไปทำไมล่ะครับ  ไปได้กรณีเดียวไปจับกบฏสุเทพ ..........  ความจริงนายสุเทพ ไม่ต้องออกคำสั่ง  ท่าน ผบ.ตร.ก็ต้องไปอยู่แล้ว  ไปจับสุเทพ ฐานกบฏผ่นดิน   

มาฟังศาสตราจารย์คนนี้พูดกันหน่อย  ศาสตราจารย์นิดา  อดีตอธิการบดี   นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์   พูดว่า 1 สิทธิ์ 1 เสียงใช้ไม่ได้กับประเทศไทย

แล้วนายกะเทย  เสรี  วงศ์มณฑา นี่เป็น ดร.  เป็น ศจ.แล้วยัง  ก็พูดเสริมกันไปว่า  คนกรุงเทพ 3 แสนเสียงใน กทม.มีคุณภาพกว่าคน 15 ล้านเสียงในอีสาน ....

ผมฟังไม่ได้  ว่าคนระดับนี้พูด คิดอะไรที่มันโง่เง่าเต่าตุ่น รับไม่ได้   ต้องไล่ออกจากตำแหน่ง ห้ามสอนในมหาวิทยาลัย  ห้ามถ่ายทอดวิชาทุกอย่าง ............เพราะนี่คือคนโง่ทำลายประชาธิปไตยครับผม 

นายวิชา มหาคุณ ปปช.  แกออกมาเสริมนายสุเทพ  ว่า  นายกรัฐมนตรี รักษาการณ์นี้สามารถที่จะลาออกได้  ไม่มีปัญหาอะไร ...............ซึ่งคนระดับนี้ ที่อยู่ในสถานะที่ต้องให้ความเป็นธรรม ยุติธรรม แก่ปวงชนนั้น   พูดได้อย่างไร โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ...............นี่ก็ต้องไล่ออกจากตำแหน่งเหมือนกันครับผม

นักกฎหมายบอกว่า  ปปช. เป็นคณะบุคคล หรือสถาบันที่ไม่มีความสมบูรณ์อยู่ในสถานะตัวเอง ...........  ไม่อาจจะตัดสินอะไรได้  เพราะ  ไม่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้ง...................

ผมเองก็ยืนยันเช่นกัน  แต่ในฐานะที่เห็นใจกัน ก็อยากขอร้องให้เพลา ๆ ความดุเดือดลงหน่อย ลดบทบาทลงเสียเถิด ให้สมกับเป็นสถาบันเถื่อนอยู่ ...........   แต่แกก็ไม่ค่อยรู้ในฐานะของตัวเองว่า    เถื่อน .........(เพราะอะไร?) ..........ที่ไปที่มาเป็นองค์กรเถื่อนอยู่  ....... 

นอกจากนั้น  ภายหลังไป มีการพิศูจน์ได้ชัดเจนขึ้นว่า   ปปช. หรือองค์กรเถื่อนเหล่านี้ให้การช่วยเหลือกบฏ .........   กระบวนการยุติธรรมก็สามารถเอาตัวมาขึ้นศาลได้....................มีอายุความพอถมไป................ ก็จะเสียคนไปตอนแก่ชราภาพ...........  ทำไมไม่คิดช่วยฝ่ายที่ถูกกฎหมายล่ะ   แปลกจริง !!!

ส่วนกรณีนายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์  กับ  นายเสรี วงศ์มณฑา  ก็ปล่อยเถอะ   เป็นถึงศาสตราจารย์ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่   เท่าปชช. คนธรรมดา ๆ คนหนึ่งบนเวทีเสื้อแดง....................ที่จริงไม่ควรได้ 1 เสียงด้วยซ้ำ   เพราะเป็นไก่กับพลอย  ............ก็ปล่อยให้โง่ไปตลอดชาติ

แกโง่มาตั้งแต่วิ่งไปช่วยนายสนธิ ลิ้มทองกุลวางแผน สร้างระบบ  70: 30 นู้นแหละครับ   แล้วต่อมาก็ไปช่วย ปชป.แก้รัฐธรรมนูญ 2550 แก้เขตเลือกตั้งเพื่อตนได้เปรียบในการลต. 3 ก.ค. 54 ซึ่งก็แพ้ไป............  แล้วนายสมบัตินี่ยังเข้าใจผิดนายสุเทพ โดยไปยกย่องว่านายสุเทพเป็นคานธีของประเทศไทย (แท้จริงนายสุเทพเป็นคนล้าหลังยุคมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี แต่นายสมบัติตาบอดไปชื่นชม อาจจะเป็นเพราะคิดประจบเอาตำแหน่งนรม. หรือปธ.กปปส.ก็ได้เหมือนกัน  พอ ๆ กับนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ในธรรมศาสตร์  ศาสตราจารย์โง่ ๆ อีกคนหนึ่งในยุคนี้ที่ก็คงคิดแบบเดียวกัน   อยากเป็นปธ.กปปส. หรือ นรม.ยุคนายสุเทพนั่นเอง)   และล่าสุดก็เปิดเผยความโง่ออกมาตรง ๆ   นั่นคือความคิดที่ว่า  1 สิทธิ์ 1 เสียงใช้กับ ปทท.ไม่ได้  .............  พอแล้วครับ   ผมเองวิเคราะห์คน ๆ นี้ไว้พร้อม ๆ กับนางอมรา พงศาพิศ ศจ.โง่ ๆ อีกคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับประชาธิปไตยเลย จนโดนชาวนา(คาราวานคนจน ที่ผมยกย่องจดจำพวกเขามาได้ถึงเวลานี้)เดินขบวนไปไล่ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ คราวเป็นคณบดีรัฐศาสตร์อยู่  แล้วยังไง   เอาคนโง่นี้ไปอยู่ในสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไปได้อย่างไร มาจนกระทั่งบัดนี้ ดยที่ตนเองไม่สำนึกหรือมีจิตวิญญาณเลยว่านี่คือสถาบันประชาธิปไตยพื้นฐานที่สุดสถาบันหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย..........  คนพวกนี้แหละครับทำลายสถาบันทางวิชาการไปหมด  ........  เป็นศาสตราจารย์ได้อย่างไร ในเมื่อไม่รู้หลักการปชต.เลย  แม้กระทั่งเรื่องสิทธิพื้นฐานทางประชาธิปไตย  1 คน 1 เสียงนี้ ..................... ยังไม่รู้เรื่องเลย  ........คือผมหมายความว่า  หากเราเข้าใจประชาธิปไตยแล้ว  คำพูดและแนวคิดเช่นที่ผมว่านายสมบัติมา  จะไม่ปรากฎออกมาเลย .........หากวันหนึ่งแกได้ตาสว่างขึ้นมาบ้าง   ผมจะบอกเลยว่าแกจะอับอายแผ่นดินทั้งแผ่นดินจนไม่อาจซุกหัวอยู่หลืบไหนได้  ต้องแอบไปฆ่าตัวตาย  เพราะค่าที่เป็นศาสตราจารย์โง่ ๆ เช่นนี้....เช่นขณะนี้ .... ที่มันไม่ฉลาดเท่าชาวนาคนหนึ่งที่มีสิทธิ 1 เสียงเท่าแกเองเลย  

นางอมรา พงศาพิศ ศาสตราจารย์  คนนี้ก็พูดแบบเดียวกับนายสมบัติแหละครับ   พูดว่าชาวนาที่มาชุมนุมที่สวนจตุจักรปีนั้น ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตย  เป็นคนโง่  ถูกจูงจมูก ถูกหลอกมาเป็นเครื่องมือนักการเมือง ..........  คาราวานคนจนเลยยกขบวนไปคณะรัฐศาสตร์ จุฬา  จะไปขอความรู้จากนางอมราคนนี้ ............... คุณคิดดูว่า  ถ้ารู้เรื่องประชาธิปไตยสมกับเป็นคณบดีรัฐศาสตร์  สมกับเป็นศาสตราจารย์แล้ว จะพูดคำพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ..........  มันไม่ผิดในแง่การเหยียดหยามคนจน   แต่มันผิดในแง่สิทธิ 1 คน หนึ่งเสียง ............. มันมีหลักการของประชาธิปไตยว่าไว้อย่างไร  มีเหตุมีผล  มีความเป็นธรรมสำหรับทฤษฎี 1 คน 1 เสียงนี้อย่างไร ต่างหาก ......... ซึ่งนี่ไง  การกล่าววาทะโง่ ๆ ออกมา ทำให้เห็นได้ว่ามีภูมิรู้ ความเข้าใจประชาธิปไตยขนาดไหน

ถ้าศาสตราจารย์เหล่านี้  อยู่    ประชาธิปไตยไทยก็ก้าวไปยาก   เพราะการที่จะดัดไม้แก่นั้นดัดยากครับ  ........   แต่ไม้แก่ที่เลวก็ต้านทานเส้นทางประชาธิปไตยได้แรง  .........

ข้อแนะนำก็คือ  ศาสตราจารย์เหล่านี้   จงปล่อยเด็กหนุ่ม คนสาวเขาเถิด  .......  อย่าสอนโดยให้เขาเชื่อเรา    แต่จงสอนพวกเขาว่า   จงอย่าเชื่อที่เราสอน  แต่จงถือเป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น เธอจงไปพิศูจน์คำสอนด้วยตนเองต่อไป......สมัยใหม่นี้ก็คือ   สอนให้คนหนุ่ม คนสาวเขารู้จักการวิจัยค้นคว้าหาความรู้ เพื่อพิศูจน์สัจธรรมด้วยตนเอง...(เช่นคนเสื้อแดง เขามาพิศูจน์ประชาธิปไตยสนามด้วยตนเอง  พวกเขาจึงได้เรียนรู้สัจธรรมของประชาธิปไตยอย่างมั่นใจ)  ....ตรงคำว่า   ให้สิทธิเสรีภาพทางวิชาการมากขึ้น   นี่แหละครับวิถีทางประชาธิปไตยทางการศึกษา.......วิถีทางมหาวิทยาลัยยุคประชาธิปไตย

ขอบคุณมาก นายวิจัยประชาธิปไตย

มาพูดเรื่องทหารบ้าง

เมื่อวานท่านปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. นิพนธ์ ทองเล็ก ในฐานะที่เป็นตัวแทนกองทัพไทยได้กล่าวในที่ประชุมเสวนาทางวิชาการ ฝ่ายรัฐบาลจัดขึ้นวานนี้(15 ธ.ค.2556) ว่า ทางกองทัพมีข้อสรุปสั้น ๆ เพียง 3 ข้อคือ

ข้อ 1.   ตามพรบ.กระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551  ให้กองทัพพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญและการปกครองระบอบประชาธิปไตย

ข้อ 2.   ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยืนยันทหารยืนอยู่ข้างการคิด การปฏิบัติที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญเท่านั้น

ข้อ 3.   ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพร้อมเหล่าทัพ ในการประชุมเสวนาแก้ปัญหาบ้านเมืองที่กองบัญชาการกองทัพไทยเมื่อวานนี้(14 ธ.ค.2556)แล้ว อยากให้กองทัพรับใช้และพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้น  หลังการประชุม ผบ.สส. พร้อมผบ.เหล่าทัพทั้ง 3 เหล่า ได้ยืนยันด้วยการตอบคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นสำคัญที่สุดว่า  กองทัพสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557  ผบ.สส.ยังแสดงความปรารถนาที่จะให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย จึงพร้อมให้ความช่วยเหลือการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า  กำลังพลของกองทัพไทยนั้นมีอยู่เกือบ 4 แสนนาย พอที่จะช่วยรัฐบาลดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิยุติธรรมได้ พร้อมที่จะช่วยเหลือด้านการดูแลการเลือกตั้ง

คิดว่ายังไงครับ ? 

ดีมากครับ  ทหารของชาติต้องคิดอย่างนี้

และดูแลสปิริตให้สูงส่งไว้เช่นนี้ครับ

เห็นด้วย กับท่าทีที่ชัดเจน...........และนี่คือกฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ............ ที่ทหารทั้งปวง ต้องเคารพ   ต้องถือเป็นกฎหมายครับ   ................   เพราะโดยประชาธิปไตย ท่านได้กล่าวไว้เป็นคำมั่นสัญญาแด่ปวงประชาชนอย่างเปิดเผยแล้ว วันนี้    .........

คำพูดนี้  เป็นนายของท่านทั้งหลายอย่างสมบูรณ์แล้ว

และขอสรรเสริญด้วยน้ำใสใจจริง ต่อ ผบ.สส. ที่ทำหน้าที่ของท่านในฐานะ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  

หากมีม็อบสร้างความปั้่นป่วนในการสมัครและวันเลือกตั้ง ทหารคงต้องช่วยดูแลความเรียบร้อยและจับพวกป่วนบ้านป่วนเมืองให้หมด นั่นแหละหน้าที่ขงทหารในระบอบประชาธิปไตย

สุไหงปาดี คิดว่าทหารจะช่วยให้อะไร ๆ ทางการเมืองดีขึ้นได้อย่างไร ?

วันนี้ดูการดีเบสระหว่าง อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล กับอาจารย์กิตติศักดิ์  ปรกติ จากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รู้เลยว่าคนไหนพูดถูกหลักวิชาการมีเหตุผล การนำนักวิชาการมาแสดงวิสัยทัศน์ทางสื่อทีวีนับว่าเยี่ยมยุทธ์มาก นอกจากประชาชนจะได้ความรู้ด้านกฎหมายที่๔กต้องเข้าใจได้ง่ายแล้ว  นักศึกษาตลอดจนผู้ปกครองยังสามารถตัดสินใจได้ว่าจะยอมรับให้ครูคนไหนได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ลูกหลาน  อยากให้สื่อนำเสนอการดีเบสของนักวิชาการบ่อยๆ จะได้รู้ว่านักวิชาการที่ออกมาชี้นำสังคมอยู่ขณะนี้มีกึ๋นระดับไหน สังคมควรเชื่อถือหรือไม่ อย่างไร อยากให้เชิญอ.สมคิด  เลิศไพฑูรย์มาดีเบสกับอ.วรเจตน์  ภาคีรัตน์  อ.เสรี  วงศ์มณฑา กับอ.ประวีณ ชัชวาลพงศ์พันธ์ และอีกหลายๆคู่น่าจะดี อมรา  พงศาพิชญ์ กับสมบัติ บุญงามอนงค์ ฯลฯ สังคมไทยมาถึงยุคการปฏิวัติทางภูมิปัญญา และประชาชนกำลังกระหายใคร่รู้ในวิชาการ

โดยระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีหน้าที่ครับ   มากน้อยเพียงใด ทุกสถาบันมีลำดับตามหน้าที่ ทุกหน่วยมนุษย์มีหน้าที่  ที่ไม่น้อยไม่มากกว่ากันเลย  แต่มีสิทธิ์เสมอกันในอำนาจการเมืองคนละ 1 เสียง  ............ผมอยากให้ทุกคนรู้และตระหนักอย่างมีความรับผิดชอบเสียก่อนครับว่าหน้าที่ของตนนั้นคืออะไร ................   นั่นแหละจึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างน่านับถือและอย่างเสรีชน ..... ...และมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ของตน   

ขอบคุณมากสำหรับ กระจกเงา   ผมบังเอิญมาได้ฟังอาจารย์คนที่ชื่อ กิตติศักดิ์ ปรกติ  (ละมั้ง)  พูดอยู่ ฟังไปจนจบแหละครับ  แต่ไม่ทันได้ฟังอาจารย์ปิยะบุตร แสงกนกกุล เพราะมีกิจเร่งไปก่อน  ยังเสียดายอยู่เลย  ก็ขอบคุณที่เล่าให้ฟัง 

ตอนผมฟังอาจารย์กิตติศักดิ์ นั่นแหละทำให้ผมคิดท้อถอยใจมากว่า  ทำไมกฎหมายจึงไม่ให้ความเป็นธรรม หรือความเสมอภาคในการที่จะเข้าใจอย่างเดียวกันทั้งหมด ของประชาชนทุกชนชั้น .........   ทำไมจะต้องมีคนตีความให้ ชนิดที่ซ่อนเร้นอย่างละเอียดละออเช่นนั้น   และเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จะหมายความว่ากฎหมายไม่ได้มีไว้สำหรับคนทั้งหลายทั่วไปที่จะอ่านและทำความเข้าใจกับมัน  ซึ่งหมายความว่ามั่นใจจริงว่าเราเข้าใจว่ามันกำหนดไว้สำหรับเราอย่างนั้น ๆ จริง ไม่คลาดเคลื่อนไปจากความเข้าใจของเรา ในฐานะประชาชนทั้งหลาย   แต่แล้ว เมื่อท่านมาอธิบายถึงการตีความกฎหมายซึ่งละเอียดมาก จนทำให้รู้สึกว่ากฎหมายนั้นไม่ใช่สำหรับประชาชนแต่มีไว้สำหรับคนจำนวนหนึ่งที่น้อยมาก ซึ่งคนจำนวนน้อยมากนั้น มีสิทธิที่จะรู้กฎหมายที่ถูกต้องอยู่เฉพาะพวกเขาเท่านั้น  ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่ากฎหมายมันบอกอะไรไว้  มันบอกให้เขาไปเสียภาษีอากรเท่าไรพวกเขาก็ไม่รู้ หรือรู้ก็อาจจะไม่ถูกต้องตามที่รู้  มีผู้รู้คือนักตีความกฎหมายอยู่พวกเดียวที่เป็นเพียงคนส่วนน้อยมากจริง ๆ   แล้วเช่นนี้กฎหมายเช่นที่ว่าจึงไม่ใช่สัญญาประชาชนแต่อย่างใด  เป็นกฎหมายที่ไม่เหมาะที่จะเรียกว่ากฎหมายของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย 

ผมไม่ทันได้อยู่ดูฟังว่า  ท่านตีความภาษาในมาตรา 68 วรรคที่ 2  คำว่า  และ  ต้องตีความด้วยหรือเปล่า ?  แต่ฟัง ๆ เหมือนอาจารย์กิตติศักดิ์ท่านจะตีความคำว่า และ  เป็นคำว่า  หรือ  ได้ด้วย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น  ภาษากฎหมายจะเหนือกว่าภาษาไทย อันเป็นภาษาของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างไร   และคุณจะเอาคำว่าและไปใช้ในกฎหมายในความหมายว่า หรือ ได้อย่างไร   เมื่อมันเป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคนเขาตีความตรงกันหมด ว่า และ ก็แปลว่า และ  มันไม่อาจจะแปลว่า หรือ ได้   แต่มีคุณกับพวก 7-8-9 คนบนศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้นที่มาบังคับว่ามันจะต้องตีความว่า หรือ ได้    ...................  ผมไม่ยอมคุณหรอกครับ  คุณมันพาลชัด ๆ    

ผมไม่ยอมให้มีกฎหมายเช่นนั้นเด็ดขาด  ................   มีคนคิดอย่างผมครับ   และเพราะฉะนั้นพวกเขา และผมจึงต้องการแก้ไขไงครับ    ในระบอบประชาธิปไตย กฎหมายต้องเป็นของประชาชน ประชาชนอ่านรู้ความหมายตรงกันหมดตามภาษาไทย มั่นใจในภาษาไทย   ไม่ใช่ของคุณ .......(ผมหมายถึงนักตีความที่ตีความไปอย่างที่ประชาชนตามไม่ทันเลย....พวกศรีธนญชัย)    

วันนี้เป็นยังไงครับ  ปรอทลงถึง 20 องศา ที่บ้านผม เมื่อเวลา 09.50 น.  พวกม็อบราชดำเนินฝ่อหนาวตายแน่   ทำไมจึงอดทนทำความชั่ว เลว กันจริง ? 

พวกเขาไม่เข้าใจว่านายสุเทพ หลอกเอาพวกเขามาเป็นตัวประกัน   .........   และโดยที่หลอกประชาชนมาเพื่อประกาศความชอบธรรมว่าตนได้สถาปนารัฐบาลใหม่ขึ้นแล้ว ชื่อว่า  กปปส. .......... เขาก็ออกคำสั่งไปทั่วยังไงครับ   นับแต่สั่งให้ผบ.ตร. ผบ.เหล่าทัพไปรายงานตัว............สั่งผวจ.ทุกจังหวัดไปรายงานตัว  ..........และวันที่ 9 ที่ยกขบวนออกจากศูนย์ราชการไปตั้งหลักราชดำเนิน ว่าทุบหม้อข้าวหม้อแกงจะยึดอำนาจเด็ดขาด  ก็สั่งให้นายกรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรักษาการณ์ ภายใน 22.30 น. ให้มารายงานตัว ............ นายกก็เฉย   ไม่มีใครเชื่อนายสุเทพ

คนคิดว่านายสุเทพวิกลจริตไปแล้ว ........แต่เปล่าหรอก แกแสร้งทำไป    กระนั้นบทบาทของแกที่ทำไปเช่นนี้  นั่นแหละคือการล้มล้างรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตย ..........  เป็นกบฏ ตามข้อหาของตำรวจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และก็ได้อสาศัยม็อบรอบล้อมตัวเองไว้  ป้องกันตำรวจบุกจับ    แต่พรรคพวกยังเยอะอยู่  อสส.นัดไปอีกครั้งวันที่ 2 ม.ค.2557 ครับ(ฐานฆ่าคนเสื้อแดง โดยเจตนาเล็งเห็นผล)..............

นี่แหละครับ  ปฏิรูปประเทศ ปฏิรูประบอบประชาธิปไตยละ  คือกฎหมายในระบอบประชาธิปไตย ต้องศักดิ์สิทธิ์  กฎหมายคือพระคัมภีร์  มีประชาชนเป็นศาสดา ............มีผิดตามกฎหมายต้องจับไปพิพากษาลงโทษให้ได้

ประเทศไทยที่ยุ่ง ๆ อยู่  เพียงจับคนผิด คนกบฏ ไปลงโทษเสียทีเท่านั้นเอง  ประเทศก็สงบ เดินหน้าไปได้  รูปธรรมก็คือ  จับนายสุเทพไปเสีย   จับนายอภิสิทธิ์ไปด้วย  มาผลักดันกันเรื่อง  บังคับใช้กฎหมายให้ตรงไปตรงมา 

และการปฏิรูปก็เดินไปได้  การปฏิรูปอะไรก็พยายามกันมาตลอดรัฐบาลใหม่มาแล้ว  มีสิ่งที่จะต้องทำอะไร  ก็รู้ก็เห็น ก็ทำ  เพียงแต่มันทำไม่ได้

ก็มีนี่แหละจะลืมไปไม่ได้  ศาลและองค์กรเถื่อนในรัฐธรรมนูญเถื่อนนี่แหละ   ต้องปฏิรูปเป็นอันดับแรก ๆ  ......พูดฟังง่ายว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญครับ ............. จากนั้น  ปรับศาลเสีย .........ไม่เอาศาลและองค์กรอิสระตาม รธน. 2550 .........นี่ก็ปฏิรูปเหมือนกัน.............ต่อไป เอานโยบายที่พัฒนาไปสู่อนาคตแบบจัด ๆ   พูดเป็นรูปธรรมก็คือ เอาพรรคที่มีนโยบายยกฐานะของประชาชนขึ้นไปเรื่ อย ๆ ให้อยู่ดีกินดี มีเสรีภาพได้  นั่นจึงจะส่งเสริมปชต.  (เอาพรรคที่จะทำรถไฟด่วนความเร็วสูงนั่นแหละ  ผมอยากขี่รถไฟเร็ว ๆ )   ...........และขอแถมเรื่องสำคัญที่สุด.............อย่าเลือกเอาพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปก่อกวนสภาอีก  ให้ฟ้องยุบพรรคเสีย  หากลงเลือกตั้งอย่าลงคะแนนให้  เพราะพรรคการเมืองนี้  เป็นพรรคที่ทำลายประชาธิปไตยมาตลอด เป็นพรรคป่าเถื่อนที่ไม่รู้ธรรมในศาสนาเลย สมาชิกพรรคล้วนประพฤติผิดศีลธรรมศษสนาทุกเรื่อง หาความดีไม่ได้  และ  ทำลายปชต. แม้กระทั่งมาตั้ง กปปส. ๆ ก็มุ่งทำลายประชาธิปไตย  จึงไม่ต้องให้มีพรรคปชป.อยู่ในสภาอีกต่อไป .......ซึ่งทำได้นะครับ โดยประชาชนไม่ต้องกาบัตรนี่เอง   ง่าย ๆ  ทำกันในวาระเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 นี่แหละ  ได้เลย   .......   แล้วมันก็ค่อยปฏิรูปไป.....ตามนโยบายพรรคการเมืองที่ผ่านการรับรองจากประชาชนในการเลือกตั้งมาแล้ว นั่นแหละ ........

ไปอีสานครับ

เอเซียอัพเดท ถ่ายทอดวันนั้น จากขอนแก่น

ภาพอีสานวันนั้น (วันที่ 15 ธ.ค. 2556ครับ ที่ขอนแก่น)    ประทับใจมากเลยทีเดียว  ....... มันมีความเป็นผู้ดีอยู่ในภาพที่ปรากฎอย่างมากมายเลยทีเดียว  และบอกถึงอีสานยุคก้าวหน้าในประชาธิปไตย .......ที่ประทับใจ นับมาแต่โฆษก   หรือผู้ดำเนินรายการ ที่เป็นสตรี และสตรีที่แวดล้อมบนเวทีนั้น  ......  อายุมากแล้ว  คิดว่าเป็อดีตครูบาอาจารย์ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในจังหวัด  ...........  ทำภาพออกมาได้ดี  อ่อนช้อยสลวยสวยงาม   แล้วมีเยาวชน จากสถาบันใหญ่ มาสะท้อนความมุ่งหมายของเขา ที่จะร่วมต่อสู้ .....มีตัวแทนสตรีจาก 20 จว.อีสาน  .....   ในตอนหลังไปถึงปิดรายการมีพิธีกรสตรีมาเสริมอีกคนหนึ่ง  โอ   ดีมาก  ดูเป็นผู้ดีจริง ๆ  ทั้งการแต่งกาย ท่าที  น้ำเสียง  และลีลาที่เข้าใจสะท้อนวัฒนธรรมอันสง่างามที่สะท้อนอีสาน   ว่าไม่ต่ำต้อยเลย........  นี่คือวัฒนธรรมประชาธิปไตยครับ ......

มีเหตุผลมากเลยในการที่จะตำหนิ 

และมีเหตุผลมากเช่นเดียวกัน ที่จะชมเชย

และคุณประธานแดงอีสานอุดรธานี   คุณ...............   ก็พูดดี      พูดไม่มาก   แต่พูดจริง  พูดไขข้อข้งใจได้กระจ่างน่าเชื่อถือ  ไม่ได้มีแกนนำที่เด่นดังมาเลย แม้อดิศร เพียงเกษ ก็ไม่ปรากฎ    มันน่าชื่นชมที่ว่า  แดงสตรีเพื่อประชาธิปไตยอีสาน 20 จว.  สู้ด้วยสำนึกประชาธิปไตยจริง ๆ และเมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกตัวตนคนอีสานสามารถทำได้ดีทุกคน   ก็แล้วกัน       นี่จึงเป็นสิ่งที่อาจคาดได้ตรงทฤษฎีเลยที่ว่า   สองหัว ย่อมดีกว่าหัวเดียว   65 ล้านเสียงทั่วประเทศ ย่อมดีกว่าเผด็จการ 1 เสียงที่ยิ่งใหญ่  ............. มันสะท้อนความหมายของเสียงสวรรค์ครับ   1 คน1 เสียง มีความสามารถอันทัดเทียมกันแล้ว    นั่นคือการก้าวเดินออกไปของประชาธิปไตยไทย     

เป็นคนละภาพ คนละความหมายกับม็อบราชดำเนิน .............ซึ่งให้ภาพตรงกันข้าม คือต่ำ ทราม  ไม่เป็นประชาธิปไตย  ไม่ใช่ลักษณะของผู้ดีเสรีชน   ......... ซึ่งภาพพวกเขา เหมือนพวกที่โพกหัวเอากะไดพาดรั้วทำเนียบรัฐบาล จะเข้าปล้น   มันโจรใต้ชัด ๆ เลย......

มา........ นายกรัฐมนตรีแถลง เอเซียอัพเดทถ่ายทอด เวลานี้เอง

ว่า  จะไม่ลาออกจากรักษาการณ์นายกรัฐมนตรี..............

เราไม่เข้าใจจริง ๆ  ว่า ทำไมนายกรัฐมนตรี แม้รักษาการณ์     จะคิดลาออก   หรือฟังเสียงคนให้ลาออก

ท่านไม่มีอิสระที่จะคิดเช่นนั้น   เพราะท่านต้องปฏิบัติตามกฎหมาย   ท่านต้องเป็นนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะได้คนที่มาแทนท่าน.........................ระบบงานองค์กรทุกองค์กร.....ไม่ว่าองค์กรเล็กใหญ่   เอกชน ธุรกิจ หรือราชการ  ...........  เวลาใดเวลาหนึ่ง จะว่างจากผู้บริหารไม่ได้  ..........มันเป็นสัจธรรมจากสามัญสำนึกธรรมดา ๆ นี่เอง   ที่ประเทศใด การปกครองใดจะว่างจากผู้บริหารไม่ได้เลย   แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ไม่ได้   ...........ฉะนั้น ประเทศทั้งประเทศ ประชาชนทุกคนในประเทศนั้น  จึงไม่อาจจะปล่อยให้ว่างจากนายกรัฐมนตรีแม้แต่เสี้ยววินาทีไปไม่ได้    ตลอด 24 ชั่วโมง ต้องมีผู้บริหาร  ผู้ที่จับพวงมาลัยรถให้วิ่งไป...........  ครับผม.

คนที่จะมาแทนท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์  ไม่ใช่นายสุเทพ แห่ง กปปส.นะครับ  ผมไม่ยอมเด็ดขาด....

ฉะนั้น  ประชาชนท่านไม่ต้องเป็นห่วง  ไม่มีประเทศใดในโลก ที่จะปล่อยให้เกิดสิ่งที่นักวิชาการพูดกันว่า  สุญญากาศทางการบริหารประเทศขึ้นได้  เนื่องเพราะมีการกำหนดไว้อย่างรอบคอบเสมอ ในรัฐธรรมนูญของประเทศนั้น ๆ    อันย่อมต้องเป็นไปตามหลักรัฐศาสตร์สากล ที่ว่าองค์กรย่อมไม่มีเวลาแม้แต่เสี้ยววินาที ที่จะให้เกิดสภาพอันว่างจากกผู้บริหาร .....

นิวยอรคไทม์ 16 ธ.ค.2556 ว่าการประท้วงในประเทศไทย(ของกปปส.ของสุเททพ + ปชป.)  แปลกประหลาด มีแต่เขาประท้วงให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น แต่นี่ประท้วงเพื่อ ลดการเป็นประชาธิปไตยลงไป  โดยเหตุที่เรียกร้องต้องการให้นำสภาแต่งตั้งของกปปส.ไปแทนที่สภาเลือกตั้ง(สภาผู้แทนราษฎร) 

วันนี้มี  47 ปท.สนับสนุนการเลือกตั้งในไทย อยากให้เกิดสันติภาพในไทย ...........(ข่าวย่อจากเอเซียอัพเดทวันนี้) 

นี่คือ   ประเทศประชาธิปไตยนั้นก็คือสาวกประชาธิปไต มีหน้าที่เผยแผ่และระวังให้ประชาธิปไตย ในนานาประเทศทั่วโลกเดินก้าวหน้าปราศจากการบ่อนทำลาย .........พวกเรา เมื่อเข้าใจประชาธิปไตยก็ต้องเข้าใจแบบเดียวกับประเทศทั้ง 47 ประเทศ  นั่นคือมีหน้าที่ของสาวกประชาธิปไตย  ต้องต่อต้านพวกเผด็จการที่จะทำลายประชาธิปไตย  เช่นนายสุเทพ เทือกสุบรรณนี้  โดยอัตโนมัติ  จึงเห็นได้ชัดว่าโลกทั้งโลกมุงสู่เส้นทางเดียวกันคือประชาธิปไตย.........และกปปส.ของนายสุเทพ  ของ ปชป. จะได้รับการต้านทานจากประเทศประชาธิปไตยหนักไปหน้า เรื่อย ๆ แน่นอน .......

ก็ประหลาดจริง ๆ ในประเด็นที่นิวยอร์คไทม์ ตั้งข้อสังเกตเอาไว้  ว่าเป็นการประหลาดที่มีสภาผู้แทนราษฎรอยู่กลับไม่ยอมรับ  จะไปสร้างสภาประชาชนซึ่งมีที่มาจากการแต่งตั้ง เข้ามาแทน  ...........  นี่แหละคือการถอยหลัง  ถอยไปเพราะไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย .......ผมจึงให้สมญาว่า  มนุษย์วานร 1.8 ล้านปีอย่างไรครับ 

อยากเห็นมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี(นายสุเทพ)โดนล่ามโซ่ครับ  คงน่าดูสมจริงจริง ๆ

นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ โต้กับ อาจารย์สุขุม นวลสกุล .........ที่ช่อง 3  รายการสรยุทธ ครับ ........นายสมบัติบอกว่าเป็นเสรีภาพที่จะพูดจะคิด...........  เขาก็เลยคิดออกมาอย่างที่เขาคิด

ผมก็เพียงคิดว่า  ที่นายสมบัติคิดนั้น  มันไม่ถูกหลักการประชาธิปไตย  เรื่อง 1 คน 1 เสียง นั้นมันไม่ถูก  และไม่มีใครคิดอย่างนายสมบัติ  ..........   แต่นั่นมันแสดงด้วยว่านายสมบัติอไม่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย  เพราะความเข้าใจผิด   ผมไม่ยอมให้คนคิดผิดมานำสังคมประชาธิปไตยครับ

ผมไม่ยอมให้นายสมบัตินำระบบ 70:30 มาใช้ในประเทศไทย  .....  ในเมื่อขณะนี้ระบบเลือกตั้ง 100 %  กำลังได้รับการยืนยัน และเป็นที่แพร่ไปในประชาชนทุกชั้น ..........  มีคนที่คิดถูกทางประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นไปเรื่อยแล้ว  คนรู้เรื่องประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นไปแล้ว  มีคนโง่น้อยลงไปทุกที   เว้น  ยังอยู่คือนายสมบัติ  แกยังโง่อยู่เท่านั้นเอง    และด้วยเหตุที่อยู่ในตำแหน่งและฐานะที่สูงก็อาจจะเผยแผ่ความไม่ถูกต้องนี้ไปได้กว้างขวาง   จึงต้องมีการพูดกันแรง ๆ

ผมจะแนะนำวิธีการศึกษาให้ศาสตราจารย์สมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ไปหาคำตอบเอาเองนะครับ  คุณไม่ต้องไปออกแบบวิจัยให้ลึกซึ้งอะไรเลย  มันเพียงอยู่ในวิธีการสำรวจง่าย ๆ ก็ได้คำตอบแล้วสำหรับสังคมไทยขณะนี้  ใช้วิธีการสังเกตของคุณเองเท่านั้นเอง [เรียกว่าวิธี observation] .........แล้วศาสตราจารย์ก็จะได้พบสัจธรรมว่า   ประชาชนไทยเขาจะไม่เห็นด้วยกับคุณเลย หากคุณไปลดสิทธิ 1 คน 1 เสียงของเขาลงเสีย ด้วยแนวความคิดของคุณ ที่ว่าคนบ้านนอก 15 ล้านโง่  ฉลาดสู้คนกรุง 3 แสนไม่ได้  ฉะนั้น ต้องให้คนกรุงมี10เสียง คนบ้านนอกอีสานหรือเหนือ เอาแค่ 1 เสียงก็พอ  ...........  คุณสมบัติลองไปสำรวจดูซี  ว่าเขาจะเอากับคุณหรือเปล่า .......  คุณจะสร้างเครื่องกระตุ้นที่แรง ๆ เพื่อมาช่วยกระตุ้นคนให้คนเผยความคิดของเขาออกมาด้วยก็ได้    ....   คุณก็จะได้พบ   อย่างที่ผมพบ  ว่า ประชาชนแม้ชาวกรุงเอง เขาก็ไม่เอาด้วยกับคุณ   เขาจะด่าคุณด้วยซ้ำว่า ศาสตราจารย์โง่ ๆคนนี้มาจากสถาบันไหนกัน ....เชื่อผมเถอะ ...........  ยังมีเหตุผลที่ว่าทำไมต้อง 1 คน 1 เสียง แบบที่เขารับกันทั่วโลก  ผมจะค่อย ๆ หาทางอธิบายให้คุณเข้าใจภายหลัง........ ให้จงได้   

เอาเข้าแล้ว  วัชระ เพชรทอง  โดยคุก 2 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท .........จตุพร พรหมพันธ์ แม่ทัพแดงฟ้องเอาฐานหมิ่นประมาท  ..............ก็สมควรแล้วครับ แม้ว่าโทษ 2 เดือนรอลงอาญา1 ปี ..........ยังให้ลงนสพ.ด้วยนะ   นี่คือจอมก่อกวนไร้สติในสภาผู้แทนราษฎร  จนปธ.สภาให้ตร.สภาเข้ามาหิ้วออกไปพักผ่อนนอกสภาเป็นประจำ.........ผมอยากให้ชาวใต้ อย่าเลือกเขาเข้าไปอีก  ........   ก็เท่านั้นแหละครับ  ไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามซ้ำเติมแต่อย่างใด

นายบัน ซีมูน ลธ.ยูเอ็น  ว่าอยากให้ไทยแก้ปัญหาโดยวิธีทางประชาธิปไตย .......   ผมคิดว่านายบันซีมูน แกแนะนำให้รัฐบาลจับนายสุเทพ ไปเข้าคุกเสีย  นั่นเอง  ...........  นี่คือแนวทางประชาธิปไตย ในแง่ที่ว่ากฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์  กฎหมายต้องได้รับการเคารพ .............คุณคิดว่าเมื่อเป็นประชาธิปไตยแล้ว  คนจะต้องพูดกันอ่อนหวาน เป็นภาษาดอกไม้  ต้องปรองดอง ต้องพูดคุยกัน  การจะไปจับคนผิด คนกบฏ เข้าคุกก็ผิดหลักประชาธิปไตย  อย่างนั้นหรือ?    

อเมริกาเขายังเร่งเร้าให้แขวนคอซัดดัม ฮุดเซนเลย......ว่าเขาไม่เป็นประชาธิปไตยหรือ?    

ปชป.เลือกกรรมการใหม่........อภิสิทธิ์ เป็นหน.พรรคต่อไป.........  ก็ดี  

ได้ข่าวว่าปชป.จะไม่ส่งคนลงลต.  ..........  ดีมาก ๆ

อยากให้ฟ้อง ยุบพรรคปชป. 

อย่าลืมเป็นอันขาด  ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรไทย ช่วง รบ.ยิ่งลักษณ์ มาจนถึงยุบสภา   ใครทำอะไรในสภาผู้แทนราษฎร  ก็พรรคประชาธิปัตย์นี่แหละครับ  แสดงออกถึงความไม่ยอมรับในระบอบรัฐสภา หรือไม่รับในประชาธิปไตย   หลัง ๆ มาก็กระทำสิ่งที่ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ไปตั้งตนเองเป็น กปปส. อ้างว่าจะปฏิรูปประเทศ ........  ก็เห็นอยู่ชัดเจนถึงวิถีทางของพรรคปชป.ว่าต้องการแสวงหาอำนาจทางการเมืองในแบบ วิธีที่ไม่ถูกต้อง  ไม่ยอมรับวิถีทางประชาธิปไตย...............  เราจะให้มีพรรคการเมืองเช่นนี้อยู่ต่อไปไม่ได้ครับ           ก็ต้องปฏิรูปครับ  โดยตัดไม่ให้แสดงบทบาทในระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป     วิธีทำก็ง่าย โดยที่ประชาชนไม่ยอมรับพวกเขา  พี่น้องชาวใต้ก็ปล่อยเขาไป  .......   เพราะในวิถีทางประชาธิปไตย  ย่อมมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาได้ตลอดเวลา ตามโอกาส  โอกาสนี้เป็นโอกาสของพรรคเล็กพรรคน้อย(ที่มีความคิดใหญ่)  ที่จะได้เข้ามามีบทบาทแทนพรรคใหญ่ที่ตายไป ........และพวกเขาก็จะเป็นประชาธิปไตยใหม่    เป็นรัฐบาล  หรือฝ่ายค้านก็ตาม  ต้องเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย   เป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านประชาธิปไตย  ...........     

เราอย่าไปอาลัยพรรคเก่าแก่ ที่เก่าแก่แค่เกิดมานาน  เราหาพรรคมาแทนเถอะ

มีพุทธภาษิตว่า

โย จ วสฺสสตํ ชีเว            อปฺปสฺสํ  ธมฺมมุตฺตมํ
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย         ปสฺสโต  ธมฺมมุตฺตมํ

ผู้ไม่เห็นธรรมอันประเสริฐ  ถึงจะมีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
ก็สู้ชีวิตวันเดียว  ของผู้เห็น   ไม่ได้

ปชป.มีชีวิตมา 57 ปีแล้ว แต่ก็มิอาจจะเห็นธรรมะ กลับทำตนเป็นมารแห่งธรรมไปเสียเช่นนี้  สู้เลือกเอาพรรคที่เกิดใหม่ ๆ สักพรรคเดียวไม่ได้หรอกครับ   

อย่างวันนี้ขณะนี้ม็อบสุเทพก็ทำเกะกะอีกแล้ว   พากันเคลื่อนขบวนอีกแล้ว  คนก็ลดน้อยถอยลงไป มีรายงานว่าคนไม่มากเท่าไร  ทำจราจรติดขัดไปทั่วกรุง    เศรษฐกิจก็เสียหายวายป่วง   นี่เป็นวิถีทางปฏิรูปประเทศไทยหรือ? 

น่าเสียดาย   เราพูดกับนายสุเทพ ไม่รู้เรื่องหรอกครับ  เขาเป็นเผ่าพันธ์ดึกดำบรรพ์เกินไป  เกินที่จะพูดเรื่องประชาธิปไตยกับเขาได้

ปชป.   คุณรู้หรือเปล่าขณะนี้พท.เร่งหาเสียงแล้ว ยิ่งลักษณ์ ไปไกลสุดกู่แล้ว    นี่แหละวิถีทางประชาธิปไตย   คุณมัวทำอะไรอยู่   ........  อย่าเลย   อย่าคิดผิด    หรือถ้าคุณคิดได้อย่างเดียวคือบอยคอตการเลือกตั้ง   ใครก็ไม่ว่าอะไร   อย่าไปทำเสียหายในลักษณะขัดขวางการเลือกตั้งก็แล้วกัน ..............  นั่คือ  ล้มล้างการปกครอง ปชต.  กบฎไปอีก

มาวันนี้  ปชป.รู้แล้วยังว่ายุทธศาสตร์ของเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยคืออะไร ?  

มันยอดเยี่ยมมากเลย   ..............  ถูกต้องตามประชาธิปไตยด้วย

ก็คือ   เลือกตั้ง นี่เอง   แดงทั้งแผ่นดินเขาสร้างกระแสเลือกพรรคของเขาไปทั่วประเทศแล้ว    ...........

ส่วนคุณก็สร้างกระแสดูหมิ่นคนทั้งแผ่นดินต่อไป  ขอให้จำเริญ   

รายการทันสถานการณ์บ้านเมือง เอา 2 นศ.ชาย ที่ศึกษารัฐศาสตร์มาพูดเรื่องการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ.2557 

....  นั่นแหละ  น้องเขาเข้าใจดีมากทีเดียว  เรื่องวิถีทางการเมืองประชาธิปไตย   ...............   ประชาธิปไตยมันเป็นอะไรที่ทันสมัยมากครับ  ................. มันเหมือนมือถือ   เหมือนคอมพิวเตอร์    เหมือนบทเพลงใหม่ ๆ   การเต้นจังหวะ...........  ที่เด็ก ๆ ตัวเล็ก ๆ  ก็สัมผัส ได้  เข้าใจได้ อย่างดี อย่างสนุก  .................    และมันจะอืด ล่าช้า สำหรับคนยุคนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ หรือคนหัวเก่าที่เล่นอินเทอเนตไม่เป็น  กลัวอินเทอเนต  .....อาจจะเหมือน ศาสตราจารย์สักคนหนึ่งยุคนี้ ก็ได้  .............

ประชาธิปไตย จึงเหมาะมากสำหรับเด็ก ๆ ที่จะเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่ำชองมาแต่เด็ก ๆ    เพียงแต่คนใหญ่ต้องให้โอกาสแด่เขา ที่จะแสดงออกหรือทำกิจการใดของประชาธิปไตย  ..................  เริ่มต้นด้วย สิทธิ  หน้าที่.........และกติกา ครับ

คุณมีหน้าที่  และคุณมีสิทธิ    สิทธิของคุณมีได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิคนอื่นเขา  และการแข่งขันต้องมีกติกา

...........ฟังซิ   เขาพูดอะไรถูกต้องตามประชาธิปไตยไปหมด  คล่องยังกะสายน้ำไปเลย   มันเข้าใจได้ง่ายมากสำหรับเด็ก ๆ ยุคใหม่ ..........  อย่างที่ผู้ใหญ่ยุคก่อนยากจะเข้าใจ........แบบนี้นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ มธ. ก็ต้องคิดมากละ.....เพราะดูความคิดแก จะไม่สอดคล้องกับความคิดนักศึกษาพวกนี้เข้าเสียแล้ว

เช่นเดียวกับนายศาสตราจารย์สมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์  พวกศาลรัฐธรรมนูญ  ..............  พวก กกต. ...... พวกทหารเก่า ๆ เช่นน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ  พล.อ.กบฎสนามม้า ......ที่ยังอุตส่าห์โผล่หน้าออกมาอีก    พวกขุนน้ำขุนนางเก่า ๆ พวกอมาตย์   พวกที่กลัวคอมพิวเตอร์ ........ใช่ทั้งนั้นแหละครับ  .............เครื่องมือสื่อสาร เทกโนโลยียุคใหม่ มันไปด้วยกันหมดละกับ  ประชาธิปไตย

พวกเขาพูดถึงสิทธิเลือกตั้ง พูดถึงการเลือกตั้งด้วยความชื่นชมว่านั่นเป็นเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย สิทธิ 1 เสียง 1 นั่นเป็นของมีค่าสำหรับเสรีชน  ...............   นโยบายเป็นตัวกำหนดการแข่งขันที่เป็นหลักจริง ๆ   ดูเขาเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคการเมืองไหน ..........พวกเขาปฏิเสธเผด็จการ กปปส.อย่างแน่นอน  เขาแนะนำกปปส.ที่คิดจะปฏิรูปประเทศเสนอเป็นนโยบายให้ประชาชนเลือก........... นั่นถูกต้องเลยทีเดียว   ในสนามเลือกตั้ง พรรคการเมืองอยากทำอะไร ที่ต้องขออนุญาตประชาชนก่อนเสมอ ต้องเสนอเป็นนโยบายลงในสนามเลือกตั้งนี่เอง     เยาชนเขายังคิดเรื่องนี้ได้อย่างถูกหลักการปชต.เลย 

ท้ายสุดพิธีกรให้ฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง(น่าจะหมายถึงพวกทหาร พวกนายพลแก่ ๆ อมาตย์)  นศ.ว่า ต้องมองว่าการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว  ภาคประชาชนเริ่มมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของประเทศ ต้องมองประชาชนว่าเขาเป็นเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง.................ว่า อยากให้มองกว้างไปทั้งโลก ยังมีอีกหลายประเทศในโลกที่เราจะต้องมองไปเพื่อการสังคมร่วมมือระหว่างประเทศในโลก ทำอย่างไรจะให้เขามองเราอย่างเป็นประชาธิปไตย เพราะนั่นเป็นวิถีที่โลกจะอยู่ด้วยกันได้ในอนาคต   ..........

เห็นไหม  นศ.หนุ่ม ๆ เขามองอนาคตได้ทะลุปรุโปร่ง ด้วยการมองไปที่ประชาธิปไตย    เราบอกแล้วประชาธิปไตยเป็นระบอบของอนาคตโดยแท้จริง 

กกต.ใหม่  ทำท่าจะไม่ตรงต่อหน้าที่เสียแล้วซี ...

ฟังนาย(รองศาสตราจารย์)สมชัย สุทธิยากรพูด.............แกว่า  มีช่องทางเลื่อนการเลือกตั้งได้..............

พูดแบบนี้  มันก็ถูกใจกบฎละซี ....... คุณจะเอาใจกบฏไปทำไม ?  

กกต.เป็นพวกไหน ?........      กกต.เป็นพวกประชาธิปไตยครับ เหตุผล   ถ้าไม่มีประชาธิปไตย ก็ไม่มี  กกต. .........

นั่นนำมาซึ่งหน้าที่  กกต.   .........  หน้าที่ที่จะทำให้มันถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตย .....  และตามกฎหมาย ที่กำหนด ........

เอาละมาเริ่มเสวนากัน

คุณสมชัย สุทธิยากร เข้ามาปุ๊บแกก็บอกว่า  มีทางที่จะเลื่อนการเลือกตั้งไปได้  ...........  เอาละครับ คนดียวพูด แต่ประธาน กกต.ก็พูดดี ..... ไม่ว่า

ประเด็นอยู่ตรงไหน? 

ประเด็นอยู่ที่คุณสมชัย แกไม่มี  อัตสัมมาปณิธิ  ครับ

แปลว่าอะไร ?   ช่วยแปลไทยเป็นไทยให้ฟังหน่อย

มันมาจากมงคลสูตร มีข้อธรรมะอยู่ 38 ประการที่คนเราในฐานะมนุษย์เดินดิน หรือปุถุชนจะเอาไปปฏิบัติเพื่อความสุขความเจริญของตนเอง  มันเป็นหลักธรรมแนววิทยาศาสตร์ ที่เหมาะกับยุควิทยาศาสตร์ยุคประชาธิปไตย   อัตตสัมมาปณิธิ นี้ก็คือ การตั้งตนไว้ชอบ (สำนวนเดิม)  ผมคิดว่านี่คือสำนวนใหม่คือ การตั้งตนไว้ให้ถูกหลักการ  ผมยกมาก็เพราะเห็นว่านายสมชัย ไม่ได้ตั้งตนเองไว้ให้ถูกหลักการกฎหมาย และหลักการประชาธิปไตยครับ   

เห็นด้วย ก็แก   เขาให้แกมาทำงานที่  กกต.  ก็ต้องวางตัวให้ถูกว่าจะคิด จะพูด จะทำอะไร  จึงจะสมกับหน้าที่ กกต.

ตามศัพท์ อตฺตสมฺมาปณิธิ มันลึกซึ้งกว่านั้นครับ  มันแยกศัพท์  ผมจะแยกแบบไทยให้ดู  อัตตะ  แปลว่า ตัวเรา = self  สมฺมา แปลว่า ชอบ ดี จริง แท้  = rightly  properly well   ปณิธิ  แปลว่า ความปรารถนาอันตั้งไว้ = aspiration  wish  

รวมความหมายแล้วหมายถึง  ความตั้งใจที่จะทำอะไรให้ถูกให้ดีให้ชอบ   หรือที่ท่านแปลเอาไว้ว่า  ความตั้งตนไว้ชอบ  นั่นแหละครับ  

แล้วคุณแดงดำรงธรรมเห็นว่านายสมชัย แกตั้งตนไม่ชอบตรงไหน อย่างไร ? 

แกไม่ตระหนักในหน้าที่ของแกน่ะ  ไม่ยืนอยู่บนความรับผิดชอบที่ตนได้รับมา  เรียกว่าตั้งตนไว้ไม่ถูกต้อง

ก็คงจะตรงกับภาษาประชาธิปไตยนะครับ

ผมจะพูดให้ฟัง

นายสมชัย สุทธิยากร คนนี้  แกมาสมัครของานทำ  พร้อมกับคนที่มาสมัครเยอะแยะ   แกคงเห็นว่าเงินเดือนมันสูง  หรือมีอะไรที่ได้อย่างน้อยก็มากกว่าที่แกได้ในนาม  รองศาสตราจารย์ ละ  

ตอนแกมาสมัครงาน  แกก็น่าจะรู้แล้วว่างานที่แกจะทำคืออะไร ........  มีคนบ้าขนาดที่ไปสมัครงาน ที่ตนไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไรหรือ ?  อย่างคุณสมชัยนี่แกจะไม่รู้หรือว่าแกจะต้องทำอะไร ? 

ทีนี้แกก็ได้รับการคัดเลือก  สอบผ่าน  ได้เข้าทำงาน  กกต   เป็น 1 ใน 5 กกต. 

งานของแกก็ระบุไว้ชัดว่าให้มาจัดการการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ. 2557   แกก็รู้อยู่แล้ว 

แต่พอเข้ามาวันนี้  แกก็เบี้ยวเสีย   ว่าไม่เอาแล้ว วันที่ 2 ก.พ. 2557  ขอเลื่อนเถอะ........

ถ้าคุณเป็นนายจ้างนายสมชัย  คุณจะว่าอย่างไร ? ...............เงินเดือนก็แพงนะ......ถ้าคุณไม่อยากทำคุณจะสมัครมาทำไม ?   คุณออกไปเสียวันนี้ก็ได้ นะ   ................

งานมันยาก     ก็รู้อยู่   เพราะมันยากเขาจึงต้องเลือกเอาคนที่ถูกต้อง  right man on the right job   หนอยแน่  พอเข้ามากลายลายไปเสียแล้ว ...........  ไม่คิดจะสู้งานเสียเลยอย่างนี้  ผิดหวังครับ

ไล่ออกไปเลยครับ   ไม่อยากทำงานนี้ก็ออกไป  มีคนเขาอยากทำเยอะแยะไป  ไม่ง้อคุณ 

ก็นี่แหละครับ  ภาษาประชาธิปไตย  มันชัดเจนดี

คุณรับจ้างเขามาทำงานคุณจะไปพูดอะไร  ก็วางแผนทำไปซี   ทำยังไงจะให้การเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. เรียบร้อยดีคุณก็วางแผนไปซี

ก็เป็นเท่านี้แหละครับ คุณเป็นลูกจ้างก็ตั้งหน้าตั้งตาทำไป

ผมไม่ค่อยไว้วางใจเลยว่าลงได้แสดงท่าทีออกมาแต่แรกเช่นนี้แล้ว  นายสมชัยคนนี้ ขณะนี้แกเริ่มทำหรือออกจากจุดสตาร์ทแล้วยัง  .............   มันต้องรีบไปแล้ว   เขายกธงปล่อยม้าแล้ว..........ไปดูหน่อยว่าม้าสมชัยยังหยุดอยู่กับที่หรือเปล่า    ถ้าเป็นเช่นนั้นเอาไปเชือดเลย  ............   ม้าทรยศนี่

กฎหมายได้กำหนดไว้แล้วว่า  อย่างไร ?.................  มันไม่ใช่หน้าที่คุณสมชัย ที่จะไปโต้แย้ง  คุณมีหน้าที่ทำงานตามที่กฎหมายกำหนด...........................

และมันจะต้องเป็นประเพณีที่จะต้องสืบต่อไปในวันข้างหน้าชั่วลูกหลาน   ว่า  เมื่อมีพรฎ ลงมาแล้ว  มันจะต้องเป็นไปตามนั้นอย่างไร้เงื่อนไขใดใด    ..................   มันจะได้จบเรื่องที่ต้องโต้เถียงกันไปเสีย  .................กลายเป็นประเพณ๊  เป็นวัฒนธรรมขึ้นมา.........  พอมีกรณีขึ้นเช่นนี้ในอนาคต   เราก็ได้มาตรการการตัดสินใจโดยอัตโนมัติ  .............ตามที่เราได้สร้างบรรทัดฐานเอาไว้แล้ววันนี้   .......... เข้าใจไหมครับ .......   มันจะได้ลดข้อถกเถียงในประเด็นนี้ไปเลย  เป็นประเพณีของระบอบประชาธิปไตยบ้านเราขึ้นมาตั้งแต่วันนี้      

 เห็นหน้านายนี่ครั้งแรก ก็รู้แล้วว่าแกไม่เป็นท่า เคยเห็นแกพูดๆในทีวีเรื่องดีเบสนี่แหละ แต่ไม่ใช่มืออาชีพทำไปก็ล้มเหลวไม่มีใครอยากดู วันนี้ทีวีหลายช่องเขาทำเรื่องดีเบสดีทีเดียว แกไม่ประสบความสำเร็จในงานเดิม แล้วให้มาเป็น กกต.จะเป็นมืออาชีพได้อย่างไร ว่างๆไปศึกษางานกับคุณสดสี อดีตกกต.หน่อยก็จะดี อย่าลืมนะ หากกกต.ไม่ทำตามหน้าที่ ไม่รักษากฎหมายประชาชนเขาฟ้องร้องเอาผิดได้นะ เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน

เอาละ  ในการวางแผนทำงานของคุณ ๆ ต้องวางแผนในเชิงยุทธศาสตร์ คือคุณต้องมี tactics หน่อย   .........  เพราะสถานการณ์เช่นนี้ เราจะไปทำอะไรต้องระวังว่า  มันจะเปิดช่องให้พวกโจรได้ประโยชน์  ได้ความฮึกเหิมขึ้นหรือไม่   เราต้องใช้แทกติกส์ที่มันจะต้องไปลดความฮึกเหิมของพวกกบฏลงไป ๆ    อุปมาเหมือนไม้มันยังสดอยู่ เราจะเอาไฟใส่  ยังไงมันก็ไม่ไหม้  เราต้องมีเชื้อมาสุมเสียก่อน   เช่นนี้เป็นต้น      ..........   ผมมีเจตนาช่วยกกต.น่ะครับ  เพราะยังไงคุณก็ต้องทำงานรับจ้างชิ้นนี้ให้เสร็จ ......   คุณต้องคิดแทกติกส์ทุกอย่างมาช่วยให้มันสำเร็จ   ............

งานของคุณมีลักษณะเป็น mission นะครับ  สมัยก่อน  มิสสั้นนี้ คือโองการของพระเจ้า  ที่สาวกต้องรับผิดชอบด้วยชีวิต  บางมิสสั้น มีคนตายนับหมื่นนับแสนคน เพื่อลากภาระ มิสสั้นนี้ไปสู่ปลายทางสู่ความสำเร็จ    

แต่ mission ของ กกต.วันนี้ คือรับมอบหมายจากประชาชน เป็นมิชชั่นจากประชาชน  ที่กกต.จะต้องทำให้เสร็จแบบถวายชีวิตให้เช่นเดียวกัน ......... นั่นคือศักดิ์ศรีของประชาธิปไตยครับ

ได้ข่าวว่าม็อบสุเทพ ให้คปท .นำไปสถานทูตอเมริกา  ไปประท้วงให้ สหรัฐอเมริกาเอาตัวท่านทูตคนปัจจุบันกลับไป เอาคนอื่นมาแทน .........  นี่คือเหตุผลหรืออย่างไรก็ไม่ทราบแน่  

แต่มันแปลก มันบ้า  ที่คุณไปอเมริกาทำไม ?  

เมื่อวานาจารย์แมว อาจารย์สนกฎหมายอีกคนขงธรรมศาสตร์ ประกาศต่อหน้าเวทีเสวนาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ย่างแข็งขันว่า ถ้า กกต. ไม่จัดเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 เจอคุกแน่เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและรัฐธรรนูญ ประชาชนทั้งประเทศจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ขอบคุณนักวิชาการทุกท่านที่ห่วงใยและรับผิดชบประเทศ เป็นมันสมองให้ประชาชน ประเทศไทยรอดพ้นหายนะมาได้จากรัฐประหารเพราะกรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี และคนดีในยุคนี้รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น