การต่อสู้ของ กปปส. เดินบนทางบาป ทางป่าเถื่อน ละเมิดผู้อื่นด้วยความเถื่่อนทั้งทางกาย เถื่อนทางวาจา เถื่อนถึงขนาดพุทธะอิสระนำมวลชนไปตบทรัพย์โรงแรมอย่างหน้าด้านๆ รีดไถคนปักษ์ใต้ และคนกทม.ให้บริจาคเงินสนับสนุนการชุมนุมของ กปปส. ในที่สุดความเถื่อนนี่แหละที่ทำลายความชอบธรรมของการชุมนุม คนกรุงเทพไม่กล้าเดินทางผ่านม็อบเพราะหวาดกลัวอันตราย จนเศรษฐกิจในย่านราชประสงค์ สีลม อโศกเจ๊งไปตามๆกัน ความรุนแรงของม็อบสุเทพทำให้รัฐบาลและฝ่ายประชาธิปไตยได้รับความชอบธรรมมากขึ้น เพราะพยายามอดทนอดกลั้นทนดูคนกลุ่มนี้ย่ำยีประเทศไทยโดยไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุมเพราะรัฐบาลประกาศแล้วว่าจะไม่ทำร้ายประชาชนเด็ดขาด มาถึงวันนี้นายสุเทพ ได้ประกาศยุติเวทีต่างๆและไปรวมกันที่เวทีสวนลุมพินีเพียงแห่งเดียวนี่คือความพ่ายแพ้ของการชุมนุมของม็อบนกหวีดซึ่งไม่ต่างอะไรกับม็อบสนธิ ลิ้มทองกุล 

มีประเด็นอยู่ที่ สองคนที่เป่านกหวีดนั้น  ถ้าเรามองตัวตนรูปร่างการแต่งตัว    เขาเป้นคนชั้นสูง หรือสังคมชั้นสูง  ระดับผู้ดิบผู้ดี  นะครับ   

และความจริงก็เป็นเช่นนั้น  โดยนางทยา เป็นลูกสาวของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรณ์  เศรษฐีมีทรัพย์ มีมรดกทรัพย์สินมากมาย     สามีนายณัฐพล ก็เคยเป็นนักการเมือง อดีคยสังกัดพรรคไทยรักไทยด้วยนะ  ...... 

มาประพฤติต่ำทรามเช่นนี้  เสียหมด เสียทั้งตระกูลวงศ์  และที่สำคัญเสียวัด  เสียอาราม ที่ตนเคยไปทำบุญด้วย

คนเขาไม่ดูถูกคนหรอกครับ       พระพุทธเจ้าสอนเรื่องคนคือกรรม    ทำดี  ดี   ทำชั่ว  ชั่ว 

เรื่องนี้เป็นประเด็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยด้วยครับ  วัฒนธรรมพุทธด้วยครับ  

 เดิมมีกฎหมาย เอาโทษได้    แต่เอเอสทีวี ซึ่งเป็นต้นบทนำการโฆษณาเลวทรามแบบนี้มาใช้ในประเทศไทย  เมื่อถูกฟ้องร้อง  กลับได้รับการคุ้มครองจากศาลครับ   ............   ศาลเริ่มเบี่ยงเบนมาตั้งแต่นั้น    คนชั่วก็ได้ใจครับ   

ต่อมานายชวน หลีกภัย  กับคนพรรคประชาธิปัตย์ ก็พาเหรดขึ้นเวทีเจ๊กลิ้ม  ทำการประกาศห้ามล้มเอเอสทีวีเป็นอันขาด

นายชวน หลีกภัย  ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่า  เอเอสทีวีเป็นทีวีทางเลือกของข้อมูลข่าวสาร สำหรับประชาชน  ใครจะล้มองค์กรใดใดก็ล้มไป แต่ล้มเอเอสทีวีไม่ได้  เอเอสทีวีต้องอยู่คู่ประเทศไทย  ........   มันก็ได้ใจมาถึงทุกวันนี้ครับ    และยังตกทอดมาสู่ทีวีของพวกประชาธิปัตย์ทุกวันนี้คือ  บลูสกายยังไงครับ   เลวยิ่งไปกว่าเอเอสทีวีเสียอีก  

คุณเห็นไหม   พรรคประชาธิปัตย์นี้ ได้สะสมความเลวทรามมานานเท่าไรแล้ว  

เราจะต้องกลับไปยึดมั่นในกฎหมายครับ   ต้องมีมาตรการลงโทษคนผิดเพื่อให้เข็ดหลาบ  พฤติกรรมชั่วทรามอย่างนี้จึงจะระงับลงได้ 

หรือท่านคิดว่าอย่างนี้ดีแล้ว   โอ   ถ้าคิดเช่นนี้ ประเทศเราก็กลับสู่ยุคป่าเถื่อนแน่ ๆ