นิพิธ อินทรสมบัติ เป็นทะแนะหากินตีนโรงตีนศาล   

อยากเป็นรัฐมนตรีกับเขา  ก็ไปได้กระทรวงวัฒนธรรม  ลงทุนไปยกยอปอปั้น เฝ้าบ้านให้เช้าเย็น  ยกย่องอย่างสูงยิ่งใหญ่แก่นายชวนด้วยวาทะว่า นายชวนเป็นผู้รอบรู้การเมืองไทยเปรียบปานเทพเจ้าการเมืองไทย  นายชวนก็เหลิง ในคำป้อยอของนายนิพิธ         และคงคิดว่าตนเป็นเทพเจ้าแห่งการเมืองไทยจริง ๆ (เพราะแท้จริงนายชวนไม่รู้เรื่องการเมืองประชาธิปไตย  หรือระบอบรัฐสภาเลย)   มองว่านายนิพิธ ตาแหลม  ก็ยกตำแหน่งรมต.วัฒนธรรมให้  พอได้เป็น  ก็ไม่ได้ทำวัฒนธรรมอะไร เพราะเอาของเสียไปทำรัฐมนตรีวัฒนธรรม   เหมือนเอาเหล็กขี้นกไปตีดาบ   มันก็เป็นดาบห่วย ๆ    ไปทำกระทรวงเขาเสื่อมเสียไปอีก 

 เพราะพวกทนายทะแนะนี้มีพื้นนิสัยช่างตำหนิ  ก็ไปตำหนินั่นนี่  จนลูกน้องไม่เป็นอันทำงาน

แกตำหนิแม้กระทั่งพระพุทธรูป   ว่าพระพุทธรูปองค์นี้ อะไร ๆ ก็สวยหมด  เสียอย่างเดียวพูดไม่ได้เท่านั้นเอง 

คนก็กลัว ไม่กล้าไปพูดด้วย  เดี๋ยวพูด ๆ แกจะขู่เอาว่า  เดี๋ยวฟ้องแม่งมึงติดคุกหัวโตเสียเลย   

วันนี้ก็ยกระดับ  จากฟ้องชาวนาชาวไร่  มาพยายามจะฟ้องนายกรัฐมนตรีฯ     หรืออย่างน้อยก็หาเรื่องฟ้องคนเสื้อแดงสักคน  ยกอันดับทะแนะเป็นทนาย 

แต่ที่นี่อย่าฟ้องผมนะครับ !!!  ผมแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตครับ 

วันนี้  แกไปยื่นฟ้องให้ศาลถอนประกันยศวริส ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก)  ......  นี่หรืออดีต รมว.วัฒนธรรม  ไร้น้ำจิตน้ำใจต่อนักการเมืองด้วยกันเอง  มีแต่คนพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ 

ในคราวเดียวกัน  นายสาธิต ปิตุเดชะ  สส.ปชป. ไปฟ้องเช่นกัน ให้ศาลถอนประกัน จตุพร พรหมพันธ์  และ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ  

พวกมันเป้นนักการเมืองเลว  ไร้น้ำใจต่อนักการเมืองด้วยกัน 

 เป็นนักการเมือง ที่ไม่มีความรู้อะไรทางรัฐศาสตร์ นโยบายและพรรคการเมือง อันจะเป้ฯหลักฐานการพัฒนาประเทศชาติ 

เท่าที่เห็ฯมีแต่คอยจ้องจับผิดคนทำงาน  วัน ๆ คอยพลิกหาข้อกฎหมาย  ที่จะเปิดช่องให้ได้ฟ้องร้อง  ที่ทำมาหากินตีนโรงตีนศาลได้ 

ทำงานอะเไรไม่เป็น 

และที่ถนัดคือ  คอยออกวาจาเยาะเย้ย ถากถางคนอื่น  อย่างเป็นหน้าที่....ออกกริยายิ้มเยาะ  เปล่งสายตาที่ดูถูกดูแคลนคนอื่น  อันเป็นสิ่งที่คนในพรรคการเมือง ปชป.ฝึกหัดกันมา อย่างเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคนี้  แต่นายคนนี้ถึงระดับ  ช่ำชอง ........ไม่สมกับเคยเป็นรมว.วัฒนธรรมของประเทศไทยมาเลยแม้แต่นิดเดียว    

ผลเสียก็คือ องค์รวมของระบบวัฒนธรรมของชาติ  เสียหายไปหมด