ReadyPlanet.com


นายชวน หลีกภัย พาปชป.ลงเหว เพราะโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ไปเลือกตั้ง สส. ไปเลือกตั้ง สว.


 นายชวน หลีกภัย ไปเลือกตั้ง สว. วันที่ 30 มี.ค. 2557  นักข่าวไปสัมภาษณ์ว่า  กปปส.+ปชป. ต่อสู้เพื่อให้มีการปฏิรูปก่อน จึงจะมีเลือกตั้ง  ท่านคิดว่าอย่างไร   นายชวนตอบหน้าตาเฉยว่า  การไปเลือกตั้งเป็นหน้าที่

ฟังเข้าที มีหลักการ 

 

มีนายระฤก หลีกภัย ไปด้วย  นายรฤก นี้เป็นคนโกง  ต้องคดีโกงแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศจนหมดอายุความ กลับมา   เป็นตราบาปไปตลอดชีวิต 

แต่เมื่อถามว่าทำไมไม่ไปเลือกตั้ง สส. เมื่อ 2 ก.พ.2557   นายชวนไม่ตอบ

 

นี่แหละเด็กกะล่อนเราดี ๆ นี่เอง  ศรีธนญชัยพอ ๆ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ   

นายชวน เป็นต้นกำเนิดการโฆษณาชวนเชื่อ หลายทฤษฎีของพรรคประชาธิปัตย์  โดยเฉพาะ  การพูดดำเป็นขาว การพูดขาวเป็นดำ   นั่นคือการโกหกพกลม  ตลบแตลง ด้วยเหตุผลน่าเชื่อถือ เพื่อประโยชน์ของตน  เพื่อเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น 

และเป็นต้นกำเนิดวาทะที่จงเกลียดจงชังประชาชนภาคอื่น  เป็นเหตุของการแตกแยกของประชาชน  เป็นประชาชนภาคใต้  ประชาชนกรุงเทพ  ประชาชนเหนือ  ประชาชนตะวันออกเฉียงเหนือ 

นายชวนประพฤติสิ่งเหล่านี้เพื่อเอาตัวรอดไปวันหนึ่ง ๆ แบบว่าไร้อุดมการณ์ และไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย  นับเป็นผู้ทรยศต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะบุคคลนี้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยได้ตลอดชีวิต (คือเป็นสส. อยู่ในสภาตลอดมา)  แต่ไม่เคยคิดกตัญญูต่อระบอบประชาธิปไตยเลย 

 

 

 ปชป.จึงไม่ไปเลือกสส. 2 



ผู้ตั้งกระทู้ สรศักดิ์ สนมไพร :: วันที่ลงประกาศ 2014-03-31 07:41:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3388339)

นายชวนมีความผิดอีกเยอะครับ  หากอ่านความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีอยู่อย่างไร   ทั้งหมดนั้นแบ่งเป้นของนายชวนได้ 50 %  ของ เปรม ตินสูลานนท์อีก 50 %  

ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2014-04-01 12:27:06


ความคิดเห็นที่ 2 (3388340)

 ผมจะเล่าให้ฟังครับ 

1.   นายชวนไปประชุมสหประชาชาติ เวลายืนจับมือกันร้องเพลงโอเลงซาย นายชวนยืนจับมือกับประธานาธิบดียอร์จ บุช มหาอำนาจแห่งอเมริกา สูงแค่รักแร้เขา  กลับมาประเทศไทย นายชวนคุยใหญ่โตว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีและนำประเทศไทยไปสู่ศักดิ์ศรีเทียบเท่ามหาอำนาจอเมริกา   พรรคปชป.ทั้งพรรค ชาวใต้ทั้งภาค จึงเลื่อมใสนายชวนอย่างที่สุด  อย่าว่าแต่คำว่านายหัวเลย นายชวนจะเป็นอะไรก็ได้ที่เมืองใต้

.....  ความจริง เขาเรียงชื่อประเทศไปตามอักษร  A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z       Thailand ก็เลยมาก่อน United States Of America  ก็เท่านั้นเอง  ....  แต่ท่านจะเห็นว่าพวกประชาธิปัตย์มีหัวกะล่อนเป็นนักโฆษณาชวนเชื่ออย่างไร นี่คือยุทธศาสตร์การโฆษณาชวนเชื่อที่ว่า The Sun Also Rises นั่นเองครับ

......มาดูคราวเกิดสินามิ ของบรรดาประเทศคาบสมุทร อันดามัน เดือน ธ.ค. 2547  ประเทศหลายประเทศรวมทั้งไทยอ่วมไปตาม ๆ กันคนตายรวมกันกว่า 150,000 คน ฟิลิปปินส์ประเทศเดียวร่วมแสน  ไทยตาย 5,000 เศษ   คนไทยก็รู้ดี  และไทยโดนอย่างหนักที่ภาคใต้ 5 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดตรัง บ้านนายชวนด้วย  ปรากฎว่านายชวน กับสส.ภาคใต้หายหน้าหายตาไปหมด ไม่โผล่หัวออกมาช่วยประชาชนเลย(ไม่มีข่าวนายชวนในหน้าหนังสือพิมพ์เลย)   แย่ไปกว่านั้น  เมื่อสหรัฐอเมริกาส่ง ยอร์จ บุช (คนพ่อ ที่นายชวนเคยไปยืนจับมือกับเขา คราวไปประชุม ยูโนที่ว่านั่นแหละ) พรรครีปับลิก มาด้วยกันลำเรือบินลำเดียวกันกับ นายบิล คลินตัน แห่งดีมอแครต (คนที่พูดว่า It tastes good กรณีไปลักลอบร่วมเพศกับนักศึกษาวิชาประชาธิปไตย ขณะไปทำเนียบขาว จนถูก Impeachment นั่นแหละครับ)  ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านของอเมริกาอุตส่าห์มาดูคิดหาทางแก้ปัญหาช่วยรัฐบาลทักษิณ   ดูคนอะไร...อย่างนายชวน จะออกมาต้อนรับ พูดคุยกับเขาหน่อย ขอบคุณเขาหน่อยในนามคนใต้   ไม่มีละ ........  คุณเห็นไหม  นายชวนแย่ขนาดไหน

และที่นายชวนพูดออกมาคนก็รับไม่ได้ครับ  ที่ว่า   ......  ไม่ใช่หน้าที่  เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเขา............ คุณจะด่านายชวนอย่างไร ล่ะ ?        ไม่ต้องด่าครับ   แต่ให้รู้ว่าคน ๆ นี้  ทำอะไรไม่เป็น  ดีแต่พูด และเวลาพูด  ก็พูดได้เพียง   เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่น   เท่านั้นก็พอ  

 

.......

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2014-04-01 13:16:14


ความคิดเห็นที่ 3 (3388341)

 2.   นายชวนไปประชุมสมาคมอาเซียน ครั้งที่ 1   ที่ประชุมถกประเด้นกันเอาจริงเอาจังกันตลอดเวลาการประฃุม  ทุก ๆ ผู้นำประเทศต่างมีส่วนในการให้แนวคิดเพื่อสร้างอาเซียนร่วมกัน............นายชวนไม่ได้ทำอะไรเลย  นั่งวาดภาพไปตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มประชุมจนจบการประชุม   พวกผู้นำอาเซียนต่างแวะมาดูภาพที่นายชวนเขียน  เขาก็มองไม่ออกว่านายชวนเขียนภาพอะไร  เขาก็พากันยิ้ม ถาม ๆ (เขามีมารยาทพอที่จะไม่ตำหนิว่าเองมาทำอะไรที่นี่วะ)  ว่าภาพอะไรครับ  สวยดี (ดูไม่ออกแต่อุตส่าห์ชมว่าสวยดี)     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-01 13:23:46


ความคิดเห็นที่ 4 (3388342)

 3.   นายชวน ไปประชุมอาเซียนอีกนะครับ  ตลกจะตายไป ผมคิดถึงทีไรก็หัวเราะทุกที

แกไปนั่งใกล้ ๆ นายโจเซฟ เอสตราด้าครับ  ปธน.ฟิลิปปินส์   เขาคงหาโอกาสมานั่งใกล้ ๆ น่ะครับ  จุดประสงค์ก็คือต้องการคุยเรื่องข้าวกับนายชวน   แต่ปรากฎว่านายชวนไม่รู้เรื่องข้าวไทยเลยแม้แต่นิดเดียว  

คือนายโจเซฟ เอสตราด้า ก็เคาะเข่านายชวน  บอกว่า ข้าวไทยกินอร่อยนะครับ    ยิ้ม ๆ    นายชวนก็เฉย  ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร .....นายโจเซฟ เอสตราด้าแกคงเคยกินข้าวไทย และแน่นอนรสชาติข้าวไทยต้องรับว่าที่ 1 ในโลก  ........(จะขายแพงเท่าไรเขาก็ซื้อ...แต่นายชวนไม่ประสีประสา)  แกก็ถามไปตรง ๆ   คุณขายข้าวหอมมะลิไทยอย่างไรครับ ผมจะขอซื้อเยอะ ๆ สักหน่อย.........นายชวนบอกว่า...เอ  ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าเขาขายเป้นตัน ๆ ละเท่าไร   เอายังงี้  เลิกประชุมแล้วผมจะให้พวกพาณิชย์ที่มากับผมมาติดต่อท่านอีกที.........    นายชวนก็เลยไม่ได้ขายข้าวครับ   ทราบว่าเขาเปลี่ยนใจไปซื้อ  ข้าเวียดนาม  ข้าวลาวเสีย  

4.    คราวยางราคาตกนะครับ คราวนั้นราคาแค่ กก.ละ 10-20 บาท เท่านั้นเอง(ผิดกับยุคทักษิณต่อมาได้ถึง กก.120 บาท...คุณคิดดูราวกับฟ้ากับเหว)   นายชวนบริหารอย่างไรครับ  นายชวนบอกว่าให้โค่นยางเสีย ปลูกจำปาดะแทน  

 

แม้จะล่วงมานานเป็นหลายปีแล้ว  ประชาชนทั่วไปยังไม่รู้เลยว่า จัมปาดะคืออะไร  ............  มีคุณค่าทางเศรษฐกิจพอจะทดแทนยางได้หรืออย่างไร   ทำไมวันนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่พูดถึงนโยบายว่าด้วยจัมปาดะเลย  ดีอย่างไรครับ ขนาดนายชวนจะไม่รู้อะไรเลยหรือ   ถ้าดีทำไมไม่ทำเป้ฯนโยบายของพรรค  ว่าจะทำอย่างไรกับจัมปาดะของนายชวน      ก็ขอถาม    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพย์ วันที่ตอบ 2014-04-01 13:49:01


ความคิดเห็นที่ 5 (3388343)

 5.    อันนี้ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อเป็นคนพูดว่า  ไปบ้านนายชวน  แม้กาแฟแก้วเดียวก็ไม่เคยเลี้ยงเพื่อน   .......   ผมคิดว่า  อะไรจะขนาดนั้นหรือ  แต่นายชวนนี่แกเคยเป็นศิษย์วัดนะครับ  ......อยู่กับหลวงพี่ ๆ เลี้ยงมา      แต่พอได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยทดแทนบุญคุณหลวงพี่เลย   เนรคุณจริง ๆ    

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-01 14:06:02


ความคิดเห็นที่ 6 (3388359)

 กรณีเหล่านี้ ล้วนสะท้อนไปถึงนายชวนว่าเป็นอย่างไร 

ในเรื่องสินามี ปี 2547 นั้น ประชาชนชาวใต้ 5 จังหวัดโดนมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ แต่ก็มีคนตายไปกับสินามิกว่า 5,000 คน  สรุปก็คือ เป็นมหาวาตภัยครั้งใหญ่โตมโหฬารมาก  จนกระทั่งประเทศสหรัฐอเมริกาส่งทูตมา 2 คน ล้วนเป็นอดีตประธานาธิบดี และที่แปลกคือเป็นประธานาธิบดีของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน  แต่ในการกอบกู้ ช่วยเหลือประชาชนนั้นรัฐบาทักษิณเข้มแข็งมาก  และนรม.ทักษิณได้ประกาศเพื่อยกศักดิ์ศรีของประเทศไทย  ไม่ขอรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ....  แม้กระนั้นก็ตาม  สิ่งที่เราน่าจะได้เห็นจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสส. และโดยเฉพาะนายชวน หลีกภัยเอง ว่าจะได้มีบทบาทช่วยประชาชนชาวใต้อย่างเป็นรูปธรรมสมกับเป็นคนของประชาชน หรือแม้โดยหลักมนุษยธรรม ซึ่งหมายถึงความเอื้ออาทรในระหว่างมนุษย์ เมื่อได้รับภัยพิบัติย่อมมีน้ำใจต่อกัน อันเป็นหลักการธรรมดา ๆ ของความเป็นมนุษย์ ผู้ใจสูง  (อย่างที่ท่านพุทธทาสท่านนิยามไว้)  แต่เราไม่ได้เห็นนายชวน  สส.  สว.ภาคใต้เลย  ที่สำคัญนายชวนยังบอกไปอีกว่า  ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายค้าน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเขา ...... ที่จริงนายชวนนับว่าเป็นหลีดเดอร์คนสำคัญ และยอร์จ บุช ผู้พ่อที่มาเยี่ยม พร้อม คลินตัน  ก็ระดับมุขบุรุษด้วยกัน ...เขามาเยี่ยมบ้านเรา เราก็น่าจะออกมาต้อนรับในฐานะมิตร ที่คุ้นเคย(ก็ขนาดเคยยืนเรียงเคียงกันร้องเพลงโอเลงซายในสหประชาชาติละ) ซึ่งทำอย่างนี้มีแต่จะได้ประโยชน์   แต่นายชวน ทำเสมือนคนมีปมด้อย  หายตัวไปอย่างเงียบกริบไปเลย  น่าขายหน้าจริง ๆ  

ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ  สินามิก็คือสินามิ  มันได้ทำลายภาคใต้ลงทั้งภาคอย่างย่อยยับ .... ชาวใต้ก็รู้   ......   และรัญบาลที่ช่วยประชาชนอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อยขณะนั้นก็คือรัฐบาลทักษิน ใช่ไหม ?    เขาแสดงออกถึงความสามารถอย่างเอกอุ จึงสามารถฟื้นสภาพภาคใต้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว  คืนความปกติให้ประชาชน ได้อย่างรวดเร็วน่าประหลาดมหัศจรรย์ใจ

 

พอ ๆ กับที่รัฐบาลนายชวนไปก่อหนี้ ไอเอ็มเอฟ ไว้  สร้างขี้เอาไว้ให้รัฐบาลทักษิณชดใช้นั่นแหละ...และทักษิณก็ใช้หนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดเสียตั้ง 2 ปีด้วยซ้ำ(แต่นายชวน พรรคปชป.หัวหน้าชาวใต้กลับพลิกประเด็นที่น่าชื่นชมยินดีนี้ไปอย่างไม่สมควร นั่นคือกลับกล่าวหาว่าทักษิณทำผิด    ว่าการใช้หนี้เสร็จเร็วกว่ากำหนดทำให้ประเทศเสียประโยชน์....ซึ่งไร้เหตุผลจริง ๆ ซึ่งค้านความรู้สึกคนไทยทั้งประเทศ  แต่นั่นแหละที่สะท้อนถึงนายชวนว่าเป็นแค่คอยอิจฉาริษยา ว่าไปตามประสาคนขี้อิจฉาริษยา ตนทำไม่ได้อย่างเขาก็ได้แต่ออกถ้อยคำใส่ร้ายไปอย่างไม่ละอายใจ)

 

ประเด็นคือ  ชาวใต้เหล่านี้  ไม่คิดถึงบุญคุณของรัฐบาลทักษิณเลยหรืออย่างไร  ?   เป็นคนไทย  ไม่น่าจะอกตัญญูขนาดนี้ .......

 

คืออย่างนี้ครับ  ชาวใต้นำโดยพรรคประชาธิปัตย์  ไม่ยอมยกย่องคนกระทำความดี ...........   มีมาแต่ก่อนแล้ว คราวพายุใหญ่ที่แหลมตะลุมพุก ก่อนหน้านั้นสัก 4-5 ปี  ซึ่งในหลวงได้ทรงโหราศาสตร์แล้วพยากรณ์เตือนล่วงหน้าเอาไว้อย่างแม่นยำ  แล้วเกิดพายุใหญ่ถล่มแหลมตะลุมพุก  ทำภาคใต้บอบช้ำอย่างที่สุดครั้่งหนึ่ง   .........

ท่านทราบไหม ว่าคราวนั้นคนทั้งประเทศไทยได้ช่วยกันซ่อม บำรุงภาคใต้กันครั้งใหญ่   ....   และในนามชาวพุทธ  วัดทุกวัดในประเทศไทย ได้จัดตั้งกองผ้าป่ากันทุกจังหวัด ได้เงิน ได้ข้าวสาร  แม้กระทั่งแจ่วบอง ปลาร้า หอมแดง กระเทียมโทนของชาวอีสาน  ก็ได้ส่งมาช่วยชาวใต้  

คราวสินามินี้ ยิ่งกว่าคราวนั้นหลายเท่า   

 

แต่เราไม่เคยนึกว่า ชาวใต้จะเนรคุณ    พวกเขาลืมไปว่า  ภาคใต้นั้น นาน ๆ ก็เกิดภัยธรรมชาติ  และอย่างไร   คนทั้งประเทศก็ได้ช่วยพวกเขามาตลอดโดยไม่บ่น และในวันหน้า   อย่าลืมว่าภาคใต้ก็ยังอยู่ในแดนภัยพิบัติ  ไม่วันนี้  ก็วันหน้า  ...... ถ้าท่านดูถูกน้ำใจของประชาชน คุณก็ไม่ใช่คนแล้ว 

 

แต่ทุกวันนี้  ชาวใต้ได้เป็นเช่นนั้น  คือ พวกเขาเป็นคนเนรคุณ    ซึ่งหมายความตามหลักการพุทธศาสนา   แปลว่า  ไม่เคยรู้บุญคุณคนที่เคยทำเอาไว้แก่เรามาก่อน   และมีพุทธภาษิตว่า   นิมิตตํ สาธุรูปานํ  กตญํญู  กตเวทิตา   เครื่องหมายองคนดีคือ ความกตัญญุ กตเวทิตา  ซึ่งตามหลักธรรมะข้อนี้ มีคุณสมบัติประการแรกคือ  กตัญญู  แปลว่ารู้บุญคุณที่คนอื่นทำเอาไว้แก่แผ่นดินเรา หรือแก่เรา  และ  ประการที่ 2  กตเวทิตา  แปลว่าทดแทนบุญคุณของท่านที่เคยทำบุญคุณไว้แด่เรา 

 

และเมื่อเป็นเช่นนี้  สัจธรรมก็คือ ผู้อกตัญญู และ เนรคุณคน  ย่อมไม่เจริญ    ย่อมได้ชื่อว่า ชั่ว เลว ถ่อย เถื่อน

 

 

ชาวใต้นำโดยพรรคประชาธิปัตย์  ได้กระทำการเกินเลยไปจากการเมืองปกติ  แต่ได้กระทำการข้ามเขตแห่งศีลธรรม จริยธรรม และศาสนาไป   กลายเป็นคนเนรคุณไปอย่างสมบูรณ์   

เพราะโดยระบอบสุเทพ - ชวน ที่มีน้ำใจอิจฉาริษยา ทุกวันนี้  ได้รวมหัวกันกล่าวโทษทักษิณ ชินวัตร  อย่างร้ายแรงเกินไป  จนเกินวิสัยชาวพุทธ หรือมนุษย์คนหนึ่ง ๆ   นั่นคือยุยงประชาชนทั้งภาคใต้ ภาคอื่น ๆ  และกรุงเทพมหานคร ลุกขึ้นขับไล่ทักษิณ ชินวัตร  ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  รวมทั้งคนในตระกูลชินวัตร ออกจากแผ่นดินไทย   ไม่อนุญาติให้แผ่นดินไทยเป็นที่อยู่ของคนสกุลชินวัตร ต่อไปอีก  โดยไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง  และโดยสิทธิอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์-นายชวน นายสุเทพ จะอาจกระทำการเช่นนี้ได้   (หากแต่แท้จริง เป็นด้วยอำนาจของความอิจฉาริษยาล้วน ๆ ของคนใจต่ำต่างหาก)

 

นี่แหละ  มองจงดี   ว่านี่เป็นพฤติกรรมสมควรหรือ   

และสมควรที่จะตราหน้าว่าชาวใต้เป็นคนเนรคุณคนทั้งแผ่นดินได้  เมื่อรำลึกถึงสินามิ 1 ธ.ค.2547 คราวนั้น  

 

 

ทุกวันนี้  ชาวใต้ลืมภัยพิบัติแหลมตะลุมพุก  ลืมภัยพิบัติสินามิ 2547 และลืมไปหมดว่า รัฐบาลใดที่ทุ่มสุดชีวิตช่วยฟื้นฟูดินแดนใต้  กลับไปเชื่อการชี้นำของคนที่ดีแต่พูด ทำอะไรไม่เป็น ผู้เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา  ลืมธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

เพราะโดยการนำของนายชวน หลีกภัย และพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ นายชวนได้รำเลิกบุญคุณว่าคนใต้มีค่าราคามากกว่าประชาชนทั้งหลายในประเทศนี้  นายชวนได้สร้างความแตกแยกพลเมืองของประเทศไทยเป็นชาวใต้  ชาวเหนือ  ชาวอิสาน  ชาวตะวันออก และชาวกรุงเทพมหานคร  โดยยกตนเหนือประชาชนภาคอื่น ๆ  

เมืองตรังเสียภาษีเยอะกว่าคนจังหวัดภาคอีสาน  ก็ควรได้รับงบประมาณมากกว่า คนอิสานมีสิทธิ 1 เสียง คนใต้ควรมี 10 เสียง  อะไรประมาณนั้น  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-01 17:43:53


ความคิดเห็นที่ 7 (3388361)

 เมื่อ 24 มิ.ย. 2475   คณะราษฎร์ ได้นำการปกครองระบอบทันสมัยมาปกครองประเทศไทย ๆ จึงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย  และด้วยเหตุนี้จึงมีพรรคการเมืองชื่อประชาธิปัตย์เกิดขึ้น   แต่พรรคนี้ ทั้ง ๆ ที่ชื่อมีความหมายของประชาธิปไตย แต่ก็ไม่เคยเป็นประชาธิปไตยเลย 

 

เป็นพรรคการเมืองที่บอดเบื้อ  ไม่เข้าใจประชาธิปไตย  จึงเป็นเพียงพรรคอวิชชาที่เก่าแก่  

และไม่ทราบบทบาทที่แท้จริงของตนในระบอบประชาธิปไตย   

ถ้าเข้าใจ พรรคนี้จะทำการบอยคอตต์การเลือกตั้งถึง 2 ครั้งหรือ ครั้งสุดท้ายนี้ คือ การเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 ถึงกับเหิมเกริมก่อการขัดขวางการเลือกตั้งอย่างเปิดเผย ด้วยกองกำลังติดอาวุธ  จนเจ้าหน้าที่จับตัวผู้ร้ายในการนี้ได้หลายคน 

และเป็นพรรคที่ก่อปัญหาทางการเมืองไทยโดยตลอดมา   แต่ต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้  

ดูบทบาทอันถ่อยเถื่อนในรัฐสภา  เราเห็นสมาชิกพรรคนี้กระทำอย่างอันธพาล นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ทำการขว้างแฟ้มเอกสารใสปธ.รัฐสภา  คนตระกูลเทือกสุบรรณ นายธานี บีบคอเพื่อนสมาชิกต่างพรรค(จิรายุ)เกือบตายเพราะหายใจไม่ออก ดีที่สลัดหนีได้    นายแทน เทือกสุบรรณ  ออกท่านักเลงโตยกเก้าอี้ทุ่มใส่ประธาสภาถึง 2 ตัว จนเก้าอี้ขาหักไปตัวหนึ่ง  นาย(หมากระเป๋า)นายสาธิต วงศ์หนองเตย ก็ก่อกวนไม่ให้เกิดความสงบในสภา เดี๋ยวลุก เดี๋ยวนั่ง    และปชป.ทั้งพรรคแสดงอาการเถื่อนทำเสียงชะนีโหยหวล หวีดร้อง  เป่านกหวีด  ส่วนหน.พรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ลุกขึ้นหนุนลูกพรรคให้ก่อการร้ายในสภา อย่างหน้าด้าน ๆ อัปรีย์จัญไรอย่างยิ่ง  ..............   และ  กปปส.ที่ต่อสู้นอกสภา ตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ตลก ๆ  สั่งรัฐบาลไปรายงานตัว  สั่งตำรวจ  สั่งปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดไปรายงานตัว  ใครเขาจะไป นอกจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปตั้งบังเกอรรายล้อมรักษาความปลอดภัยให้กปปส.  

 

ชาวใต้จะต้องใช้วิจารณญาณให้เที่ยงธรรมกว่านี้ 

 

ประเด็น  กตัญญู  กตเวทิตา  จะช่วยทบทวนชาวใต้ ให้เข้าสู่มโนสำนึกอันเที่ยงธรรมได้   

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-01 18:06:09


ความคิดเห็นที่ 8 (3388582)

 แต่ในประเด็นนี้  ประชาชนไทยจำนวนมากมีความคลางแคลงใจกันจริง ๆ สำหรับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  แกเป็นคนใต้คนหนึ่ง  ถ้าว่าคนใต้เป็นคนเนรคุณคน นายสุเทพนี่แหละเป็นยิ่งกว่าคนใต้ทั้งหลาย 

นายคนนี้มีนามสกุลว่า  เทือกสุบรรณ  สกุลเทือกสุบรรณ  ในประวัติมีแต่เรื่องโกง ทุจริต กันทั้งตระกูล ......เฉพาะที่เห็ฯในสภาก็เห็นพวกตระกูลนี้เป็นอันธพาลอย่างไรบ้าง    แต่เอาเถอะ  กรณีที่นายสุเทพ ยุยงชาวใต้ให้เกลียดชัง ทักษิณ ชินวัตร ด้วยข้อกล่าวหาอันไร้สาระ  หาเหตุผลได้ยากจริง ๆ  มีคำกล่าวว่า  โคตรโกง ไม่ใช่  แต่โกงทั้งคตร...ใช่ (ซึ่งคำนี้ มีขึ้นที่เวที ปชป.คราวไล่รัฐบาลทักษิณ สนามหลวง  คนที่กล่าวคำ โกงทั้งโคตร คือนายแพทย์ประเวศ วะสี  ราษฎรอาวุโส    สืบมาจนถึงปัจจุบันนี้  ไม่ได้ปรากฎว่า ทักษิณโกงอะไร  นอกจาก ไปเซ็นต์ชื่อ รับรองการซื้อที่ดินของภริยา ...แล้วถูกหาว่าโกง ........มันไม่สมเหตุผล  เพราะศาลไม่ได้บอกว่าภริยาผู้ซื้อ กับ ผู้ขาย  ไม่มีความผิดเลย   แต่ทักษิณ ซึ่งทำไปตามข้อกำหนดของสัญญา  ที่ว่า ต้องให้สามีลงนาม...หากสามีไม่ลงนาม การซ้อขายก็กระทำไม่ได้ .........  และนั่นมันไม่เป็นธรรม  ....

 

แต่นายสุเทพ  ได้ทำการปลุกระดมคนใต้ ให้เกลียดชังทักษิณ ชินวัตร  ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  และตระกูลชินวัตรทั้งหมด  และขับไล่ออกนอกประเทศ ทั้งตระกูล  จนเสื้อแดงพากันเปลี่ยนนามสกุลไปเป็นชินวัตรจำนวนมหาศาล  เพื่อให้นายสุเทพไล่ออกไปอยู่นอกดินแดนไทย   มันเป็นการกระทำที่ไร้ความเป็นไทย และไร้ความเป็นมนุษย์โดยแท้จริง  .....  มันยิ่งไปกว่า เนรคุณ   

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวินัย อินทรีย์ วันที่ตอบ 2014-04-06 16:28:40


ความคิดเห็นที่ 9 (3388629)

 นายชวน หลีกภัย เป็นคนดีแต่พูดจริง ๆ ครับ 

ตอนเป็นรัฐบาลจึงสร้างหนี้สินไว้เป็นจำนวนมาก   ที่เสียหายมากที่สุดก็คือปล่อยให้มีการโกงสารพัดโกงในรัฐบาลชวน 

และที่ทำประเทศเสียหายครั้งใหญ่ก็คือ  คดี ปรส. มีคนชื่อนี้  คือ  นายธานินทร์ นิมมานเหมินทร์  รมว.คลัง  นาย อมเรศ ศิลาอ่อน  

ต้องไปฟัง  วีระกานต์ มุสิกพงษ์ ครับ  เขาแฉได้ดีมาก รายการความจริงวันนี้   แล้วจะรู้ว่านายชวนทำความเสียหายไว้อย่างไรแก่ประเทศนี้ 

 

และทุกครั้งคราวที่ผลงานของ ประชาธิปัตย์สร้างไว้ให้รัฐบาลที่มาสืบอำนาจต่อ  เสียหาย  ด้วยฤทธิความอิจฉาริษยาของนายชวน  และพรรคประชาธิปัตย์ 

 

สรุปก็คือ  นามธรรมที่เห็นชัดเจนจากนายชวน หลีกภัย  คือ ความอิจฉาริษยาอย่างแรง ที่ซ่อนล้ำลึกในจิตใจลึก ๆ  (ความหมายของคำว่าอิจฉาริษยา ตามหลักสัจธรรมในพุทธศาสนาก็คือ   ความที่ทนอยู่ไม่ได้เมื่อเห็นคนอื่นทำความดี  พุทธองค์จึงทรงตรัสว่า  อรติ โลกนาสิกา  ความอิจฉาริษยาเป็นเครื่องทำลายโลก)   

 

นายชวนมองเหตุการณ์ของคู่แข่งได้อย่างน่าหวาดกลัวมาก คือ อย่างไร ๆ ทักษิณ ต้องดัง และยิ่งใหญ่แน่  เขามองล่วงหน้า ตั้งแต่เห็นเค้าทักษิณโผล่เข้ามาสู่การเมืองไทยแล้ว  และก็เป็นจริง  พรรคไทยรักไทย ได้ทำความถดถอยแก่พรรคประชาธิปัตย์ ในทันทีที่พรรคทักษิณปรากฎตัวขึ้น

 

แต่เนื่องจากนายชวนทำอะไรไม่เป็น(แกเป็นนักกฎหมาย  ทำเศรษฐกิจไม่เป็น ทำการตลาด ทำอะไรไม่เป็น   เช่นยางราคาตก แกก็รู้เพียงว่า ซัพพลายมันเยอะเกินไปก็ต้องลดซัพพลายลง  จึงให้ตัดยางทิ้ง ปลูกจำปาดะแทน  ...ไปประชุมต่างประเทศก็ไปหัวว่าง ๆ ไม่รู้เรื่องข้าวเลย  ขนาดเขาถามซื้อยังขายไม่ได้เลย ... เป็นต้น  จึงดีแต่พูด  สารพัดพูดที่ผิดหลักธรรมะไปทั้งหมด...ในวาทกรรมของประชาธิปัตย์ ที่เห้ฯชัดเจนทุกวันนี้ จึงมีวาทะถ่อยเถื่อนครบถ้วนลักษณะวาจาทุจริตตามหลักธรรมในพุทธศาสนา นับแต่ คำเท็จ คำโกหก ...มุสาวาท   คำหยาบคาย....ผรุสวาท   คำส่อเสียด...ปิสุณวาท  พูดให้ประชาชนแตกกันเป็นภาคใต้  ภาคอีสาน  ภาคเหนือ  และคนกรุงเทพมหานคร    คำเพ้อเจ้อ......สัมผัปปลาสวาท  คำที่ไร้เหตุผลรองรับ   )   แกจึงเริ่มพูดว่า  ประชาธิปัตย์และชาวใต้แพ้เลือกตั้ง    เราสู้เขาไม่ได้  เพราะทักษิณเป็นนายทุนสามานย์ เขามีเงินเยอะ เขาก็ใช้เงินซื้อเสียง เขาก็ชนะ   และคนภาคอีสานมันโง่ จน ซื้อได้ ชาวเหนือก็พวกเขา โง่   เราเลือกตั้งทีไรก็สู้เขาไม่ได้  ........   ซึ่งนั้นล้วนเป็นข้อกล่าวหา กล่าวโทษคนอื่น โดยไม่มีความจริง  ทั้งสิ้น (แท้จริง ปชป. กรณี สส.โกงเลือกตั้ง จนต้องติดคุกเพราะคำพิพากษาศาลฎีกา ก็เป็นกรณีของพรรคประชาธิปัตย์นั่นเอง เป็นประวัติศาสตร์หน้าแรกสุดของการโกงการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยไทย   ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจากกกต.ว่า ปชป.นี่แหละใช้เงินเลือกตั้งมากกว่าพรรคการเมืองอื่น  มากกว่าพรรคทักษิณถึง 2 เท่า ก็พรรคนี้)  ยังหน้าด้านกล่าวโทษคนอื่นไปได้  นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงอธรรม อกตัญญู คือแรงอิจฉาริษยาที่สุมหัวอก จึงร้อนรนอยู่ตลอดเวลา หาความสุขมิได้ตลอดชีวิต 

เพราะจริง ๆ  นายชวน ทำอะไรไม่เป็นจริง ๆ     ที่เล่ามาตั้งแต่ คห. 2  ถึง คห. 8  นั้นก็เห็นอยู่แล้วว่านายชวน กับพรรคปชป.ทำอะไรเป็นบ้าง ขณะบริหารประเทศก็มีแต่ปล่อยให้เกิดการโกงกินกันทั่วหัวระแหง ทุกองค์กรบริษัท  อันเป็นการเอาเปรียบประชามหาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง 

 

และที่น่าเกลียดที่สุดก็คือ  ทำกริยาอาการแห่งความอกตัญญู เนรคุณคน  กรณี พายุถล่มแหลมตะลุมพุก  และสินามิ 2547  ..........

กรณีสินามิซึ่งนายชวนฉลาดพอที่จะมองเห็นว่า    ทักษิณ จะต้องรุกเอาชนะใจประชาชนภาคใต้ได้อย่างเรียบเกลี้ยง ในคราวฟื้นฟูสินามิ  ฟื้นภาคใต้ทั้งภาคขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็คราวนี้เอง    และในความจริง  ทักษิณก็มุ่งมั่นจริง ๆ  ที่จะเอาชนะใจคนภาคใต้ให้ได้   จึงทุ่มเทอย่างสุด ๆ ใช้มันสมองทุกมันสมอง ความพยายามทุกความพยายาม  ในการฟื้นฟู  จนสามารถนำสภาพปกติคืนมาสู่ภาคใต้ได้อย่างรวดเร็ว ....แต่เราจะตำหนิรัฐบาลทักษิณหาได้ไม่ ในเมื่อเขาตั้งใจทำตามหลักประชาธิปไตยและหลักพุทธศาสนา ในเรื่องการทำความดี  มุ่งเอาชนะความชั่วด้วยความดีจริง ๆ ใครจะตำหนิได้ นอกจากคนพาล คนเนรคุณ อย่างนายชวน ปชป.(และ  มองถึงชาวใต้ในองค์รวมว่าเป้นคนเนรคุณด้วยหรืออย่างไร?)  

 

นายชวนรู้ดีว่าหากไม่ปฏิบัติการตอบโต้ด้วยวาทะของตน(ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้  พูดเอาดีเข้าตัวเขาเก่ง  พูดเอาชั่วเข้าคนอื่นเขาก็เก่ง  โฆษณาชวนเชื่อ เก่ง) ตัวเองก็ไม่รู้จะทำอะไร ช่วยประชาชนอย่างไร  ปชป.ก็เป็นเช่นกัน พวกดีแต่พูด ทำอะไรไม่เป็นเหมือนกันหมด จึงแก้ตัวไปว่า   นั่นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ๆ  จะต้องทำหน้าที่แก้ไข ฟื้นฟู (เราจึงไม่เห็นนายชวน กับพรรคปชป.ออกมาช่วยประชาชนของตนเองเลย)  ........และกลบเกลื่อนบุญคุณคนอื่นไปด้วยการกล่าวหาอย่างซึมลึกต่อไป  ด้วยวาทะ การเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  แม้กระทั่งไปดูถูกคนเหนือคนอีสานว่าเป็นคนโง่....  และเนรคุณคนไทย อีสาน เหนือ  ดังกล่าวในกรณี พิบัติภัยแหลมตะลุมพุก  และ  สินามิ 2547  ดังสรุปเอาไว้ใน คห.6 - 7  

จึงเน้นย้ำทุกครั้งเสร็จการเลือกตั้ง  ว่า  พรรคทักษิณใช้เงินมหาศาลซื้อชาวเหนือ ชาวอีสาน  โกงการเลือกตั้งครั้งมโหฬาร   ส่วน  ปชป.ซื่อสัตย์  ไม่โกง ไม่กิน เล่นการเมืองอย่างมือสะอาดบริสุทธิ์และยุติธรรม    ชาวอีสาน ฃาวเหนือ ตั้งรัฐบาลโง่ ๆ มา  ชาวกรุงคนฉลาดจะรับรัฐบาลโง่ ๆ ได้อย่างไร  ต้องล้มรัฐบาลโง่ ๆ  ....และวันนี้ นายชวนก็พาพวกโจมตีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า  รัฐบาลอีโง่...โจมตีเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย  ว่า  พวกควายโง่  

 

วันนี้ นายชวน ออกนำพรรคปชป. ลาออกจาก สส.ในสภา   มานำ กปปส. ปฏิบัติการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์  แล้วเลยไปถึงล้มระบอบทักษิณ.... พวกปชป.-กปปส.กล้าประกาศอย่างชัดเจน ไปทั่วโลกว่า .... ไม่พอ   ยังต้องขับไล่คนไทยสกุลนี้ออกจากแผ่นดินไทยทั้งตระกูล ไม่อนุญาตให้สกุลชินวัตร  โคตรโกง โคตรโง่  อยู่ในแผ่นดินนี้ไม่ได้    โดยสรุปเอาง่าย ๆ ว่า ถ้าตระกูลนี้ยังอยู่ในแผ่นดินไทย  ประเทศไทยไม่มีวันเจริญก้าวหน้าเท่าเทียมอารยประเทศ ...

 

อันเป็นแนวคิดของคนจนหนทาง .....   ไม่เข้าใจวิถีทางแก้ปัญหาตามระบอบประชาธิปไตย .....

ไม่เข้าใจประชาธิปไตย .ทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎรมาตลอดชีวิต....ตนได้ประโยชน์จากระบอบนี้เป็นพิเศษกว่าใคร ๆ ทั้งแผ่นดิน   ............  ยังสู้ชาวนาเสื้อแดงคนหนึ่งในภาคอีสานไม่ได้  ในด้านความเข้าใจประชาธิปไตย 

 

นี่คือคนโง่ที่แท้จริง   แต่ไปแก้ตัวเอาไว้ด้วยการมองว่าคนอื่นโง่  ......   ตัวความล้าหลัง ตัวอมาตย์  ตัวความฉุดความเจริญที่แท้จริง

 

ตัวการโฆษณาชวนเชื่อ นั่นคือถนัดการพูดกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ    เรียนรู้แต่เรื่องไม่เป็นมงคล ตลอดชีวิตทำแต่ความชั่ว เพราะ ทำชั่วทำได้ง่าย  ทำดีทำยาก  

 

แล้วแบบนี้นายชวนจะนำปชป.ไปไหนได้   นอกจากลงเหวไปกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณไปเท่านั้นเอง     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-08 07:12:50


ความคิดเห็นที่ 10 (3388649)

 วันนี้นายชวน ยังใช้วาทะแบบเดิม ๆ ครับ

เดลินิวส์ วันที่ 8 เม.ย.2557 พาดหัวข่าวว่า........."ชวนกรีดยับระบอบทักษิณ"

 

...."ชวน"กรีดยับ
     ระบอบทักษิณ

      พท.เหน็บมาร์ค ใจไม่สู้ลาออกไป

"ชวน" กรีดระบอบทักษิณสูญพันธ์แน่ ขอ ปชช.อย่าปล่อยคนโกงบริหารชาติ  อัดรบ.พฤติกรรมลุอำนาจ ทำผิดกฎหมายซ้ำซาก......

 

พูดในวันเกิดพรรคปชป.ครบ 68 ปีครับ  

 

ผมมองว่า นายชวนเป็นคนอิจฉาริษยาทักษิณเป็นการเฉพาะตัวครับ  คือเกลียดชังทักษิณเป็นการเฉพาะตัวจริง ๆ ด้วยคิดว่าทำอย่างไร ๆ ก็รวยสู้ทักษิณไม่ได้     สู้การเลือกตั้งกับทักษิณไม่ได้   .......ลักษณะนี้บอกถึง  ความอาฆาต พยาบาทด้วยนะครับ  

ผู้แสดงความคิดเห็น นายถนัด คอทองแดง ตอบโดยเว็บมาสเตอร์วันที่ตอบ 2014-04-08 08:34:44


ความคิดเห็นที่ 11 (3388683)

 คำว่า  อย่าปล่อยคนโกงบริหารชาติ  นี่แหละครับ นายชวนพูดโดยไม่ฟังข้อเท็จจริง  แต่โดยการโฆษณาชวนเชื่อ  พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น   .....  คือหลักการพูดกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ   จะต้องยืนยัน  แม้ยืนยันในสิ่งผิด แต่ในที่สุดคนก็คล้อยตามได้  นี่เป็นหลักการ  ซึ่งพรรค ปชป.ทั้งพรรคได้เรียนรู้และปฏิบัติมาอย่างนี้ .....นายชวนพูดคำนี้ อย่าปล่อยคนโกงบริหารชาติ   มาตลอดเวลา  โดยความหมายของแกคือ ทักษิณ และ พรรคทักษิณ   ผลก็คือ  จำเป็นต้องฝึกความหน้าด้าน     จนในที่สุด พูดเท็จไปคนด่าก็ทนได้อย่างแช่มชื่น..........อย่างนายชวนนี่ โกหกพกลมได้อย่างหน้าตาดี ๆ มากเลย  จนกลายเป็นวัฒนธรรมทราม ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์มาถึงปัจจุบันนี้    อย่างเช่นที่เพิ่งมาหัดวิถีประชาธิปัตย์อยู่ขณะนี้ก็คือ  สมชัย  ศรีสุทธิยากร  กกต.หน้าด้าน ที่ถูกด่าทั้งแผ่นดินขณะนี้นั่นเอง  ..........  อีกคนหนึ่ง  ฝึกเรียนรู้วิถืทางพูดชั่วมาโดยเฉพาะ  คิดดี ทำดี พูดดี  ไม่เรียน   จะเอาดีทางคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว ให้ได้   จนคนบ้านเกิดมันเกลียดจนไม่อนุญาตให้เข้าบ้าน  ฐานกะล่อน    ก็บักใส ไงครับ (นายสุริยะใส กะตะศิลา  คนราษีไศล ศรีสะเกษ)   ............ แต่จุดอ่อนของการโฆษณาชวนเชื่อ ก็คือ  ความจริง

 

ฉะนั้น เมื่อมีนปช. วีระ จตุพร ณัฐวุฒิ  ได้เปิดการต่อสู้ขึ้นโดย   ประกาศความจริงวันนี้   ทำให้เกิดการยับยั้งขบวนการโฆษณาชวนเชื่อของประชาธิปัตย์ .....เลยไปถึง  ขบวนการเจ๊กลิ้ม หรือพันธมิตร เอเอสทีวี ที่เป็นสถานีโทรทัศน์การโฆษณาชวนเชื่อเต็มรูปแบบโดยแท้จริง   ...   เลยมาถึง  บลูสกายทีวี  ทุกวันนี้  

 

บลูสกาย  ก็ได้แบบมาจาก  เอเอสทีวี  นั่นเอง    มันทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทยมานานแล้ว   เมื่อมีประชาธิปไตย  จะต้องมีการปฏิวัติทีวีเช่นเอเอสทีวี และ บลูสกาย   รวมทั้ง  พรรคการเมืองที่ดีแต่โฆษณาชวนเชื่อ..ปฏิวัติคนอย่างนายชวน นายอภิสิทธิ์  ด้วย  ...จากการทำอะไรไม่เป็น ดีแต่พูด   นี้  ให้เป็นทำอะไรเป็น  ไม่ดีแต่พูดบ้าง    สังคมจึงจะเดินหน้าไปได้อย่างมีวัฒนธรรมประชาธิปไตย  

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-08 19:49:20


ความคิดเห็นที่ 12 (3388713)

 ในการวิเคราะห์ปัญหา เรามีหลักการและเหตุผล ครับ

การที่พิศูจน์ว่า  ทำอะไรไม่เป็น ดีแต่พูด นั้น  ก็เห็นกันชัดเจน  ในระบอบประชาธิปไตย  ดูกันเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไป  การเลือกตั้งที่ผ่าน ๆ มา  ประชาชนจะเห็นว่า  มีพรรคการเมืองอยู่เพียงพรรคเดียวเท่านั้น ที่บอกให้รู้ว่าเขาทำอะไรเป็น   ก็โดยเสนอประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรมว่าเขาจะทำอะไรบ้าง  จะทำประโยชน์อะไรแก่ประชาชน.......  ทางวิชาการเรียกว่า   นโยบาย   

 

ท่านจะเห็นว่า พรรคการเมืองไทยยังด้อยพัฒนาและไม่เข้าใจวิถีทางนโยบายประชาธิปไตย กันเลย  .....   ก็โดยที่ไม่มีการเสนอนโยบายกันเลย   มีเพียงพรรคไทยรักไทย.....พรรคพลังประชาชน.....และพรรคเพื่อไทยเท่านั้นเอง  แต่เพียงพรรคเดียว ที่เสนอนโยบายต่อประชาชน อันเป็นการบอกประชาชนว่าเมื่อเขาได้เป้นรัฐบาลแล้ว เขาจะทำอย่างที่เสนอประชาชนไว้ หากประชาชนเห็นชอบเลือกพวกเขาเข้าไป  พวกเขาก็จะได้ทำตามที่รับปาก ที่เสนอประชาชนเอาไว้ โดยการอนุมัติของประชาชนโดยตรง  

พรรคทักษิณมีนโยบายหลายหลาก ในขณะที่พรรคอื่นทำไม่เป็น  และครั้นเป้นรัฐบาล เขาก็ทำได้ตามนโยบายที่รับปากประชาชนเอาไว้ทุกอย่าง  ............   จึงได้รับผลตอบแทนจากประชาชน   นั่นคือความรักความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชนมหาศาล มาตราบเท่าทุกวันนี้

 

นั่นคือพรรคไทยรักไทย....พรรคพลังประชาชน.....พรรคเพื่อไทย       เขาทำอะไรเป็น   สร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ  เช่นนโยบาย 30 บาททุกโรค  กองทุนหมู่บ้าน  โอทอบ  ทุนการศึกษา 1 ทุน 1 ตำบล  ทุนแพทย์ 1 อำเภอ 1 คน  บ้าน รถ  รถยนต์คันใหม่สำหรับคนไม่เคยมีรถ  คนไม่เคยมีบ้าน   เป็นต้น

 

ต่อมาก็มีนโยบาย รถไฟฟรี  โครงการเกษตรกร  เ่ช่นจำนำข้าว  พืชพันธ์เกษตร   โครงการพื้นฐานเพื่อยกระดับประชาชน 1 สิทธิ์ 1 เสียง ให้เข้ามาตรฐานของระบอบประชาธิปไตย  เช่นขจัดความยากจนทั่วประเทศ  (ซึ่งจะเห็นว่าแท้จริงนโยบายทักษิณ ค่อนข้างจะสอดคล้องโครงการช่วยเหลือประชาชนนานาโครงการ รวมทั้งเศรษฐกิจพอเพียง  ของในหลวง  นั่นหมายถึงแนวคิดสร้างพื้นฐานประชาธิปไตย  ให้เสียงส่วนใหญ่ยืนบนขาของตนเองได้   ให้เป็นเสรีหลุดจากความเป็นทาสทางเศรษฐกิจได้ นั่นเอง)  

 

ส่วนพรรคที่ทำอะไรไม่เป็นเลยคือพรรคประชาธิปัตย์     และดีแต่พูดนอกเรื่องนอกราวของนโยบายไปทั้งหมด  

 

เช่นในการเลือกตั้ง ครั้งล่าสุด 4 ก.ค. 2554  ... ในวันที่2-3 ก.ค. ก่อนเลือกตั้ง  พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีใหญ่ที่ราชประสงค์ คนทั้งหลายคอยฟังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอนโยบายอะไรบ้าง  แต่เปล่า  ไม่ได้ยินเลยแม้แต่นโยบายเดียว   เพราะแทนที่จะบอกนโยบายว่าพรรคของตนจะทำอะไรบ้าง ........  เปล่าเลย  มีแต่เรื่องน้ำเน่า  ปลุกระดมให้เกลียดชังคู่แข่ง  ใส่ความให้ร้ายพรรคคู่แข่ง.........ว่าเป็นพวกแดงเผาบ้านเผาเมือง   เป็นอาชญากร ....แล้วยังมีการแสดงละครของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  ร้องไห้น้ำตาไหลบนเวที  ถามว่าเพราะอะไร  บอกว่าสงสารทหารที่ตายในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. 2553  (ไม่ใช่สงสารประชาชน 100 ศพที่ถูกทหารฆ่าด้วยอาวุธสงคราม ฯลฯ)  

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่าง เพื่อแสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์และคนประชาธิปัตย์ทำอะไรไม่เป็น   โดยมองจากการเสนอนโยบาย นี่เอง  พรรคประชาธิปัตย์ โลเลเพราะไม่เคยทำงานบนหลักวิชา หลักการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องมาก่อน ........ที่เห็นชัดก็คือตนเคยแอบทำำนโยบายประกันราคาข้าวมาคราวอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมมนตรีค่ายทหาร .......ไม่ได้แถลงนโยบายในสภาผู้แทนราษฎร(แอบนัดกันไปแถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ....มันบอกถึงความขี้โกง  งุบงิบ ไม่โปร่งใส  ซ่อนพิรุธ  เหมือนโจร ฯลฯ)     ไม่ได้เอาออกมาหาเสียงก่อนเลือกตั้ง  แอบเขียนขึ้นมาตอนถูกบังคับว่าจะต้องแถลงนโยบายก่อนบริหารประเทศ(ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 176)  ...พรรคการเมืองนี้เขียนนโยบายโดยเหตุผลเพื่อการแถลงต่อสภา  ตามที่รธน.เถื่อนกำหนดไว้เ่ท่านั้น  ไม่ได้คิดว่าจะเสนอประชาชนก่อนเพื่อให้สัญญาจะทำนโยบายนี้  เท่ากับเลือกให้ประชาชนตามใจเรา  ไม่ใช่ตามใจประชาชน  อันเป็นการผิดหลักการไปทุกอย่าง.... นั่นก็เพราะทำอะไรไม่เป็นนั่นเอง 

 

เคยทำนโยบายประกันราคาข้าว   แต่ในการเลือกตั้ง ก.ค.2554 ดังกล่าว  กลับไม่กล้าเสนอนโยบายนี้ออกมาสู้กับพรรคเพื่อไทย ที่เสนอนโยบายจำนำข้าว  .......   เห็นไหม ?  การแข่งกันของพรรคการเมืองในการเสนอนโยบาย   นี่คือความเข้ม และเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ...   ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนล้วน ๆ   แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่กล้าแข่งขันด้วยนโยบาย  ................  แล้วสันดารเกเร อันธพาลก็เกิดขึ้นภายหลังที่นโยบายจำนำข้าวถูกใจประชาชน จนพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยเสียงข้างมาก .........   แทนที่จะมีจิตใจประชาธิปไตย  ยอมรับในความพ่ายแพ้ของวตน  และยอมให้นโยบายที่ประชาชนเลือก  ประชาชนตัดสินแล้ว เดินไปตามวิถีทางการบริหาร อันจะเป็นการนำประเทศเดินหน้าไป   สร้างฐานของประชาธิปไตยให้แข็งแรง

แต่พรรคนี้และพรรคพวกของเขา   ไม่ยอมรับ.....ไม่รับกติกา  และไม่รับคุณงามความดี ความสำเร็จของเขา    มองสิ่งที่เขาทำความดี มหาศาล เป็นสิ่งที่เลวร้าย.....อันเป้ฯผลจากดวงจิตที่คิดริษยา อาฆาต  แท้ ๆ   จึงออกมาเป้ฯพฤติกรรมชั่วร้าย ที่หาทางล้มล้างรัฐบาลทุกวิถีทางที่เปิดให้มีข้อกล่าวหาได้ .......  ดังที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เจอปัญหา อยู่ขณะนี้   ด้วยผลพวงของคนทำอะไรไม่เป็น แต่อิจฉาริษยาเป็น 

เป็นพรรคการเมือง ที่ไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ประชาชนและประเทศชาติเลย 

 

สรุป ในด้านเหตุผลทางนามธรรม ก็คือเมื่อทำอะไรไม่เป็น  แต่ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าใครทำอะไรเป็น จะเกินหน้าเกินตาตัวเองไปอย่างไร  รู้หมด  ....  แล้วก็ำทำได้อย่างเดียวไม่รู้จักปรับปรุงตัวเองไปทำดีอย่างเขาบ้าง ........(ไม่รู้ธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  การที่จะขจัดโรคอิจฉาริษยาคือต้อง  มุทิตาจิต  หมายถึง  ความพลอยยินดีกับเขาด้วย  และ  จงทำดีให้ได้อย่างเขา จนเกินกว่าเขา  นั้นจะแก้อิจฉาริษยาได้  ไม่งั้น จิตก็จะรุ่มร้อน และระเบิดออกมาทำลายโลก)    ก็คือคอยมองแต่ความพลาดความผิดของคนอื่น..... เจอปู๊บ  แม้เพียงเรื่องไร้สาระ ก็เอามาฟ้องร้อง  ก่อกวน  อ้างกฎหมายมาตรานั้นมาตรานี้  แล้วมีพรรคพวกคอยรับเรื่อง  เป็นทฤษฎีสมคบคิดกันไป  เขาก็ทำชั่วได้กว้างขวาง ทำลายคนดี  รัฐบาลดีของประชาชนไปได้เรื่อย ๆ (ก็ล้มรัฐบาลทักษิณ  สมัคร   สมชาย  และกำลังจะล้มยิ่งลักษณ์....ในขณะที่ตนทำผิดอย่างไร   ก็ถูกปลดปล่อยหมดจากพวกตนเอง)  ......... ในด้านนโยบายการเมือง  ตัวเองทำไม่เป็น ลอกกากนโยบายพรรคไทยรักไทยไปก็ยังทำไม่เป้ฯอีก เช่นนโยบายโอทอบ  เอาไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ ....ก็เลยดับไปเลยในยุคเด็กอภิสิทธิ์  (.....มีนโยบายไข่ชั่งกิโล  ที่โดนฝรั่งหลอกเอาเงินค่าจ้างไปง่าย ๆ ดาย ๆ โดยจ้างเขา 68 ล้านบาท .... เขาใช้เพียง 10,000 บาทเท่านั้นเองก็สรุปนโยบายไข่ชั่งกิโลได้  เขาก็ได้เงินค่าโง่ไปเปล่า ๆ จากรัฐบาลโง่ ๆ อภิสิทธิ์  67ล้าน 9 แสน 9 หมื่นบาทไปสบาย ๆ....)  ก็คอยแต่ตำหนิ   เวลาเขาเสนอนโยบายอะไรออกมา  ตามหลัก มันขึ้นอยู่กับการแข่งขันนโยบาย   แต่ประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายอะไรจะแข่งขัน  ก็ทำอย่างเดียวจนติดเป็นสันดาร คือมองหาข้อบกพร่องของเขา   แล้ว เอาไปโจมตี ..........และมีสูตรสำเร็จของพรรคนี้อยู่แล้วหลายสูตร  ล้วนเป็นเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  กลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ  เช่นที่นายชวนพูด นั่นคือ  อย่าปล่อยคนโกงบริหารชาติ  ....เราแพ้ทุนสามานย์  เขาโกงเลือกตั้ง เพราะเขามีเงินมหาศาล  และคนอีสาน คนเหนือซื้อได้  เอาไปด่าให้ประชาชนฝ่ายตนฟัง เพาะให้เกิดการอิจฉาริษยาตามตนไป  เพาะให้เกิดการเกลียดชังฝ่ายตรงข้าม   และที่เป็นนโยบายหลักกลับเป็นนโยบายการโฆษณาชวนเชื่อ คือพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น ฝ่ายตัวเองมือสะอาด บริสุทธิ์ ไม่กินไม่โกง ไม่ซื้อเสียง ทำการเมืองบริสุทธิ์ยุติธรรม ฯลฯ

ฝีปากของประชาธิปัตย์ทุกวันนี้  ได้ก่อเกิดสิ่งที่น่าเกรงกลัวเป้ฯอันมาก นั่นคือ ก่อเกิดการแตกแยกของประชาชนขึ้นเพราะฝีปากนายชวนและคนพรรคประชาธิปัตย์ ออกเป็นคนอีสาน  คนเหนือ  คนใต้  คนกรุงเทพมหานคร  

 

เช่นนี้   ถือว่า   เป็นศัตรูต่อประชาธิปไตย   ด้วยอวิชชาของตนเอง  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2014-04-09 08:42:29



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.