ReadyPlanet.com


กลุ่มพันธมิตรแตกคอกันเองเพราะอะไร?


หลายคนสงสัยว่าพันธมิตรออกมาครั้งนี้เป็นการเล่นละคร แต่ดูแล้วมันเป็นเรื่องจริง  และเรื่องจริง ๆ เบื้องหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์ หลายเรื่องเปิดเผยออกมาจากกลุ่มนี้  และความริงเรื่องหนึ่งก็คือ  พวกเขาเป้ฯพวกเดียวกันร่วมกันผล้นชิงรัฐบาลประชาธิปไตยมา  เป้นกลุ่มผู้ทำความชั่วร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้นรัฐประหาร และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์  และอื่น ๆ เราอยากเน้นว่าการก่อการร้ายทุกคดี  มีรัฐบาลนี้ร่วมกระทำการด้วยทุกเรื่อง  เป็นรัฐบาลโจรโดยแท้จริง



ผู้ตั้งกระทู้ นายเบญจะ ณ นคร :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-10 22:14:35


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3287480)

มาชัดเจนเอาตอนนี้  ที่พันธมิตร พธม.แยกตัวออกมาโจมตีรัฐบาล โดยยกเรื่องเขาพระวิหารขึ้นมาอ้างรัฐบาลขายชาติ  

เรื่องที่ใครร่วมมือกันล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน  และทั้งล้ม 2 รัฐบาลสมัคร สมชย ต่อมา  เพื่อให้พวกประชาธิปัตย์และทหารขึ้นครองอำนาจ  

 

ชัดเจนในหลักฐานที่ว่า  มีพรรคประชาธิปัตย์  ร่วมในขบวนการโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายรัฐบาลทักษิณ  และก่อเกิดสถานการณ์อลเวง อันเป็นเหตุของการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 

 

คือพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวการสำคัญตัวการหนึ่ง  ที่ทำลายชาติไทย  ดึงชาติไทยให้ตกต่ำลงไปอย่างทุกวันนี้ 

และครั้นได้เป็ฯรัฐบาลก็ไม่คิดการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยเลย  แต่สนับสนุนเผด็จการทหาร  และนำเอาวิธีการของเผด็จการมาใช้ปกครองประเทศ  เป็นที่มาของระบบการโกงกินขนาดใหญ่ อย่างไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น  

 

นี่ก็ชัดเจนขึ้นด้วยพวกเดียวกันเอง ลากใส้พวกเดียวกันเองออกมาประจานต่อหน้าประชามหาชนไปทั่วโลก  

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-03-11 08:44:13


ความคิดเห็นที่ 2 (3287595)

กรรม..เนื้อๆเน้นๆ   กรรม..ทำงานทุกเม็ดทุกดอก เคยทำกับคุณสมัคร-สมชาย อย่างไร ก็ได้รับผลกรรมอย่างนั้น

เขาพระวิหารฆ่าสมัคร-สมชาย อย่างไร  เขาพระวิหารก็กำลังจะฆ่าคนกลุ่มนี้อย่างนั้น

 ........คงเหลือกรรมใหญ่ฉากสุดท้าย..ใครที่ร่วมมือกันฆ่าทักกี้ ยึดอำนาจประชาชน

...ไม่นานเกินรอ... เตรียมตัวเตรียมใจรอชม...ฉากสุดท้ายแห่งกรรม เร็วๆ นี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ต.เต่าหลังตุง วันที่ตอบ 2011-03-12 00:31:05


ความคิดเห็นที่ 3 (3288062)

อีกอย่างหนึ่งครับ  กลุ่มพันธมิตรนี้ เดิมมีอำนาจบงการเบื้องหลังเป็น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเดียวกัน   คือกลุ่มเงามืดที่บงการจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ในค่ายทหารนั่นเอง   .....   บัดนี้ ได้เห็นแล้วว่า  พันธมิตรแตกกับรัฐบาลอภิสิทธิ์   และเป็นศัตรูกันอย่างแน่ชัดชนิดที่น่าเชื่อได้ว่าไม่อาจจะร่วมสังฆกรรมกันได้อีก...............

แต่สิ่งที่น่าคิดก็คือ  ใครอยู่เบื้องหลังพธม.  ซึ่งได้แสดงอำนาจ บารมีคุ้มครอง พธม.ไว้ได้อย่างแน่นอนที่สุด  ชนิดที่เป็นถึงผู้ต้องหาคดีสำคัญคือยึดสนามบิน ยึดหอบังคับการการบิน ชัดเจนจนกระทั่งอธิบดีกรมตำรวจพร้อมที่จะยื่นคดีฟ้องร้องได้ทุกเมื่อแล้ว   แต่ด้วยอำนาจอะไร  ทำให้ตร.ต้องยับยั้ง และล่าช้ามาไม่ส่งฟ้องมาตลอด ๆ  ทั้ง ๆ ที่อธิบดีกรมตำรวจเองก็ได้เอ่ยรับรองว่าสำนวนฟ้องร้องสมบูรณ์ที่สุดแล้ว  ไม่มีการแก้ไขใดใดอีกต่อไป

แล้วทำไมไม่กล้ายื่นฟ้องเสียที   นั่นแหละ บอกถึงอำนาจที่คุ้มครอง พวกพธม. ..... แต่ในขณะเดียวกัน...สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าอำนาจนั้นไม่ใช่อำนาจของรัฐบาลอย่างแน่นอน   ต้องเป็นอำนาจนอกรัฐบาล ที่มีบารมีเหนือรัฐบาล หรือรัฐบาลต้องเกรงขาม 

 

อำนาจนั้น คืออะไร   ใคร ..?

 

แต่บัดนี้    จะเป็นใคร  ไหนก็ตาม   มันได้พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า

1.   รัฐบาลนี้ ไม่มีอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือ  ส่วนหนึ่งประชาชนมอบอำนาจให้รัฐบาลนี้มา  รัฐบาลนี้ได้ส่วนหนึ่งแห่งอำนาจมาจากประชาชน  แต่กลับรักษาอำนาจไว้ไม่ได้  เอาอำนาจไปให้มืออื่น และยอมตนอยู่ใต้บงการคนหรือบุคคลอื่น  นี่เป็นการทรยศต่อประชาชน  ที่เอาอำนาจสูงสุดของประชาชนของประเทศไปให้คนอื่น ให้คนอื่น บุคคลอื่นซึ่งอยู่นอกสายตา  นอกการควบคุมตรวจสอบของประชาชน และเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่รู้จักหน้าค่าตาเลย   มีอำนาจในการบริหาร   เป็นเงาอยู่เบื้องหลังการปกครองประเทศไทยยุคนี้  นี่คือโจร    และรัฐบาลร่วมมือกับโจรหรือหมู่โจรปล้นประเทศไทย   นี่คือการหลอกลวงประชาชนอย่างน่าละอายใจอย่างยิ่ง   และนี่เป็นเหตุผลอันฉกรรจ์ยิ่งที่ประชาชนและคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายค้านผู้มีหน้าที่ร่วมกันในการตรวจสอบการบริหารของรัฐบาล  จำเป็นต้องเอารัฐบาลคณะนี้ออกไปเสีย  เพื่อป้องกันผลร้ายผลเสียหายแก่ประโยชน์ของชาติมากไปกว่าเดิมอีก

2.    พธม.ที่เหลืออยู่ ภายหลังที่แตกคอกับรัฐบาล  ก็ยังคงอยู่ใต้บารมี ใต้การคุ้มครองของมือมืดมือเดิมมือเดียวกันอยู่   

3.   แต่ทำไมมือมืดจึงพอใจให้เกิดสถานการณ์แตกกันของคนกลุ่มแกนนำที่เคยร่วมมือกันยึดอำนาจมาด้วยกัน    นี่ยังเป็นความลับดำมืดอยู่ 

4.    เราคงต้องคอยดูต่อไป  ว่าประชาชนจะสามารถกระชากหน้ากากที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์  และเบื้องหลังพันธมิตร และที่บงการให้เกิดการแตกแยกของพวกเดียวกัน  แต่ดูเหมือนว่ายังคงบงการทั้งรัฐบาลและทั้งพธม.ทั้งสองกลุ่มอยู่อีกต่อไป  เพื่ออะไร ?? และไม่เกรงกลัวต่อการกระทำผิดเลย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจะ ณ นคร วันที่ตอบ 2011-03-16 21:27:11


ความคิดเห็นที่ 4 (3288900)

 

 
 
ลูกน้องเจ๊กลิ้มก็ยังซื่อสัตย์ต่อเจ๊กลิ้มอยู่   เช่นที่กำลังพูดเอเอสทีวีอยู่ขณะนี้   ................   ยุแยก พอเห็นรอยปริแล้วแทรกตัวเข้างัดตีให้แตกกว้างออกไปทันที  
 
อ้างตัวเป้นนักกฎหมาย ...................สถาบัน รามคำแหงเสียด้วย ........ โจมตีเฉลิม อยู่บำรุงใหญ่เลย หาว่าคับแคบ เมาอำนาจ   ได้เป็นถึงรมว.มหาดไทย แต่ไม่พัฒนา    ดูถูกไปถึงสถาบัน ที่ให้เขาได้เป้น   ด๊อกเตอร์ เฉลิม อยู่บำรุง   ................. ก็รามคำแหงเดียวกับคนพูดนั่นแหละ แต่เขาเป็นถึงดร. ตนเองเป็น ป.ตรี ยังกล้าไปดูถูกเขา สถาบันเดียวกันและเขาเป็นรุ่นพี่....................   นี่คือแผนการยุแยก โฆษณาชวนเชื่อของเจ๊กลิ้ม   ............   แล้วหมอนี่ก็ไปยกยอ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ใหญ่เลย..................ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ตรงข้ามไปเลยกับเฉลิม อยู่บำรุง...............   นั่นแน่      เขาเห้นหรอกน่าว่านี่คือบ่างช่างยุ   ตัวร้ายของสังคม   ............... พูดเป็นวิชาการหน่อยก็คือ   เอาหลักการปกครองเมืองขึ้นมาใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ   หลักที่ว่า   divide and rule   นั่นเอง นั่นก็คือในบั้นปลายเขาประสงค์ร้าย.........
 
แล้วพวกที่มานั่งช่วยกันพูดทั้งหญิงทั้งชาย ก็แซม ส่งความหมายไปตาม ๆ กัน     แบบหมาหมู่นั่นเอง.........พอตัวหนึ่งเห่าขึ้น ตัวต่อ ๆ ไปก็เห่าขรมตาม ๆ ไป       นี่คือเอเอสทีวี .............. เขาเรียนรู้วัฒนธรรมหมามา.....เอาวัฒนธรรมหมาหมู่มาใช้เห่าหอน โฆษณาชวนเชื่อ ................   มันย่อมไม่กัดนายมัน   เจ๊กลิ้ม      แน่นอน   
 
 
 
และนี่คือสิ่งที่ต้องจำเอาไว้
 
 
 
........อย่าไปคิดว่า เขาพูดเข้าข้างใครคนใดคนหนึ่ง........ไม่ใช่หรอก   ..........   มันหมาบ้า   กัดหมด .......ขณะนี้ก็เปลี่ยนมาด่ารัฐบาลต่อไป   . ด่าตำรวจ..................(จะผ่าตัดตำรวจแห่งชาติ...)   ด่าใครต่อใครไปทั่วทั้งแผ่นดิน   ด่าทหารบก นี่หลักเลย ..........(แต่ก็แปลกจริง ๆ ที่ทหารบกตั้งแต่ อนุพงษ์ เผ่าจินดา ถึง ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้รับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีของทหารไทย ทนให้ด่าอยู่ได้........อันแสดงว่าเอเอสทีวีมีแบ๊คดีจริง ๆ).........
 
.....เว้นเจ้านายผู้ฝึกหัดการเห่าการหอนให้มันเท่านั้นคือ   เจ๊กลิ้ม     ที่พวกมันไม่ยอมออกปาก   ทั้ง ๆ ที่เจ๊กลิ้มนี่มีดีอะไรเพียง   กุ๊ยข้างถนน เท่านั้นเอง   ......... ก็พอ ๆ กับที่พากันด่ากษิต ภิรมย์ ว่ากุ๊ยการเมือง นั่นเอง    แต่ 2 คำนี้ คนเขาให้เจ๊กลิ้มมาก่อนแล้ว     ทั้งกุ๊ยข้างถนน กับ กุ๊ยการเมือง   .......
 
จะทำอย่างไรกับคนกลุ่มนี้.......................เอาตำรวจเทศกิจไปจะรื้อเต๊นต์เพื่อเปิดทางให้เขาจัดที่ทางสำหรับงานกาชาด   ก็ปรากฎมีกองทหารออกมาขัดขวางให้   อย่างเห็นชัดเจน.........ก็ไล่ รื้อไม่ได้   ...................   เราว่าตำรวจก็ต้องสู้อย่างฉลาดและระยะยาวเหมือนกัน โดยใช้ปัญญา    ทำให้เห็ฯว่า มีเบื้องหลัง มือที่ให้ความคุ้มครองคนพวกนี้อยู่ และเป็นมือที่ทรงอำนาจ..............ประชาชนก็ค่อยรู้ไป ....................................
 
มาสรุปแค่ว่า   ตำรวจเป็นใคร จะมารื้อมาไล่พวกเขาได้      ขนาดพระมหากษัตริย์ไทยพร้อมราชวงศ์ จะเสด็จบนถนนแห่งเกียรติยศของพระราชอำนาจแห่งกษัตริยาธิราชเจ้า โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมาร์ค เพื่อไปในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ โดยทรงพระราชสิทธิ์เด็ดขาดที่จะเสด็จถนนราชดำเนินอันเป็นเส้นทางของกษัตริย์ไทย   แต่หาอาจเสด็จได้ไม่..................เพราะคนกลุ่มเดียวกันนี้แหละ มีจำลอง ศรีเมือง สนธิ ลิ้มทองกุล และพลพรรคประชาธิปัตย์ ขวางทางพระราชดำเนินอยู่   จึงทรงต้องเสด็จเลี่ยงไปทั้ง 6 วันเสด็จ ลดพระราชอำนาจ ศักดิ์แห่งกษัตริยาธิราชเจ้าลง ไปเสด็จถนนลูกหลวงแทน ................
 
พวกเขายังบังอาจทำได้ขนาดนี้................
 
คนหน้าเวทีมีกี่คน................ กลุ่มหนึ่ง   คงจ้างมา..............เป็นหน้าม้า และพวกสันติอโศก     พวกบ้าอาระยะบุคคลเก๊ ๆ ๆ   ไร้สติสตังกลุ่มนั้น ....... พวกนี้หวังเพียงให้ได้ออกอากาศเผื่อคนในรัศมีคลื่นที่มีมากทั่วโลกก็ว่าได้   แต่หารู้ไม่ว่า คนรู้ทันหมดแล้วว่า..............................................นี่คือ   ยาพิษในสังคมเราดี ๆ นี่เอง .....
 
·         ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-03-24 10:42:21
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-03-24 12:49:42


ความคิดเห็นที่ 5 (3289214)

(จากข่าวสดครับ)

 

ศาลแพ่งพิพากษาให้ 13 แกนนำพันธมิตร นำโดยจำลอง-สนธิสมศักดิ์-พิภพ-ยะใส ชดใช้ 522 ล้านบาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย คดีพาม็อบบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ระบุเป็นการชุมนุมที่มิชอบ สร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรง ม็อบเหลืองระดมได้ 500 คึกคักแต่เช้ารอแกนนำนำบุกรัฐสภา ทว่ารอถึงมืดก็ไม่กล้าเคลื่อน "ปู่ชัย"เซ็งเลื่อนประชุมร่วม 2 สภาเพื่อพิจารณารับรองเจบีซีมาตอนบ่าย หลังนัดสายๆ แต่ผู้ ทรงเกียรติมากันโหรงเหรง น้องวีระจี้มาร์คช่วยพี่ชายพ้นคุกเขมรใน 7 วัน ถ้าเหลวอาจหันไปพึ่ง"ทักษิณ"



ตร. 11 กองร้อยตรึงสภา

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณารับรองรายงานผลการศึกษาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) จำนวน 3 ฉบับ ซึ่งคณะกรรมาธิการ เจบีซีพิจารณาเสร็จแล้ว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 11 กองร้อยวางกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งภายในและนอกรัฐสภา ตามพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เน้นตรวจเข้มรถที่มุ่งหน้ามารัฐสภา โดยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 อำนวยการด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้าไปภายในรัฐสภาต้องแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน เพื่อป้องกันมือที่ 3 หรือผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาก่อเหตุ เนื่องจากมีรายงานการข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเดินทางมารัฐสภาระหว่างการพิจารณาเจบีซีวันนี้

เสื้อหลากสีค้านรับรองเจบีซี

เวลา 09.00 น.กลุ่มเสื้อหลากสียื่นหนังสือต่อนายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานเจบีซี นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว. กทม. และนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้สมาชิกรัฐสภามีมติไม่รับรองบันทึกเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ และส่งคืนรัฐบาล หากรัฐสภารับรองบันทึกดังกล่าว ทางฝ่ายกัมพูชาจะอ้างเป็นหลักฐานว่ารัฐสภาไทยยอมรับว่าทหารไทย รุกล้ำดินแดนกัมพูชา และเกิดผลกระทบต่ออธิปไตยของไทยได้ หากรัฐสภารับรองทางกลุ่มจะเคลื่อนไหว

ภายหลังกลุ่มเสื้อหลากสียื่นหนังสือเสร็จ นายชัย ชิดชอบ เดินผ่านมาพอดี กลุ่มดังกล่าวจึงตรงรี่เข้าไปยื่นหนังสือ นายชัยต้องพูดเสียงดังขึ้นว่า "ยื่นไปแล้ว ถ้าจะรักชาติทำไมไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การจะรับรองบันทึกทั้ง 3 ฉบับดังกล่าวหรือไม่ขึ้นกับมติของที่ประชุม ผมร่วมโหวตด้วยไม่ได้ พวกคุณเลือกส.ส.มาเป็นตัวแทนแล้วก็ควรเชื่อใจ ถ้าไม่เชื่อใจวันข้างหน้าก็ไม่ต้องไปลงคะแนนให้ ถือว่ารับทราบก็แล้วกัน"

ส.ว.โวยมาร์คไทยเหมือนลิเบีย

ต่อมาเวลา 09.00 น.นายชัย ในฐานะประธานรัฐสภา เป็นประธานประชุมพิจารณา เจบีซี 3 ฉบับ แต่มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา จนเวลา 09.30 น.มีสมาชิกลงชื่อเข้าประชุมเพียง 151 คน จาก 554 คน ไม่ครบองค์ประชุม 277 คน นายชัยจึงเปิดให้สมาชิกหารือเรื่องทั่วไป

นายมงคล ศรีกำแหง ส.ว.จันทบุรี กล่าวว่า ประชาชน ส.ส. ส.ว. ข้าราชการ เข้ามาสภาหรือทำเนียบรัฐบาลลำบากมาก มีด่านกั้น ประเทศไทยใกล้จะเป็นลิเบีย มีผู้ชุมนุมยึดถนน มีทหาร ตำรวจตั้งบังเกอร์แล้วจะไปเลือกตั้งได้อย่างไร นายกฯ มีฝีมือบริหารประเทศเท่านี้หรือ รวมถึงปัญหาข้าวยากหมากแพง นายกฯ และรัฐบาลทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่แก้ปัญหา แล้วยังอยากจะกลับมาเป็นนายกฯ อีก ตนคิดว่าถ้าเจรจาไม่ได้ ขอพื้นที่คืนไม่ได้ ให้เอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอแกนนำผู้ชุมนุมดีๆ เขาน่าจะให้ หรือให้นายชัยไปช่วยเจรจาก็ได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รีบลุกขึ้นชี้แจงทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า เข้าใจว่าสมาชิกไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และอาจมีอารมณ์บ้าง แต่ฟังคำพูดแล้วไม่ค่อยสบายใจ ไม่ทราบว่าพูดได้อย่างไรว่าเหมือนลิเบีย เพราะแนวทางที่รัฐบาลบริหารขณะนี้เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และทำด้วยความพอดี หากจะใช้ความเด็ดขาดก็ทำได้ แต่จะทำให้สถานการณ์ลุกลาม รัฐบาลให้เกียรติเจ้าหน้าที่ที่ขออำนาจพิเศษตามกฎหมาย เมื่อรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงแล้วเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ แต่ต้องมีเป้าหมายเพื่อความสงบ เวลานี้ส.ส.ไปเลือกตั้งได้หมด ส.ว.ไม่ต้องมาห่วง เพราะไม่ได้ไปเลือกตั้งเหมือนส.ส. ฉะนั้นถ้าไม่สะดวกบ้างขอให้อดทน เพราะต้องอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

อนาถรัฐสภาประชุมล่ม

หลังจากเปิดให้สมาชิกหารือนาน 1 ช.ม. แต่สมาชิกยังไม่ครบองค์ประชุม ส.ว.บางส่วน และส.ส.ฝ่ายค้านเริ่มไม่พอใจ นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม วิปวุฒิฯ กล่าวว่า ขณะนี้การประชุมล่าช้าไปช.ม.ครึ่งแล้ว หากประชุมไม่ได้ต้องรออีก 3 วัน กรอบการเจรจาระหว่างประเทศจะเสร็จช้าไปอีกทำให้ประเทศเสียประโยชน์ จึงขอถามสมาชิกผู้ทรงเกียรติว่าความรับผิดชอบอยู่ตรงไหน

เวลา 10.50 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หารือว่า ตอนนี้ล่าช้ามาเกือบ 2 ช.ม.แล้ว ตามข้อบังคับการประชุมหากสมาชิกมาล่าช้าเกิน 30 นาที ประธาน สั่งเลื่อนประชุมได้ กระทั่งล่วงเลยมาถึงเวลา 11.15 น.ยังมีสมาชิกลงชื่อเข้าประชุมเพียง 261 คน นายชัยจึงแจ้งว่า เนื่องด้วยมีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อย จึงขอเลื่อนประชุมไปเวลา 13.00 น.

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กรณีอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ชะลอส่งทูตมาสังเกตการณ์ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาทางเทคนิคว่าเราต้องให้ได้ข้อสรุปก่อนว่าจะให้สังเกตการณ์ที่ไหน อย่างไร และการจะอยู่ที่ไหนต้องได้รับการยอมรับทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา หวังว่าการใช้กลไกของเจบีซีต้นเดือนเม.ย.นี้จะมีส่วนช่วยเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องทูตสังเกตการณ์จะต้องหารือในคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะถ้าจีบีซียังประชุมกันไม่ได้ ก็ใช้การพบปะกันแบบทวิภาคีก็คงจะต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเราต้องการให้อาเซียนสามารถมาดูได้ ดังนั้น ต้องรอให้ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ซึ่งเราไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ให้มา เพียงแต่มาต้องอยู่ในพื้นที่ตกลงกันได้จะไม่ได้เกิดปัญหาแทรกซ้อน

ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ไทยพร้อมสำหรับประชุมเจบีซีที่อินโดนีเซียวันที่ 7-8 เม.ย.นี้

พธม.ระดมได้ 500 คึกกันใหญ่

สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก ช่วงเช้ามีผู้ชุมนุมคึกคักกว่าทุกวันประมาณ 500 คน โดยส่วนหนึ่งทยอยเดินทางมาจากต่างจังหวัด และพักค้างคืนตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อรอมติแกนนำว่าจะเคลื่อนไปรัฐสภาเพื่อประท้วงการประชุมเจบีซี หรือไม่ ท่ามกลางตำรวจปราบจลาจล พร้อมโล่ กระบองหลายร้อยนายดูแลพื้นที่

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรแถลงว่า กรณีรัฐสภาจะพิจารณารับร่างบันทึกเจบีซี 3 ฉบับนั้น ทราบว่าตอนเช้ายังไม่มีการประชุม เนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม โดยมี ส.ส. หลายจังหวัดแจ้งพันธมิตรว่าจะไม่เข้าประชุม ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามพูดลักษณะว่า ร่างข้อตกลงชั่วคราวที่แนบเข้ามาในการประชุมนั้นไม่มีสถานภาพเป็นสนธิสัญญา จึงนำเสนอมาเพื่อทราบเท่านั้น อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ถ้ารัฐสภาเห็นชอบจะเป็นการรับร่างข้อตกลงชั่วคราวไปด้วย ทำให้รัฐบาลกัมพูชาสามารถอ้างข้อความที่รัฐสภาไทยให้ความเห็นชอบนำไปใช้เจรจากับนานาชาติต่อไปได้ ฉะนั้นข้อตกลงนี้ควรส่งเรื่องคืนกระทรวงการต่างประเทศ โดยที่ประชุมสภาไม่ต้องให้ความเห็นชอบใดๆ ทั้งสิ้น

นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตร กล่าวว่า ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวกดดันการประชุมรัฐสภายังมีอยู่ แต่จะรอดูผลการลงมติของรัฐสภาเสียก่อน เพื่อดูว่าบุคคลใดเป็นเป้าหมายที่จะประณามและคัดค้าน ซึ่งมวลชนพร้อมเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยแกนนำพันธมิตรจะสรุปท่าทีภายในวันนี้

ไชยวัฒน์รู้ตัวไม่เคลื่อนม็อบ

ส่วนที่เต็นท์เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำเครือข่าย แถลงว่า ความคืบหน้าการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ ที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกนั้น วันนี้นายการุณ ใสงาม และม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ จะมีโอกาสเข้าเยี่ยมทั้งสองคน เนื่องจากสถานทูตไทยในพนมเปญยืนยันว่าจะได้พบ หลังจากผัดมาถึง 4 ครั้งแล้ว จะได้สอบถามถึงการต่อสู้คดีว่าตัดสินใจอย่างไร เนื่องจากมีข่าวว่าทั้งสองลงชื่อขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว ครั้งนี้จะได้ยินจากปากนายวีระและน.ส.ราตรี

ส่วนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเจบีซีนั้น ทางเครือข่ายจะไม่นำมวลชนไปกดดันที่หน้ารัฐสภา เนื่องจากตนได้ทำหน้าที่ชี้แจงในรัฐสภาตามสิทธิ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว และยังนำข้อมูลแจกจ่ายต่อสมาชิกรัฐสภาด้วย เครือข่ายจะไปยื่นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวันที่ 28 มี.ค.เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระชี้มูลความผิดสมาชิกรัฐสภาที่รับรองเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ หากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาชี้มูลความผิดก็จะส่งอัยการส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

น้องวีระจี้มาร์คช่วยพี่ใน 7 วัน

เวลา 11.50 น.นายปรีชา สมความคิด น้องชายนายวีระ สมความคิด พร้อมด้วยน.ส.วริสา ทองเงิน หลานสาวน.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ ยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ ผ่านนายพนิช วิกฤตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เร่งรัดช่วยเหลือนายวีระและน.ส.ราตรี ภายใน 7 วัน นายปรีชากล่าวว่า นายวีระมีอาการป่วยหนัก ร่างกายทรุดโทรม แทบไม่มีแรง นายวีระจึงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและกดดันจนร่างกายทรุดโทรม จึงขอให้นายกฯ และนายพนิชช่วยเหลือเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ขั้นตอน อุทธรณ์หมดเวลาไปแล้ว ทางเดียวที่จะช่วยเหลือคือขอพระราชทานอภัยโทษ และนายวีระก็ไม่ได้ปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยโทษ

น้องชายนายวีระกล่าวอีกว่า หากครบ 7 วันรัฐบาลยังช่วยเหลือไม่ได้ อาจเทียบเคียงกับกรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมแล้วได้รับการอภัยโทษโดยไม่ต้องถูกกุมขัง

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่กรณีนายศิวรักษ์ได้รับความช่วยเหลือจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ใช้ความสัมพันธ์พิเศษกับสมเด็จฮุนเซน ครั้งนี้อาจไม่มีสายสัมพันธ์เช่นนั้น นายปรีชากล่าวว่า คงต้องใช้แนวทางของนายอภิสิทธ์ช่วยเหลือก่อน หากยังช่วยเหลือไม่ได้ตนก็ไม่ปิดกั้นแนวทางการช่วยเหลืออื่นๆ

ศาลปค.ยกม็อบเหลืองฟ้องผบ.ตร.

ที่ศาลปกครองกลาง นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง และคณะ มีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นฟ้องพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.รส. สั่งการใช้กำลังตำรวจยึดพื้นที่การชุมนุมบางส่วนบริเวณสะพาน ชมัยมรุเชฐเพื่อเปิดทางการจราจรเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มี.ค.โดยอ้างว่าจะใช้พื้นที่จัดงานกาชาดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีแนวโน้มว่าจะใช้กำลังสลายการชุมนุม จึงขอศาลพิพากษาสั่งให้ผบ.ตร.คืนพื้นที่การชุมนุมดังกล่าว และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ห้ามมิให้มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายจน กว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ทั้งนี้ ศาลเห็นว่าการใช้อำนาจดังกล่าวของผอ.ศอ.รส.เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ พ.ศ.2551 อีกทั้งการดำเนินการใดๆ ตามพ.ร.บ.นี้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม ศาลปกครองไม่อาจรับฟ้องคดีนี้ไว้ได้ จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้อง

ศาลแพ่งสั่งหัวโจกพธม.ชดใช้522ล.

วันเดียวกัน เวลา 10.00 น.ที่ศาลแพ่ง ศาลมีคำพิพากษาให้พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายนรัณยู หรือศรัญญู วงศ์กระจ่าง นายสำราญ รอดเพชร นายศิริชัย ไม้งาม นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำกลุ่มพันธมิตร จำเลยที่ 1-13 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจากการทำละเมิด กรณีร่วมกันนำผู้ชุมนุมบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ให้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือทอท. เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.2551

คดีนี้ ทอท.เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพล.ต.จำลอง และแกนนำพันธมิตร เป็นจำเลยที่ 1-13 สรุปว่า ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-3 ธ.ค.2551 จำเลยทั้ง 13 นำผู้ชุมนุมไปบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลและขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ขณะนั้น ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยทั้ง 13 นำกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากท่าอากาศยานทั้งสอง และทำให้อยู่ในสภาพเดิม และขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้ง 13 ให้การทำนองเดียวกันว่า โจทก์ยื่นฟ้องคดีโดยไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย การชุมนุมของจำเลยกับพวกได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และโจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย ศาลแพ่งพิเคราะห์แล้วมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าฟ้องโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย และคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลยุติธรรมไม่ใช่ศาลปกครอง ที่จำเลยอ้างโจทก์ไม่มีเจตนาฟ้อง แต่คดีนี้โจทก์กล่าวหาจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำละเมิด โจทก์ใช้สิทธิที่พึงมีฟ้องศาลได้ จึงเป็น การฟ้องโดยสุจริต

นำม็อบยึดสนามบินเจตนาร้าย

ประเด็นต้องวินิจฉัยต่อมาว่าจำเลยทั้ง 13 ร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ฝ่ายจำเลยต่อสู้ว่าผู้ชุมนุมมาโดยสมัครใจและใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ท่าอากาศยานเป็นสถานที่สาธารณะ และนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กก.ผอ.ใหญ่ ทอท. เป็นผู้ออกคำสั่งหยุดให้บริการสนามบินเอง แต่ปรากฏว่ากลุ่มพันธมิตรเข้าไปในท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง แม้จะเป็นพื้นที่สาธารณะที่จะต้องเข้าไปใช้บริการอย่างหนึ่งอย่างใดเยี่ยงประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการ แต่กลับใช้ชุมนุมกดดันรัฐบาล อีกทั้งกลุ่มพันธมิตรชุดแรกที่เข้าไปในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนมากสวมหมวกหรือผ้าปิดบังใบหน้า บางคนถือไม้ ท่อนเหล็ก มีดดาบ หน้าไม้ ส่งเสียงโห่ร้องอื้ออึง ปิดกั้นถนนสาธารณะทางเข้าออกท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง ตรวจค้นรถยนต์ทุกคันก่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อบุคคลอื่นว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย

นอกจากนี้โจทก์ยังมีพยานและภาพถ่ายหลักฐานว่า ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ หนึ่งในผู้ชุมนุมนำกลุ่มพันธมิตรเข้ายึดหอบังคับการบิน ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามบุคคลภายนอกเข้า อันเป็นการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าประสงค์จะให้การให้บริการการบินและการพาณิชย์หยุดชะงักลง ถือได้ว่าเป็นการแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำจำกัดความของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ที่ระบุว่า หมายถึงการใช้กำลังบุกรุกอากาศยานที่กำลังจะทำการบิน บุกรุกท่าอากาศยานหรือบริเวณที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการบิน ซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม นอกจากนั้นยังกำหนดให้โจทก์ต้องยึดถือความปลอดภัยของผู้โดยสาร ลูกเรือ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินและสาธารณชนเป็นอันดับแรก การกระทำของจำเลยทั้ง 13 และกลุ่มพันธมิตร ทำให้โจทก์ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาดังกล่าวได้ จนเป็นเหตุให้นายเสรีรัตน์ออกคำสั่งหยุดให้บริการสนามบิน เนื่องจากเกรงว่าพนักงานและประชาชนจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ประเทศเสียหายอย่างรุนแรง

คดีนี้การเข้าไปชุมนุมในพื้นที่สนามบินของจำเลยกับพวกมีวัตถุประสงค์ปิดท่าอากาศยานทั้งสองแห่งให้หยุดให้บริการ เพื่อยกระดับกดดันรัฐบาล เป็นผลให้ท่าอากาศยานทั้งสองแห่งไม่สามารถให้บริการได้ ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในหมู่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างรุนแรง จึงเป็นวัตถุประสงค์ให้เกิดความไม่สงบภายในบ้านเมือง ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธแล้ว ยังใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมเกินสัดส่วน จำเลยทั้ง 13 จะอ้างความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญย่อมมิได้ การกระทำของจำเลยทั้ง 13 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์

ประเด็นสุดท้ายที่ต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รับความเสียหายหรือไม่ เพียงใด เห็นว่า เมื่อการกระทำของจำเลยทั้ง 13 ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ตามมูลค่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับทางกายภาพ เช่น ประตู กระจก เครื่องสุขภัณฑ์ กล้องวงจรปิด เครื่องหมายบอกทางจราจร อุปกรณ์ต่างๆ และค่าเสียหายเชิงพาณิชย์ อาทิ ค่าเสียหายจากการหยุดให้บริการการบิน ค่าธรรมเนียมการใช้เส้นทาง ค่าเช่าพื้นที่ต่างๆ ดังนั้นเห็นควรให้จำเลยทั้ง 13 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์จากการบุกยึดสนามบินดอนเมือง รวม 12 ล้านบาทเศษ และชดใช้ค่าเสียหายจากการบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ รวม 510 ล้านบาทเศษ เมื่อคำนวณความเสียหายของสนามบินทั้งสองแห่งแล้วเป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2551 จนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งให้จ่ายค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์เป็นเงิน 80,000 บาทด้วย

รอถึงบ่ายรัฐสภาได้ฤกษ์ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อถึงเวลา 13.00 น. นายชัย ประธานรัฐสภา เปิดประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้ง มีสมาชิกลงชื่อเข้าประชุม 308 คน ครบองค์ประชุม นายเจริญ คันธวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาเจบีซี ชี้แจงว่า ผลการศึกษามีข้อสังเกต 5 ข้อ คือ 1.การสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนตามเอ็มโอยูปี 2543 เป็นข้อตกลงที่จัดทำเพื่อแก้ปัญหาทวิภาคี และแสวงหาความร่วมมือโดยสันติ และเอ็มโอยู 2543 ไม่ได้มีถ้อยคำใดแสดงว่า ไทยยอมรับแผนที่ระวางดงรัก 1 ต่อ 200,000 และทางการไทยยังเคยทำหนังสือถึงทางการกัมพูชาไม่ยอมรับแผนที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2551 2.การจัดทำหลักเขตแดน ที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า ไทยจึงควรใช้รูปแบบการเจรจาที่แตกต่างจากเดิม 3.พื้นที่พิพาทคือบริเวณปราสาทพระวิหาร ไทยควรเจรจาให้กัมพูชาเอาสิ่งปลูกสร้าง ประชาชน ทหารออกจากพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่พร้อม จัดทำหลักเขตแดน

4.กรณีทางการกัมพูชามักกล่าวหาว่าไทยละเมิดดินแดนพิพาทนั้น ไม่เป็นความจริง คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า ผู้แทนเจบีซีฝ่ายไทยควรโต้แย้งต่อไปหากมีกรณีทำนองนี้เกิดขึ้น 5.ร่างข้อตกลงชั่วคราวว่าด้วยปัญหาชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร ฉบับล่าสุดที่แนบบันทึกการประชุมเจบีซี ไทย-กัมพูชา วันที่ 6 เม.ย.2552 ที่พนมเปญ ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ และต้องเจรจาต่อไป ดังนั้น หนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ และการแนบร่างข้อตกลงชั่วคราว กับบันทึกการประชุมเจบีซีทั้ง 3 ฉบับ มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ทราบ มิได้ขอความเห็นชอบ

อภิปราย6ช.ม.ก่อนเลื่อนไป29มี.ค.

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. อภิปรายว่าทำไมเร่งรีบพิจารณาเรื่องนี้ รัฐบาลจะยุบสภาเดือนพ.ค. ควรให้รัฐบาลใหม่พิจารณา นอกจากนี้หากรัฐสภาเห็นชอบจะเท่ากับรับรองเจบีซีทั้ง 3 ฉบับเลยหรือไม่ เพราะเท่ากับยอมรับเอ็มโอยู 2543 ที่ยังมีปัญหาอยู่ ฉะนั้นควรถอนออกไปก่อน นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่มีการเสนอเรื่องใดๆ มาให้สภาแล้วจะมีผลต่ออธิปไตยและดินแดน ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เร่งรีบนำเรื่องนี้เข้าสภา เพราะเจบีซีประชุมเมื่อปี 2551 และ 52 ตอนนี้กัมพูชาพยายามจะให้ปัญหาไทย-กัมพูชายกระดับนานาชาติ ถ้าทิ้งเรื่องนี้ไว้ใครจะบอกได้ว่าจะไม่มีต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนไม่ต้องการให้สหประชาชาติหรืออาเซียนเข้ามาพิจารณาเรื่องเขตแดน ซึ่งจะยิ่งยากขึ้นเพราะต้องคุยกับหลายประเทศ เวลานี้ดีที่สุดที่จะร่วมประกาศจุดยืนของประเทศ

ที่ประชุมร่วมรัฐสภาอภิปรายอย่างกว้างขวางกว่า 6 ช.ม. ส่วนใหญ่เป็นห่วงการรับรองเจบีซี จะทำให้ไทยเสียดินแดน กระทั่งนายชัย ประธานที่ประชุมเห็นว่าใช้เวลาอภิปรายมาพอสมควรแล้ว ประกอบกับมีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมน้อย จึงเลื่อนไปพิจารณาต่อวันที่ 29 มี.ค.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนนอก วันที่ตอบ 2011-03-26 10:26:55


ความคิดเห็นที่ 6 (3289322)

ศาลปค.ยกม็อบเหลืองฟ้องผบ.ตร.

ที่ศาลปกครองกลาง นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง และคณะ มีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ยื่นฟ้องพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.รส. สั่งการใช้กำลังตำรวจยึดพื้นที่การชุมนุมบางส่วนบริเวณสะพาน ชมัยมรุเชฐเพื่อเปิดทางการจราจรเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 มี.ค.โดยอ้างว่าจะใช้พื้นที่จัดงานกาชาดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีแนวโน้มว่าจะใช้กำลังสลายการชุมนุม จึงขอศาลพิพากษาสั่งให้ผบ.ตร.คืนพื้นที่การชุมนุมดังกล่าว และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ห้ามมิให้มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายจน กว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ทั้งนี้ ศาลเห็นว่าการใช้อำนาจดังกล่าวของผอ.ศอ.รส.เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ พ.ศ.2551 อีกทั้งการดำเนินการใดๆ ตามพ.ร.บ.นี้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม ศาลปกครองไม่อาจรับฟ้องคดีนี้ไว้ได้ จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้อง
 

 

ฟังข้อความนี้แล้วคิดอย่างไร  ...........    พวกพธม.บังอาจขนาดไหน ?   และแสดงถึงมือที่หนุนหลังพวกนี้อยู่  ว่าขนาดไหน  .........  โจรที่หลบซ่อนอยู่....????    วันหนึ่งความจริงจะต้องเปิดเผยออกมา

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรีชา วันที่ตอบ 2011-03-27 19:52:47


ความคิดเห็นที่ 7 (3289397)

จำลองว่า  ไม่เดือดร้อน................................   ก็เพราะไม่รู้อะไรเป็นอะไร  นั่นเอง   .......................

พวกใช้ชีวิตที่ไร้สาระแก่นสาร      อุตส่าห์สละตัวตนมากินผักกินหญ้า.........อาบน้ำห้าขัน  เลิกกามกิจ  ทนอดทนอยากเพราะหลอกตัวเองว่าเป็นอาระยะ  ...........   ไร้กิเลสแล้ว  ไร้ความกำหนัดแล้ว   (ทั้ง ๆ ที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย.........เห็นหน้าเมียก็แอบชวนไปเสพกามกันอยู่ลับ ๆ ไม่เปิดเผย....หลบ ๆ  หลีก ๆ  กลัวเขาจับได้......)     .....

 

ก็ไร้สติ.................  คือไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่............

ถูก ผิด  ไม่รับรู้   แต่ไปเรื่อย ๆ   .....................   ตามสิ่งที่หลอกลวงนำพาไป

 

จำลอง  ศรีเมืองวันนี้  จึงหลอกได้เฉพาะพวกกองทัพอธรรม    ที่ต่างก็อยู่ในภาวะไร้สติ   หลอกตัวเองไปตาม ๆ กันนั่นเอง 

 

แล้วไม่รู้ประชาธิปไตยเลย    ทั้ง ๆ ที่ตนตั้งชื่อตนว่า   พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  

 

ก็มองจากความคิดของเขานั่นแหละ    เขาต่อต้านการเลือกตั้ง.................

โดยที่เขาไม่รู้ว่า   โลกทั้งโลกเขามองว่านี่คือ   ป่าเถื่อน    ยิ่งกว่าอนารยธรรมโลกล้านปีเสียอีก

 

คงไกลว่ามนุษย์วานรยุค 1.8 ล้านปีอีก.......

 

และ   เช่นเดียวกันสำหรับ    โพธิรักษ์.........แห่งสันติอโศก.............บุคคลผู้พากองทัพธรรมปิดเส้นทางพระราชดำเนินคราวนั้น.....................................

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุพร อ่อนราย วันที่ตอบ 2011-03-28 12:30:28


ความคิดเห็นที่ 8 (3289974)

ก็ลองย้อนไปดูบทบาทของ นปช.ระยะแรก ๆ (วีระ+จตุพร+ณัฐวุฒิ+หมอเหวง)  .......  ว่าพวกเขารู้อะไร ?    อันเป็นเบื้องหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549

 

ใครที่อยู่บ้านหลวง....สี่เสาเทเวศร.......
 

ที่พาคณะปฏิรูปเข้าเฝ้าในหลวงเพลาดึก ๆ .........

ใครที่ออกวาทะว่า      อภิสิทธิ์นี่แหละดี......ประเทศไทยโชคดีที่มีอภิสิทธิ์.....

 

และใครเป็นประธานองค์มนตรี..............แล้วดูเหมือนไม่รู้สึกกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของกษัตริย์  .............  กรณีปิดกั้นเส้นทางพระราชดำเนิน จนต้องทรงเลี่ยงไปเสด็จถนนลูกหลวงแทน  ถึง 6 วันของพยุหยาตราทางสถลมาร์ค  ......

 

องคมนตรีมีหน้าที่พิทักษ์สถาบันโดยตรงไม่ใช่หรือ ........................ แล้วเมื่อเกิดกรณีปิดกั้นเส้นทางพระราชดำเนิน  เห็นชัดเจนถึงการหมิ่นเช่นนั้นแล้ว  ไฉนเฉยเมยอยู่ได้......มาจนถึงบัดนี้............

 

และการที่ผู้กระทำการหมิ่น   ยังคงเดินหน้ากล้าปลุกระดมมวลชน.ด่าคนได้ทั้งแผ่นดิน  ต่อต้านเจตนารมณ์คนทั้งแผ่นดินได้...........นั้น.....มันได้บอกถึงความจริงอะไร ??

บอกถึงใครอยู่เบื้องหลัง  ......

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2011-04-02 09:10:58


ความคิดเห็นที่ 9 (3290809)

เปรม  ตินสูลานนท์  ในฐานะประธานมูลนิธิสานใจไทยสู่ไทยใต้    .......   ทำการดูหมิ่นศาสนาอิสลาม   อย่างที่ผิดต่อศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรงมาก(แต่พล.อ.เปรม นิสสัยคือโง่อวดดี มีทิฏฐิมานะจัด แต่เขลา   และเขลาเกินไปในเรื่องศาสนาสากล จึงกระทำไปอย่างไม่รู้ชัดถึงโทษภัยอันใหญ่หลวง  เข้าใจผิดในสาระ ว่าไม่เป็นสาระ  บอดตามืดมัวเห็นกงจักรเป็นดอกบัว จึงพลาด)   โดยไปอบรมเด็กอิสลามที่ระดมมาในโครงการนี้ (ปีละประมาณ 300 คน)  ให้เปลี่ยนศาสนา  โดยเริ่มเกลี้ยกล่อมให้เลื่อมใสพระเจ้าองค์อื่นนอกไปจากอัลเลาะห์...............

 

พลเอกเปรมกล่าวเปิดการอบรมในเดือนเมษายน ปี 2552 มีพล.องสุรยุทธ  จุฬานนท์ ร่วมในพิธีด้วย        ว่าประเทศไทยมีเทพยดาชื่อว่า  พระสยามเทวาธิราช  เป็นผู้คุ้มครองประชาชนไทยทุกคนไม่เลือกศาสนา  ขอให้เรามานับถือพระเจ้าองค์นี้..................

 

ตรงนี้แหละคือสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงโดยพล.อ.เปรมไม่เข้าใจ........................ แกไม่เข้าใจว่านี่เป็นจุดเปราะบางอย่างยิ่งของความแตกแยกและแตกหักในระหว่างศาสนา.........................

 

เพราะอิสลามเน้นย้ำเป็นหัวใจของศาสนาอิสลาม   เป็นหลักการสำคัญยิ่งกว่าหลักการอื่นใดทั้งสิ้น .............  เพราะอิสลามทั้งหมดคืออิสลามที่ไม่อนุญาตให้มีพระเจ้าองค์ใดอื่น   ในอดีตและในอนาคต....................  ในอดีตก็คือ   พระเจ้าของชาวคริสต์ชื่อ   พระยะโฮวา ......คริสต์เป็นศาสนาที่เกิดก่อนอิสลามประมาณ 600 กว่าปี   พออิสลามเกิดขึ้น   พระศาสดามุฮัมมัด  ก็ชี้สัจธรรมแห่งอิสลามว่า  พระเจ้าในอดีตไม่ใช่พระเจ้าองค์สูงสุดที่แท้จริง  ..............  และตรัสวาทะแด่มวลมุสลิมว่า    ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์อัลเลาะห์..........

 

และขึ้นชื่อว่า   มุสลิมแล้ว   หมายถึงผู้มอบชีวิตถวายแด่พระองค์อัลเลาะห์ เพียงองค์เดียวนี้เท่านั้น ...........  ไม่มีพระเจ้าอื่นใด...............................................และผู้ไม่เชื่อเช่นนี้จะถูกตราและบันทึกลงว่าเป็น  มุนาฟิกส์   ผู้ทรยศ  มีโทษสถานเดียวคือต้องตกนรกเพลิงถึง 2 โลก .................................ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า.

 

พลเอกเปรม โง่เขลา ไม่เข้าใจเรื่องนี้   จึงได้วางโครงการออกมาโง่ ๆ   คิดว่าจะเกลี้ยกล่อมเยาวชนอิสลามให้มานับถือพระเจ้าองค์อื่นได้ใต้ก็สงบ  .................จึงได้บอกว่า  ให้มานับถือพระสยามเทวาธิราช...........  นั่นแหละความคิดที่อันตราย......และโง่เขลาไม่เหมาะแก่สมัยอย่างยิ่ง................

 

ผลก็คือ  สถานการณ์สามจังหวัดภาคใต้  ก็เริ่มคุโชนร้ายแรงขึ้นมาทันที  นับแต่วาทะของพลเอกเปรม ตินสูลานนท์ ในฐานะประธานองค์มนตรี ได้ถ่ายทอดออกทางโทรทัศน์ไปทั่วโลก  (ไปถึงมุสลิมโลก)  ในเดือนเมษายน 2552    ตราบปัจจุบันนี้........และยากในอนาคต....................หากไทยไม่รีบเร่งเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว.............................

 

เพราะประชาธิปไตย   วิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น  จะสามารถจัดการให้พวกเราทั้งหลาย มาสู่ความเป็นธรรม  เป็นภราดรภาพ  ทั้ง ๆ ที่ต่างลัทธินิยม  ต่างเชื้อชาติ..ต่างศาสนา  ได้ .......................

 

ไม่มีความจำเป็นใดใดเลยที่ประชาชนชาวไทยจะมารำพึงถึงเรื่องความแตกต่างทางลัทธินิกายศาสนาที่แตกต่าง .............   หากเราเป็นประชาธิปไตย..........  เพราะสัจธรรมนั้นก็คือ   ประชาธิปไตยไม่มีศาสนา......(หมายความว่าทุกศาสนาอยู่ด้วยกันได้อย่างดีในระบอบประชาธิปไตย)  นี่คือความพิเศษของประชาธิปไตย   และนี่คือความเหมาะสมอย่างยิ่งของประชาธิปไตยสำหรับโลกยุคใหม่นี้

 

แต่นั่นแหละ  อมาตย์โง่ ๆ  หาเข้าใจไม่   จึงใช้สมองโง่ ๆ ไปก่อเกิดอันตรายแก่ประเทศชาติ  แก่ประชาชนร่ำไป  โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ..................ตราบที่พวกเขามีบทบาทมีอำนาจ รวมทั้งบริวารที่โง่เง่าแวดล้อมอยู่.......................

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สรศักดิ์ สนมไพร วันที่ตอบ 2011-04-09 14:39:45


ความคิดเห็นที่ 10 (3290831)

อยากให้พลเอกเปรม  ตินสูลานนท์ ประธานองค์มนตรี ได้อ่านจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน   ดังต่อไปนี้

 

๑๘.   อัลเลาะห์ได้ทรงแจ้งแก่บรรดาข้าพระองค์ให้รู้จักพระองค์ด้วยหลักฐานทางพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานและทางปัญญาไว้ว่า  แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดในภพนี้ที่ควรแก่การสักการะโดยเที่ยงแท้และถูกต้องนอกจากพระองค์เท่านั้น   อีกทั้งมลาอิกะห์ต่างก็ยืนยันตามที่ทรงแจ้งไว้  และพระศาสดาตลอดจนมุอ์มินผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายก็เป็นพยานทั้งวาจาและใจอีกด้วย  โดยพระองค์ทรงเป็นผู้ธำรงด้วยความเป็นธรรมในด้านบริหารสรรพสิ่งอันถูกพระองค์สร้างสรรค์  ย่อมไม่มีพระเจ้าอื่นใดในภพนี้ที่ควรแก่การสักการะโดยเที่ยงแท้และถูกต้องนอกจากพระองค์เท่านั้น  พระองค์ทรงอิทธิฤทธิ์ เด็ดขาดยิ่งในการปกครอง  ทรงประณีตแนบเนียนยิ่งในกิจการทั้งสิ้นของพระองค์

๑๙.   แท้จริงศาสนาอันเป็นที่ยินดีแห่งอัลเลาะห์นั่นคือศาสนาอิสลาม..........................

 

          ****  จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย โดยนายต่วน  สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี
                    ส่วนที่3 บทที่2 อาล-อิมรอน  หน้า 213  วรรคที่ 18  ให้สีโดยผู้แสดงความคิดเห็น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2011-04-09 20:45:37


ความคิดเห็นที่ 11 (3290834)

๒.   อัลเลาะห์นั้น  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอันควรแก่การสักการะโดยแท้จริงนอกจากพระองค์เท่านั้น  เป็นองค์นิรันดร  เป็นองค์ดำรงเองและให้การดำรงแก่สรรพสิ่งทั้งหลายเสมอไป

 

๓.   โอ้มุฮำมัด  พระองค์ได้ประทานพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานลงมายังเจ้า...........

 

 

          ****  จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย โดยนายต่วน  สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี
                    ส่วนที่3 บทที่2 อาล-อิมรอน  หน้า 204  วรรคที่ 2  ให้สีโดยผู้แสดงความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2011-04-09 21:09:55


ความคิดเห็นที่ 12 (3290836)

๔.   แท้จริงบรรดาผู้ไม่ศรัทธาต่อโองการทั้งหลายของอัลเลาะห์ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ตลอดทั้งพระคัมภีร์ต่าง ๆ ที่มีมาก่อนจากพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอานนั้น  พวกเขาย่อมได้รับโทษกระทงหนัก  และอัลเลาะห์นั้นทรงไว้ซึ่งอิทธิฤทธิ์เหนือกิจการทั้งสิ้นของพระองค์  จะไม่มีสิ่งใดสามารถห้ามพระองค์มิให้สำเร็จกิจไม่ว่าจะทรงสัญญาบุญหรือสัญญาบาปได้เลย  ทรงเป็นองค์ลงโทษอย่างหนักแก่บรรดาผู้ทรยศต่อพระองค์  และจะไม่มีผู้ใดสามารถลงโทษได้อย่างพระองค์เลย

 

๕.   แท้จริงอัลเลาะห์นั้น  แม้สักสิ่งเดียวทั้งในแผ่นดินและฟากฟ้า  ก็ไม่สามารถซ่อนเร้นพระองค์ได้................................................

 

 

          ****  จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย โดยนายต่วน  สุวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี
                    ส่วนที่2 บทที่2 อาล-อิมรอน  หน้า 205  วรรคที่ 18  ให้สีโดยผู้แสดงความคิดเห็น

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2011-04-09 21:21:49


ความคิดเห็นที่ 13 (3290837)

จะต้องให้อธิบายอะไรอีกหรือ  ???

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2011-04-09 21:24:27


ความคิดเห็นที่ 14 (3290867)

เราเพียงจะให้พลเอกเปรม  ตินสูลานนท์  ประธานองค์มนตรี   ได้รำลึกว่าตนได้กระทำความผิดร้ายแรงขนาดไหนต่อศาสนาอิสลาม      และเป็นเหตุของความปั่นป่วน  ไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้    อย่างที่มองไม่เห็นว่า   โดยนโยบายการทหารที่ใช้อยู่ขณะนี้จะแก้ไขอย่างไรได้   ......................

 

นอกจาก    ประชาธิปไตย.....................  เท่านั้นเอง   ประชาชนไทย ไม่ว่าเชื้อชาติ ศาสนา แตกต่างอย่างไร   ก็ไม่เป็นประเด็นเลย....................................

 

ในเมื่อพลเอกเปรม ก็ไม่ได้กระดิกเรื่องประชาธิปไตยเลย...แต่คิดจะเป็นใหญ่.....จะแก้ปัญหาได้อย่างไร   คิดง่าย ๆ  อย่างนี้แหละ...........   ทำไมไม่หนีไปเสีย   ..............ปล่อยให้คนที่เขามีความรู้ปกครอง...................เราคนโง่ก็วางมือไป....

ผู้แสดงความคิดเห็น ประยุกต์ นามเสพ วันที่ตอบ 2011-04-10 02:52:49


ความคิดเห็นที่ 15 (3290868)

คนที่เขามีความรู้.......................ก็แดงทั้งแผ่นดิน   ผู้ตาสว่างทั้งแผ่นดินนี่แหละพี่น้อง.............................................

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2011-04-10 02:57:31


ความคิดเห็นที่ 16 (3291184)

จัญไร   เป็นวรรณต่ำสุดในประเทศไทย  พอ ๆ กับ  วรรณะจัณฑาล ในอินเดีย   ณัฐวุฒิ  อธิบายได้ดี  และให้ความหมายถึงพวกอมาตยาธิปไตยในไทยยุคนี้     เป็นพวกโกง กิน  สองมาตรฐาน  ..................  พวกอมาตยาธิปไตยนำโดยเปรม  ตินสูลานนท์ นี่เอง 

 

จัญไรนี้ ไม่รูจักประชาธิปไตยเลย     จึงต้องไล่ไปเสียจากประเทศไทย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนนอก วันที่ตอบ 2011-04-13 21:16:14


ความคิดเห็นที่ 17 (3291682)

เจ๊กลิ้ม ขมับบุบกำลังพูดโฆษณาชวนเชื่อ  ด่าเจิมศักดิ์อยู่    ว่าเจิมศักดิ์ชอบกินขี้อภิสิทธิ์  ไม่ยอมดมขี้ทักษิณ  ..........

มีพี่น้องเขาฟังอยู่จำนวนหนึ่ง คอยแต่ตบมือ.................

 

ว่าพบความจริว่า  นักการเมืองล้วนสัตวนรกทั้งสิ้น    ..............     คำว่าสัตว์นรก  ย้ำคำของประพันธ์ คุณมี  ให้กำลังใจลูกน้องว่างั้นเถอะ

 

ว่า  โหวตโน

 

เขาหลอกตนเองว่ามีคนสิบ ๆ ล้านดูเอเอสทีวีอยู่

 

เจ๊กเหลวไหล   เสียเวลาฟังน่า..........................................

 

ถ้าด่าพลเปรมให้ฟังหน่อย  ก็จะน่าฟังหรอก   รอ ๆ คงอีกไม่นาน   คนทรยศ อกตัญญูคนนี้ก็จะด่าพลเอกเปรม     เพราะนี่คือหมาบ้า กัดไม่เลือก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กระวิน วันที่ตอบ 2011-04-19 21:14:05


ความคิดเห็นที่ 18 (3291684)

ก็ขี้พลเอกเปรมหอมหวานสำหรับสนธิ ลิ้มทองกุล  แต่ขี้ทักษิณเหม็น ......

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2011-04-19 21:16:05


ความคิดเห็นที่ 19 (3291685)

พูดเป็นนัย  ว่ามีมือปืนคอยจ้องตนอยู่    แล้วจบ

ผู้แสดงความคิดเห็น แดงแท้แจ๋ วันที่ตอบ 2011-04-19 21:17:52


ความคิดเห็นที่ 20 (3292196)

พวกเจ๊กลิ้มขัดกันรุนแรง   ต้องประชุมแล้วลงมติ  จะโหวดโน  หรือ จะส่งสมาชิกพรรคลงเลือกตั้ง...........ผลฝ่ายเจ๊กลิ้มชนะ   ต้องโหวดโน..........................สุริยะใส  กับ สมศักดิ์ หน.พรรค แพ้  ..........  สุริยะใสว่าจะทบทวนตัวเอง

 

เราขอให้ออกมาจากเจ๊กลิ้ม....................   มันไม่ได้ดีอะไรหรอกไปอยู่ข้างนั้น ............

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2011-04-24 22:48:27

ผู้แสดงความคิดเห็น บรรทัดทอง สุวรรณมาลี วันที่ตอบ 2011-04-24 22:54:45


ความคิดเห็นที่ 21 (3292838)

ใช่แล้วคุณ20.! เพราะทุกวันนี้ผมไปสืบข่าวพวกมันก็ว่ากันเหลือเกินให้โหวตโน ๆๆๆๆ โดยที่พวกมันเองยังไม่รู้ว่าพวกกุ๊ยอย่างคุณกำลังซ้ำเติมประเทศชาติให้แย่ลงกว่าเดิม พวกคุณก็ไอ้พวกวัชพืชทางการเมือง ไอ้พวกหนอนบ่อนไส้ มันเคยพูดเองว่าท่านทักษิณดีที่สุด มาวันนี้มันลืมไปแล้ว เอ้า พวกเขาโหวตโน แต่ผมขอโปรโมตว่า เลือกตั้งอย่าลืมเลือกพรรคเพื่อไทยนะครับ ไม่ใช่ช่วยเลือก แต่พวกเรา(ประชาชน)มีส่วนช่วยกันสร้างระบบการเมืองการปกครองวิธีใหม่ที่ดีกว่า  ไม่ใช่มัวแต่หลงคารมไอ้พวกขุนนางหน้าโง่ที่ยังทำตัวว่าข้าใหญ่ตลอดกาล แล้วพวกที่หลงผิดก็รีบเปลี่ยนใจด่วนเลยนะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เคน กบนอกกะลา วันที่ตอบ 2011-04-30 12:38:20


ความคิดเห็นที่ 22 (3292929)

แตกกันแล้ว  ระหว่างเจ๊กลิ้ม กับ พรรคการเมืองใหม่.................  เห็นนายประพันธ์  คูณมี ด่าพวกนายสมศักดิ์  โกศัยสุข  แหลกเลย   และให้พวกหน้าเวทีลาออกจากพรรคการเมืองใหม่ .......  เตรียมใบลาไว้ให้    ทำราวกับว่าตนมีวัฒนธรรมการเมืองระดับมาตรฐาน  อย่างนั้น.......

ผู้แสดงความคิดเห็น คนเกลียดเจ๊กลิ้มเข้ากระดูกดำ วันที่ตอบ 2011-05-01 23:04:12


ความคิดเห็นที่ 23 (3293050)

เมื่อเช้าเจ๊กลิ้มก็ลำเลิกบุญคุณ ทวงเงินบริจาคและแอร์ 10 เครื่องจากสมศักดิ์  หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ อ้างว่าคนเสื้อเหลืองเขาศรัทธาแกนนำพันธมิตรต่างหาก มิน่ามวลชนถึงลดลงเรื่อยๆๆ  และกลายมาเป็นคนเสื้อแดง บางคนเศร้าเสียใจมากที่เคยหลงเชื่อออกมาร่วมขับไล่นายกทักษิณผู้นำความสุขสบายมาให้ประชาชน  บัดนี้ประชาชนกำลังตาสว่างยิ่งขึ้นๆๆ และรู้ว่าใครกันแน่ที่รักและจริงใจกับประชาชน อยากรู้จังว่าจุดจบของเจ๊กลิ้มจะลงจากเวทีอย่างไร ไปอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ที่จริงเป็นการดีนะที่พันธมิตรยังชุมนุมอยู่เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งสาวไส้ให้กากิน และทำให้คนไทยได้รู้ว่าพันธมิตร ปชป. และอำมาตย์ทำอะไรปู้ยี่ปู้ยำกับประชาธิปไตยไทยบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น กระจกเงา วันที่ตอบ 2011-05-02 23:52:57


ความคิดเห็นที่ 24 (3299279)

สมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ใช่ไหม ?     ใช่.......พูดคล่องเชิงด่า..ใส่ร้ายคน  เก่งขึ้นเยอะเลย   ภายหลังง่อยเปลี้ยไประยะหนึ่ง.......

ขณะนี้กำลังด่าทักษิณ    ด่าเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง   และ ชื่นชม   พ่อท่านโพธิรักษ์และ  ขบวนการ  บุญนิยม   ไม่ใช่  ทุนนิยม    ........

 

เขาว่าต้องเอาธรรมนำหน้า  เอาบุญนำหน้า  เมื่อเข้าใจแล้วถึงจะมีคนมาฟังน้อยก็เหมือนมีคนฟังมาก   ไม่ใช่เรื่องสำคัญ   เขาว่าอย่างนั้น  .................

 

เขาถามทักษิณ ว่า   คุณจะนิรโทษกรรมคดีไหน   มีหลายคดี  .........   นั่นคือการบิดเบือนของคนเลวร้ายคนนี้  ..............

เขาพูดถึงเจ๊กลิ้ม  เจ้านายเขาว่า  มีคนเล่าว่าเจ๊กลิ้มรับเงินทักษิณมา เขาถามเจ๊กลิ้ม ๆ ตอบว่า เมื่อคน ๆ นี้คิดนิรโทษกรรมตนเองผมจะต่อต้านเป็นคนแรก  เมื่อคน ๆ นี้คิดล้มเจ้า ผมจะออกมาพิทักษ์สถาบัน   .............ไล่ทักษิณ ......

อ้างตนว่าจงรักภักดี อยู่อย่างปกติ ๆ   แต่ตนเองกระทำการร้าย  ไร้ความจงรักภักดีอย่างสิ้นเชิง  ............(ยังต้องรอการรับโทษฉกรรจ์อยู่)   คือปิดเส้นทางพระราชดำนิน  คราวถวายพระเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ สนามหลวงปีนั้น   โดยพวกคนกลุ่มนี้แหละ  ปิดเส้นทางอยู่ถึง 6 วัน  จนต้องเสด็จเลี่ยงไปใช้ถนนลูกหลวงแทน ทั้ง 6 วันทรงเสด็จฯ      (มีใครอาจขวางเส้นทางพระราชดำเนิน โทษนี้รอการตัดหัว 7 ชั่วโคตรอยู่........ผู้กระทำผิดซึ่งคนไทยทั้งประเทศเห็น ...ครบทั้งหมู่พวก พธม.  คือพวกจำลอง  สนธิ  ปชป.  รวมทั้งโพธิรักษ์  อาระยะบุคคลเก๊คนนั้น)  ...........

 

แต่สำหรับสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์  คน ๆ นี้ ยังมีโทษหนัก  คือความผิดบาปอย่างยิ่งใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง  ที่ยิ่งไปกว่าโทษต่อพระมหากษัตริย์ เจ้าชีวิต ในโลกมนุษย์  .........   เพราะได้กระทำความผิดต่อนามธรรมอันบริสุทธิ์ องค์สูงสุดของโลกทั้งสาม   ซึ่งมีความหมายถึงมหันตโทษทั้งในโลกมนุษย์ โลกเทพ และโลกนรก อบายภูมิ     ซึ่งเขาถูกลงโทษอยู่ขณะนี้ (ยิ่งกว่าโทษที่ลงแก่เทวทัต)   และยังต้องถูกลงโทษต่อไปในอบายภูมิและสวรรค์       นั่นเนื่องมาจากปากเป็นเหตุ  เปราะเผลอไปละเมิดองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ........  ”...เป็นศาสนา พระชินมุนีศรีมหาโจร เป็นศาสนาชินโจร มี พระชินมุนีศรีมหาโจรเป็นศาสดา ..”.   ซึ่งชาวพุทธทุกหัวระแหง ทุกสถาบันได้รับแจ้งเรื่องการละเมิดนี้อย่างทั่วถึงไปแล้ว .......

เห็นไหมครับ   นี่คือนักโฆษณาชวนเชื่อ  สมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ยังเลวร้ายในวาทะกรรมต่อไปอีกก่อนที่จะอำลาเวทีไป   เขาพูดถึงหลวงตามหาบัว วัดบ้านตาด  อุดรธานี  เอามาอ้างบ่อย ๆ  ในชั้นเชิงการโฆษณาชวนเชื่อ(ทั้ง ๆ ที่ท่านมรณภาพไปนานแล้ว)   ซึ่งเป็นการลบหลู่ ดูหมิ่นดูแคลนหลวงตามหาบัวโดยตรง   เพราะแอบอ้างว่า  หลวงตามหาบัวทรงญาณวิเศษ ได้เห็นแต่แรกแล้วว่าทักษิณเป็นคนเลว ที่เป็นภัยต่อชาติ ศาสนาและสถาบัน  เขาเอ่ยถ้อยคำประโยคหนึ่งโดยอ้างว่าหลวงตาบัวพูด ว่าดังนี้ครับ   "ทักษิณกินตับกินปอดของประเทศ  มันคิดล้มล้างสถาบัน มันวางแผนจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย" 

นี่คือคนเลว  คนบาปจริง ๆ   สมเกียรติ์  พงษ์ไพบูลย์  

เพราะหลวงตาบัวเป็นพระกรรมฐาน  คนจำนวนมากเชื่อว่าท่านสำเร็จธรรมอย่างน้อยก็ระดับพระอริยะบุคคลโสดาบัน   จะกล่าวร้ายคนทั้งหลายได้อย่างไร   ?     คุณคิดเอาเองใช่ไหม คุณสมเกียรติ  พงษ์ไพบูลย์ ???  และนี่แหละบาปมหันต์  ให้ต้องรับกรรมไปหลาย ๆ ชาติข้างหน้า

 

โปรดคลิกที่นี่เพื่อไปดูเรื่องราวนั้นครับ... (ตามเรื่องพฤติกรรมบาปมหันต์ของสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์คลิกที่นี่ครับ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุไหงปาดี ชินะกุล วันที่ตอบ 2011-06-27 23:44:04


ความคิดเห็นที่ 25 (3299593)

แล้วก็ถึงเวลาที่พันธมิตร จะเอวัง   วันที่ 1 พ.ย.2554    คอยดูจะโกหกหรือเปล่า ?

 

เรามองว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงระดับยุทธศาสตร์เลยละ     ...........   ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด.

 

แต่ข้อสรุปก็คือ  มือที่มองไม่เห็น หาทางลงให้ด้วยการให้สุวิทย์ คุณกิตติ  ลาออกจากกรรมการมรดกโลก......   ตามคำแนะนำของพันธมิตร .........  แสดงว่ามือที่อยู่เบื้องหลังยังคงมีอำนาจจับหมากตัวสำคัญในกระดานฝ่ายรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่

 

และนั่นคือ   ร่องรอยของการสร้างยุทธศาสตร์ใหม่ขึ้นมาจัดการกับคนเสื้อแดงประชาธิปไตยและฝ่ายค้าน...จะต้องคอยติดตามดู ...........

ผู้แสดงความคิดเห็น ขนิติ ขันคำ วันที่ตอบ 2011-06-30 09:06:45


ความคิดเห็นที่ 26 (3299744)

วันนี้เจ๊กลิ้มประกาศจะเลิกชุมนุม วันนี้ 1 ก.ค.2554  เวลาเย็น ๆ    ฉวยโอกาสนายสุวิทย์  คุณกิตติ หนีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ถอนตัวจากกรรมการมรดกโลกไปเสีย  ท่ามกลางคนงงทั้งประเทศว่าอะไรเป็นอะไร   แต่เจ๊กลิ้มอ้างทำตามข้อเสนอของพันธมิตร  ก็เอาไปโฆษณาต่อได้ว่า  พันธมิตรชนะแล้ว   เลิกชุมนุมได้   

 

ทีนี้ก็น่าคิดว่าเจ๊กลิ้มคิดจะทำอะไรต่อไป....................มียุทธศาสตร์ใหม่ ๆ หรือไม่ ?

คงจะรอฟังผลโหวตโน..........และรอใครสั่งต่อไปอีก

 

เราคิดว่า  ก่อนที่เจ๊กลิ้มจะอำลาไป  น่าจะเปิดเผยความจริงให้ชัดเจนสักครั้ง  ความจริงของเรื่องต่อไปนี้สัก 5 - 6 เรื่อง  คือ

1.    จริง ๆ  แล้วเจ๊กลิ้มมีเจ้านาย ฟังคำสั่งเขาจนถึงวินาทีนี้  อยากทราบว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร    วันนี้เจ๊กลิ้ม  กับพวกสันติอโศกที่มาฝึกหัดโฆษณาชวนเชื่อ โดยยอมเป็นลูกศิษย์เจ๊กลิ้ม กุเรื่องขึ้นว่า เจ๊กลิ้มหันจาก ปชป.ไปเชียร์ยิ่งลักษณ์แล้ว  ซ้ำนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มนุษย์วานร 1.8 ล้านปีคนที่เจ๊กลิ้มดูถูกอย่างหนักว่า  ลูกกำนันสู้ลูกเจ๊กอย่างผมไม่ได้ ... ก็พูดให้สื่อทราบว่าเจ๊กลิ้มเปลี่ยนไปเข้าข้างยิ่งลักษณ์จริง ๆ  ....  แต่ที่จริงเป็นการกุเรื่องขึ้นเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง  กุเรื่องขึ้นว่ามีคนสืบทราบว่าทักษิณให้เงินเจ๊กลิ้ม ๆ รับเงินทักษิณมาให้เชียร์ยิ่งลักษณ์  แล้วแก้ตัวเป็นพัลวันทางเอเอสทีวีว่าไม่ได้รับเงินทักษิณมา แล้วเอาเป็นชนวนจุดด่าทักษิณต่อไปอีก   (ซึ่งที่จริงไม่มีเหตุผลเลยว่าทักษิณจะให้เงินเจ๊กลิ้มไปทำไม   เรื่องเดิมที่ผิดใจ แค้นทักษิณ ก็เพราะเจ๊กลิ้มอุตส่าห์หมอบราบกราบกรานเข้าไปขอเงินทักษิณ ส่วนทักษิณพูดภายหลังว่าทำไม่ถูกระเบียบก็ไม่ให้เงินเจ๊กลิ้ม นี่เอง  เพราะทักษิณมองเจ๊กลิ้มเป็นสิ่งชำรุด สิ้นสภาพมานานแล้ว .....ซึ่งความจริงก็คือเจ๊กลิ้มเป็นคนล้มละลายทางการเงิน  ตามคำสั่งศาล    ในทางการเมืองทักษิณก็เหยียดด้วยสายตาท่าทีว่าเจ๊กลิ้มเป็น  กุ๊ยการเมือง  กุ๊ยข้างถนน..นั่นคือเพลิงโหมความแค้นของเจ๊กลิ้มมาไม่มีวันดับ  ......ดูเรื่องเดิมได้)   

2.   อยากทราบจริง ๆ ว่า ใครลอบยิงกบาลเจ๊กลิ้ม  สะใจคนที่เกลียดเจ๊กลิ้มจริง ๆ  และยังสะใจไปสุด ๆ ที่เจ๊กลิ้มไม่ตาย   ซึ่งเรื่องนี้ เป็นไปไม่ได้อีกเช่นเดียวกันว่าเจ๊กลิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว  แท้ที่จริงเจ๊กลิ้มรู้ดี  และเป็นความขมขื่นกล้ำกลืนสุดทนสุดกลั้นของเจ๊กลิ้ม  เพราะรู้แต่พูดไม่ได้  แถมยังอาจจะถูกควบคุมเหมือนถูกปืนจี้หลังอยู่ตลอดเวลา ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ด่าคนนั้นคนนี้....  ก็ขอให้เปิดเผยเสียหน่อย ก่อนจะเลิกชุมนุม  เพราะหากไม่เปิดเผย เกรงว่าจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว  เพราะชีวิตเจ๊กลิ้มขณะนี้ อยู่ในอัตราเสี่ยงค่อนข้างสูงแม้เจ๊กลิ้มเองก็สามารถสัมผัสได้  

3.    ตอนยึดทำเนียบ 193 วัน  เจ๊กลิ้มไปใช้วาทะโวหารอย่างไร  จึงเอาชนะใจโพธิรักษ์ แห่งสันติอโศกจนยอมมาเป็นลูกน้องเจ๊กลิ้มมาจนถึงปัจจุบันได้   เท่ากับได้กองกำลังขบวนการไม่กินเนื้อมาทุกสาขาทั่วประเทศ  เคยมีผู้พยากรณ์ว่าเจ๊กลิ้มไปยกยอปอปั้นว่า ท่านอาระยะบุคคลโสดาบันผู้ยิ่งใหญ่ พ่อท่านโพธิรักษ์...........   ทำนองเดียวกับไปยุยงหลวงตาบัววัดป่าบ้านตาด...ท่านหลวงตาผู้เป็นโสดาบันสิ้นซึ่งกิเลสแห่งยุค ..........      ถูกไหมล่ะ ??   อีกเรื่องหนึ่ง อยากให้เปิดเผยความจริงกรณีระดมพระป่านับพันรูปมาทำพิธีคว่ำบาตรทักษิณกลางกรุงเทพมหานคร  ทราบชัดแต่ว่านายวิษณุ  เครืองาม  เลขาธิการนายกรัฐมนตรีรัฐบาลทักษิณขณะนั้น โดนเข้าเต็ม ๆ  โดยทำชื่อใส่ลงในบาตร   อยากทราบว่าหลวงตาบัวเป็นคนสั่งพระป่าเหล่านั้นมาใช่หรือไม่ ?

4.     เจ๊กลิ้มให้กำลังใจหรือบริหารอย่างไร จึงกระตุ้นลูกน้องให้กล้าไปอย่างสุด ๆ ได้ อยากให้พูดถึง อัญชลี  ไพรีรัก(อีปอง)  ที่กล้าด่าพลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ.ขณะนั้น  ว่าโง่อย่างกระบือ  มานี่มาใกล้ ๆ ถอดกะโล่ออกกูจะเขกกะบาลให้ จะได้หายโง่ .......  สุดยอดการด่า    จริงไหม ???  ทุกวันนี้ ลูกน้องเจ๊กลิ้มทุกคนทำงานแบบถวายชีวิตแด่เจ๊กลิ้ม   ด้วยงานการด่าเฉียบคม แสนสันต์ไปตาม ๆ กัน   มีผู้หญิงสาว ๆ คนหนึ่ง หน้าตาเหมือนเจ๊กเหมือนกัน  เอาข่าวหนังสือพิมพ์มาอ่านแล้วบิดเป็นคำด่าได้อย่างแสบทุกเช้าทุกเช้า  ทางเอเอสทีวี (ทีวีโฆษณาชวนเชื่อ)  อยากทราบหลักการบริหารงานสตรี   ...........อยากให้ลูกน้องสตรี ๆ ด่าพลเอกประยุทธ  จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ที่ดูประสาท ๆ ไปแล้ว เหมือนกวางพิการ เสือย่อมล่าง่าย  โดยทฤษฎีเดียวกันกับอัญชลี ไพรีรัก (อีปอง) ให้สาธารณชนฟัง เพื่อยืนยันความเชื่อถือได้ของทฤษฎีอีปองอีกสักครั้ง   

5.     ขอให้บอกเรื่องส่วนตัว คราวเริ่มรายการสนธิสัญจร  ในหอประชุมธรรมศาสตร์  ประกาศสู้แบบตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง  แล้วฝากลูกชายไว้กับมวลชนคนหนึ่งชื่อ  จิตนาถ ลิ้มทองกุล  ขอถามเขาทำอะไร  ไม่เห็นขึ้นเวทีพธม.สืบทอดธุรกิจการโฆษณาชวนเชื่อของบิดาต่อไป      อยากให้กล่าวถึงธุรกิจการโฆษณาชวนเชื่อว่าแท้จริงลักษณะรูปงานเป็นอย่างไร  ด้านการเงิน  ด้านการเสี่ยง  และด้านความสุขของชีวิต 

6.   เรื่องอื่น ๆ เช่น  สถาบัน  

 

 

หากเจ๊กลิ้มกล้าตอบ  ก็จะได้ชื่อปรากฎไว้ว่าเจ๊กลิ้มนี่กล้าพูดความจริงในที่สุดของชีวิตของเขาอยู่ 5 - 6 เรื่อง ดังกล่าว 

.............เฉกเช่นทศกัณฑ์ เมื่อต้องศรพระรามจวนจะตายแล้ว  พระรามให้พระลักษมณ์ไปหาทศกัณฐ์ บอกพระลักษมณ์ว่า  ทศกัณฐ์เป็นนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่ของสามโลก มีความสามารถมาก จงไปขอเรียนวิชาการปกครองจากทศกัณฐ์  พระลักษมณ์ ไปยืนเหนือหัวทศกัณฐ์ ๆ ก็ไม่พูด  พระรามก็ไปดึงมือน้องชายมายืนที่ปลายเท้าทศกัณฐ์ ขอเรียนวิชาการปกครอง    ทศกัณฐ์จึงบอกหลักการปกครองออกมา 3 ข้อ ซึ่งเป็นหลักสากลการปกครองของโลกในอดีตและปัจจุบัน นักปกครองไทยก็รู้ดีคือ  1.   จงรู้จักการลงโทษ ผู้สมควรได้รับการลงโทษ  2.   จงรู้จักให้รางวัล ผู้สมควรได้รางวัล  และ 3.   จงรู้จักวางตนเป็นอุเบกขา  ในกาละเทศะอันสมควร  ถ้าพระรามไม่ให้พระลักษมณ์ไปขอเรียนวิชาจากทศกัณฐ์  หลักการปกครองนี้ก็อาจจะไม่มีใครรู้ก็ได้  จึงเป็นโอกาสดีของเจ๊กลิ้มที่จะได้ทำดีบ้าง 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สุนาย ธีระพงษ์ วันที่ตอบ 2011-07-01 11:06:28

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 ก๊อปปีมา วันที่ตอบ 2011-07-01 11:54:22


ความคิดเห็นที่ 27 (3351440)

อ้างรักชาติที่แท้แค้นส่วนตัวและเสียผลเหมือนผู้ร้ายในหนังมีเวลาคิดแต่เรื่องขี้โกงแย่งชิงสามันสำนึกไม่มีคนที่ออกมาก็ถูกคอบงำโดยคนชั่วคนดีที่ใหนเค้าอออกมากัน

ผู้แสดงความคิดเห็น รักชาติจริงรักในหลวงรักสงบ วันที่ตอบ 2012-11-24 11:11:26



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.