โปรดดูความจริงบ้างเถิด   คนไม่มีความรู้อะไร แค่เด็ก ป.4-6  บวชเณรแต่เด็ก ๆ  แล้วไม่ได้ศึกษาธรรมะอะไรเลย  แม้นักธรรมตรีนักธรรมโท  ก็ไม่รู้เรื่อง  อย่าว่าถึงเปรียญธรรมประโยคต้น ๆ เลย  ............  ดูภาพจุดเทียนน้ำมนต์  ขนาดให้ศีล5  ยังให้ไม่ถูก  สวดมนต์ทำวัตรเช้า วัตรเย็นเฉกเช่นหมู่สงฆ์ทั้งหลายก็ยังสวดไม่ได้ ........................เวลาเทศน์ก็เทศน์เอาเอง  ไม่มีหลักฐานทางพระปริยัติธรรมอ้างอิงเลย  ..   แล้วอวดอุตริว่าระลึกชาติได้บ้าง   ถึงอภิญญาบ้าง  .........   อย่างในภาพทำน้ำมนต์  สวดพระปริตได้สักบทหรือไม่  ก็เปล่า .............

คนพุทธคิดว่า   เมื่อเช่นนั้นแล้ว   อาจจะบรรลุเอาเองได้หรือ ? .......  เอาละ  ในที่นี้  เขาเชื่อว่าบรรลุเอาเองได้จริง ๆ    .........  

แต่เมื่อบรรลุแล้ว   เป็นอย่างไร ......วิป้สนาญาณ มีขึ้นหรือไม่   นั่นเป็นข้อพิจารณาชั้นลึกซึ้ง .........คนพุทธเข้าใจหรือไม่อย่างไร ?

จึงว่าคนโง่จริง ๆ เผลอสติ  ไม่ทบทวนว่า  นี่เป็นเพียง คนวิปลาสน์ หลงผิดในธรรมกรรมฐานคนหนึ่งเท่านั้นเองแท้ ๆ.............   ได้รู้แล้วแค้นหรือเปล่า ? 

มีข้อเท็จจริง  โยมใจดีถวายที่ดินให้สร้างวัดถึง 15 ไร่  โดยหวังว่าตนจะได้ชื่อว่าทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นบุญใญ่  ......  แต่จนแล้วจนรอด เด็กเณร ไม่ยอมสร้างวัด..........พอใจในความเป็นสำนักสงฆ์  ..........   ก็เพราะเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ที่ได้มาอย่างมหาศาล  นั่นเอง    .................

นั่นคือ   เด็ก   อยากได้นั่นได้นี่   ตื่นคอมพิวเตอร์  ตื่นรถยนต์  ตื่นเครื่องบิน   ตื่นการท่องเที่ยว........มีเงินก็เที่ยว........ ไม่ต่างอะไรกับเด็ก ๆ วัยรุ่น ๆ    ............   ที่ไม่เคยห่มครองผ้ากาสาวพัสต์เลย

แล้วพอเขาหลอกว่า   อริยะบุคคล     จะเป็นอริยะบุคคลอย่างไร ?     ไม่คิดดูบ้าง

มีคณะธรรมยุต อยู่เบื้องหลัง  ต้องการสร้างภาพธรรมยุตว่ามีอริยบุคคลในคณะนี้....... ช่วยกันสร้างภาพ มีคณะทำงานเป้นทีมเวิร์ค  รวมทั้งทีมฆราวาส หากินด้วยกัน นั่นเอง  ส่วนตำรวจ เอาเงินให้  เท่านั้น จะมากี่คันรถ   .........ก็สร้างภาพ สร้างความสำคัญให้ตนเองขึ้นมา...........รวยแล้วก็แบ่งกันไป ......... ส่วนเด็กเณรนี้ก็เอาไปเที่ยว  หัวราน้ำ   เหมือนวัยรุ่นสมัยใหม่นี้เท่านั้นเอง   ไม่มีสมณสารูป  หรือวินัยอย่างใดที่ต้องสังวรเลย   แล้วความหลงที่ว่าเป็นอรหันต์ผู้สำเร็จ ก็หลงว่า อรหันต์ทำอะไรไม่ผิด ไม่บาป  เพราะปราศจากกิเลสอยู่แล้ว(คือเสพกามก็ได้ไม่บาป เพราะในใจว่างแล้ว  เสพกามด้วยจิตว่าง .........   นั่น   ว่าไปนั่น 

แกไม่รู้อะไรหรอกครับ    ไม่รู้จริง ๆ    ...........   ถ้าสิกออกไป  ก็จะทำอะไรไม่เป็นหรอก...........  เด็กโง่ ๆ เราดี ๆ นี่เอง  เชื่อผมเถอะ 

อ้าว !!!    facebook  luangpunenkham   ที่มีภาพโฉ่ หายไปหมดแล้ว  

เกิดบังเอิญหินมันกลิ้งไปได้จริง ๆ .......กล้องจับเอาไว้ได้  ก็ใหญ่เลยละ  อรหันต์แน่ ๆ ....กูก็รวยมหาศาลไปเลย 

อีกที.....................

ภาพตัดต่อครับ   เอามารวมกัน 4 เหตุการณ์ จากภาพจริง 4 ภาพ.......... ก็ตัดต่อสิ

 เคยมีเพื่อนมาชวนให้ไปกราบหลวงปู่องค์นี้ แต่ดิฉันไม่ไปเพราะเคยเจอประสบการณ์การหลอกลวงมาแล้ว ดูเขาศรัทธามาก มีเท่าไรก็นำไปถวาย ระบบการศึกษาไทยทำให้คนขาดปัญญา สอนให้เชื่ออะไรง่ายๆโดยไม่ต้องพิสูจน์ จึงเป็นสังคมแห่งการสร้างภาพ แล้วโฆษณาชวนเชื่อไปสุดๆ แถมพวกที่ไปหลงงมงายส่วนใหญ่เป็นคนมีการศึกษาดี ฐานะค่อนข้างดีไปจนถึงระดับมหาเศรษฐีก็มาก ดูศิษย์ธรรมกายสิมีแต่คนระดับกลางถึงสูงยิ่งถ้าเป็นหมอนี่บริจาคไม่อั้นเลย พระสงฆ์พวกนี้เขาไม่ค่อยสุงสิงกับชาวบ้านชนบทเท่าไรเพราะไม่ค่อยมีบริจาค แล้วหลวงปู่องค์นี้ก็เคยทำรูปหล่อชูชก โฆษณาชวนเชื่อทางทีวีว่าใครบูชาจะร่ำรวยเงินทอง นี่ขนาดชูชกเป็นขอทานในเวสสันดรชาดกยังนำมาบูชาเป็นเทพเจ้าได้ คนมีปัญญาเขาจะไปยกย่องพระที่มีความคิดแบบนี้ให้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณนำไปสู่แสงสว่างได้อย่างไร โยมน่าจะคิดหน่อยนะว่าคนที่ไม่ได้สนใจศึกษาเล่าเรียนศาสตร์ใดๆมาแล้วมาบวช บวชแล้วก็ยังไม่ศึกษาพระธรรมวินัยให้ถ่องแท้จะเฉลียวฉลาดได้อย่างไร

 มีโยมหลายคนไปวัดขอกินข้าวที่เหลือจากที่พระดังๆฉัน  ว่าได้บุญกินเหลือจากครูอาจารย์ เวลาพระปลงผมก็ขอเศษผมไปบูชาบอกว่าจะเป็นพระธาตุ ทุกวันนี้เกจิดังมรณภาพก็มาขอกระดูก เส้นผมไปบูชาเผื่อจะเป็นพระธาตุ ท่านพุทธทาสท่านสอนเสมอไม่ให้คนหลงใหลไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ดูแล้วพระสงฆ์ไทยไม่ค่อยรู้จักกิเลสเท่าไร คดีรถหรูก็พัวพันพระผู้ใหญ่หลายรูปหรือนี่คือเป้าหมายของการบวชในปัจจุบัน ชาวบ้านคงต้องพึ่งคัมภีร์และสติปัญญาของตนเองกระมัง

ความเห็นของกระจกเงาคมชัด เยี่ยมมาก  ขอให้วิจารณ์พระพวกนี้มาอีกนะครับ

ส่วนผมเองเห็นภาพแล้วเชื่อเลยว่า  เณรคำนี่ก็เด็กใจแตกยุคใหม่เรานี่เอง  คือตื่นและหลงเทคโนโลยี   มีเงินมีทองก็เอาไปเล่นเทคโนโลยีหาเทคโนโลยีชั้นสูงราคาแพง ๆ มาเล่น   เห็นรถไหมครับ  หลงรถ  มีรสนิยมสูง  เช่นรถในภาพ ก็โรลสรอยส์ราคาสูงลิบลิ่ว  แน่นอน คงเล่นรถมาทุกยี่ห้อแล้ว เปลี่ยนรสนิยมไปเรื่อย  แล้วทำท่าว่าจะไปเล่นเครื่องบินเจทไปอีกแน่ะ  รับรองถ้าไม่มีเสียงต่อต้านขึ้นมาก็คงได้เป็นเจ้าของเจ๊ทสักคันแน่ ๆ    แล้วเศรษฐีโง่ ๆ ที่ไหน  มามองว่านี้คือ อรหันต์ .........  น่าจะมีสติกันหน่อย   นึกดูตัวแบบอรหันต์ยุคพุทธกาล ..........   ล้วนแต่ลูกเจ้าเมือง  ลูกเศรษฐี ออกมาบวช  ละทิ้งความสะดวกสะบาย   มาอยู่สมถะ เรียบง่าย  ใฝ่ในการบำเพ็ญทางจิต   ให้จิตสันโดษ  ปราศจากโลภ โกรธ หลง  ........

นี่เด็กใจแตกเราดี ๆ  ........หลงเทคโนโลยี่เห็นชัด ไม่ต่างอะไรกับลูกเศรษฐีวัยรุ่นยุคปัจจุบัน หรือแม้แต่ลูกคนจน ๆ ธรรมดา ๆ  ซึ่งตื่นเทคโนโลยีกันใหญ่อยู่ทุกวันนี้เลย   ........   แล้วไม่คิดว่า นี่หรืออรหันต์

 อยากให้ดูเว็ปไซต์ http://www.buddha-dhamma.com/ ที่กล่าวถึงรายชื่อผู้บรรลุอรหันต์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน อยากให้ชาวพุทธช่วยวิเคราะห์หน่อย ดูแล้วเลอะเทอะจัง

 อยากให้ดูดูเว็ปhttp://www.buddha-dhamma.com/ กล่าวถึงรายชื่อผู้บรรลุอรหันต์เต็มไปหมด ช่วยวิเคราะห์หน่อยนะ ดูแล้วเลอะเทอะ แม้แต่พระที่มีข่าวว่ารวยขนาดขี่เครื่องบินเจ๊สก็เป็นพระอรหันต์กับเขาด้วย

กองทัพธรรม-แสงทิพย์อริยธรรม............เรื่องเพ้อเจ้อ  เชื่อเถอะ

ช่องนี้ของเรา  ถูกบล๊อคเอาไว้ 2 วันนะครับ  ไม่ทราบฝีมือใคร 

มาวันนี้เช้าก็โดนบล๊อคอยู่  มาถึงเวลานี้ 14.17 น.จึงเข้าได้

พวกเณรวิปริต มีมากเกินคาด  มีทั้ง ดร.จากมหาวิทยาลัยห่วย ๆ  มีพวกร่วมทำมาหากินกันหลายแบบ

วันนี้ไม่กลับเมืองไทยแล้ว   เห็นไหม  ไม่มีความรับผิดชอบหรอก  ไร้สัจจะ  ว่าจะมาก็ไม่มา

ไม่รอดคุกแน่เณรเอ๋ย

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลมั้ง ที่จะให้ด๊อกเตอร์แก่เณรบอด    ช่างเห็นแก่เงินจังเลย   ไม่มีอะไรหรอกครับ  มองหาแต่เงิน  ไม่ได้มองความรู้จริง ๆ ของคนหรอก มหาวิทยาลัยไทยทุกวันนี้เป็นอย่างนี้ ............  มหาวิทยาลัยห่วย ๆ

ม.ราฃภัฏศรีสะเกษ ก็เตรียมจะมอบด๊อกเตอร์ให้เณรบอดนี้เมือนกัน ................ ด้วยเหตุว่าเณรบรรลุญาณ คือความรู้สุดยอดในแผ่นดิน   ถึงขั้นอรหันต์ ...........  หรือมอบไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน ..........  อยากได้เงินน่ะ....

เชื่อเถอะ  ม.ห่วย ๆ มองหาเงิน    ไม่ได้มองหาคนมีความรู้

ที่สำคัญ มหาวิทยาลัยเหล่านี้ ไม่สามารถวิจัยได้ถึงภูมิรู้คนที่ควรจะได้ปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิต   เอาเงินเข้าวัดอย่างเดียว  ........ น่าเศร้าใจ......................  ก็เพราะมหาวิทยาลัยไม่เข้าใจหน้าที่สำคัญของตนข้อหนึ่ง  นั่นคือ หน้าที่ต้องทำการศึกษาสังคม    .....   หมายถึงงานวิจัยสังคม เป็นงานในหน้าที่โดยตรงของมหาวิทยาลัย   .............   แต่มหาวิทยาลัยเหล่านี้หาเข้าใจไม่   และถึงแม้รู้ก็ทำไม่ได้   เพราะทำไม่เป็น  ...........   ทำงานเชิงการวิจัยสังคมไม่เป็น ....... ห่วย !!!!!   ต้องให้ความรู้ไปอีกนานหลายปี ......

มาดูพาดหัวข่าว

เดลินิวส์ 4 ก.ค. 2556  เงินหมุนเณรคำวันละ 200ล้าน ปปง.สั่งห้ามย้ายบัญชี ฝ่าฝืนเจอโทษหนักคุก 2-10ปี เปิดภาพปาฏิหาริย์สังขารชรา

ไทยรัฐ 9 ก.ค.2556  มัดแน่น"เณรคำ" ดูหนังโป๊ ดสีกา-ยา-เหล้า ดีเอสไอยื่นเจ้าคณะศรีสะเกษ นัด9ก.ค.จ่อเปลื้องผ้าเหลือง กัปตันแฉ-พระฉาวจะซื้อเจ๊ต

ไทยรัฐ 10 ก.ค.2556  ดีเอสไอลุยสอบลึก เณรคำ! โยงแก๊งค้ารถหรู  ส่งลูกปปส.ขยายปมยาเสพติด 3 ดาราอาวุโสโผล่แจงจนท. รับปริญญาเอกม.สันติภาพโลก

ข่าวสด 10 ก.ค.2556  บี้เณรคำเจาะดีเอ็นเอ สีกา-ลูก สอบกัปตัน้จ๊ต"มัด คลี่ปมทองคำ-ฝากแบงก์สหรัฐ "พงศ์พัศ"ถกด่วนปปส.-ปปง. คุ้ยเอาผิดยาเสพติด-ฟอกเงิน จ่อแจ้งจับพระโฉ่คดีกามเด็ก

มติชน 10 กค. 56        เชิญ"กัปตัน" ป้อนข้อมูล  ลุย"เณรคำ"  "ธาริต"ดึง3หน่วยร่วม

ไทยรัฐ 12 ก.ค.2556  "โล้นคำ"เจออีก  ช็อปเบนซ์ ป้ายแดง 22 คัน  ดีเอสไอผงะ-ควักจ่าย95ล้าน งัดเซฟพบพลอยซุกไว้20โล เจ้าตัวหนีกบดานสหรัฐแล้ว

ไทยรัฐ 13 ก.ค. 2556   โฉ่อีก"โล้นคำ"ซื้อ รถ 35 คัน แจกพระชั้นผู้ใหญ่  ดีเอสไอไล่สอบ-เล็งเรียกคืน อดีตเมียหอบลูกฟ้องศาลเอง ข้อหาหนัก ข่มขืน พรากผู้เยาว์ 

ไทยรัฐ 17 ก.ค.2556   ยื่นศาลขอหมายจับ "สมีคำ" ชำเรา-พรากผู้เยาว์  ดีเอสไอชี้ผิดพ.ร.บ.คอมฯด้วย ลุ้นสหรัฐถอนวีซ่าคดีทางเพศ  ส่งปปง.อายัดทรัพย์นอมินีซ้ำ

มติชน 17 ก.ค.2556   เรียกเจ้าของรร.ลาวสอบ สมีคำทัวร์ "เหมาฟลอร์" พักทั้งคณะ  ดีเอสไอถอนราก-ยึดเรียบ  แจ้งสหรัฐช่วยส่งตัวกลับ ยื่นศาลรับรองดช.เป็นลูก พบบัญชีส่วนตัวเหลือแค่2ล.

วันนี้มีข่าว มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก  เถื่อน มอบปริญญาเอกเถื่อน ๆ ไป 1,200 ปริญญา  แต่ไม่ปรากฎชื่อเณรคำ ทั้ง ๆ ที่ลูกศิษย์คนสำคัญบริหารอยู่  

มีข้อสังเกตคือ มีชื่อ  พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีต มภ.4 (ภาคใต้) ได้ปริญญาเอกจากม.เถื่อนนี้ด้วย (คำว่าเถื่อน คือไม่มีสิทธิ์ให้ปริญญาแด่ผู้ใด.... ตามกฎหมายไทย) ..........คน ๆ นี้แหละ ต้นตำหรับ การเมืองใหม่ ธรรมราชาธิปไตย ......ต้องการนำประเทศไทยกลับไปสู่  ธรรมราชาธิปไตย  (ออกเผยแผ่ในเอเอสทีวีหลายปีก่อน  เป็นต้นแบบการต่อสู้ของ ปชป.  เจ๊กลิ้ม และพวก พธม.   พวกเหลืองทั้งหมด ........มีคำถามว่า หมายถึงคืนอำนาจแด่องค์พระมหากษัตริย์ใช่ไหม ?  .......  แน่ละ   คำตอบไม่ชัดเจน  .......  แต่กระนั้น  นี่กลับเป็นทฤษฎีการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์และพวกอมาตยาธิปไตย(มีพล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ เป็นตัวประธานความคิดอยู่)  ใช้อ้างมาจนถึงทุกวันนี้

ในประเด็นเณรคำ  มองได้ว่า เณรคำก็ฉลาดพอสมควร   ไม่สนใจปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยนี้ พอเห็นได้ว่า ไม่สมเกียรติ์ของตน นั่นเอง  เกรงว่าศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก จะไม่สมศักดิ์ศรีของตน เพราะเป็นมหาวิทยาลัยเถื่อนอยู่   นั่นแน่ะ ฉลาดเสียด้วย   ....แต่แล้วตนเอง ดร.หลวงปู่เณร วีรพล ฉัตติโก   กลับไปรับปริญญาเอก   มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ......ที่มีศักดิ์ศรีตามกฎหมายบ้านเมืองเต็มตัว..........

แต่แล้ว สามเณรห่วย ๆ นี้ก็ดึงสถาบันราชภีฏอุบลราชธานีให้ห่วยตามไปด้วย ........

............เป็นเรื่องตลกและโง่เง่าในวงการมหาวิทยบาลัยไทยยุคนี้จริง.........

เรามีความเห็นว่า  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ไม่ต้องไปทำอะไรหรอก  รับรองเขาไปแล้วก็รับรองต่อไป  อย่าไปถอนเขา อย่าทำอะไร  เขาอาจจะมีความสามารถสมภูมิปริญญาเอกของ ม.ราชภัฏอุบลราชธานีก็ได้  เช่น ด้านการโฆษณาชวนเชื่อ  ด้านการสร้างภาพอรหันต์เก๊แล้วได้เงินเป็นล้าน ทำอย่างไร  เป็นต้น  เชิญเขาไปสอนในมหาวิทยาลัยคุณซี  .................หรือให้นั่งเป็นประธานบอร์ดมหาวิทยาลัยไปเลย.....  หาทางหาเงินหาทองยังไงครับ...........คุณ ๆ จะได้รวยกันเสียที................(กูรวยเงิน   ใคร ๆ โง่ก็ช่างมัน กูไม่รับผิดชอบ)

กรณีเณรคำ ได้ปริญญาเอก ม.ราชภัฏอุบลราชธานี...............

หรือ  ม.ราชภัฏอุบลราชธานี มอบปริญญาเอกแด่ เณรคำ............แสดงถึงอะไร ?

แสดงถึงภูมิปัญญาของสถาบันการศึกษาที่มีหน้าที่ประสิทธิประศาสน์ความรู้สติปัญญาแด่สังคมทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงระดับปริญญาเอก.............. ว่า.............  แทนที่จะประสิทธิประสาศน์วิชา    แต่ประสิทธิประศาสน์  อวิชชา............. หรือ   แทนที่จะรับรองวิชา  กลับไปรับรอง  อวิชชา  ................   หรือ  แทนที่จะยกย่องวิชา   กลับไปยกย่อง  อวิชชา

สมควรยุบครับ

เห็นด้วยกับผม  ก็ยกมือขึ้นครับ .....

   เห็นด้วยครับ

เอาละ  มาพระกับการเมืองกัน

พระวัดอ้อน้อย  พระสุวิทย์ ธีระธมฺโม  ตั้งชื่อตนเองว่า   หลวงปู่พุทธอิสสระ 

หลวงปู่อีกรูปหนึ่งแล้ว

มาเป้นอาจารยืให้สุเทพ เทือกสุบรรณ  ชัตดาวน์กรุงเทพอยู่ขณะนี้

แล้วคุณสุนิสา รองโฆษกรัฐบาล ไปขอให้คืนพื้นที่  หลวงปู่ว่า ให้นอนกับม็อบที่กลางถนนสัก 15 วันซี

 วันนี้ เดือน มิถุนายน 2559  เกิดคดีใหญ่ขึ้น กับพระวัดธรรมกายนี้ เป็นคดีเกี่ยวกับเงิน  ซึ่งตามพระวินัยสงฆ์ ถึงปาราชิก (ทุติยะปาราชิก  โกงเงินเกิน 1 บาทไป เป็นปาราชิก) จนถึงขั้นตอนที่  ดีเอสไอ จะต้องเข้าไปจับตัว ธรรมชโย  ไปสอบสวน  เพราะปฏิเสธหมายเรียก ไป 2 ครั้งแล้ว

และมีการระดมพระ แม่ชีห่มขาวไปชุมนุมในวัดพระธรรมกายนี้ นับหมื่น ๆคน  ป้องกันตัว ไม่ให้ถูกจับกุมไป  ซึ่งในการชุมนุมนี้ ใช้เงินวันละล้านเป็นค่าเลี้ยงภัตตาหาร .....ได้เงินจากไหน ?    ก็ทำพุทธพาณิชย์มานาน  พุทธพาณิชย์ ก็บอกแล้วว่า  ทำไปโดยไม่ใช่หลักการแห่งพุทธศาสนาอยู่แล้ว   เอาศาสนาไปขาย ร่ำรวยมหาศาล จนซื้ออะไร ๆ  แม้กระทั่งซื้อพระสงฆ์องค์เจ้าเองก็ซื้อได้  ซื้อเอาไปใช้ในงานพุทธพาณิชย์นี่เอง .........และแม้กระทั่้ง  อาจจะใช้ซื้อตำรวจ ทหาร เจ้าคดี  ผู้พิพากษา  ต่อไปอีกก็ยังได้....นั้น  เป็นอนาคต ที่มีทางเป้นไปอยู่แล้วเลยทีเดียว 

ที่สำคัญ  ทางการข่าว  ทั้งหนังสือพิมพ์ และ โทรทัศน์  ก็ติดตามกันใหญ่  ทั้งเรื่องก่อนมา มีเบื้องหลังอย่างไร  ระดมลงที่พระรูปนี้ทั้งสิ้น   ซึ่งเผยสิ่งที่ไม่สมควรกับความเป็นพระทั้งสิ้น 

สิ่งนี้ต่างหาก ที่เป็นประเด็น เกินประเด็นทางกฎหมาย  ที่บอกถึง ความเสียหายทางพุทธศาสนาไทย  ออกไป ทั่วโลก   นี่ต่างหาก ที่เป็นความผิด ความไม่ดี  ซึ่งทำลายความศรัทธาพุทธศาสนา ไปทั่วโลก 

แล้ว พระธัมมชโยรูปนี้ ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าอาวาส  และมีสมณศักดิ์  ชั้นเทพ  พระเทพญาณมหามุนี  นี้ ได้ทำความเสียหายขึ้น   และ  จะอยู่ไปในผ้ากาสาวพัสตร์ แห่งองค์สมเด็จพระพุทธศาสดา ต่อไปได้อย่างไร  จะสร้างศรัทธาแห่งพุทธศาสนาต่อไปอย่างไร 

และน่าสมเพช น่าเสียดาย  ที่เติบโตมาจนอายุจะเข้า 80 ปี ชราไปแล้ว  แทนที่จะไำด้ตายไปอย่างสงบ ๆ  ตายไปอย่างมีเสียงสรรเสริญว่าเป็นพระแท้ ที่น่าศรัทธาตลอดกาลนานไป  แต่กลับไม่ใช่เลย  กลายเป็นตรงกันข้าม  อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่ง  นั่นแหละ  ไม่มีใครจะลบล้างผลกรรมของตนได้ 

ชาวพุทธไทยคิดกันหรือไม่? 

 Phayap Panyatharo บรรจบ บรรณรุจิ ศิษย์เอกธัมมชโย มีข่าวลับมาว่า เป็นผู้ออกวาทะเองว่า ธัมมชโย นี่แหละ ต้นธาตุต้นธรรมเลยละ และถ่อมตัวเองว่าเป็นฝุ่นใต้ฝ่าเท้าเขาเลย

 สาขาอีกแห่งของวัดพระธรรมกาย World Peace Valley สถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อการพักกายและใจที่สมบูรณ์เวิล์ดพีซวัลเล่ย์.. World Peace Valley เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

 บทคัดย่อวิทยานิพนธ์เรื่อง "บทบาทในการรักษาพระธรรมวินัยของพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) : ศึกษาเฉพาะกรณีธรรมกาย" โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง) 
 
            จากการศึกษาบทบาทในการรักษาพระธรรมวินัยของพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) เฉพาะกรณีธรรมกายเป็นหลัก และกรณีอื่น ๆ มีกรณีสันติอโศก เป็นต้น เป็นองค์ประกอบทำให้ผู้วิจัยได้ข้อค้นพบที่ถือว่าเป็นสาระสำคัญของงานวิจัยเรื่องนี้ ดังต่อไปนี้

            1. กรณีธรรมกายหมายถึงชื่อเรียกโดยรวมเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่สำนักวัดพระธรรมกายเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้น พฤติการณ์ทั้งหมดที่สำนักวัดพระธรรมกายเป็นต้นเหตุให้เกิดขึ้นนั้นเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้วก็มีสองลักษณะเท่านั้น คือ การทำพระธรรมวินัยให้วิปริต และการประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย

            2. การทำพระธรรมวินัยให้วิปริตที่พบว่ามีสาเหตุมาจากสำนักวัดพระธรรมกายก็คือ การทำลายความน่าเชื่อถือของพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่ประมวลไว้ซึ่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า การพยายามปลอมปนคำสอนในลัทธิของตนลงในพระไตรปิฎก การพยายามยกย่องครูบาอาจารย์ของตน หรือแม้แต่นักวิชาการจากต่างประเทศให้มีฐานะสำคัญ ถึงขนาดที่ใช้ทัศนะของท่านเหล่านั้นขึ้นมาอ้างเป็นมาตรฐานเพื่อตัดสินหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างเรื่องนิพพาน เป็นต้น การพยายามให้อรรถาธิบายชักจูงให้คนทั่วไปเข้าใจว่า บุญมีฐานะเป็นดุจสินค้าชนิดหนึ่ง และเมื่อทำบุญและอานิสงส์ของบุญจะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่าง ๆ ได้อย่างปาฏิหาริย์ 

            3. การประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัยเฉพาะประเด็นหลัก ได้แก่ การพยายามนำเอาลัทธิทุนนิยมที่มีความโดดเด่นอยู่ที่ระบบการตลาดเข้ามาผสมผสานกับการบริหารจัดการวัด การจัดตั้งองค์กร รวมทั้งการระดมทุนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคล องค์กรทางธุรกิจ การเมือง และการศาสนาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการทำเช่นนี้ส่งผลให้สำนักวัดพระธรรมกายกลายเป็นสำนักที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทั้งในทางวัตถุ ทุนทรัพย์ และในทางเกียรติคุณชื่อเสียง แต่วิธีเหล่านี้เป็นพฤติการณ์ที่สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับพระพุทธศาสนาเถรวาทที่เน้นความเรียบง่าย ความเป็นธรรมชาติชนิดที่ปราศจากการจัดตั้ง หรือการจัดการ และไม่เกี่ยวข้องกับระบบทุนนิยม (รวมทั้งวัตถุนิยม) อย่างสิ้นเชิง

            4. พฤติการณ์อันสืบเนื่องมาจากสำนักวัดพระธรรมกายทั้งหมดนั้น เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาและต่อสังคมไทยอย่างลึกซึ้งถึงรากฐานชนิดที่ว่า ถ้าสำนักวัดพระธรรมกายทำสำเร็จตามจุดมุ่งหมายที่สำนักตั้งเอาไว้ ก็จะส่งผลให้พระพุทธศาสนาในประเทศไทยซึ่งเป็นพระพุทธศาสนาอย่างเถรวาทต้องสูญสิ้นอันตรธานไป และสังคมไทยก็อาจกลายเป็นสังคมที่มีค่านิยมหวังผลดลบันดาลเชื่อมั่นศรัทธาในเทพเจ้า ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มัวเมาอยู่ในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และถูกหลอกให้เพลินจมอยู่ในสุขอันดื่มด่ำจากสมาธิวิธีที่ถือว่าเป็นมิจฉาสมาธิและเต็มไปด้วยผู้คนที่ตกเป็นทาสของลัทธิทุนนิยม บริโภคนิยม และวัตถุนิยมอย่างงมงายไม่อาจหลุดพ้นเป็นอิสระไปจากการครอบงำของลัทธิเหล่านี้ได้

            5. พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) เห็นว่า การทำพระธรรมวินัยให้วิปริตก็ดี การประพฤติให้วิปริตจากพระธรรมวินัยก็ดี ล้วนไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนา ต่อสถาบันสงฆ์ และต่อสังคมไทย ท่านจึงได้อุทิศตนเองออกมาทำหน้าที่ในการรักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ด้วยการชี้แจงแสดงหลักการที่แท้ของพระพุทธศาสนาผ่านหนังสือชื่อ "กรณีธรรมกาย" และผ่านการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่าง ๆ

            6. สาเหตุสำคัญที่ทำให้พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) สามารถดำเนินบทบาทในการรักษาพระธรรมวินัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เป็นเพราะท่านเจริญรอยตามพุทธจริยาและปฏิปทาของบุรพาจารย์ทั้งหลายแต่ปางก่อน และเพราะท่านประกอบด้วยคุณสมบัติที่สำคัญก็คือ การมีจิตสำนึกแห่งความเป็นชาวพุทธ การถือธรรม และถือประโยชน์สุขของมหาชนเป็นใหญ่ การเป็นภิกษุผู้เปี่ยมด้วยกตัญญุตาธรรมต่อพระพุทธศาสนา และการมีคุณสมบัติของชาวพุทธชั้นนำตามที่พระพุทธเจ้าทรงวางเอาไว้อย่างครบถ้วน

            7. ในกรณีธรรมกายที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้ทำบทบาทที่สำคัญสองประการด้วยกัน บทบาทประการที่หนึ่งก็คือ การทำหน้าที่รักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์เหมือนเดิม และบทบาทประการที่สองก็คือ การได้อุทิศตนเป็นแบบอย่างของชาวพุทธชั้นนำ ผู้มีศักยภาพพร้อมเต็มที่ที่จะทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัยให้ยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคตตราบนานเท่านาน บทบาททั้งสองประการนี้นอกจากจะช่วยให้กรณีธรรมกายคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีแล้ว ยังก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการรักษาพระธรรมวินัยแก่ชาวพุทธร่วมสมัย และแก่อนุชนในภายหลังได้อย่างมีนัยสำคัญไม่น้อยไปกว่าที่บุรพาจารย์ทั้งหลายได้เคยทำเอาไว้ในอดีตอีกด้วย 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 2016-06-24 ถึงวันนี้ 2017-02-21 เราว่างไป 6 เดือนเศษ ๆ  มาต่อครับ

 test

 ในกรณีธรรมกายที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้ทำบทบาทที่สำคัญสองประการด้วยกัน บทบาทประการที่หนึ่งก็คือ การทำหน้าที่รักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์เหมือนเดิม และบทบาทประการที่สองก็คือ การได้อุทิศตนเป็นแบบอย่างของชาวพุทธชั้นนำ ผู้มีศักยภาพพร้อมเต็มที่ที่จะทำหน้าที่รักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัยให้ยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคตตราบนานเท่านาน บทบาททั้งสองประการนี้นอกจากจะช่วยให้กรณีธรรมกายคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีแล้ว ยังก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการรักษาพระธรรมวินัยแก่ชาวพุทธร่วมสมัย และแก่อนุชนในภายหลังได้อย่างมีนัยสำคัญไม่น้อยไปกว่าที่บุรพาจารย์ทั้งหลายได้เคยทำเอาไว้ในอดีตอีกด้วย 

 test

 รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ได้ใช้อำนาจมาตรา 44  สั่ง เจ้าหน้าที่เข้าค้นวัดธรรมกาย เพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโย  เรอ่มเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.พ.2560  มาจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 6 ยังจับธัมชโยไม่ได้    

โปรดติดตามไปที่เฟสบุ๊ค  Phayap Panyatharo

คลิกต่อ   บทศึกษากรณีธรรมกาย ธัมมชโย ปาราชิก  บทสุดท้าย  จุดจบ