หลายเดือนมานี้คนภาคใต้โดนภัยน้ำท่วมต่อเนื่องมาตลอด จนขณะนี้น้ำท่วมถึง 10 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 2 ล้านคน  การช่วยเหลือจากภาครัฐก็น้อยนิดและล่าช้าในขณะที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนคนไทยด้วยกันผ่านสื่อมวลชนและองค์กรเอกชนนำไปแจกจ่าย นี่หรือประชาชนต้องมาก่อน น้ำท่วมตั้งหลายวันนายกเพิ่งจะโผล่ไปดู นี่ก็เห็นคนในพรรคประชาธิปัตย์พูดถึงจะพาครอบครัวไปเที่ยว คงดูตัวอย่างจากหัวหน้าพรรค เพราะคราวที่คนไทย 7 คนถูกจับบริเวณชายแดนไทยกัมพูชานายกก็พาครอบครัวไปเที่ยวชมทะเลหมอก จนคนไทยทั้ง 7 ต้องไปขึ้นศาลกัมพูชา แม้นายวีระ  สมความคิดแกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติและนางสาวราตรี ที่เคยต่อต้านอดีตนายกทักษิณอย่างหนัก เพราะรักกันปานจะกลืนกินกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ติดคุกเปรซอร์ในกัมพูชายังหมดอาลัยตายอยากและให้ญาติทำหนังสือถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ช่วยเหลือ นี่แหละสะท้อนถึงภาวะผู้นำ ดังที่นักปราชญ์จีนท่านกล่าวไว้ว่าจะดูคนว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหนต้องมอบงานใหญ่ให้ทำ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลยังอยู่ในโลกแห่งความฝัน และประกาศขายฝันอยู่ทุกวัน ขณะนี้ประชาชนเขาตาสว่างรู้แล้วว่ารัฐบาลไหนบริหารประเทศดีไม่ดีอย่างไร  แม้แต่โพลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเขาสำรวจออำกมาแล้วว่า  สงกรานต์ปีนี้ประชาชนอยากไปรดน้ำอวยพรนักการเมืองท่านไหนมากที่สุด เขาตอบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร มากที่สุด นี่ขนาดท่านทักษิณหมดอำนาจทางการเมืองพลัดบ้านพลัดเมืองมาเกือบ 5 ปีแล้วถูกกล่าวหาสารพัดคนไทยยังไม่ลืม มีแต่ร่ำร้องเรียกหาแม้คนเคยเกลียดเข้ากระดูกดำอย่างวีระ  สมความคิด ยังเรียกหา แล้วพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลจะเหลืออะไรให้ประชาชนเชื่อถืออีก

น้ำท่วมคราวนี้คนภาคใต้ตาสว่างหรือยัง รู้สึกไหมว่าประชาธิปไตยกินได้ คนภาคอีสาน เขาเข้าใจประชาธิปไตยก่อนภาคอื่น เพราะชีวิตเขาท่ามกลางการบริหารของรัฐบาลอำมาตย์ที่ผ่านมามีแต่ความเสี่ยง ข้าวในนา พืชในไร่ต้องฝากไว้กับฟ้าฝน การคมนาคมไม่สะดวก พืชผลการเกษตรถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา เป็นหนี้สินมากมาย หมดหน้านาต้องไปขายแรงงานมาใช้หนี้ รัฐบาลไม่เคยเหลียวแล พอมีรัฐบาลที่เข้าใจความทุกข์ยากให้โอกาสเขาได้ลืมตาอ้าปาก มีสาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการทำมาหากินเขาจึงรักและศรัทธา สิ่งเหล่านี้คนภาคอื่นที่อุดมสมบูรณ์อาจไม่เข้าใจ จะเข้าใจจริงๆก็ต่อเมื่อตนเองต้องลำบากยากแค้นแทบสิ้นเนื้อประดาตัว และต่อไปประชาชนทั้งประเทศคงรู้พร้อมๆกันแล้วว่าประชาธิปไตยกินได้จริงๆ เพราะนายกรัฐมนตรีของไทยท่านหนึ่งท่านได้พิสูจน์มาแล้วว่าท่านรู้จริงและทำได้

เห็นด้วยกับทุกข้อความอย่างยิ่ง และเลิกพูดได้แล้วว่าคนเสื้อแดงสู้เพื่อคนคนเดียว เพราะความจริงก็คือประชาชนกลุ่มนี้เขาเข้าใจประชาธิปไตยและตาสว่างก่อนคนอื่น ที่เขาสู้อย่างไม่ยอมลดละและท้อถอยแม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ คุกตะรางก็เพื่อแลกกับความอยู่รอดปลอดภัย ความมั่นคงของชีวิต ทรัพย์สิน และอนาคตของลูกหลาน และยิ่งประชาชนเดือดร้อนมากเท่าไรก็จะตาสว่างกันทั้งแผ่นดิน

กรณีคุณวีระ  สมความคิด เป็นเรื่องที่น่าใจหายครับ............ เพราะนายวีระ  สมความคิดโถมทั้งกายและใจเข้าไปรับใช้ขบวนการ พธม.(หมายถึงขบวนการโฆษณาชวนเชื่อ) อย่างสุดตัว   .............  กรณีติดคุกเขมรครั้งนี้  แท้จริงเท่าที่ผมทราบมา  เป็นการวางแผนร่วมกันของเจ๊กลิ้ม  และนายอภิสิทธิ์   โดยกำหนดให้นายวีระเป็นแพะรับบาป   เป็นตัวเหยื่อเพื่อสร้างเงื่นไขเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ   เช่นที่ เวทีสะพานมัฆวาน ใช้โฆษณาอยู่ทุกวันนี้    (จะเห็นว่า เขาลงทุนขนาดไหน  เพื่อให้การโฆษณาชวนเชื่อมีพลัง  มีความสมจริงขึ้น......) 

ฉะนั้น   อย่าหวังว่าทางนายอภิสิทธิ์  กับ  เจ๊กลิ้มจะมีความพอใจที่จะช่วยให้นายวีระ  สมความคิด ได้มีโอกาสออกมาจากคุกเขมรได้   .....................

คือผมอยากให้ประชาชนไทยทุก ๆ สี    ได้มีตาสว่างเสียที  เกี่ยวกับนายสนธิ  ลิ้มทองกุล  หรือเจ๊กลิ้ม   ......................................คน ๆ นี้สมควรลงนรกชั้นเทวทัต   ..................พอ ๆ กับนายอภิสิทธิ์.....

ที่น่ามองดูอีกคนหนึ่ง............คล้ายแพะผู้รับบาป  คล้ายวีระ  สมความคิด    ผู้โถมตนลงรับใช้นายสนธิ  ลิ้มทองกุล สุดตัว อย่างนข้ากับนาย   ก็คือ    ประพันธ์  คูณมี.......

เมื่อไรคุณจะตาสว่าง        ไปรับใช้คนอย่างเจ๊กลิ้มแล้ว   จะได้อะไร............................ไม่เคยมีใครได้อะไรจากคน ๆ นี้ เลย    ..............   มีแต่มันคนเดียวที่ได้.....................แอบอมเงินบริจาคของประชาชน  ที่อ้างว่าเพื่อไม่ให้เอเอสทีวีจอดำ    

เราจะไม่ตำหนิเลย  กรณีที่นายสมศักดิ์  โกศัยสุข   กับนายสุริยะใส  กะตะศิลา    คิดตีตนออกห่างจากเจ๊กลิ้ม.............  มาสู่เส้นทางที่ถูกต้องของการเมือง..................และประชาธิปไตย

เราอยากให้เจ๊กลิ้มนี่สูญหายไปจากโลกนี้......................เราอยากให้คนทั้งหลายได้เห็นข้อพิศูจน์ที่ว่า   เมื่อเจ๊กลิ้มคนเดียวหายไปจากแผ่นดิน  ๆ  ก็สงบ..........

เห็นด้วยครับ

วันนี้กลุ่มคนเสื้อเหลืองด่ารัฐบาลราวกับเป็นศัตรูกันมา 10 ชาติ จนพรรคประชาธิปัตย์ต้องตั้งกลุ่มแกนนำพันธมิตรพิทักษ์ประชาธิปัตย์ไว้ตอบโต้คนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดง นำโดยเจิมศักดิ์  ปิ่นทองและคณะ นอกจากนี้ยังเกิดการแตกคอระหว่างแกนนำพรรคการเมืองใหม่อย่างสมศักดิ์  โกสัยสุข และสุริยะใส  กตศิลา ประกาศจะลงเลือกตั้ง  แต่แกนนำพันธมิตรและแกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติจะให้โหวตโนจึงเกิดขัดแย้งกันใหญ่ ตามด้วยคู่ชกคู่ใหม่ฝีปากกล้าทั้งคู่ที่ออกมาสาวไส้ให้กากินอย่างอัญชลี  ไพรีรักที่ไปซบอยู่กับปชป. และประพันธ์  คูณมี  งานนี้ก็ดีเหมือนกันคนไทยจะได้ตาสว่างกันเสียที นี่แหละโบราณเขาถึงว่าความลับไม่มีในโลก ไม่มีสัจจะในหมู่โจร

คิดอย่างไร รมต.สาธิต  วงศ์หนองเตยตำหนิสรยุทธ  สุทัศนจินดา แย่งซีนรัฐบาลช่วยน้ำท่วมภาคใต้เพื่อโปรโมทองค์กร และยังขู่จะเอาผิดผู้นำชุมชนที่พาชาวบ้านมาร้องเรียนว่าให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ?  ช่วยแสดงความเห็นมามากๆเพื่อเป็นกระจกให้คนในพรรค ปชป. จะได้รู้ฝีมือของตนเอง

สาธิต  วงศ์หนองเตย   คนคิดสั้นและสายตาสั้น     เปรียบก็เหมือนหมากระเป๋านั่นแหละครับ

แล้วอย่าโกรธมาหาเรื่องยุบเวบไซต์เรานะครับ     สาธิต  หมากระเป๋า

ประเด็นอยู่ไหน  ?

อยู่ที่นายสาธิต  วงศ์หนองเตย  ไปด่าสื่อเข้า  ................เขาอุตส่าห์ออกข่าวความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่  แล้วรัฐบาลล่าช้า   เหมือนนายชวน  เชื่องช้า .........รมต.สาธิต  วงศ์หนองเตยตำหนิสรยุทธ  สุทัศนจินดา แย่งซีนรัฐบาลช่วยน้ำท่วมภาคใต้เพื่อโปรโมทองค์กร และยังขู่จะเอาผิดผู้นำชุมชนที่พาชาวบ้านมาร้องเรียนว่าให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ? 

นี่อย่างไรครับ   รัฐมนตรีขี้เท่อที่สุด..........เอานิสัย....ดีเข้าตัว....ชั่วเทใส่คนอื่น มาใช้.................

กรณีของนายสาธิต นี่แหละธาตุแท้ของ พรรค.ปชป ที่เห็นใครทำดีเกินหน้าไม่ได้ ปรี๊ดแตก ..

เมื่อก่อนกล่าวหาว่า..นโยบาย ไทยรักไทย มอมเมาประชาชน

มาบัดนี้ประชาธิปัตย์ ลอกนโยบายของไทยรักไทยที่มาทั้งฉบับ

ขนาดไข่ชั่งกิโล ยังไปจ้างเขาคิด...มีรัฐบาลเยี่ยงนี้ ประชาชนเยี่ยงข้า..ปวดตับเหลือเกิน

ก็นโยบายไข่ชั่งกิโล    เสียค่าจ้างฝรั่งทำ  70 กว่าล้านบาท.................  นี่แหละค่าโง่ล้วน ๆ   

ทุกวันหลับตาลงเสียดายเงิน   ...............   รัฐบาลโง่ ๆ  นี้ต้องเสียค่าที่เรียกว่า   ค่าโง่นี้    อย่างมากมายมหาศาลจริง ๆ.........  ศักดิ์ศรีของประเทศไทยตกต่ำอย่างที่สุด............................

มาวันนี้ 24 ต.ค. 2554 คนไทยยิ่งเสียค่าโง่กับคนของพรรคประชาธิปัตย์หนักไปอีกนับจำนวนมหาศาล เมื่อผู้ว่า กทม. ไม่ยอมเปิดคลองระบายน้ำและอุโมงค์ยักษ์ที่สร้างด้วยงบจำนวนมหาศาลให้น้ำผ่านกรุงเทพไปออกทะเล ยึกๆยักๆอยู่หลายวันจนมวลน้ำมหาศาลมารอจ่อคอหอยคนกรุงเทพ ขณะนี้คน กทม. ก็เดือดร้อนไม่แพ้คนต่างจังหวัดที่น้ำท่วมก่อนหน้านี้จนต้องอพยพไปหลายจุดแล้ว ไม่รู้ว่า กทม. 50 เขตจะรอดกี่เขตหรือไม่อย่างไร แกเป็นผู้ว่าได้อย่างไรไม่เรียนรู้เรื่องธรรมชาติของน้ำ มันไหลจากที่สูงไปหาที่ต่ำเสมอทำไมไม่วางแผนระบายแต่เนิ่นๆ ยิ่งฟังแกให้สัมภาษณ์ก็ยิ่งสงสารคน กทม. และจังหวัดใกล้เคียง คน กทม. เชื่อหรือยังว่าคนใจคอคับแคบจะยอมโง่และทำอะไรโง่ๆเพื่อรักษาปมเขื่องของตนไว้มากกว่าจะยอมลดตนไปรักษาประโยชน์ของส่วนรวม งานนี้ประชาชนจะได้เรียนรู้การเมืองจากอุทกภัยครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็หวังว่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้คนไทยเข้าใจเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้นๆ และหลุดจากภาพมายา ตาสว่างกันทั้งแผ่นดินว่าจะคัดสรรผู้แทนราษฎรอย่างไร จึงจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด 

ดูท่าทางผู้ว่า กทม. เองแกคงไม่รู้ว่าน้ำครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แกไม่อยากให้น้ำท่วมกรุงเทพจึงกั้นไว้ ดังคำกล่าวพร่ำเพ้อว่า " ผมเป็นผู้ว่า กทม. ไม่ใช่ผู้ว่าของคนทั้งประเทศ " แกคงไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ไทย จึงไม่รู้ว่าเขามีเมืองหน้าด่านเอาไว้ทำไม เวลาข้าศึกมันจะตีเมืองหลวงมันก็เล่นงานเมืองหน้าด่านจนแตกกระเจิง เหมือนตอนที่ค่ายชาวบ้านบางระจันแตกเพราะกรุงศรีอยุธยาเห็นแก่ตัวและกลัวพม่าขึ้นสมอง จึงไม่ให้ปืนใหญ่ พอบางระจันแตก ข้าศึกก็ยกทัพเข้ากรุงศรีได้โดยง่ายดาย อยู่ตั้งนานก็ไม่มาประชุมปรึกษาหารือกับรัฐบาลถึงวิธีแก้ปัญหา พอทำท่าจะเสียกรุงก็ออกมาร่วมมือ  ตอนนี้มันช้าไปมากแล้วนะ เพราะข้าศึกจำนวนมหาศาลมันรุกคืบมาถึงพระนครแล้ว หมดงานนี้คนไทยคงต้องสังคายนากันเสียทีว่า อัตตาตัวตนที่เราแบกกันมาคนละมากๆ  ดูจากผู้แทนราษฎรหลายคนที่เห็นแก่ตัวไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน ก็เป็นผลผลิตมาจากความยึดมั่นถือมั่นของประชาชนจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่า ขึ้นชื่อว่าพรรค...ที่ชอบเลือกหมด ไม่ดูเหตุไม่ดูผล ไม่ดูความเป็นมาและไม่ดูผลงานที่ผ่านมา

มาวันนี้ผู้ว่า กทม. ก็พูดอะไรไม่รู้ฟังแล้วประชาชนไม่รู้เรื่อง จับประเด็นได้ว่าโทษ ศปภ. ว่าไม่ให้เครื่องสูบน้ำที่ กทม. ขอไป กล่าวหาว่าเขาไม่สนใจความเดือดร้อนของคน กทม. ชำรุด ทาง ศปภ.ก็แจ้งว่าที่มีอยู่ก็ระดมมาสูบน้ำจนหมด และกำลังดำเนินการขอจากจังหวัดอื่นรวมทั้งสั่งซื้อจากต่างประเทศมาให้ แล้วเงิน 50000 กว้าล้านที่ กทม.ได้ไปทำไมไม่จัดหาให้เพียงพอ สงสัยจริงหากเครื่องสูบน้ำของ กทม. มีสภาพเหมือนกล้อง cctv อะไรจะเกิดขึ้นกับอุทกภัยใน กทม. น้ำท่วมครั้งนี้ คนกรุงเทพฯ จะได้เห็นภาวะผู้นำของผู้ว่า กทม. และจะได้เข้าใจความทุกข์ทรมานของคนต่างจังหวัดเสียทีว่ายามที่นาข้าวของเขาน้ำท่วมตายหมดซ้ำแล้วซ้ำอีก และปี 2553 เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปหลบซ่อนในหลุมหลบภัยบ้าง ไปอาศัยตามศูนย์อพยพหลายหมื่นคน ทิ้งไร่มัน ทิ้งยางแผ่นที่ตากไว้รอการจำหน่ายมูลค่านับแสนบาท เพียงเพราะคนที่เรียกตัวเองว่าแดนศิวิไลซ์เห็นดีเห็นงามเลือก สส. จากพรรคที่แย่งชิงอำนาจของประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเข้ามาบริหารโดยไม่สนใจทุกข์สุขของประชาชนด้วยการก่อสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งๆที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี เขาเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เขาจึงไปเรียกร้องหาความเป็นธรรมก็ถูกยิงตายบาดเจ็บนับพัน ท่ามกลางสายตาอันเย็นชาของคนแดนศิวิไลซ์ มาวันนี้คน กทม. เข้าใจความทุกข์ยากของคนชนบทหรือยัง คุณยังคิดจะเลือกนักการเมืองน้ำเน่าอีกไหมเพราะวันนี้คน กทม. คงต้องอยู่กับสภาพน้ำเน่าเหม็นนานนับเดือน ขาดแคลนอาหารการกิน ซึ่งคนชนบทเขาก็มีน้ำใจนำเครื่องอุปโภคบริโภค เงินทองไปบริจาคเพียงเพื่อขจัดความทุกข์ยากให้เพื่อนร่วมชาติทั้งๆที่จังหวัดของเขาก็ถูกภัยน้ำท่วมเช่นกัน  

ปัญหาของน้ำท่วมในต่างจังหวัดแม้จะเสียหายรุนแรง แต่สภาพสังคมของเขาปรับตัวได้ดีกว่าและมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จึงไม่มีสื่อจากสำนักข่าวไหนมาเสี้ยมให้ประชาชนแบ่งแยกทะเลาะวิวาทกันได้ โดยเฉพาะในภาคเหนือ อีสาน เป็นคนซื่อๆไม่ชอบคนมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ไม่ชอบนักการเมืองที่ชอบเล่นเกมการเมือง นักการเมืองของเขาจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของประชาชน วิถีชีวิตของคนกรุงเทพมีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น นักการเมืองน้ำเน่าเลยฉวยโอกาสเล่นเกมการเมืองจนประเทศย่อยยับในครั้งนี้ แม้ในยามที่คนกำลังเดือดร้อนเลือดตาแทบกระเด็นก็ยังหวังจะช่วงชิงอำนาจ พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น พรรคไหนดูเอาแล้วกันพี่น้อง